วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 00:16  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2021, 05:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


บุคคลเรานั้น ถ้าแม้ยังไม่เป็นพระโสดาบัน ประตูนรกยังเปิดรออยู่เสมอ อย่านึกว่าตัวเองแน่ เพราะเราไม่แน่ไปกว่านรกได้

วันนี้เราเป็นคนนั่งอยู่ในวัด วันหน้าอาจต้องมาเป็นเปรตอยู่ตามกำแพงวัด เป็นแมว เป็นหมาขี้เรื้อนอยู่ตามศาลาวัด ตราบใดที่ภูมิจิตภูมิธรรมยังไม่ถึงพระโสดาบัน อย่าเพิ่งทะนงตนว่าตัวเองจะรอด...

พระเทพมงคลวชิรมุนี
(หลวงปู่หา สุภโร)








“อาตมาพกพาธรรมะของพระพุทธองค์มาเต็มย่าม ตั้งใจว่าจะแจกให้ครบทุกคน เพราะธรรมะจะแจกเท่าไรก็ไม่หมด และก็ไม่เป็นภาระที่จะแบกไปแจกให้ครบทุกคน ธรรมะมีแต่ประโยชน์...ไม่มีโทษ “

ธรรมโอวาท
พระทองคำเมืองนนท์ฯ
หลวงปู่สุทัศน์ โกสโล
วัดกระโจมทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี








เมื่อนึกถึงนิสัยไม่ดีต่าง ๆ ในกาลก่อนที่ปัจจุบันเราเลิกได้แล้ว จำได้ไหมว่าครั้งหนึ่งนิสัยไม่ดีเหล่านั้นก็เป็นเสมือนส่วนหนึ่งของชีวิต และเป็นเสมือนส่วนหนึ่งของตัวตนของเรา ปัจจุบันเราเลิกนิสัยเหล่านั้นได้แล้ว และเมื่อถามตัวเองว่า ถ้านิสัยไม่ดีเหล่านั้นสามารถเลิกได้จากการฝึกปฏิบัติธรรม ทำไมนิสัยไม่ดีต่าง ๆ ที่ยังเหลืออยู่ยังเลิกไม่ได้

นึกถึงนิสัยที่ดีในปัจจุบันที่ทำให้เรามีความสุข แต่ในอดีตเราไม่ได้เป็นอย่างนี้ นึกถึงว่าเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ยากจะเชื่อว่าวันหนึ่งวันนี้เราจะมีนิสัยเช่นนี้ ถามตัวเองว่าถ้านิสัยที่ดีเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้จากการปฏิบัติธรรม ทำไมนิสัยที่ดีอื่น ๆ ที่ยังไม่มีอยู่ ยังไม่เกิดขึ้น

อนาคตของเราไม่แน่นอน มันไม่ขึ้นอยู่กับพรหมลิขิต ไม่เป็นไปตามการดลบันดาลของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือแผนการของพระผู้เป็นเจ้า ชีวิตเราจะดีขึ้นหรือเลวลงก็ด้วยการกระทำของเรา มันก็ง่ายหรือยากเพียงเท่านี้

พระอาจารย์ชยสาโร










…ทุกสิ่งทุกอย่าง
เริ่มต้นที่ร่างกายของเรา

.สิ่งแรกที่เราได้คือ..ร่างกายของเรา
และสิ่งสุดท้ายที่เราจะเสีย
ก็คือ..”ร่างกายของเรา”.

…………………………………………
ธรรมะบนเขา
วันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๑
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี








" การทำภาวนา...
ในขั้นเริ่มแรก จะต้องพบกับความทรมาน
อย่างมาก

แต่ถ้ามีความเพียร
เพียรแล้ว เพียรอีก ไม่ย่อท้อ
อดทน...
ค้นคว้าหาวิธีต่าง ๆ

สุดท้ายก็จะสำเร็จ...
ที่สำเร็จ ไม่ใช่ อะไรหรอกนะ
เพราะ...
มีความเพียร ที่ตัวเรานี่เอง."

หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต









"แก่ชรา มานานเท่าไร
พึงภาวนาให้คุ้นเคยกับความตาย
เพราะจะต้องตายอยู่แล้ว
เตรียมตัวไว้ก่อนตาย รอรถ รอเรือ
ที่จะต้องขึ้นไปสวรรค์ พระนิพพาน

หูยิ่งหนวกหนักเข้าทุกวัน ตายิ่งไม่เห็น
ทนตีนเท้าอ่อนเพลีย หันไปหาความตายเสมอไป

ถือภาวนาในไตรลักษณ์ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา
มีเกิดแล้วย่อมมีตาย เพราะโลกไม่เที่ยงอยู่แล้ว
แปรปรวนไปต่างๆ สังขารเราบอกเช่นนั้น
เที่ยงแต่พระนิพพานอย่างเดียว"

หลวงปู่หลุย จันทสาโร








.

#ขอมีร่างกายเป็นชาติสุดท้าย

ถ้าชาติต่อไปถ้าเรามีร่างกายอย่างนี้เราก็เริ่มทุกข์อย่างนี้อีก เราก็เริ่มตายอย่างนี้อีก ก็ตัดสินใจว่าขึ้นชื่อว่าความทุกข์เพราะมีร่างกาย ให้มันมีชาตินี้ชาติเดียว ชาติต่อไปเบื้องหน้าร่างกายอย่างนี้ต้องไม่มีกับเรา ถ้าเราไม่หวังร่างกายอย่างนี้ ญาติโยมพุทธบริษัทนี่คืออารมณ์พระอรหันต์

อารมณ์ของบุคคลที่จะเป็นพระอรหันต์ก็คือไม่ต้องการร่างกายอีก เท่านี้เองไม่มีอะไรมาก ไอ้ที่เราเรียนกัน มันเรียนมากเกินไป เรียนมากน่ะดีมีความรู้รอบแต่เวลาใช้มันใช้ไม่ถูก

ฉะนั้น จะเห็นว่าการจะเป็นพระอรหันต์ก็ตัดสักกายทิฏฐิตัวเดียว ถ้าเราคิดอย่างนี้ทุกวัน คิดว่าร่างกายนี้อีกไม่นานนักมันก็จะตาย ร่างกายไม่มีประโยชน์ ขึ้นชื่อว่าร่างกายนี้มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา มันเป็นเพียงธาตุ ๔ ที่อาศัยชั่วคราว แล้วเราไม่ต้องการร่างกายที่มีทุกข์มีโทษอย่างนี้อีกถ้าคิดอย่างนี้ทุกวันจิตมันจะชิน คิดได้วันละนิดหน่อยสัก ๒-๓ นาทีก็พอ ตื่นขึ้นมาก็คิดอย่างนี้

ก่อนจะหลับนิดหน่อยก็คิดอย่างนี้ไม่ต้องมาก ถ้าคิดไปถ้ามันจะเผลอก็เลิกเสีย ตั้งใจไว้เฉยๆ ว่า ร่างกายอย่างนี้มีชาติสุดท้ายคือชาตินี้ ต่อไปไม่มีอีก

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
จากหนังสือ "ธัมมวิโมกข์" ปีที่ ๓๒ ฉบับที่ ๓๖๕ หน้า ๕๗ คัดลอกโดย คณะบุญสุประวีณ์









.

#ทำลายอวิชชาแล้วค่อยไปนิพพาน

เราจะไปนิพพานกันได้จริงก็ต้องทำลายอวิชชาเสียก่อน ถ้าทำลายอวิชชาไม่ได้ยังติดอยู่

"อวิชชา" คือ ความโง่ แต่มันก็โง่ไม่มาก โง่บางอย่าง โง่เฉพาะที่เห็นว่าร่างกายเป็นเรา เป็นของเรา เรามีในร่างกาย ร่างกายมีในเรา ถ้าเราตัดอารมณ์นี้เสียได้มีความรู้สึกตรงตามความเป็นจริงว่า

ร่างกายนี้มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา ร่างกายคือธาตุ ๔ คือธาตุน้ำ ธาตุดิน ธาตุลม ธาตุไฟ มันรวมเข้ามาเป็นกาย แล้วเป็นที่อาศัยของจิตเราชั่วคราว

ในเมื่อมันพังแล้ว เราก็หาที่อยู่ใหม่ต่อไป ถ้ากำลังใจทรงตัวแบบนี้ก็ชื่อว่าไม่หลงในร่างกาย

ทีนี้ตัวไม่หลงในร่างกายนี่เป็นอารมณ์ของวิปัสสนาญาณ ถ้าเห็นว่าร่างกายเป็นทุกข์ ร่างกายต้องแก่ ร่างกายต้องป่วย ร่างกายต้องตาย อย่างนี้มันก็เป็นวิปัสสนาญาณ

ถ้ามีความรู้สึกอย่างเดียวว่าร่างกายต้องตายอย่างนี้เป็นสมถภาวนา คือเรียก
"มรณานุสสติกรรมฐาน"

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
จากหนังสือ "ธัมมวิโมกข์" ปีที่ ๓๒ ฉบับที่ ๓๕๗ หน้า ๕๓ คัดลอกโดย คณะบุญสุประวีณ์










ของที่หายากยิ่งกว่าเงินทอง

"...เงินทองข้าวของ
มีได้ หาได้ เสียไปได้ เป็นธรรมดา
แต่คุณงามความดี
ที่จะเป็นสมบัติของตัว
แต่ละคน ๆ ให้เป็นคนมี
สง่าราศีนี้เป็นของหายาก
ยิ่งกว่าเงินทองนะ
ให้ลูกหลานทั้งหลายจำเอาไว้..."

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 55 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร