วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 18:13  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 148 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 ... 10  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2020, 10:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

บวชคือสละได้...ตาไม่บอดก็ดูสิ...
บวชแล้วเรี่ยไรเงินไปติดแอร์บ้างเออเงินไม่มี
ไม่เข้าใจเหรอพระพุทธเจ้ากลับไปอยู่ในปราสาท3ฤดูมั๊ย

ใครจะโง่ทำตามกิเลสคนอื่นสั่งก็คือไม่ฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
:b32:
บวชแล้วใช้ได้แค่ปัจจัย4และอัฏบริขาร8
กุฏิศาลาวัดชาวโลกสร้างไว้รอให้ไปอยูฟรีอาหารไม่ได้ทำ
ให้เดินบิณฑบาตรับอาหารที่ปรุงสุกแล้วเดินผ่านตามบ้านไม่ใช่นั่งปักหลักรอที่ตลาดแล้วกลับไปฉันที่วัด
อ่ะ...ทีนี้เทียบสิ่งที่อ่านกับพฤติกรรมนักบวชสิทำถูกตามที่พระพุทธเจ้าสั่งสอนมั๊ยกิเลสถลอกไหมรับเงินน่ะ
:b32: :b32: :b32:
บอกยังไงก็คิดไม่ได้เพราะปัญญามีน้อยกว่ากิเลส
ที่ลับก็ไม่มีเพราะจิตเกิดดับอยู่ภายในตัวตนของคุณ
ที่แจ้งคือสว่างตาที่มองเห็นเป็นสถานที่นั้นก็ไม่มีค่ะ
เพราะแสงแค่กระทบไปตรงตาดำดับในลูกกระตาดำ
คิดนึกจำทำทุกอย่างในความมืดมาทุกชาติแล้วเมื่อไหร่จะเริ่มต้นฟังกันบ้างคะ555


นี่แหละถึงได้บอกนับครั้งไม่ถ้วนว่า ทัศนคติคุณโรสเกี่ยวกับธัมมะ เป็นธัมมะเลียนแบบ

คนจะบวชก็ว่าต้องเป็นลูกกษัตริย์ เป็นลูกเศรษฐีสละสมบัติให้หมดแล้วมาบวชเหมือนครั้งพุทธกาล คุณโรสคิดตีความไปอย่างนี้ ถ้าคิดแบบนั้นนะ พระพุทธศาสนาไม่อยู่มาจนถึงป่านนี้หรอก สูญไปนานแล้ว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2020, 17:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

บวชคือสละได้...ตาไม่บอดก็ดูสิ...
บวชแล้วเรี่ยไรเงินไปติดแอร์บ้างเออเงินไม่มี
ไม่เข้าใจเหรอพระพุทธเจ้ากลับไปอยู่ในปราสาท3ฤดูมั๊ย

ใครจะโง่ทำตามกิเลสคนอื่นสั่งก็คือไม่ฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
:b32:
บวชแล้วใช้ได้แค่ปัจจัย4และอัฏบริขาร8
กุฏิศาลาวัดชาวโลกสร้างไว้รอให้ไปอยูฟรีอาหารไม่ได้ทำ
ให้เดินบิณฑบาตรับอาหารที่ปรุงสุกแล้วเดินผ่านตามบ้านไม่ใช่นั่งปักหลักรอที่ตลาดแล้วกลับไปฉันที่วัด
อ่ะ...ทีนี้เทียบสิ่งที่อ่านกับพฤติกรรมนักบวชสิทำถูกตามที่พระพุทธเจ้าสั่งสอนมั๊ยกิเลสถลอกไหมรับเงินน่ะ
:b32: :b32: :b32:
บอกยังไงก็คิดไม่ได้เพราะปัญญามีน้อยกว่ากิเลส
ที่ลับก็ไม่มีเพราะจิตเกิดดับอยู่ภายในตัวตนของคุณ
ที่แจ้งคือสว่างตาที่มองเห็นเป็นสถานที่นั้นก็ไม่มีค่ะ
เพราะแสงแค่กระทบไปตรงตาดำดับในลูกกระตาดำ
คิดนึกจำทำทุกอย่างในความมืดมาทุกชาติแล้วเมื่อไหร่จะเริ่มต้นฟังกันบ้างคะ555


นี่แหละถึงได้บอกนับครั้งไม่ถ้วนว่า ทัศนคติคุณโรสเกี่ยวกับธัมมะ เป็นธัมมะเลียนแบบ

คนจะบวชก็ว่าต้องเป็นลูกกษัตริย์ เป็นลูกเศรษฐีสละสมบัติให้หมดแล้วมาบวชเหมือนครั้งพุทธกาล คุณโรสคิดตีความไปอย่างนี้ ถ้าคิดแบบนั้นนะ พระพุทธศาสนาไม่อยู่มาจนถึงป่านนี้หรอก สูญไปนานแล้ว

:b32:
ยกมาถูกตอนไหมอ่ะ555
ขอทานโรคเรื้อนเงินไม่มีอดอยาก
เกาตามตัวไม่ได้นุ่งจีวรก่อนรวยปัญญา
ฟังเทศนาธรรมบรรลุเป็นพระโสดาบันเป็นอริยสาวก
ขอทานโรคเรื้อนได้ไปนั่งทำหลับตาสมาธิหรือไปทำฌานจิตมาก่อนทำฟังคำสอนมั๊ยจ๊ะ
บวชแล้วไม่ได้เป็นขอทานโรคเรื้อนด้วยไม่ได้มีอาชีพขอทานนะคะทรงบัญญัติว่ารับเงินแล้วต้องตกนรกค่ะ
ไม่รู้ว่าถ่านแดงร้อนลวกมือถือครองอยู่อย่างมีความสุขกำลังดื่มน้ำผึ้งอาบยาพิษลูบปากดูหวานปากมั๊ยคะ555
:b3:
:b32: :b32:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2020, 17:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

บวชคือสละได้...ตาไม่บอดก็ดูสิ...
บวชแล้วเรี่ยไรเงินไปติดแอร์บ้างเออเงินไม่มี
ไม่เข้าใจเหรอพระพุทธเจ้ากลับไปอยู่ในปราสาท3ฤดูมั๊ย

ใครจะโง่ทำตามกิเลสคนอื่นสั่งก็คือไม่ฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
:b32:
บวชแล้วใช้ได้แค่ปัจจัย4และอัฏบริขาร8
กุฏิศาลาวัดชาวโลกสร้างไว้รอให้ไปอยูฟรีอาหารไม่ได้ทำ
ให้เดินบิณฑบาตรับอาหารที่ปรุงสุกแล้วเดินผ่านตามบ้านไม่ใช่นั่งปักหลักรอที่ตลาดแล้วกลับไปฉันที่วัด
อ่ะ...ทีนี้เทียบสิ่งที่อ่านกับพฤติกรรมนักบวชสิทำถูกตามที่พระพุทธเจ้าสั่งสอนมั๊ยกิเลสถลอกไหมรับเงินน่ะ
:b32: :b32: :b32:
บอกยังไงก็คิดไม่ได้เพราะปัญญามีน้อยกว่ากิเลส
ที่ลับก็ไม่มีเพราะจิตเกิดดับอยู่ภายในตัวตนของคุณ
ที่แจ้งคือสว่างตาที่มองเห็นเป็นสถานที่นั้นก็ไม่มีค่ะ
เพราะแสงแค่กระทบไปตรงตาดำดับในลูกกระตาดำ
คิดนึกจำทำทุกอย่างในความมืดมาทุกชาติแล้วเมื่อไหร่จะเริ่มต้นฟังกันบ้างคะ555


นี่แหละถึงได้บอกนับครั้งไม่ถ้วนว่า ทัศนคติคุณโรสเกี่ยวกับธัมมะ เป็นธัมมะเลียนแบบ

คนจะบวชก็ว่าต้องเป็นลูกกษัตริย์ เป็นลูกเศรษฐีสละสมบัติให้หมดแล้วมาบวชเหมือนครั้งพุทธกาล คุณโรสคิดตีความไปอย่างนี้ ถ้าคิดแบบนั้นนะ พระพุทธศาสนาไม่อยู่มาจนถึงป่านนี้หรอก สูญไปนานแล้ว

:b32:
ยกมาถูกตอนไหมอ่ะ555
ขอทานโรคเรื้อนเงินไม่มีอดอยาก
เกาตามตัวไม่ได้นุ่งจีวรก่อนรวยปัญญา
ฟังเทศนาธรรมบรรลุเป็นพระโสดาบันเป็นอริยสาวก
ขอทานโรคเรื้อนได้ไปนั่งทำหลับตาสมาธิหรือไปทำฌานจิตมาก่อนทำฟังคำสอนมั๊ยจ๊ะ
บวชแล้วไม่ได้เป็นขอทานโรคเรื้อนด้วยไม่ได้มีอาชีพขอทานนะคะทรงบัญญัติว่ารับเงินแล้วต้องตกนรกค่ะ
ไม่รู้ว่าถ่านแดงร้อนลวกมือถือครองอยู่อย่างมีความสุขกำลังดื่มน้ำผึ้งอาบยาพิษลูบปากดูหวานปากมั๊ยคะ555
:b3:
:b32: :b32:
:b32: :b32:

ขณะนี้เลยค่ะรู้แล้วว่าถ่านลวกมือสิ่งที่ต้องมีคือทิ้งเงินและสำนึกถึงคำว่าตูไม่มีหิริโอตัปปะ555
:b12:
:b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2020, 17:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

บวชคือสละได้...ตาไม่บอดก็ดูสิ...
บวชแล้วเรี่ยไรเงินไปติดแอร์บ้างเออเงินไม่มี
ไม่เข้าใจเหรอพระพุทธเจ้ากลับไปอยู่ในปราสาท3ฤดูมั๊ย

ใครจะโง่ทำตามกิเลสคนอื่นสั่งก็คือไม่ฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
:b32:
บวชแล้วใช้ได้แค่ปัจจัย4และอัฏบริขาร8
กุฏิศาลาวัดชาวโลกสร้างไว้รอให้ไปอยูฟรีอาหารไม่ได้ทำ
ให้เดินบิณฑบาตรับอาหารที่ปรุงสุกแล้วเดินผ่านตามบ้านไม่ใช่นั่งปักหลักรอที่ตลาดแล้วกลับไปฉันที่วัด
อ่ะ...ทีนี้เทียบสิ่งที่อ่านกับพฤติกรรมนักบวชสิทำถูกตามที่พระพุทธเจ้าสั่งสอนมั๊ยกิเลสถลอกไหมรับเงินน่ะ
:b32: :b32: :b32:
บอกยังไงก็คิดไม่ได้เพราะปัญญามีน้อยกว่ากิเลส
ที่ลับก็ไม่มีเพราะจิตเกิดดับอยู่ภายในตัวตนของคุณ
ที่แจ้งคือสว่างตาที่มองเห็นเป็นสถานที่นั้นก็ไม่มีค่ะ
เพราะแสงแค่กระทบไปตรงตาดำดับในลูกกระตาดำ
คิดนึกจำทำทุกอย่างในความมืดมาทุกชาติแล้วเมื่อไหร่จะเริ่มต้นฟังกันบ้างคะ555


นี่แหละถึงได้บอกนับครั้งไม่ถ้วนว่า ทัศนคติคุณโรสเกี่ยวกับธัมมะ เป็นธัมมะเลียนแบบ

คนจะบวชก็ว่าต้องเป็นลูกกษัตริย์ เป็นลูกเศรษฐีสละสมบัติให้หมดแล้วมาบวชเหมือนครั้งพุทธกาล คุณโรสคิดตีความไปอย่างนี้ ถ้าคิดแบบนั้นนะ พระพุทธศาสนาไม่อยู่มาจนถึงป่านนี้หรอก สูญไปนานแล้ว

:b32:
ยกมาถูกตอนไหมอ่ะ555
ขอทานโรคเรื้อนเงินไม่มีอดอยาก
เกาตามตัวไม่ได้นุ่งจีวรก่อนรวยปัญญา
ฟังเทศนาธรรมบรรลุเป็นพระโสดาบันเป็นอริยสาวก
ขอทานโรคเรื้อนได้ไปนั่งทำหลับตาสมาธิหรือไปทำฌานจิตมาก่อนทำฟังคำสอนมั๊ยจ๊ะ
บวชแล้วไม่ได้เป็นขอทานโรคเรื้อนด้วยไม่ได้มีอาชีพขอทานนะคะทรงบัญญัติว่ารับเงินแล้วต้องตกนรกค่ะ
ไม่รู้ว่าถ่านแดงร้อนลวกมือถือครองอยู่อย่างมีความสุขกำลังดื่มน้ำผึ้งอาบยาพิษลูบปากดูหวานปากมั๊ยคะ555


คุณโรสเขาเพ้อเรื่องอะไรอีกล่ะเนี่ย :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2020, 17:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณโรสว่าไง :b12:

อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิแล้วมีสุข ขอแนวทางปฏิบัติต่อ

เข้าสมาธิ แล้วรู้สึกมีความสุขมากเหมือนกับความรู้สึกมันแน่นิ่งมากๆแล้วควรทำยังไงต่อครับ

คือ หลายเดือนที่ผ่านมานั่งสมาธิแล้ว มีอาการที่บรรยายได้ยากครับคือมีความสุขมากจนไม่อยากออกจากสมาธิ เหมือนความรู้สึกมันเข้มข้นแน่นมาก หลังจากนั้นจะกลายเป็นความโปร่ง โล่ง สบายมาก อยากถามว่าอาการนี้คืออะไรและขอแนวทางในการปฏิบัติต่อไปด้วยครับ


.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2020, 20:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

บวชคือสละได้...ตาไม่บอดก็ดูสิ...
บวชแล้วเรี่ยไรเงินไปติดแอร์บ้างเออเงินไม่มี
ไม่เข้าใจเหรอพระพุทธเจ้ากลับไปอยู่ในปราสาท3ฤดูมั๊ย

ใครจะโง่ทำตามกิเลสคนอื่นสั่งก็คือไม่ฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
:b32:
บวชแล้วใช้ได้แค่ปัจจัย4และอัฏบริขาร8
กุฏิศาลาวัดชาวโลกสร้างไว้รอให้ไปอยูฟรีอาหารไม่ได้ทำ
ให้เดินบิณฑบาตรับอาหารที่ปรุงสุกแล้วเดินผ่านตามบ้านไม่ใช่นั่งปักหลักรอที่ตลาดแล้วกลับไปฉันที่วัด
อ่ะ...ทีนี้เทียบสิ่งที่อ่านกับพฤติกรรมนักบวชสิทำถูกตามที่พระพุทธเจ้าสั่งสอนมั๊ยกิเลสถลอกไหมรับเงินน่ะ
:b32: :b32: :b32:
บอกยังไงก็คิดไม่ได้เพราะปัญญามีน้อยกว่ากิเลส
ที่ลับก็ไม่มีเพราะจิตเกิดดับอยู่ภายในตัวตนของคุณ
ที่แจ้งคือสว่างตาที่มองเห็นเป็นสถานที่นั้นก็ไม่มีค่ะ
เพราะแสงแค่กระทบไปตรงตาดำดับในลูกกระตาดำ
คิดนึกจำทำทุกอย่างในความมืดมาทุกชาติแล้วเมื่อไหร่จะเริ่มต้นฟังกันบ้างคะ555


นี่แหละถึงได้บอกนับครั้งไม่ถ้วนว่า ทัศนคติคุณโรสเกี่ยวกับธัมมะ เป็นธัมมะเลียนแบบ

คนจะบวชก็ว่าต้องเป็นลูกกษัตริย์ เป็นลูกเศรษฐีสละสมบัติให้หมดแล้วมาบวชเหมือนครั้งพุทธกาล คุณโรสคิดตีความไปอย่างนี้ ถ้าคิดแบบนั้นนะ พระพุทธศาสนาไม่อยู่มาจนถึงป่านนี้หรอก สูญไปนานแล้ว

:b32:
ยกมาถูกตอนไหมอ่ะ555
ขอทานโรคเรื้อนเงินไม่มีอดอยาก
เกาตามตัวไม่ได้นุ่งจีวรก่อนรวยปัญญา
ฟังเทศนาธรรมบรรลุเป็นพระโสดาบันเป็นอริยสาวก
ขอทานโรคเรื้อนได้ไปนั่งทำหลับตาสมาธิหรือไปทำฌานจิตมาก่อนทำฟังคำสอนมั๊ยจ๊ะ
บวชแล้วไม่ได้เป็นขอทานโรคเรื้อนด้วยไม่ได้มีอาชีพขอทานนะคะทรงบัญญัติว่ารับเงินแล้วต้องตกนรกค่ะ
ไม่รู้ว่าถ่านแดงร้อนลวกมือถือครองอยู่อย่างมีความสุขกำลังดื่มน้ำผึ้งอาบยาพิษลูบปากดูหวานปากมั๊ยคะ555


คุณโรสเขาเพ้อเรื่องอะไรอีกล่ะเนี่ย :b13:

:b12:
มีคนที่ทำแบบที่โรสเขียนให้อ่านไหม
โรสไม่ได้เพ้อเจ้อค่ะคุณนั่นแหละเพ้ออยู่
เพ้อแบบสงสัยว่าโรสคิดอะไรไม่เห็นเข้าใจ
แสดงว่าคุณกำลังมีกิเลสไม่เข้าใจสิ่งที่คนอื่นทำผิด
ทุกๆอย่างที่มีคนทำพระพุทธเจ้าบอกว่าไม่มีตัวตนใครทำอะไร
มีแต่ความคิดเห็นผิดคือมีมิจฉาทิฏฐิมีกิเลสมีอุปาทานขันธ์มีคนคิดผิดว่ามีตัวตน
มีหมดทุกอย่างที่คิดนั่นแหละแต่ไม่รู้จักคิดว่าอะไรถูกอะไรผิดเพราะไม่เคยคิดตามคำสอน
เลยโลภมากกกกก...คิดทำสิ่งต่างๆเพื่อหวังเงินทองข้าวของวิปลาสคลาดเคลื่อนจากสัจจะไปเยอะบอกไม่ฟัง
:b12:
:b17: :b17:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 17 พ.ค. 2020, 20:56, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2020, 20:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
คุณโรสว่าไง :b12:

อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิแล้วมีสุข ขอแนวทางปฏิบัติต่อ

เข้าสมาธิ แล้วรู้สึกมีความสุขมากเหมือนกับความรู้สึกมันแน่นิ่งมากๆแล้วควรทำยังไงต่อครับ

คือ หลายเดือนที่ผ่านมานั่งสมาธิแล้ว มีอาการที่บรรยายได้ยากครับคือมีความสุขมากจนไม่อยากออกจากสมาธิ เหมือนความรู้สึกมันเข้มข้นแน่นมาก หลังจากนั้นจะกลายเป็นความโปร่ง โล่ง สบายมาก อยากถามว่าอาการนี้คืออะไรและขอแนวทางในการปฏิบัติต่อไปด้วยครับ


:b12:
คุยกะคนไม่รู้เนี่ย
มันสนุกดูอยู่คนเดียว
ขำอ่ะบอกอะไรก็ไม่รู้
เพราะไม่รู้จักตถาคต
สมาธิคือสังขารขันธ์
รู้สึกสุขคือเวทนาขันธ์
ยังไม่ตายคือมีวิญญาณขันธ์
ไปทำหลับตาดิ่งลงไปในความเห็นผิด
ไม่รู้วววว่าเห็นปกติตามคำสอนมีตอนลืมตาดูค่ะ
เห็นเนี่ยเป็นสมาธิมันมั่นคงตรงทางเดียวคือเกิดทางตาเท่านั้นไม่เห็นทางหูค่ะ
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2020, 05:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คุณโรสว่าไง :b12:

อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิแล้วมีสุข ขอแนวทางปฏิบัติต่อ

เข้าสมาธิ แล้วรู้สึกมีความสุขมากเหมือนกับความรู้สึกมันแน่นิ่งมากๆแล้วควรทำยังไงต่อครับ

คือ หลายเดือนที่ผ่านมานั่งสมาธิแล้ว มีอาการที่บรรยายได้ยากครับคือมีความสุขมากจนไม่อยากออกจากสมาธิ เหมือนความรู้สึกมันเข้มข้นแน่นมาก หลังจากนั้นจะกลายเป็นความโปร่ง โล่ง สบายมาก อยากถามว่าอาการนี้คืออะไรและขอแนวทางในการปฏิบัติต่อไปด้วยครับ


:b12:
คุยกะคนไม่รู้เนี่ย
มันสนุกดูอยู่คนเดียว
ขำอ่ะบอกอะไรก็ไม่รู้
เพราะไม่รู้จักตถาคต
สมาธิคือสังขารขันธ์
รู้สึกสุขคือเวทนาขันธ์
ยังไม่ตายคือมีวิญญาณขันธ์

ไปทำหลับตาดิ่งลงไปในความเห็นผิด
ไม่รู้วววว่าเห็นปกติตามคำสอนมีตอนลืมตาดูค่ะ
เห็นเนี่ยเป็นสมาธิมันมั่นคงตรงทางเดียวคือเกิดทางตาเท่านั้นไม่เห็นทางหูค่ะ


นั่นๆท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง บอกไม่รู้หนต่อกี่หนแล้วนิ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2020, 05:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

มีคนที่ทำแบบที่โรสเขียนให้อ่านไหม
โรสไม่ได้เพ้อเจ้อค่ะคุณนั่นแหละเพ้ออยู่
เพ้อแบบสงสัยว่าโรสคิดอะไรไม่เห็นเข้าใจ
แสดงว่าคุณกำลังมีกิเลสไม่เข้าใจสิ่งที่คนอื่นทำผิด
ทุกๆอย่างที่มีคนทำพระพุทธเจ้าบอกว่าไม่มีตัวตนใครทำอะไร
มีแต่ความคิดเห็นผิดคือมีมิจฉาทิฏฐิมีกิเลสมีอุปาทานขันธ์มีคนคิดผิดว่ามีตัวตน
มีหมดทุกอย่างที่คิดนั่นแหละแต่ไม่รู้จักคิดว่าอะไรถูกอะไรผิดเพราะไม่เคยคิดตามคำสอน
เลยโลภมากกกกก...คิดทำสิ่งต่างๆเพื่อหวังเงินทองข้าวของวิปลาสคลาดเคลื่อนจากสัจจะไปเยอะบอกไม่ฟัง


คุณโรสยังไม่สายออกมาจากสำนักบ้านธัมมะเถอะนะ มิจฉาทิฏฐิเห็นๆ แบบนี้เรียกว่าตกนรกไม่รู้ตัว บอกไม่เชื่อ :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2020, 10:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คุณโรสว่าไง :b12:

อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิแล้วมีสุข ขอแนวทางปฏิบัติต่อ

เข้าสมาธิ แล้วรู้สึกมีความสุขมากเหมือนกับความรู้สึกมันแน่นิ่งมากๆแล้วควรทำยังไงต่อครับ

คือ หลายเดือนที่ผ่านมานั่งสมาธิแล้ว มีอาการที่บรรยายได้ยากครับคือมีความสุขมากจนไม่อยากออกจากสมาธิ เหมือนความรู้สึกมันเข้มข้นแน่นมาก หลังจากนั้นจะกลายเป็นความโปร่ง โล่ง สบายมาก อยากถามว่าอาการนี้คืออะไรและขอแนวทางในการปฏิบัติต่อไปด้วยครับ


:b12:
คุยกะคนไม่รู้เนี่ย
มันสนุกดูอยู่คนเดียว
ขำอ่ะบอกอะไรก็ไม่รู้
เพราะไม่รู้จักตถาคต
สมาธิคือสังขารขันธ์
รู้สึกสุขคือเวทนาขันธ์
ยังไม่ตายคือมีวิญญาณขันธ์

ไปทำหลับตาดิ่งลงไปในความเห็นผิด
ไม่รู้วววว่าเห็นปกติตามคำสอนมีตอนลืมตาดูค่ะ
เห็นเนี่ยเป็นสมาธิมันมั่นคงตรงทางเดียวคือเกิดทางตาเท่านั้นไม่เห็นทางหูค่ะ


นั่นๆท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง บอกไม่รู้หนต่อกี่หนแล้วนิ :b1:

:b12:
เพ้อเจ้อพูดถึงตัวเองอยู่เป็นนกแก้วนกขุนทอง
ความคิดเกิดที่หทยวัตถุดับภายในหทยวัตถุ
เนี่ยมีนกแก้วนกขุนทองในความคิดเหรอ
คุณกรัชกายกำลังเพ้อเจ้อบ่นไปทุกๆวัน
:b32:
ความคิดไม่มีตัวตน
ตถาคตบอกไม่มีเรา
คือไม่พระองค์ด้วย
กราบพระพุทธรูป
แต่ไม่รู้จักพระองค์
การรู้จักพระพุทธเจ้า
ตรงกับสิ่งที่ตัวเองกำลังมี
ตรงที่ตัวตนมีที่รู้เฉพาะตรงๆ
ที่มีการกระทบที่รู้สึกได้ว่าไม่มีตัวตนนะคะ
555ถ้ายังเหมารวมเอาตัวคนทั้งตัวไปทำตามใจ
โดยไม่หยุดไปทำตามประเพณีที่ทำตามๆกันผิดๆ
นั่นแหละเรียกว่ามีตัวตนก็ผิดปกติความไม่มีตัวตนแล้ว
เดี๋ยวนี้ที่ทุกดวงจิตมีคือความไม่มีตัวตนตรงสัจจะธัมมะที่ตถาคตตรัสรู้
ไม่มีเราจริงๆแต่จำเป็นต้องฟังให้เข้าใจว่าไม่มีเราแล้วมีอะไรที่กำลังปรากฏว่ามี
ไม่มีตัวตนใครสักคนแม้แต่คนเดียวมีแต่ความยึดติดความคิดตัวตนแบบชาวโลกทั่วๆไป...คิดไปเอง
เอาตัวตนไปกราบพระพุทธรูปไปสวดมนต์ไปตลาดไปธนาคารไปห้างสรรพสินค้าแต่ลืมทำปัญญาคือลืมฟัง
การที่จะไม่หลงไปทำอะไรผิดๆตามที่ตัวเองเข้าใจผิดหรือทำผิดตามที่เชื่อคนอื่นบอกต้องฟังคำสอนให้เข้าใจเพราะทุกคนหลงผิดว่ามีตัวตนจะคิดอะไรก็เข้าข้างตัวเองการฟังต้องตั้งจิตตัวเองไว้ชอบไม่เข้าข้างใครเลย
ถ้ายังคิดเข้าข้างตัวเองว่าตัวเองทำถูกแล้วแปลว่ามีความไม่รู้ความจริงที่มีก่อนจะเอาตัวตนไปทำตามอยากทำ
ตราบใดที่ฟังไม่เข้าใจตราบนั้นก็จะไม่เลิกไปทำตามที่ไม่เข้าใจคือคิดไปเองทำทุกอย่างด้วยความเข้าใจผิด
จนกว่าจะเลิกไปทำแล้วเริ่มทำสติปัญญาตรงจริงคือนั่งลงที่ควรส่วนข้างหนึ่งลืมตาดูคนอื่นพูดเพื่อเงี่ยหูฟัง
จะได้ระลึกตามเสียงแล้วเข้าใจถูกตามโดยไม่คิดเองฟังแล้วทบทวนสิ่งต่างๆที่ตัวเองเคยทำมาว่าถูกหรือผิด
คำสอนของพระพุทธเจ้าสำหรับฟังไม่ใช่ทำเพื่อจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าตัวเองเป็นสาวกมีหน้าที่ฟังให้เข้าใจ
การสืบทอดคำสอน(ศาสนา=คำสอน)คือการส่งต่อคำสอนผ่านหูให้คนอื่นเข้าใจถูกตามตรงที่ตัวตนกำลังมี
เพราะอดีตที่เคยทำผ่านมาแล้วแก้ไม่ได้แล้วถ้ายังขืนทำแบบเดิมต่อไปเรื่อยๆแปลว่าไม่มีปัญญาเหมือนเดิม
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2020, 10:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

มีคนที่ทำแบบที่โรสเขียนให้อ่านไหม
โรสไม่ได้เพ้อเจ้อค่ะคุณนั่นแหละเพ้ออยู่
เพ้อแบบสงสัยว่าโรสคิดอะไรไม่เห็นเข้าใจ
แสดงว่าคุณกำลังมีกิเลสไม่เข้าใจสิ่งที่คนอื่นทำผิด
ทุกๆอย่างที่มีคนทำพระพุทธเจ้าบอกว่าไม่มีตัวตนใครทำอะไร
มีแต่ความคิดเห็นผิดคือมีมิจฉาทิฏฐิมีกิเลสมีอุปาทานขันธ์มีคนคิดผิดว่ามีตัวตน
มีหมดทุกอย่างที่คิดนั่นแหละแต่ไม่รู้จักคิดว่าอะไรถูกอะไรผิดเพราะไม่เคยคิดตามคำสอน
เลยโลภมากกกกก...คิดทำสิ่งต่างๆเพื่อหวังเงินทองข้าวของวิปลาสคลาดเคลื่อนจากสัจจะไปเยอะบอกไม่ฟัง


คุณโรสยังไม่สายออกมาจากสำนักบ้านธัมมะเถอะนะ มิจฉาทิฏฐิเห็นๆ แบบนี้เรียกว่าตกนรกไม่รู้ตัว บอกไม่เชื่อ :b13:

:b32:
คุณกรัชกายคะที่คุณทำมาหากินมาเลี้ยงชีพตัวเองและคนในครอบครัวนั้นมันถูกต้องแล้ว
มันเป็นการทำดีตามสมควรของเพศคฤหัสถ์จะทำครัวจะมีรถ10คันบ้าน100หลังให้เช่าทำได้
แต่เมื่อคุณเข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าเข้าใจแล้วว่ามันทำให้คุณยึดติดทรัพย์สินและญาติ
การบวชคือรู้ชัดเจนว่าคุณสละทางโลกได้แล้วไม่ยึดติดเงินทองทรัพย์สินญาติพี่น้องหรือไม่อยากได้
ไม่หลงในลาภสักการะเงินทองชื่อเสียงเกียรติยศแล้วเมื่อบวชเข้ามาแล้วไม่ได้มีหน้าที่สร้างวัตถุมงคลค่ะ
คือบวชมาทำตามสิกขาบทให้ตัวมีมงคลก่อนจะให้คนอื่นกราบไหว้555ขำโลกนะทั้งกราบทั้งให้เงินโจรจริงๆ
ตถาคตนิยามโจรปล้นคำสอนว่า...บวชมารับเงินไม่ใช่คนของตถาคต...อลัชชี...มหาโจร...เศรษฐีหัวโล้น 555
ใครทำอะไรถูกหรือผิดจะทราบได้ทันทีเลยถ้าเริ่มฟังคำสอนก็พระพุทธเจ้าสอนให้เข้าใจกลโกงของกิเลสคน
:b12:
:b32: :b32:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 18 พ.ค. 2020, 10:31, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2020, 10:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:


เพ้อเจ้อพูดถึงตัวเองอยู่เป็นนกแก้วนกขุนทอง
ความคิดเกิดที่หทยวัตถุดับภายในหทยวัตถุ
เนี่ยมีนกแก้วนกขุนทองในความคิดเหรอ
คุณกรัชกายกำลังเพ้อเจ้อบ่นไปทุกๆวัน
:b32:
ความคิดไม่มีตัวตน
ตถาคตบอกไม่มีเรา
คือไม่พระองค์ด้วย
กราบพระพุทธรูป
แต่ไม่รู้จักพระองค์
การรู้จักพระพุทธเจ้า
ตรงกับสิ่งที่ตัวเองกำลังมี
ตรงที่ตัวตนมีที่รู้เฉพาะตรงๆ
ที่มีการกระทบที่รู้สึกได้ว่าไม่มีตัวตนนะคะ
555ถ้ายังเหมารวมเอาตัวคนทั้งตัวไปทำตามใจ
โดยไม่หยุดไปทำตามประเพณีที่ทำตามๆกันผิดๆ
นั่นแหละเรียกว่ามีตัวตนก็ผิดปกติความไม่มีตัวตนแล้ว
เดี๋ยวนี้ที่ทุกดวงจิตมีคือความไม่มีตัวตนตรงสัจจะธัมมะที่ตถาคตตรัสรู้
ไม่มีเราจริงๆแต่จำเป็นต้องฟังให้เข้าใจว่าไม่มีเราแล้วมีอะไรที่กำลังปรากฏว่ามี
ไม่มีตัวตนใครสักคนแม้แต่คนเดียวมีแต่ความยึดติดความคิดตัวตนแบบชาวโลกทั่วๆไป...คิดไปเอง
เอาตัวตนไปกราบพระพุทธรูปไปสวดมนต์ไปตลาดไปธนาคารไปห้างสรรพสินค้าแต่ลืมทำปัญญาคือลืมฟัง
การที่จะไม่หลงไปทำอะไรผิดๆตามที่ตัวเองเข้าใจผิดหรือทำผิดตามที่เชื่อคนอื่นบอกต้องฟังคำสอนให้เข้าใจเพราะทุกคนหลงผิดว่ามีตัวตนจะคิดอะไรก็เข้าข้างตัวเองการฟังต้องตั้งจิตตัวเองไว้ชอบไม่เข้าข้างใครเลย
ถ้ายังคิดเข้าข้างตัวเองว่าตัวเองทำถูกแล้วแปลว่ามีความไม่รู้ความจริงที่มีก่อนจะเอาตัวตนไปทำตามอยากทำ
ตราบใดที่ฟังไม่เข้าใจตราบนั้นก็จะไม่เลิกไปทำตามที่ไม่เข้าใจคือคิดไปเองทำทุกอย่างด้วยความเข้าใจผิด
จนกว่าจะเลิกไปทำแล้วเริ่มทำสติปัญญาตรงจริงคือนั่งลงที่ควรส่วนข้างหนึ่งลืมตาดูคนอื่นพูดเพื่อเงี่ยหูฟัง
จะได้ระลึกตามเสียงแล้วเข้าใจถูกตามโดยไม่คิดเองฟังแล้วทบทวนสิ่งต่างๆที่ตัวเองเคยทำมาว่าถูกหรือผิด
คำสอนของพระพุทธเจ้าสำหรับฟังไม่ใช่ทำเพื่อจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าตัวเองเป็นสาวกมีหน้าที่ฟังให้เข้าใจ
การสืบทอดคำสอน(ศาสนา=คำสอน)คือการส่งต่อคำสอนผ่านหูให้คนอื่นเข้าใจถูกตามตรงที่ตัวตนกำลังมี
เพราะอดีตที่เคยทำผ่านมาแล้วแก้ไม่ได้แล้วถ้ายังขืนทำแบบเดิมต่อไปเรื่อยๆแปลว่าไม่มีปัญญาเหมือนเดิม


กรัชกายพูดมีเหตุ ที่ว่า คุณโรสพูดท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง หมายถึงนำศัพท์เขามาพูด แต่ไม่รู้ความหมายของศัพท์นั้นว่าหมายถึงอะไร นี่มันเป็นยังงี้ จึงว่าพูดเป็นนกแก้วนกขุนทอง
ถ้าพูดเป็นต่อยหอยก็อีกอย่าง คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2020, 10:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

มีคนที่ทำแบบที่โรสเขียนให้อ่านไหม
โรสไม่ได้เพ้อเจ้อค่ะคุณนั่นแหละเพ้ออยู่
เพ้อแบบสงสัยว่าโรสคิดอะไรไม่เห็นเข้าใจ
แสดงว่าคุณกำลังมีกิเลสไม่เข้าใจสิ่งที่คนอื่นทำผิด
ทุกๆอย่างที่มีคนทำพระพุทธเจ้าบอกว่าไม่มีตัวตนใครทำอะไร
มีแต่ความคิดเห็นผิดคือมีมิจฉาทิฏฐิมีกิเลสมีอุปาทานขันธ์มีคนคิดผิดว่ามีตัวตน
มีหมดทุกอย่างที่คิดนั่นแหละแต่ไม่รู้จักคิดว่าอะไรถูกอะไรผิดเพราะไม่เคยคิดตามคำสอน
เลยโลภมากกกกก...คิดทำสิ่งต่างๆเพื่อหวังเงินทองข้าวของวิปลาสคลาดเคลื่อนจากสัจจะไปเยอะบอกไม่ฟัง


คุณโรสยังไม่สายออกมาจากสำนักบ้านธัมมะเถอะนะ มิจฉาทิฏฐิเห็นๆ แบบนี้เรียกว่าตกนรกไม่รู้ตัว บอกไม่เชื่อ :b13:

:b32:
คุณกรัชกายคะที่คุณทำมาหากินมาเลียงชีพตัวเองและคนในครอบครัวนั้นมันถูกต้องแล้ว
มันเป็นการทำดีตามสมควรของเพศคฤหัสถ์จะทำครัวจะมีรถ10คันบ้าน100หลังให้เช่าทำได้
แต่เมื่อคุณเข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าเข้าใจแล้วว่ามันทำให้คุณยึดติดทรัพย์สินและญาติ
การบวชคือรู้ชัดเจนว่าคุณสละทางโลกได้แล้วไม่ยึดติดเงินทองทรัพย์สินญาติพี่น้องหรือไม่อยากได้
ไม่หลงในลาภสักการะเงินทองชื่อเสียงเกรบนงรติยศแล้วลเมื่อบวชเข้ามาแล้วไม่ได้มีหน้าที่สร้างวัตถุ
คือบวชมาทำตามสิกขาบทให้ตัวมีมงคลก่อนจะให้คนอื่นกราบไหว้555ขำโลกนะทั้งกราบทั้งให้เงินโจรจริงๆ
ตถาคตนิยามโจรแล้นคำสอนว่า...บวชมารับเงินไม่ใช่คนของตถาคต...อลัชชี...มหาโจร...เศรษฐีหัวโล้น 555
ใครทำอะไรถูกหรือผิดจะทราบได้ทันทีเลยถ้าเริ่มฟังคำสินเพราะพระพุทธเจ้าสอนให้เข้าใจกลโกงของกิเลส
:b12:
:b32: :b32:


อะไรนักก็ไม่รู้ เรียกอยู่ได้ กรัชกายคะ กรัชกายคะ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2020, 13:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

มีคนที่ทำแบบที่โรสเขียนให้อ่านไหม
โรสไม่ได้เพ้อเจ้อค่ะคุณนั่นแหละเพ้ออยู่
เพ้อแบบสงสัยว่าโรสคิดอะไรไม่เห็นเข้าใจ
แสดงว่าคุณกำลังมีกิเลสไม่เข้าใจสิ่งที่คนอื่นทำผิด
ทุกๆอย่างที่มีคนทำพระพุทธเจ้าบอกว่าไม่มีตัวตนใครทำอะไร
มีแต่ความคิดเห็นผิดคือมีมิจฉาทิฏฐิมีกิเลสมีอุปาทานขันธ์มีคนคิดผิดว่ามีตัวตน
มีหมดทุกอย่างที่คิดนั่นแหละแต่ไม่รู้จักคิดว่าอะไรถูกอะไรผิดเพราะไม่เคยคิดตามคำสอน
เลยโลภมากกกกก...คิดทำสิ่งต่างๆเพื่อหวังเงินทองข้าวของวิปลาสคลาดเคลื่อนจากสัจจะไปเยอะบอกไม่ฟัง


คุณโรสยังไม่สายออกมาจากสำนักบ้านธัมมะเถอะนะ มิจฉาทิฏฐิเห็นๆ แบบนี้เรียกว่าตกนรกไม่รู้ตัว บอกไม่เชื่อ :b13:

:b32:
คุณกรัชกายคะที่คุณทำมาหากินมาเลียงชีพตัวเองและคนในครอบครัวนั้นมันถูกต้องแล้ว
มันเป็นการทำดีตามสมควรของเพศคฤหัสถ์จะทำครัวจะมีรถ10คันบ้าน100หลังให้เช่าทำได้
แต่เมื่อคุณเข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าเข้าใจแล้วว่ามันทำให้คุณยึดติดทรัพย์สินและญาติ
การบวชคือรู้ชัดเจนว่าคุณสละทางโลกได้แล้วไม่ยึดติดเงินทองทรัพย์สินญาติพี่น้องหรือไม่อยากได้
ไม่หลงในลาภสักการะเงินทองชื่อเสียงเกรบนงรติยศแล้วลเมื่อบวชเข้ามาแล้วไม่ได้มีหน้าที่สร้างวัตถุ
คือบวชมาทำตามสิกขาบทให้ตัวมีมงคลก่อนจะให้คนอื่นกราบไหว้555ขำโลกนะทั้งกราบทั้งให้เงินโจรจริงๆ
ตถาคตนิยามโจรปล้นคำสอนว่า...บวชมารับเงินไม่ใช่คนของตถาคต...อลัชชี...มหาโจร...เศรษฐีหัวโล้น 555
ใครทำอะไรถูกหรือผิดจะทราบได้ทันทีเลยถ้าเริ่มฟังคำสอนเพราะพระพุทธเจ้าสอนให้เข้าใจกลโกงของกิเลสคน
:b12:
:b32: :b32:


อะไรนักก็ไม่รู้ เรียกอยู่ได้ กรัชกายคะ กรัชกายคะ :b32:


:b12:
กิเลสมันเพิ่มตามที่คุณไม่คิดตามคำสอน
นอกจากจะจำชื่อหนาแน่นแล้ว
ยังจำแม่นว่ามีคนเรียกชื่ออีก
ขณะที่คุณคิดถูกชื่อถูกตัว
คุณกำลังจำเป็นตัวตนคุณ
คุณลืมคิดตามคำสอนแล้ว
เพราะคุณไม่ได้คิดตามคำสอนแล้วตอนที่นึกถึงชื่อตัวคุณคุณก็จำว่าเป็นตัวคุณ
คุณไม่พึ่งตถาคตเพราะคุณลืมคำของตถาคตคุณจำสมมุติบัญญัติชื่อตัวเองแล้ว
ขณะที่ทุกคนกำลังคิดชื่อตัวเองขณะนั้นขาดสติลืมหมดเลยว่าไม่มีเราและไม่ระลึกถึงสัจจะธัมมะเลยค่ะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2020, 13:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


เพ้อเจ้อพูดถึงตัวเองอยู่เป็นนกแก้วนกขุนทอง
ความคิดเกิดที่หทยวัตถุดับภายในหทยวัตถุ
เนี่ยมีนกแก้วนกขุนทองในความคิดเหรอ
คุณกรัชกายกำลังเพ้อเจ้อบ่นไปทุกๆวัน
:b32:
ความคิดไม่มีตัวตน
ตถาคตบอกไม่มีเรา
คือไม่พระองค์ด้วย
กราบพระพุทธรูป
แต่ไม่รู้จักพระองค์
การรู้จักพระพุทธเจ้า
ตรงกับสิ่งที่ตัวเองกำลังมี
ตรงที่ตัวตนมีที่รู้เฉพาะตรงๆ
ที่มีการกระทบที่รู้สึกได้ว่าไม่มีตัวตนนะคะ
555ถ้ายังเหมารวมเอาตัวคนทั้งตัวไปทำตามใจ
โดยไม่หยุดไปทำตามประเพณีที่ทำตามๆกันผิดๆ
นั่นแหละเรียกว่ามีตัวตนก็ผิดปกติความไม่มีตัวตนแล้ว
เดี๋ยวนี้ที่ทุกดวงจิตมีคือความไม่มีตัวตนตรงสัจจะธัมมะที่ตถาคตตรัสรู้
ไม่มีเราจริงๆแต่จำเป็นต้องฟังให้เข้าใจว่าไม่มีเราแล้วมีอะไรที่กำลังปรากฏว่ามี
ไม่มีตัวตนใครสักคนแม้แต่คนเดียวมีแต่ความยึดติดความคิดตัวตนแบบชาวโลกทั่วๆไป...คิดไปเอง
เอาตัวตนไปกราบพระพุทธรูปไปสวดมนต์ไปตลาดไปธนาคารไปห้างสรรพสินค้าแต่ลืมทำปัญญาคือลืมฟัง
การที่จะไม่หลงไปทำอะไรผิดๆตามที่ตัวเองเข้าใจผิดหรือทำผิดตามที่เชื่อคนอื่นบอกต้องฟังคำสอนให้เข้าใจเพราะทุกคนหลงผิดว่ามีตัวตนจะคิดอะไรก็เข้าข้างตัวเองการฟังต้องตั้งจิตตัวเองไว้ชอบไม่เข้าข้างใครเลย
ถ้ายังคิดเข้าข้างตัวเองว่าตัวเองทำถูกแล้วแปลว่ามีความไม่รู้ความจริงที่มีก่อนจะเอาตัวตนไปทำตามอยากทำ
ตราบใดที่ฟังไม่เข้าใจตราบนั้นก็จะไม่เลิกไปทำตามที่ไม่เข้าใจคือคิดไปเองทำทุกอย่างด้วยความเข้าใจผิด
จนกว่าจะเลิกไปทำแล้วเริ่มทำสติปัญญาตรงจริงคือนั่งลงที่ควรส่วนข้างหนึ่งลืมตาดูคนอื่นพูดเพื่อเงี่ยหูฟัง
จะได้ระลึกตามเสียงแล้วเข้าใจถูกตามโดยไม่คิดเองฟังแล้วทบทวนสิ่งต่างๆที่ตัวเองเคยทำมาว่าถูกหรือผิด
คำสอนของพระพุทธเจ้าสำหรับฟังไม่ใช่ทำเพื่อจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าตัวเองเป็นสาวกมีหน้าที่ฟังให้เข้าใจ
การสืบทอดคำสอน(ศาสนา=คำสอน)คือการส่งต่อคำสอนผ่านหูให้คนอื่นเข้าใจถูกตามตรงที่ตัวตนกำลังมี
เพราะอดีตที่เคยทำผ่านมาแล้วแก้ไม่ได้แล้วถ้ายังขืนทำแบบเดิมต่อไปเรื่อยๆแปลว่าไม่มีปัญญาเหมือนเดิม


กรัชกายพูดมีเหตุ ที่ว่า คุณโรสพูดท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง หมายถึงนำศัพท์เขามาพูด แต่ไม่รู้ความหมายของศัพท์นั้นว่าหมายถึงอะไร นี่มันเป็นยังงี้ จึงว่าพูดเป็นนกแก้วนกขุนทอง
ถ้าพูดเป็นต่อยหอยก็อีกอย่าง คิกๆๆ

:b12:
คำว่าจิตเกิดดับนับไม่ถ้วนที่ตถาคตทรงแสดงว่ารู้ความจริงตรงปัจจุบันได้เท่านั้น
บอกแล้วบอกอีกว่าสัจจะมีตรงปัจจุบันตั้งแสนล้านดวงจิตตัวคุณไม่รู้สึกตัวเอง
ว่า1ตัวจริงธัมมะมันมีแค่คำเดียวเช่นเสียงคือเสียงเดียวไม่มีคำว่านกแก้วนกขุนทอง
อันว่าเสียงเพียงเสียงเดียวที่ดัง1ขณะเนี่ยมันไม่มีอะไรมาเทียบเคียงเลยว่าดังหรือเบา
เสียงเป็นได้แค่เสียงและเสียงมีแค่สูงหรือต่ำทุกๆเสียงมีอยู่ทั่วจักรวาลมีทั้งที่ได้ยินและไม่ได้ยินก็มี
แค่ธัมมะคำเดียวที่เรียกชื่อว่า เสียง เป็นปกติไม่สูงไม่ต่ำไม่ดำไม่ขาวเสียงไม่มีความหมายในตัวเองเลย
พอพระพุทธเจ้าเอ่ยคำว่า เสียง คุณเข้าใจมั๊ยว่าเสียงไม่มีค่าไม่มีความหมายอะไรเลยยังหลงเสียงอยู่555
โดยเฉพาะการไปหลงยึดติดในบัญญัติคำที่เป็นปัญญาของพระพุทธเจ้านั้นน่ะมันไม่ใช่ความจริงของตัวเอง
:b32: :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 148 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 ... 10  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 49 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร