วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 07:49  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 268 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17, 18  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2020, 18:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
คำสอนของพระพุทธเจ้า
เข้าใจความจริงได้ตรงที่
มีกายใจของตนเองเท่านั้น
จะไปพูดว่าคนนั้นคนนี้เป็นอริยะเป็นอรหันต์น่ะ
ไม่มีใครบอกได้แบบนั้นหรอกเพราะคนที่บอกได้คือพระพุทธเจ้า
เพราะคนที่จะบอกว่าใครเป็นอริยบุคคลชั้นไหนก็บอกได้เฉพาะเป็นคือมีปัญญาถึงระดับนั้นแล้ว
คนสมัยนี้แห่แหนกันบอกต่อๆกันไปว่านั่นอริยะนั่นอรหันต์ผิดอย่างมหันต์เลยค่ะพูดด้วยไม่รู้และไม่มีปัญญา
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2020, 18:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
คำสอนของพระพุทธเจ้า
เข้าใจความจริงได้ตรงที่
มีกายใจของตนเองเท่านั้น
จะไปพูดว่าคนนั้นคนนี้เป็นอริยะเป็นอรหันต์น่ะ
ไม่มีใครบอกได้แบบนั้นหรอกเพราะคนที่บอกได้คือพระพุทธเจ้า
เพราะคนที่จะบอกว่าใครเป็นอริยบุคคลชั้นไหนก็บอกได้เฉพาะเป็นคือมีปัญญาถึงระดับนั้นแล้ว
คนสมัยนี้แห่แหนกันบอกต่อๆกันไปว่านั่นอริยะนั่นอรหันต์ผิดอย่างมหันต์เลยค่ะพูดด้วยไม่รู้และไม่มีปัญญา
:b12:
:b32: :b32:


คิกๆๆเพ้อเจ้อน่ารำคาญ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2020, 18:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
คำสอนของพระพุทธเจ้า
เข้าใจความจริงได้ตรงที่
มีกายใจของตนเองเท่านั้น
จะไปพูดว่าคนนั้นคนนี้เป็นอริยะเป็นอรหันต์น่ะ
ไม่มีใครบอกได้แบบนั้นหรอกเพราะคนที่บอกได้คือพระพุทธเจ้า
เพราะคนที่จะบอกว่าใครเป็นอริยบุคคลชั้นไหนก็บอกได้เฉพาะเป็นคือมีปัญญาถึงระดับนั้นแล้ว
คนสมัยนี้แห่แหนกันบอกต่อๆกันไปว่านั่นอริยะนั่นอรหันต์ผิดอย่างมหันต์เลยค่ะพูดด้วยไม่รู้และไม่มีปัญญา
:b12:
:b32: :b32:


คิกๆๆเพ้อเจ้อน่ารำคาญ

รำคาญเป็นกิเลสอกุศลสะสมในจิตแล้วค่ะ
ถ้าไม่รู้สึกตรงที่มีที่ตัวก็แปลว่าขาดสติ555
แสดงว่าที่ทำๆมาตลอดชีวิตขาดสติปัญญา
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2020, 18:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
คำสอนของพระพุทธเจ้า
เข้าใจความจริงได้ตรงที่
มีกายใจของตนเองเท่านั้น
จะไปพูดว่าคนนั้นคนนี้เป็นอริยะเป็นอรหันต์น่ะ
ไม่มีใครบอกได้แบบนั้นหรอกเพราะคนที่บอกได้คือพระพุทธเจ้า
เพราะคนที่จะบอกว่าใครเป็นอริยบุคคลชั้นไหนก็บอกได้เฉพาะเป็นคือมีปัญญาถึงระดับนั้นแล้ว
คนสมัยนี้แห่แหนกันบอกต่อๆกันไปว่านั่นอริยะนั่นอรหันต์ผิดอย่างมหันต์เลยค่ะพูดด้วยไม่รู้และไม่มีปัญญา
:b12:
:b32: :b32:


คิกๆๆเพ้อเจ้อน่ารำคาญ

รำคาญเป็นกิเลสอกุศลสะสมในจิตแล้วค่ะ
ถ้าไม่รู้สึกตรงที่มีที่ตัวก็แปลว่าขาดสติ555
แสดงว่าที่ทำๆมาตลอดชีวิตขาดสติปัญญา
:b32: :b32:



รูปภาพ

onion

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2020, 20:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


เห็นไม่ใช่เรา
เราเห็นอะไร
และคิดอะไร
ตอนคิดไม่มีเห็น
ตอนเห็นก็ไม่มีคิด
เห็นเกิดและดับภายในตาดำ
คิดเกิดและดับภายในใจที่หทยวัตถุ
เห็นกะคิดเป็นคนละขณะจิตไม่เกิดร่วมกัน
ตอนนี้เห็นอะไรคิดอะไรอยู่บอกว่าคิดพร้อมเห็นไปด้วยคือคิดเห็นผิดไตร่ตรองให้เข้าใจสิ
:b32: :b32:


ฟุ้งซ่าน

:b12:
เราน่ะ
ตัวเรานั่นแหละ
สิกขา แปลว่า ศึกษาพระพุทธศาสนาถูกตรงตามคำสอนมั๊ย
หรือเอาแต่อ่านตำราแล้วท่องจำแบบตำราเรียนแล้วก็คิดว่ามีความรู้555
ปัญญาตรงตามคำสอนต้องรูู้ความจริงที่ตัวเองกำลังมีเดี๋ยวนี้ตรงกับคำสอนคำไหน555
เอาแต่จำบัญญัติคำต่างๆแล้วก็คิดแต่จะเอาตัวตนไปทำตามความคิดเห็นผิดเข้าใจผิดของตัวเองไม่ฟังเลย
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงและเข้าถึงความจริงที่แท้จริงของทุกๆคำที่พระองค์บัญญัติคือความจริงที่รู้แล้ว
พระพุทธเจ้าแสดงพระธรรมเทศนาเพื่อให้ผู้ที่ฟังเท่านั้นเข้าถึงความจริงของสิ่งที่ตัวเองกำลังมีตอนที่ฟังทันที
พระพุทธเจ้ากล่าวแต่ละคำหลังจากที่ตรัสรู้ให้ผู้ที่ไปเฝ้าฟังและเสด็จไปเทศนาโปรดบุคคลที่จะได้บรรลุธรรม
ผู้ที่ไม่ได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าก็มีแต่ฟังคำที่สาวกอรหันต์กล่าวคำของพระพุทธเจ้าแล้วบรรลุธรรมตอนที่ฟัง
ขอทานโรคเรื้อนได้ไปอ่านตำรามาก่อนฟังธรรมจากพระโอษฐ์มั๊ยรู้ล่วงหน้าไหมว่าจะบรรลุเป็นพระโสดาบัน
คิดว่าจำทุกๆคำในพระไตรปิฏกได้ก็ฉลาดแล้วรู้แล้วงั้นหรือกิเลสเต็มฟังบ้างนะจะได้เริ่มมีปัญญาขึ้นมาบ้าง
https://youtu.be/ceU-b2aJbzo


เห็นแล้วก็ได้แต่ปลง คือ ไปหยิบศัพท์นั่นนี่ของเขามาแล้วก็มามโนนั่นนี่เอาเอง :b32: นี่แหละที่เขาเรียกธรรมปฏิรูปปฏิสังขรณ์ :b13:

อ้างคำพูด:
เอาแต่อ่านตำราแล้วท่องจำแบบตำราเรียนแล้วก็คิดว่ามีความรู้555
ปัญญาตรงตามคำสอนต้องรูู้ความจริงที่ตัวเองกำลังมีเดี๋ยวนี้ตรงกับคำสอนคำไหน555


นั่นแสดงว่าไม่อ่านตำราทางพุทธศาสนาเบย และสื่อว่าตัวคุณโรสและเจ้าสำนักรู้ตรงคำสอน

ถ้ายังงั้นถามนี่ เขาเป็นอะไร


อ้างคำพูด:

นั่งสมาธิแล้ว ลมหายใจแผ่วลงเรื่อยๆ

ผมนั่งสมาธิแล้วประสบกับสภาวะดังนี้

นั่งสมาธิไป จนลมหายใจแผ่วลงๆ มากจนลมหายใจเบามาก ในขณะเกือบไม่มีลมหายใจนั้น กลับมีสภาวะฟุ้งซ่านเกิดขึ้น เพราะเหมือนกับจิตไม่สามารถเกาะลมหายใจไว้ได้อีกแล้ว เพราะลมมันแผ่วมาก แผ่วเหมือนไม่หายใจ เอาจิตไปจับคำภาวนาก็ไม่ได้ เพราะจับแปปเดียวมันก็ปล่อยอีก

แล้วแบบนี้พอลมหายใจผมหายไป ผมควรจะเอาจิตไปจับกับอะไรครับ

นั่งแบบ ดูลมหายใจเข้าออก นับ 1,2,3

:b12:
ที่เรากำลังเห็นอยู่เนี่ยเรียกว่าอะไร
1.คิดเองก็ต้องบอกว่าเราเห็นแน่นอน
2.คิดตามคำสอนคือจิตเห็นไม่ใช่เราเห็น
ตอบถูกก็ต้องเป็นข้อ2แสดงว่าเข้าใจ
ถามต่อไปว่าแล้วจิตเห็นที่กำลังเห็นเนี่ยอยู่ตรงไหน
1.คิดเองก็จะบอกว่าจิตเห็นอยู่ทุกๆที่ตรงที่มีสิ่งต่างๆให้เห็น
2.คิดตามคำสอนก็ต้องบอกว่าจิตเห็นเกิดที่ตาดับในลูกกะตา
ตกลงเป็นเราคิดเห็นอยู่เหมือนเดิมหรือว่าเริ่มคิดเห็นถูกตามได้ตอนอ่านคำตอบข้อที่2คะ
ลืมตาดูให้มันรู้จักความปกติของธัมมะตามคำสอนที่ตัวเองให้มันเข้าใ จไม่ต้องคิดไปทำหลับตาทำอิทธิฤทธิ์
:b32: :b32:


ไม่ต้องไปตั้งชื่อให้มันหรอก เห็นก็เห็น คิกๆๆ ได้ยินก็ได้ยิน ได้กลิ่นก็ได้กลิ่น ลิ้มรสก็ลิ้มรส สัมผัสก็สัมผัส คิดก็คิด :b12:

:b12:
หัดอ่านและคิดให้มันตรงคำทีละคำให้เข้าใจ
ไม่ใช่อ่านไปปรุงแต่งความคิดตัวเองแย้งเหยงๆไป
อ่านและเข้าใจตามให้ถูกตรงที่มีขอบเขตของกายตัวเองไม่คิดนอกกรอบ
:b12:
:b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2020, 20:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

ที่เรากำลังเห็นอยู่เนี่ยเรียกว่าอะไร
1.คิดเองก็ต้องบอกว่าเราเห็นแน่นอน
2.คิดตามคำสอนคือจิตเห็นไม่ใช่เราเห็น
ตอบถูกก็ต้องเป็นข้อ2แสดงว่าเข้าใจ
ถามต่อไปว่าแล้วจิตเห็นที่กำลังเห็นเนี่ยอยู่ตรงไหน
1.คิดเองก็จะบอกว่าจิตเห็นอยู่ทุกๆที่ตรงที่มีสิ่งต่างๆให้เห็น
2.คิดตามคำสอนก็ต้องบอกว่าจิตเห็นเกิดที่ตาดับในลูกกะตา
ตกลงเป็นเราคิดเห็นอยู่เหมือนเดิมหรือว่าเริ่มคิดเห็นถูกตามได้ตอนอ่านคำตอบข้อที่2คะ
ลืมตาดูให้มันรู้จักความปกติของธัมมะตามคำสอนที่ตัวเองมีให้มันเข้าใ จไม่ต้องคิดไปทำหลับตาทำอิทธิฤทธิ์
:b32: :b32:


ย้ำอีกทีว่า คิดแบบสำนักคุณโรสเนี่ยนะ สักวันเถอะคงเอาไม้เสียบลูกชิ้นแทงตา แทงหู ตัดเส้นเอ็น :b32:

:b12:
อ่านเข้าใจถูกตัวแลัวรู้สึกถูกตัวไหมว่าไม่มีตัวหรือมีแต่อคติในใจแย้งไปข้างๆคูๆบอกว่าคิดให้ตรงตัวตรงคำ
อ่านให้เข้าใจให้ละเอียดทุกคำเทียบตามตรงที่ตัวตนตัวเองมีหลายๆรอบไม่เติมความคิดเห็นตัวเองลงไปนะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2020, 21:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
เข้าใจไหมว่าอ่านละเอียดๆคิดให้ตรงคำเข้าใจความหมายทีละคำตรงๆต้องใช้สมาธิอ่านให้ตรงที่กายตัวเองมี
ทบทวนตัวเองจากร่างกายที่ได้มาแล้วที่ยังมีจิตครองร่างนี้อยู่คิดตามจนกว่าจะตรงเข้าใจคำว่าตรงตรงมั๊ยคะ
rolleyes rolleyes rolleyes
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


เห็นไม่ใช่เรา
เราเห็นอะไร
และคิดอะไร
ตอนคิดไม่มีเห็น
ตอนเห็นก็ไม่มีคิด
เห็นเกิดและดับภายในตาดำ
คิดเกิดและดับภายในใจที่หทยวัตถุ
เห็นกะคิดเป็นคนละขณะจิตไม่เกิดร่วมกัน
ตอนนี้เห็นอะไรคิดอะไรอยู่บอกว่าคิดพร้อมเห็นไปด้วยคือคิดเห็นผิดไตร่ตรองให้เข้าใจสิ
:b32: :b32:


ฟุ้งซ่าน

:b12:
เราน่ะ
ตัวเรานั่นแหละ
สิกขา แปลว่า ศึกษาพระพุทธศาสนาถูกตรงตามคำสอนมั๊ย
หรือเอาแต่อ่านตำราแล้วท่องจำแบบตำราเรียนแล้วก็คิดว่ามีความรู้555
ปัญญาตรงตามคำสอนต้องรูู้ความจริงที่ตัวเองกำลังมีเดี๋ยวนี้ตรงกับคำสอนคำไหน555
เอาแต่จำบัญญัติคำต่างๆแล้วก็คิดแต่จะเอาตัวตนไปทำตามความคิดเห็นผิดเข้าใจผิดของตัวเองไม่ฟังเลย
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงและเข้าถึงความจริงที่แท้จริงของทุกๆคำที่พระองค์บัญญัติคือความจริงที่รู้แล้ว
พระพุทธเจ้าแสดงพระธรรมเทศนาเพื่อให้ผู้ที่ฟังเท่านั้นเข้าถึงความจริงของสิ่งที่ตัวเองกำลังมีตอนที่ฟังทันที
พระพุทธเจ้ากล่าวแต่ละคำหลังจากที่ตรัสรู้ให้ผู้ที่ไปเฝ้าฟังและเสด็จไปเทศนาโปรดบุคคลที่จะได้บรรลุธรรม
ผู้ที่ไม่ได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าก็มีแต่ฟังคำที่สาวกอรหันต์กล่าวคำของพระพุทธเจ้าแล้วบรรลุธรรมตอนที่ฟัง
ขอทานโรคเรื้อนได้ไปอ่านตำรามาก่อนฟังธรรมจากพระโอษฐ์มั๊ยรู้ล่วงหน้าไหมว่าจะบรรลุเป็นพระโสดาบัน
คิดว่าจำทุกๆคำในพระไตรปิฏกได้ก็ฉลาดแล้วรู้แล้วงั้นหรือกิเลสเต็มฟังบ้างนะจะได้เริ่มมีปัญญาขึ้นมาบ้าง
https://youtu.be/ceU-b2aJbzo


เห็นแล้วก็ได้แต่ปลง คือ ไปหยิบศัพท์นั่นนี่ของเขามาแล้วก็มามโนนั่นนี่เอาเอง :b32: นี่แหละที่เขาเรียกธรรมปฏิรูปปฏิสังขรณ์ :b13:

อ้างคำพูด:
เอาแต่อ่านตำราแล้วท่องจำแบบตำราเรียนแล้วก็คิดว่ามีความรู้555
ปัญญาตรงตามคำสอนต้องรูู้ความจริงที่ตัวเองกำลังมีเดี๋ยวนี้ตรงกับคำสอนคำไหน555


นั่นแสดงว่าไม่อ่านตำราทางพุทธศาสนาเบย และสื่อว่าตัวคุณโรสและเจ้าสำนักรู้ตรงคำสอน

ถ้ายังงั้นถามนี่ เขาเป็นอะไร


อ้างคำพูด:

นั่งสมาธิแล้ว ลมหายใจแผ่วลงเรื่อยๆ

ผมนั่งสมาธิแล้วประสบกับสภาวะดังนี้

นั่งสมาธิไป จนลมหายใจแผ่วลงๆ มากจนลมหายใจเบามาก ในขณะเกือบไม่มีลมหายใจนั้น กลับมีสภาวะฟุ้งซ่านเกิดขึ้น เพราะเหมือนกับจิตไม่สามารถเกาะลมหายใจไว้ได้อีกแล้ว เพราะลมมันแผ่วมาก แผ่วเหมือนไม่หายใจ เอาจิตไปจับคำภาวนาก็ไม่ได้ เพราะจับแปปเดียวมันก็ปล่อยอีก

แล้วแบบนี้พอลมหายใจผมหายไป ผมควรจะเอาจิตไปจับกับอะไรครับ

นั่งแบบ ดูลมหายใจเข้าออก นับ 1,2,3

:b12:
ที่เรากำลังเห็นอยู่เนี่ยเรียกว่าอะไร
1.คิดเองก็ต้องบอกว่าเราเห็นแน่นอน
2.คิดตามคำสอนคือจิตเห็นไม่ใช่เราเห็น
ตอบถูกก็ต้องเป็นข้อ2แสดงว่าเข้าใจ
ถามต่อไปว่าแล้วจิตเห็นที่กำลังเห็นเนี่ยอยู่ตรงไหน
1.คิดเองก็จะบอกว่าจิตเห็นอยู่ทุกๆที่ตรงที่มีสิ่งต่างๆให้เห็น
2.คิดตามคำสอนก็ต้องบอกว่าจิตเห็นเกิดที่ตาดับในลูกกะตา
ตกลงเป็นเราคิดเห็นอยู่เหมือนเดิมหรือว่าเริ่มคิดเห็นถูกตามได้ตอนอ่านคำตอบข้อที่2คะ
ลืมตาดูให้มันรู้จักความปกติของธัมมะตามคำสอนที่ตัวเองมีให้มันเข้าใจไม่ต้องคิดไปทำหลับตาทำอิทธิฤทธิ์
:b32: :b32:

เข้าใจไหมว่าคนที่ตาไม่บอดและหูไม่หนวกถึงจะฟังคำสอนของตถาคตเข้าใจจึงจะดับความคิดเห็นผิดได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2020, 01:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

คุณกรัชกาย
เข้าใจหรือยังว่า
ตัวตนคนกำลังเห็นผิด
จนกว่าจะเริ่มฟังความจริง
แล้วเข้าใจว่าจิตเห็นสีไม่ได้เห็นคนสัตว์วัตถุ
:b16:
อนุสาสนียปาฏิหาริย์คือ
คำสอนของพระพุทธเจ้าที่ทำให้ผู้ฟังเข้าใจสิ่งที่เห็นทันทีดับเห็นผิดได้ทันทีเกิดเข้าใจเห็นถูกตามได้ทันที


เอาหลักมาตั้งให้ดูนะ

จักขุ+รูป
โสต+สัทท
ฆาน+คันธ
ชิวหา+รส
กาย+โผฏฐัพพ
มโน+ธัมม

ไหนลองว่ามาสีอยู่ตรงไหน

cool
ร่างกายทั้งหมดทุกอวัยวะเลยคือมหาภูตรูป
มหาภูตรูปไม่ใช่สภาพรู้เป็นรูปธรรม=ไม่รู้สึกอะไรเลย
แต่มีนามธรรมเป็นสภาพรู้เป็นธาตุรู้เป็นสภาพที่เป็นนามไปรู้ว่ามีรูป
และรูปที่ถูกรู้ตอนที่มองเห็นก็ไม่ใช่ตาเพราะทุกคนมองตาตัวเองไม่เห็น...อิอิอิ
ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อเข้าใจความจริงที่กำลังมีตรงตามที่กำลังฟังไม่เข้าใจหรือคะ
:b12:
คำว่าจักขุแปลว่าตา
ตาคือมหาภูตรูป
มหาภูตรูปคือธาตุ4
ตาเกิดจากการรวมตัวของธาตุ4
จะรู้ว่ามีมหาภูตรูปตรงไหนต้องแตะต้องสัมผัสไม่ใช่คิดเอา
ที่ลืมตาดูมองเห็นโน่นนั่นนู้นนั่นน่ะค่ะไม่รู้ว่าตาไม่เห็นเพราะตาไม่รู้อะไรเลยที่เห็นคือจิตเห็นค่ะ
และจิตเห็นเกิดเห็นรูปที่ปรากฏได้เพียง1รูปคือสีสันวรรณะตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้อีก27รูปเห็นไม่ได้
และรูปที่ปรากฏให้เห็นก็ไม่ใช่มหาภูตรูปแต่เป็นอุปาทายรูปที่ใดมีมหาภูตรูปที่นั่นมีสีกลิ่นรสโอชาประกอบอยู่
:b12:
:b4: :b4:
https://youtu.be/x7ovq2R30a8



เพ้อเจ้อน่ารำคาญ :b13: เสียเวลาเปล่า

:b32:
บอกความจริงให้รู้สึกตัวยังคิดไม่ได้อยู่อิ๊กกกก555
มหาภูตรูปคือรูปธรรม
จิต/เจตสิกคือนามธรรม
นิพพานคือนิพพาน
ทั้งหมดเป็นธัมมะจึงเป็นเราไม้ได้...เออเนาะ
ไม่เข้าใจเหรอว่าไม่ใช่ตัวตนไม่ใช่คน
ที่คิดว่ามีคนแล้วนั้นน่ะเรียกว่าอัตตาคือ
สักกายทิฏฐิ=เห็นผิดว่ามีตัวตนคือมีอุปาทานขันธ์ยึดมั่นถือมั่นว่ามีตัวเราไม่รู้ว่าตัวตนไม่รู้=มีกิเลสอวิชชา
ทางโลกกับทางธรรมไม่ได้แปลกแยกออกไปจากปกติเพื่อไปทำอะไรเพราะมันมีทั้งหมดแล้วทั้งตัวตนน่ะ
ก็บอกแล้วว่าธรรมทั้งหลายเกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัยที่กำหนดมาแล้วไม่ได้ทำบอกให้คิดให้ตรงทีละ1ทาง
:b32: :b32:
:b12:
จะไปรู้ความจริงของเห็นตอนไหน
ปสาทรูปคือรูปพิเศษที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้คนเดียว
จิตเห็นเกิดจากมีจักขุปสาทะรูปตรงกลางตาที่รับกระทบรูปที่ถูกเห็น
คนตาบอดเกิดจากไม่มีจักขุปสาทะรูปคือตาพิการจึงมองไม่เห็นส่วนคนตายมีตาไม่มีจิตหมดทางรู้จักเห็น
บอกแล้วใช่ไหมว่าเลือกเห็นไม่ได้เพราะทุกคนที่มีตาเนื้อและมองเห็นจากมี3ธัมมะประสานกันจึงเกิดเห็นได้
จักขุวิญญาณ(จิตเห็น)=จิต+จักขุปสาทะรูป(รูปใสพิเศษตรงกลางตา)+อุปาทายรูป(คือสีอยู่ที่มหาภูตรูป)
จิตได้ยินเกิดจากมีโสตปสาทะรูปรับกระทบเสียงอยู่ลึกๆภายในหูโน่นไม่ว่าจมูกลิ้นกายใจก็มีจุดที่รับเฉพาะ
:b4: :b4:


ที่พูดที่ว่ามาที่รำพันมานั่นน่ะ มันอยู่ในหนังสือชั้นจูฬตรี :b32:

:b12:
สิ่งที่เห็นได้คือ
สิ่งที่กระทบตาดำได้
เห็นไม่เกิดนอกตาดำแปลว่า
อะไรก็ตามที่ไม่อยู่ตรงหน้า=ไม่มี
เห็นด้านหน้าดับทันทีด้านหลังก็มีไม่ได้ค่ะ
:b16:
จิตไม่อยู่นอกกายตัวเอง
มองเห็นแขนตัวเองได้ไหม
ไหนตรงไหนคือแขนจับดูสิ
ถ้าแขนกระทบตาได้ตาแตกแล้ว
สีตรงที่มหาภูตรูปมันสะท้อนแสงเข้าตา
คิดว่าเห็นแขนตัวเองใช่ไหมจับแขนจึงรู้ว่ามีที่ตั้งเมื่อสัมผัส
ไม่มีแขนแต่มีความรู้สึกกระทบอุ่นบ้างแข็งบ้างนุ่มบ้างทีละ1อย่าง...ไหนแขนอยู่ไหน
:b12:
:b4: :b4:


คนที่อ่านหนังสือแล้วตีความผิดแบบคุณโรสมีแต่ก่อให้เกิดมิจฉาทิฏฐิหนาขึ้นๆ


:b12:
คนไม่ฟังเนี่ยไม่มีปัญญาเข้าใจถูกตรงตามได้เลยอ่ะ
ระลึกตามคำสอนของพระพุทธเจ้าได้ถูกตรงทางได้ทีละ1ทาง
เพราะความจริงตรงสัจจะตามคำสอนของพระพุทธเจ้าแสดงตรงทางทีละ1ทาง
เพราะว่าแต่ละ1ทางมันเกิดดับทีละ1ขณะจิตตรงทีละ1ทางไม่เกิดพร้อมกันแล้วก็มีครบทั้ง6ทางแล้วไม่ได้ทำ
:b34:
สวากขาตธรรมตรัสไว้ชอบแล้วทุกคำไม่เปลี่ยนแปลงสัจจะไปจากปัจจุบันแม้แต่คำเดียวไม่เข้าใจเหรอเออ
เห็นเป็นธัมมะเป็นจิตไม่ใช่เราและตอนนี้เราน่ะเห็นผิดคิดผิดพูดผิดเพราะไม่พูดตรงสัจจะให้ตรงความจริง
เราเห็นคืออัตตาตัวตน...แต่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงของเห็นตรงสัจจะทรงแสดงว่าไม่มีเราในเห็น555
มื่อใด๋สิฮู้เรื่องน๊ออออ....บอกให้ฟังกะบ่ฟัง...บ่ฮู้จักวาปัญญาของเจ้าของบ่มีไปท่องจำแต่คำที่บ่แมนปัญญา
:b32:
:b32: :b32:

:b12:
คนที่อ่านและตีความไม่แตกคือคุณนะคุณกรัชกาย
โรสว่าโรสเขียนออกจะละเอียดถ้าคิดตามแล้วรู้สึก
ที่ตาตัวเองที่แขนตัวเองน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้วค่ะ
ลองอ่านทบทวนแต่ละคำช้าๆเวลาอ่านเจอคำที่
เกี่ยวกะตาก็รู้สึกตัวที่ตาตัวเองให้ตรงคำที่อ่าน
เวลาอ่านเกี่ยวกับแขนก็ให้จับและรู้สึกที่แขน
ให้มันตรงกับคำที่อ่านเนี่ยถึงจะเรียกได้ว่าเป็น
คนที่เริ่มคิดตามตรงความรู้สึกที่ตัวตรงคำที่อ่านตามได้
ทีนี้ก็เริ่มอ่านทบทวนใหม่ให้ตรงทำความรู้สึกตัวให้ถูกตัวด้วย
ไม่ใช่คนตายเนี่ยยังรู้สึกตัวถูกตัวตนตรงกับคำที่อ่านได้อยู่น๊า
ให่หัวซะเถาะเนาะ...ฮ่ะๆๆๆๆๆฮ๊ะฮ่าๆไไไๆไไไไๆๆๆฮิ้วววววววๆๆๆ555
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2020, 10:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
คำสอนของพระพุทธเจ้า
เข้าใจความจริงได้ตรงที่
มีกายใจของตนเองเท่านั้น
จะไปพูดว่าคนนั้นคนนี้เป็นอริยะเป็นอรหันต์น่ะ
ไม่มีใครบอกได้แบบนั้นหรอกเพราะคนที่บอกได้คือพระพุทธเจ้า
เพราะคนที่จะบอกว่าใครเป็นอริยบุคคลชั้นไหนก็บอกได้เฉพาะเป็นคือมีปัญญาถึงระดับนั้นแล้ว
คนสมัยนี้แห่แหนกันบอกต่อๆกันไปว่านั่นอริยะนั่นอรหันต์ผิดอย่างมหันต์เลยค่ะพูดด้วยไม่รู้และไม่มีปัญญา
:b12:
:b32: :b32:


คิกๆๆเพ้อเจ้อน่ารำคาญ

:b32:
คนที่เพ้อบ่นธัมมะน่ะคือ
คนที่แอบเอาบัญญัติคำ
ที่เป็นปัญญาของตถาคต
ไปพูดพร่ำเพ้อพรรณนาต่างๆ
เพื่อหวังลาภสักการะจากคนอื่น
ถามสิโรสเพียรอธิบายตรงตามคำสอน
ตรงที่โรสรู้สึกตัวให้ทุกคนเริ่มคิดถูกตัวตามได้...เนี่ยไม่ใช่เพ้อเจ้อเข้าใจไหมเนี่ยๆๆๆ
กำลังมีอัตตาและเอาอัตตาไปทำตามความคิดที่ไปท่องจำทำตามๆกันโดยไม่มีสติระลึกตามคำสอนเลยสักนิด
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2020, 10:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
คำสอนของพระพุทธเจ้า
เข้าใจความจริงได้ตรงที่
มีกายใจของตนเองเท่านั้น
จะไปพูดว่าคนนั้นคนนี้เป็นอริยะเป็นอรหันต์น่ะ
ไม่มีใครบอกได้แบบนั้นหรอกเพราะคนที่บอกได้คือพระพุทธเจ้า
เพราะคนที่จะบอกว่าใครเป็นอริยบุคคลชั้นไหนก็บอกได้เฉพาะเป็นคือมีปัญญาถึงระดับนั้นแล้ว
คนสมัยนี้แห่แหนกันบอกต่อๆกันไปว่านั่นอริยะนั่นอรหันต์ผิดอย่างมหันต์เลยค่ะพูดด้วยไม่รู้และไม่มีปัญญา
:b12:
:b32: :b32:


คิกๆๆเพ้อเจ้อน่ารำคาญ

:b32:
คนที่เพ้อบ่นธัมมะน่ะคือ
คนที่แอบเอาบัญญัติคำ
ที่เป็นปัญญาของตถาคต
ไปพูดพร่ำเพ้อพรรณนาต่างๆ
เพื่อหวังลาภสักการะจากคนอื่น
ถามสิโรสเพียรอธิบายตรงตามคำสอน
ตรงที่โรสรู้สึกตัวให้ทุกคนเริ่มคิดถูกตัวตามได้...เนี่ยไม่ใช่เพ้อเจ้อเข้าใจไหมเนี่ยๆๆๆ
กำลังมีอัตตาและเอาอัตตาไปทำตามความคิดที่ไปท่องจำทำตามๆกันโดยไม่มีสติระลึกตามคำสอนเลยสักนิด
:b32: :b32: :b32:

มีตาอยู่ใช่ไหมคะ
ลาภสักการะคืออะไร
ดูพฤติกรรมคนออกไหม
คนที่เอาบัญญัติคำของตถาคต
ไปกล่าวให้คนขนลาภสักการะมาให้คือใคร
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2020, 10:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
คำสอนของพระพุทธเจ้า
เข้าใจความจริงได้ตรงที่
มีกายใจของตนเองเท่านั้น
จะไปพูดว่าคนนั้นคนนี้เป็นอริยะเป็นอรหันต์น่ะ
ไม่มีใครบอกได้แบบนั้นหรอกเพราะคนที่บอกได้คือพระพุทธเจ้า
เพราะคนที่จะบอกว่าใครเป็นอริยบุคคลชั้นไหนก็บอกได้เฉพาะเป็นคือมีปัญญาถึงระดับนั้นแล้ว
คนสมัยนี้แห่แหนกันบอกต่อๆกันไปว่านั่นอริยะนั่นอรหันต์ผิดอย่างมหันต์เลยค่ะพูดด้วยไม่รู้และไม่มีปัญญา
:b12:
:b32: :b32:


คิกๆๆเพ้อเจ้อน่ารำคาญ

:b32:
คนที่เพ้อบ่นธัมมะน่ะคือ
คนที่แอบเอาบัญญัติคำ
ที่เป็นปัญญาของตถาคต
ไปพูดพร่ำเพ้อพรรณนาต่างๆ
เพื่อหวังลาภสักการะจากคนอื่น
ถามสิโรสเพียรอธิบายตรงตามคำสอน
ตรงที่โรสรู้สึกตัวให้ทุกคนเริ่มคิดถูกตัวตามได้...เนี่ยไม่ใช่เพ้อเจ้อเข้าใจไหมเนี่ยๆๆๆ
กำลังมีอัตตาและเอาอัตตาไปทำตามความคิดที่ไปท่องจำทำตามๆกันโดยไม่มีสติระลึกตามคำสอนเลยสักนิด
:b32: :b32: :b32:

มีตาอยู่ใช่ไหมคะ
ลาภสักการะคืออะไร
ดูพฤติกรรมคนออกไหม
คนที่เอาบัญญัติคำของตถาคต
ไปกล่าวให้คนขนลาภสักการะมาให้คือใคร

มีคนที่คิดว่าตัวเองมีปัญญาแต่ไม่รู้สึกตัวว่าทำด้วยความโลภอยากได้ลาภสักการะ_หนามีตานี่ดูออกมั๊ยล่ะ

:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2020, 10:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
คำสอนของพระพุทธเจ้า
เข้าใจความจริงได้ตรงที่
มีกายใจของตนเองเท่านั้น
จะไปพูดว่าคนนั้นคนนี้เป็นอริยะเป็นอรหันต์น่ะ
ไม่มีใครบอกได้แบบนั้นหรอกเพราะคนที่บอกได้คือพระพุทธเจ้า
เพราะคนที่จะบอกว่าใครเป็นอริยบุคคลชั้นไหนก็บอกได้เฉพาะเป็นคือมีปัญญาถึงระดับนั้นแล้ว
คนสมัยนี้แห่แหนกันบอกต่อๆกันไปว่านั่นอริยะนั่นอรหันต์ผิดอย่างมหันต์เลยค่ะพูดด้วยไม่รู้และไม่มีปัญญา
:b12:
:b32: :b32:


คิกๆๆเพ้อเจ้อน่ารำคาญ

:b32:
คนที่เพ้อบ่นธัมมะน่ะคือ
คนที่แอบเอาบัญญัติคำ
ที่เป็นปัญญาของตถาคต
ไปพูดพร่ำเพ้อพรรณนาต่างๆ
เพื่อหวังลาภสักการะจากคนอื่น
ถามสิโรสเพียรอธิบายตรงตามคำสอน
ตรงที่โรสรู้สึกตัวให้ทุกคนเริ่มคิดถูกตัวตามได้...เนี่ยไม่ใช่เพ้อเจ้อเข้าใจไหมเนี่ยๆๆๆ
กำลังมีอัตตาและเอาอัตตาไปทำตามความคิดที่ไปท่องจำทำตามๆกันโดยไม่มีสติระลึกตามคำสอนเลยสักนิด
:b32: :b32: :b32:

มีตาอยู่ใช่ไหมคะ
ลาภสักการะคืออะไร
ดูพฤติกรรมคนออกไหม
คนที่เอาบัญญัติคำของตถาคต
ไปกล่าวให้คนขนลาภสักการะมาให้คือใคร

มีคนที่คิดว่าตัวเองมีปัญญาแต่ไม่รู้สึกตัวว่าทำด้วยความโลภอยากได้ลาภสักการะ_หนามีตานี่ดูออกมั๊ยล่ะ

:b32: :b32:


คุณโรสไม่มีตา มี ไม่มี

1. ไม่มี
2.มี

ตอบข้อไหน

เข้าใจผิด ตีความผิดเห็นๆ คิกๆๆ

ย้ำอีกที คุณโรสรวมทั้งสำนักบ้านธัมมะด้วย จริงๆนะ กลับไปเริ่มต้นใหม่ ที่พูดที่คิดนั่นเกินภูมิตน (เข้าใจผิดหมด) เริ่มที่ไหน เริ่มที่ ตักบาตรพระเณรตอนเช้าๆ ไหว้พระสวดมนต์ ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ปิดทองฝังลูกนิมิต ไหว้พระบาทจำลอง เป็นต้นไร้เงี้ยไปก่อน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2020, 10:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
คำสอนของพระพุทธเจ้า
เข้าใจความจริงได้ตรงที่
มีกายใจของตนเองเท่านั้น
จะไปพูดว่าคนนั้นคนนี้เป็นอริยะเป็นอรหันต์น่ะ
ไม่มีใครบอกได้แบบนั้นหรอกเพราะคนที่บอกได้คือพระพุทธเจ้า
เพราะคนที่จะบอกว่าใครเป็นอริยบุคคลชั้นไหนก็บอกได้เฉพาะเป็นคือมีปัญญาถึงระดับนั้นแล้ว
คนสมัยนี้แห่แหนกันบอกต่อๆกันไปว่านั่นอริยะนั่นอรหันต์ผิดอย่างมหันต์เลยค่ะพูดด้วยไม่รู้และไม่มีปัญญา
:b12:
:b32: :b32:


คิกๆๆเพ้อเจ้อน่ารำคาญ

:b32:
คนที่เพ้อบ่นธัมมะน่ะคือ
คนที่แอบเอาบัญญัติคำ
ที่เป็นปัญญาของตถาคต
ไปพูดพร่ำเพ้อพรรณนาต่างๆ
เพื่อหวังลาภสักการะจากคนอื่น
ถามสิโรสเพียรอธิบายตรงตามคำสอน
ตรงที่โรสรู้สึกตัวให้ทุกคนเริ่มคิดถูกตัวตามได้...เนี่ยไม่ใช่เพ้อเจ้อเข้าใจไหมเนี่ยๆๆๆ
กำลังมีอัตตาและเอาอัตตาไปทำตามความคิดที่ไปท่องจำทำตามๆกันโดยไม่มีสติระลึกตามคำสอนเลยสักนิด
:b32: :b32: :b32:

มีตาอยู่ใช่ไหมคะ
ลาภสักการะคืออะไร
ดูพฤติกรรมคนออกไหม
คนที่เอาบัญญัติคำของตถาคต
ไปกล่าวให้คนขนลาภสักการะมาให้คือใคร

มีคนที่คิดว่าตัวเองมีปัญญาแต่ไม่รู้สึกตัวว่าทำด้วยความโลภอยากได้ลาภสักการะ_หนามีตานี่ดูออกมั๊ยล่ะ

:b32: :b32:


คุณโรสไม่มีตา มี ไม่มี

1. ไม่มี
2.มี

ตอบข้อไหน

เข้าใจผิด ตีความผิดเห็นๆ คิกๆๆ

ย้ำอีกที คุณโรสรวมทั้งสำนักบ้านธัมมะด้วย จริงๆนะ กลับไปเริ่มต้นใหม่ ที่พูดที่คิดนั่นเกินภูมิตน (เข้าใจผิดหมด) เริ่มที่ไหน เริ่มที่ ตักบาตรพระเณรตอนเช้าๆ ไหว้พระสวดมนต์ ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ปิดทองฝังลูกนิมิต ไหว้พระบาทจำลอง เป็นต้นไร้เงี้ยไปก่อน


คำตอบมันถูกทั้ง2ข้อ
ข้อที่2เป็นเหตุและผลที่ทุกคนมีอัตตา
ข้อที่1เป็นความจริงตรงอริยสัจจธรรม
ถ้าคุณกรัชกายไม่เข้าใจความจริงตรงตามคำสอนของตถาคต
ก็ได้แต่เพ้อเจ้อสงสัยถามไปเรื่อยๆไม่เริ่มฟังเพื่อทำปัญญาของตัวเองไม่ต้องท่องคำแต่มีเป็นแล้วและไม่รู้
https://youtu.be/tElFdU3hcrU
:b12:
:b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2020, 10:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
คำสอนของพระพุทธเจ้า
เข้าใจความจริงได้ตรงที่
มีกายใจของตนเองเท่านั้น
จะไปพูดว่าคนนั้นคนนี้เป็นอริยะเป็นอรหันต์น่ะ
ไม่มีใครบอกได้แบบนั้นหรอกเพราะคนที่บอกได้คือพระพุทธเจ้า
เพราะคนที่จะบอกว่าใครเป็นอริยบุคคลชั้นไหนก็บอกได้เฉพาะเป็นคือมีปัญญาถึงระดับนั้นแล้ว
คนสมัยนี้แห่แหนกันบอกต่อๆกันไปว่านั่นอริยะนั่นอรหันต์ผิดอย่างมหันต์เลยค่ะพูดด้วยไม่รู้และไม่มีปัญญา
:b12:
:b32: :b32:


คิกๆๆเพ้อเจ้อน่ารำคาญ

:b32:
คนที่เพ้อบ่นธัมมะน่ะคือ
คนที่แอบเอาบัญญัติคำ
ที่เป็นปัญญาของตถาคต
ไปพูดพร่ำเพ้อพรรณนาต่างๆ
เพื่อหวังลาภสักการะจากคนอื่น
ถามสิโรสเพียรอธิบายตรงตามคำสอน
ตรงที่โรสรู้สึกตัวให้ทุกคนเริ่มคิดถูกตัวตามได้...เนี่ยไม่ใช่เพ้อเจ้อเข้าใจไหมเนี่ยๆๆๆ
กำลังมีอัตตาและเอาอัตตาไปทำตามความคิดที่ไปท่องจำทำตามๆกันโดยไม่มีสติระลึกตามคำสอนเลยสักนิด
:b32: :b32: :b32:

มีตาอยู่ใช่ไหมคะ
ลาภสักการะคืออะไร
ดูพฤติกรรมคนออกไหม
คนที่เอาบัญญัติคำของตถาคต
ไปกล่าวให้คนขนลาภสักการะมาให้คือใคร

มีคนที่คิดว่าตัวเองมีปัญญาแต่ไม่รู้สึกตัวว่าทำด้วยความโลภอยากได้ลาภสักการะ_หนามีตานี่ดูออกมั๊ยล่ะ

:b32: :b32:


คุณโรสไม่มีตา มี ไม่มี

1. ไม่มี
2.มี

ตอบข้อไหน

เข้าใจผิด ตีความผิดเห็นๆ คิกๆๆ

ย้ำอีกที คุณโรสรวมทั้งสำนักบ้านธัมมะด้วย จริงๆนะ กลับไปเริ่มต้นใหม่ ที่พูดที่คิดนั่นเกินภูมิตน (เข้าใจผิดหมด) เริ่มที่ไหน เริ่มที่ ตักบาตรพระเณรตอนเช้าๆ ไหว้พระสวดมนต์ ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ปิดทองฝังลูกนิมิต ไหว้พระบาทจำลอง เป็นต้นไร้เงี้ยไปก่อน


คำตอบมันถูกทั้ง2ข้อ
ข้อที่2เป็นเหตุและผลที่ทุกคนมีอัตตา
ข้อที่1เป็นความจริงตรงอริยสัจจธรรม
ถ้าคุณกรัชกายไม่เข้าใจความจริงตรงตามคำสอนของตถาคต
ก็ได้แต่เพ้อเจ้อสงสัยถามไปเรื่อยๆไม่เริ่มฟังเพื่อทำปัญญาของตัวเองไม่ต้องท่องคำแต่มีเป็นแล้วและไม่รู้
https://youtu.be/tElFdU3hcrU


อัตตาที่คุณโรสเข้าใจ ได้แก่ อะไร อัตตา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2020, 10:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
คำสอนของพระพุทธเจ้า
เข้าใจความจริงได้ตรงที่
มีกายใจของตนเองเท่านั้น
จะไปพูดว่าคนนั้นคนนี้เป็นอริยะเป็นอรหันต์น่ะ
ไม่มีใครบอกได้แบบนั้นหรอกเพราะคนที่บอกได้คือพระพุทธเจ้า
เพราะคนที่จะบอกว่าใครเป็นอริยบุคคลชั้นไหนก็บอกได้เฉพาะเป็นคือมีปัญญาถึงระดับนั้นแล้ว
คนสมัยนี้แห่แหนกันบอกต่อๆกันไปว่านั่นอริยะนั่นอรหันต์ผิดอย่างมหันต์เลยค่ะพูดด้วยไม่รู้และไม่มีปัญญา
:b12:
:b32: :b32:


คิกๆๆเพ้อเจ้อน่ารำคาญ

:b32:
คนที่เพ้อบ่นธัมมะน่ะคือ
คนที่แอบเอาบัญญัติคำ
ที่เป็นปัญญาของตถาคต
ไปพูดพร่ำเพ้อพรรณนาต่างๆ
เพื่อหวังลาภสักการะจากคนอื่น
ถามสิโรสเพียรอธิบายตรงตามคำสอน
ตรงที่โรสรู้สึกตัวให้ทุกคนเริ่มคิดถูกตัวตามได้...เนี่ยไม่ใช่เพ้อเจ้อเข้าใจไหมเนี่ยๆๆๆ
กำลังมีอัตตาและเอาอัตตาไปทำตามความคิดที่ไปท่องจำทำตามๆกันโดยไม่มีสติระลึกตามคำสอนเลยสักนิด
:b32: :b32: :b32:

มีตาอยู่ใช่ไหมคะ
ลาภสักการะคืออะไร
ดูพฤติกรรมคนออกไหม
คนที่เอาบัญญัติคำของตถาคต
ไปกล่าวให้คนขนลาภสักการะมาให้คือใคร

มีคนที่คิดว่าตัวเองมีปัญญาแต่ไม่รู้สึกตัวว่าทำด้วยความโลภอยากได้ลาภสักการะ_หนามีตานี่ดูออกมั๊ยล่ะ

:b32: :b32:


คุณโรสไม่มีตา มี ไม่มี

1. ไม่มี
2.มี

ตอบข้อไหน

เข้าใจผิด ตีความผิดเห็นๆ คิกๆๆ

ย้ำอีกที คุณโรสรวมทั้งสำนักบ้านธัมมะด้วย จริงๆนะ กลับไปเริ่มต้นใหม่ ที่พูดที่คิดนั่นเกินภูมิตน (เข้าใจผิดหมด) เริ่มที่ไหน เริ่มที่ ตักบาตรพระเณรตอนเช้าๆ ไหว้พระสวดมนต์ ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ปิดทองฝังลูกนิมิต ไหว้พระบาทจำลอง เป็นต้นไร้เงี้ยไปก่อน


คำตอบมันถูกทั้ง2ข้อ
ข้อที่2เป็นเหตุและผลที่ทุกคนมีอัตตา
ข้อที่1เป็นความจริงตรงอริยสัจจธรรม
ถ้าคุณกรัชกายไม่เข้าใจความจริงตรงตามคำสอนของตถาคต
ก็ได้แต่เพ้อเจ้อสงสัยถามไปเรื่อยๆไม่เริ่มฟังเพื่อทำปัญญาของตัวเองไม่ต้องท่องคำแต่มีเป็นแล้วและไม่รู้
https://youtu.be/tElFdU3hcrU


อัตตาที่คุณโรสเข้าใจ ได้แก่ อะไร อัตตา

:b32:
เอ้าาาา...ยังจะมาถามคนอื่นอีก...สงสัยไหมว่าทำไมตัวเองถึงมีตา555(ไม่รู้ตัวว่ากำลังมีอุปาทานขันธ์)
คำสอนของพระพุทธเจ้าถ้ารู้สึกตัวจะไม่ถามใคร...ตัวเองน่ะหยุดไปไหนต่อไหนเพื่อทำฟังบ้างมั๊ยยย
เพราะอะไรทราบไหมคะ...เพราะความจริงรู้ตรงตามคำสอนได้ตอนที่ฟังมีตาไม่บอดและหูไม่หนวกค่ะ
:b32: :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 268 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17, 18  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 48 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร