ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

การปรุงแต่ง
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=59189
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  รสมน [ 29 ก.ค. 2020, 05:09 ]
หัวข้อกระทู้:  การปรุงแต่ง

ไม่ว่าประเทศไหน เอาความโลภเป็นหัวหน้าปฏิบัติงาน พังทุกราย ความโลภเป็นอันตรายแก่ธรรมทั้งหลาย แก่ความเจริญทั้งหลาย โลภมากเท่าไร เป็นอันตรายแก่ตัวเองเท่านั้น.. รีบกำจัดความโลภด้วยการทำทานขัดเกลากิเลส อย่าให้ความตระหนี่ถี่เหนียวมาเป็นนายกุญแจ ปิดกุญแจแห่งกุศลของเรา...

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร








#วุ่นวายเพราะหลงเหยื่อ

แต่ก่อนแต่ไร เราไม่เคยวุ่นวายอย่างทุกวันนี้ ที่เราวุ่นวายก็เพราะไปหลงเหยื่อล่อของอวิชชาทั้งสิ้น...มันหลงอวิชชาจึงพากันทุกข์ร้อน

คติธรรม
หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต








... ถ้ามีสติแล้ว
ต่อไปธรรมะอย่างอื่นจะตามมา
หมายถึงในด้านปฏิบัตินะ
สมาธิ ปัญญา วิมุตติ
"ก็จะเป็นผลที่จะตามมา ตามลำดับ"

.
พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า
"สติเป็นธรรมที่ยิ่งใหญ่"
เปรียบเหมือนกับรอยเท้าช้าง
ที่ครอบรอยเท้าของสัตว์อื่นได้หมด
เพราะใหญ่กว่าเขาเพื่อน

.
สติก็เช่นเดียวกัน
เป็นธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่สำคัญที่สุด
ถ้าไม่มีสติ.. ก็อย่าไปหวัง
"เรื่องสมาธิ เรื่องปัญญา เรื่องวิมุตติ"
ต้องมีสติเป็นผู้นำ

.
จึงควรเจริญสติอยู่เรื่อยๆ
เป็นสิ่งที่เราทำได้ แต่ไม่ทำกัน
.."ลองไปฝึกดู"..

.
พยายามเตือนตนเองเสมอว่า
ตอนนี้อยู่กับปัจจุบันหรือเปล่า
อยู่กับตัวเราหรือเปล่า
หรือไปวุ่นวายกับเรื่องโน้นเรื่องนี้
บางทีเรื่องยังไม่เกิดเลย ก็ร้องห่มร้องไห้
เศร้าโศกเสียใจไปก่อนแล้ว

.
อะไรจะเกิดก็ให้เกิดไป ตอนนี้เราอยู่ตรงนี้
ก็ให้อยู่ตรงนี้ ตอนนี้เราอยู่ที่นี่ ..ก็มีแค่นี้
แต่ถ้าไปคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ขึ้นมา ก็วุ่นวายใจได้
พยายามฝึกไปเรื่อยๆ
"แล้วต่อไป ทำสมาธิก็จะสงบ"

.
ถ้าเจริญปัญญาก็จะอยู่กับเรื่องที่พิจารณา
จะให้พิจารณาเกิด แก่ เจ็บ ตาย อยู่เรื่อยๆ
ก็จะพิจารณาอยู่เรื่อยๆ
ขยายได้.. เรื่องเกิด แก่ เจ็บ ตายนี่
ตัวเราเองบ้าง คนนั้นบ้าง คนนี้บ้าง

.
เหมือนกันหมด คนนั้นเดี๋ยวก็ต้องแก่
เดี๋ยวก็ต้องเจ็บ เดี๋ยวก็ต้องตาย
คนนี้เดี๋ยวก็ต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย
"คิดไปเรื่อยๆ ก็เพลิน".
.........................................
กำลังใจ18 กัณฑ์231
ธรรมะบนเขา 25/12/2548
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี










วิธีแก้ความหลง ที่แทรกอยู่ในความรักความชอบ อันเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ ก็ต้องพยายามคิดให้ถูกต้องตามเป็นจริงว่า ผู้นั้นหรือสิ่งนั้นเป็นสิ่งปฏิกูล เป็นสิ่งเปื่อยเน่าผุสลาย ไม่น่ารักไม่น่าชอบ นี้เป็นขั้นยาก แต่ก็ต้องยาก เพราะเป็นการแก้รากเหง้าของกิเลสทีเดียว ผู้ปรารถนาจะได้มีสุขเพราะพ้นจากโทษของความรักความชอบ จำเป็นต้องอบรมให้สม่ำเสมอ ความตั้งใจจริงประกอบด้วยการใช้ปัญญาอย่างมีความเพียรไม่ขาดสาย จะทำให้ได้รับความสำเร็จเป็นลำดับไป อันโมหะนี้มีโทษมาก มีโทษกว้างขวาง ก็เพราะเห็นสวยงามน่ารักน่าปรารถนา ความคิดเห็นเช่นนั้นเป็นโมหะ ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง

ผู้ที่คิดที่เห็นเช่นนั้น และที่กำลังคิดกำลังเห็นเช่นนั้นอยู่ ถ้าต้องการจะบริหารจิต ให้เป็นจิตที่สมบูรณ์เบาบางจากกิเลสทั้งหลาย อันจะเป็นเหตุให้คิด พูด ทำ ความผิดความชั่วทั้งปวง จำเป็นจะต้องแลให้เห็นโมหะในใจตนเองเสียก่อน ยอมรับเชื่อเสียก่อนว่า การคิดการเห็นนั้นไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง ควรจะต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงเสียที ผู้ใดสิ่งใดที่เห็นเป็นสวยเป็นงามน่าใคร่น่าปราถนาน่าพอใจ ก็ให้คิดให้เห็นว่าไม่มีอะไรสวย ไม่มีอะไรงาม ไม่มีอะไรน่าใคร่ น่าปราถนาน่าพอใจ

คนที่เห็นสวยงามจนเกิดความรัก ความใคร่ความปรารถนาต้องการ ก็ให้แลลงไปให้เห็นตามความเป็นจริง เพียงหนังบางๆ ที่ห่อหุ้มอยู่ทั่วไปฉีกขาดออก แม้เพียงในบริเวณหนึ่งบริเวณใดของร่างกายเพียงเล็กน้อย ก็จะอาจเห็นความไม่น่ารัก ไม่น่าใคร่ไม่น่าปรารถนาได้แล้ว

เนื้อก็แดงมีเลือด มีน้ำเหลืองเปรอะเปื้อน หาได้เห็นผิวพรรณผุดผ่องสวยงามไม่ ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ไม่ต้องลองลอกหนังที่ห่อหุ้มอยู่ออก ทุกคนก็สามารถนึกภาพความจริงอันไม่สวยงามน่ารังเกียจนั้นได้ชัดเจนด้วยกันทั้งนั้น เมื่อนึกภาพบริเวณเล็กๆ ที่หนังหลุดหายไเปลือแต่เนื้อสกปรกเปรอะเปื้อนด้วยเลือดและน้ำเหลืองได้แล้ว ก็ให้นึกภาพบริเวณที่ใหญ่ออกไปอีก ที่หนังหลุดหายไป ก็จะได้เห็นภาพอันเป็นปฏิกูล ไม่สวยงามน่าปรารถนาอย่างใดเลยชัดเจนขึ้น

วิธีบริหารจิตเช่นนี้เรียกว่าการเจริญอสุภะ ใช้แก้ความหลงหรือโมหะที่นำให้เกิดความรักใคร่ปรารถนาได้อย่างดี

พุทธวิธีแก้หลง
พระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก













"...#กิเลสคือภัยพิบัติต่อโลก
ความโลภ ก็คือกิเลส ความโกรธ ก็คือกิเลส ความหลง ก็คือกิเลส ขี้คร้านนี้ก็อีก ขี้คร้านไปไหนก็ไม่เจริญพังพินาศไปทั้งหมดทั้งสิ้น ศีลเท่านั้นที่จะทำให้เจริญก้าวหน้า ขัดจิตใจด้วยศีลให้บริสุทธิ์อยู่เสมอเด้อ.."

โอวาทธรรม
หลวงปู่ทุย ฉนฺทกโร








#พวกเราที่ได้เข้าวัดเข้าวานี่_ก็ถือว่ามีอุปนิสัย

พวกที่เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ มีเต็มโลกไปหมดล่ะ พวกไม่มีบาปมีบุญก็มีอยู่เต็ม ให้รักษาสมบัติเก่าเรา อย่าให้มันเสื่อมไปทางอื่น...

#ให้มันแจ้งเข้าๆ_เร่งสร้างบารมี

เดี๋ยวถ้าเกิดใจเด็ดขึ้นมา ไปเลยเดี๋ยวนี้ก็ได้เช่นกันนะ อย่าไปปราถนานะ เรื่องอื่นน่ะ มันช้า
.
#หลวงปู่ลี #กุสลธโร #วัดป่าภูผาแดง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
เทศน์เมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๓๘











พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ อย่าลืมว่าลักษณะทั้ง 3 นี้ เป็นที่ฝากชีวิตจิตใจของพวกเรา และพาเราให้พ้นทุกข์โดยปลอดภัย

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน







#การภาวนาการปฏิบัติ_ไม่ต้องคิดอะไรมาก

ให้สำรวจที่ตนเอง ไม่ต้องไปสำรวจที่อื่น ถ้าเราเห็นตัวเรา เราก็เห็นคนอื่น เหมือนยาทันใจกับยาปวดหาย เพราะมันมีลักษณะรักษาโรคอันเดียวกัน คือ ยาแก้ปวด

#คนที่ปฏิบัติกับคนเรียนนั้นชอบโทษกัน

เหมือนกับการที่เราหงาย - คว่ำฝ่ามือ ซึ่งมันไม่ได้อยู่ที่ไหนหรอก มันอยู่ของมันตรงนั้นแหละ แต่เรามองไม่เห็น

การเรียนแล้วไม่ปฏิบัติ เราก็จะไม่รู้ตามความเป็นจริง มันจะทำให้หลงไป

#หลวงปู่ชา #สุภทฺโท








เราฝึกภาวนา. ได้ดีหรือไม่ดี. ต้องดูตอนเจออุปสรรค.

หลวงพ่อสุบรรณ สิริธโร








จิตดวงนี้มันจะแตกจะดับกับทุกข์. ก็ให้มันขาดต่อหน้าต่อตาไปเลย.

หลวงพ่อสุบรรณ สิริธโร







#การทำสมาธิ_คือ_หาอุบายที่จะจับจิตให้ได้

จิต คือผู้คิด ผู้นึก ผู้ปรุงแต่ง สารพัดทุกอย่างนั่นแหละ มันไม่อยู่กับที่ เมื่อมันไม่อยู่นิ่งก็เดือดร้อน ดิ้นรนกระสับกระส่าย ของเหล่านั้น_ล้วนแต่จิตทั้งนั้น มันส่งส่ายไปในที่ทั้งปวงหมด

#ถ้าเราเห็นโทษ_ก็ปล่อยวางอันที่มันวุ่นวายอยู่นั่น_ทุกสิ่งทุกอย่าง

ไม่เอาแล้ว ปล่อยไปตามเรื่องของมัน เมื่อปล่อยวางหมดแล้ว มันจะมีอะไรอีก ? มันก็ยังเหลือแต่จิตเท่านั้น มันก็สงบอยู่ในที่เดียวนั่น มีแต่ความนิ่ง

#อันนั้นคือ_ความรู้

หรือ_ธาตุรู้ ก็เรียก หรือจะเรียก ผู้รู้ ก็ได้ นั่นได้ชื่อว่าถึงตัวของเราแล้ว รักษาตัวได้แล้ว ตัวของเราอยู่กับตัวแล้ว นั่นแหละจึงเห็น "ตัวแท้" คือธาตุรู้นั่นเอง

#เมื่อเข้าถึงตรงนั้นแล้ว

ทีนี้ใครจะทำอะไร ใครจะคิด ใครจะพูดอะไร ก็ไม่กระทบกระเทือนแล้ว ใครจะดีชั่ว หรือถูกผิดก็ไม่กระทบกระเทือน ไม่ว่าอะไรหรอก เข้าถึงตรงนั้นแล้ว มันไม่มองดูใครทั้งนั้น เอาเฉพาะแต่ตัวของมันเอง

#หัดให้มันได้อย่างนี้บ่อยๆ

ได้ชื่อว่าทำจิตของเราให้มันแก่กล้า ทำจิตของเราให้เป็นคนแก่คนเฒ่า มันจะหมดเรื่องแล้วคราวนี้ ไม่มีกังวลเกี่ยวข้องอะไรทั้งปวง มันอยู่สงบเฉย ทำถึงสมาธิแล้วมันหมดเอง ข้าวของเงินทองสมบัติพัสถานอะไรทั้งปวง หมดไม่มีในที่นั้นเลย

#ยังอยู่แต่_ผู้รู้_ผู้เดียว_ไม่คิดไม่นึก

ที่สุดของพุทธศาสนาอยู่ตรงนั้นแหละ อย่าไปหาที่อื่นเลย ไปเห็นตรงนั้นแล้วมันหมดที่ไป จึงว่าการไม่คิด ไม่นึก ไม่ปรุง ไม่แต่ง อันนั้นแหละเป็นที่สุดของโลก

#การปรุงการแต่ง_นั่นเป็นเรื่องของโลก

การคิดการนึกก็เป็นเรื่องของโลก ไม่คิด ไม่นึก ไม่ปรุง ไม่แต่ง แต่ว่ารู้ตัวอยู่เฉยๆ อันนั้นมันก็เหนือโลก เรียกว่า โลกุตระ ทำได้อย่างนั้นแล้วจะเอาอย่างไรนอกเหนือจากนั้นอีก.....เอาละ ทำภาวนากัน

#หลวงปู่เทสก์ #เทสรังสี

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/