วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 06:25  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2020, 06:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"เมื่อใดก็ตามที่พบว่าความสุข
หาได้ที่ใจ​ และมิตรที่ประเสริฐ
ที่สุดก็คือใจของตน​ เมื่อนั้นเรา
ก็มีความสุขได้ทุกหนแห่ง​ เจอ
อะไรก็ไม่ทุกข์​ มีเท่าไรก็ไม่รู้สึก
ยากไร้​ อยู่คนเดียวก็ไม่รู้สึกอ้างว้าง
ใครจะมองเราอย่างไรใจก็ไม่หวั่นไหว
สูญเสียเท่าใดใจก็ไม่เสียศูนย์.. "

#พระอาจารย์ไพศาล_วิสาโล









จำไว้นะ... ทุกอย่างบนโลกล้วนเกิดขึ้นตามวาสนาบารมีที่เคยบำเพ็ญมา หาใช่สิ่งที่มันปรุงแต่งขึ้นมาเองไม่

บนโลกนี้สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความผิดหวังก็ดี สมหวังก็ดี การพลัดพรากก็ดี การไม่ได้ในสิ่งที่ตนปรารถนาก็ดี ทุกอย่างเกิดขึ้นตามกระแสแห่งกรรม ที่ผู้รับนั้นได้เคยกระทำไว้ในกาลหนหลัง ไม่มีสิ่งใดที่จะมาหักล้างกันได้

จะไปบนบานที่ใดก็ตามแต่ ถ้าสิ่งที่เรากำลังเจอนั้นเป็นวิบากของกรรมแล้ว เทพองค์ใดก็ไม่สามารถช่วยได้... สิ่งที่ช่วยได้ คือการมีสติและเผชิญหน้ากับมัน การทำกุศลให้ถึงพร้อมนี่แหละวิธีการรับมือกับวิบากกระแสแห่งกรรม

โอวาทธรรม
หลวงปู่สุธัมม์ ธัมปาโล
วัดเทพกัญญาราม อ.เมือง จ.สกลนคร









" ศีลเป็นเหตุแห่ง
พระนิพพาน

หากผู้ไม่มีศีล
เป็นบาทเบื้องต้น เป็น
หลักของการประพฤติตน

จะมองไม่เห็นแนวทาง
ของพระนิพพาน​ได้เลย "

โอวาทธรรม
หลวง​ปู่​สิม​ พุทธ​าจาโร









" "มรณสติ" คือ สติระลึกถึง
ความตาย ให้มองเห็น
ธรรมดาของชีวิต ว่า
ความตายนั้นเป็นส่วนหนึ่ง
ของความเป็นไปที่แน่นอน
ของชีวิตนี้ ที่ว่าเมื่อเกิดขึ้น
แล้ว มีความเจริญขึ้นแล้ว
ก็มีความเสื่อมคือชรา และ
ในที่สุดก็อวสานด้วยมรณะ
คือความตาย

เมื่อเห็นธรรมดาของชีวิต
อย่างนี้แล้ว จะได้เกิดความรู้
เท่าทัน มีสติ มองเห็นอนิจจัง
เมื่อมองเห็นอนิจจังความไม่
เที่ยง ความไม่คงอยู่กับที่
ความที่จะต้องเกิดจะต้องดับ
และแตกสลายไป

พอมองเห็นธรรมดาอย่างนี้
เห็นความเกิดขึ้นความดับไป
อย่างนี้แล้ว ผู้ที่ระลึกถึงอย่าง
ถูกต้อง จะไม่เกิดความเศร้า
สลดหดหู่ใจ แต่จะเกิดความ
ได้คิด มองเห็นความจริงของ
ชีวิต แล้วก็เกิดพลัง เกิดเรี่ยว
แรงกำลัง ที่จะทำกิจหน้าที่
ซึ่งพระท่านเรียกว่า
"ความไม่ประมาท"

ส่วนผู้ที่ระลึกไม่ถูกต้อง
ก็จะเกิดความเศร้าสลดใจ
หรือมิฉะนั้นก็จะเกิดความ
หวาดกลัว พรั่นพรึง อันนั้น
ท่านเรียกว่า ทำใจผิด ไม่มี
"โยนิโสมนสิการ" ผู้ที่มี
โยนิโสมนสิการ ระลึกถึง
ความตาย ว่าเป็นส่วนหนึ่ง
ของความเป็นไปตาม
ธรรมดาของชีวิต ก็ทำให้
เกิดความไม่ประมาท

เพราะเห็นว่าสิ่งทั้งหลาย
มีความไม่เที่ยงแท้แน่นอน
กาลเวลาผ่านไปนั้น เป็นไป
พร้อมกับความเปลี่ยนแปลง
ที่เกิดขึ้น.."

โอวาทธรรม
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์










"..นิพพานอยู่ไกล ถ้าจะไป
ก็ต้องออกเดินตั้งแต่วันนี้

อย่างไปทำบุญใส่บาตร
ค่ำมาก็สวดมนต์ไหว้พระ
เจริญเมตตาภาวนา

ตัดกิเลส ลดตัณหา
เดินทุกวันมันก็ใกล้เข้าไปทุกวัน

ขอให้จิตใจมั่นคงกับศาสนา
มั่นคงกับศีล กับธรรม
ก็เท่ากับเดินไปนิพพาน
ใกล้เข้าไปทุกวันๆ

ถ้าจิตใจไม่ยินดีซึ่งบุญ
มันก็ไกล อุปมาเหมือน
ถ่อเรือใหญ่ทวนน้ำ.."

โอวาทธรรม
ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา









"ความกลัวสูญเสีย บางครั้งทำให้
เราตกอยู่ในสภาพไม่ต่างจาก
คนที่กอดหีบสมบัติ ที่กำลังจะจมน้ำ
ด้วยความหวังว่า จะกู้มันขึ้นมาได้
ทั้งที่ในยามนั้น การปล่อยหีบสมบัติ
เป็นวิธีเดียวที่ช่วยให้สูญเสีย น้อยที่สุด"

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล










"จงพากันรักษาใจของเรา ด้วยธรรม
มองกัน ให้มองในแง่ให้อภัยเสมอ
อย่ามองแง่ร้าย"

หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน








"เรารักตัวเรา คนอื่นก็รักตัวเขา
เราไม่อยากให้ใคร ทำเช่นไรกับเรา
คนอื่นก็ไม่อยากให้เรา ทำเช่นนั้นกับเขา

เราอยากให้คนอื่น ทำดีกับเราอย่างไร
คนอื่นก็อยากให้เรา ทำดีกับเขาอย่างนั้น

ขอให้พยายามคิดถึงความจริงนี้ ให้บ่อยที่สุด
เท่าที่จะมีสตินึกได้ จะเป็นคุณแก่ตนเองอย่างยิ่ง"

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ









#หลวงปู่มั่นท่านสอน #ให้พยายามรักษาศีล #มันไม่ตายหรอก #แล้วไม่ต้องไปขอกับผู้หนึ่งผู้ใด #คนขอเป็นคนจน

เราไม่ฆ่าสัตว์ก็จิตเรานั่นแหละไม่ฆ่า ไม่ลักของเขา ไม่ประพฤติผิดในผู้อื่นเขา ไม่โกหกหลอกลวงไม่มีเล่ห์เหลี่ยมไม่ดื่มเครื่องเมาทั้งหมดก็จิตดวงนี้ของเรา

#ให้ระวังจิตดวงนี้ #ให้มีสติ
#อย่างน้อยให้จิตมีทุน

วันนี้ก็ไม่ต้องพูดอะไรมากให้พี่น้องกรุณายึดคำสอนของพุทธเจ้าไปปฏิบัติทุกๆวัน อยู่บ้านอยู่ที่ไหนคิดก็เป็นกุศล บ้านก็เป็นมงคล ลูกก็เป็นมงคล หลานก็เป็นมงคล

#อย่าลืมพุทโธทุกวันๆ

ระลึกอยู่ในหัวใจ ซักฟอกหัวใจ ใครซักฟอกเท่าไร จิตก็สะอาดมากขึ้นๆ จะรู้เอง ผู้ปฏิบัติจะรู้เอง เป็นสันทิฎฐิโก

#แต่ต้องฝ่าต้องฝืนต้องพยายามปฏิบัติ

ท่านจึงพูดว่า “วิริเยน ทุกฺขมจฺเจติ” “บุคคลล่วงทุกข์ ได้เพราะความเพียร”

โอวาทธรรม:องค์ #หลวงปู่ทุย #ฉันทกโร วัดดงศรีชมภู วัดป่าดานวิเวก ต.ศรีชมภู อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ









#นักปราชญ์บัณฑิตนั้นท่านเห็นว่า
#การอยู่การตายไม่สำคัญเท่ากับการทำประโยชน์

ถ้าการอยู่ของท่านมีประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นแล้ว ถึงผ้ามันจะเก่าเสื้อมันจะขาดจนเป็นผ้าขี้ริ้วท่านก็ทนใส่มันได้

แต่ถ้าเห็นว่าไม่มีประโยชน์อะไรแก่ใครแล้ว ท่านก็แก้มันโยนทิ้งไปเลย

#ผิดกับคนธรรมดาสามัญอย่างเราที่ไม่มีใครอยากตาย

พอพูดถึงตายก็กลัวเสียแล้ว ถึงร่างกายมันจะตายก็ยังอยากจะให้มันอยู่ บางคนร่างกายมันจะอยู่ ก็อยากจะให้มันตาย

ตายไม่ทันใจเอามีดมาเชือดคอให้มันตายเร็วเข้า เอาปืนมายิงให้มันตายบ้าง กระโดดให้รถไฟทับตายบ้าง กระโดดลงแม่น้ำให้มันจมตายบ้างฯลฯ

#อย่างนี้...#นี่เป็นเพราะอะไร ?

เพราะอวิชชาความไม่รู้เท่าความเป็นจริงในสังขาร หลงผิดคิดผิดทั้งหมด อย่างนี้...มันก็จะต้องตายไปตกนรกหมกไหม้ไม่รู้จักผุดจักเกิด

#ท่านพ่อลี #ธมฺมธโร


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 50 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร