วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 02:02  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2023, 09:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้รู้กล่าวว่าธรรมะคือธรรมชาติ
ปัญหาอยู่ที่ว่าธรรมชาตินั้นคืออะไร? และไม่คืออะไร?
ธรรมชาติไม่ใช่สัญชาตญาณ
ธรรมชาติไม่ใช่ความเคยชิน
ธรรมชาติคือกระบวนการเปลี่ยนแปลง
ของสิ่งทั้งหลายตามเหตุตามปัจจัย
การดำเนินชีวิตด้วยปัญญารู้เท่าทันธรรมชาติ
จนไม่เป็นทุกข์กับมัน
คือวิถีของนักปราชญ์ในพระพุทธศาสนา

พระอาจารย์ชยสาโร






โยมถาม "จริงไหม ที่โลกกำลังจะแตก และจะทำยังไงดี"

พระอาจารย์วันชัย วิจิตโต (วัดภูสังโฆ จ.อุดรธานี) ตอบ

"จะไปกังวลทำไม พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมไว้แล้ว ตั้งแต่กัณฑ์แรกเป็นปฐมบทเลย ว่าด้วยการเกิดดับ ทุกอย่างมีเกิดก็มีดับ มีเกิดมีดับกันตลอดเวลา ทุกวันทุกวินาที แต่เราไม่รู้ตัว เราไม่ระลึกถึงมัน ทุกคนมีความตายแปะอยู่ที่หน้าผากทุกคน แต่ไม่มีใครสนใจหรือเห็นมัน

ดับความทุกข์ในแต่ละวันให้ได้ก่อนเถอะ ความทุกข์ก็เกิดทุกวัน ดับมันให้ได้ จะไปรอทำไมโลกแตก คนเราก็นะ จะย้ายไปอยู่ดาวไหน ก็ไปทุกข์ที่ดาวนั้นอยู่ดี ก็ไปตายก็ไปดับที่ดาวนั้นอยู่ดีนั้นล่ะ จะคิดทำไมโลกแตก..แตกไม่แตกก็ดับ แตกเมื่อไหร่ก็ทุกข์ทุกวันอยู่ดี ถ้าตอนนี้เราดับทุกข์ได้แล้ว เราก็สบาย โลกจะแตกก็แตกเลย เราพร้อมแล้ว พร้อมที่จะดับ"

ที่มา: บทความรวม ธรรมะสั้นๆ เข้าใจง่าย ของครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่น - พระป่าธรรมยุติ






ปากเป็นเอก เลขเป็นโท หนังสือเป็นตรี
ชั่วดีเป็นตา ปัญญาเลิศ

โอวาทธรรม: หลวงปู่ทองมา สุตธมฺโม
แห่ง : วัดถ้ำกวาง -หลวงปู่ทองมา สุตธัมโม





ภาวนาอันนี้ไปปฏิบัติของดีของแท้เลย จะเอารูปเอาเหรียญมาใส่คอก็ตายเหมือนเดิม เพราะคนเราเกิดมาตาย มันเป็นสัจธรรมคือความจริงของคน หลวงปู่วันว่าเดินผ่ากระสุนเขายิงไม่ตาย ขึ้นเครื่องบินตกลงมาก็ตายเหมือนเดิม

โอวาทธรรม หลวงปู่ชนะ อุตตมลาโภ
วัดถ้ำพวง อ.ส่องดาว จ.สกลนคร






…จิตใจของพวกเรา
ตอนนี้อยู่ในระดับของ..มนุษย์
แต่จิตใจของพวกเรานี้ สามารถตกลงต่ำ
กว่าความเป็นมนุษย์ได้
.
เช่นไปเป็นเดรัจฉาน
แล้วไปเป็นดวงวิญญาณที่
มีแต่ความทุกข์ชนิดต่างๆ
ถ้ามีความทุกข์ด้วยความหิวโหย
เราก็เรียกว่าเปรต
ถ้ามีความทุกข์ที่เกิดจาก
ความหวาดกลัวต่างๆ
ก็เรียกว่าอสูรกาย
ถ้ามีความทุกข์ที่เกิดจาก
ความอาฆาตพยาบาทความโกรธแค้น
ก็จะเป็นนรกขึ้นมา
.
นี่คือสภาพของจิตใจของพวกเรา
ที่จะเป็นไปได้..
” ถ้าเราไม่ระมัดระวัง”.
...................................
ธรรมะหน้ากุฏิ
26/4/2563
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี





#ทาน_ศีล_ภาวนา..!!

"... ทำไปเรื่อยๆ อย่าไปเร่งมัน เหมือนมะนาว ถ้ายังไม่แก่ บีบมันก็ไม่มีน้ำ
... แต่ถ้ามันสุกงอมเต็มที่แล้ว เอามาบีบน้ำมันก็ไหลโจกๆเลย
... ทำความดี ทำไปเรื่อยๆ ทำไม่หยุด ..."

#หลวงปู่ทุย_ฉนฺทกโร






เพราะหยุด จึงสงบ
เพราะสงบ จึงนิพพาน

--/หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย





หลวงปู่ตื้อพูดถึงการเชื่อถือเรื่องวิญญาณ

หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ได้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการเผชิญภูตผีวิญญาณที่ผ่านมาว่า

“...หากวิญญาณเหล่านั้นได้รู้ความเป็นจริงแล้วก็จะไม่หลงวนเวียนอย่างนั้น กิเลส ทิฏฐิ มานะ นี่ร้ายกาจมาก มันสามารถดึงเอาคนตกเป็นทาสของมันให้วนเวียนอยู่ในวัฏสงสารได้อย่างง่ายดายมาก

ในโลกนี้ คนที่ตกเป็นทาสของมันมีมาก เพราะขาดจากการเข้าถึงพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง การนับถือผีสางอันเป็นจำพวกวิญญาณที่หลงทางเดิน เมื่อตายแล้วนั้น เป็นการเชื่อแบบขอความอ้อนวอน จึงเป็นการเชื่อที่ไม่แน่นอน

พระพุทธองค์จึงทรงแนะนำไม่ให้พุทธศาสนิกชนหลงเชื่อในเรื่องเช่นนี้ พระองค์สอนให้เชื่อเรื่องกรรมคือ เชื่อการกระทำของตนเองดีกว่า”
ลูกศิษย์ลูกหาผู้ใกล้ชิดต่างยืนยันว่า หลวงปู่ตื้อ ท่านก็สอนศิษย์และประชาชนทั่วไปในทำนองนี้มาโดยตลอด

พระบูรฉัตร พรหฺมจาโร ศิษย์ผู้บันทึกเรื่องราวของหลวงปู่ ได้บันทึกไว้ว่า
“ตอนหนึ่งท่านหลวงตา (หลวงปู่ตื้อ) ได้เล่าให้ฟังว่า เรื่องของวิญญาณต่างๆ ในโลกนี้มีหลายจำพวกเหลือเกิน บางพวกเป็นวิญญาณที่มีความเป็นอยู่ดีมาก มีศีลธรรม แต่พวกเราชอบเรียกรวมไปหมดว่า ผี

ความจริงแล้ว ผีหรือวิญญาณต่างๆ ที่มีอยู่ในโลกนี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติธรรมเลย เพราะในโลกนี้มีทั้งน่ารัก น่าชังทั้งหัวเราะ ทั้งร้องไห้ ครบถ้วนอยู่แล้ว เหตุการณ์ทั้ง ๔ อย่างนี้ มีครบอยู่ในโลก และมีพร้อมๆ กันเลย

มันก็น่าแปลก คนเราเวลาตาย เกิดอารมณ์ร้องไห้ ทำให้เศร้าใจแต่เวลาเกิด กลับหัวเราะชอบใจ ทำให้ดีใจ
คนที่หัวเราะก็หลง คนที่ร้องไห้ก็หลง หลงในฐานะที่ไม่รู้อะไรเป็นเหตุเป็นผล ความจริงแล้ว ตายหรือเกิดก็อันเดียวกันนั่นเอง เป็นแต่ว่าเขาเปลี่ยนกันทำหน้าที่เท่านั้นเอง”








ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาล ถ้าเอาจิตไปยึดไปเกาะ ถือเป็นสมมุติทั้งสิ้น ด้วยเหตุที่เกาะสมมุติเหล่านี้ จึงพากันเวียนว่ายตามเกิดในแดนสมมุติกันนับชาติไม่ถ้วน เพราะจิตยังมีความอยากของสมมุติเหล่านี้อยู่ หากปล่อยวางสมมุติเหล่านี้ได้เมื่อไหร่ ก็จะรู้จักกับแดนวิมุติสุข

หลวงปู่ทา จารุธัมโม
วัดถ้ำซับมืด อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา






ถ้ามันเข้าใจเรื่องของจิต ว่ามันไม่มีอะไร มันก็สิ้นความสงสัยได้

หลวงปู่อุดร โชติปัญโญ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 52 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร