วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 18:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2020, 04:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


คนบ่มีศีล บ่มีธรรม มันกะบ่ต่างหยังกับสัตว์ สัตว์มันบ่ฮู้หยัง กัดกัน กินกัน ทำร้ายชีวิตกัน โตใด๋เหมิ๊ดแฮงเหมิ๊ดกำลังกะถืกกิน คนเฮาสิเป็นคนได้กะเพราะศีล สิเป็นเทวบุตร เทวดาก็เพราะศีล สิเป็นพระอริยเจ้าได้กะเพราะศีล มันต่างกันหม่องนี้ ถ้าบ่มีศีลกะเหมิ๊ดละบาดนิ

คติธรรมหลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม
วัดป่าสีห์พนม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร










...การบำเพ็ญ..”วิปัสสนาภาวนา”
"เป็นการสร้างความรู้แจ้งเห็นจริง
ให้เกิดขึ้นในจิต ในใจ"

.เกี่ยวกับสภาวธรรมทั้งหลาย
ที่มาสัมผัสกับจิต
ผ่านทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ศึกษาทำความเข้าใจให้ถูกต้อง
ให้รู้ว่า..สภาวธรรมเหล่านี้เป็นอย่างไร

.เพราะ..
ถ้าเห็นตามความเป็นจริงของเขาแล้ว
"จิตจะปล่อยวาง จะไม่ยึดไม่ติด"

.ไม่ถือว่าเป็นตน เป็นของๆตน
ว่าเป็นสิ่งที่จะให้ความสุขกับตน
ว่าจะอยู่กับตนไปตลอดเวลา
โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง

.เหล่านี้..
จะไม่มีอยู่ในความรู้สึกของจิต
ถ้าจิตได้เจริญธรรมะ..ที่เรียกว่า
“ไตรลักษณ์ “
คือ..อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา .
..............................
กำลังใจ17กัณฑ์ 207
ธรรมะบนเขา 4/6/2548
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี











#การฝึกสมาธิโดย_หลวงปู่มั่น_ภูริทัตโต

การทำสมาธิเบื้องต้น ต้องชำระศีลให้บริสุทธิ์ ทำวัตรสวดมนต์บูชาพระ​ เจริญพรหมวิหารสี่ และสมาทานกรรมฐาน เดินสมาธิหรือเดินจงกรม

การเดินสมาธิหรือเดินจงกรมเหมาะสำหรับ
คนที่มักมีความคิดฟุ้งมาก​

พระพุทธองค์กล่าวว่า ประโยชน์ของการเดินจงกรม มีดังนี้คือ

#ทำให้ร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่าย

#ทำให้ขาแข็งแรงเดินได้ทนและไกล

#เมื่อทำหลังอาหารทำให้อาหารย่อยง่าย

#สมาธิที่ได้จากการเดินจงกรมจะอยู่ได้นาน

#วิธีการเดินสมาธิหรือเดินจงกรม
เลือกสถานที่ยาวประมาณ 5 เมตร ถึง 10 เมตร แล้วแต่ความกว้างของสถานที่ และ
ความรู้สึกพอดี บางทียาวนักก็ไม่ดี เหนื่อย
บางครั้งสั้นไปก็ทำให้เวียนหัว หันหน้าไปทางเดินจงกรม แต่อย่ามองไกลเกินไป มองทอดสายตาดู ไปข้างหน้าประมาณ 4 ก้าวเพื่อไม่ให้จิตใจวอกแวก แต่ไม่ใกล้เกินไป จนรู้สึกปวดต้นคอ มือซ้ายมาวางที่หน้าท้องและมือขวามาวางทับ เพื่อป้องกันแขนแกว่งขณะเดิน และดูสวยงาม

เมื่อได้ท่าที่พอดีแล้วก็เดินก้าวขาขวาไป ก็นึกคำว่า “พุท” และเมื่อก้าวขาซ้ายไป ก็นึกคำว่า “โธ” เวลาเดินไม่หลับตาแต่ให้ลืมตา และกำหนดสัมผัสของเท้าที่ก้าวเหยียบลงพื้น เดินว่าพุทโธไปเรื่อย พอถึงปลายทาง เดินก็หยุดนิดหนึ่ง แล้วก็หันกลับด้านขวามือ มาทางเดิม และเดินว่าพุทโธต่อไป อย่าเร็วเกินไป หรือช้าเกินไป กำหนดจิตของเราอยู่ที่ก้าวเดินและคำภาวนา ไม่ให้จิตวอกแวก

สิ่งสำคัญคือ การกำหนดจิตให้ทันการเคลื่อนไหว ส่วนการเดินเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น เราควรทำอย่างน้อย 30 นาที และจะดีมากขึ้นถ้าตามด้วยการนั่งสมาธิ เพราะการเดินจงกรม เป็นการเปลี่ยนอิริยาบท ปล่อยอารมณ์ และเตรียมร่างกายให้พร้อมสู่การนั่งสมาธิ

#อิริยาบถนั่งสมาธิ
นั่งขัดสมาธิ เอาขาขวาทับขาซ้าย มือขวา
ทับมือซ้าย วางลงบนตัก ตั้งกายตรง (ไม่นั่ง
ก้มหน้า ไม่นั่งเงยหน้า ไม่นั่งเอียงซ้าย ไม่
เอียงขวา ไม่โยกหน้า ไม่โยกหลัง) ไม่กด
และข่มอวัยวะในร่างกาย วางกายให้สบาย​ ๆ ตั้งจิตให้ตรง ลงตรงหน้า กำหนดรู้ซึ่งจิตเฉพาะหน้า ไม่ส่งจิตให้ฟุ้งซ่าน ไปในเบื้องหน้า-เบื้องหลัง (อนาคตและอดีต) พึงเป็นผู้มีสติ กำหนดจิตรวมเข้าตั้งไว้ในจิต บริกรรม
“พุทโธ” จนกว่าจะเป็นเอกัคคตาจิต

#โอวาทธรรมคำสอนของ
#หลวงปู่มั่น_ภูริทัตโต_วัดป่าสุทธาวาส​
ต.ธาตุเชิงชุม​ อ.เมือง​ จ.สกลนคร
#คัดลอกมาจากหนังสือ
#วิธีทําสมาธิแบบหลวงปู่มั่น_ภูริทัตโต​
#เรียบเรียงโดย
#หลวงตามหาบัว_ญาณสัมปันโน​
วัดป่าบ้านตาด​ จ.อุดรธานี










" ถ้าเราทำดี พูดดี คิดดีแล้ว
คนอื่นเขาว่าเราทำไม่ดี
ก็ไม่เป็นไร

เมื่อเรา “ทำดี” แล้ว
คนอื่นเขาว่าไม่ดี
มันเป็นเรื่องของเขา
เราอย่าไปทิ้งความดีของเรา

ความดีมันอยู่ที่ตัวเรา
ไม่ใช่คนอื่นมอง
อย่าลืมว่า “กรรมใคร”
ก็เป็นของคนนั้น "

โอวาทธรรม
หลวงพ่อชา สุภัทโท










" ทำความดี​
อย่าให้มีที่ว่างในหัวใจ
อย่าให้ความชั่ว
มีที่ตั้งหรือที่อยู่​ ในใจเรา

จะไปนิพพาน​
กิเลสสักนิด ก็ต้องไม่เหลือ
จะเป็น​ทองคำแท้บริสุทธิ์ได้​
ต้องไล่ขี้ตะกอน​ ออกให้หมด "

โอวาทธรรม
หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร









" คนมีทาน คือคน
มีความชุ่มเย็นภายในใจ​
มีที่รับรองภพชาติของตน
ทั้งปัจจุบัน​ ก็อบอุ่นเย็นใจ
ในอนาคต

ชีวิตจิตใจจะล้มจะตายไป
เหมือนโลกทั่วๆ ไป​ แต่
สถานที่คือความดีทั้งหลาย
ที่กลายเป็นแก้วสารพัดนึก
เป็นของทิพย์นั้น​
จะรอรับเราอยู่ตลอดเวลา

ตั้งแต่ปัจจุบันที่มีชีวิตอยู่นี้
จนกระทั่งชีวิตหาไม่แล้ว

"บุญกุศล" ผลงานอันเลิศเลอ
ของเรานี้ จะตามสนับสนุนเรา
ไปในภพชาติต่างๆ.."

โอวาทธรรม
หลวงตาพระมหาบัว
ญาณสัมปันโน










“บาปและบุญนั้น มีอยู่ประจำโลก
เหมือนกับน้ำและไฟนั้นแหละ
ใครทำชั่ว ก็เดือดร้อน
ใครทำดี ก็มีความสุขกายสบายใจ"

หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร









“อะไรก็ตามที่เราคิดว่า มันเป็นของเรา
ในความจริงนั้น เรากลายเป็นของมัน”

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล









"อย่าไปมองคนอื่น อย่าไปดูคนอื่น
คนอื่นจะผิด จะดี จะถูก ก็เป็นเรื่องของเขา
เราอย่าไปเอาดี เอาชั่ว เอาผิด เอาถูกของคนอื่น
มาใส่ใจของเรา มันเป็นทุกข์หมดศรัทธา
เราพยายามให้ใจอยู่กับเนื้อกับตัว อยู่กับความสงบ
อยู่กับศีล อยู่กับคุณงามความดี มีความสุข
กับการทำความดี กับการเสียสละ ปฏิบัติอย่างนี้
เรื่อยๆ ตลอดไป"

หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม








#ความโกรธตัวนี้มันเผาผู้เป็นเจ้าของก่อน_มันไม่ไปเผาคนอื่น

ถ้าผู้มีธรรมในใจแล้ว เขาไม่สนใจแล้ว เขาสบายแล้ว บ้าก็อยู่ที่ปากเขา จะดีก็อยู่ที่ปากของเขา เราจะไปสนใจอะไร ผู้เห็นอรรถเห็นธรรมเป็นอย่างนั้น

หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดป่าภูผาแดง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี










คนที่ทำแต่บุญแต่ไม่ได้ทำหลักของใจไว้ (ภาวนา)

ก็เปรียบเหมือนกับคนที่มีที่ดิน แต่ไม่มีโฉนด จะซื้อจะขายเป็นเงินเป็นทองก็ได้ดอก แต่มันอาจจะถูกเขาฉ้อโกงได้ เพราะไม่มีเสาหลักปักเขตไว้

#คนที่มีศีลมีทานแต่ไม่มีภาวนา” (คือหลักของใจ) ก็เท่ากับถือศาสนาเพียงครึ่งเดียว เหมือนคนที่อาบน้ำแค่บั้นเอวไม่ได้รดลงมาแต่ศีรษะ ก็ย่อมจะไม่ได้รับความเย็นทั่วตัว เพราะไม่เย็นถึงจิตถึงใจ

ท่านพ่อลี ธมฺมธโร


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 50 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร