วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 06:53  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ม.ค. 2020, 06:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


ให้ทานก่อนกิน ถือศีลก่อนไป ทำใจก่อนนอน

ให้ทานก่อนกิน ของที่เราจะให้ทานอย่าเพิ่งไปกินก่อน อย่าให้เป็นของเศษเดน ถ้าเราไปกินก่อนจะได้อานิสงน้อย ดังนั้นสิ่งใดที่จะให้ทานอย่าเพิ่งไปแตะต้อง ให้รักษาความบริสุทธิ์ของทานของเราไว้

"สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง โหนตุ"
ทานัง เม ปริสุทธัง ทานเป็นของบริสุทธิ์ ก็คือเราไม่กินก่อน ให้ทานเสียก่อน เมื่อพระท่านฉันแล้ว เรากินทีหลัง จึงจะไม่บาป หรืออย่างพระท่านรับอาหารจากญาติโยมใส่บาตร เหลือจากนั้นเป็นหน้าที่ของลูกศิษย์ ไม่เป็นบาป

ถือศีลก่อนไป เราจะไปไหนมาไหนก็ตาม ถ้าเรามีศีลบริสุทธิ์ ศีลนี้เป็นเครื่องประกันวิถีชีวิตของคนเราให้ปลอดภัย ถ้ามีศีลแล้วไม่มีใครสงสัยว่าคนนั้นเป็นโจรผู้ร้ายหรือเป็นศัตรู คนมีศีลไม่มีศัตรู ไปที่ไหนก็ตามมีแต่เพื่อน มีแต่มิตร มีแต่คนที่รัก คนที่ชอบใจ
ไม่ผิดไม่พาล ไม่ทะเลาะวิวาทกับใคร ผู้ใดมีศีลย่อมเป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ไปไหนมาไหนปลอดภัย

ทำใจก่อนนอน เมื่อเราจะนอน ให้นั่งสมาธิสงบจิตใจเสียก่อน อย่าให้ความโลภ ความโกรธ ความหลง เกิดขึ้นภายในจิตใจของเรา ถ้าเราระงับดับจิตใจของเราให้เยือกเย็น ไม่ให้อิจฉาพยาบาทคนอื่น ไม่ให้ปองร้ายคนอื่น ไม่ให้คิดโกรธคนอื่น อย่าผูกโกรธเอาไว้ ถ้าคนไหนทำใจเที่ยงตรงบริสุทธิ์ ตายแล้วไม่ต้องไปนรกอเวจี ไม่ต้องทนทุกข์ ตายแล้วจะต้องไปเกิดสวรรค์ เป็นเทวบุตรเทวดา ไปเสวยของทิพย์อยู่วิมานเงิน วิมานทอง มีความสุข เสวยของทิพย์ ไม่ต้องตกระกำลำบากเหมือนพวกเรา พวกเรานี้เป็นมนุษย์ต้องหาเช้ากินค่ำ หาอยู่ทั้งวัน หาอะไร หุงหาอาหาร อาหารของมนุษย์ไม่ใช่ของทิพย์ ต้องแสวงหา เหงื่อไหลไคลย้อย หรือหาเงินหาทอง

เราต้องทำงานกว่าจะได้ค่าอาหาร ยากลำบากแค่ไหน ท่านจึงให้ชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ผุดผ่องหรือสว่างไสว ไปไหนมาไหนสบาย ไม่มีความทุกข์ ความร้อน ไม่มีโทษ ไม่มีพิษ ไม่มีภัย

หลวงตาก็ขอให้ทุกคนจดจำคติธรรมหรือวิธีปฏบัติทั้ง ๓ ข้อนี้ไว้

หลวงตาพวง สุขินทริโย
วัดศรีธรรมาราม อ.เมือง จ.ยโสธร










ครู 8 คน ในชีวิต

"ครูคนแรกที่สอนให้เราเป็นคนดี คือ คนแรกที่เราเรียกได้ (แม่)

ครูคนที่สอง ที่สอนให้เราเป็นคนเก่ง (คือพ่อ)

ครูคนที่สามที่สอนเราให้อ่านออกเขียนได้คือ
(ครูในโรงเรียน)

ครูคนที่สี่ ที่สอนให้เราใช้ชีวิตอยู่ในสังคมคือ (เพื่อน)

ครูคนที่ห้า ที่สอนให้เราใช้ชีวิตคู่คือ (คู่ครอง)

ครูคนที่หก ที่สอนให้เรารู้จักในการให้คือ (ลูก)

ครูคนที่เจ็ด ที่สอนให้เรารู้จักคำว่าอภัยคือ (ศัตรู)

และครูคนสุดท้าย ที่สอนให้เราเรียนรู้ชีวิต
(คือตัวเราเอง)

หลวงปู่แหวน สุจินโณ











ถาม : หลายคนไม่เชื่อว่าเกิดแล้วตาย

ตายแล้วเกิด ไม่เชื่อว่าบุญบาปมีจริง

พวกเขาจึงใช้ชีวิตแบบไม่กลัวผลกระทบ

ที่จะเกิดขึ้นภายในภาคหน้า

พวกเราจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับคนเหล่านี้

เราจะอยู่อย่างไร ไม่ให้ใจของเรา

มีอารมณ์กับพวกเขาเจ้าคะ

พระอาจารย์ : ก็เหมือนกับเราอยู่กับคนตาบอด

เราจะไปมีอารมณ์กับคนตาบอดทำไม

ในเมื่อเขามองไม่เห็นสิ่งที่เราเห็นใช่มั้ย

เขาก็ทำอะไรไปตามความรู้สึกนึกคิดของเขา

เท่านั้นเอง .."เราก็ปล่อยเขาทำไป"

.

ปัญหาของเราอยู่ที่.."เราอยาก"..ให้เขา

เห็นเหมือนเรา คิดเหมือนเรา

พอเขาไม่คิดเหมือนเรา เห็นเหมือนเรา

ไม่ทำเหมือนเรา.."เราก็เลยไม่สบายใจเท่านั้นเอง"

.

เราก็แยกกันอยู่ไป เขาก็อยู่ของเขาไป

เขาอยากจะกินเหล้าเมายาก็ปล่อยเขากินไป

เขาอยากจะสำส่อนก็ปล่อยเขาสำส่อนไป

เราก็รักษาศีลของเราไป มันก็.."ตัวใครตัวมัน"

.

พระพุทธเจ้าบอก ใครทำกรรมอันใดไว้

ก็จะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้นไป

เพราะเรา..ไปสั่งเขาไม่ได้..ไปห้ามเขาไม่ได้

ไปสอนเขาไม่ได้ ไปบอกเขาไม่ได้

ก็..ช่วยไม่ได้.

....................................
คัดลอกการสนทนาธรรม

ธรรมะบนเขา 6/4/2560

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี









...พุทธะ คือ ผู้รู้ ความรู้นี้ไม่ใช่มืด ไม่ใช่สว่าง
ไม่ใช่แจ้ง ไม่ใช่หลง ความที่มันหลงเราก็รู้อยู่
มืดเราก็รู้อยู่ สว่างเราก็รู้อยู่ สุขมันก็รู้ ทุกข์มันก็รู้ ยังงี้...

หลวงปู่ฝั้น อาจาโร








"...เป็นธรรมดา ที่สังขารร่างกายของเรา จะต้องเดินไปสู่ความเสื่อมความสลาย แม้จะป้องกันแก้ไขอย่างไร ก็เป็นแต่ยืดเวลาออกไปเท่านั้น ที่จะห้ามไม่ให้แก่ ไม่ให้เจ็บ ไม่ให้ตายเลยนั้นไม่ได้

ฉะนั้น จึงให้มุ่งเอาจิตเป็นสำคัญ คือบำรุงรักษาร่างกายพอประมาณ แต่บำรุงรักษาจิตให้มากๆ เป็นการหาสาระจากสิ่งที่ไม่เป็นแก่นสารนั้นๆ ให้มากที่สุดที่จะทำได้

คือให้เร่งรัดบำเพ็ญกุศลเต็มสติกำลัง ทั้งทาน ศีล ภาวนา แม้ร่างกายจะแก่ จะแตก จะตาย ก็ไม่วิตกกังวล เพราะสมบัติดีๆ มีไว้ เตรียมไว้แล้ว ดังนี้ จะไปไหนก็ไม่ต้องกลัว..."

หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร










"ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปแค่นั้นเอง"

....โลกอันนี้เป็นโลกต่อสู้ ชีวิตอันนี้เป็นชีวิตต่อสู้ ให้ทำจิตทำใจของเราให้เป็นนักต่อสู้ ทุกข์ยาก อดอยาก เหน็ดเหนื่อยสักเพียงใด ต่อสู้เอา

โลกอันนี้ประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้นเอง

โลกอันนี้ไม่ใช่ที่อยู่ของเราหรอก เราเพียงเดินผ่านมา แล้วเราก็กำลังจะผ่านไป

โอวาทธรรม : หลวงปู่แบน ธนากาโร








ผู้แสวงบุญ

“...นักแสวงบุญจึงพยายามทำใจของเราให้สงบอยู่เสมอ ใจของเราสงบ เรามีโอกาสที่จะเห็นใจของเราได้ เราเห็นบุญเห็นกุศลเพราะบุญกุศลอยู่ที่ใจของเรานี่เอง การแสวงบุญอย่ามองข้ามใจของเรา อย่าคิดว่าบุญอยู่ที่อื่น...”

คำสอนที่ “องค์หลวงปู่แบน ธนากโร”
เมตตาปรารภธรรมเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๓๙








บุญ-บาปอยู่ที่ใจ

“...บุญกุศลอยู่ที่ใจของเรา บาปก็อยู่ที่ใจของเรานี่ ใจของเราสบาย ใจของเราวุ่นวาย ใจของเราหงุดหงิด บาปอยู่ที่ใจ ละบาปก็ละความวุ่นวายนั้นเสีย ละความหงุดหงิดนั้นเสีย เมื่อใจของเราไม่มีความวุ่นวาย ไม่มีความหงุดหงิด ใจนั่นแหละเป็นบุญเป็นกุศล...”

หลวงปู่แบน ธนากโร วัดดอยธรรมเจดีย์ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร







เพราะพ่อแม่คือครูท่านแรก
อย่าลืมพระในบ้าน
สร้างกุศลอะไรก็สู้สร้างกุศลกับพ่อกับแม่ไม่ได้
สร้างความสุขให้กับพ่อแม่ เพื่มบุญกุศลอย่างมหาศาล..

#หลวงปู่ฝากไว้

หลวงปู่แบน ธนากโร









ทรัพย์ภายใน

“...สร้างบุญ สร้างบารมี สร้างแล้วเป็นสมบัติของเรา​ เพราะเราเป็นผู้สร้าง บารมีของเราจะเสียหายไปไหนไม่ได้ เพราะบุญกุศลทำแล้วมารวมที่ใจ สรีระร่างกายจะแตกจะพัง เขาต้องเป็นไปตามธรรมชาติตามสภาพของเขา ธรรมชาติใจของเราไม่ได้แตกไม่ได้พังเหมือนกับร่างกายที่เกิดขึ้น จึงว่าบุญกุศลมารวมอยู่ที่จิตที่ใจของเรา บุญกุศลไม่แตก บุญกุศลไม่เสียหาย...”

หลวงปู่แบน ธนากโร











"..สิ่งที่เราแสวงหาด้วยการเสียสละชีวิตชีวา
ด้วยความเหน็ดเหนื่อยทุกข์ยาก
นั้นล้วนแต่เป็นของ.. ..ที่เราจะต้องพลัดพรากทั้งนั้น

สิ่งเหล่านั้นจะต้องเสียหายไปจากเราทั้งนั้น
เพราะอันนั้น.. ..เขาเกิดมาเพื่อพลัดพราก

เราจะสมมุติเขาว่า.. ..เป็นเงิน เป็นทอง เป็นข้าวของ
วัตถุอะไรก็ช่าง
อันนั้นก็เกิดมาเพื่อที่จะแตกสลาย

เราก็เหมือนกัน....เกิดมาเพื่อแตกสลาย
เกิดมาก็เพื่อแตก เพื่อตาย
ไม่มีอะไรเป็นสมบัติของใครได้หรอก.."

หลวงปู่แบน ธนากโร












เราปลูกขิง ข่า ตะไคร้ มันจะแตกหน่อขยายกอออกไปได้เรื่อยๆ

เหมือนที่เราไม่ค่อยอยากจะตัดภพตัดชาติกัน มีลูกหลานก็ยังอยากให้เขามีครอบครัว ก่อภพก่อชาติกันต่อไปอีก มันก็แตกหน่อไปเรื่อยๆ แล้วมันจะหมดมั๊ย

ไปยึด​ ไปห่วง​ คนนั้น​ คนนี้​ ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ด้วยทางใด​ ก็อีกทางหนึ่ง ที่จะให้เจ้าของอยู่กับโลกนี้ต่อไป

หลวงพ่อจันมี​ อนาลโย
๓๐​ เมษายน​ ๒๕๖๒










"อย่าพูดด้วยอัตตาเพื่อข่มขู่ผู้อื่นว่าเขาด้อยกว่าเรา
ใช้คำพูดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น
โดยขาดสติความสำนึก
ว่าทุกคนมีความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบเหมือนกัน"

หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ









"..ไม่มีประโยชน์ ที่จะแสวงหาออกไปนอกตัวเอง
ผลที่สุด ท่านก็ต้องกลับมาเผชิญหน้า
กับสภาวะที่แท้จริง ของตัวท่านเอง
ตรงนี้แหละ ที่ท่านจะเข้าใจธรรมได้....."

หลวงปู่ชา สุภัทโท









" เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ก็เพราะบุญวาสนาที่ได้ทำมา แต่ชีวิตของคนเรานั้น มันไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับผลบุญผลกรรมที่เราเองได้ทำไว้
ดังนั้นอย่าประมาท ให้มีสติสำรวมระมัดระวัง เพื่อไม่ให้บุญกุศลที่เรามีอยู่ ต้องเสื่อมถอยลงไป ให้หมั่นสร้างบุญกุศลของเรา ให้เจริญก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ไม่ประมาทในชีวิต "

หลวงปู่อว้าน เขมโก
วัดป่านาคนิมิตต์
ต.ตองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร









“….ญาติโยมทั้งหลาย วันนี้จะพูดเรื่อง”บุญ”….

ผู้ที่ทำบุญคือผู้มีบุญ ผู้มีบุญจึงจะได้ทำบุญ บุญทำให้เกิดความสุข บุญทำให้เกิดความสบายกาย บุญ ทำให้เกิดความสบายใจ

ผู้มีบุญ จึงเป็นผู้มีความสุข ทั้งชาตินี้และชาติหน้า ผู้มีบุญ จึงทำให้เกิดบุญขึ้นมา

ผู้ไม่มีบุญ จึงไม่ค่อยได้ทำบุญ เมื่อไม่ได้ทำบุญ ก็ไม่ได้เกิดบุญ

ผู้แสวงหาบุญ ก็จะได้บุญ และพบบุญ ได้เป็นผู้มีบุญ ผู้มีบุญ จึงอิ่มเอมในบุญ เพราะบุญเกิดที่ใจ ใจจึงเย็น ใจจึงเป็นบุญ

ผู้ไม่มีบุญ ไม่คิดอยากจะทำบุญ และไม่ค่อยคิดหาบุญ ก็ไม่ได้ทำบุญ

บุญทำให้เกิดความสุข ความร่ำรวยได้ ผู้ที่คิดอยากทำบุญ และได้ทำบุญ จึงเกิดความร่ำรวย และเป็นผู้มีบุญขึ้นมา ผู้มีบุญ จึงเป็นผู้มีความสุขใจ และสุขกาย ดังนั้น ผู้ไม่มีความสุข จึงเป็นผู้ไม่มีบุญ และบุญยังไม่เกิด

ผู้มีทาน ผู้รักษาศีล ผู้ปฏิบัติสมาธิภาวนา เป็นผู้ต้องการบุญ บุญจึงเกิดกับผู้ได้กระทำบุญ ผู้มีบุญจึงเกิดความสุข

จึงขอให้ญาติโยมทุกคนจงได้พากันทำบุญ คิดหาบุญ เพื่อให้เกิดความสุขแก่ตนทุกท่านทุกคนเทอญ..”

…หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร…
วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่










วาสนาคือการกระทำ มันไม่มีทำให้มันมีได้
มันมีน้อยทำให้มันมีมากได้
ทำไป ทำไป มันก็เต็มของมันเอง
เหมือนกับเราทานอาหาร ทานเข้าไป ทานเข้าไป
เมื่อมันอิ่มแล้ว มันก็หยุดของมันเอง

โอวาทธรรม:องค์หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม









#ติเราเอง

ไปหาติคนอื่น บางทีมีปัญหา ติเรา ติเรา การติเรานั่นล่ะคือการแก้ปัญหา เป็นการแก้ปัญหาที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าถูกต้อง ต้นไม้ในโลก มีทั้งมีแก่นและไม่มีแก่น คนในโลกก็เช่นเดียวกัน มีทั้งแข็งแกร่งและอ่อนแอ มีทั้งมีคุณภาพและไม่มีคุณภาพ ธรรมดาธรรมชาติของเขาเป็นอย่างนั้น จึงไม่ต้องไปติ ไม่ต้องไปชมอะไรกัน ถ้าหากว่าจะติจะชม พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญการติเราชมเรา

การที่ใจมุ่งตำหนิคนอื่นนั้น ใจไม่สบาย ใจเป็นอกุศล ใจมุ่งในการตำหนิเรา มุ่งในการแก้ไขเรา ใจมีลักษณะนี้ ใจเป็นข้อปฏิบัติ ใจมีอรรถ ใจมีธรรม มีธรรมจึงให้มุ่งที่จะแก้ไข ปรับปรุงเราเองอยู่เสมอ

#โอวาทคติธรรมองค์หลวงปู่แบน ธนากโร










” ผู้ใดที่คิดว่าเกิดมาแล้วจะต้องมีความสุขอย่างนั้นอย่างนี้ คนผู้นั้นจะต้องผิดหวังอย่างที่สุด เพราะความจริงแล้ว ในโลกนี้เขาไม่มีความสุขให้แก่ใครเลย จึงให้ปล่อยปลดเปลื้องเครื่องรกรุงรังในหัวใจเสียให้หมด ปล่อยเสีย วางเสีย จะได้เบาสบายขึ้นบ้าง ”

โอวาทธรรมคำสอน
หลวงปู่แบน ธนากโร
วัดดอยธรรมเจดีย์ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร









” ผู้ใดที่คิดว่าเกิดมาแล้วจะต้องมีความสุขอย่างนั้นอย่างนี้ คนผู้นั้นจะต้องผิดหวังอย่างที่สุด เพราะความจริงแล้ว ในโลกนี้เขาไม่มีความสุขให้แก่ใครเลย จึงให้ปล่อยปลดเปลื้องเครื่องรกรุงรังในหัวใจเสียให้หมด ปล่อยเสีย วางเสีย จะได้เบาสบายขึ้นบ้าง ”

โอวาทธรรมคำสอน
หลวงปู่แบน ธนากโร
วัดดอยธรรมเจดีย์ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร










#บุญคืออะไร
“บุญ คือ การทำใจของเราให้สบาย ให้มีความสุข ให้สงบ ให้ใส ให้เย็น ให้สว่าง บุญ คือ การทำใจของเราให้สมบูรณ์ขึ้นมาด้วยศีลธรรม สิ่งใดเป็นประโยชน์แก่โลก แก่สังคมโลก อันนั้นเรียกว่าบุญได้ทั้งนั้น เพราะบุญ คือสิ่งที่สร้างสรรค์ การทำสิ่งที่สร้างสรรค์นั้นจึงเป็นการทำบุญ”

โอวาทธรรมคำสอนองค์หลวงปู่แบน ธนากโร


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 105 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร