วิริยะแปลว่า ความเพียร ความพยายาม
เป็นธรรมชนิดหนึ่งชื่อว่า วิริยะเจตสิก
เป็นสภาพรู้เป็นธาตุรู้ที่เกิดคู่กับจิต
เกิดพร้อมจิตดับพร้อมจิตแปลว่า
มีลักษณะเป็นขันธ์ที่กำลังเกิดดับ

โลกที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้เป็นโลกที่มีแต่จิตกำลังเกิดดับ
ตรงตามภาษาบาลี โลก แปลว่า สิ่งที่เกิดดับ ดับ=ไม่มี
ลักษณะของจิตเป็นเอกคือมีเพียงขณะจิตเดียว
แปลว่าไม่มีลักษณะของรูปร่าง=จิตไม่มีรูปร่าง
เพราะจิตเกิดดับเป็นโลกที่เป็นสิ่งที่เกิดดับ

ที่คุณคิดคือมีอุปาทานขันธ์คือติดข้อง
ในความคิดว่าตนเองมีตัวตน=อัตตา
แต่พระพุทธเจ้าบอกว่าเป็นอนัตตา
ไม่มีเรามีแต่ธรรม สัพเพ ธัมมา อนัตตา
ธรรมทั้งหลายไม่ใช่ตัวตนและบังคับตามต้องการไม่ได้
ก่อนเกิดจิตก็ไม่เคยมีมาก่อนจิตมีลักษณะเป็นขันธ์
ขันธ์แปลว่าเกิดดับทรงไว้ซึ่งความว่างเปล่า

วิริยะเจตสิกเป็นธรรมประเภท
สังขารขันธ์ที่ปรุงแต่งจิต
แปลว่าจิตรู้ว่ามีวิริยะ
จิตเป็นธาตุรู้อย่างหนึ่ง
เจตสิกเป็นธาตุรู้อย่างหนึ่ง
เป็นอภิธรรมคือจิต เจตสิก รูป นิพพาน
โลกของจิตเกิดดับโดยอนัตตาเป็นธรรมที่ไม่ใช่ตัวตน

แต่เราน่ะไม่รู้ว่าวิริยะคืออะไร
วิริยะเกิดเพียงขณะจิตเดียว
ไม่ได้เพียรเป็นตัวตนคนจ้ะ
เป็นสภาพรู้ที่เกิดร่วมกับจิต
และไม่ใช่ธรรมเดียวกับจิต

เพราะจิตเป็นวิญญาณขันธ์
วิริยะเจตสิกเป็นสังขารขันธ์
และขณะนี้จิตทุก1ขณะครบขันธ์5
มีความรู้สึกสุขทุกข์เฉยๆคือเวทนาขันธ์
มีความจำทุกอย่างขณะนี้เป็นสัญญาขันธ์
ผัสสะกำลังกระทบรูปทุก1ขณะจิตขณะนี้เองจิตรู้และจำทุกสิ่งที่ปรากฏ
สังขารขันธ์จึงปรุงแต่งกรรมไปตามความรู้สึกคิดนึกตามอัตตาที่มีกิเลสตัณหาอวิชชา
ลืมพึ่งพระพุทธเจ้าคือไม่ฟังแต่ละคำในพระไตรปิฏกด้วยความเคารพให้รู้ตัวว่าพระองค์สอนให้รู้จักกิเลส
พระพุทธเจ้าให้คิดพิจารณาไตร่ตรองทุกเรื่องราวที่ทรงบอกให้รู้สึกตัวตรงที่มีกิเลสตรงตาหูจมูกลิ้นกายใจ

เดี๋ยวนี้มีจิตกำลังเกิดดับนับแสนโกฏิขณะ
ทุก1ขณะเกิดแล้วดับทันทีไม่กลับมาเกิดอีก
มีจิตขณะใหม่ทีเป็นผลของกรรมชาติไหนไม่รู้
มาปรากฏให้รู้ว่ายังดำรงภพชาตินี้อยู่
การปรากฏของรูปเกิดเพราะมีจิตคือ
คิดนึกติดข้องในภาวะความเป็นคือภพ

โลกว่างเปล่าจากสัตว์บุคคลตัวตนอยู่แล้ว
แต่ความหลงผิดคิดพูดทำเอาเองของเรา
มีแต่อุปาทานขันธ์5พาไปเกิด31ภพภูมิ
เพราะเราชอบคิดพูดทำเอาเองตามที่เข้าใจผิดๆไม่ชอบฟังให้เกิดปัญญา
https://youtu.be/OOnlrGEZyhg