วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 21:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2021, 10:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


…เวลามาก็มาตัวเปล่าๆ
เวลาไปก็ต้องไปตัวเปล่าๆ

.แล้วจะไปเสียดายไปเสียใจกับอะไร
ในเมื่อของต่างๆ ที่เรามีอยู่นี้
“ มันไม่ได้เป็นของเรา “.
……………………………………..
.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๓








หลวงพ่อชาเล่าว่า... ท่านเคยไปปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่กินรี

หลวงพ่อชาตั้งใจปฏิบัติมาก เดินจงกรม และ นั่งสมาธิทั้งวัน แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่า หลวงปู่กินรีวัน ๆ ไม่ค่อยเดินจงกรม ไม่ค่อยนั่งสมาธิเลย ทำโน่นทำนี่ เกือบตลอดเวลา แล้วท่านจะเห็นอะไร แต่หลังจากที่ได้อยู่ปฏิบัติกับหลวงปู่นาน ๆ และได้ฟังธรรมอันลุ่มลึกจากท่าน

หลวงพ่อชาก็รู้ว่า เป็นความเขลาของท่านเองที่คิดเช่นนั้น ท่านพูดถึงบทเรียนที่ท่านได้ จากประสบการณ์ครั้งนั้นว่า

“เรามันคิดผิด หลวงปู่ท่านรู้อะไร ๆ มากกว่าเราเสียอีก คำเตือนของท่านสั้น ๆ และไม่ค่อยมีให้ฟังบ่อยนัก เป็นสิ่งที่ลุ่มลึก แฝงไว้ด้วยปัญญาอันแยบคาย ความคิดของครูบาอาจารย์กว้างไกลเกินปัญญาเราเป็นไหน ๆ

-ตัวแท้ของการปฏิบัติ คือ ความพากเพียร กำจัดอาสวกิเลสภายในใจ
ไม่ใช่ถือเอากิริยาอาการภายนอกของครูบาอาจารย์เป็นเกณฑ์”

ท่านมาได้ตระหนักชัดอีกครั้งว่า...

- การปฏิบัติธรรมนั้นไม่ได้อยู่ที่รูปแบบ

- แต่อยู่ที่การวางใจให้ถูกต้อง

- ไม่ว่าทำอะไร...ก็สามารถเป็นการภาวนาได้

คราวหนึ่งท่านนั่งปะชุนจีวรที่ขาดวิ่น ใจนั้นนึกถึงการภาวนาอยู่ตลอดเวลา อยากรีบปะชุนให้เสร็จเร็ว ๆ เพื่อจะได้ไปภาวนาต่อ

ขณะนั้นเองหลวงปู่กินรีเดินผ่านมา สังเกตเห็นอาการของพระหนุ่ม จึงพูดขึ้นมาว่า

“ท่านชา จะรีบร้อนไปทำไมเล่า”

“ผมอยากให้เสร็จเร็ว ๆ ครับหลวงปู่”

“เสร็จแล้วท่านจะทำอะไรล่ะ”

“จะไปทำอันนั้นอีก”

“ถ้าเสร็จอันนั้นแล้ว ท่านจะทำอะไรอีกล่ะ”

“ผมก็จะทำอย่างอื่นอีก”

“เมื่อทำอย่างอื่นเสร็จแล้ว ท่านจะไปทำอะไรอีกเล่า”

เมื่อเห็นว่า ใจของหลวงพ่อชา ไม่ได้อยู่กับงานที่กำลังทำ แต่คิดถึงงานชิ้นอื่น ๆ ที่อยู่ข้างหน้า และรีบร้อนจะทำให้เสร็จไว ๆ ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อไปภาวนาต่อ

หลวงปู่กินรีจึงเตือนว่า...

“ท่านชา ท่านรู้ไหม นั่งเย็บผ้าผืนนี้ก็ภาวนาได้ ท่านดูจิตตัวเองสิว่าเป็นอย่างไร แล้วก็แก้ไขมัน ท่านจะรีบร้อนไปทำไมเล่า ทำอย่างนี้เสียหายหมด ความอยากมันเกิดขึ้นท่วมหัว ท่านยังไม่รู้เรื่องของตนอีก”

คำพูดของหลวงปู่กินรี กระตุกใจของหลวงพ่อชาอย่างแรง ทำให้ท่านได้สติ และ เกิดความเข้าใจชัดเจนว่า...

- ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ทำอะไร ก็ภาวนาได้ทั้งนั้น ขอให้หมั่นดูใจของตนอย่างต่อเนื่อง จนเกิดความรู้สึกตัวทั่วพร้อม -

นี้เป็นบทเรียนที่ประทับใจท่านมาก และถือเป็นหลักปฏิบัติของท่านตลอดมา
เมื่อท่านไปตั้งสำนักปฏิบัติธรรมที่หนองป่าพง จึงทำให้มีกิจกรรมหลาย ๆ อย่าง และมีเรื่องเล่าว่า ตอนนั้นหลวงพ่อชาอายุมากแล้ว มีเด็กหนุ่มมาถามท่านว่า...ทำไมพระจึงไม่นั่งสมาธิ

พอหลวงพ่อชาได้ฟังน้ำเสียงแล้วรู้ว่า ไม่ได้ถามเพราะต้องการคำตอบที่แท้จริง ท่านจึงตอบว่า

“นั่งอย่างเดียวมันถ่ายไม่ออกว่ะ จะนั่งอย่างเดียวก็ไม่ได้ มันต้องปฏิบัติ กับการทำงานด้วย” และท่านก็บอกว่า...

- การปฏิบัติธรรมมันต้องมาดูกายและใจ
ไม่ว่าทำอะไร ต้องให้รู้ทันกายและใจ ทำงานก่อสร้างก็เป็นการปฏิบัติธรรมได้ อันนี้สำคัญมาก

เดี๋ยวนี้นักปฏิบัติธรรมจำนวนมากคิดอย่างเดียวว่า เวลาปฏิบัติธรรมจะต้องเข้าวัด จะต้องหลบลี้หนี้หน้าผู้คน โดยไม่คิดว่า...

- การอยู่ที่ไหนก็ปฏิบัติธรรมได้ -

อยู่บนท้องถนน รถติดก็กำหนดลมหายใจไปด้วย หรือ เวลาเจอไฟแดง หงุดหงิดขึ้นมา...ก็ปฏิบัติธรรมได้
ถามว่าเวลารถติด ทำไมถึงหงุดหงิด
นั่นก็เพราะใจมันไปอยู่ที่จุดหมายปลายทางแล้ว ใจมันอยู่ข้างหน้าแล้ว...

- ใจไม่อยู่กับปัจจุบัน -

จึงกลัวไปไม่ทัน กลัวไม่ทันประชุม เป็นต้น
ดังนั้น -ให้พาใจกลับมาอยู่กับปัจจุบัน-
จะตามลมหายใจด้วยก็ได้

การปฏิบัติธรรมก็คือ ติดไฟแดงทำอย่างไรจะไม่หงุดหงิด
ทำอย่างไรเวลาถูกต่อว่าจะไม่หงุดหงิด
เวลาเสียเงินจะไม่โมโห เวลาเงินหายก็หายแต่เงิน แต่ใจไม่หาย
ถ้าทำได้อย่างนี้ ก็เรียกว่า...ปฏิบัติธรรมแล้ว!

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล เล่า









ถ้าจิตคล้อยไปตามโลก ธรรมก็แพ้
พระพุทธเจ้าและพระสาวกไม่ใช่เป็นไม้แห้งหรือคนตาย ท่านเป็นคนอย่างเรา ๆ
พระพุทธเจ้ายังทรงสละทรัพย์สมบัติผู้คนบริวารครอบครัวเสด็จออกทรงผนวชได้
แสดงว่าเป็นผู้ที่ทรงต่อสู้ ฝ่าฝืนจนไม่มีอะไรจะฝืน ราวโลกธาตุหวั่นไหว
ลูกเมียใคร ๆ ก็รัก บริวารทรัพย์สมบัติก็ต้องเสียดายเป็นธรรมดา
ที่ทรงฝืนก็เพราะทรงเห็นว่าทางนี้ดีกว่า
พระพุทธเจ้าและพระสาวกมีไม่น้อยที่ต่อสู้ แล้วตัดสินใจหันมาทางธรรมนี้
และปฏิบัติต่อสู้กับโลกในดวงใจจนชนะและพ้นไปได้
ส่วนพวกเราเคยแพ้กิเลสมาทุกภพทุกชาติ ไม่คิดอยากชนะมันบ้างหรือ
หรือกลัวพ้นทุกข์จึงไม่อยากฝืนมัน
................................................
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
คัดจากหนังสือ "ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน ในกรุงลอนดอน"









" ถ้าพูดปฏิบัติ​แล้วมันไม่ได้พูดมาก
ถ้าปริยัติ​แล้วมันก็ต้องได้พูดมาก
ถ้าพูดปฏิบัติ​คือปฏิบัติ​ง่ายๆ​ คือปฏิบัติ​ใจไม่ให้เป็นโทษ​ ไม่เบียดเบียน​ใจ
ให้มีทานวัตร​ ศีลวัตร​ ภาวนาวัตร​ มีพุทธ​ ธรรม​ สงฆ์​ผูกขาดอยู่ในใจแล้วมันก็หมดเท่านั้น
ดำเนินไปประจำวันๆ​ อยู่​ทุกวันเวลา
นอนหลับคาลมหายใจเข้าออก
เวลานั่งก็นั่งพับเพียบ​ หรือนั่งสมาธิ
จะนั่งยังไงก็แล้วแต่ความสะดวก
ไปในรถในเรือภาวนาได้ทั้งนั้น
นั่งยอบๆ​ นั่งยองๆ​ หรือกำลังถ่ายอุจจาระปัสสาวะ​ออกอยู่ก็ภาวนาได้ทั้งนั้น
กำลังเคี้ยวอาหารหรือกำลังกลืนก็ภาวนาได้ทั้งนั้น​ แล้วแต่สะดวก
ทำได้ทุกอริยาบถ​ ยกเว้นแต่หลับเสีย..."

หลวงปู่หล้า เขมปัตโต







หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ ท่านสอนว่า.. ธรรมะใดที่เราฟังแล้วทำให้จิตรวมได้ ธรรมะนั้นเป็นธรรมะจริง เข้ากับจิตเราได้ ให้ฟังบ่อยๆ

แต่ถ้าธรรมะใด ฟังแล้วเกิดความสนุกสนาน ธรรมนั้นไม่ได้ส่งถึงใจ จิตมันไม่รวม ฟังแล้วสนุกอยู่ที่หู ไม่เข้าถึงใจ ฟังไปนั้นเกิดประโยชน์น้อย หรือไม่เกิดประโยชน์เลย ท่านเรียกว่า ฟังเทศน์ไม่จริง

เรียบเรียงจากการฟังเทศน์หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ (วัดป่านิโครธาราม) เรื่อง ฟังเทศน์ให้จริง










ยอดของความกตัญญู คือการนำแสงธรรม เข้าสู่ใจบุพการี

หลวงปู่ชา สุภัทโท








#ปัญญาสัมมาทิฏฐิ. หลวงปู่เทศน์สอน.. คนส่วนใหญ่ไม่มีปัญญาพิจารณาเห็นทุกข์ เวลาเด็กเกิดมาร้องไห้ แต่ไม่ได้พิจารณาว่า "เด็กเค้าเทศน์ให้ฟัง ว่ามันทุกข์" เค้าว่าเด็กคนนี้เสียงดี ยิ่งร้องก็ว่าเสียงดี. เค้าต่างยินดี ยิ้มหัวเราะมีความสุขที่เด็กมันร้อง.

ถ้าได้พิจารณาเห็นว่าเด็กเกิดมาพร้อมกองทุกข์ ก็เป็นปัญญาสัมมาทิฏฐิ ท่านให้พิจารณาให้เห็นทุกข์ของการเกิดมา. อยากให้เห็นทุกข์ให้ชัดเจน. ต้องให้เห็นทุกข์ก่อน. จึงอยากพ้นทุกข์ อยากเข้านิพพาน ไม่เกิดอีก. ถ้าไม่เห็นทุกข์ ก็อยากเกิดอีก เกิดอีกก็ทุกข์อีก. พระพุทธเจ้าให้พิจารณาชาติความเกิดเป็นทุกข์. เกิด100 ครั้ง ก็ตาย.100 ครั้ง

อวัยวะอะไรของเราทุกชิ้นส่วน มันมีโอกาสผุพังได้. ร่างกายเป็นบ่อเกิดแห่งกองทุกข์อย่างแท้จริง. ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นผู้ใหญ่ก็เป็นโรคนั้นนี้มาโดยตลอด. ยังยอมรับกันไม่ได้อีกหรือ.? รูปกายนี้มันเป็นภาระ.

คนตั้งกี่ล้านคน เค้าได้พิจารณาเห็นทุกข์ไหม.?. เค้ามองว่าเกิดเป็นสุข.

พิจารณาให้เห็นความจริง. จะได้ละปล่อยวาง.

ฟังเทศน์หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป






ณ กุฏิหลวงพ่อ

โยม : หลวงพ่อมีตัวเลขอะไรในใจบ้างมั้ยครับ

หลวงพ่อ : ไม่มีนะ ...
หลวงพ่อไม่ส่งเสริมอบายมุข

หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม
วันเสาร์ที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๒

#ใจดีใจสบาย
#หลวงพ่อกัณหา_สุขกาโม
#วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม








#เคยเห็นตัวกิเลสหรือยัง

"ญาติธรรมทั้งหลาย"
เคยเห็นตัวกิเลสหรือยังเคยเห็นไหม ไหนว่าเป็นญาติธรรมเป็นนักปฏิบัติ จำเอาไว้น่ะ ตัวกิเลสก็คือตัวจิตตัวใจของเรานั้นล่ะ คือตัวเหม็นนั้นน่ะ ทำไมถึงว่าอย่างนั้น จิตของฉันไปเห็นได้ยังไง ถึงบอกว่ามันเป็นของเหม็น มันเหม็นยังไง

ก็จิตที่มันปรุงแต่ง จิตที่แบกเอาไฟ เอาของสกปรกมาบังคับธรรม มาบังคับกาย คือ "ตัวกิเลสนั้นน่ะ"

จิตมันมาสั่งกายของเรา ตัวของเรา อันเป็นพระคุณของพ่อของแม่เรานี้ มาบัญชาก้อนพระธรรม บัญชาธาตุ ตัวตนสกุลกาย ที่สมุติอยู่นี้ ถ้าจิตมันไม่สั่ง แล้วเราจะทำอะไรได้ จิตมันชี้แนะไปทำความดี ความชั่วก็ได้เห็นไหม?

แล้วว่าการปฏิบัติ...ปฏิบัติกันยังไง?
ถึงไม่รู้ว่าไม่เห็นว่าตัวกิเลสนั้น คือ ตัวจิตของตัวเอง
ไม่ใช่อื่นไกล!! .....แล้วจะไปรู้ที่ไหนทีนี้?

ถ้าไม่รักษาไม่เพียรไม่พยายามศึกษาของเน่าของเหม็นนี้ มันจะเกิดความเบื่อหน่ายได้ยังไง นี้หรอนักปฏิบัติ แล้วมันจะเกิดเความเบื่อหน่ายขึ้นเมื่อไหร่ มันมีแต่จะเกิดความหลงขึ้นมาน่ะซิ จิตเรานี้แหละที่มันสร้างความหลงให้เราเพลิดเพลินอยู่นี้

ถอดจากเทปพระธรรมเทศนา
หลวงปู่สวาท ปัญญาธโร วัดโป่งจันทร์ อ.คิชฌกูฏ
จ.จันทบุรี (ศิษย์ในองค์หลวงปู่แหวน สุจิณโณ)
ถอดเทป/เรียบเรียง : นรินทร์ ศรีสุทธิ์








ไปที่ไหนก็ไปเถอะ
มีแต่”เกิด” กับ “ตาย”

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 145 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร