สรุปคำตั้งต้นคือไม่มีเรา
เข้าใจคือบทสรุปทั้งหมด
แต่การรับรู้สัจจะก่อนสรุป
ต้องรับทราบข้อความทั้งหมด
ตั้งแต่คำแรกที่ฟังจนถึงบทสรุป
เข้าใจทั้งหมดดีแล้วเขียนไว้แล้ว
ให้ใช้เป็นข้อเท็จจริงไว้ใช้อ้างอิง
ไม่ได้ให้เลือกเอาบางอย่างไปทำ
แต่ให้เข้าใจว่าที่ทำอยู่คืออะไร
กำลังเป็นอะไรเทียบกับคำไหน
ที่เป็นข้อเท็จจริงทั้งหมดที่มีคือ
กำลังมีพฤติกรรมเทียบเคียง
ตรงตามกรรมที่ทำอยู่ทำแล้ว
มันจะพาไปเกิดอีกหรือเปล่า

เข้าใจคือกิจหน้าที่ของปัญญา
ที่ปรุงแต่งจิตจากการเรียนการฟัง
ที่คิดพิจารณาแล้วรู้บทสรุปคร่าวๆ
ว่าไม่มีตัวตนตอนนี้มีตัวตนแล้วหลงผิดมีอัตตา
การฟังคือการทำความเข้าใจข้อเท็จจริงตามตำรา
เอามาเทียบกับความจริงที่ร่างกายตัวเองกำลังทำว่า
ตรงคำไหนตามข้อเท็จจริงเพื่อรู้ลักษณะตัวกิเลสที่มี
และเข้าใจว่ามีแบบนี้ต้องแก้ยังไงตรงกับข้อเท็จจริง
คือศึกษาลักษณะที่ตัวเองกำลังเป็นให้เข้าใจเท่านั้น
เพื่อจะได้รู้สึกตัวและระลึกได้บ่อยๆจนเห็นโทษภัย
ที่ตนเองมีตัวตนทำแบบนั้นจนเคยชินเป็นอุปนิสัย
ถ้ายังทำแบบเดิมอยู่แสดงว่าปัญญาเข้าใจมีไม่พอ
ต้องฟังให้ละเอียดกว่านี้เพื่อสกัดดาวรุ่งที่หลงทำ

การมีปัญญาคือฟังจนเข้าใจถูกตรงตามได้จริงๆ
ถ้าไม่พึ่งการฟังเพื่อไตร่ตรองตามคำของตถาคต
ทุกคนก็คิดหลงผิดว่าทำได้กลายเป็นไม่รู้มากขึ้น
พระพุทธเจ้าแสดงพระธรรมให้เข้าใจถูกตามได้
ทรงตรัสรู้ความจริงนี้เพื่อมาบอกไม่ให้ไปคิดทำเอง
ทรงตรัสไว้ละเอียดทั้งทางถูกและทางผิดที่เกิดแล้ว
ทรงแสดงถึงสิ่งที่เกิดแล้วให้คิดถูกเข้าใจถูกตามได้
พระพุทธเจ้าไม่เคยห้ามใครไม่ให้ทำอะไรเลยค่ะ
แต่ทรงบอกว่าให้ฟังดีๆให้เข้าใจคือฟังให้เกิดปัญญา
สมณะคือผู้มีความสงบจากอกุศลเพราะมีธรรมรักษาใจ
ผู้สงบจริงมักน้อยสันโดษรู้ประมาณการบริโภคหรือการฉัน
ฉันอาหารได้ไม่เกินเที่ยงปรุงอาหารเองไม่ได้ต่างจากคฤหัสถ์
คฤหัสถ์คือผู้ครองเรือนไม่สามารถบวชได้เพราะมีกิจการงาน
ทุกคนที่ยังติดข้องต้องการอยากมีบริวารเพื่อนฝูงถึงนิพพานมิได้
ต้องเกี่ยวข้องกับผู้คนในสังคมเครือญาติเพื่อนฝูงทำธุรกิจต่างๆ
การบวชในพระธรรมวินัยของตถาคตคือการตัดขาดไม่อาลัยต่อ
เพศคฤหัสถ์ที่มีการผลิตกิเลสใหม่คือแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้า
ทุกคำที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงเพื่อให้รู้ว่าเดี๋ยวนี้เลยในที่สุดแล้ว
ว่างเปล่าดุจอากาศไม่มีเงินไม่มีญาติมิตรไม่มีภพภูมิคือนิพพานว่างหมด=สุญญตา
แต่ละคนอยากเรี่ยไรเงินไปก่อสร้างวัตถุให้เป็นภาระแบกหามอะไรกันนักหนาค๊ะะะะะะะะ
ฟังบ้างจะได้เกิดปัญญารู้ชัดว่าเดี๋ยวนี้เองที่ไม่มีตัวตนทุกอย่างเกิดแล้วรอให้ผลแล้วทำอะไรได้มั๊ยยยยยยย
https://youtu.be/3WI_dcsy7_w

ตถาคตสอนให้รู้ว่า
เราไม่รู้อะไรบ้างค่ะ
จิตเห็นไม่มีวิตรรกะ
เพียงทำหน้าที่เห็นสี
เห็นเป็นเห็นไม่ใช่เรา
เห็นเป็นธัมมะเป็นจิต
จิตเกิดขึ้น1ดวงดับไป
เป็นปัจจัยให้จิตทางอื่น
เกิดสืบต่อกันไปครบ6ทาง
จิตเกิดดับสลับกันทีละ1ดวง
ไม่มีจิตทางใดเกิดพร้อมกันได้
คนเห็นนกเห็นเทวดาเห็นแค่สี
เห็นไม่ใช่คน เห็นไม่ใช่แมว
เห็นเพียงทำกิจหน้าที่เห็น
เห็นเพียงสิ่งที่ปรากฏ
ว่ามีกระทบตาดำได้
ไม่มีกิจเห็นนอกตา
การเข้าใจอริยสัจจะ
ไม่สามารถคิดเองได้
เพราะไม่มีใครรู้ว่าความจริงแล้วกำลังเห็นอะไร
ต้องอาศัยการฟังคำจริงจากผู้อื่นขยายความให้รู้ลึกถึงกึ๋น
ฟังแต่ละคำให้ละเอียดๆเพื่อรู้ความหมายคำตรงจริงตามเสียงได้
ธัมมะทั้งหลายเกิดโดยอนัตตาตรงตามเหตุปัจจัยตรงที่กำลังปรากฏ
ธัมมะทุกอย่างไม่ใช่เรา...ไม่ใช่ของเรา...ไม่มีเรา...มีแต่ธัมมะ...ฟังเพื่อเข้าใจตาม
จำเป็นต้องฟังเพื่อระลึกรู้ถูกตรงตามได้ว่าที่ตัวกำลังมีธัมมะอะไรปรากฏกับปัญญาตนเองค่ะ
https://youtu.be/ELdTEK2o_X8