วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 20:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2021, 05:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


...ธรรมะวันสงกรานต์ ๑๓เมษายน๒๕๖๔...

...เป็นธรรมดาของโลก..
มีเกิด มีดับ มีความสงบ มีความวุ่นวาย
เป็นธรรมดา สลับกันไป

.ไม่ต้องไปวุ่นวายกับเขา
"แยกใจออกจากสิ่งต่างๆ"
ด้วยธรรมะ ด้วยสติปัญญา

“ควรทำทุกวัน..รักษาใจให้เป็นปกติ"

.ทำอะไรได้ก็ทำไป ทำบุญได้ก็ทำไป
ทำทานได้ก็ให้ทำไป ช่วยอะไรได้ก็ช่วยไป

.จะไม่ไปทุบไปตีไม่ด่าไม่ว่าใคร
ใครจะร้าย ใครจะไปชั่ว ก็ปล่อยเขาไป

.ไม่ต้องไปว่าเขา ไม่เกิดประโยชน์อะไร
"จะทำให้เราชั่ว และร้ายเท่ากับเขา"
ต้องวางเฉย..เป็นอุเบกขา.

.................................................
คัดลอกการแสดงธรรม
ธรรมะบนเขา ณ เขาชีโอน
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี








การให้อภัย เป็นการลงทุนน้อย แต่ได้กำไรมาก

" ... จะว่ากล่าวสั่งสอนใครก็กล่าวแต่โดยดี มีเมตตาปรารถนาประโยชน์สุขเป็นที่ตั้ง คราวเกิดเรื่องกัน เกิดชังกัน ยอมแพ้เสีย ถ้ามีเรื่องยอมแพ้กัน ต่างคนต่างยอมแพ้กันเสียข้างหนึ่งเรื่องจะยุติลงได้

การยอมแพ้นั้นในสายตาของทางโลกอาจหาว่าเป็นคนขี้ขลาดตาขาว แต่ในสายตาของนักปฏิบัติธรรมกลับให้เกียรติว่าเป็นผู้ชนะ ดังที่ท่านว่า’แพ้เป็นพระชนะเป็นมาร แพ้แบบพระชนะแบบมาร’

ชาวพุทธที่ดีแท้ต้องรู้จักให้อภัยซึ่งกันและกัน เพราะการให้อภัยเป็นการที่ลงทุนน้อยแต่กำไรมากมาย

การให้อภัยจัดเป็นทานชั้นยอด เหนือกว่าทานใดๆ ผู้ที่มีน้ำใจให้อภัยเป็นนิตย์ย่อมมีชีวิตสูงค่า ซึ่งชาวโลกเรียกว่า ‘พระผู้ใจประเสริฐ’ หรือในด้านหนึ่งเรียกว่า อภัยทานเป็นเภสัชขนานเอก ที่จะไถ่ถอนความอาฆาตพยาบาทจองเวรให้หลุดพ้นจากจิตใจได้ เพื่อให้ชีวิตประสบสุขสมหวัง ... "

พระธรรมสิงหบุราจารย์
(หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)
หนังสือ เมตตาชาวพุทธ










ยิ้มรับเช้าวันใหม่ เพราะเรายังโชคดีที่ยังมีลมหายใจ ยังมีเช้าวันใหม่ เพราะมีคนอีกมากที่ไม่มีวันใหม่แล้ว แต่เรายังมีชีวิตที่จะได้ทำดี ได้พบเห็นคนที่เรารักต่อไป...อย่าเพิ่งไปนึกอะไรทั้งสิ้น ยิ้มรับเช้าวันใหม่ก่อน...

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล








" พระพุทธศาสนาเป็นสรณะ
คือที่พึ่งของโลกได้
ก็เพราะสอนให้ดับทุกข์ได้

ความดับทุกข์จึงเป็นผล
ที่มุ่งหมายสำคัญ
ถ้าสอนให้ดับทุกข์ไม่ได้
คำสอนนั้นก็ไร้สาระ

การดับทุกข์นั้น ต้องมีการ
ปฏิบัติเหตุที่จะทำความ
ดับทุกข์ให้ดับ การปฏิบัติ
ในเหตุนั้นเป็นหน้าที่ของ
บุคคล แม้คำสอนจะมีสาระ
แต่ถ้าบุคคลไม่ปฏิบัติในเหตุ
นั้น ก็ไม่สามารถจะได้รับผล
คือความดับทุกข์ได้

แม้เป็นความดับทุกข์
ชั่วขณะจิตที่จิตกำหนด
อยู่ในธรรม ก็ส่องให้เห็นว่า
เมื่อจิตกำหนดอยู่ในธรรม
เสมอ ก็ย่อมจะมีความดับ
อยู่ในธรรมนั่นเอง

เมื่อได้เคยประสบความ
สงบใจด้วยธรรมะ จึงจะรู้สึก
ได้ว่า ความไม่สงบทุรนทุราย
กระสับกระส่ายนั้น
เป็นความทุกข์อย่างหนึ่ง "

พระโอวาทธรรม
สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช
สกลมหาสังฆปริณายก










#การภาวนามันต้องฝึกตัวเอง #ตัวสำคัญคือการฝึกใจตัวเอง

ใจตัวนี้ล่ะ มันพาไปเกิด ไปแก่ ไปเจ็บ ไปตาย ให้มันรู้จักนะ รู้จักตัวเอง.. เดี๋ยวมันจะเอาโกรธ เอาโลภ เอาหลงมาใส่อยู่นั่น

มันคล่องมาก นะถ้าไปทางนั้นน่ะ ถ้าไปทางภาวนานี่มันไม่คล่องล่ะ มันวิ่งตามอันนี้ล่ะ อาฆาต จองเวร กันอยู่อย่างนั้น วัฏฏะน่ะ.. มันชำนาญนะ

เรื่องที่จะแก้ให้ออกมันยากนะ เหมือนกันกับปลาที่ตอนน้ำขึ้น มันก็เพลินล่ะ หาอยู่หากิน เพลินไปอยู่อย่างนั้น หากินมดกินปลวกเรื่อย

โน่นล่ะน้ำลดก็ไม่อยากลง รออยู่นั่น สนุกสนาน พอดีน้ำก็แห้งเข้าๆ จนนั่นล่ะ สุดท้ายก็ไปอยู่ที่หน้าไซของเขาล่ะ จนน้ำแห้งเข้าๆ ถ้าไม่มีคนไปวิดน้ำเอาไปกิน ก็จะกลายเป็นเหยื่อมดในหนองน้อยๆ นั่นล่ะ.. น้ำมาปลากินมด พอน้ำลดมดก็กินปลา มันก็เป็นเช่นนั้น

พวกเราก็เหมือนกัน ก็เพลิดเพลินอยู่อย่างนั้น ในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส เพลินอยู่ในความเกิด แก่ เจ็บ ตาย อยู่อย่างนั้น ไม่มีเข็ดมีหลาบ ให้รีบแก้ตัวนี้
.

หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดป่าภูผาแดง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
เทศน์เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๓๘










คนเราส่วนมาก ถ้าเป็นอยู่สุขสบาย มีกินมีใช้ ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน ไม่จนตรอกจนมุม ชอบจะประมาท ไม่แสวงหาที่พึ่ง เวลาถึงคราวจนตรอกจนมุมจึงจะหาที่พึ่ง ปกติส่วนมากจะเป็นอย่างนั้น
.
มันจะไม่ค่อยทัน ให้เราเตรียมตัวเอาไว้ก่อน พึ่งทาน พึ่งศีล พึ่งพุทโธ ธัมโม สังโฆ และใจจะได้มีที่เกาะ อย่างทานอย่างศีลนี้ ถ้าเราได้ทำไว้แล้ว ระลึกได้เมื่อไรจะเย็นใจ ไม่เหมือนทำความชั่ว ซึ่งคิดแล้วเศร้าใจ ไม่สบาย
.
ถึงจะภาวนาไม่เป็น แต่ถ้าว่าเราได้ให้ทานเอาไว้ รักษาศีลของเราให้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะศีลห้า ใจเราก็ไม่เดือดร้อน ถ้าไม่มีอะไรเสียเลย ถึงคราวจำเป็นมา ใจจะไม่มีที่เกาะ เหมือนว่าวเชือกขาด แล้วแต่ลมจะพาไป “

โอวาทธรรม : หลวงปู่อุ่นหล้า ฐิตธัมโม
วัดป่าแก้วชุมพล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร









“ขอให้อดทน อดกลั้น มีสติและปัญญา
ฝ่าความยากลำบากในครั้งนี้ ไปด้วยกันให้ได้ทุกคน

อย่างน้อยก็ให้ตระหนักว่า ไม่ว่าปัญหาใดๆ
ล้วนแต่มีอยู่ เป็นอยู่ชั่วคราว แล้วก็ต้องผ่านไป
ขอเพียงวางใจให้เป็นกลาง อยู่กับปัจจุบันจริงๆ
อย่าปล่อยใจให้จมกับโทสะ แล้วจะไม่รู้สึกว่า
ความยากลำบากครั้งนี้ ยาวนานเกินกว่าความเป็นจริง

เมื่อผ่านเหตุการณ์นี้ไปแล้ว เราจะรู้ได้ถึงความเติบโต
ทางจิตใจของตนเอง และรู้ว่าบททดสอบคราวนี้
มีคุณประโยชน์ใหญ่หลวง สำหรับการเดินทางไกล
ในสังสารวัฏของเรา”

พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชโช


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 36 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร