วันเวลาปัจจุบัน 16 เม.ย. 2024, 19:22  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.พ. 2020, 05:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


รวมธรรมคำสอนหลวงปู่คำดี ปภาโส

“...ความจริง “จิตใจ” ของเราเองเป็นตัวก่อทุกข์ สังเกตได้จากพระอรหันตสาวกทั้งหลาย เมื่อท่านมีความรู้ มีปัญญาคุ้มครองรักษาใจท่านดีแล้ว ท่านก็ไม่มีทุกข์ เพราะท่านไม่ปรารถนาในสิ่งต่างๆ เมื่อเราประสบกับรูป กลิ่น เสียง หรืออื่นๆ ก็เพราะใจเรามีตัณหา ปรารถนา ทะเยอทะยานยินดียินร้ายในสิ่งเหล่านั้น ทำให้เราเป็นทุกข์ ไม่ใช่ว่า รูป รส กลิ่น เสียง โผฏฐัพพะ หรือสิ่งอื่นๆ ที่จะได้มาเผาเราให้ร้อนเป็นทุกข์ ตัวของเราเองที่เป็นไฟมาคอยเผาตัวเอง...”

“...บุคคลที่มีทาน มีศีล แต่ขาดการภาวนานั้น เปรียบเหมือนบุคคลที่มีเสบียงพร้อมแล้ว มีร่างกายที่สมบูรณ์มีกำลังวังชาที่ดี แต่บุคคลนั้นเป็นบุคคลที่ตาบอด เขาย่อมไม่สามารถจะเดินทางไปสู่พระนิพพานได้...”

เมื่อจิตใจรวมลงได้ละเอียดเป็นหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะมีสัญญาอยู่บ้างก็ตาม ให้เรากำหนดนิ่งเฉย คำว่า “นิ่งเฉย” เปรียบเหมือนกับนายพรานดักเนื้อ เขาจะนั่งอยู่นิ่งๆ ไม่เคลื่อนไหว แต่ตาของเขาจะมองดูสัตว์ต่างๆ ที่จะดักฉันใด การตั้งสติกำหนดจิตก็ฉันนั้น...”

“...ให้พากันสนใจเรื่องการภาวนา เราบังคับจิตใจไว้เป็นของง่าย เพราะเป็นของมีอยู่กับตัว ไม่ต้องซื้อไม่ต้องขอ ไม่ต้องแลกเปลี่ยน เป็นสิ่งมีประโยชน์มาก...”

“...ถ้าเราบำเพ็ญความสงบได้แล้ว มีประโยชน์ทั้งทางโลกและทางธรรม...”

“...เรื่องของนิมิตนี้จะเกิดหรือไม่เกิดไม่สำคัญ เพราะว่าการที่เราทำสมาธิภาวนา ก็เพื่อมุ่งให้เกิดความสงบภายในจิตใจเท่านั้น“...”

“...ถ้าผู้ปฏิบัติสามารถทำจิตใจของตนให้สงบ เป็นอารมณ์เดียวได้แล้วก็พอเท่านั้น ไม่มีนิมิตเกิดขึ้น ก็ไม่เป็นไรการภาวนาท่านต้องการให้เราปราบกิเลสของเราเท่านั้น คือเห็นความโลภ เห็นความโกรธของตน เห็นความหลงของตน เห็นราคะของตน เห็นมานะทิฐิของตน...”

“...ถึงแม้ว่าบุคคลใดจะทำสมาธิได้ดี จะได้รับความสุขขนาดไหนก็ตาม หรือจะได้อภิญญาเพียงใดก็ตาม ถ้า “ไตรลักษณญาณ” ยังไม่เกิดแล้ว ก็ยังนับว่าเป็น “มิจฉาสมาธิ” เป็นสมาธิที่ยังผิด ยังอยู่ในวงเขตที่ผิด...”

“...บางคนภาวนาไม่อยากเห็นภาพต่างๆ เช่น นรก สวรรค์ เทวดา เป็นต้น การที่ได้เห็นสิ่งเหล่านี้ไม่มีอะไรแปลก ที่ว่าไม่แปลกก็เพราะว่า เมื่อเราเห็นแล้ว กิเลสของเราก็ยังอยู่เหมือนเดิม บางคนแถมยังทำให้เกิดกิเลสเพิ่มมากขึ้นอีกเสียด้วย คือถือว่าตนเองเป็นผู้วิเศษ ที่สามารถเห็นสิ่งต่างๆ เหล่านั้นได้ เลยไม่ยอมกราบไหว้ใครทั้งสิ้น จนกลายเป็น สัคคาวรณ์ มัคคาวรณ์ ปิดกั้นทางมรรค ทางผล ทางนิพพาน ไปโดยปริยาย เป็นความเห็นที่ผิดจากหลักศาสนา

“...พวกเราท่านพากันฝึกหัดสติลูบๆ คลำๆ กันอยู่อย่างไรเล่า จึงมิรู้ช่องแนวทางพ้นทุกข์เสียที ด้วยเหตุนี้ ขอให้พากันยึดหลักสติปัฏฐาน ๔ เป็นหลักฝึกสติให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้...”

“...บรรดาสิ่งสมมุติที่เราไปยึดถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของเรานั้น ก็จะได้เพียงชีวิตหนึ่งๆ เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นสามี ภรรยา หรือสมบัติต่างๆ เมื่อเราตายไปแล้ว เราจะยึดถือเป็นกรรมสิทธิ์ของเราอีกไม่ได้ เราจะเอาสิ่งต่างๆ เหล่านั้นติดตามไปสวรรค์ นรก หรือที่ไหนๆ ก็ไม่ได้ ตรงกับคำว่า สมบัติของโลก ก็ต้องอยู่ในโลก...”

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่คำดี ปภาโส








บ่ทวยผันดูดวง
บ่ทวงผีปัวบ้า
บ่อวดกล้าถือเงินทอง
บ่ละครองบิณฑบาต
เด็ดขาดฉันมื้อเดียว

หลวงปู่พัน ฐิตธัมโม
วัดป่าน้ำภู อ.เมือง จ.เลย









“ ความดีก็ตาม ความชั่วก็ตาม ทุกอย่างมีกาล มีเวลาหมด จะให้ผลตอนไหน ก็แล้วแต่เหตุปัจจัยที่เราทำเราสร้างขึ้น พวกเราก็เหมือนกัน ยังไม่พอก็สร้างกันไปก่อน บำเพ็ญไปก่อน ฝึกฝนอบรมจิตใจตนเอง สร้างคุณงามความดี ให้เกิดให้มีขึ้นแก่ตน ไม่ได้ทำเพื่อใคร ทำเพื่อตนเองนะ ”

คติธรรม คำสอน
หลวงพ่อสมบูรณ์ กนฺตสีโล
วัดป่าสมบูรณ์ธรรม อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก








เรื่อง "พระรัตนตรัยเป็นสรณะเป็นที่พึ่งอันเลิศเลอสูงสุด สามารถช่วยให้พ้นจากอบายภูมิ"
ถาม : การเปิดเทปธรรมะให้ฟังเมื่อจิตสงบนั้นจะช่วยให้ได้สุคติหรือไม่?

หลวงพ่อ : การเปิดเทปให้ฟังบางทีคนไข้ถ้าตั้งใจจดจ่อฟังก็มีอานิสงส์ให้สุคติได้ แม้ว่าคำเตือนเพียงคำเดียวว่า จงทำสติระลึกถึงคุณพระคุณเจ้านะ เพียงแค่นี้เขาระลึกพระพุทโธ ธัมโม สังโฆ ในขณะนั้นก็สามารถที่จะไปสุคติได้ เช่น มัฏฐกุณฑลี ซึ่งเจ็บป่วยหนัก บิดาเป็นคนขี้เหนียว ไม่หายามารักษาพระพุทธเจ้าพิจารณาเห็นแล้วว่า เด็กคนนี้ในวันพรุ่งนี้จะตาย เมื่อตายลงไปแล้วจะตกนรก พระองค์ก็เสด็จไปโปรด พระองค์ทรงเปล่งรัศมีไปเตือนให้รู้ว่า พระองค์เสด็จมาโปรด นายมัฏฐกุณฑลีหันกลับมามองดูพระพุทธเจ้าเพียงแว๊บเดียว แล้วก็เกิดความเลื่อมใสขึ้นมา “โอ้โฮ้ ! พระพุทธเจ้าอัศจรรย์หนอ” แล้วก็ตาย ตายแล้วไปเกิดเป็น "เทพบุตร" อันนี้เป็นตัวอย่าง

โอวาทธรรมหลวงพ่อพุธ ฐานิโย











...ทำได้ก็ทำ ถ้าทำไม่ได้ก็ปลงเสีย
ช่างมันเถอะ อะไรจะเกิดก็เกิด
เพราะของต่างๆในโลกนี้มันก็ไม่มีอะไรที่ถาวร

..ชีวิตของเราก็ยังไม่ถาวรเลย
เรามากังวลกับเรื่องราวต่างๆทำไม
พอเราตายไป
เรื่องราวต่างๆมันก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม

..โลกนี้มันไม่ได้มีไว้เพื่อให้เรามาสะสม
มาห่วงมากังวลกับเรื่องราวต่างๆ
"โลกนี้มีไว้เพื่อให้เรา
ได้มาบำเพ็ญกิจที่จะต้องบำเพ็ญ"
ก็คือ..ชำระจิตใจของเราเท่านั้นเอง

..ชำระความโลภ ความโกรธ ความหลง
ความอยากต่างๆให้หมดสิ้นไปจากจิตจากใจ
เพราะเมื่อไม่มีสิ่งเหล่านี้อยู่ในจิตใจแล้ว
ปัญหาต่างๆก็จะหมดไป
เราจะเห็นเรื่องต่างๆว่า
เป็นเรื่องธรรมดาเป็นปกติ.
.......................................
.
จุลธรรมนำใจ4 กัณฑ์238
ธรรมะบนเขา 30/7/2549
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี












#การพิจารณาจะให้ถอดถอนความรักนี้ จึงต้องแยกดูให้เห็นชัดเจนว่ามันน่ารักที่ตรงไหน น่าชอบใจที่ตรงไหน นี่คืออุบายของปัญญาคลี่คลายเข้าไปดูสิ่งนั้นๆ ให้เห็นชัดเจน หลายครั้งหลายหนจิตย่อมเกิดความซึ้งความเข้าใจด้วยอุบายของปัญญา แล้วถอดถอนตนเข้ามาได้โดยลำดับ ความรักก็เพลาลงไปผ่อนลงไป

ความรักความชังเมื่อสิ่งหนึ่งผ่อนมันย่อมผ่อนไปตาม ๆ กัน ความเกลียดความโกรธก็ผ่อนไปตาม ๆ กัน จนผลสุดท้ายสิ่งที่ไปรักไปเกลียดไปโกรธนั้น ก็เป็นสภาพแห่งความจริงอันหนึ่งๆ เท่านั้น ไม่เห็นมีอะไรนอกจากผู้นี้ไปเป็นเสียเอง ไปรักไปชอบไปเกลียดไปโกรธด้วยความโง่เง่าเขลาปัญญาของตนเท่านั้น จิตก็ทราบทั้งภายนอก ทราบทั้งตัวเป็นผู้ไปก่อเหตุและทราบทั้งวิธีแก้ไขถอดถอนสิ่งเหล่านี้ จิตก็เริ่มก้าวเข้าสู่ความเป็นปกติโดยลำดับ สิ่งกวนใจทั้งหลายเหล่านี้ก็มีน้อยลงเพราะการกลั่นกรองอยู่เสมอ จนผลสุดท้ายสิ่งภายนอกถูกพินิจพิจารณาจนเข้าถึงขั้นความจริงแล้วปล่อยวางเข้ามาได้โดยลำดับ จนกระทั่งปล่อยวางได้โดยสิ้นเชิงเพราะอุบายของสติปัญญาผู้พิจารณาแก้ไขถอดถอน จิตย่อมเข้าสู่ความเป็นตัวของตัวได้โดยลำดับ

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 32 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร