วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 17:55  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2019, 04:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"จิตสุดท้าย"

ถาม : จิตสุดท้ายก่อนตายหมายถึงว่าก่อนเราสิ้นลมเราคิดถึงเรื่องบุญหรือบาปก็จะไปเกิดตามสิ่งนั้นก่อน หรือว่าเอาบุญและบาปที่ทำมาบวกลบคูณหารกันแล้วถึงสรุปเป็นไปเกิดตามนั้นคะ

พระอาจารย์ : คือ"จิตของเรานี้มันเป็นจิตสุดท้ายตลอดเวลา"

ตอนนี้มันเป็นอะไร ก็ถ้าตายตอนนี้มันก็เป็นอย่างนั้นทันที มันบวกลบคูณหาร มันบาลานซ์บัญชี มันทำของมันอยู่ตลอดเวลา มันไม่ใช่จะมารอทำตอนที่ตาย ถ้าจิตมันคิดดีมันก็ไม่ไปคิดร้าย ถ้าจิตคิดร้ายมันอยู่ดีๆ มันจะไปคิดดีมันย่อมเป็นไปไม่ได้

มันอยู่ที่การฝึกของเรา ตอนนี้ถ้าเราฝึกให้มันคิดดี มันก็จะคิดดี ตอนตายมันก็จะคิดดีมันไม่มีทางที่จะไปคิดร้ายหรอก ถ้าตอนนี้เราคิดร้าย ตอนตายมันก็คิดร้าย มันจะไปคิดดีได้ยังไง ขนาดตอนเป็นยังไม่คิดดี แล้วตอนตายจะไปคิดดีได้ไง

ฉะนั้น "จิตสุดท้ายก็คือ จิตปัจจุบันนี่แหละ" จิตเราตอนนี้เป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้นแหละ ตอนนี้เราเป็นยังไง เวลาตาย เราตายในอดีตหรือตายในอนาคต เราก็ตายในปัจจุบันใช่ไหม อดีตไม่มี อนาคตไม่มี มีปัจจุบันเท่านั้นเอง และอาการของจิตที่เป็นปัจจุบันก็คืออาการสุดท้ายของจิตนั่นแหละ

..."ฉะนั้นพยายามทำจิตปัจจุบันให้เป็นจิตที่ดี จิตที่สงบ จิตที่นิ่ง เวลาตายมันก็จะเป็นอย่างนั้นไป"

ถ้าเวลาปัจจุบันมันวุ่นวายฟุ้งซ่าน เครียดกับเรื่องนั้นเรื่องนี้ เวลาตายมันก็เป็นอย่างนั้นแหละ มันจะไปเป็นอย่างอื่นได้ยังไง.

........................................

.

คัดลอกถามตอบปัญหาธรรม

ธรรมะบนเขา 26/2/2560

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต





“บูชาบุคคลที่สมควรต่อการบูชาเป็นมงคลอย่างยิ่ง”

บิดามารดาผู้มีพระคุณทั้งหลาย เป็นบุคคลที่เราควรจะบูชา ควรที่จะแสดงความกตัญญูกตเวที เพราะคนที่มีความกตัญญูกตเวทีเป็นคนดีนั่นเอง คนเราจะเป็นคนดีได้ดูที่ความกตัญญูนี่แหละ ถ้าเราไม่กตัญญูแล้วจะไม่มีใครอยากจะเกี่ยวข้องด้วย เพราะเหมือนกับไปช่วยงูเห่า ไปช่วยงูเห่าเดี๋ยวเผลอจะโดนงูเห่ากัดตายได้ คนที่ไม่มีความกตัญญูก็จะเป็นแบบนั้น ช่วยเขาแล้ววันดีคืนดีเขาโกรธเราขึ้นมาเขาก็ฆ่าเราได้ เขาก็ทำร้ายเราได้ แต่คนที่มีความกตัญญูจะไม่กล้าทำ คนที่มีความสำนึกในบุญคุณของผู้อื่นนี้จะไม่กล้าทำร้ายผู้ที่มีบุญคุณด้วย จะมีแต่จะแสดงความเคารพนับถือยกย่องเทิดทูน เพราะว่าถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้นั้นเขาจะอยู่ได้อย่างไร ที่เขารอดมาได้เขาอยู่มาได้จนบัดนี้ก็เพราะความช่วยเหลือของผู้อื่น อย่างพวกเรานี้ถ้าไม่มีพ่อแม่เลี้ยงดูเรา เราจะอยู่มาได้จนถึงวันนี้เหรอ แล้วเราจะกล้าลืมบุญคุณของพ่อของแม่ลงคอหรือ ถ้าไม่มีพ่อแม่เลี้ยงดูเรา เราจะอยู่ตรงนี้ได้หรือเปล่าจนถึงวันนี้ นี่แหละคือความกตัญญู บูชาบุคคลที่สมควรต่อการบูชาเป็นมงคลอย่างยิ่ง

สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๒

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
ณ จุลศาลา เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาชีโอน





“อย่ายึดติดในตัวบุคคล
อย่ายึดติดในครูบาอาจารย์
จงพิจารณาและเคารพ
ในพระธรรมคำสอน”

หลวงปู่บุดดา ถาวโร





การปฏิบัติก็เพื่อความหลุดพ้นจากความทุกข์นี่เอง
จะหลุดได้ก็ต้องใช้ปัญญาให้เห็นไตรลักษณ์
เห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เห็นอสุภะ
เพราะถ้าเห็นแล้วก็จะปล่อยวางไม่ยึดไม่ติด
เมื่อไม่ยึดไม่ติดแล้ว
ก็จะไม่ทุกข์เวลาที่มันมีการเสื่อมไปจากไป

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต




“คนเราต่างมีกรรมเป็นของของตน มีกรรมเป็นผู้ให้ผล มีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นผู้ติดตาม มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย เราทำกรรมอันใดไว้ เป็นบุญหรือเป็นบาป เมื่อยังมีชีวิตอยู่ กรรมนั้นจักเป็นทายาทให้เราได้รับผลกรรมนั้นต่อ ๆ ไป คือ หมายความว่า กรรมต่างจำแนกสัตว์ให้เป็นไปต่างๆ นานา ให้เลว ให้ดี ให้ชั่ว ให้ประเสริฐ...”

หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล






...จิตปฏิสนธิที่จะเข้ามาปฏิสนธิ สัมภวธาตุของมารดานั้น จะต้องเข้ามานับจำนวนร้อยๆดวง แล้วแย่งกันเข้ามาเกิด ใครมีอิทธิพลมากกว่าก็เข้าไปได้ ในคัมภีร์ไตรโลกฯ ท่านแสดงไว้ว่า การที่ดวงจิตจะถือเข้ามาปฏิสนธิ ในครรภ์ของมารดานั้น เรียกว่านับจำนวนเป็นร้อยๆ แต่ถ้าใครเข้าไปก่อนแล้ว คนอื่นก็เข้าต่อไม่ได้ หากว่าเกิดสัมภวธาตุนั้นสูญเสียไม่สามารถจะก่อตัวได้ จิตปฏิสนธินั้นจะถอยตัวออกมา บางที บุญกรรมที่มารดานั้นเคยทำกับจิตวิญญาณนี้ไว้ จิตวิญญาณนี้ก็เข้าไปได้ ก็จะต้องมีความสัมพันธ์กันในอดีต จิตปฏิสนธินี้จึงเข้าไปสู่ครรภ์มารดานั้นได้ เพราะฉะนั้น ที่เรามีกันอยู่ในทุกวันนี้และมีร่างกายตัวตนอยู่ในทุกวันนี้ ก็ถือว่าเป็นผลบุญผลกรรม ที่เรามีอยู่ในอดีต สร้างขึ้นมาให้เป็นร่างกายและตัวตน

...เมื่อเรามีความตั้งใจที่จะหาหนทางแก้ไข้เรื่องจิตปฏิสนธินี้แล้ว ท่านว่าต้องให้บำเพ็ญวิปัสสนา ถ้าเราบำเพ็ญวิปัสสนาได้ จะต้องแก้ตรงจิตปฏิสนธิ ต่อไปจะไม่ต้องมาเกิดอีก เมื่อเราได้สร้างสมาธิขึ้นมา เราก็เข้าไปถึงจิตดวงนี้แล้ว เพราะว่าการที่ทำจิตเข้าสู่ภวังค์นั้น ก็คือการทำจิตของเราเข้าไปถึงจิต เราก็ได้รับผลประโยชน์อันมหาศาล เมื่อเราทำจิตเข้าถึงภาวะนี้ อันดับแรก เราก็ปิดอบายไว้สะก่อน เราจะไปทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่สูงขึ้นต่อจากนี้ไป ก่อนอื่นปิดอบายไว้ก่อน เพราะหากเราจับพลัดจับผลูไปอบาย เราก็เสียเวลามากเหลือเกิน

..............

หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร จาก channel youtube ธรรมะ วัดป่า





หลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา
ท่านสอน ไม่ให้ลืมตัว
ไม่ให้พวกเราลืมตัว ถึงจะอยู่ในสถานะไหนก็ตาม
ถึงจะมั่งมีศรีสุข ร่ำรวย มียศถาบรรดาศักดิ์ มีเงินคำทรัพย์สมบัติ
ในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ท่านเตือน ท่านบอกไว้เลยนะ
อภิณหปัจจเวกขณ์ คือพิจารณาเนืองๆ ๕ อย่าง
พระพุทธเจ้าท่านสอน พระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา
เราขอเตือนพวกท่านทั้งหลาย ให้พวกท่านทั้งหลาย
สำนึกสำเหนียกไว้ในใจ อย่าไปลุ่มหลงมัวเมาจนเกินไป
เพราะชีวิตนี้ เรามีความแก่เป็นธรรมดา จะล่วงพ้นความแก่ไปไม่ได้
คล้ายๆกับว่าพวกเราที่เป็นหนุ่มสาว
ก็จะหลงในความเป็นหนุ่มของตัวเอง
หลงในหน้าที่การงาน หลงในสุขภาพของตัวเอง
พระพุทธเจ้าจึงบอกว่า
พวกท่านทั้งหลายให้คิดไว้ในใจของตนเองเสมอว่า
เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา เราจะล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปไม่ได้
ให้เรานึกคิดไว้อยู่ อันนี้จะทำให้จิตใจของเราไม่หลง
เราจะเตรียมพร้อมอย่างไร ในขณะที่เรายังแข็งแรงอยู่นี้
เราจะเสาะแสวงหาคุณงามความดีอย่างไร
เรามีความตายเป็นธรรมดา จะล่วงพ้นความตายไปไม่ได้
คนเราต้องตาย เป็นธรรมดา เกิดมาแล้วก็ต้องตาย
แล้วก็ต่อไปอีก พวกท่านทั้งหลาย
จะต้องพลัดพรากจากของรักของเจริญใจทั้งหลายทั้งปวงอีก
ในเมื่อพวกท่าน ถึงจะเสาะแสวงหาเงินคำทรัพย์สมบัติ เพชรนิลจินดา
สร้างบ้านหรูหราโอ่อ่าขนาดไหน
ถึงจะมีภรรยาสามีลูกเต้าเหล่าหลานน่ารักน่าพอใจขนาดไหน
แต่อีกสักวันหนึ่ง
พวกท่านจะต้องพลัดพรากจากของรักของเจริญใจทั้งหลายทั้งปวง
ต้องทำใจเอาไว้ ท่านได้เตือนพวกเราอีกเหมือนกัน
จากนั้นเมื่อพลัดพรากไปแล้ว
เราจะต้องได้รับกรรม คือการกระทำของเรา
เมื่อเราทำกรรมอันไหนไว้ เราจะต้องได้รับผลของกรรมนั้น
ถ้าเราทำกรรมดี ผลบุญกุศลก็จะเข้ามาสู่จิตใจของเรา
ถ้าเราทำกรรมชั่ว กรรมชั่วก็จะเข้าสู่จิตใจของเรา
เพราะฉะนั้นต้องใช้ปัญญา สัมมาทิฏฐิ
จากนั้นก็ประกอบคุณงามความดี
อย่าตั้งอยู่ในความประมาท
เพราะเรามีความแก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมดา
จะต้องพลัดพราก จะต้องได้รับผลกรรมที่ตนได้กระทำไว้
นี้ละ อภิณหปัจจเวกขณ์ คณะ ๕ ข้อ
ต้องคิดไว้ในใจของพวกเราอยู่เสมอๆนะ

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๘





คนเราเมื่อจิตไม่มีทุกข์ ทุกข์อะไรก็ไม่มี
แต่ว่าถ้าจิตมีทุกข์แล้ว
อะไรทุกอย่างมันเต็มไปด้วยทุกข์
เมื่อย่นย่อเข้ามา ทุกข์ทั้งหลายมันอยู่ที่จิต อยู่ที่ใจ
แล้วก็คือใจมีอุปาทานยึดถือ
เมื่อจิตนี้ยึดถือมากก็ทุกข์มาก
ยึดถือน้อยก็ทุกข์น้อย
ไม่ยึดเสียเลยก็พ้นทุกข์ มันอยู่ที่ตรงนี้

หลวงปู่สิม พุทธาจาโร


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 66 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร