วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 21:48  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2019, 04:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


...
สมาธิเป็นตัวสําคัญมาก
“ในวงปฏิบัติ “ ถือว่าเป็นตัวหลัก
จะทําอะไรก็ตาม...
“ต้องทําจิตใจให้สงบก่อน”.
................................
.
 หนังสือธรรมะโดนใจ 2 หน้า 9
ธัมมบนเขา 12 / 3 / 2549
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี








ถ้าคิดว่าบวชพระแล้วจะสบายอย่าบวช

เราบวชเพื่อประพฤติพรหมจรรย์ ทำความพ้นทุกข์ให้แจ้ง วิถีแห่งความเพียร อดกินอดนอน ขันติอดทนทุกอย่าง เดินจนเลือดติดทางจงกรม นั่งจนยางตายออก ปอกเปลือกขันธ์ ๕ และทำลายมายาของจิตด้วยสติธรรมปัญญาธรรม

ฝนตก...อากาศหนาว เราก็ยังก้าวเดินต่อไป ทางสายพระนิพพาน เป็นสายทางทรมานกิเลส จะหวังความสุขความสบายอะไรได้ กิเลสทุกข์นั่นแหละธรรมเจริญ

ทำตามคำสอนพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า...ทำประโยชน์ตนให้สมบูรณ์ แล้วยังประโยชน์สุขแด่เพื่อนสรรพสัตว์ต่อไป...

-พระอาจารย์คม อภิวโร-
วัดป่าธรรมคีรี (จันดีอนุสรณ์) บ้านซับน้ำเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา







ตั้งเเต่เด็กหลวงปู่ไม่เคยด่าใคร ว่าให้ใคร แม้จะไม่ชอบ ไม่พอใจ หลวงปู่ก็ไม่เคยว่าให้ใครเลย ไม่รู้ทำไม ไม่ชอบ แม้จะปริปากว่าก็ไม่เคย เป็นขันติบารมี แต่ชอบทำให้ทุกๆคนมีความสุข ตอนเด็กๆจึงมีเพื่อนมาก

สมัยก่อนหลวงปู่ตื้อท่านเทศน์สอน อยู่วัดอโศการาม มีคุณหญิงคนหนึ่ง ชอบมาเล่าว่าตัวเองภาวนาดี ได้เป็นถึงพระโสดาบัน มาเล่าทุกๆวัน จนหลวงปู่ตื้อ อยากลอง จึงลองด่าผู้หญิงคนนี้ดู " เป็นโซดาหรือเป็นโสดา " เพียงพูดแค่นี้ ผู้หญิงคนนั้น เดือดปุดๆเหมือนโซดาเลย นักปฎิบัติ ถ้าอยากรู้ว่าดีแค่ไหนลองด่าดู ถ้ายังเดือดอยู่ ควบคุมความโกรธตัวเองไม่ได้เเล้วจะผ่านได้ยังไง

โอวาทธรรมคำสอนพ่อแม่ครูบาอาจารย์
หลวงปู่ไพบูลย์ สุมังคโล
วัดป่าอนาลโยทิพยาราม อ.เมือง จ.พะเยา








การทำความสงบ อย่าทิ้งคำบริกรรม
จะเป็นคำบริกรรมใดก็ได้แล้วแต่ชอบ
อย่าลังเลเปลี่ยนไปมา
เมื่อจิตสงบแล้วให้เจริญวิปัสสนา

หลวงปู่ก้าน จิตฺตธมฺโม
วัดถ้ำเป็ด อ.ส่องดาว สกลนคร







"พระนิพพาน" อยู่ใกล้ที่สุด ไม่ไกล อย่าไปหาไกล
.
"หนัง" มันห่อไว้ กระดูกมันห่อไว้ ทำลายมันออกให้หมด
"จิต" อันนี้มันก็ปิดบังมรรคผลนิพพานไว้
.
ทำลายจิตลงไปอีก จิตแตกสลายออกไปแล้ว ไม่ต้องพูดถึงมรรคผลนิพพาน ทำลายให้เป็นของว่าง
ยึด "ผู้รู้" ว่า "เป็นเรา" ใช้ไม่ได้ทั้งนั้น
"จิตสักแต่ว่าจิต" "ธรรมสักแต่ว่าธรรม"
.
ไม่ให้มันไปไหน ให้มันอยู่ใน "กาย เวทนา จิต ธรรม"
ของ "สมมุติแท้ๆ" ก็มี "ของจริง" อยู่ในสมมุตินั้น
"จิต" เป็นตัว "สมุทัย" เป็น "ตัวอริยะสัจ"
มี "สติ" แล้ว "ศีล สมาธิ ปัญญา" ก็สมบูรณ์
ศูนย์รวมของธรรม อยู่ที่ใจ
กิเลสตัณหาอยู่ในจิตเท่านั้น ไม่ได้อยู่ใน รูป เสียง....."
.
ธรรม" ทั้งหลายเกิดจาก "จิต" ของเรา
อยู่ที่ "จิต" เวทนาไม่มีตัวไม่มีตน
"จิต" ของเราก็เป็นส่วนหนึ่งต่างหาก
แต่ "มันอยู่" ใน "จิตอันนี้" หวงหนังห่อขี้ หนังห่อมูตรห่อคูต
.
หลวงปู่ แบน ธนากโร
วัดดอยธรรมเจดีย์ กิ่งอ.โคกศรีสุพรรณ สกลนคร








บ่วงของมารได้แก่อะไร อาการของจิตที่เที่ยวไปตามอารมณ์นั้น ย่อมมีทั้งอารมณ์ดี และอารมณ์ร้าย จึงต้องมีความสุขบ้างทุกข์บ้างเป็นธรรมดา ตามวิสัยของปุถุชน จิตที่เที่ยวไปนั้นจะต้องประสบของ ๕ อย่าง คือ รูป เสียง กลิ่น รส และโผฏฐัพพะพะ ซึ่งเรียกว่า กามคุณ ๕ พระพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นบ่วงของมาร

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี






บุญทำมากเท่าไหร่
ก็เรียกว่า.. "สะสมบุญ"
บุญเหล่านี้แหละ
เมื่อทำมากเข้าๆ
มันก็กลายเป็น "วาสนา"
เมื่อวาสนามากเข้าๆ
เขาก็เรียกว่าเป็น "บารมี"

..โอวาทธรรม..
หลวงปู่วิริยังค์ สิรินธโร






" เมื่อเวลาตายนั้น จิตก็จะต้องเข้าภวังค์ ต้องอาศัย ความสงบ ถ้าไม่สงบแล้วเข้าไม่ได้ อันนี้แหละที่เราต้องพากันทำสมาธิ ต้องการที่จะให้มีสติ สมาธิที่เราได้ทำไว้ จะเป็น ครั้งหนึ่ง สองครั้ง สิบครั้ง ร้อยครั้ง พันครั้ง ก็ตาม สมาธิเหล่านั้น จะไม่สูญเสียไปในทางใด นอกจากฝังสนิทติดอยู่ในใจของเรา ด้วยเหตุอย่างนี้ เมื่อเวลาที่จิตนี้จะออกจากร่างนี้ไป สมาธิทั้งมวลที่มีอยู่ก็รวบรวมพลังทั้งสิ้น แล้วก็มารวมอยู่ ณ ที่จิตนั้น เมือเป็นเช่นนี้ทางที่ผู้ทำสมาธิจะไปตกนรก หรือไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน หรือจะไปเกิดเป็นเปรตอะไรอย่างนี้ ไปไม่ได้ เพราะเหตุที่ว่าจิตนี้ได้รับการฝึกฝน ชำนาญ แล้ว ยกเว้นแต่ว่าทำไม่ได้จริงได้จัง


จิตของบุคคไม่ได้ฝึกฝนในการทำสมาธินั้นก็ต้องไปตาม ยถากรรม ไม่สามารถที่จะควบคุม ขณะที่จิตนั้นออกจากร่างได้ เมื่อควบคุมไม่ได้ก็สุดแล้วแต่ ชวนจิต(ชะวะนะจิต) หรือความคิดความนึกของจิตนั้นจะไปยึดเอาที่ตรงไหน ไปยึดเอาตรงโน้นตรงนี้ ก็ไปเกิดเอาตามภาวะแห่งการยึดถือ ท่านจึงบอกว่า อุปาทาน เป็นปัจจัยให้เกิดภพ "

ถอดความจาก พระธรรมเทศนา หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร channel youtube ธรรมะวัดป่า







"เขาต้องการอย่างนั้นเอง"

แม้จะมีคนเป็นกลุ่ม อยากฟังความคิดเห็นของหลวงปู่เรื่องเวียนว่ายตายเกิด ยกบุคคลมาอ้างว่า ท่านผู้นั้นผู้นี้สามารถระลึกชาติย้อนหลังได้หลายชาติว่าตนเคยเกิดเป็นอะไรบ้าง และใครเคยเป็นแม่เป็นญาติกันบ้าง
... หลวงปู่ว่า

"เราไม่เคยสนใจเรื่องอย่างนี้ แค่อุปจารสมาธิก็เป็นได้แล้วทุกอย่าง มันออกไปจากจิตทั้งหมด อยากรู้อยากเห็นอะไร จิตมันบันดาลให้รู้ให้เห็นได้ทั้งนั้น และรู้ได้เร็วเสียด้วย หากพอใจเพียงแค่นี้ ผลดีที่ได้ก็คือ ทำให้กลัวการเวียนว่ายตายเกิดในภพที่ตํ่า แล้วตั้งใจทำดี บริจาคทาน รักษาศีล แล้วก็ไม่เบียดเยียนกัน พากันกระหยิ่มยิ้มย่องในผลบุญของตน ส่วนการที่จะกำจัดกิเลสเพื่อทำลายอวิชชา ตัณหา อุปาทาน เข้าถึงความพ้นทุกข์อย่างสิ้นเชิง อีกอย่างหนึ่งต่างหาก."

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล








"สิ่งที่วิเศษที่สุด ก็คือ ศีล
ถ้ามีศีลบริสุทธิ์แล้ว ไม่ต้องไปคำนึงถึงอะไร
สิ่งที่จะได้ประโยชน์อย่างแท้จริง ในปัจจุบันนี้

ใครมีเมีย รักสงสารเมียของตนเองให้มากๆ
ใครมีผัว รักสงสารผัวของตัวเองให้มากๆ
ใครมีลูก รักเมตตาปรานีต่อลูกให้มากๆ
ใครมีพ่อมีแม่ รักเคารพบูชาพ่อแม่ให้มากๆ
เลี้ยงดูท่าน ให้มีความสุข

ถ้าใครทำได้ มันจะมีฤทธิ์เดช
เรียกว่า บุญฤทธิ์ คนมีบุญฤทธิ์นี่
ไปที่ไหน ก็สงบเยือกเย็น
ไม่ไปก่อกรรมทำเข็ญ ให้ใครเดือดร้อน
มีแต่พวกภูตผีปิศาจ ที่มันไม่นิยมชมชอบ
ในคุณธรรมนั่นแหละ มันจะร้อนเป็นไฟ"

.. หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ..








บางท่านมาถามว่า...
ผมทำไมจึงสู้เวทนาไม่ได้ ผมจะข้ามเวทนาด้วยวิธีไหน?
หลวงปู่
เอ้อ..
ถ้าสำคัญว่าเวทนาเป็นเรา เราเป็นเวทนา เราก็ข้ามไม่ได้
ถ้าไม่สำคัญว่าทุกขเวทนาเป็นเรา เราเป็นทุกขเวทนา มันก็ข้ามไม่ได้ ....
เพราะข้ามเวทนามันต้องเอาปัญญาข้าม..
เอาสมาธิข้าม เวลามันลงไปรวมอยู่ มันก็ไม่ปวดแข้งปวดขา
เวลามันกบฏคืน มันก็กบฏคืนอีกเหมือนกัน มันสู้มันไม่ไหว
เพียงสมาธิสู้มันไม่ไหว
นิโรธสมาบัติ ก็เข้าไป 7 วันเท่านั้น ก็ถอนออกมา เพราะอยู่ใต้อำนาจอนิจจัง
ออกมาก็หิวจะตายอยู่นั่น


หลวงปู่หล้า เขมปัตโต







“ถ้าปฏิบัติธรรมแล้ว ยังไม่มีเมตตา
ไม่รู้จักให้อภัย หรือไม่รู้จักมองคนอื่นในแง่ดี
นั่นแปลว่า คุณยังไม่มีคุณธรรมจริง ๆ

หลวงพ่อเยื้อน ขันติพโล


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 46 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร