วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 14:36  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ธ.ค. 2022, 08:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"... การทำผิดเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์
ถ้าค้นพบความผิดแล้วแก้ไข และตั้งใจไม่
ทำอีกเป็นซ้ำสอง น่ายกย่องนับถือยิ่งนัก ..."

#หลวงปู่แหวน_สุจิณโณ






ความลังเลสงสัยไม่ใช่เรื่องไม่ดีเสมอไป เพราะอาจเป็นการแสดงถึงความฉลาด ยอมรับว่าเรายังขาดข้อมูลสำคัญในการตัดสินใจให้ถูกต้องเหมาะสม ในกรณีเช่นนี้ การเกิดความลังเลสงสัยบอกให้รู้ว่าเราละเอียดรอบคอบ ไม่รีบด่วนตัดสินใจ

แต่ในการภาวนา ความลังเลสงสัยจัดเป็นอุปสรรคแทบทุกครั้ง ความลังเลสงสัยที่พบได้บ่อยที่สุดประการหนึ่ง คือ การคิดวนเรื่องเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก ความลังเลสงสัยในลักษณะนี้มักเกิดจากความอยากจะแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเทคนิคการภาวนาที่ใช้อยู่จะได้ผลแน่นอน เรื่องนี้ไม่มีหลักประกันใดๆ ว่าจะเป็นอย่างนั้น ไม่ช้าก็เร็ว เราก็ต้องลองเสี่ยงดู ต่อเมื่อเราพากเพียรอย่างจริงใจไปสักระยะหนึ่งเท่านั้น เราจึงจะกลับมาทบทวนได้ว่าเทคนิคที่เราใช้ได้ผลหรือไม่

ความลังเลสงสัยยังอาจเกิดในลักษณะของการคาดเดาต่อสิ่งที่ปรากฏระหว่างการภาวนา “เอ๊ะ! นี่อะไร หมายความอย่างไร ทำไมมันเกิดอย่างนี้” ในกรณีเช่นนี้ การคิดพิจารณาอาจเป็นประโยชน์ แต่ต้องไม่ใช่ในขณะที่เรากำลังภาวนาอยู่

สิ่งเดียวที่เราต้องนำมากวัดแกว่งระหว่างภาวนา คือ ดาบเพชรคมกล้าของพระพุทธองค์ นั่นคือ การหมั่นระลึกว่า “สิ่งใดเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา”

ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร
แปลถอดความ โดย ปิยสีโลภิกขุ






เกิด ก็ฝึกฝน
แก่ ก็ฝึกฝน
เจ็บไข้ ก็ฝึกฝน
มรณะ ก็ฝึกฝน
สุขทุกข์ ก็ฝึกฝน

บุญเราก็เก็บ บาปเราก็เว้น
ความบริสุทธิ์เราก็ใส่ใจ

ฝึกฝนตนเองให้ดี
"ใจ" เป็นผู้ฝึกฝน อย่าให้ผิดพลาด

ตัวเราทุกคน
มาถึงขั้นนี้แล้ว ตนมิใช่คนโง่น่ะ

ดีชั่ว - บุญบาป -
มลทินบริสุทธิ์
รู้กันแล้วทุกคน
ทำไมจะทำมิได้

ต้องทำได้ เชื่อเถิด
ต้องทำได้
ขอให้ทำเท่านั้น

#หลวงปู่จาม #มหาปุญโญ







ผู้เกิดมาชาตินี้ อาภัพแล้ว
“อย่าให้ใจอาภัพ” คิดแต่ผลิตโทษ
ทำบาปอกุศล เผาผลาญตน
ให้ได้ทุกข์ เป็นบาปกรรมอีกเลย

คนชั่ว ทำชั่วได้ง่าย และติดใจ
ไม่ยอมลดละ แก้ไขให้ดี
คนดี ทำดีได้ง่าย คนดีก็จำต้อง “ฝึก”
ฝึกจนดี จะพ้นการฝึก ไปไม่ได้

งานอะไร ก็ต้องฝึกทั้งนั้น
ฝึกงาน ฝึกคน ฝึกสัตว์ ฝึกตน ฝึกใจ
นอกจากตายแล้ว จึงหมดการฝึก
คำว่า ดี จะเป็นสมบัติของ “ผู้ฝึกดี” แล้วแน่นอน

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต






“ธรรมะเป็นที่พึ่งของใจ
ไม่มีอะไรในโลกนี้
ที่จะดับความทุกข์ใจได้
นอกจากธรรมะคำสอน
ของพระพุทธเจ้า”

#คติธรรม
พระจุลนายก
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต






การ​ทําบุญ​ทํา​กุศล​นั้น​ ​โปรด​อย่า​นึก​ว่า​จะ​ต้อง​หอบ​ข้าว​หอบ​ของ​ไป​ใส่​บาตร​ที่​วัด​ทุก​วัน​​ หรือ​ บุญ​จะ​เกิด​ได้​ก็​ต้อง​ทอด​กฐิน​สร้าง​โบสถ์​​สร้าง​ศาลา​​และ​อื่น​​ๆ​​อย่าง​ที่​เขา​โฆษณา​​ขาย​บุญ​กัน​​ทั้ง​ทาง​วิทยุ​​หนังสือพิมพ์​ และ​ ใบ​เรี่ย​ไร​กัน​เกลื่อน​กลาด​​จน​รู้สึก​ว่า​จะ​ต้อง​เป็น​ภาระ​ที่​ต้อง​บริจาค​เมื่อ​ไป​วัด​หรือ​สํานัก​นั้น​ๆ​​เป็น​ประจํา​

บท​สวด​มนต์​ชื่อ​พระพุทธ​ชัยมงคล​คาถา​​ที่​ขึ้น​ต้น​ด้วย​“​พา​หุง​.​.​.​”​
มี​อยู่​ท่อน​หนึ่ง​​ซึ่ง​กล่าว​ถึง​พระพุทธเจ้า​ทรง​ชนะ​มาร​คือ​กิเลส​​ว่า​​
“​พระพุทธเจ้า​ผู้ทรง​เป็น​จอม​ปราชญ์​​ทรง​ชนะ​มาร​คือ​​กิเลส​​ด้วย​
วิธี​บําเพ็ญ​บารมี​ธรรม​คือ​​ความ​ดี​​มี​การ​บริจาค​ทาน​​เป็นต้น​”​
พระพุทธเจ้า​ทรง​สอน​การ​ทําบุญ​ทํา​กุศล​​ด้วย​การ​ให้​ทาน​​รักษา​ศีล​และ​สวด​มนต์​เจริญ​สมาธิ​ภาวนา​​ให้​ทาน​ทุก​ครั้ง​​ให้​ทําลาย​ความ​โลภ​​คือ​กิเลส​ทุก​ครั้ง​​รักษา​ศีล​​เจริญ​ภาวนา​เพื่อ​ทําลาย​ความ​โกรธ​​ความ​เห็น​แก่​ตัว​ให้​ใจ​สะอาด​​ใจ​ไม่​เศร้า​หมอง​ มอง​เห็น​บาป​บุญ​คุณโทษ​ได้​ทุก​ครั้ง​​ทําได้​
ดังนี้​​จึง​ชื่อ​ว่า​ทํา​ตาม​พระพุทธเจ้า

อมตะธรรม หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ








อยากบวชชี
ผู้ถาม : กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ตอนนี้ลูกเปรียบเสมือนผงเข้าตาเขี่ยไม่ออก จึงขอบารมีของหลวงพ่อช่วยแก้ปัญหาให้ลูกด้วยเถอะค่ะ

ทางบ้านของลูกมีอาชีพทำสวนผักและขายอาหาร เมื่อเด็กๆชอบฟังธรรมะ หลังเลิกเรียนบ้าง ก่อนทำสวนบ้าง และไปวัดวันพระ พอจบมหาวิทยาลัยก็ได้ทำงานเป็นเสมียนห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่ง ได้มีโอกาสไปถวายผ้าจำนำพรรษาที่วัดใกล้บ้าน โดยวิธีจับฉลากได้เบอร์ ๑ ในใจก็คิดอุทิศให้คุณย่าที่ตายเมื่อปี ๒๕๓๑ ท่านเคยรักษาศีลอยู่วัดนี้

พอปี ๓๒ ก็ถวายผ้าจำนำพรรษาอีก ครั้งนี้ทำครั้งนี้ทำให้พ่อแม่ก็จับสลากได้เบอร์นั้นอีก ซึ่งเป็นพระที่ลูกนับถือท่านมาก จึงมีแต่ความปีติสุข เพราะสองปีที่ทำนั้น ทำจนเงินหมดกระเป๋า

ลูกทำงานมีเวลาว่างมาก คือทำใจระลึกแต่ทุกข์เสมอ หนักเข้าใจร้อนมากคิดแต่เรื่องอิสระ อยากจะออกบวชไม่รู้จะทำเช่นไร ก็เลยไปซื้อผ้านุ่งผ้าห่มไปถวายแม่ชี ๑ ชุด โดยไม่เจาะจง ความอยากเข้าไปหาอีกก็เลยลาออกจากงาน อยากจะบวชก็ปรึกษาญาติผู้ใหญ่ ท่านก็บอกควรทำงานตอบแทนคุณก่อน จึงได้ไปช่วยบ้านทำสวนบ้าง ไปขายของที่ร้านอาหารบ้าง แต่ว่าตัวเองไม่ชอบค้าขายอาหาร เพราะว่ามีผลทำให้สัตว์ตาย ก็เลยช่วยพ่อทำสวน ญาติพี่น้องก็ไม่ชอบบอกว่า เรียนมาแล้วเอาความรู้มาทิ้งสวน และข้อนี้ก็เป็นเหตุให้ทางบ้าน ไม่อยากส่งเสริมให้เด็กเรียนหนังสือ

ทีนี้อยากกราบเรียนถามว่า ควรจะทำอย่างไรดีกับชีวิตปานนี้เจ้าคะ

หลวงพ่อ : เออ..คำถามเมื่อกี้นี้ และมีสังฆทานมาคั่นก็ดี ความจริงพระท่านบอก เมื่ออยู่กับพ่อก็บวชซะเลย..ก็แล้วกัน วิธีบวชให้รักษากรรมบถ ๑๐ ไม่ต้องไปทำอะไร ทำงานก็ได้ กินข้าวเย็นก็ได้ กินข้าวร้อนก็ได้ แต่ให้ทรงกรรมบถ ๑๐ ไว้ นี่พอแล้ว มันไม่ใช่พอเฉยๆนะ ถ้ากรรมบถ ๑๐ ครบถ้วนนี่เป็นพระโสดาบัน เป็นพระอริยเจ้าเลย รู้จักไหม กรรมบถ ๑๐ มีอะไร

กรรมบถ๑๐ ก็อย่างนี้นะ..
.ทางกาย ๓ อย่าง
๑) ไม่ฆ่าสัตว์
๒) ไม่ลักทรัพย์
๓) ไม่ประพฤติผิดในกาม
นี่ทางกาย

ทางวาจามี ๔
๑) ไม่พูดปด
๒) ไม่พูดวาจาหยาบ
๓) ไม่ส่อเสียดให้เขาแตกกัน คือไม่นินทาชาวบ้าน
๔) ไม่พูดวาจาเพ้อเจ้อเหลวไหล

ทางด้านจิตใจมี ๓
๑) ไม่อยากได้ทรัพย์สมบัติของใครโดยไม่ชอบธรรม
๒) ความโกรธยังมีอยู่ แต่ไม่จองล้างจองผลาญใคร
๓) มีความเห็นตรงตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอน

เท่านี้แหละ นี่เป็นพื้นฐานของพระโสดาบันนะ ถ้าทำอย่างนี้ได้เต็มที่ คือว่ายังเหลืออีก ๒ อย่างเป็นพระโสดาบันคือเคารพระพุทธเจ้า เคารพพระธรรม เคารพพระอริยสงฆ์จริง

และอีกข้อหนึ่ง มีความรู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องตาย ก็แค่นั้น เรามีพระนิพพานเป็นที่ไป แค่นี้เองเป็นพระโสดาบัน จุดใหญ่อยู่ที่กรรมบถ ๑๐

#หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
{วัดจันทาราม(ท่าซุง) จ.อุทัยธานี}


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 33 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร