ธัมมะ แปลว่า สิ่งที่มีจริง

โลก ว่าง เปล่า เพราะ ไม่มี อะไร ให้ ยึด ให้ ถือ

เป็น สภาพ ทรง ไว้ ซึ่ง ทุกข์ เพราะ จิต เกิด ดับ เร็ว มาก

โลก แปลว่า สิ่งที่เกิดดับ ขันธ์ แปลว่า เกิดดับ ทรงไว้ซึ่งความว่างเปล่า

โลกที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้เป็นสุญญตา คือ ว่างเปล่าดุจอากาศ จึงไม่มีตัวตนคนสัตว์สิ่งต่างๆ

พระพุทธเจ้าคือพระคุณนามที่เกิดขึ้นจากการตรัสรู้ธัมมะ=รู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงทั้งหมด

แสดงว่าพระพุทธเจ้าเปรียบดั่งตำแหน่งสูงสุดคือเป็นพระรัตนตรัยสูงสุดในพระพุทธศาสนา

ทรงมีพระปัญญาอันยิ่งเองแล้วและพระมหากรุณาที่ทรงแจกแจงสิ่งที่มีจริงนี้โดยละเอียดทีละ 1 ลักษณะ

จึงมีพระนามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยพระบริสุทธิคุณที่เป็นผู้สิ้นความไม่รู้ทั้งปวง

พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงแสดงพระธรรมเทศนาถึง 45 ปีไว้โดยละเอียดเพื่อไม่ให้หลงคิดผิดแต่งต่อเติมคำ

ความจริงที่จิตมีการเกิดดับเร็วไม่มีประมาณชั่วลัดนิ้วมือเดียวแค่นิ้วแตะกันจิตเกิดดับหายไปถึงแสนโกฏิขณะ

เทียบความเร็วของจิตเกิดดับแสนโกฏิขณะเร็วแบบกะพริบตาที่มีมืดนิดนึง=แสนโกฏิขณะ=1แสนคูณ10โกฏิ

จิตเกิดดับไปถึงล้านล้านดวงจิตในมืดนิดนึงตอนกะพริบตานั้นมืดแต่หลังกะพริบตายาวกว่ากะพริบตาเมื่อลอง

แตะนิ้วเร็วๆตอนลืมตานับได้ประมาณ10ครั้งแปลว่ามีแสนโกฏิขณะเกิดตอนลืมตา10รอบนับการเกิดดับไม่ได้

มนุษย์จึงมืดบอดไปด้วยความไม่รู้ความจริงเพราะไม่มีอะไรให้ยึดเกาะสิ่งที่พึ่งได้แท้จริงคือฟังคำสอนทีละคำ

เพื่อเข้าใจความจริงของทุกคำในพระไตรปิฏกจากผู้รู้กล่าวคำวาจาสัจจะให้รู้สึกตัวตรงตามความเป็นจริง

เพราะจิตเห็น1ขณะดับคุณก็ตายทุกขณะจิต จิตเห็นเพียงสิ่งที่กระทบตาดำดับมืดที่เหลือคิดนึกจำทำในมืด
https://youtu.be/NvjnNvonbd8