วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 21:45  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ต.ค. 2021, 15:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


เสียงนกเค้าร้อง เขาทำไมถึงรื่นเริงบันเทิงแท้ เราทำไมเศร้าสร้อยหงอยเหงา ไม่รื่นเริงบันเทิงเหมือนเขา เป็นยังไง เฮ้อ..มีแต่คนขอพระ แจกเท่าไรก็ไม่พอ กิเลสมนุษย์ไม่มีเมืองพอ ไม่รู้เอาไปทำอะไรเยอะแยะ ได้แล้วก็เอาอีก ให้แล้วก็ขออีก อยากได้มาก เหมือนเปรตเหมือนผี ไม่อิ่มไม่พอ ถ้าอิ่มถ้าพอก็เป็นบุญ ถ้าให้ได้ ทานได้ ก็ไปสวรรค์ไปนิพพาน ถ้าไม่พอ ก็ตกนรกเท่านั้นล่ะ เหมือนเปรตเหมือนผีไม่รู้จักพอ มีแต่ความอยาก อยากได้อะไรก็เอาหมดนั่นล่ะ ให้พากันสร้างเอาทำเอา สร้างตัวเองทำตัวเองนั่นล่ะ ไม่ได้ไปทำที่ไหน มรรคผลนิพพานอยู่กับตัวเองหมดแล้ว เอาล่ะ .

องค์หลวงปู่เพียร วิริโย







…คนที่ทำทานได้
” เป็นคนที่มีเมตตา “ เป็นคนที่จะ
คิดถึงความเสียหายเดือดร้อนของผู้อื่น

.ก็จะสามารถรักษาศีล ได้อย่างง่ายดาย
เพราะจะ “ ไม่อยากจะทำบาป “
เพราะการทำบาป
เป็นการสร้างความเสียหายให้แก่ผู้อื่น.
………………………………………….
.
ธรรมะบนเขา
วันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๑
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี







#หลวงปู่ขาวโปรดชาวคริสต์ให้ตักบาตร

".. สมัยหนึ่งหลวงปู่ขาวได้เดินธุดงค์ตามป่าเขาลำเนาไพร อันเป็นถิ่นฐานบ้านเรือนของชาวเขาเผ่าอีก้อมูเซอร์ เมื่อโปรดญาติโยม.. ชาวเขาเหล่านั้นพอสมควรแล้ว ท่านจึงได้ธุดงค์ต่อไป โดยมุ่งหน้าลงมาทางอำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ในวันนั้นท่านเดินทางตลอดทั้งวัน จนกระทั่งมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ท่านทราบมาว่าเป็นหมู่บ้านของชาวคริสต์ ซึ่งก็..
เป็นเวลาพลบค่ำพอดี จะเดินทางต่อไปก็คง
จะไม่สะดวก หลวงปู่จึงดำริที่จะพักค้างแรมที่หมู่บ้านชาวคริสต์แห่งนั้นแต่ยังเกิดความลังเลใจบ้างเพราะได้ทราบจากชาวบ้านมาว่า..
ชาวคริสต์นั้นเขาไม่ทำบุญตักบาตร ท่านจึงถามตัวท่านเองว่าเราจะทำอย่างไรดี เราเองก็เป็นลูกศิษย์ของพระตถาคต จะไปกลัวอด.. ทำไม เมื่อคิดได้เช่นนั้นก็ทำให้ใจของท่านเกิดความร่าเริง กล้าหาญ องอาจยิ่งขึ้น นึกไป.. ถึงว่าสมเด็จพระบรมศาสดาจารย์พระองค์ทรงทรมานพวกเดียรถีชีไพร ทรมานได้กระทั่งยักษ์ กุมภกัณฐ์ จะประสาอะไรกับเรา.. "

"..หลวงปู่ขาวจึงตัดสินใจ ละความขี้ขลาด
กลัวตายมาทรงเครื่องพระธุดงค์กรรมฐานอย่างเต็มภาคภูมิปักกลดลงที่ร่มไม้ชายป่า ตามอริยประเพณี ทำสมาธิภาวนาให้เป็นวิหารธรรมตามอัชฌาศัย ตื่นแต่เช้านุ่งสบงห่มจีวร อุ้มบาตร มุ่งหน้าไปสู่กามนิวาสถาน เพื่อโปรดสัตว์โลก

..ปรากฏว่าไม่มีใครมาตักบาตร แม้แต่ทัพพีเดียว หลวงปู่จึงเดินมุ่งหน้าไปที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน เมื่อเดินเข้าไปถึงประตูบ้าน หลวงปู่ขอขึ้นบนเรือน

..หัวหน้าชาวคริสต์ออกมา และบอกกับท่านหลวงปู่ว่า " หมู่บ้านนี้เป็นชาวคริสต์ ชาวคริสต์ไม่ทำบุญตักบาตร ท่านจงไปทางอื่นเสียเถิด"

.. หลวงปู่ขาวจึงตอบว่า "พวกท่านก็เป็นคนไทยสายเลือดไทย สัญชาติไทย เกิดที่เมืองไทย เชื้อชาติไทยเช่นกัน คนไทยทุกคนเป็นญาติกัน เป็นพี่น้องกัน แม้จะอยู่คนละจังหวัด
ก็นับถือพระเจ้าอยู่หัว พระองค์เดียกัน เมื่อ.. ญาติพี่น้องมาเยี่ยมเยียนถึงบ้านช่อง สมควรแล้วหรือ ที่จะไม่ต้อนรับ สมควรแล้วหรือจะรังเกียจคนไทยด้วยกัน ท่านก็อยู่เมืองไทย อาตมาก็อยู่เมืองไทย จะไล่อาตมาหนีจากเมืองไทย เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง เราอยู่เมืองไทย เรารักคนไทย เมื่อยามคับขันบ้านเมืองมีภัย พวกเราจะได้ช่วยเหลือกันเพื่อ.. ดำรงรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยเอกราชของชาติไทยให้ยืนยง ถ้าท่านเกลียดคนไทย ก็เท่ากับว่าท่านเกลียดเมืองไทย ท่านจะอยู่เมืองไหน อาตมาอุตส่าห์มาจากแดนไกล ถือว่าท่านเป็นญาติอาตมาจึงกล้ามาถึงบ้านถึงแม้ท่านจะไม่ให้อะไรแก่อาตมา อาตมาก็ไม่เสียใจ เพราะ.. ได้มาถึงที่บ้านญาติพี่น้องแล้ว.. ”

คำพูดของหลวงปู่ทำให้หัวหน้าหมู่บ้านถึงกับตกตะลึง จนพูดไม่ออกเพราะถูกคำพูดที่แทงใจของหลวงปู่ เข้านั่นเอง หัวหน้าหมู่บ้านยกมือขึ้นขอโทษ

หลวงปู่ เหน็บกระหน่ำซ้ำเติมอีกว่า "ศาสนานั้น สอนคนให้ใจกว้าง สอนคนให้เป็นคนดี ให้มีความรักสามัคคี สร้างสาธารณประโยชน์ส่วนรวมให้แก่ประเทศชาติ ศาสนา ไม่เคยสอนให้ตัดญาติขาดมิตร ศาสนาสอนให้เราผูกมิตรกัน อย่าแตกแยกเพราะการนับถือศาสนาแม้จะนับถือศาสนาคนละศาสนา ตามแต่คนไทยก็ยังญาติเป็นพี่น้องไปมาหาสู่กัน"

"..ผลที่สุดหัวหน้าหมู่บ้านก็เข้าใจ ในคำพูด
ของหลวงปู่ขาวที่แสดงออกไปอย่างชาญฉลาด และถูกต้องชัดเจน ถึงกับกล่าว่า..
#พวกเราถือผิดมาโดยตลอด_เราส่างแล้วเราเข้าใจแล้ว..

..หัวหน้าหมู่บ้าน จึงไปบอกพวกพ้องบริวาร..
ให้มาตักบาตร หลวงปู่จะให้พร แต่พวกคริสต์บอกว่า พวกเรารับพรไม่ได้ พวกเราทำบุญ
ทำทานโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน พวกเราช่วยสงเคราะห์ท่าน เพราะท่านเป็นคนไทย เป็นญาติของพวกเราคนหนึ่ง หลังจากบิณฑบาตเสร็จแล้ว หลวงปู่ก็เดินทางกลับ.."

"..หลวงปู่เล่าว่า “แม้แต่ช้างตัวใหญ่เบ้อเร่อ
มันเป็นสัตว์เดียรัจฉาน มันยังรับศีลฟังเทศน์ได้ แต่คนไทยด้วยกันทำไมจึงพูดไม่รู้เรื่อง.. นักต่อสู่อย่างเราต่อสู้กับกิเลสตัณหา ยิ่งยากกว่านี้หลายร้อยเท่า ประสาอะไรกับสิ่งเหล่านี้ เราพยายามไล่กิเลสตัณหาออกจากเรือนใจ มันไม่ยอมออกต้องสู้ด้วยอาวุธที่ทันสมัย คือ วิปัสสนาญาณ จึงจะฆ่ามันได้.."

#แต่นั้นหลวงปู่ขาวก็ออกเดินธุดงค์ต่อไป
#คัดลอกมาจากหนังสือ..
#ใต้จิตสำนึกหลวงปู่ขาว_อนาลโย ::พิมพ์เมื่อ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ หน้า ๑๗๓ - ๑๗๔








#ถ้าอยากทราบว่าตนเป็นพระโสดาบันหรือไม่นั้น_ก็มีแผนที่สอบคือ

"..สอบตนว่าตนเสียดายอยากล่วงละเมิดศีล ๕ หรือไม่

เสียดายอยากจะถือศาสดาอื่นนอกจากพระพุทธศาสนาไปหรือไม่
เสียดายอยากจะจองเวรท่านผู้อื่นหรือไม่
เสียดายอยากจะเล่นอบายมุขหรือไม่
เสียดายอยากจะถือฤกษ์ดียามดีหรือไม่
เสียดายอยากจะค้าขายเครื่องประหาร ค้าขายมนุษย์ ค้าขายสัตว์เป็นและเนื้อสัตว์
ที่ตัวฆ่าเพื่อเป็นอาหาร
ค้าขายน้ำเมา ค้าขายยาพิษ ทั้งหลายเหล่านี้หรือไม่
ถ้าไม่เสียดายอยากล่วงละเมิดทั้งหลายเหล่านี้แต่ต้นมาก็ตัดสินเอาเองว่าเรานี้แหละคือพระโสดาบัน
ถ้าไม่อย่างนี้แล้วก็เป็นโมฆะทั้งนั้น ให้เข้าใจ
ว่า​ สิ่งใดที่เราไม่เสียดายอยากล่วงละเมิดเพราะเห็นชัดด้วยปัญญา ด้วยดวงตาเห็นธรรม คือเห็นว่ามันเป็นเวรเป็นภัยจริงๆ ไม่มีศาลอุทธรณ์
ถ้าเราเห็นชัดอย่างนี้ความเสียดายอยากล่วงละเมิดของเราก็ไม่มี
เราก็ไม่หนักใจด้วย คล้ายๆ กับเราเห็นหลุมถ่านเพลิงอย่างชัดแจ้ง
เราไม่เสียดายอยากไปลุยเลย และก็ไม่สงสัยอีกด้วย
นี้แหละคือภูมิพระโสดาบัน ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วก็เป็นพายเรือในอ่าง ดังกล่าวมาแล้ว.. "

#หลวงปู่หล้า_เขมปตฺโต
#วัดบรรพตคีรี_ภูจ้อก้อ








“#บุญคือความสุขใจอิ่มใจ”

#คำถาม: การที่เราช่วยเหลือญาติพี่น้องและคนรอบข้างที่เขาลำบาก เช่นเวลามีญาติมาขอยืมเงิน แต่เราบอกว่าไม่ต้องยืม เอาไปเลย แล้วเวลาเจอคนรอบข้างลำบาก เราก็คอยช่วยเหลือ ให้ข้าวให้น้ำให้เงินเขาไว้ใช้ การกระทำแบบนี้จะได้บุญหรือไม่ครับ

#พระอาจารย์: ได้ ก็เป็นการทำบุญทำทานอีกแบบหนึ่ง อย่างในมงคลสูตรนี่ท่านสอนการทำบุญหลายแบบ เลี้ยงดูบิดามารดาก็เป็นการทำบุญ เป็นมงคล แล้วก็ มาตาปิตุอุปัฏฐานัง การอุปัฏฐากบิดามารดา การสงเคราะห์ญาติสนิทมิตรสหาย การเลี้ยงบุตรธิดาก็เป็นบุญ เป็นบุญเหมือนกัน ทำแล้วทำให้เรามีความสุขใจ งั้นทำไป แม้จะทำกับสุนัขก็มีความสุข ทำกับนกกับปลาก็มีความสุข ปล่อยนกปล่อยปลา แล้วเห็นเขามีอิสรภาพ เห็นเขามีความสุขเราก็เกิดความสุขตามมา วิธีการใดก็ตามที่เราทำให้คนอื่นเขามีความสุขนั้น เรียกว่าบุญทั้งนั้น ไม่จำเป็นว่าจะต้องทำที่วัด ทำกับพระเท่านั้นถึงจะเกิดบุญ บุญคือความสุขใจ ความสุขใจที่เกิดจากการให้ จากการเสียสละแบ่งปัน ผู้รับนี้ไม่จำเป็นจะต้องเป็นพระอย่างเดียว เราสามารถเลือกให้คนชนิดต่างๆ ได้ ตามที่เราปรารถนา เราชอบพระเราก็ไปให้พระ เราชอบเด็กพิการเราก็ไปให้เด็กพิการ เราชอบสุนัขเราก็ไปให้สุนัข ได้ ทำแล้วเราจะเกิดความสุขใจขึ้นมา นั่นแหละคือบุญ ตัวบุญก็คือความสุขใจอิ่มใจ

ธรรมะหน้ากุฏิ
วันที่ ๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓
#พระจุลนายก
#พระอาจารย์สุชาติ_อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี







#กระต่ายน้อยนั่งภาวนา..!!

"..ก่อนที่ #หลวงพ่อจวน_กุลเชฏฺโฐ จะมา
บุกเบิกสร้าง​ #วัดเจติยาคีรีวิหาร ที่ภูทอก
กิ่งอำเภอศรีวิไล จังหวัดหนองคายนั้นท่าน
ใช้ชีวิตเยี่ยงพระธุดงค์กรรมฐานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เจริญรอยตามพระอาจารย์ใหญ่คือ #หลวงปู่มั่น_ภูริทตฺโต จะอยู่ประจำที่ใดที่หนึ่งก็จำเพาะช่วงเข้าพรรษาเท่านั้น ออกพรรษาเมื่อใด ก็ออกเที่ยววิเวก ถือป่าเขาและเพิงถ้ำเป็นที่พักพิง กระนั้นก็มีอยู่หลายปีที่ท่านได้อาศัยป่าเป็นที่จำพรรษา.. "

...เมื่อ ๖๐ ปีก่อน อีสานทั้งภาคเต็มไปด้วยป่าทึบเป็นที่สิงอาศัยของสัตว์นานาชนิด จึงเป็นธรรมดาที่พระธุดงค์อย่างท่าน จะต้องพานพบสัตว์ร้ายน้อยใหญ่ บางครั้งช้างและเสือก็แวะเวียนให้เห็นใกล้ ๆ กุฏิที่พัก มีพรรษาหนึ่ง ท่านและหมู่มิตรได้ร่วมกันบำเพ็ญเพียรที่ดงหม้อทองในจังหวัดสกลนคร

...ท่านเล่าว่าคราวหนึ่งอาหารเกิดผิดสำแดง ทั้งพระและเณรเกิดท้องเสียกลางดึก แต่ส้วม
มีไม่พอ พระบางรูปจึงต้องเลี่ยงเข้าป่า แต่ไม่ทันจะได้ถ่ายทุกข์ เสือตัวหนึ่งก็เกิดผลุนผลันโผล่มาแล้วกระโดดข้ามหัวท่าน ตรงไป
ยังส้วมที่เณรกำลังทำกิจอยู่ พอรู้ว่าเสือมาเท่านั้น เณรก็กระโจนออกจากส้วม วิ่งป่าราบเลยทีเดียว

...บางวันช้างก็มาเดินเล่น พอมาถึงกระต๊อบของผ้าขาวผู้หนึ่ง ก็ยื่นงวงเข้าไปหยิบรองเท้าออกมาเล่นแล้วโยนเข้าป่าไปเท่านั้นไม่พอ ยังรื้อบันไดกุฏิออกมาอีกด้วย พอควานหาของเล่นพักใหญ่ก็เตรียมกลับ แต่ก่อนจะกลับก็เอางวงดุนฝาจนกุฏิโยก ตอนนั้นผ้าขาวอยู่กุฏิพอดี แต่ตอนที่ช้างหยิบรองเท้า ถอนบันไดนั้น แกคงไม่รู้สึกผิดปกติเพราะเป็นคนหูตึง ครั้นรู้สึกว่ากุฏิโยกก็เลยออกมาดู พอเห็นช้างป่าเต็มตาเท่านั้นแหละ ก็กระโจนหนีออกจากกุฏิ

...แต่ชีวิตในป่ามิได้มีแต่เรื่องน่ากลัวตัวสั่นเท่านั้น สิ่งอภิรมย์น่าชื่นชมก็มี ให้เห็นอยู่
เนือง ๆ ในระหว่างจำพรรษาที่ถ้ำพวง จังหวัดสกลนคร หลวงพ่อจวนเล่าว่า ทุกวันที่ท่าน
ออกเดินจงกรมเวลาบ่ายแก่ ๆ จะมีกระต่ายน้อยน่ารักตัวหนึ่งมานั่งหลับตานิ่งอยู่ ห่างจากทางจงกรมเพียง ๑ ศอกเท่านั้น ทำเช่นนี้เป็นประจำโดยไม่มีอาการตื่นกลัวท่านเลย

...อาการนั่งหลับตาพริ้มเช่นนั้น ดูราวกับว่า
มันกำลังนั่งภาวนากับท่านด้วย แต่ถ้าได้ยินเสียงคนเดินมากระต่ายก็จะวิ่งเข้าป่าไปทันที

#ท่านเองก็ไม่แน่ใจว่า_จริงๆแล้วกระต่ายต้องการจะภาวนากับท่านหรือไม่
#แต่ท่านเชื่อว่ามันเคยมี_นิสัย_วาสนา_ทางนี้มาแล้ว
#กระต่ายมานั่งหลับตาพริ้มยามท่านเดินจงกรมอยู่หลายวันก่อนที่ต่างจะแยกย้ายไปตามวิถีทางของตน.. "

#จากหนังสือลำธารริมลานธรรม
#โดยพระไพศาล_วิสาโล









"..นับแต่นี้ไป
คงต้องปล่อย​.. ให้เป็นไป..
ตามกรรมของ.. สัตว์โลกแล้ว... "

#หลวงตามหาบัว_ญาณสัมปัณโน







อำนาจใจเป็นใหญ่ได้ทุกยุคทุกสมัย
แต่ความยิ่งใหญ่มหัศจรรย์ของอำนาจใจ
ต้องสำคัญที่ "ความดีความไม่ดี"
ใจจะไม่มีอำนาจตามลำพัง
อำนาจความดี จะทำให้ใจดี
และใจที่ดีจะให้เกิดผลสำเร็จที่ดี
อำนาจความไม่ดี จะทำให้ใจไม่ดี
และใจที่ไม่ดีจะให้เกิดผลสำเร็จที่ไม่ดี
"ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจเป็นไปเช่นนี้"
ไม่มีเป็นไปอย่างอื่น
.
-พระนิพนธ์ 'แสงส่องใจ อาสาฬหบูชา ๒๕๕๐'
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 52 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร