วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 15:51  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ย. 2021, 08:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"...องค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม ท่านได้ให้บอกว่า เมื่อหลายปีที่ผ่านมา ที่มีหลายที่หลายแห่งที่ได้มาขอความเมตตาหลวงพ่อ ในการให้สร้างโรงเรียน สร้างโรงพยาบาล สร้างวัด สร้างวัตถุต่าง ๆ ซึ่งหลวงพ่อก็มองเห็นแล้วว่าที่ผ่านมานั้น เป็นการทำสาธารณกุศลซึ่งไม่ใช่พุทธ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์

ปีนี้หลวงพ่อท่านเลยจะลดบทบาทตรงนี้ลง แล้วก็เริ่มต้นด้วยการที่เอาพุทธ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เข้ามา ก็คือในเรื่องของการสอนเรื่องอริยสัจ ๔ สอนเรื่อง มรรค ผล พระนิพพานจริง ๆ เพราะว่าการจะแจกวัตถุ แจกสิ่งของ หรือว่าสร้างโรงพยาบาล สร้างวัดอะไรต่าง ๆ ได้ประโยชน์น้อย เพราะหลวงพ่อมองเห็นแล้วว่า อย่างเช่น สร้างวัด สร้างแต่วัตถุ แต่พอไม่ได้สร้างคน พอคนไปอยู่ในวัด ก็จะกลายเป็นการตั้งแก๊ง ตั้งกลุ่ม ตั้งพรรค ตั้งพวก บางทีอาจจะถึงขนาดเป็นถึงแก๊งโจรก็มี ซึ่งไม่ได้เอาธรรม ไม่ได้เอาพระวินัย ดังนั้นแล้ว การที่มีแต่ละปี ๆ ที่มาขอหลวงพ่อในการให้ช่วยสร้างตรงนั้นบ้าง ตรงนี้บ้าง ให้ช่วยแจกวัตถุสิ่งของบ้าง แจกแท็บเล็ตบ้างอย่างนี้ หลวงพ่อก็มองเห็นแล้วว่า ไม่ใช่พุทธ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ หลวงพ่อเลยตั้งใจที่จะเอาอริยสัจ ๔ สอนให้เกิดปัญญา สอนเรื่อง มรรค ผล พระนิพพานจริง ๆ เพื่อจะเป็นประโยชน์สูงสุด

อย่างหลายปีก่อน หลวงพ่อสอนลูกศิษย์ เป็นหมอ เป็นแพทย์ เป็นพยาบาล เป็นใหญ่เป็นโตหลายคน แต่ว่าก็เห็นแล้วว่า ไปหลง ไปติด ไปยึด ในความมั่ง ในความมี แล้วก็ไม่ได้เสียสละ ไม่ได้ปฏิบัติตนเพื่อมรรค ผล พระนิพพาน เพื่อพระศาสนาจริง ๆ

ปีนี้หลวงพ่อเลยเอาใหม่ เอาพุทธ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ด้วยการแจกปัญญา แจกศาสนา แจกธรรมวินัย แจกสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อเดินตามรอยพระพุทธเจ้า ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์

นี่คือแถลงการณ์ขององค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม ที่ท่านได้เมตตาให้ประกาศ ณ วันนี้ ..."

หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม เมตตาให้พระมหาอนุชน สาสนกิตติ ประกาศให้ทุกท่านได้รับทราบ
ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม
บ่ายวันพฤหัสบดีที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔

#ธรรมะใจดีใจสบาย
#หลวงพ่อกัณหา_สุขกาโม
#วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม








“สร้างบารมีแบบไหนทำให้ก้าวหน้าได้เร็ว”

ถาม: จะสร้างบารมีแบบไหนที่จะส่งเสริมในการปฏิบัติให้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วคะ

พระอาจารย์: อ๋อ มันก็ต้องเริ่มด้วยเมตตาบารมีไง จิตใจต้องมีความเมตตา อย่าไปมีศัตรูกับใคร มีความรักความเป็นมิตรกับทุกคน มันจะทำให้จิตนี้สงบง่าย เวลานั่งสมาธิ อานิสงส์ของความมีเมตตาก็จะทำให้มีจิตที่จะสงบง่าย งั้นพยายามมีเมตตา คนที่มีเมตตาก็มักจะทำบุญทำทาน รักษาศีล อันนี้เป็นการปฏิบัติของคนที่มีความเมตตา จะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้ความสุขกับผู้อื่น ก็ทำบุญทำทาน แล้วไม่เบียดเบียนผู้อื่น ก็จะรักษาศีล จะทำอะไรก็จะไม่ทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อน แล้วพอมีเมตตาแล้ว จะนั่งสมาธิก็ต้องฝึกสติก่อน ต้องคอยควบคุมความคิด อย่าปล่อยให้จิตคิดเรื่อยเปื่อยไปทั้งวันทั้งคืน พยายามควบคุมให้อยู่กับพุทโธพุทโธ หรือให้มันเฝ้าดูร่างกายว่ากำลังทำอะไรอยู่ อย่างนี้จะทำให้เรามีสติ คอยควบคุมความคิดได้ พอเรานั่งมันก็จะสงบได้ง่าย ก็มีแค่นี้แหละ มีเมตตา ทำบุญทำทาน รักษาศีล แล้วก็ฝึกสติอยู่เรื่อยๆ

คำถามจากธรรมะหน้ากุฏิ
วันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี








…”หัดท่อง พุทโธ ไว้เถิด
เป็นของดี ของวิเศษ”.
……………………………………………
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
ธรรมะหน้ากุฏิ
6 ธันวาคม 2563






“ต้องระวัง ปล่อยวาง กับ ปล่อยปละละเลย
เป็นคนละอย่าง ปล่อยวาง คือ ใจเป็นอิสระ นี่ดี
แต่ปล่อยปละละเลย คือประมาท นี่ร้ายที่สุด
ท่านให้ปล่อยวางทางใจ แต่เรื่องการงาน
อะไรที่ต้องทำนี้ หยุดไม่ได้ ต้องทำ มีปัญหาต้องแก้
ทั้งแก้ด้วยความไม่ประมาท และแก้ให้ตรงเหตุปัจจัย
แล้วจะได้ทั้งสองอย่าง ดังที่ว่า ปัญหาก็แก้ได้
ใจก็สบายด้วย หรืองานก็ได้ผล คนก็เป็นสุข”

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( ป. อ. ปยุตฺโต )







“เครื่องวัดความเจริญของจิตใจ
ขอให้เราดูว่า เรามีความเมตตากรุณา
มากขึ้นหรือน้อยลง มีความเห็นแก่ตัว
มากขึ้นหรือน้อยลง อันนี้แหละ
เป็นเครื่องวัดจิตใจของพวกเรา”

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต








อย่าส่งจิตใจไปอื่นนอกจากกายกับจิต ให้เกินกว่าเหตุ จะเสียเวลา ทั้งจะนำความกังวลเดือดร้อนมาเผาผลาญเราเปล่า ๆ

และขอแนะนำย้ำอีกว่า... อย่าแสวงหาสันติธรรมคือพระนิพพานนอกไปจากกายกับจิต

ปัจจุบันเป็นบ่อเกิดแห่งบุญแลบาป อดีตอนาคตไม่ใช่บุญแลบาป และมิใช่บ่อเกิดแห่งบุญแลบาป ปัจจุบันนี้เองเป็นตัวบุญตัวบาป

เมื่อเรารักษาจิตให้อยู่ในปัจจุบัน ด้วยความมีสติแล้ว กิเลสบาปธรรมที่ไหนจะเลื่อนลอยมาครอบงำจิตให้เราได้รับความเดือดร้อนเล่า

เหตุที่เราจะเดือดร้อนขุ่นมัว ก็เพราะปล่อยจิตให้คว้าโน่นคว้านี่
ไม่อยู่เป็นสุข คือคว้าอดีต-อนาคต ซึ่งเหมือนน้ำลายถ่มทิ้งแล้วคว้ากลับเข้ามาใส่ปากอีก ย่อมน่าสะอิดสะเอียนต่อลิ้นไม่น้อยเลย

อารมณ์หรือสิ่งที่ชั่วอะไรก็ตามที่ผ่านพ้นไปแล้ว เราก็รู้แล้วว่าไม่ดียังคว้ากลับคืนมาเผาจิต อันนี้ยิ่งร้ายกว่าน้ำลายที่ถ่มทิ้งเสียอีก เลยหาความเย็นไม่ได้เลย

เราอยู่ดีกินดีอย่าหาเรื่องใส่เรา เราต้องการจะให้ไฟดับ ต้องไสฟืนออก แล้วไฟจะค่อยดับเอง

จิตถ้าได้เชื้อ คือ อดีต อนาคต เป็นปัจจุบันหนุนหรือส่งเสริมอยู่แล้ว ก็จะไปกันใหญ่เหมือนไฟได้เชื้อฉะนั้น

ดังนั้น จึงควรรักษาจิตให้มีอารมณ์ที่ดีเป็นเครื่องดื่มโดยปัจจุบัน ก็นับวันจะสงบสบายคลายจากสิ่งที่เป็นข้าศึก จะมีแต่ความสงบสุขทุกอิริยาบถ จึงจะสมนามว่าผู้ฉลาดทรมานจิตให้หายพยศได้

อนึ่ง สัตว์พยศเขายังทรมานได้ ธรรมดาจิตเมื่อมีกิเลสก็ต้องมีพยศ เราจะหักห้ามหรือทรมานให้จิตหายพยศไม่ได้ จะเรียกว่าคนฉลาดที่ตรงไหน

เมื่อเราทรมานจิตได้มากน้อยก็ชื่อว่าเป็นคนฉลาดโดยลำดับจนถึงเรียกว่าเป็นคนฉลาดได้ยอดนักปราชญ์ เอวํ สวัสดี.

#หลวงตาพระมหาบัว #ญาณสัมปันโน เทศนาธรรม ณ วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๙๙








เรื่องโลกธรรม ๘ นี่ก็เหมือนกัน
อย่าสนใจนะลูก ปล่อยมันไป

มันจะมีลาภก็มีไป
ลาภหมดไปก็ธรรมดา

เขาให้ยศก็รับ
เขาเอายศกลับคืนไป
ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา

เขานินทาก็เฉยๆ ยิ้มๆ
เขาสรรเสริญอย่าสนใจ

ความสุขความทุกข์
ที่เกิดมาในโลกก็เหมือนกัน
ความสุขใดๆ ที่เกิดมาในโลก
มันเป็นปัจจัยของความทุกข์
……..
หนังสือเรื่องจริงอิงนิทาน พิเศษ หน้า ,โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จ. อุทัยธานี


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 48 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร