พระผู้มีพระภาคเจ้าอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
คือผู้เลิศใน3โลกแต่เพียงผู้เดียวที่ตรัสรู้สิ่งที่มีจริง
สิ่งที่มีจริง เรียกในภาษาบาลีว่า ธรรม อ่านว่า ธัมมะ
สิ่งที่มีจริงที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงมีความตรงที่สุด
คือมีความหมายเฉพาะลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้
มีความตรงแบบเท่าเทียมคือเท่ากับคือธรรมเป็นธรรม
เป็นธรรมแต่ละ1อย่างที่เกิดทีละ1อย่างเป็นแต่ละ1อย่าง
ไม่สามารถเอามาผสมปนเปกันเป็นตัวตนคนหรือสัตว์วัตถุได้
เพราะธรรมที่ทรงแสดงปรากฏว่ามีตรงปัจจุบันเพียงชั่วคราว
ทรงแสดงโลกตามปกติตามความเป็นจริงของทุกสิ่งที่มีจริงจริง
ที่เพียงปรากฏว่าเป็นสิ่งที่เกิดดับสั้นแสนสั้นที่ยึดถือเอาไว้ไม่ได้
สิ่งที่เกิดดับกำลังมีและกำลังเป็นไปตรงลักษณะจริงจริงแต่จริงจริงคือเราไม่รู้
เรากำลังมีความคิดเห็นผิดๆเป็นตัวเราทำทุกอย่างได้ทุกรูปแบบตามต้องการ
อยากทำอะไรได้ก็ไปเรียนแล้วเอามาทำจนชำนาญแล้วเอาไปสอนคนอื่นทำ
แปลว่าเรามีความคิดว่ามีตัวเราเลือกทำและกำหนดการกระทำสิ่งนั้นนั้นได้
ทุกอย่างที่ทำด้วยความมีตัวตนในชีวิตนั้นแหละคือทำสิ่งที่ไม่รู้จักแต่คิดว่ารู้
เพราะเราไม่ฟังไม่คิดพิจารณาความคิดตนเองให้รอบคอบจากการฟังพระพุทธพจน์
แต่เรามีความต้องการหาทางลัดเพื่อให้ทำได้ตามสิ่งที่คิดเอาเองไม่คิดดีดีก่อนพูดก่อนทำ
การกระทำใดๆที่เป็นไปเพื่อรู้ความคิดผู้อื่นเพิ่มสัตว์วัตถุสิ่งของคือทำสิ่งที่ไม่รู้จักแต่คิดว่ารู้ดีไปหมด
พระพุทธเจ้าสอนความจริงซึ่งหน้าที่กำลังมีขณะนี้เองให้เกิดสัมมาทิฏฐิ=คิดถูกตรงตามได้ทันทีเดี๋ยวนี้ไม่มีเรา
https://youtu.be/fxwG5y2zdIg