วันเวลาปัจจุบัน 16 เม.ย. 2024, 15:00  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ย. 2021, 04:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


…ขอให้พวกเรารีบขวนขวายกัน
“ เพราะเวลาของเราไม่แน่นอน “

.ไม่รู้ว่าจะมีเหลืออีกสักกี่วัน กี่ปี กี่เดือน
ไม่รู้ว่ากลับมาเกิดคราวหน้า
จะได้มาพบกับพระพุทธศาสนาอีกหรือไม่

.ถ้าไม่..พบก็คงจะต้องเป็นเวลาอีกยาวนาน
กว่าจะมีพระพุทธศาสนามาปรากฏใหม่
ให้เป็นที่พึ่งของโลกได้อีกครั้งหนึ่ง

.ตอนนี้..อย่าไปเสียดาย
กับสิ่งต่างๆในโลกนี้เลย
“ ตายไปก็เอาไปไม่ได้ “.
………………………………………………….
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
จุลธรรมนำใจ ๒๘, กัณฑ์ที่ ๔๓๖
วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๕







#เมตตาพรหมวิหาร

"จิต" ที่มีคุณภาพสูง เป็นจิตที่มีความสุขมากกว่าปกติ เป็นจิตที่ประกอบไปด้วยกุศล ไม่คิดเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ปรารถนาความสุขให้แก่ตนเองและผู้อื่น ตรงกันข้ามกับจิตที่มีคุณภาพต่ำ เป็นจิตที่ประกอบไปด้วยอกุศลเป็นส่วนมาก ทำตนเองให้เป็นทุกข์ แล้วก็แผ่กระจายความทุกข์นั้นไปให้ผู้อื่น ทั้งที่โดยเจตนาและไม่เจตนาก็ตาม

พระอริยเจ้าทุกพระองค์ นับตั้งแต่โสดาบันขึ้นไป จิตของท่านมีคุณภาพสูงกว่าจิตของปุถุชน เพราะท่านมีความเมตตาเป็นวิหารธรรม คือ เป็นเครื่องอยู่ ฉะนั้นท่านจึงเป็นผู้มีความสุขมากกว่าปุถุชนธรรมดา พวกเราถึงแม้ว่ายังเป็นปุถุชนอยู่ แต่ถ้าเจริญเมตตาพรหมวิหารเป็นประจำ เราก็จะเป็นผู้ที่มีความสุขมากกว่าปกติ ต่างกันแต่ว่าพระอริยเจ้าท่านมีเมตตาเป็นอัตโนมัติเกิดขึ้นเป็นประจำไม่มีการเสื่อม สำหรับปุถุชนต้องพยายามทำให้เกิดขึ้นทำให้มีขึ้นและต้องพยายามรักษาไว้ไม่ให้เสื่อมด้วย

เมตตาพรหมวิหารนี้ ถ้าเกิดขึ้นแล้ว ความเป็นผู้มีศีล คือไม่คิดเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น คิดปรารถนาความสุขให้แก่ตนเองและผู้อื่นก็เกิดขึ้นด้วย อยู่ที่ใดไปที่ใดก็มีแต่ความเยือกเย็นเป็นสุข

โอวาทธรรม
หลวงปู่ทิวา อาภากโร
ทายาทธรรมพระคุณเจ้าหลวงปู่หลุย จนฺทสาโร








"ศีลเป็นเกราะป้องกันชีวิต"

.. ใครที่เคยมีความคิดผ่านเข้ามาว่า ไม่อยากอยู่ในโลกอีกต่อไปแล้ว อยากตายให้พ้นความน่ากลัวนานาประการ เช่น ความยากจน ความเป็นหนี้ ความเสื่อมเสียชื่อเสียงเกียรติยศ "
ขอให้คิดถึงผู้ช่วยที่มีกำลังไม่มีที่เปรียบ คือศีล
อย่ายอมตายง่าย ๆ โดยไม่เข้าหาที่พึ่ง ศีลเป็นที่พึ่งได้จริง ทำตนให้มีศีล เพียงศีล ๕ ชีวิตก็จะสวัสดี การทำลายชีวิตตนจะไม่เกิดขึ้นแม้มั่นใจว่า การรักษาศีล ๕ เป็นการสร้างเกราะป้องกันชีวิตให้พ้นจากความคิดร้ายแรงของตนเอง ..

"แสงส่องใจ ๒๕๔๑"
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร








โยมอยากมาเกิดอีกไหม
ถ้าไม่อยากมาเกิดก็ต้องหาทางออกมานะ

ท่องพุทโธเท่านั้นโยม พุทโธคือทางออก
ท่องพุทโธจะได้ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก

ให้รู้แต่เฉพาะในกายในจิตเท่านั้น อย่าไปรู้ที่อื่น
ถ้ารู้ที่อื่นยังใช้ไม่ได้นะ ไม่ถูก
“ให้รู้แค่เฉพาะกายกับจิต”

ถ้าโยมจะเอาพุทโธ ก็ให้จิตมีแต่พุทโธ
ถ้าพุทโธหายไปก็ให้รีบกำหนดให้พุทโธกลับมา

ถ้าโยมจะดูลมหายใจ ก็ให้รู้แค่ปลายจมูก
แล้วก็กำหนดดูให้ทั่วร่างกาย ลมเข้าตรงไหน ลมออกตรงไหน

ไปกำหนดที่จิตอย่างเดียวมันมีประโยชน์ตรงไหน
มันละกิเลสได้ไหม

หลวงตามหาบัวไม่เคยสอนนะที่ให้กำหนดที่จิตอย่างเดียว
“ท่านมีแต่บอกให้ท่องพุทโธกับดูอสุภะอสุภัง”

เมื่อจิตถอนออกจากความสงบแล้วก็ให้มาดู อสุภะ อสุภัง
อสุภะ อสุภัง คือทางออกนะโยม

ถ้าไม่อยากมาเกิดให้พิจารณาร่างกายให้มากๆ
“ร่างกายคือจุดเริ่มต้นของกิเลสทั้งหมด”

ตอนโยมกินข้าวเข้าไป โยมเห็นว่าเป็นของน่าดูน่ากิน
แต่ตอนมันออกมา โยมก็บอกว่าเป็นของไม่น่าดูไม่น่ากิน
ทั้งหมดนี่ก็เพราะเรายังหลงในร่างกายนี้

ขี้มันอยู่ตรงนี้ แต่โยมไปกำหนดที่อื่น มันจะได้อะไร
ถ้าไม่กำหนดให้มันรู้ว่าร่างกายมันเป็นขี้

ที่ทำงานหาเงินเยอะๆ ก็หามาเพื่อดูแลร่างกายนี้
เพราะมันหลงที่หนังไงโยม

กิเลสตัณหามันก็อยู่ตรงนี้แหละ
ถ้าลอกหนังออกมา จะคนสาวคนแก่ มันก็ไม่น่าดูเหมือนกัน

หลวงพ่อมาร์ติน ปิยธัมโม
วัดภูฆ้องทอง









#อย่ายินดีพอใจในการทำชั่วของคนอื่น

#หลวงปู่หลุย_จันฺทสาโร ศิษย์อาวุโสท่านหนึ่งของท่าน #พระอาจารย์มั่น_ภูริทัตฺโต ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “#เพชรน้ำหนึ่ง” ท่านได้เมตตาเล่าให้ฟังถึงบุพกรรมในกาลก่อน ซึ่งทำให้พระธุดงคกรรมฐานศิษย์ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตฺโต ทั้ง ๕ รูป ได้แก่
#พระอาจารย์บุญมา_ฐิตเปโม
วัดสิริสาลวัน จ.หนองบัวลำภู
#พระอาจารย์วัน_อุตฺตโม
วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม จ.สกลนคร
#พระอาจารย์จวน_กุลเชฏโฐ
วัดภูทอก จ.บึงกาฬ
#พระอาจารย์สิงห์ทอง_ธัมฺมวโร
วัดป่าแก้วชุมพล จ.สกลนคร
#และพระอาจารย์สุพัฒน์_สุขกาโม
วัดป่าย้านต้าย จ.สกลนคร
ต้องประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก เป็นเหตุทำให้ถึงแก่มรณภาพลงพร้อมกัน

"..ในอดีตชาติที่นานมาแล้ว ท่านทั้ง ๕ เกิด
ในสกุลชาวนาที่ยากจน ต้องขวนขวายหา
เลี้ยงชีพไปวันๆ ทั้ง ๕ คนเป็นเพื่อนที่คุ้นเคยกันมา
เมื่อยังเด็กได้จูงควายออกไปเลี้ยงพร้อมกัน เมื่อผูกควายแล้ว ก็พากันเล่นและออกหากบหาเขียดไปเป็นอาหารประทังชีวิต ตามประสาคนจน
ทีนี้ ๑ ใน ๕ เกิดไปเห็นรังนกเข้า ก็ช่วยกันหาไม้เขี่ยรังนกให้ตกลงมา เพื่อหวังจะเอาไข่นกไปกิน แต่เมื่อรังนกตกลงมากลับกลายเป็นลูกนก ๓ ตัวและตายหมด ไม่ใช่ไข่นกดังที่เข้าใจ

..ด้วยวิบากกรรมอันนี้ส่งผลให้ท่านทั้ง ๕ ต้องตกจากที่สูงจนมรณภาพ...

ในเครื่องบินลำนั้น มีคุณหญิงไขศรี ณ ศีลวันต์ ภรรยาของ ดร.เชาน์ ณ ศีลวันต์ อดีตองคมนตรี
ซึ่งท่านกลับจากการไปปฏิบัติธรรมกับท่าน #พระอาจารย์มหาบัว_ญาณสัมฺปันฺโน ที่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี นั่งเครื่องบินมาด้วยกัน จึงมาสิ้นชีวิตพร้อมกัน

ในอดีต ขณะที่เด็กชายทั้ง ๕ กำลังเขี่ยรังนกอยู่นั้น เด็กหญิงลูกชาวนาผู้เป็นน้องสาวของ
๑ ใน ๕ คน ก็มายืนเชียร์อยู่ข้างๆ ว่า
“จะหล่นแล้ว...จะหล่นแล้ว” โดยเธอไม่ได้ลงมือทำ

เด็กหญิงในภพนั้นคือ #คุณหญิงไขศรี_ณ_ศีลวันต์ ในภพนี้ ซึ่งท่านได้เสียชีวิต เพราะประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกในครั้งนี้ด้วย เพราะเพียงมีจิตยินดีในการประกอบอกุศลกรรมของผู้อื่น วิบากกรรมนั้น ยังส่งผลมาให้เกิดในภพชาติเดียวกัน บันดาลให้ไปขึ้นเครื่องบินและเครื่องบินตกตายพร้อมกัน.."

ถึงตรงนี้ #องค์หลวงปู่หลุย_จันฺทสาโร
ก็กล่าวว่า...

#อย่าไปยินดีในการทำชั่วของคนอื่น_เพราะเราจะมีส่วนในบาปนั้นด้วย
#แต่ให้ยินดีในการประกอบคุณงามความดีของตนและของคนอื่น
#เพราะจะได้แต่บุญโดยฝ่ายเดียว.. ”

#โอวาทธรรม
#หลวงปู่หลุย_จันทสาโร
วัดถ้ำผาบิ้ง อ.วังสะพุง จ.เลย
#จากหนังสือประวัติและปฏิปทาท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง_ธัมฺมวโร
วัดป่าแก้วชุมพล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร








#นั่งสมาธินานๆดีอย่างไร?

เพียงแต่นั่งนานไม่ดี ต้องนั่งให้ไ้ด้ผล แล้วมันเพลินในการพิจารณา เวลาก็ล่วงเลยไปนานเอง

ผลที่สุดได้พบกับความสุข ความพ้นจากเจ็บปวดเอง อย่างนี้จึงจะดี เกิดปัญญา

เมื่อเกิดปัญญาแล้ว จิตก็สว่างไสวเบิกบาน และเกิดความอาจหาญขึ้นมาเอง คราวต่อไป ก็ไม่ย่อท้อในเวลาเกิดความทุกข์มากขณะนั่งภาวนานานๆ

#คัดลอกบางตอนจาก
#ธรรมะในลิขิต
#หลวงตามหาบัว








#เมื่อเขาเห็นว่าเราทําดี #ไม่ได้ทําชั่ว #เขาก็ยอมเอง

เป็นธรรมดาของการทําดี ซึ่งเป็นของยากอยู่แล้ว แม้แต่ในใจเราเองก็มีความลังเล เวลาคิดจะทําความดีก็มีอีกความคิดหนึ่งชวนทําสิ่งอื่นเสีย ต้องต่อสู้กัน จึงหันมาทําทางดีได้

การที่คนอื่นขัดขวางจึงเป็น อุปสรรคธรรมดา แต่สู้เราขัดขวางเราเองไม่ได้ ข้อนี้มักจะมีด้วยกันทุกคน

เวลาจะทําสิ่งที่ดีมีประโยชน์ ใจหนึ่งมักขัดขวางไว้ไม่ให้ทํา จนเสียเวลาไปเปล่าก็มีมาก นอกจากนั้นยังชวนให้ทําชั่วเสียหายอีกด้วย ซึ่งส่วนมากก็หลงตามมันจนได้

วิธีที่รู้ว่าอะไรไม่ดีก็ฝืนใจห้ามไม่ให้ตัวทําดีกว่า เพราะไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น

ส่วนวิธีที่ปล่อยตามใจจนเกิดผลร้ายแล้วเข็ดเองนั้น จะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะไม่ตายไปเสียก่อนที่จะกลับตัวได้ บางทีอาจไม่รู้ ช่องทางจะกลับเสียด้วย (เป็นการเสียหายของชีวิตตนเอง)

#คัดลอกบางตอนจาก
#ธรรมะในลิขิต
#หลวงตามหาบัว








#การเดินจงกรม_การนั่งภาวนา

การเดินจงกรมหรือการนั่งภาวนาก็ตาม อย่าไปฝืนปกติของเรา ให้เราทำเป็นปกติ เช่นเรานั่ง ...
เราไม่ได้เอาวิเศษจากการนั่งนะ !

แต่เราเอาวิเศษจากใจของเรา

เพราะฉะนั้น
ครูบาอาจารย์จึงเตือนเราอยู่เสมอว่า ให้นั่งสบาย ๆ อย่าไปเกร็งหน้า เกร็งหลัง เกร็งแข้งเกร็งขา เราจะเป็นกังวล

เรานั่งให้สบาย เรานั่งยังไงสบาย
เรานั่งขัดสมาธิ ขาขวาทับขาซ้าย มือขวาทับมือซ้าย ตั้งกายให้เที่ยงตรง หลับตาลง

หรือเราจะนั่งเก้าอี้
หรือนั่งพับเพียบ
หรือนั่งแบบไหนที่สบาย
ให้นั่งอย่างนั้น

พอเราจัดที่นั่งของเราได้สบายถูกจริตของเราแล้ว
เราก็วางจนหมดสิ้น
จากนี้ไปเราจะไม่ไปเกี่ยวข้องกับร่างกายเลย มันจะเอียงหน้าเอียงหลังไม่ต้องไปสนใจ

หลักสำคัญคือเราเอาอยู่ที่ใจคือผู้รู้
รู้อยู่แต่ลมหายใจเข้าหายใจออก
รู้อยู่แต่พุทโธ
กำหนดลงไปอย่างนั้น
ร่างกายจะเป็นยังไงปล่อยวางไป

เพราะฉะนั้นการที่เราจะปล่อยวางร่างกายไม่ต้องไปสนใจได้
ก็เพราะเราวางร่างกายของเราให้เป็นปกติ

แต่ถ้าพวกเราเกร็งหน้าเกร็งหลัง
เกร็งแข้งเกร็งขา
พอมันเป็นอย่างนั้น เราจะไปกังวล
เอ๊ะ มันเกร็งไม่พอ เอ๊ะ มันตึงไม่พอ

การเดินก็เหมือนกัน
ไม่ได้แตกต่างจากการนั่ง

เพราะฉะนั้น
การเดินจงกรมให้เดินตามจริตนิสัยของเรา

เราเป็นคนเดินเร็ว
หรือเราเป็นคนเดินช้า
ให้เดินเร็วเดินช้าไปตามเรื่องของเรา

แต่หลักสำคัญอยู่ที่ใจของเรา
ใจของเราขณะนั้นต้องมีสติกำกับไว้ กำกับใจของเราให้อยู่กับงานคือพุทโธ ไม่ต้องไปสนใจกิริยาอาการท่าเดิน

แต่ถ้าเราเดินฝืนตามปกติของเรา เช่น
เราเป็นคนเดินเร็วแต่เราไปเดินช้า
ก้าวไปก็อาจล้มไปเลย
เพราะมัวแต่วุ่นวายกับเท้า กับกิริยาของเรา

ผลที่สุดใจไม่ได้อยู่ข้างใน
มันไปกังวลอยู่กับเท้า
ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร
เพราะฉะนั้นให้เดินเป็นปกติของเราเอง

ทีนี้เรื่องความยาว ความสั้น ก็กะให้พอประมาณ
ถ้าเราเดินสั้นเกินไป ก็จะเวียนศีรษะ
ถ้าเราเดินยาวเกินไป ก็อาจจะเพลินไป หลงไป

เพราะฉะนั้น ให้พอประมาณ

ในหมู่พระกรรมฐานเรามักจะทำทางจงกรมสัก ๒๐ ก้าวขึ้นไปจนถึง ๓๒ ก้าว เป็นประมาณ

จะรู้สึกว่าพอดี ๆ จะไม่ยาวเกินไป ไม่สั้นเกินไป
แต่ก็ต้องดูสถานที่ของเราด้วย เช่นสถานที่ของเราไม่สามารถทำทางยาวได้ ได้สัก ๒๐ ก้าว ก็พอประมาณ พอเป็นไปได้ แต่ถ้าเราสามารถทำให้ยาวสุดได้
โดยมากท่านก็ไม่ทำให้เกิน ๓๒ ก้าว.

พระอาจารย์สุธรรม สุธัมโม
วัดป่าหนองไผ่ จ.สกลนคร










มีโยมท่านหนึ่งมากราบเรียนหลวงพ่อว่า ทำธุรกิจฟาร์มไก่ ต้องฆ่าไก่วันละแสนกว่าตัว ควรจะทำอย่างไรดี

หลวงพ่อบอกโยมท่านนี้ว่า ถ้าพอจะเปลี่ยนอาชีพได้ ก็เปลี่ยน
และท่านเมตตาให้ธรรมะดังต่อไปนี้

“…คนเรา เราเกิดมาเพื่อเป็นผู้ให้
จะให้พวกสัตว์เค้ายังไง ให้พวกมนุษย์เค้ายังไง
คนเราเกิดมาต้องรักผู้อื่นมากกว่าตัวเอง
ถ้ารักตัวเองมากกว่าคนอื่น เค้าเรียกคนเห็นแก่ตัว
เราก็พัฒนาใจของเราไปพระนิพพาน
พยายามหายใจเข้า มีความสุข
หายใจออก มีความสุข
หายใจเข้าสบาย ออกสบาย
กราบพระให้เก่งเนาะ
เราก็ตั้งเจตนาว่าเราไม่ยินดีฆ่าใครหรอก
ไม่ยินดีให้ไปกินใครหรอก เนอะ

เราพยายามพัฒนาใจของเราน่ะ
เห็นมั้ย องค์คุลีมาล ฆ่าคนตั้ง ๙๙๙ น่ะ
เมื่อมีความเห็นถูกต้อง เข้าใจถูกต้อง
มีความสุขใจ สบายใจ เสียสละ
บาปกรรมมันก็ตามไปไม่ได้หรอก
โยมน่ะ มัวไปคิดเรื่องฆ่า(ไก่)เดือนละแสนสาม อย่างนี้น่ะ
มันเป็นอดีตไปแล้ว
มันไม่ได้เป็นปัจจุบัน ปัจจุบันนี่เราไม่ได้ฆ่าเนาะ…”

หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม
เช้าวันศุกร์ที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๓

A lady came to inform Luang Phor that she had a chicken farm business which had about 100,000 chickens slaughtered daily. She wondered what she should do.

Luang Phor told her that if possible, tried to change her job and Luang Phor gave the teaching as followed.

“…We were born to be a giver.
Learn how to give to animals and to human beings.
We should love others more than ourselves.
Those who love themselves more than others are “selfish” people.
We should develop our mind to Nibbana.
Try to breathe in happily, breathe out happily!
Breathe in , relax! Breathe out , relax!
Be good at paying respect to the Lord Buddha.
You should set the intention that you are not happy to kill any life.
You are not satisfied to have any life eaten.

Try to develop your mind.
After “Angulimala”, who killed 999 people,
had the right view and right understanding,
he was happy, relaxed and relinquished,
then all the bad deeds were unable to chase him.
You now keep thinking about 130,000 chickens being killed everyday, but that was the past.
That is not the present. You are not killing them now.

Venerable Luang Phor Gunhah Sukhakamo
Subthawee Dhammaram Monastery
Friday, 25th September, 2020

#ธรรมะใจดีใจสบาย
#หลวงพ่อกัณหา_สุขกาโม
#วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม
#LuangPhorGunhah_Sukhakamo






"หวั่นไหว เพราะความยินดี ย่อมเป็นเหตุให้ฟุ้ง
หวั่นไหว เพราะความยินร้าย ย่อมเป็นเหตุให้เครียด
อุเบกขา จึงเป็นธรรมโอสถ รักษาโรคจิตทั้งสอง"

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ







"ความสุขในโลกมีหลายอย่าง
ความสุขบางอย่าง ท่านบอกว่า
เหมือนกับน้ำผึ้งติดปลายมีดโกน

คิดดูซิมันเป็นอย่างไร น้ำผึ้งติดปลายมีดโกน
น้ำผึ้งแสนอร่อย เราไปเลียมันอร่อยที่สุด
แต่ต่อมาเป็นอย่างไร...

มันบาดลิ้นเรา ความสุขในโลกเป็นอย่างนี้"

พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ






"เมื่อมีคนส่งเสริมมากเท่าไร
ก็พึงทราบว่า จะมีคนนินทามากเท่าเทียมกัน
ดังนั้น ความเคลื่อนไหวในกิริยาใดๆ ผู้ที่ได้เห็น
หรือได้ยินในกิริยานั้น จึงเก็บไว้ภายในใจ
พระพุทธเจ้า เจ้าของศาสนายังถูกโลกธรรมรุมตี
แต่ก็คงเป็นพระพุทธเจ้าตามเดิม จนวันเข้านิพพาน"

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 28 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร