วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 05:20  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 เม.ย. 2020, 05:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"สิ่งใดที่มันล่วงมาแล้ว เลยมาแล้ว เราไม่สามารถไปตัด ไปปลงมันได้อีกแล้ว สิ่งที่
เราทำไปนั้น ถ้ามันดีมัน ก็ดีไปแล้ว ผ่าน
ไปแล้ว พ้นไปแล้ว ถ้ามันชั่วมันก็ชั่วไปแล้ว ผ่านไปแล้ว เช่นกัน อนาคตยังมาไม่ถึง สิ่ง
ที่ยังไม่มาถึง เราก็ยังไม่รู้เห็นว่ามันจะเป็นอย่างไร อย่างมากก็เป็นแต่เพียงการคาด
คะเนเอาเอง ว่าควรเป็นยังงั้น เป็นยังงี้ ซึ่ง
มันอาจจะเป็น ไม่เป็นไปอย่างที่เราคาดคะเนก็ได้ ปัจจุบัน คือ สิ่งที่เกิดขึ้นจริง เราได้เห็นจริง ได้สัมผัสจริง เพราะฉะนั้นความดีต้องทำในปัจจุบัน ทานก็ดี ศีลก็ดี ภาวนาก็ดี ต้องทำเสียในปัจจุบันที่เรายังมีชีวิตอยู่ เราต้องการความดี ก็ต้องทำให้เป็นความดีในปัจจุบันนี้ ต้องการความสุข ต้องการความเจริญ ก็ต้องทำให้เป็นไปในปัจจุบันนี้.. "
------------------------------------
#ธรรมโอวาท
#หลวงปู่แหวน_สุจิณฺโณ




"...ถ้าใจมีธรรมเป็นที่อยู่แล้ว จะอยู่ที่ไหนก็อยูได้ ไม่มีความเดือดร้อน

แต่ถ้าใจนั้นไม่มีธรรมเป็นเครื่องอยู่แล้ว ต่อให้นั่งนอนอยู่ในปราสาททองก็ไม่มีความสุขเพราะไฟกิเลส มันเผาผลาญหัวใจให้ได้รับความเดือดร้อน อยู่มิเว้นวาย.."

โอวาทธรรม
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม



...เวลาเริ่มต้นภาวนา
จิตจะหยาบ จะฟุ้งซ่าน
จะให้อยู่กับลม หรืออยู่กับพุทโธ..
"จะอยู่ไม่ได้"
ก็ให้ฟังเทศน์ฟังธรรมไปก่อน
ฟังไป จนรู้สึกเย็นสบาย..ก็หยุดฟัง
แล้วกลับมาดูลม หรือบริกรรมพุทโธๆ
ดูว่าจะแวบไปที่อื่นหรือไม่
“ถ้าสงบตัวลงแล้ว”
จะไม่ไป จะอยู่กับ..พุทโธ
อยู่กับ..ลมหายใจเข้าออก
"ในที่สุด ก็จะสงบได้".

คัดลอก(กำลังใจ)47 กัณฑ์404
ธรรมะบนเขา20/9/2552
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี










โยมถาม "จริงไหม ที่โลกกำลังจะแตก และจะทำยังไงดี"

พระอาจารย์วันชัย วิจิตโต ตอบ

"จะไปกังวลทำไม พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมไว้แล้ว ตั้งแต่กัณฑ์แรกเป็นปฐมบทเลย ว่าด้วยการเกิดดับ ทุกอย่างมีเกิดก็มีดับ มีเกิดมีดับกันตลอดเวลา ทุกวันทุกวินาที แต่เราไม่รู้ตัว เราไม่ระลึกถึงมัน ทุกคนมีความตายแปะอยู่ที่หน้าผากทุกคน แต่ไม่มีใครสนใจหรือเห็นมัน

ดับความทุกข์ในแต่ละวันให้ได้ก่อนเถอะ ความทุกข์ก็เกิดทุกวัน ดับมันให้ได้ จะไปรอทำไมโลกแตก คนเราก็นะ จะย้ายไปอยู่ดาวไหน ก็ไปทุกข์ที่ดาวนั้นอยู่ดี ก็ไปตายก็ไปดับที่ดาวนั้นอยู่ดีนั้นล่ะ จะคิดทำไมโลกแตก..แตกไม่แตกก็ดับ แตกเมื่อไหร่ก็ทุกข์ทุกวันอยู่ดี ถ้าตอนนี้เราดับทุกข์ได้แล้ว เราก็สบาย โลกจะแตกก็แตกเลย เราพร้อมแล้ว พร้อมที่จะดับ"

พระอาจารย์วันชัย วิจิตโต
ที่มา:บทความรวม ธรรมะสั้นๆ เข้าใจง่าย ของครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่น - พระป่าธรรมยุติ












#ท่านพระอาจารย์สอนว่า

"อิริยาบถทั้ง ๔ คือ ยืน เดิน นั่ง นอน นั้นนะสร้างบุญขึ้นมาได้ เช่น เราเดินไปก็ระลึกพุทโธไป เรานั่งอยู่ก็ระลึกพุทโธ เรานอนอยู่ก็ระลึก
พุทโธ พยายามทำให้มันติดต่อ ทำการทำงานก็ระลึกพุทโธอยู่ อย่างท่านฯ ไปสอนชาวบ้านนอกนะ ถึงฤดูทำไร่ เขาไปดายหญ้า สับจอบสับเสียมลงดิน ก็ให้ระลึกพุทโธ เวลาเกี่ยวข้าวก็เหมือนกันแหละ เกี่ยวกอหนึ่งก็พุทโธ เกี่ยวกอสองก็​ พุทโธ

#หมายความว่า งานที่เราทำก็ได้ บุญเราก็ได้
อันนี้เป็นลักษณะของบุคคลผู้มีปัญญา ทำการงานทุกอย่าง อย่าทิ้งพุทโธ เพราะเหตุไร เพราะว่าบุญเกิดทางใจ​ บุญนั้นไม่ได้เกิดแต่การบริจาคทานอย่างเดียว บุญเกิดจากการรักษาศีล บุญเกิดจากการภาวนา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเจริญภาวนา เป็นบุญที่สามารถทำได้ไม่เลือกบุคคล ไม่ว่าจะเป็นคนแก่คนเฒ่าหรือเด็ก หญิงหรือชาย หรือคนเจ็บป่วยก็ตาม สามารถทำได้​ คนที่มีสติปัญญา ยืน เดิน นั่ง นอน ก็เป็นบุญแล้ว ทำการทำงานก็เป็นบุญ
ทุกสาขาอาชีพที่เป็นอาชีพบริสุทธิ์ ถ้าเราระลึกพุทโธคราวใด บุญก็เกิดขึ้นคราวนั้น ไม่ต้องหาไกล คนมีปัญญาไม่ต้องหาไกล หาอยู่ในกาย หาอยู่ในวาจา หาอยู่ในจิต

#ศาสนานั้นอยู่ในธาตุ๔_ขันธ์๕_อายตนะ๖

ท่านฯ บอกว่า มีกล่าวไว้ในคัมภีร์วินัย
ขันธปัญญธาตุ อายตนะอยู่ที่ไหน ไม่ใช่อยู่ในตัวเราหรอกหรือ เพราะเหตุนั้นศาสนาจึงอยู่ในตัวเรา สมบูรณ์แบบไม่บกพร่อง นอกจากเราจะเสริมสร้างให้มัน เพื่อให้เรารู้จักศาสนาในตัวของเรา นี่คือบุคคลผู้ที่เป็นพุทธแท้ ท่านบอกอย่างนั้น​ ศาสนายังแบ่งออกเป็นศาสนาภายนอกและศาสนาภายใน ศาสนาภายนอก คือ พระสงฆ์ สามเณร วัด กุฎี วิหาร ศาลาการเปรียญ เจดีย์ เป็นต้น ส่วนศาสนาภายใน คือ ศีล สมาธิ ปัญญา มันมีอยู่แล้ว ตั้งอยู่ในบุคคล แต่บุคคลไม่รู้ว่า อะไรคือศาสนาภายนอก ภายใน การบำรุงพระพุทธศาสนา
เราจะต้องบำรุงไปพร้อมกัน ภายนอกก็บำรุง ภายในก็บำรุง ถ้าเราจะบำรุงแต่ภายนอก ทิ้งภายในเสีย เราก็ไม่รู้จักศาสนาอยู่ในตัวเราเอง
อุปมาเปรียบเหมือน ทุกคนมีสองขา ขาหนึ่ง
มัดติดไว้เสียไม่ใช่ หมายความว่า เราเดินได้ แต่ไม่สะดวก นั่นคือรักษาแต่ศาสนาภายนอก ศาสนาภายในไม่รักษา​ เหมือนกันกับรักษาศาสนาภายใน ภายนอกไม่รักษา ก็เปรียบเหมือนมีสองขา แต่ใช้ขาเดียว

#เพราะฉะนั้นการบำรุงศาสนา

#จึงต้องบำรุงไปพร้อมกันทั้งศาสนาภายนอกและศาสนาภายใน_ผู้ที่นับถือพระพุทธศาสนา #ส่วนมากจะไม่เข้าใจอย่างนี้_ท่านจึงว่า_ทำอะไรให้มีสติปัญญา.. "

#หลวงปู่มั่น_ภูริทัตตเถระ










#ทำจิตให้ว่างจากกิเลส
#วันละเล็กละน้อยกันนะ
“การเจริญสมาธินั่งสงัดน่ะ
เป็นการดี ถ้าเวลาเริ่มสมาธิ
จริงๆ ให้นึกถึงลมหายใจเข้าออก
เวลาหายใจเข้ารู้อยู่ว่าหายใจเข้า
เวลาหายใจออก​ รู้อยู่ว่าหายใจออก

ถ้าจิตยังรู้ลมหายใจเข้ารู้ลม
หายใจออก ชื่อว่ามีสมาธิใน
อานาปานุสสติกรรมฐาน
ขณะที่ใดที่รู้ลมหายใจเข้ารู้
ลมหายใจออก​ จิตไม่ยุ่งกับ
อารมณ์อย่างอื่นเฉพาะเวลา
มันอาจจะได้สักนาทีสองนาที
สามนาที ถ้า ๓ นาทีถือว่าเก่งมาก
อย่างนี้ถือว่ามีสมาธิในอานาปานุสสติ
เวลานั้นถือว่าจิตว่างจากกิเลส
รู้ลมเข้า รู้ลมออก รู้อยู่อย่างนี้
จิตว่างจากกิเลส.."

#หลวงพ่อพระราชพรหมยาน_วัดท่าซุง
[ ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๒๙๙ หน้า ๘๓​ ]









"... เราให้รู้จักกลมายาของความชั่วอยู่ มันเก่งตัวนี้ มันเคยหลอกลวงเรามากี่ภพกี่ชาติ มาตายมาทุกข์มานี่อาตมาไม่ได้คำนึง หลวงปู่ขาวท่านว่า ทำไมท่านไม่นับที่ท่านเคยอยู่แต่ก่อนผมไม่รู้ บัดนี้ผมจึงได้คิดทบทวนภายหลังว่า ไม่ได้นับมันมีสักกี่ภพกี่ชาติมาเป็นหลายร้อยชาติ เกิดมาตายเล่นเฉยๆ ไม่มีคุณค่าราคาอะไร

นี่..คนเราหนึ่งคนใด ไม่ใช่ว่าเราจะมีแต่ชาติปัจจุบันเดียวนี่นะ เราผ่านมาสักกี่ภพกี่ชาติ แต่เราไม่รู้ทุกข์ มาเกิดมาตายมา มาอยู่อย่างนั้นแหละ ไม่รู้เมื่อจิตของเราไม่รู้ไม่เห็น เราไม่รู้ หลอกจิตของเรา ถ้าเราภาวนาไปจิตของเราสว่าง จิตของเราเป็นสมาธิ จิตของเราจะพาเราไปดูชาติเก่าของเรา ที่เราเกิดเราตายมาที่ไหนๆ มันก็เกิดก็ตายอยู่อย่างนั้นแหละ ไปที่ไหนก็ โอย ขนาดว่าจะน้อยมากเท่าใด

หลวงปู่ขาว (อนาลโย) ท่านว่าผมเห็นอยู่ปีหนึ่ง เป็นอย่างนี้แหละ กลางวันก็เห็น กลางคืนก็รู้ ท่านว่าผมเป็นอยู่ ๓ ปี อันนี้จะเกิดเป็นมนุษย์หรือเกิดเป็นสัตว์อันนี้ไม่รู้ แต่ไปเห็นชาติเก่าทั้งหมดอันนี้

ท่านอาจารย์มหาบัว (ญาณสัมปันโน) ก็ไม่บอกมีแต่บอกว่าให้ภาวนาไปๆ ให้เรารู้เองเห็นเอง จิตของเรามันจึงจะเชื่อ เรานี่ใจคนอื่นบอกไม่ได้ ตัวนี้มันเจ้าของเองเป็นผู้เกิดผู้ตาย ตายอยู่ที่ไหนเจ้าของเองก็จะรู้ จะให้คนอื่นไปชี้บอก คนอื่นไม่ได้ไปตายกับเรา

หลวงปู่ขาว ท่านว่าจะบอกอย่างไร อ่ะ..มันเป็นแบบนี้อาตมาก็เลยจำไว้ ทุกคนแหละพวกของจิตของเราผู้รู้ๆ นี่มันตายไม่เป็น ท่านจึงเรียกว่าตัวพุทโธ พุทโธคือผู้รู้ นั่นแหละตัวธรรมคืออันที่เรารอบรู้ในกองสังขาร

บัดนี้ทุกคนแหละ เมื่อท่านรู้ ท่านก็ปล่อยวาง ไม่เอาเพราะความชั่วนี่มันทำลายเรา มันเป็นเครื่องมือปกปิด เป็นเครื่องทำลาย เป็นยาพิษ เป็นสารพัดท่านเปรียบเทียบไว้ เพราะฉะนั้น ทำไมเรายังไม่เบื่อ ทำไมเรายังไม่หน่าย นี่มันทำลายเราทุกขุมขน นี่ให้พากันค้นมันไม่อยู่ที่อื่น มันอยู่ในตัวของเรานี่แหละ ตัวของเรานี่แหละปกปิดเรา

ถ้าเราทำลายตัวนี้ออกได้แล้ว เราอย่าไปเชื่อตัวเรา อย่าไปเชื่อดีเชื่อชั่ว เขาว่าดีก็อย่าไปเชื่อ เขาว่าชั่วก็อย่าไปเชื่อ เขาทำเอาพูดเอา ท่านว่าให้เราเชื่อความจริง เมื่อเราเห็นเป็นความจริงเหมือนเราไปดูอันนั้นว่าเมื่อเราเกิดมาตายแน่ๆ อันนั้นเหมือนกันกับว่าเราไปดูไปเห็นนั่นแหละตายแล้วไม่มีประโยชน์อะไรแน่นอนอย่างนั้นแหละ บัดนี้ในตัวของเรามันจะดีอะไรบ้าง นั่นเขาแสดงธรรมชาติให้เห็น มันไม่มีสิ่งดี มีแต่ของโสโครกสกปรกทั้งหมด ..."

โอวาทธรรมของหลวงปู่สอ พันธุโล
วัดป่าบ้านหนองแสง ต.สิงห์ อ.เมือง จ.ยโสธร
ส่วนหนึ่งของเทศนา วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๖











" ผู้ที่ถือราคะ โทสะ
โมหะ อยู่เช่นนี้ นับว่า
ยังวุ่นวายอยู่ในโลก
เป็นเรื่องที่ไม่สิ้นสุด

ราคะ โทสะ โมหะ
เป็นเรื่องของชาติทุกข์
ชราทุกข์ พยาธิทุกข์
มรณทุกข์ ทำให้หมุนเวียน
อยู่ในวัฏสงสาร ไม่มีที่สุด

แต่ไหนแต่ไรมา เพราะ
โลกไม่เที่ยง ไม่ควรเอา
เรื่องเอาราวกับโลก
รู้เรื่องแล้ว ก็วางไว้
ตามสภาพของเขา
ไม่ควรยึดถือว่าเป็นของดี

เป็นของใช้ชั่วคราว
เมื่อรู้เท่าแล้ว วางเฉย
เป็นความสุขอย่างยิ่ง

ถ้ามีความรักความชัง
อยู่นั้น เป็นทุกข์อย่างยิ่ง
เพราะ ยินดี ยินร้าย
ในเรื่องนั้น แปลว่าเจ็บ
แสบ ร้อน ไปด้วยเขา
จึงเป็นทุกข์ "

โอวาทธรรม
หลวงปู่หลุย จันทสาโร


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 106 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร