ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

แก้ปัญหาภัยน้ำท่วม เห็นแล้วน่าสงสารครับ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=58045
หน้า 6 จากทั้งหมด 11

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 26 ก.ย. 2019, 10:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แก้ปัญหาภัยน้ำท่วม เห็นแล้วน่าสงสารครับ

โลกสวย เขียน:


คริคริ

กองกระดูกคนตายคนเดียวที่เวียนว่ายในสังสาร กองสูงเท่าภูเขา ก็เยอะเป็นเพื่อนได้
555
tongue


เถียงไปเรื่อย เถียงคำไม่ตกฟาก :b1: กระดูกมันพูดได้ไหมเล่า เออ

ไปคุยกับเมในฝันหน่อย :b1:

รูปภาพ

เจ้าของ:  โลกสวย [ 26 ก.ย. 2019, 22:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แก้ปัญหาภัยน้ำท่วม เห็นแล้วน่าสงสารครับ

กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:


คริคริ

กองกระดูกคนตายคนเดียวที่เวียนว่ายในสังสาร กองสูงเท่าภูเขา ก็เยอะเป็นเพื่อนได้
555
tongue


เถียงไปเรื่อย เถียงคำไม่ตกฟาก :b1: กระดูกมันพูดได้ไหมเล่า เออ

ไปคุยกับเมในฝันหน่อย :b1:

รูปภาพ



คริคริ

กะดูกบอกว่าลุงกรัชกายแก่เกินแล้วค่ะ


กระดูกเหล่าใดเขาไม่ปรารถนาแล้ว เหมือนน้ำเต้าในสารทกาล มีสีเหมือนนกพิราบ
จะยินดีอะไรเพราะได้เห็นกระดูกเหล่านั้น
สรีระอันกรรมสร้างสรรให้เป็นเมืองแห่งกระดูก มีเนื้อและเลือดเป็นเครื่องไล้ทา
เป็นที่ตั้งแห่งความแก่ ความตาย ความถือตัว และความลบหลู่
ราชรถทั้งหลายอันวิจิตรย่อมคร่ำคร่าได้โดยแท้
อนึ่งแม้สรีระก็เข้าถึงความคร่ำคร่า

ส่วนธรรมของสัตบุรุษย่อมไม่เข้าถึงความคร่ำคร่า

tongue

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 01 ต.ค. 2019, 17:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แก้ปัญหาภัยน้ำท่วม เห็นแล้วน่าสงสารครับ

อ้างคำพูด:
น้ำใจคณะสงฆ์หนกลางสู่ภัยน้ำท่วมอุบล ฯ

ลงพื้นที่ถวายกัปปิยภัณฑ์พระสงฆ์สามเณร และมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 20 วัด 1,007 ครอบครัว

https://www.banmuang.co.th/news/educati ... UZNTWBbxKM

เจ้าของ:  โลกสวย [ 01 ต.ค. 2019, 21:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แก้ปัญหาภัยน้ำท่วม เห็นแล้วน่าสงสารครับ

จขกท. ไปขุดอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ขณะน้ำท่วม จมหายไปเรย
หนูบอกแล้วว่า อ่างเก็บน้ำสำหรับน้ำแล้ง ไม่ใช่ขุดตอนน้ำกำลังท่วม



cry

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 12 ต.ค. 2019, 17:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แก้ปัญหาภัยน้ำท่วม เห็นแล้วน่าสงสารครับ

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater


รูปภาพ

อ้างคำพูด:
@ ภาพนี้ถูกแชร์บนทวิตเตอร์เยอะมาก ที่ถ่ายภาพความสะอาด​ จนกลายเป็นคำถามว่า ทำไมน้ำท่วมในญี่ปุ่นถึงได้สะอาดขนาดนี้
.
ขออธิบายแบบนี้ว่า ก่อนหน้าที่พายุจะเข้า 3-4 วัน ทางการของญี่ปุ่นได้มีการออกประกาศ เพื่อขอให้ประชาชนในพื้นที่ที่พายุจะเคลื่อนผ่าน ทำการเก็บขยะ สิ่งของต่างๆ รวมถึงกระถางต้นไม้ให้อยู่เหนือน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ขยะลอยไปกับกระแสน้ำ
ส่วนเจ้าหน้าที่ในเขตเทศบาลต่างๆ ในจังหวัดที่รับอิทธิพลจากพายุก็เข้าทำการลอกท่อ ทำความสะอาดท่อระบายน้ำ พร้อมกับพร่องออกจากท่อระบายน้ำ และลำรางสาธารณะ​ให้หมด เพื่อให้ไม่มีสิ่งอุดตันเมื่อต้องรับน้ำเข้ามาใหม่จากฝนที่พายุไต้ฝุ่น​ฮาบีกีสหอบมาด้วย
.
แต่น้ำที่ใสๆ นี้จะเห็นได้ในเขตตัวเมืองเท่านั้น เพราะถ้าหากว่าเป็นพื้นที่ชุมชนบริเวณใกล้กับเชิงเขา หรือใกล้กับบริเวณที่มีดินโคลน น้ำก็จะมีสีขุ่นแดง แต่ก็ไม่มีขยะลอยมากับกระแสน้ำ ซึ่งนี่คือเป็นการร่วมมือของประชาชนในการที่จะรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยที่ประชาชนชาวญี่ปุ่นทุกคนกระตือรือร้นที่จะมีส่วนร่วมในการรับมือกับภัยพิบัตินี้ ไม่ปล่อยให้เป็นภาระของเจ้าหน้าที่โดยตรงเพียงฝ่ายเดียว

เพราะการที่ชาวญี่ปุ่นเจอภัยพิบัติต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องหลายพันปี ทำให้คนญี่ปุ่นมีคำๆนึง ที่เอาไว้พูดกันในช่วงเวลาที่จะต้องเจอเหตุการณ์ร้ายๆ ว่า ทุกคนต้องสามัคคีกัน เพราะความสามัคคี จะทำให้ประเทศชาติของพวกเขาอยู่รอด


สุขาสงฺฆสฺสสามคฺคี. ความสามัคคีของหมู่ชนนำความสุขมาให้

พายุลูกนี้แรงขนาดไหน ดู

https://www.facebook.com/13159858084287 ... 648593248/

แสดงให้เห็นอีกมุมหนึ่งว่า ประเทศที่ประสบกับภัยธรรมชาติอยู่เสมอๆนั้น ประชาชนจะสามัคคีกันเพื่อสู้กับภัยธรรมชาติ มีระเบียบวินัย ส่วนประเทศที่ไม่ค่อยจะประสบกับภัยธรรมชาตินัก ประชาชนจะไม่ค่อยสามัคคีเพราะแย่งทรัพยากรธรรมชาติกันอยู่แบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา :b32: ขาดวินัย

ภาพตัวอย่างเทียบ

รูปภาพ



มีเวลาว่างมากก็ซามักฆีกันแบบเลือกข้าง ข้างใครข้างมัน :b1: ตัวอย่าง

https://www.facebook.com/15320274506369 ... 994513739/

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 12 ต.ค. 2019, 18:57 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แก้ปัญหาภัยน้ำท่วม เห็นแล้วน่าสงสารครับ

นายกญี่ปุ่นสั่ง ขรก. ห้ามหยุดงาน ช่วงพายุฮากิบิสถล่ม ต้องดูแลประชาชน 24 ชั่วโมง

รูปภาพ


http://www.noozup.news/718421/

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 12 ต.ค. 2019, 19:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แก้ปัญหาภัยน้ำท่วม เห็นแล้วน่าสงสารครับ

รูปภาพ


https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

รูปภาพ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 12 ต.ค. 2019, 20:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แก้ปัญหาภัยน้ำท่วม เห็นแล้วน่าสงสารครับ

รูปภาพ

เปิดวิธี ญี่ปุ่น รับมือไต้ฝุ่นฮากิบิส อย่างมืออาชีพ นายกฯ นั่งวอร์รูม บัญชาการเอง

@ นายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาเบะ พร้อมรัฐมนตรี และทีมงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน ได้ตั้งวอร์รูมสั่งการแลกเปลี่ยนข่าวสารตลอด 24 ชั่วโมง

@ สั่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนเต็มกำลัง โดยใช้บทเรียนจากพายุลูกก่อน นำมาปรับปรุงแก้ไขให้การรับมือให้ดีขึ้น

@สั่งการห้ามข้าราชการที่เกี่ยวข้องทุกคนหยุดงาน ทุกตำแหน่งต้องพร้อมปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง

@ คณะรัฐบาลคอยสั่งการสนับสนุนที่ทำเนียบรัฐบาลตลอด 24 ชั่วโมงเช่นกัน

@ เลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกทีวีสั่งการเพิ่มเติม พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนระมัดระวังและไม่ตกอยู่ในความประมาท

@ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ได้สั่งการให้บริษัทการไฟฟ้าทุกบริษัทเตรียมพร้อมรับมือแก้ไขปัญหาไฟฟ้าขัดข้องตลอดเวลา ทั้งการเตรียมสำรองเชื้อเพลิงต่าง ๆ ให้เต็มที่

@ รัฐมนตรีหญิงกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้รัฐบาลท้องถิ่นทั่วประเทศดูแลความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มกำลัง รวมถึงหน่วยงานตำรวจ ดับเพลิง โรงพยาบาลในทั่วประเทศให้พร้อมรับมือให้บริการประชาชน

@ ทั้งนี้จากเรื่องราวเหล่านี้ พอจะแสดงให้เห็นถึงสาเหตุที่ประชาชนญี่ปุ่นบางส่วนไม่ได้รู้สึกเครียดจนเกินไปแม้ต้องรับมือกับพายุครั้งใหญ่ เนื่องจากทุกคนต่างไว้ใจว่ารัฐบาลและคนในชาติจะทำงานอย่างเต็มกำลังด้วยความสามัคคี


https://hilight.kapook.com/view/194822? ... AGiDQ77f6Q


https://www.ohozap.com/archives/41514?f ... Wee0saYfig

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 13 ต.ค. 2019, 08:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แก้ปัญหาภัยน้ำท่วม เห็นแล้วน่าสงสารครับ

อ้างคำพูด:
พายุฮาจิบิสถล่มญี่ปุ่น 10 ชั่วโมงผ่านไป มีแถมแผ่นดินไหวซ้ำด้วยอีกนิดหน่อย ดูรูปเอานะครับ นี่คือความเสียหายทางกายภาพภูมิศาสตร์ที่ปรากฏ รวมๆจิ๊กๆเค้ามามั่ง ได้เกือบ 50 รูป

ความเสียหายทางสิ่งก่อสร้าง ถือว่าเรื่องเล็กสำหรับญี่ปุ่น ในเมืองไม่เสียหายมากนัก แต่ตามนอกเมืองบ้านเรือนประชาชนราบเป็นหน้ากลองไปหลายตำบลเลยทีเดียว มีรายงานคนตายอยู่แค่ 2 ราย บาดเจ็บอีกพอสมควร ส่วนใหญ่เกิดจากบ้านถล่มลงมาทับ

แต่ตอนนี้ในส่วนพื้นที่ๆแม้นพายุผ่านไปแล้ว แต่ปัญหามันยังไม่จบนะครับ ฝนครับ คือปัญหาต่อมา ฝนปริมาณมหาศาล ทำให้น้ำท่วมพื้นที่ 2 ใน 3 ในแทบทุกจุดรอบๆ เมือง และในเมืองที่เป็นที่ลุ่มต่ำ

ประเทศนี้มันเหลือเชื่อจริงๆครับ น้ำพรั่งพรูลงมาจากที่สูงรวมกับน้ำฝนมหาศาล แต่แม่ง!!ไม่มีขยะให้เห็นเลย บ้านเมืองเค้าดีจริงๆ แถมขโมยขโจรก็ไม่มีเลย บางร้านกระจกแตก ของข้างในก็ยังอยู่ดี บางที่น้ำท่วม น้ำดันประตูฟังเปิดอ้าซ่า แต่ข้าวของข้างในก็ยังอยู่ดี เมืองเงียบยังก่ะเมืองร้าง แต่อย่างนึงที่ผมเห็นในหลายๆรูปคือ

ในเมืองเงียบกริ๊บ ไร้ผู้คน แต่แทบทุกบล๊อคถนน จะมี จนท.ปภ.ญี่ปุ่นเดินไปเดินมาตรวจตราอยู่ทั้งวันทั้งคืน ตรงไหนที่น้ำท่วมสูงมาก เค้าก็ใช้เรือยางแล่นไปตามซอยต่างๆเพื่อคอยตรวจตรา ตรงไหนพอเดินได้ เค้าก็เดินลุยน้ำตรวจดูบ้านเรือนประชาชน เผื่อมีใครจะให้ช่วยเหลือ ..


รูปภาพ

รูปภาพ

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 13 ต.ค. 2019, 18:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แก้ปัญหาภัยน้ำท่วม เห็นแล้วน่าสงสารครับ

อ้างคำพูด:

รูปภาพ

ญี่ปุ่นระดมจนท.กว่าหมื่นคน ช่วยผู้ประสบภัย

รบ.ญี่ปุ่นส่งจนท.ปฏิบัติการกู้ภัยช่วยปชช. หลังพายุ 'ฮากิบิส' พัดถล่ม พร้อมสัญญาว่าจะทุ่มเทงบประมาณ-ความช่วยเหลือที่จำเป็นทั้งหมดลงไปในพื้นที่อย่างเร่งด่วน

วันนี้ ( 13 ต.ค.62) หลังจากพายุ "ไต้ฝุ่นฮากิบิส" ถล่มประเทศญี่ปุ่น ซึ่งรุนแรงที่สุดในรอบ 60 ปี สร้างความเสียหายไปทั่วประเทศ จนทางการญี่ปุ่นออกประกาศฉุกเฉินเตือนฝนตกหนักระดับสูงสุดเกือบทุกพื้นที่ รวมถึงฝนตกหนัก และดินถล่มในจังหวัดชิสึโอกะ ล่าสุดกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้ประกาศยกเลิกคำเตือนฝนตกหนัก (heavy rain emergency warning) ของจังหวัดอิวาเตะ ซึ่งเป็นจังหวัดสุดท้ายเป็นการยกเลิกครบทุกจังหวัดแล้ว

เช้าตรู่วันนี้ รัฐบาลได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดับเพลิงกู้ภัย ทหารแพทย์ ทหารเจไต ทหารเรือ ออกปฏิบัติการกู้ภัยตั้งแต่เวลาตีห้าจำนวน 27,000 นาย พร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็นครบมือ ทั้งเครื่องจักรกลหนัก อาหาร น้ำดื่ม พร้อมอุปกรณ์ดำรงชีพที่จำเป็นครบมือออกไปช่วยรัฐบาลท้องถิ่นทำการกู้ภัยและฟื้นฟูทุกพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายแล้ว

โดยรัฐบาล ได้ตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อบรรเทาสาธารณภัยฉุกเฉินขึ้นภายในทำเนียบรัฐบาล โดยรัฐบาลสัญญาว่า จะทุ่มเทงบประมาณ และความช่วยเหลือที่จำเป็นทั้งหมดลงไปในพื้นที่อย่างเร่งด่วน โดยถือเป็นภารกิจหลักของรัฐบาล

ท่านได้ให้นโยบายให้รัฐบาลท้องถิ่น เร่งมือช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนและให้ความสําคัญกับการรักษาชีวิตประชาชนก่อนเป็นอันดับแรก มีอะไรขาดเหลือให้รีบบอกมารัฐบาลจะจัดเตรียมให้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งกำลังคน เครื่องมือต่างๆ

หลังจากนั้นให้รีบซ่อมแซมฟื้นฟูไฟฟ้า น้ำประปา ถนนหนทาง สาธารณูปโภคพื้นฐานทุกอย่างให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด โดยท่านได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฟื้นฟูพร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญเดินทางลงพื้นที่จังหวัดฟุคุชิม่าและจังหวัดนางาโนะในทันทีและให้รายงานรายละเอียดความเสียหายเข้ามาที่ศูนย์ฟื้นฟูฉุกเฉินของรัฐบาลทุกวัน หลังจากนั้นคุณลุงซุกะโฆษกรัฐบาลได้ออกมาย้ำถึงภารกิจของรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชนด้วย


รูปภาพ

https://www.tnnthailand.com/content/189 ... NtJnoH5bf4

นี่คือรัฐบาลที่ประชาชนเลือกมา ถ้าไม่สนองความต้องการประชาชน สมัยหน้า ปชช.ก็ไม่เลือก ซึ่งต่างจากรัฐบาลเผด็จการ จะเพิกเฉยไม่ยี่หระข้อเรียกร้องของประชาชน เพราะถือว่า ปชช.ไม่ได้เลือกเขามา เขามาด้วยอำนาจพิเศษของเขาเอง นี่คือข้อต่างระหว่างเผด็จการกับประชาธิปไตย

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 13 ต.ค. 2019, 20:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แก้ปัญหาภัยน้ำท่วม เห็นแล้วน่าสงสารครับ

รูปภาพ

อ้างคำพูด:
“โตเกียว” เมืองหลวงติดทะเลที่มีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมือง

เช่นเดียวกับหลายเมือง โตเกียวเจริญเติบโตอย่างมากในช่วงยุค 1950 กลายเป็นเมืองที่ประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก

พื้นที่ราบ ถูกแทนที่ด้วยพื้นคอนกรีต ท้องนาก็ถูกแทนที่ด้วยตึกและบ้านเรือน

นั่นทำให้เมืองหลวงแห่งญี่ปุ่นนี้ ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมขังและระบายไม่ทันมาโดยตลอด

โดยเฉพาะในปี 1947 ไต้ฝุ่นแคทลีนเข้าจู่โจมโตเกียว กระแสลมทำลายสิ่งก่อสร้าง ฝนตกหนักจนระบายไม่ทัน ทำให้แม่น้ำเอโดะเอ่อเข้าซัดเมือง

บ้าน 31,000 หลังคาเรือนได้รับความเสียหาย

ประชากร 1,000 คนเสียชีวิต และอีกราว 800 คนสูญหาย ต้องพลัดพรากจากพี่น้อง

และนั่นเป็นภัยพิบัติที่ฝังอยู่ในใจคนญี่ปุ่นอีกครั้ง นอกจากเรื่องของแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ

จนกระทั่ง.. ในปี 1990

รัฐบาลญี่ปุ่นมีความเห็นว่าจะต้องทำโครงข่ายการระบายน้ำอย่างจริงจังให้แก่เมืองโตเกียว

และเนื่องจากตอนนั้นประชากรก็หนาแน่นมาก ไม่สามารถสร้างทางน้ำขึ้นบนผิวดินได้ คำตอบก็เลยกลายเป็น “อุโมงค์ยักษ์ใต้ดิน”

แม้จะเป็นโครงการที่มีมูลค่ามหาศาล ต้องทุ่มงบประมาณตอนนั้นกว่า 70,000 ล้านบาท

แต่ด้วยความจำเป็นที่ “ต้องทำ” เพราะถ้ายิ่งไม่ทำ ในอนาคตเมื่อเมืองแออัดขึ้น เจอกับภัยพิบัติที่รุนแรงขึ้น ก็จะยิ่งกลายเป็นปัญหาที่แก้ไขยากขึ้นไปอีก

หลังจากเขียนแผนงานเสร็จ ในที่สุดอุโมงค์ระบายน้ำขนาดยักษ์ ก็ได้ฤกษ์ก่อสร้างขึ้นในปี 1993



ระบบระบายน้ำในโตเกียวทำงานอย่างไร!?

ระบบอุโมงค์ยักษ์ที่มีความยาวประมาณ 6.3 กิโลเมตร หรือพอๆ กับการขับรถจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปจนถึงห้าแยกลาดพร้าว


https://www.billionmindset.com/tokyo-fl ... zjQwRIN7Cs

อุโมงค์ยักษ์ ชาวกทม.ได้ยินมานานตั้งแต่ผู้ว่าคนก่อน น้ำท่วมทีก็อุโมงค์ยักษ์ๆๆ แต่ไม่มีใครเคยเห็นว่าอุโมงค์ที่ว่าอยู่ตรงไหน :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 15 ต.ค. 2019, 10:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แก้ปัญหาภัยน้ำท่วม เห็นแล้วน่าสงสารครับ

อ้างคำพูด:
ขยะจำนวนมาก บริเวณอัฒจันทร์ ริมแม่น้ำโขง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ในช่วงกลางดึกของคืนวันออกพรรษาไหลเรือไฟ วันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา



รูปภาพ

(มีคนกลุ่มหนึ่งช่วยกันเก็บขยะแล้วก็)
อ้างคำพูด:
โพสต์ข้อความ ว่า “คิดแล้วต้องลงมือทำด้วย เหนื่อยแต่มีความสุข​ นอนหลับฝันดี


รูปภาพ

บุญด้านหนึ่งเป็นชื่อของความสุข ดังพุทธพจน์ที่ว่า ภิกษุทั้งหลาย พวกเธออย่ากลัวบุญเลย คำว่า บุญ นั้น เป็นชื่อของความสุข

ความคิดเป็นมโนกรรม การกระทำเป็นกายกรรม การพูดเป็นวจีกรรม
หากคิด พูด ทำสิ่งดีงาม เรียกว่าเป็นบุญเป็นกุศล (กุศลจิต) ทางใจ ทางกาย ทางวาจา
ถ้า คิด พูด ทำ สิ่งที่ไม่ดีไม่งาม ก็เรียกว่า บาป อกุศล (อกุศลจิต) ทางใจ ทางกาย ทางวาจา

มโนกรรม ความคิดในใจคนอื่นมองไม่เห็น แต่ตัวเองเห็น ไม่ปรากฏออกมาภายนอก (คิดอยู่ในใจ) แต่การกระทำทางกาย ทางวาจา (คำพูด) คนอื่นเห็นได้รู้ได้

นี่คือหลักกรรมตามหลักของพระพุทธศาสนา หลับฝันดี เกิดจากจิตที่คิดดี (กุศลจิต) เหนื่อยเรื่องของกาย ความสุขเรื่องของใจ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 15 ต.ค. 2019, 12:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แก้ปัญหาภัยน้ำท่วม เห็นแล้วน่าสงสารครับ

วางหลักเทียบไว้คร่าวๆ

ประเภทของกรรม

กรรมนั้น เมื่อจำแนกตามคุณภาพ หรือตามธรรมที่เป็นมูลเหตุ แบ่งได้เป็น ๒ อย่างคือ

๑. อกุศลกรรม กรรมที่เป็นอกุศล การกระทำที่ไม่ดี กรรมชั่ว หมายถึง การกระทำที่เกิดจากอกุศลมูล คือ โลภะ โทสะ หรือโมหะ

๒. กุศลกรรม กรรมที่เป็นกุศล การกระทำที่ดี หรือกรรมดี หมายถึง การกระทำที่เกิดจากกุศลมูล คือ อโลภะ อโทสะ หรืออโมหะ

แต่ถ้าจำแนกตามทวาร คือทางที่ทำกรรม หรือทางแสดงออกของกรรม จัดเป็น ๓ คือ

๑. กายกรรม กรรมทำด้วยกาย หรือการกระทำทางกาย

๒. วจีกรรม กรรมทำด้วยวาจา หรือการกระทำทางวาจา

๓. มโนกรรม กรรมทำด้วยใจ หรือการกระทำทางใจ

เมื่อจำแนกให้ครบตามหลักสองข้อที่กล่าวมาแล้ว ก็จะมีกรรมรวมทั้งหมด ๖ อย่าง คือ กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม แต่ละอย่างที่เป็นอกุศล กับ กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม แต่ละอย่างที่เป็นกุศล * (องฺ.ติก.20/445/131; อภิ.สํ.34/663/259)

ในบรรดากรรม ๓ อย่าง คือ กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ที่กล่าวไว้ข้างต้นนั้น มโนกรรมสำคัญที่สุด และมีผลกว้างขวางรุนแรงที่สุด ดังบาลีว่า

“ดูกรตปัสสี บรรดากรรม ๓ อย่างเหล่านี้ ที่เราจำแนกไว้แล้วอย่างนี้ แสดงความแตกต่างกันแล้วอย่างนี้ เราบัญญัติมโนกรรมว่ามีโทษมากกว่า ในการทำบาปกรรม ในความเป็นไปแห่งบาปกรรม หาบัญญัติกายกรรมอย่างนั้นไม่ หาบัญญัติวจีกรรมอย่างนั้นไม่” * (ม.ม.๑๓/๖๔/๕๖)

เหตุที่มโนกรรมสำคัญที่สุด ก็เพราะเป็นจุดเริ่มต้น คนคิดก่อนแล้วจึงพูดจึงกระทำ คือ แสดงออกทางกายและวาจา ดังนั้น วจีกรรม และกายกรรม จึงขยายออกมาจากมโนกรรมนั่นเอง และ
ที่ว่ามีผลกว้างรุนแรงที่สุด ก็เพราะว่ามโนกรรมรวมถึง ความเชื่อถือ ความเห็น แนวคิด และค่านิยมต่างๆ ที่เรียกว่า ทิฏฐิ

ทิฏฐินี้เป็นตัวกำหนดพฤติกรรมทั่วๆไปของบุคคล ความเป็นไปในชีวิตของบุคคล และ คติของสังคมทั้งหมด เมื่อเชื่อ เมื่อเห็น หรือนิยมอย่างไร ก็คิดการ พูดจา สั่งสอน ชักชวนกัน และทำการต่างๆไปตามที่เชื่อที่เห็นที่ นิยมอย่างนั้น

ถ้าเป็นมิจฉาทิฏฐิ การดำริ การพูดจา และทำการ ก็ดำเนินไปในทางผิด เป็นมิจฉาไปด้วย

ถ้าเป็นสัมมาทิฏฐิ การดำริ การพูดจา และทำการต่างๆ ก็ดำเนินไปในทางถูกต้อง เป็นสัมมาไปด้วย

เจ้าของ:  โลกสวย [ 16 ต.ค. 2019, 00:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แก้ปัญหาภัยน้ำท่วม เห็นแล้วน่าสงสารครับ

กรัชกาย เขียน:
วางหลักเทียบไว้คร่าวๆ

ประเภทของกรรม

กรรมนั้น เมื่อจำแนกตามคุณภาพ หรือตามธรรมที่เป็นมูลเหตุ แบ่งได้เป็น ๒ อย่างคือ

๑. อกุศลกรรม กรรมที่เป็นอกุศล การกระทำที่ไม่ดี กรรมชั่ว หมายถึง การกระทำที่เกิดจากอกุศลมูล คือ โลภะ โทสะ หรือโมหะ

๒. กุศลกรรม กรรมที่เป็นกุศล การกระทำที่ดี หรือกรรมดี หมายถึง การกระทำที่เกิดจากกุศลมูล คือ อโลภะ อโทสะ หรืออโมหะ

แต่ถ้าจำแนกตามทวาร คือทางที่ทำกรรม หรือทางแสดงออกของกรรม จัดเป็น ๓ คือ

๑. กายกรรม กรรมทำด้วยกาย หรือการกระทำทางกาย

๒. วจีกรรม กรรมทำด้วยวาจา หรือการกระทำทางวาจา

๓. มโนกรรม กรรมทำด้วยใจ หรือการกระทำทางใจ

เมื่อจำแนกให้ครบตามหลักสองข้อที่กล่าวมาแล้ว ก็จะมีกรรมรวมทั้งหมด ๖ อย่าง คือ กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม แต่ละอย่างที่เป็นอกุศล กับ กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม แต่ละอย่างที่เป็นกุศล * (องฺ.ติก.20/445/131; อภิ.สํ.34/663/259)

ในบรรดากรรม ๓ อย่าง คือ กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ที่กล่าวไว้ข้างต้นนั้น มโนกรรมสำคัญที่สุด และมีผลกว้างขวางรุนแรงที่สุด ดังบาลีว่า

“ดูกรตปัสสี บรรดากรรม ๓ อย่างเหล่านี้ ที่เราจำแนกไว้แล้วอย่างนี้ แสดงความแตกต่างกันแล้วอย่างนี้ เราบัญญัติมโนกรรมว่ามีโทษมากกว่า ในการทำบาปกรรม ในความเป็นไปแห่งบาปกรรม หาบัญญัติกายกรรมอย่างนั้นไม่ หาบัญญัติวจีกรรมอย่างนั้นไม่” * (ม.ม.๑๓/๖๔/๕๖)

เหตุที่มโนกรรมสำคัญที่สุด ก็เพราะเป็นจุดเริ่มต้น คนคิดก่อนแล้วจึงพูดจึงกระทำ คือ แสดงออกทางกายและวาจา ดังนั้น วจีกรรม และกายกรรม จึงขยายออกมาจากมโนกรรมนั่นเอง และ
ที่ว่ามีผลกว้างรุนแรงที่สุด ก็เพราะว่ามโนกรรมรวมถึง ความเชื่อถือ ความเห็น แนวคิด และค่านิยมต่างๆ ที่เรียกว่า ทิฏฐิ

ทิฏฐินี้เป็นตัวกำหนดพฤติกรรมทั่วๆไปของบุคคล ความเป็นไปในชีวิตของบุคคล และ คติของสังคมทั้งหมด เมื่อเชื่อ เมื่อเห็น หรือนิยมอย่างไร ก็คิดการ พูดจา สั่งสอน ชักชวนกัน และทำการต่างๆไปตามที่เชื่อที่เห็นที่ นิยมอย่างนั้น

ถ้าเป็นมิจฉาทิฏฐิ การดำริ การพูดจา และทำการ ก็ดำเนินไปในทางผิด เป็นมิจฉาไปด้วย

ถ้าเป็นสัมมาทิฏฐิ การดำริ การพูดจา และทำการต่างๆ ก็ดำเนินไปในทางถูกต้อง เป็นสัมมาไปด้วย


คริคริ
มโนไม่เป็นกรรม

กรรมไม่ดำไม่ขาว มีวิบากไม่ดำไม่ขาว ย่อมเป็นไปเพื่อสิ้นกรรม

tongue

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 16 ต.ค. 2019, 19:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แก้ปัญหาภัยน้ำท่วม เห็นแล้วน่าสงสารครับ

โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
วางหลักเทียบไว้คร่าวๆ

ประเภทของกรรม

กรรมนั้น เมื่อจำแนกตามคุณภาพ หรือตามธรรมที่เป็นมูลเหตุ แบ่งได้เป็น ๒ อย่างคือ

๑. อกุศลกรรม กรรมที่เป็นอกุศล การกระทำที่ไม่ดี กรรมชั่ว หมายถึง การกระทำที่เกิดจากอกุศลมูล คือ โลภะ โทสะ หรือโมหะ

๒. กุศลกรรม กรรมที่เป็นกุศล การกระทำที่ดี หรือกรรมดี หมายถึง การกระทำที่เกิดจากกุศลมูล คือ อโลภะ อโทสะ หรืออโมหะ

แต่ถ้าจำแนกตามทวาร คือทางที่ทำกรรม หรือทางแสดงออกของกรรม จัดเป็น ๓ คือ

๑. กายกรรม กรรมทำด้วยกาย หรือการกระทำทางกาย

๒. วจีกรรม กรรมทำด้วยวาจา หรือการกระทำทางวาจา

๓. มโนกรรม กรรมทำด้วยใจ หรือการกระทำทางใจ

เมื่อจำแนกให้ครบตามหลักสองข้อที่กล่าวมาแล้ว ก็จะมีกรรมรวมทั้งหมด ๖ อย่าง คือ กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม แต่ละอย่างที่เป็นอกุศล กับ กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม แต่ละอย่างที่เป็นกุศล * (องฺ.ติก.20/445/131; อภิ.สํ.34/663/259)

ในบรรดากรรม ๓ อย่าง คือ กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ที่กล่าวไว้ข้างต้นนั้น มโนกรรมสำคัญที่สุด และมีผลกว้างขวางรุนแรงที่สุด ดังบาลีว่า

“ดูกรตปัสสี บรรดากรรม ๓ อย่างเหล่านี้ ที่เราจำแนกไว้แล้วอย่างนี้ แสดงความแตกต่างกันแล้วอย่างนี้ เราบัญญัติมโนกรรมว่ามีโทษมากกว่า ในการทำบาปกรรม ในความเป็นไปแห่งบาปกรรม หาบัญญัติกายกรรมอย่างนั้นไม่ หาบัญญัติวจีกรรมอย่างนั้นไม่” * (ม.ม.๑๓/๖๔/๕๖)

เหตุที่มโนกรรมสำคัญที่สุด ก็เพราะเป็นจุดเริ่มต้น คนคิดก่อนแล้วจึงพูดจึงกระทำ คือ แสดงออกทางกายและวาจา ดังนั้น วจีกรรม และกายกรรม จึงขยายออกมาจากมโนกรรมนั่นเอง และ
ที่ว่ามีผลกว้างรุนแรงที่สุด ก็เพราะว่ามโนกรรมรวมถึง ความเชื่อถือ ความเห็น แนวคิด และค่านิยมต่างๆ ที่เรียกว่า ทิฏฐิ

ทิฏฐินี้เป็นตัวกำหนดพฤติกรรมทั่วๆไปของบุคคล ความเป็นไปในชีวิตของบุคคล และ คติของสังคมทั้งหมด เมื่อเชื่อ เมื่อเห็น หรือนิยมอย่างไร ก็คิดการ พูดจา สั่งสอน ชักชวนกัน และทำการต่างๆไปตามที่เชื่อที่เห็นที่ นิยมอย่างนั้น

ถ้าเป็นมิจฉาทิฏฐิ การดำริ การพูดจา และทำการ ก็ดำเนินไปในทางผิด เป็นมิจฉาไปด้วย

ถ้าเป็นสัมมาทิฏฐิ การดำริ การพูดจา และทำการต่างๆ ก็ดำเนินไปในทางถูกต้อง เป็นสัมมาไปด้วย


คริคริ
มโนไม่เป็นกรรม

กรรมไม่ดำไม่ขาว มีวิบากไม่ดำไม่ขาว ย่อมเป็นไปเพื่อสิ้นกรรม

tongue


เถียงพุทธพจน์ตกนรกขุมโลกันต์นะน่า ก็มโนกรรมนั่นไง

กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม

หน้า 6 จากทั้งหมด 11 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/