วันเวลาปัจจุบัน 23 เม.ย. 2024, 23:12  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2020, 07:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




20200120_143701.jpg
20200120_143701.jpg [ 50.43 KiB | เปิดดู 817 ครั้ง ]
.
.
ผัสสะที่มีการเข้าถึงสิ่งนั้น ที่มีอาสวะเป็นอารมณ์
สำคัญผิดคิดว่าเป็นสุข กล่าวคือ การได้สัมผัสที่มีอาสวะอยู่
ก็ในปัจจุบันนั้นมีเยอะมาก ผัสสะที่มีอาสวะทำให้เกิดสุขสัญญา
ได้สัมผัสสิ่งดี ๆ นุ่ม ๆ สวยๆ หอม ๆ ก็อันนี้แหละเรียกว่า "สาสวผสฺสอุปคมน"

ทำให้เกิดลักษณะสุขสัญญา คือเกิดการเข้าใจผิดคิดว่าเป็นสุขจริง ๆ
มีลักษณะเข้าถึงอารมณ์ได้ด้วยผัสสะ ที่บอกว่ามีอาสวะเป็นอารมณ์ก็คือ
การได้ลิ้มสัมผัสกับอารมณ์เป็นอาสวะ ซึ่งเป็นเครื่องบ่งบอก
ถึงลักษณะของสุขสัญญา ซึ่งมันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นลักษณะเดียว
ตัวเดียวกันตลอดไปเท่านั้น เพราะว่าการเข้าถึงมันก็ได้แก่การสัมผัสอารมณ์ ดี ๆ
ซึ่งยังเป็นอารมณ์ทางโลกีย์อยู่ จะเรียกว่าเป็นเหตุของสุขสัญญาก็ว่าได้

ตสฺสา อสฺสาโท ปทฎฺฐานํ
อสฺสาโท ตัณหาที่ทำให้เกิดความยินดี หรือยินดี ปทฎฺฐาน เป็นปทัฏฐาน
ตสฺสา สุขสญฺญาย ของสุขสัญญานั้น

หมายความว่าแม้เราจะได้สัมผัสอะไรที่ดี ถ้าเราไม่เกิดความยินดีแล้ว
มันก็ไม่เกิดวิปลาสประเภทสุขสัญญา อย่างเช่น พระอรหันต์
ท่านใช้สอยอะไรก็แล้วแต่ท่านไม่มีอัสสาทะ ท่านจึงไม่เกิดสัญญาวิปัลลาส
คือท่านจะไม่คิดว่ามันเป็นสุข แต่จะรู้ตามความเป็นจริงว่านี้คืออะไร

แต่ในกรณีของปุถุชน ถ้าได้สัมผัสสิ่งที่ดี ๆ ก็จะเกิดอัสสาทะ
กล่าวคือยินดี อัสสาทะนี้จะทำให้เกิดสัญญวิปัลลาส

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2020, 10:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


นิจฺจสญฺญา-ความสำคัญว่าเป็นของยั่งยืน คือ ความสำคัญผิด
อสมนุปสฺสนลกฺขณา-มีการไม่พยายามตามพิจารณา
สงฺขตลกฺขณานํ ธมฺมานํ-ในธรรมทั้งหลายที่เป็นสังขตธรรม
(ธรรมชาติที่มีลักษณะถูกปัจจัยสร้างขึ้น ท่านเรียกว่าสังขตลักษณะ)

ไม่พิจารณาธรรมที่เป็นสังขตลักษณะ หมายความว่า ยกเว้น
พระนิพพาน ซึ่งไม่เป็นสังขตลักษณะ นอกนั้นเป็นสังขตลักษณะทั้งสิ้น

สงฺขตา ธมฺมา อสงฺตา ธมฺมา-ในที่นี้ก็เหมือน สงฺขตา ธมฺมา นั่นเอง
การไม่พิจารณาสังขตธรรมตามที่เป็นจริงเป็นลักษณะของนิจจสัญญา
เป็นเครื่องบ่งบอกให้ทราบว่าเกิดนิจจสัญญา เป็นความสำคัญผิดคิดว่าเป็นของเที่ยง

ลืมนึกไปว่าสังขตธรนมนั้นเป็นธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงได้
สังขตลักษณะ นั่นคือ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา อันนี้แลท่านเรียก
สังขต ลักษณะ ถ้าไม่พิจารณาโดยถ้วนถี่ก็จะมองไม่เห็นลักษณะ ๓ อย่างนี้

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 30 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร