วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 17:53  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2020, 05:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนอาตมาบวชใหม่ๆ มักจะมีคนถามบ่อยๆ ว่า ท่านคิดถึงบ้านไหม อาตมาจะตอบอยู่เสมอว่า ไม่ แล้วเสริมว่า แต่ระลึกถึงอยู่ทุกวัน

อาตมาแยกแยะอย่างนี้ เพราะความรู้สึกของสองคำนี้ต่างกันมาก การคิดถึงเกิดขึ้นเมื่อจิตใจอ่อนแอ ไม่สามารถมีความสุขกับสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน ความคิดถึงย่อมทวีขึ้นด้วยความคิดปรุงแต่งและเป็นเหตุให้เกิดทุกข์

ส่วนการระลึกถึงนั้นเกิดจากการสำนึกในบุญคุณของผู้ที่มีพระคุณต่อตน พยายามไม่ลืมสิ่งที่ดีที่ได้รับจากท่าน และด้วยความตั้งใจจะให้การพลัดพรากจากบุพการี เกิดผลดีที่สุด ให้ท่านได้รับส่วนบุญจากการทำความดีของเราไปด้วย

พระอาจารย์ชยสาโร









...เป้าหมายของการนั่งสมาธิ
"ก็เพื่อ..ควบคุมความคิด"

.ไม่ให้คิดเรื่อยเปื่อยไปตามกระแส
ของอารมณ์ที่มีอยู่ภายในใจ ที่คอยผลักดัน
ให้ไปคิดเรื่องนั้นคิดเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ

.ถ้าไม่เจริญสติไม่ทำสมาธิ
อารมณ์จะ ฉุดลากใจ..
“ให้คิดทั้งวันทั้งคืน"
จนเหน็ดเหนื่อยฟุ้งซ่าน
ไม่สบายอกไม่สบายใจ

.นานๆจะมีความสุขสักครั้ง
ถ้า..”คิดไปในทางธรรมะ”

.แต่ส่วนใหญ่ใจของพวกเรา
ที่ถูกอำนาจของกิเลสฉุดลากให้คิด
จะคิดไปในทางโลภ ในทางโกรธ
ในทางอยากได้ อยากมี อยากเป็น
ในทางหวาดกลัว กับเหตุการณ์ต่างๆ
ที่จะเกิดขึ้นก็ดี หรือกำลังเกิดขึ้นก็ดี

“ทำให้ใจหวั่นไหว..สับสนอลหม่าน
อยู่ตลอดเวลา”

.ถ้าได้ทำสมาธิ..ได้เจริญสติ
ควบคุมใจให้อยู่กับกรรมฐาน
บทใดบทหนึ่ง
ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถใดก็ตาม

.เวลานั่ง เวลาเดิน เวลายืน
ก็กำหนดให้อยู่กับกรรมฐาน
ก็จะไม่สามารถไปคิดเรื่องอื่นได้
เพราะการกำหนดกรรมฐาน
“เป็นการบังคับใจไม่ให้คิดเรื่อยเปื่อย”
...................................
จุลธรรมนำใจ17กัณฑ์398
ธรรมะบนเขา 26/4/2552
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี










การมีสติรู้ตัวพร้อม จึงเรียกทำความเพียร ไม่จำเป็นว่านั่งสมาธิ เดินจงกรม จึงเรียกทำความเพียร ถ้าไม่มีสติรู้ตัว ฟุ้งคิดไปเรื่อย ก็ไม่เรียกทำความเพียร เมื่ออิริยาบถใด จะยืน จะเดิน จะนั่ง จะนอน มีสติรู้ตัวพร้อม จึงเรียกทำความเพียร

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร








“ใครจะว่าเราดีเราชั่วนั้น ไม่ใช่อยู่ที่คนพูด
แต่อยู่ที่การกระทำของเรา ถ้าหากเขาว่าเราดี
แต่เราไม่ดีจริง ก็ไม่มีความหมาย”

หลวงพ่อเกษม เขมโก









"ความคิด เป็นเหตุแห่งความทุกข์
และความคิด ก็เป็นเหตุแห่งความสุขได้
พึงรอบคอบในการใช้ความคิด
คิดให้ดี คิดให้งาม คิดให้ถูก คิดให้ชอบ
แล้วชีวิตในชาตินี้ ก็จะงดงาม
สืบเนื่องไป ถึงชาติภพชาติใหม่ได้ด้วย"

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ









“ทุกๆ คน ควรรีบขวนขวาย
ซึ่งความงามความดี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

เป็นเด็ก ก็อย่าได้เกียจคร้าน
ในการเรียนหนังสือ จงตั้งจิตตั้งใจ
ศึกษาเล่าเรียน ให้มีความรู้
ความเฉลียวฉลาด ความสามารถ

เป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็จงตั้งตัวตั้งตนให้ดี
ให้มีความขยัน มีความประหยัด
ให้คบแต่คนดี ให้รู้จักประมาณในการใช้จ่าย

ถ้าเป็นผู้เฒ่าผู้แก่แล้ว
ก็เตรียมตัวเพื่อคุณงามความดี
ให้ยิ่งๆ กว่า เด็กและคนหนุ่มทั้งหลาย”

ครูบาเจ้าพรหมา พรหมจักโก











#พระพุทธเจ้าท่านจึงสอนให้ระลึกถึงความตายอยู่เสมอ

ท่านจึงสอนให้ระลึกถึงความตายทุกขณะ ถ้าหากว่าความตายนี่ตายไป เกิดมาตายไม่หายใจไปเผา......

คนจะระลึกถึงความตาย มันระลึกไม่เห็นดอก ถ้าตายอยู่ทุกขณะ บางทีมันระลึกมันก็ยังไม่เห็นนะว่าร่างกายอันนี้เป็นของตาย

#จึงให้ระลึกถึงมากๆถึงเวลาความตายของจริงเกิดขึ้น

เราจะไม่ได้เศร้าโศก เพราะอันนี้เป็นของตายเท่านั้นเอง เป็นของที่เขาเกิด เกิดมาเพื่ออะไร เกิดมาเพื่อตาย เขาไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นของใคร ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นของเรา

เขาเกิดมาเพื่อตาย อันนี้ธรรมชาติความจริงของเขา เป็นไปตามความจริงของเขานั้น ๆ

#จิตของเราไม่ได้ตาย

จิตของเราไม่ได้ตาย ไอ้ที่เราระลึกถึงความตายความตาย ระลึกถึงความตายระลึกถึงความตายนะ ผมขนเล็บฟันหนังดินน้ำลมไฟเป็นของเกิดมาตาย

จิตของเราไม่ได้ตาย ถึงว่าอันนี้มันตายจริง ๆ ตายไปไม่หายใจนี่ จิตของเราก็ยังเป็นจิตอยู่อย่างนั้นไม่ได้ตาย

#ร่างกายตายก็สักแต่ว่าของตาย

เขาเกิดมาตายเท่านั้น จิตของเราไม่ได้ตาย แล้วเราจะไปเศร้าโศกทำไม

หลวงปู่แบน ธนากโร










#เราฟังธรรมก็เพื่อจะได้มีความรู้ไปแก้ปัญหาของโลก

เพราะโลกอันนี้ไม่ต้องแก้ปัญหาอะไรให้มันมากมาย มาแก้ความเห็นของเรา มาแก้ความคิดของเรา มาแก้ทิฏฐิของเรา ให้มีความเห็นอันถูกต้องเป็นสัมมาทิฏฐิเท่านั้น โลกที่มันตั้งอยู่มันก็ตั้งอยู่ตามสภาพของมัน

#เพราะเราไปหลงโลกมันจึงทุกข์

โลกนั้นมันไม่ทุกข์ โลกนั้นมันไม่ยาก เราเป็นคนยาก คนรู้จักโลกก็เหมือนกัน โลกมันเป็นของมันอยู่อย่างนั้นเอง ทางนั้นก็เป็นโลก โลกนั้นก็คือหนทาง ถึงแม้ว่าเราเดินต่อมันก็ไม่สิ้นสุดสักที

#โลกไม่ได้ทำให้เราทุกข์เราทุกข์เอง

ฉะนั้นจึงมาแก้ที่เรา ใจเรานี้มันหลงโลก ไม่ใช่โลกหลงเรา เรามันหลงโลกเข้าใจไหม?

ถ้าว่าอาหารทั้งหลาย ถ้ามันอร่อย ไม่ใช่อาหารมันหลงเรา เรามันหลงอร่อยอันนั้น หลงหวาน หลงเปรี้ยว หวานก็พอดีของมัน เปรี้ยวก็พอดีของมัน มันเป็นของพอดี

หลวงปู่ชา สุภัทโท










เห็นความเกิด-ดับ
ในปัจจุบันอยู่เสมอ

หลวงปู่ชา สุภัทโท


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 56 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร