ตถาคตตรัสรู้ความจริงทั้งหมดแล้ว
ไม่ว่าคนเทวดามารพรหมสงสัยอะไร
ก็จะพากันไปปุจฉาถามพระพุทธเจ้า
เข้าใจความหมายคำว่าทำไม่ได้ไหม
ตถาคตรู้ความจริงตลอดเวลาที่ตอบ
ส่วนผู้ถามมีความคิดว่ามีตัวตนไปถาม
พระพุทธเจ้ากล่าวไว้ในพระไตรปิฏก
ทุกคำคือความจริงที่ไม่เปลี่ยนแปลง
เป็นความจริงที่มั่นคงตรงปัจจุบัน
เดี๋ยวนี้ไม่ได้ทำและไม่มีตัวตน
แต่มีความคิดหลงผิดว่ามีตัว
แล้วก็คิดเอาเองว่ามีตัวผู้ทำ
ตถาคตแสดงความจริง
ให้รู้ตัวตอนกำลังฟัง
ไม่มีเรามีแต่ธัมมะ
ธัมมะคือสิ่งที่มีจริง
เป็นความจริงทีละ1
เป็นแต่ละ1ที่ไม่ซ้ำเดิม
และไม่มีธัมมะที่เกิดปนกัน
มีแต่เกิดพร้อมกันดับพร้อมกัน
รู้อารมณ์เดียวกับจิตและทำจิตไม่ได้
เพราะจิตเป็นประธานในการรู้เท่านั้น
การกระทำคือมีตัวตนที่มีความหลงคิดผิด
เมื่อไหร่จะเริ่มคิดตามคำสอนของตถาคตได้
ตถาคตคือผู้เสด็จไปแล้วด้วยดีไม่พึ่งคิดตามคำตถาคต
แสดงว่ามีความเป็นตัวตนคิดพูดทำเอาเองและคิดจะไปทำตามที่คิดหลงผิด
เออก็บอกอยู่ว่าถ้าไม่ฟังไม่ไตร่ตรองให้เข้าใจก็ทำอะไรไม่ได้บอกว่าเดี๋ยวนี้ไม่มีตัวตนมีแต่อุปาทานไปเอง
อ่านคือจิตคิดนึกจำหลังจิตเห็นดับนับไม่ถ้วนก็จิตเห็นดับหายในตาดำมืดบอดสนิทดับในตาจะมีอะไรนอกตา?
https://youtu.be/9qsbfIX0sUM

จะยังคิดแบบเดิมๆคือจำเอาสัญญาคำที่ท่องจำได้ไปทำ
หรือควรจะทิ้งความคิดเห็นผิดที่ตัวเองคิดจำแต่สัญญาเก่า
เพื่อเพียรฟังความจริงให้เข้าใจถูกตรงที่มีธัมมะกำลังกระทบที่กาย
ไม่มีเรามีแต่ตัวจริงธัมมะละเอียดตรงตามพระอภิธรรมกำลังมีที่กายใจตน
ศึกษาเพื่อรู้สึกตัวตรงความจริงที่กำลังปรากฏว่ามีแตะๆผิวทั่วตัวนั้นน่ะไม่ใช่ตัวเราค่ะ
กำลังคิดพูดทำอะไรๆเอาเองอยู่นี้แหละกำลังเป็นนายช่างผู้สร้างเรือนต้องรู้ว่าคืออะไรตอนมี(เรือนว่างฟังมั่ง)
https://youtu.be/hj9BPhMUQ-0