วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 21:52  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ส.ค. 2020, 05:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


การภาวนาที่มีอภินิหารมากที่สุด​ คือการเห็นจิตเจ้าของ​ เห็นใจของเราเอง​ มีสติต่อเนื่อง เห็นใจของเราตลอดเวลา​... อันนี้สิวิเศษของจริง​ เพราะกิเลสมันหายได้ พ้นทุกข์ได้

นักภาวนาต้องเอาสติเป็นสำคัญ​ อย่างอื่นอย่าไปสนใจมันมากนัก​ อันนั้นมันของแถม ของเล่นเฉยๆ

หลวงพ่อเยื้อน​ ขันติพโล








::: ความปลื้มใจในครูบาอาจารย์ไม่ได้ตัดภพตัดชาติ :::

“... ลองคิดดูซิ ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเรา เราจะทำอะไรอย่างแรก เราจะไปลาญาติลาพี่ลาน้อง หรือจะไปทำอะไรอย่างแรก

ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเรา มันไม่มีไป ไม่มีมา ไม่มีอะไรทั้งนั้น มันมีอย่างเดียวเท่านั้นก็คือว่า ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้าย ทำยังไงก็ได้ให้จิตมันลงให้ได้

และจะไม่เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อย ไม่เห็นแก่วันแก่คืน มองอย่างเดียวว่า เวลาเท่านั้นเป็นเวลาตายของเรา ไม่อยากให้มันถึงด้วยซ้ำ

เหมือนวันทั้งวันรู้สึกว่ามันเร็วมากๆ ไอ้พวกเราไม่ได้คิดว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายไง มันคิดไปเรื่อยแหละ วันพรุ่งนี้ต้องไปทำนู่นทำนี่ วันมะรืนต้องไปทำนั่นทำนี่ วันนี้เดี๋ยวฟังธรรมเสร็จ เดี๋ยวเรากลับไปเราจะไปแวะที่นู่น เราจะไปที่นั่น เราจะไปที่นี่ ไม่ได้คิดหรอก

คือฟังธรรมก็ตาย ไม่ฟังธรรมก็ตาย มาก็ตาย ไม่มาก็ตาย ทุกคนมีความตายเป็นที่สุดโดยรอบ

ผมก็ตาย ขนก็ตาย เล็บก็ตาย ฟันก็ตาย หนังก็ตาย เนื้อก็ตาย เอ็น กระดูกก็ตาย ตับไตใส้พุงก็ตาย หัวใจปอดลำใส้ใหญ่ลำใส้เล็กก็ตาย มันตายหมดแหละทั้งกายเรานี้ ดิน น้ำ ลม ไฟ ก็ต้องตาย ตายทั่วตัวเลยแหละ ไม่มีอะไรไม่ตายหรอก

แต่เราไม่เคยนึกถึงความตายเราก็ร่าเริง บันเทิงใจ คนแก่ก็ยังประมาท ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะตาย ทั้งๆ ที่แก่ใกล้ตายแล้ว อายุก็มากกว่าคนอื่นเค้า

ถ้าตามอายุขัยคนแก่ต้องไปก่อน แต่ตามกฏของกรรมไม่เลือก บางทีเด็กเล็กเด็กน้อยเด็กเพิ่งเกิดก็ตาย ตายในท้องก็มีเห็นมีมากอยู่ หนุ่มสาวก็มีตาย

ฉะนั้นความตายไม่เลือกหรอกว่าคนนั้นคนนี้ ไม่เลือกพระราชา พระภิกษุสงฆ์ หรือฆราวาส ญาติโยม หญิงชาย ไม่เลือกทั้งนั้น สัตว์บุคคลตัวตนทั้งหมด ความตายมันไม่เลือก มันถึงเวลามันเอามันเอาเลย

ทุกคนมีกำหนดเวลาตายของตัวเหมือนกันหมด แต่เราไม่รู้เวลานั้นเป็นเวลาไหน จึงต้องคิดทุกวันทุกคืนว่าเราต้องตายๆ เราหนีความตายไปไม่พ้น เราอย่าประมาท จงอย่าตั้งตนอยู่ในความประมาทเลย ...

สังขารมันไม่เที่ยง สังขารคือร่างกาย มันไม่เที่ยง มันมีความแปรเปลี่ยนไปเป็นธรรมดา ไม่สามารถตั้งอยู่คงถาวรได้

อย่าประมาทในชีวิต อย่าสนุกอย่าเพลิดเพลินไปในความรู้ อย่าเพลิดเพลินในความจับจ่ายใช้สอย ในการกินการอยู่ การเที่ยวการเตร่ไปมา

ให้น้อมเข้ามาที่ตัวที่ใจของเรา เราจะตายกันทุกคน อย่ามัวสนุกเพลิดเพลินไปวัดนู้น ไปสำนักนี้ ไปอาจารย์นู้น แล้วก็ภูมิใจไปหาอาจารย์นี้ แล้วก็ปลื้มใจไปหาอาจารย์นู้น แล้วก็ปลื้มใจ

ความปลื้มใจมันไม่ตัดภพตัดชาติ ความปลื้มใจเหล่านั้นมันไม่ทำให้เราเป็นพระอรหันต์ได้ เราควรที่จะหยุดแล้วพยายามกลับมาที่ตัวของเราแล้วเสาะแสวงหาภายในใจของเรา

ภายในใจของเรามีพระอริยบุคคลอยู่ มีทั้งพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์ มีทั้งพระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ มีทั้งพระพุทธเจ้าอยู่ในใจของเรานี้แหละ

เพราะใจของเราบำเพ็ญเพียรเราปรารถนาเป็นอะไรก็ได้ ... เราปรารถนาอะไรก็ได้ ใจดวงนี้มันเป็นแก้วอันวิเศษหาค่าไม่ได้ ...”

ตอนหนึ่งของพระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อเพชร วชิรมโน (อัญญา)









...“อ้อ ..เมื่อกี้เผลอไป
กลับมาพุทโธใหม่”

ใหม่ๆ มันก็จะเป็นอย่างนี้
มันจะล้มลุกคลุกคลานไปเรื่อยๆ

.ต้องมีความอดทน
ต้องมีความพยายามมาก

อย่าท้อแท้ อย่าเบื่อหน่ายเรื่องของ
“การเจริญสติ”.

................................
.
คัดลอกการแสดงธรรม
ธรรมะหน้ากุฏิ 18/4/2563
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี








"..คนเราเข้าใจผิด คิดว่าพอแก่แล้วจะสบาย ความจริงมีแต่ทุกข์ที่รออยู่ตลอดสาย พอแก่แล้วก็เจ็บนั่นเจ็บนี่ #ยังอยากจะมาเกิดกันอีกเหรอ.."

ธรรมะคำสอน

หลวงปู่กวง โกสโล
วัดป่านาบุญ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่










#เสือภายใน_คือความโกรธ

เมื่อนึกให้ละเอียดแล้ว เสือกิเลสก็ตั้งบ้านตั้งเมือง อยู่รอบเมืองใจอีก

คำว่าเสือ แปลว่า ผู้ยังมีโกรธโหดร้ายอยู่ เห็นแต่กระเป๋าไส้ กระเป๋าท้องของตน พระอนาคามีเท่านั้นจะพ้นจากปากเสือโกรธไป ต่ำกว่านั้นลงมา ไม่พ้นจากปากเสือโกรธเลยแลหนอ

เมื่อน้อมเข้ามาภายใน เป็นอัชฌัตตาธัมมาแล้ว เรื่องเสือภายนอกก็แบ่งเบาผ่อนปรนลงมาได้

#มหันตโทษของเสือภายใน

สามารถใช้กาย วาจา ไปทำอนันตริยกรรมทั้ง ๕ ได้

ฉะนั้น ศีล ๕ ศีล ๘ (มีศีล) ข้อต้นเป็นรากเหง้าของศีลอย่างสมบูรณ์ ถ้าล่วงศีลข้อต้นแล้ว ศีลข้ออื่นๆ ก็จะพลอยล่วงไปด้วย

ตรงกันข้าม ถ้ารักษาศีลข้อต้นได้ ข้ออื่นๆ ก็พลอยจะสมบูรณ์ไปด้วย เพราะได้รากแก้วของศีลที่มีเมตตา เมตใจ เมตธรรม

เพราะตัดสิน ลงในใจในธรรมแล้วว่า จะไม่ฆ่าตายหงายไว้ แก่ใครๆ ทั้งปวง โดยมิได้เลือกหน้า เป็นเมตตาธรรมาธิปไตย เห็นธรรมเป็นใหญ่แล้ว ไม่ได้เห็นตนเห็นโลก เป็นใหญ่กว่าธรรมใดๆ ทั้งสิ้น

#ผู้มีศีล_๕_บริบูรณ์

ก็คือ ผู้มีทรัพย์ภายใน บริบูรณ์อริยทรัพย์นั้นเอง ฉะนั้น ศีล ๕ ของผู้มีศีลบริบูรณ์ จึงเป็นโลกุตตรศีล เป็นพรหมจรรย์เบื้องต้น ของพุทธศาสนา...


#หลวงปู่หล้า #เขมปัตโต











#หลวงตาสอนว่า..

ถ้าทำด้วยความระมัดระวัง
ความบกพร่องแม้มี ก็ไม่มาก

ฉะนั้น สติจึงสำคัญ
และมาอันดับหนึ่ง
ปัญญามาที่สอง

#หลวงตามหาบัว #ญาณสมฺปนฺโน










#หลวงปู่สอนว่า..

อยู่บ้านอยู่ห้อง ก็อย่าอยู่เฉยๆ
พุทโธ พุทโธบ้าง
ไปอยู่ไหน ก็ให้มีพุทโธบ้าง

ยุงกัด ฝ่ามือเพี้ยะเลย
ไม่ได้แบบนี้น่ะ
เมตตาให้มันบ้าง
เมตตายไม่เอา

นั่งหาเหตุและผลของมัน
นั่งดูอารมณ์
อารมณ์ดี อารมณ์ร้าย
ให้รู้จัก ให้พิจารณา
——

โอวาทคำสอน
#หลวงปู่สมภาร #ปัญญาวโร
#วัดป่าวิเวกพัฒนาราม
อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ
ณ กุฏีหลวงปู่อ่อนศรี ฐานวโร
วัดถ้ำประทุน อ.บางละมุง
จ.ชลบุรี (วันที่ 3 มิ.ย.2562)










"เกิดมาต้องเป็นทุกข์แน่โยม
จะต่างกัน ก็ทุกข์มากทุกข์น้อย
เท่านั้นแหละ

การทำบุญ ต้องส่งไปให้ชาติหน้าแน่
ของเราทำแล้วจะไปไหน

การทำบุญไม่ใช่หนทางพ้นจากทุกข์โดยตรง
แต่เป็นทางทำทุกข์ให้น้อยลง
การภาวนานั้นซี เป็นทางนำทุกข์ให้หมดไป"

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี









...เราจักต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้นไป

..... ความโศกเศร้าเสียใจ ย่อมนำความทุกข์มาให้หมู่มนุษย์ ซึ่งเต็มไปด้วยกิเลส ตัณหา อุปาทาน อย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก

จริงดังที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า ...ความโศกเศร้าย่อมเกิดจากของที่เรารัก ความทุกข์ย่อมเกิดจากของที่เรารัก.

"หลวงปู่ชา สุภทฺโท"








" กรรมบ่ว่าน้อยใหญ่
พอตามทันแล้ว
มันแสดงให้เห็นเบิ่ด

เฮ็ดกรรมไว้แล้ว
บ่มีไผ๋หนีพ้น

บ่ได้ซาตินี่กะได้ซาติหน่า "

โอวาทธรรม
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม







"..อำ​นา​จ​กรรมบ่ดี
นี่โหดร้าย​เด้อ​

พราะอำนาจ​กรรม
บ่เลือก​กาล​
บ่เลือก​เวลา​
บ่เลือก​คนรวย​
บ่เลือก​คนจน​

เวลา​มัน​มา​
มันบ่ได้​บอก​เฮาเด้​

ทำไปโลด​ความ​ดีนั้น​
ไผทำไผกะได้​ดอกบุญ​นั้น​
ทำด้วย​ใจบริสุทธิ์​เป็น​พอ.."

โอวาทธรรม
หลวง​ปู่​สนธิ์​ อ​นา​ลโย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2020, 08:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 เม.ย. 2015, 09:43
โพสต์: 702

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 32 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร