ในยุคสมัยพระพุทธเจ้าออกโปรดสัตว์โลก
มีครั้งหนึ่งที่พระพุทธเจ้าเปิดสามโลกให้เห็นซึ่งกันและกัน ได้แก่ภพโลก นรกภูมิ และสวรรค์ ในครั้งนั้นต่างมองเห็นซึ่งกันและกัน คำว่าเปิดสามโลกนั้น เปิดเฉพาะในบริเวณนั้นในเมืองนั้น หรือว่าเปิดให้เห็นทั้งโลก คือไม่ว่าจะอยู่มุมไหนในโลกนี้ก็สามารถมองเห็นทั้งสามภพเหมือนกัน คำถามนี้เลยมีการขยายกว้างขึ้นไปอีกว่า ถ้างั้น ในยุค2600ปีที่แล้ว คนจากประเทศต่างๆทั่วทวีปไม่ว่าจะเป็นอียิปต์ อเมริกาใต้ อาฟริกา หรือที่ใดก็ตาม ความเข้าใจของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน ที่แกะภาพวาดตามถ้ำ เสาหิน ปิรามิด ภาพแกะสลัก ที่เห็นความโหดร้าย มีการถืออาวุธ ไฟเผา การทรมาณต่างๆ แล้วมนุษย์ยุคนี้ตีความไว้ว่า คนเผ่านั้น เผ่านี้ ทรมาณนักโทษ หรือมีการฆ่าบูชายันต์ มีความโหดร้าย ภาพในอียิปต์ ตัวเป็นคนหัวเป็นนก หรือหัวเป็นสัตว์ต่างๆ จริงๆแล้ว คนในยุค2600ปีมีความโหดร้าย ตามที่คนศึกษาโบราณคดีอ้าง หรือคนในยุค2600ปีที่แล้ว เขาพยายามถ่ายทอดว่า พวกเขาเหล่านั้น เห็นอะไร? มันบังเอิญมาตรงกับหลักฐานทางพุทธศาสนาว่า2600ปีที่แล้ว พระพุทธเจ้าเปิดสามโลกให้มนุษย์โลกเห็น คนเผ่าต่างๆกำลังถ่ายทอดสิ่งที่เขาเห็นในยุคนั้น ผ่านกำแพง ในถ้ำ ฝาฝนัง ว่าสามโลกปรากฏให้เห็นจริงๆ หรือคนในยุคปัจจุบัน ไปสรุปเอาเองว่าคนเผ่าต่างๆนั้นโหดร้าย ทั้งหมดคือคำถามที่ว่า คำว่าพระพุทธเจ้าเปิดสามโลก ท่านเปิดให้มนุษย์เห็นแค่พื้นที่เดียวหรือว่าทั้งโลกมนุษย์เห็นพร้อมกันหมด
ถ้าสมมุติว่าคนโบราณถ่ายทอดสิ่งที่พวกเขาเห็น แสดงว่านักโบราณคดีอาจกำลังใส่ร้ายคนยุคโบราณอยู่ก็ได้ นั่นเองครับ..

https://youtu.be/kaqwBFudDYk

มีข้อสังเกตุว่า
ตอนที่พระพุทธเจ้าเปิดโลกนั้น
มนุษย์ไม่ต้องแหงนหน้าขึ้นไปบนฟ้าเพื่อดูสวรรค์
และไม่ต้องก้มหน้าส่องลงไปด้านล่างเพื่อส่องดูนรก แต่ปรากฏต่อหน้าเหมือนกำลังยืนต่อหน้ากัน
เป็นความรู้ที่ละเอียดขึ้นที่จะเปลี่ยนความเข้าใจของเราต่อเรื่องราวการเปิดสามโลก