วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 23:08  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2020, 04:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


...การทำ "จิตใจให้..สงบระงับ"
ดับความคิดปรุงแต่งต่างๆ
ก็เป็นการสร้างความสุขใจอีกวิธีหนึ่ง

.
ถ้า..ใจสงบนิ่ง..ไม่คิดอะไร
ใจจะว่าง มีความสุขมาก
เพราะนี่คือ..ความสุขที่แท้จริง
"อยู่ที่การระงับดับความคิดต่างๆ".
.....................................
.
จุลธรรมนำใจ 15 กัณฑ์ 387
ธรรมะบนเขา 21/9/2551
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี








ขอให้ตั้งใจ ถ้าพวกเรามีความระมัดระวังให้กุศล "ตัวจริง" มีอยู่ในใจแล้ว จะทำบุญทำกุศลสิ่งใดก็จงทำไปเถิด
อย่าให้มาวัดตาม "ทาก" ของกุศลที่มันตายไปแล้ว คือเจตนาเดิมที่คิดว่าวันนี้เราจะมาวัด มาทำบุญ มารักษาศีล และภาวนา แต่พอถูกใครเขาว่าก็ใจเสีย แล้วฝืนใจมาทำบุญ

#เช่นนี้บุญย่อมช่วยอะไรไม่ได้เลย

ท่านพ่อลี ธมฺมธโร










สมบัติอะไรก็ตามภายในโลกนี้ สู้ธรรมสมบัติภายในใจไม่ได้ สมบัติภายในใจ เลิศเลอที่สุด ขอเพียงให้ใจกับธรรมได้สัมผัสกัน มันจะแสดงฤทธิ์เดช เป็นที่อัศจรรย์

พื้นดินอันว่างเปล่า ไม่มีใครทำประโยชน์ ผลก็ไม่ปรากฏ ศาสนธรรมทุกบท ทุกหมวด ก็เช่นเดียวกัน ใครไม่สนใจประพฤติให้เป็นประโยชน์ ผลก็ไม่ปรากฏ

ชาวนาผู้ตระหนี่ ไม่ยอมหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าว มัวแต่เก็บหวงไว้ กาลเวลาผ่านไปข้าวเปลือกเมล็ดนั้น ก็ย่อมเน่าเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ข้าวเปลือก ๑ เมล็ด เมื่อหว่านลงไปในเนื้อนาดีแล้ว ย่อมงอกงามออกรวงได้เป็นสิบๆรวง (รวงหนึ่งๆมีกี่เมล็ด) ทานศีลภาวนา ที่เราประพฤติดีแล้ว ย่อมมีผลอานิสงส์มากฉันนั้น

จึงขอให้ผู้อ่านหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งบุญกุศล ลงในนาใจของตนๆเถิด อย่าปล่อยร่างกายของเรานี้ให้แก่ชราเน่าเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ สวดมนต์ไหว้พระ หัดทำกันไว้บ้าง เพราะเกิดสุขแท้แน่นอน

จงมีเมตตา อย่าโกรธ อย่าน้อยใจ ในทุกสรรพสิ่ง
นี่แหละทำบุญทำทานโดยมิได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆ
นอกจากกุศลคือความดีที่เกิดจากทานการประพฤตินั้นๆ

บุญนั้นทำให้ใจสบาย เมื่อการงานติดขัด ใจก็ไม่สบายเพราะขาดบุญ ใจสบายเพราะการงานไม่ติดขัด นี่ล่ะคนมีบุญ ควรทำบุญสะสมเอาไว้ ฯ
.
พระอาจารย์ พระมหาบรรลือ ฐานิสฺสโร










#พระพุทธองค์มิได้สอนให้เชื่อพระองค์เพียงอย่างเดียว #หากแต่ให้ชื่อว่า_จิตคือพุทธะ

ถ้าเราดำเนินตามที่พระองค์ทรงสอน จิตของเราก็เป็นพุทธะอย่างพระพุทธองค์ได้ ถ้าจะให้ถึงซึ่งพุทธะ ก็เหมือนกับเอาแก่นของต้นไม้ใหญ่ ถ้าจะเอาแก่นต้องใช้ขวานถากเปลือก ถากกระพี้ออก

#จิตคนเรานั้นเป็นพุทธะอยู่แล้ว

หากแต่เราปล่อยให้กิเลสตัณหาห่อหุ้มจนจิตไม่ประภัสสร

จิตประภัสสร ก็หมายถึงจิตเดิม ซึ่งเปรียบเสมือนเพชร ลักษณะแวววาวสุกใสอยู่แล้วตามธรรมชาติ แต่ที่มันเศร้าหมองจนเรามองไม่เห็นความประภัสสรของมัน เพราะมีสิ่งอื่นมาห่อหุ้ม ทำให้รัศมีเปล่งออกมาไม่ได้

อย่างไฟฉายของเรา พอเปิดสวิตช์ขึ้น มันก็สว่างเป็นลำพุ่งออกไป พอปิดสวิตช์มันก็มืด ไม่เห็นดวงไฟ

#ทั้งที่ความจริงจิตมันประภัสสรอยู่แล้ว

แต่คนเราทุกวันนี้ ก็เอากิเลส ความโกรธ ความหลงที่เปรียบเหมือนดินทรายเขม่าไฟต่างๆ ไปห่อหุ้มปิดบังมันเสียเอง มันเลยมืดบอดอยู่อย่างนั้น...

#เราอยากจะเห็นตามพระองค์บ้าง

ก็ต้องลงทุนลงแรงเอาสิ่งที่หุ้มห่อออก แล้วจึงจัดสีให้มันเปล่งแสงประภัสสรขึ้น เอาอะไรมาขัดสีล่ะ ก็เอาสมาธินั่นแหละมาขัดสี.


#สิ่งต่างๆในโลกนี้_มันก็อยู่ที่จิตนี้เอง

ความรู้สึกของเราอยู่ที่ไหน จิตใจก็อยู่ที่นั้น หลวงปู่มั่นท่านก็เคยพูดว่า อยู่ที่ใจของเจ้า โลกนี้ไม่มีใจก็ไม่มีความหมาย

โลกกับธรรมมันอิงกันอยู่ ก็อยู่อย่างไม่ขัดโลกขัดธรรมเขา รูปนาม ถ้าแยกออกก็เป็นอภิธรรมทั้งหมด รูปกับนามเป็นจุดแรกของปัญหา

#เรื่องราวต่างๆที่เราไม่รู้ก็เพราะไม่ได้ค้นคว้ากำหนด

ท่านว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ มันเป็นวัฏฏะ หมุนเวียนตั้งแต่จุดเล็กไปถึงจุดใหญ่ เหมือนกับความมืดกับความแจ้ง มันต้องอยู่ที่เดียวกัน แต่คนละช่วง มันเกิดพร้อมกันไม่ได้

#ความจริงรูปนามมันมีอยู่แล้ว

ถ้าปลงความเชื่อว่า คำสอนต่างๆ ล้วนมีอยู่แล้ว ถ้าไม่มี ท่านก็ไม่มีอะไรจะพูด เมื่อไม่มีอะไรจะพูดมันก็หยุดเป็นวิมุตติไป ถ้าเอามาพูดถึงมันก็เป็นสมมติไป ธรรมะจริงๆ จะพูดหรือไม่พูดมันมีอยู่แล้ว...

#หลวงปู่เหลือง #ฉันทาคโม
วัดกระดึงทอง อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์









ใจที่เป็นกุศลนั้น. จึงนึกถึงความตาย. ให้เป็นอารมณ์ได้.

หลวงพ่อถาวร จิตตถาวโร








#ผู้ปฏิบัติธรรมต้องทำดุจผ้าขี้ริ้วซึ่งไม่มีราคา

ใครจะเช็ดเท้าหรือเหยียบย่ำไปด้วยดินโคลนของโสโครกหรือสะอาดอันใด ก็ไม่มีความรังเกียจหรือยินดียินร้าย

#ดังเช่นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา

ซึ่งทรงลดทิฐิมานะของพระองค์ในการเป็นพระราชโอรสของกษัตริย์ขัตติยราชชาติสกุล ลงมาเป็นนักบวชอย่างคนธรรมดาสามัญ ถือบิณฑบาตเที่ยวเดินไปตามหมู่บ้านชนบทน้อยใหญ่ โดยมิได้ทรงคำนึงว่าอาหารที่ได้มานั้น จะเป็นของดีเลวหยาบหรือประณีตประการใด พระองค์ก็ทรงรับไว้และบริโภคได้ทั้งสิ้น

ฉันใดก็ดี ผู้ปฏิบัติทั้งหลายก็ควรจะต้องดำเนินตามรอยพระบาทของพระองค์

#พยายามปลดปล่อยละวางทิฐิมานะถือตัวถือตน

ความโอ้อวดในคุณธรรม ความรู้ความฉลาดและชาติสกุลของตน ๆ ว่าเราเป็นพระ เป็นเณร เป็นอุบาสิกา เราเป็นคนดี คนวิเศษกว่าคนนั้นคนนี้

#เราจะต้องทำตัวให้มีความรู้สึกดุจผ้าขี้ริ้วหรือพรมเช็ดเท้า

ยอมรับความดีความชั่วทั้งหลายได้ โดยดุษณีภาพ หรือโดยชื่นตาชื่นใจ

ถ้าหากเราไม่ยอมลดทิฐิมานะของตนลงต่อเหตุการณ์ของโลกเหล่านี้ได้แล้ว เราก็ไม่สามารถที่จะก้มหัวลงสู่ข้อปฏิบัติได้อย่างเต็มใจ
..................................................................................
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
บันทึกธรรมของท่านอาจารย์ที่แสดง
ณ วัดอโศการาม เมื่อวันที่ ๒๐–๒๑ ธันวาคม ๒๕๐๒
(แม่ชีมธุรปาณิกา บันทึก)










#วันพรุ่งนี้เป็นวันบุญข้าวฉลากภัตในพรรษา

หลวงพ่อก็บอกกล่าวเตือนย้ำให้กับคณะศรัทธาญาติโยมลูกหลาน เป็นการทำบุญอุทิศกุศลให้แก่บรรพชน ก็ถือว่าสำคัญ เพราะเราเกิดมาพ่อแม่ปู่ย่าตายาย เราได้รับมรดกจากท่าน เราก็ควรจะทำบุญอุทิศส่วนกุศล จะทำที่ไหนหลวงพ่อก็ไม่ได้ว่า หลวงพ่อไม่ได้บอกกล่าวให้มาทำบุญที่วัดป่านาคำน้อย เพียงแต่บอกให้รับทราบว่าอย่าหลงลืมเน้อลูกหลาน เราควรจะสร้างบุญสร้างกุศล อุทิศส่วนกุศลต่อผู้มีอุปการคุณแก่ตน

เห็นไหมพี่น้องชาวจีน พอสารทจีน ทุกหัวระแหงเป็นที่รู้กัน ใครอยู่ในสถานที่ใดก็ทำบุญวันสารทจีน ทำตามประเพณีของเขา อันนี้วันสารทไทยก็เหมือนกัน วันสารทไทยทำยังไง บรรพบุรุษของเราพาดำเนินอย่างไร เราก็ควรจะดำเนินตามบรรพบุรุษของเรา เป็นประเพณีที่ดี รำลึกถึงผู้มีอุปการคุณ รำลึกถึงผู้มีพระคุณ ถ้าเรารำลึกถึงพระคุณใครไม่ได้เลย พ่อแม่ก็ระลึกไม่ได้ผลที่สุดลูกหลานเกิดใหม่ใหญ่ทีหลัง เห็นพวกเราเห็นปู่เห็นตาไม่เคยสอนเขาให้ระลึกถึงพระคุณ ลูกหลานก็จะขาดความเคารพดูถูกเหยียดหยามเอา ตัวเองจะน้ำตานองหน้าเพราะไม่ได้สอนลูกหลาน ว่าวัยวุฒิ คุณวุฒิคืออะไร พระคุณของบิดามารดา พระคุณของผู้มีอุปการคุณที่เลี้ยงดูเรามาคืออะไร สิ่งเหล่านี้ต้องได้บอกกล่าวสอนกันเป็นทอด ๆ นะ

ที่หลวงพ่อได้พูดได้กล่าวนี้ ตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา พ่อแม่เลี้ยงดูเรามาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ ทำกิจธุระของท่าน ดำรงวงศ์สกุล ประพฤติตนให้สมควรรับทรัพย์มรดก เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่าน ข้อสุดท้ายนี้ เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่าน หลวงพ่อไม่ได้บอกว่าให้มาที่วัดหลวงพ่อนะ เราอยู่ในสถานที่ใดที่เป็นบุญเป็นกุศล ก็ให้ระลึกถึงพระคุณของท่าน อุทิศส่วนกุศลให้ท่าน หรือเราไม่ได้ทำบุญกับพระ แต่ได้ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติบ้านเมือง สาธารณประโยชน์ ถ้าทำไปแล้ว อุทิศส่วนกุศลให้ท่าน บุญกุศลที่เราได้ทำคุณงามความดีนั้น นั่นก็ดี

แต่ตามหลักของพระพุทธศาสนาไม่ได้บอกว่าทำที่ไหนเสมอกันหมด แต่ต้องเลือกสถานที่ เหมือนกับทำนา ก็ไม่ใช่ว่าทำที่ไหนก็ได้ข้าวเสมอกันหมด ไม่ใช่ว่าหว่านใส่ก้อนหินก็ได้ หว่านที่ไหนก็ได้ ขอให้เป็นเม็ดข้าวเท่านั้น หว่านใส่ป่าใส่รกก็ได้ข้าวเหมือนกัน ก็ไม่เคยได้ยินอย่างนั้น มีแต่ว่าก่อนจะปลูกต้องทำแปลงนาให้ดี ต้องดูพื้นที่ให้ดี ตามความเหมาะสมดินฟ้าอากาศ ทำแปลงนาให้ดีแล้วค่อยหว่านพืช มีแต่คนสอนอย่างนั้น

นี่ก็เหมือนกัน ตามหลักของพระพุทธศาสนา การทำบุญไม่ใช่ว่าจะทำสะเปะสะปะ หว่านไปเรื่อย ไม่ใช่อย่างนั้น ต้องเลือกสถานที่ ต้องเลือกเนื้อนาที่ดี เลือกผู้ที่รับไทยธรรมไทยทาน ปฏิคาหก ผลก็จะงอกเงยได้ผลเต็มที่ การสร้างบุญสร้างกุศลตามหลักพระพุทธศาสนาท่านสอนอย่างนั้น ไม่ใช่ว่าทำบุญที่ไหนก็ได้บุญเหมือนกันหมด

แต่บางคนว่าการแนะนำอย่างนั้น เหมือนแนะนำให้เข้ามาหาตัวเอง ใช่หรือไม่ อันนั้นไม่ใช่ เราไม่ได้แนะนำให้เข้ามาหาตัวเอง ไม่ใช่ว่าเรามีนาอยู่ผืนหนึ่ง ทุกคนทั่วโลกต้องมาดำนาตรงนี้จึงจะได้ข้าว อันนั้นก็โง่เหมือนกัน เนื้อนาไหนที่เป็นเนื้อนาที่ดี ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลกก็ตาม ใครอยู่ ณ สถานที่ใด ก็ดูเนื้อนาในสถานที่ของตนเองและปลูกข้าว นี่ก็เหมือนกัน เราอยู่สถานที่ใด เรามองเห็นแล้วว่าจุดใดจะเป็นบุญเป็นกุศล พระดีผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่ตรงไหนก็ทำบุญตรงจุดนั้น

วันพรุ่งนี้เป็นวันพระเดือนสิบเพ็ญ เป็นวันสารทไทย เป็นวันสารทอิสาน หลวงพ่อก็บอกกล่าวเล่าสิบให้ลูกหลาน แต่ก็ไม่ใช่เฉพาะลูกหลานนะ หลวงพ่อเองก็รำลึกถึงพระคุณของโยมพ่อโยมแม่ พี่ ๆ น้อง ๆ ของหลวงพ่อเหมือนกัน ไหว้พระสวดมนต์ภาวนา ข้าพเจ้าทำคุณงามความดีอย่างไร ขอให้ท่านทั้งหลายมีส่วนในการทำคุณงามความดีของข้าพเจ้าด้วยทุกครั้ง หลวงพ่อก็คิดอย่างนั้น นี่คือเรื่องการทำบุญทำทาน แสดงออกซึ่งน้ำใจ

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
พระธรรมเทศนา “รู้จักทาน รู้จักธรรม”
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๑









" นับอสงไขย​ไม่ได้​
นับล้านอสงไขย​ไม่ถ้วน
เกิดแล้วตาย​ ตายแล้วเกิด​
มาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์​
มาตั้งแต่อดีต

"อนิจจัง​ ทุก​ขัง​ อนัตตา​"
มัน​เป็น​เรื่องของสังขาร

รู้เท่าสังขาร​ รู้เท่าสมมุติ​
วางสังขารหมด​ วางสมมุติ​
หมด ก็โลกวิทูรู้แจ้งโลก
รู้แจ้งโลกแล้วก็รู้แจ้งธรรม

ฉะนั้น​ ไม่ให้ประมาท​
ให้ค้นอยู่ในก้อนธรรมอันนี้ล่ะ​ "

โอวาทธรรม
หลวง​ปู่​แหวน​ สุจิ​ณ​โณ









" เกิดเป็นคน ต้องอดทน
สู้กับทุกอย่าง สู้กับทุกปัญหา
สู้กับทุกความเจ็บปวด อย่าอ่อนแอ
.
ให้ดูเราเป็นตัวอย่าง สู้มาตั้งแต่หนุ่ม ๆ
สู้มาทุกอย่างจนถึงตอนนี้
ต้องอดทนเกิดเป็นคนแล้ว
อย่าให้ใครมาว่าได้
.
... อย่าอ่อนแอ เกิดเป็นคนต้องเข้มแข็ง
ต้องอดทน ฝึกขันติ สร้างบารมีให้ตนเองไป
อย่ายอมแพ้ให้แก่อะไรง่ายๆ "
.
#หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี








" ความอดทน เป็นเครื่อง
ประดับของนักปราชญ์

ขันติ ความอดทน
พระพุทธเจ้าสอนแล้ว
ขันติ ธีรัสสะ ลังกาโร
(ขนฺติ ธีรสฺส ลงฺกาโร)

ความอดทนเป็นเครื่อง
ประดับของนักปราชญ์
คนที่จะเป็นนักปราชญ์ได้
ต้องมีความอดทน

ถ้าไม่อดทนแล้ว
เป็นนักปราชญ์ปลอม
ถ้าหากว่าอดทนแล้ว
เป็นนักปราชญ์จริง "

โอวาทธรรม
หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร









"การหัดนึกย้อนหลัง หัดนึกก่อนทำ
หัดนึกก่อนโกรธ หัดให้มีความรู้ตัว
หัดให้มีความยับยั้ง

การหัดอยู่เสมอ สติจักเกิดมีทวีเป็นลำดับ
จนถึงเป็นสติรอบคอบ ถ้าไม่หัดทำ
จะให้มีสติขึ้นเองนั้น เป็นการยาก

เหมือนอย่างเมื่อประสงค์ ให้ร่างกาย
มีพลานามัยดี ก็ต้องทำการบริหารให้ควรกัน"

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ








“เมื่อใดก็ตามที่เราโกรธ เกลียด เพ่งโทษ
มุ่งร้ายใครสักคน ตอนนั้นเอง เราหาได้ทำร้าย
คนที่เราโกรธหรือเกลียดไม่ แต่เรากำลังทำร้าย
และข่มเหงตัวเราเองโดยไม่รู้ตัว

หลวงปู่ดุลย์ อตุโล







"อย่าพากันประมาทในความตาย
อย่านิ่งนอนใจ ความตายมาหาทุกเมื่อ
ทุกเวลา กะพร้อมตายทุกเมื่อทุกเวลา
บ่ว่าไผกะตาม ต้องลงสู่ความจริงโตนี้บ่มีเว้น
ให้ฟ้าวทำความดี อย่าพากันประมาท "

หลวงปู่แสง ญาณวโร


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 123 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร