วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 01:40  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2019, 08:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




20190618_060546.png
20190618_060546.png [ 592.83 KiB | เปิดดู 1516 ครั้ง ]
มนุษย์ทุกคนล้วนรักตนเอง แต่น่าแปลกที่คนส่วนใหญ่กลับ
ไม่สามารถอยู่กับตัวเองได้ หากอยู่คนเดียวเมื่อไหร่
ไม่นานก็จะรู้สึกกระสับกระส่าย หรือถูกความเหงาเกาะกุมจิตใจ
และจำนวนไม่น้อยจึงพยายาม ทำตนให้เป็นนักล่าหา
ความสุขที่อยู่นอกตัว เช่น เที่ยวเตร่สนุกสนาน ช็อปปิ้งเล่นเกมออนไลน์

หรือไม่ก็วิ่งหาผู้คน สนทนาไม่หยุด อยู่ห่างจากโทรศัพท์ไม่ได้
หลายคนยอมแลกอิสรภาพและความสุขสงบ เพื่อมีใครสักคนเป็นเพื่อน
หรือคู่รัก แม้จะถูกเขาทำร้ายจิตใจก็ยอม ทั้งนี้เพียงเพื่อ
จะได้หายเหงาเท่านั้นเอง เรารักตนเองแต่เหตุใดจึงทนอยู่
กับตนเองไม่ได้ หากเรารักตนเองจริง เราย่อมพอใจและมีความสุข

ที่ได้อยู่กับตัวเอง แต่เหตุใดเราจึงรู้สึกเหงาในยามที่ไม่มีใคร
นั่นเป็นเพราะเรายังไม่เป็นมิตรกับตัวเองไม่ได้ ในส่วนลึกเรายัง
ทะเลาะเบาะแว้งหรือขัดแย้งกับตัวเอง ด้วยความที่ไม่เข้าใจตัวเอง
จึงพยายามหนี ไปหาความสุขภายนอกครั้งแล้วครั้งเล่าไม่หยุดหย่อน
เพราะความที่เป็นมิตรกับตนเองไม่ได้

เมื่อเราพบสันติสุขภายใน และสามารถอยู่คนเดียวได้
โดยความเหงาไม่อาจลุกล้ำกล้ำกลายจิตเกิด
การทะเลาะเบาะแว้งกับจิตใจได้ เมื่อพบกับความสุขจากภายใน
ก็ไม่จำเป็นต้องไล่ล่าหาความสุข จากภายนอก
ไม่ว่าทรัพย์สิน เงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศ

หรือผู้คนที่คอยพะเน้าพะนอ ตรงกันข้ามกลับสามารถ
แบ่งปันความสุข ให้แก่ผู้อื่นได้ไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะอยู่
ที่ไหนก็เป็นสุข และอบอุ่นใจ ทุกสถานที่เป็นเสมือนบ้าน
ทั้งนี้เพราะมีตนเองเป็นเพื่อนสอง

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2019, 14:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




20190625_183742.jpg
20190625_183742.jpg [ 30.01 KiB | เปิดดู 1494 ครั้ง ]
ความสุขทางโลกียะสุขจำเป็นที่จะต้องแสวงหา
และยังจะต้องจ่ายเป็นค่าลงทุน ลงแรงเป็นเครื่องตอบแทน
เป็นสิ่งที่จะต้องแลกเปลี่ยน เป็นความสุขที่จะต้องนำใช้
ในบริการทางทวาร ๖ มันเป็นกามรมณ์ ที่แฝงไปด้วยความยินดี
เป็นการพอใจและยังจำเป็นจะต้องเป็นสิ่งนั้นเสมอ
จะเป็นสิ่งอื่นก็ไม่ได้ เพราะเป็นที่ตั้งของกามตัณหา

เมื่อได้มาตามความต้องการจึงเป็นความสุข แท้จริงแล้วสิ่งที่ได้มานั้น
มันเป็นที่ไม่คงทนถาวร จากที่สุขมากกลับกลายมาเป็นสุข
ที่ค่อยๆลดน้อยลงจนกลายมาเป็นทุกข์ที่สุดอีก
ไม่ดำรงอยู่ในสภาพเดิมได้ จึงตัองจ่ายเพื่อเติมเต็มอย่าง
ไม่รู้จักจบสิ้น ในสิ่งที่เป็นจริงนั้นมันไม่ใช่ความสุขจริง

มันเป็นส้่งที่ต้องเติมเต็มให้กับตัณหาต่างหากเล่า
ตัณหาแม้จะเป็นบ่อน้อยๆ มันจะไม่มีบุคคลใดในโลก
จะจ่ายเป็นค่าตอบแทนหรือถมให้เต็มได้เลย
ยกเว้นแต่ผู้มีปัญญาที่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามอบให้

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2019, 09:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2013, 10:07
โพสต์: 406

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron