วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 22:34  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ม.ค. 2020, 06:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


ละมานะทิฏฐิ...
"มานะทิฏฐินี่เป็นกิเลสที่ใหญ่ที่สุด ยิ่งรู้ความเป็นจริงมากเท่าไหร่ ยิ่งไม่มีทิฏฐิ..."

โอวาทธรรม
หลวงพ่อพระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป







“คนเกิดบ่ทันพระพุทธเจ้ากะบอกว่า อยากเกิดทันเป็นสาวกเพิ่น คนเกิดบ่ทันอาจารย์ใหญ่มั่นกะบอกว่า อยากเกิดทันเป็นลูกศิษย์เพิ่น กิเลสมันพาว่า กิเลสมันพาให้เฮาท้อแท้ในการปฏิบัติ เกิดบ่ทันพระพุทธเจ้ากะให้ปฏิบัติในศีลธรรมคำสอนของเพิ่น เกิดบ่ทันอาจารย์ใหญ่มั่นกะให้พากันปฏิบัติตามคำสอนของเพิ่น กะถือว่าเป็นลูกศิษย์ของเพิ่นคือกัน”..

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม











#ธุดงควัตรที่เกี่ยวกับการเยี่ยมป่าช้า
"เป็นธุดงค์เครื่องปลุกเตือนพระและหมู่ชน
มิให้ประมาทในเวลามีชีวิตอยู่ โดยเข้าใจว่า
ตัวจะไม่ตาย ความจริงก็คือคนที่เริ่มตายเล็กตายน้อยตายไปอยู่ทุกเวลานั่นเอง เพราะคน
ที่ตายจนถึงกับย้ายบ้านใหม่ไปปลูกสร้างกันอยู่ที่ป่าช้าจนดาษดื่นแทบจะหาที่เผาและที่
ฝังกันไม่ได้ ก็ล้วนแต่คนที่เคยตายเล็กตายน้อยมาแล้ว เช่น พวกเราผู้ยังมีชีวิตอยู่นี่เอง
จะเป็นคนแปลกหน้ามาจากที่ไหน พอจะเห็น
ว่าเราเป็นคนที่แปลกกว่าเขา แล้วประมาทว่าตนจะไม่ตาย ที่ท่านสอนให้เยี่ยมญาติพี่น้อง
ผู้เกิด แก่ เจ็บ ตายด้วยกัน ก็เพื่อเตือนไม่ให้หลงลืมญาติพี่น้องอันดั้งเดิมในป่าช้านั่นเอง เพื่อจะได้ท่องบ่นไว้ในใจว่า เรามีความแก่
เจ็บ ตายอยู่ประจำตัวทั่วหน้ากัน ไม่มีใครจะกล้าอุตริเย่อหยิ่งตัวว่า จะไม่เกิด แก่ เจ็บ
ตายได้ เมื่อสายทางแห่งวัฏฏะที่ตนยังท่องเที่ยวเรียนสูตรอยู่ยังไม่จบ.."

#พระครูวินัยธร (มั่น ภูริทตฺโต)
วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร
(พ.ศ. ๒๔๑๓ - ๒๔๙๒)










"ไม่ใช่เข้าไปอยู่ในป่าแล้ว ไม่มีรูป ไม่มีเสียง กลิ่น รส แล้วก็สบาย ไม่ใช่อย่างนั้น!

แต่ต้องการจะมาฝึก เพาะเชื้อปัญญาให้เกิดขึ้นในป่า ในที่สงบ เมื่อสงบแล้ว ปัญญาจะเกิด

เมื่อใครครวญพิจารณาแล้ว ก็จะเห็นว่า รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์นั้น เป็นปฏิปักษ์ต่อเรา ก็เพราะเราโง่ เรายังไม่มีปัญญา แต่ความเป็นจริงแล้ว สิ่งเหล่านี้คือ ครูสอนเราอย่างดี

เมื่ออยู่ในป่าแล้ว อย่าไปยึดป่า อย่ามีอุปาทานในป่า เรามานี้เพื่อมาทำให้ปัญญาเกิด ถ้ายังไม่มีปัญญา ก็จะเห็นว่า รูป เสียง กลื่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ นั้นเป็นปฏิปักษ์กับเรา เป็นข้าศึกของเรา"

..... หลวงปู่ชา สุภทฺโท













#วิปัสสนานี้มีผลอานิสงส์ใหญ่

"ยิ่งกว่าทาน ศีล​ พรหมวิหารภาวนา ย่อมทำให้ ผู้เจริญนั้นมีสติไม่หลงเมื่อทำกาลกิริยา มีสุคติภพคือ มนุษย์และโลกสวรรค์เป็นไปในเบื้องหน้า หากยังไม่บรรลุผลทำให้แจ้ง ซึ่งพระนิพพาน ถ้าอุปนิสัยมรรคผลมีก็ย่อมทำให้ผู้นั้นบรรลุมรรคผล ทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพานได้ในชาตินี้นั้นเทียว"

#อนึ่งยากนักที่จะได้เกิดเป็นมนุษย์

"เพราะต้องตั้งอยู่ในธรรมของมนุษย์ คือ ศีล๕ และกุศลกรรมบถ ๑๐ จึงจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์​ ชีวิตที่เป็นมานี้ก็ได้โดยยากยิ่งนัเพราะอันตรายของชีวิตทั้งภายในภายนอกมีมากต่างๆ การที่ได้ฟังธรรมของสัตบุรุษ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้านี้ก็ได้โดยยากยิ่งนัก บางคาบบางสมัย จึงจะมีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลก สักครั้งสักคราวหนึ่ง​ เหตุนั้นเราทั้งหลายพึง อยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด... อย่าให้ได้เสียทีที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ พบพระพุทธศาสนา
นี้เลย"

#หลวงปู่เสาร์_กันตสีโล แห่งวัดบูรพาราม
อ,เมือง จ, อุบลราชธานี










พิจารณา พอมันเห็นปุ๊บมันก็จะรู้ตรงนั้น มันก็จะศึกษาตรงนั้น อย่างที่มันนิ่งอยู่ในร่างกายของเรา มันย้อนเข้ามาเห็นร่างกายของเรามันไปเห็นร่างกายภายใน เห็นตับเห็นปอด ตัวมันก็เอาไปพิจารณา เป็นของไม่เที่ยง ทุกส่วนในร่างกายพิจารณาเป็นของไม่เที่ยง มันจะแปรสภาพให้เราเห็น เห็นจิตของเราเห็นที่แปรสภาพที่ผันแปร แต่ก่อนมันก็เป็นเลือดเป็นเนื้อสีสดๆ เลือดสดๆ แต่พอจิตของเรามองลึกเข้าๆ ก็กลายเป็นเน่าเปื่อยเป็นอสุภะกรรมฐาน ให้เราเห็น พอเกิดเน่าเปื่อยเราก็จะรู้ได้เลยว่าร่างกายสังขารเป็นของไม่เที่ยง มีความแปรปรวนแปรสภาพเป็นอย่างอื่น ย่อมแตกสลาย

(ธรรมเทศนา ปู่ไม อินทสิริ)












(จิตที่คิดมาก เป็นจิตที่เสียกำลัง)

"จิตมีความสงบ เป็นจิตที่มีกำลัง จิตที่คิดมากเป็นจิตที่วุ่นวาย นำทุกข์เข้ามาสู่เราเห็น โทษของการคิดมากไม่มีกำลังนั้น คือทุกวันนี้โดยมากเป็นโรคประสาทกันแยะ โรคประสาทนี้ คือการคิด ๆ มากเกินไป จิตก็เสียกำลังเพราะจิตนี้จะไม่มีกำลังด้วยการคิด จิตนี้จะมีกำลังด้วยการหยุด หยุดถึงจะมีกำลัง"

ถ้าคิดให้มากก็ยุ่งมากวุ่นวายมาก เป็นเหตุให้เกิดโรคประสาท สมัยนี้โรคประสาทยิ่งเป็นกันมากทุกที ๆ เพราะว่าจิตไม่มีกำลังพอ จิตที่คิดมากก็เหมือนกับมีดที่เราลับไว้คมแล้ว ๆ ก็เอาไปทำงานตัดหญ้า ดายหญ้า ตัดต้นไม้ มิได้หยุดและก็ไม่ได้ลับมีดนั้น

ได้แต่เอาไปตัดเอาไปฟัน เอาไปทำงานไม่ได้ลับมีดมันก็หมดคม มันก็ไม่คม เจอต้นไม้ก็ตัดต้นไม้ เจอหญ้าก็ตัด เจอหินก็ฟันหิน เช่นนั้นมีดก็เสื่อมสภาพกลายเป็นมีดที่ไม่คม จิตที่คิดมากก็เหมือนกันฉันนั้น เป็นจิตที่เสียกำลังเป็นจิตที่หมดกำลัง "

#หลวงปู่ชา สุภัทโท











#บุญเป็นชื่อแห่งความสุข

“บุญนี้เป็นชื่อแห่งความสุข สุขในใจนั้นหละ ความสุขซึ่งเกิดขึ้นจากใจ กายก็พลอยดีไปด้วย วาจาก็พลอยดีไปด้วย นั้นหละ ความสุขอันนั้นหละเป็นบุญ แต่ว่าจะสุขน้อย สุขมาก อันนั้น แล้วแต่การสั่งสม หรือการทำบุญของเรา มีหลายแผนก การทำจิตใจให้สบาย ก็มีหลายแบบหลายแผน แต่แล้วเราก็ได้กระทำกันอยู่อย่างนั้นหละ นับตั้งแต่ขั้นกราบ ขั้นไหว้ ขั้นไหว้พระสวดมนต์ ขั้นทำบุญทำทานเล็ก ๆ น้อย ๆ ขั้นฝึกหัดจิตใจ ให้สงบสงัดเป็นสมาธิ หรือขั้นช่วยเหลือคนนั้นคนนี้ ก็ใช่หมด...”

#โอวาทธรรม
#พระเทพวิสุทธิมงคล (หลวงปู่ศรี มหาวีโร)
วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง)
ต.ศรีสมเด็จ อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด
(พ.ศ. ๒๔๖๐ – ๒๕๕๔)









#วิชชา_๓_ของพระพุทธเจ้า

"ลึกลับสุขุมมาก"
ในยามที่ ๑ พระองค์ทำความรู้เท่าอย่างนั้น ยามที่ ๒ พระองค์ทำความรู้เท่านั้น
ยามที่ ๓ พระองค์ทำความรู้เท่าคือแก้อวิชชาและปฏิจจสมุปบาทในของจิตในช่องแคบมารแย่งไม่ได้ มีความรู้อันพิเศษขึ้นมาว่า..
"พระองค์เป็นสยมภูความที่ท่านแก้อวิชชาเป็นของขั้นละเอียดยิ่งนัก บุคคลจะรู้เห็นตามนั้นน้อยที่สุด สุดอำนาจของจิต เมื่อกำหนดรู้ลงไปเป็นของว่างหมด ไม่ใช่ตัวตนสัตว์บุคคลเราเขา ไม่ใช่ผู้หญิงผู้ชาย ธาตุสุญโญ เป็นธาตุสูญ แล้วกำหนดจิต รู้จิต ตั้งอยู่ใน ฐีติธรรม"

#หลวงปู่มั่น_ภูริทัตโต











#ไม่ใช่พระพรหมลิขิต

"มาขีดให้เราดีบ้างชั่วบ้าง
แต่การกระทำของเราขีด
ตัวเราเอง ขีดดีก็ได้ดี ขีด
ชั่วก็ได้ชั่ว ไม่ใช่หมายความว่า
รับพรแล้วเป็นคนดี ต้องสร้างพร
ให้เป็นพร ไม่ใช่ดวงดีแล้วใช้ได้
ต้องทำดีให้กับดวง ชีวิตก็ไม่ได้
ขึ้นอยู่กับดวง แต่ขึ้นอยู่กับการ
กระทำของเรา อย่ามัวแต่รอฤกษ์
รอเวลา อยากได้ดีก็ต้องสร้างความดี
ไม่ใช่นั่งรอความดี.. "

#ธรรมโอวาท
#หลวงพ่อจรัญ_ฐิตธัมโม









"เรานั้นแล เป็นผู้ก่อเรื่องให้ตัวเราเอง
ไม่ใช่ผู้อื่นผู้ใด
รูป เสียง กลิ่น รส เครื่องสัมผัส
อะไรมาเป็นผู้ก่อเรื่องให้เรา
อันนั้นเป็นแต่เพียงต้นเหตุอันหนึ่ง
ที่จะให้จิตไปคิดไปยึดเอาสิ่งนั้น
แล้วมาเกิดอารมณ์เป็นข้าศึกแก่ตนเท่านั้น
ความเป็นข้าศึกอันแท้จริงก็คือ
ความคิด ความปรุง
ความสำคัญมั่นหมายไปในทางที่ผิดของจิตนั้นแล
จึงเป็นการสั่งสมความทุกข์ขึ้นในขณะที่จิต
คิดไปในทางที่เป็นกิเลส
ที่ท่านเรียกว่า สมุทัย เป็นเครื่องผลิตทุกข์"

#พระธรรมวิสุทธิมงคล
(หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
วัดป่าบ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี










...นี่คือการฝึกจิตให้มีสติ
“ให้รู้อยู่ในปัจจุบัน..ที่นี่ เดี๋ยวนี้”
อย่าส่งจิตไปคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาแล้ว
.. เช่นเมื่อสักครู่นี้ไปไหนมา
ไปคุยกับใคร คุยเรื่องอะไร
ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ..ก็อย่าไปคิด
..ถ้าจำเป็น..ก็ให้มีสติอยู่กับความคิดนั้น
ให้รู้ว่ากำลังคิดเรื่องนั้นอยู่
อย่าไปทำ ๒ อย่างพร้อมๆกัน
เช่น ทำงานไป แล้วก็
คิดถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้ควบคู่ไปด้วย
..สิ่งที่ต้องการทำก็คือ
“ฝึกจิตให้เป็นหนึ่ง” นั่นเอง
เวลาทำอะไรก็ให้อยู่กับงานนั้นงานเดียว
..ถ้าฝึกอย่างนี้ไปเรื่อยๆแล้ว
เมื่อถึงเวลานั่งทำสมถภาวนา
“จิตก็จะไม่ค่อยเพ่นพ่านไปที่อื่น”
เพราะ..”มีสติ” คอยคุมอยู่ .
.....................................
คัดลอกจุลธรรมนำใจ1 กัณฑ์226
ธรรมะบนเขา 12/6/2548
พระอาจรย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี










"ไม่พึงทำดี เพื่อเอาความดีมาเสริมตัวตน
แต่พึงสละตน เพื่อเสริมความดี"

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตโต)







"บารมีคนเรา ก็ต่างกันนะ
ต้องสร้างบารมี ไม่ใช่ไปอยากร่ำรวยเหมือนเขา
แต่ตัวเองไม่ได้สร้างทานบารมีไว้ เราต้องสร้างทาน ศีลไว้ก่อน แล้วบารมีจะได้ค่อยเพิ่มพูน

ขอให้ภาวนา ทานก็ทำเป็นสมบัติติดตัว
ติดตามไปทุกภพทุกชาติ แต่จิตตภาวนานี้
มีอำนาจมาก มีพลังมาก ขอให้ภาวนา
อย่าได้ขี้เกียจภาวนา"

หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร











เรานั้นแล เป็นผู้ก่อเรื่องให้ตัวเราเอง ไม่ใช่ผู้อื่นผู้ใด รูป เสียง กลิ่น รส เครื่องสัมผัส อะไรมาเป็นผู้ก่อเรื่องให้เรา อันนั้นเป็นแต่เพียงต้นเหตุอันหนึ่ง ที่จะให้จิตไปคิดไปยึดเอาสิ่งนั้น แล้วมาเกิดอารมณ์เป็นข้าศึกแก่ตนเท่านั้น

ความเป็นข้าศึกอันแท้จริงก็คือ ความคิด ความปรุง ความสำคัญมั่นหมายไปในทางที่ผิดของจิตนั้นแล จึงเป็นการสั่งสมความทุกข์ขึ้นในขณะที่จิต คิดไปในทางที่เป็นกิเลส ที่ท่านเรียกว่า สมุทัย เป็นเครื่องผลิตทุกข์

#พระธรรมวิสุทธิมงคล
(หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
วัดป่าบ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 38 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร