วันเวลาปัจจุบัน 18 เม.ย. 2024, 18:20  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2019, 05:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


“ท่านพระอาจารย์มั่น ท่านมักมีปกติแสดงธรรมเรื่องจิตล้วนๆ เช่นว่า ปัญญากับสติให้รู้เท่าทันกัน ทำจิตให้เสมอ อย่าขึ้นอย่าลง อย่าไปอย่ามา ให้รู้เฉพาะปกติของจิต ให้เห็นอยู่กับปัจจุบันธรรม อย่าส่งจิตไปอดีต อนาคต

ธาตุ ๘๔,๐๐๐ ธาตุ ออกมาจากจิตหมด ให้เอากาย วาจา ใจ นี้ยกขึ้นมาพิจารณา อย่าเพิ่ม อย่าเอาออก ให้เห็นเป็นปกติ เมื่อใดก็ตามที่เราส่งจิตออกนอก เป็นมิจฉาทิฏฐิ ให้รู้เห็นอยู่ในกายและจิต เป็นสัมมาทิฏฐิ

การแก้จิตใจให้แก้ปัจจุบัน เมื่อแก้ปัจจุบันได้แล้ว ภพทั้ง ๓ นั้นจะหลุดออกไปหมด ไม่ต้องส่งใจไปในอดีต อนาคต ให้ลบอารมณ์ภายนอกออกให้หมด จึงจะเข้าอารมณ์ภายในได้ เพ่งนอกเป็นตัวสมุทัย เป็นทุกข์ และเป็นตัวมิจฉาทิฏฐิ เพ่งในเป็นตัวสัมมาทิฏฐิ

จะเป็นนักปฏิบัติต้องเด็ดเดี่ยวกล้าหาญที่สุด จึงจะรู้ธรรมเห็นธรรม”

นี้แหละท่าน คือหัวข้อธรรมโดยย่นย่อ ที่ท่านพระอาจารย์มั่นแสดง ช่างไพเราะจับใจไม่รู้ลืม สำหรับพระผู้พิจารณาธรรม และผมก็จำไม่ลืมจนเท่าทุกวันนี้

จากหนังสือพระศรี มหาวีโร ( พระผู้มากล้นตัวด้วยบุญบารมี)






(๑)
""..ไหนยิ้มให้ดูหน่อยซิ..""
(๒)
ใครทำผิด แต่เราทำถูกได้ ใครทำไม่ดีกับเราให้นิ่งหมอบ ไม่ว่าเขา
(๓)
ร่างกายของเราคือขี้ มันหอม มันสวยงามตรงใหน พิจารณาดูซิ
(๔)
การทำบุญอย่ามัวแต่ ตระหนี่ ขี้เหนียวนะ
ทำบุญให้ตั้งอก ตั้งใจทำ ทั้งบุญนอกและบุญใน เข้าใจมั๊ย
(๕)
กายสบาย..เป็นกิเลส
ใจสบาย..เป็นธรรม เข้าใจไหม
(๖)
ยุ่งวุ่นวายน่ะดี. ยิ่งยุ่งยิ่งดี จะได้ฝึกขันติ ทำได้ไหม
๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๐
(๗)
เวลาทำบุญ ให้ทำบุญด้วยรอยยิ้ม ยิ้มก็ถือว่าเป็นบุญ
(๘)
เวลากราบพระให้กราบ ๕ ครั้ง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ครั้งที่ ๔ กราบหลวงตามหาบัว และครั้งที่ ๕ ให้กราบแม่ แม่นี้สำคัญนะ ทำได้มั๊ย
๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๐
(๙)
ธรรมะพระพุทธเจ้าข้อขันติ. คือความอดทน มีอยู่ทำไมไม่เอามาใช้. คนอื่นไม่ดี เราจะไม่ดีตามเขาหรือ. ทำความดีของเราไปสิ. ทำให้มันล้นทับความไม่ดีไปเลย ทำได้ไหม
๒๖ กันยายน ๒๕๕๘

หลวงปู่เชอรี่ อภิเจโต
วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี







อันดับแรก เราก็ต้องเดินจงกรม เราก็นั่งสมาธิ
มันก็ต้องลำบาก เหมือนกันกับผู้ที่เขาดูแลสวน
เขาต้องลำบากหาน้ำมารดก็ไม่ใช่ง่าย
หาปุ๋ยมาใส่ก็ไม่ใช่ง่าย ไล่แมลงก็ไม่ใช่ง่าย
กว่าแต่ที่ต้นไม้จะเติบโตขึ้นมา
“ ก็ต้องใช้ความมานะพยายาม “

หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร






สารพัดธรรม(ทำ)
"หลวงปู่ตื้อฯ...เทศน์พระนิพพาน"
"ข้าพเจ้า (หลวงปู่ตื้อ) ขออธิบายถึงผู้ที่เข้าสู่พระนิพพาน จากชาติกันดารไม่ต้องกลับมาเกิดอีก ซึ่งเรียกว่า วิมุตติสุข อันพ้นจากโลกนี้ไป
พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ให้แก่พวกเรา นักธรรม นักกรรมฐานผู้ตั้งใจ เอาพระนิพพานให้รู้แจ้ง ขาดจากความสงสัย อุปสมานุสสติ ให้ระลึกถึงคุณพระนิพพาน พระนิพพานก็อยู่ที่ใจของเรา
ใจไม่ฆ่าสัตว์ ใจดี เป็นศีล เป็นฌาน ใจก็เป็นนิพพาน
ใจไม่กินเหล้า ไม่กินสุรา ใจก็เป็นศีล เป็นฌาน ใจก็เป็นนิพพาน
ใจไม่ตีฆ้อง ตีกลอง ดีดสีตีเป่า ใจก็เป็นศีล เป็นฌาน ใจก็เป็นนิพพาน
ใจไม่ลูบไล้ชโลมทาของหอมอย่างชาวบ้าน ใจก็เป็นศีล เป็นฌาน ใจก็เป็นนิพพาน
ใจไม่เอนนอนมายังที่นอน ภายในยัดด้วยนุ่นและสำลีอันสูงใหญ่ เหมือนพระราชามหากษัตริย์ ใจก็เป็นศีล เป็นฌาน ใจก็เป็นนิพพาน
ชาตรูปรชต เงินรูปิย หรือกระดาษเศษที่นักปราชญ์เขาทำกัน ออกมาใช้ทุกวันนี้ เป็นทรัพย์ของพระราชา อเมริกาเป็นผู้ทำ ช่วยประเทศไทยให้เจริญ มีก็ใช้ ไม่มีก็ไม่ใช้ ใจเราก็เป็นศีล เป็นฌาน ใจก็เป็นนิพพาน
นี้แหละนักธรรม นักกรรมฐาน วิปัสสนาจารย์ทั้งหลาย จงรู้ด้วยใจเถิด พาลฆ่าสัตว์ไม่มีแก่ใจ พาลลักทรัพย์ไม่มีแก่ใจ พาลขี้ปดไม่มีแก่ใจ พาลเสพกามไม่มีแก่ใจ พาลกินเหล้าไม่มีแก่ใจ พาลกินข้าวเย็นไม่มีแก่ใจ พาลตีฆ้องตีกลองดีดสีตีเป่าไม่มีแก่ใจ ใจไม่พาลหาของหอมไม่มีแก่ใจ ใจไม่พาลนอนบนที่นอนอันยัดด้วยนุ่นและสำลีอันสูงใหญ่ไม่มีแก่ใจ พาล ชาตรูปรชต รูปิย เงินตราไม่มีแก่ใจ จึงจะเป็นนิพพาน
เตสํ วูปสโม สุโข รูปแตก รูปตาย ตั้งแต่หัวถึงตีน ตั้งแต่ตีนถึงหวัว
ธาตุดิน คือ กระดูกกับเนื้อชิ้น ไม่ใช่พระนิพพาน
เตสํ ธาตุน้ำ ๑๓ ไม่ใช่พระนิพพาน เตสัง สัญญา ลมหายใจเข้า - ออก รูลม รูจมูก ลมเข้า ลมออก จะห้ามลมไว้ไม่ได้ รูปาก รูคอ เป็นที่อยู่ของลม รูทวารหนัก ทวารเบาถ่ายปัสสาวะ ทวารหนักถ่ายอุจจาระออก จะห้ามลมไว้ไม่ได้
เตสํ สังขารเบื้องต่ำ ได้แก่ ขา จะห้ามเขาไว้ไม่ให้แก่ไม่ได้ สังขารท่ามกลาง ได้แก่ แขน สังขารเบื้องบน ได้แก่ ศีรษะเหนือหัว จะห้ามไว้ไม่ให้แก่ไม่ได้
นี่แหละ นักธรรม นักกรรมฐาน จิตเป็นของไม่ตาย ตัวตายนั้น คือ รูปเป็นตัวตาย ตัวตายตัวเวทนา ตัวตายตัวสัญญา ตัวตาย คือ ตัวสังขาร ตัวตายตัววิญญาน
ตัวไม่ตาย ได้แก่ จิตที่เป็นนิพพาน
อสังขตธรรม ได้แก่ รูปธรรม เวทนาธรรม ไม่มีแก่จิต
อสังขตธาตุ เวทนาธาตุ ไม่มีแก่จิต อสังขตปัจจัย
ใจพ้นจากรูป ใจพ้นจากเวทนา ใจไม่มีเวทนา ใจพ้นจากสัญญา ใจไม่มีสัญญา ใจก็พ้นจากสัญญา ใจไม่มีสังขาร ใจก็พ้นจากสังขาร ใจไม่มีวิญญาณ ใจพ้นจากวิญญาณ ใจก็นิพพานนั่นแหละ
เมื่อใจเป็นนิพพานแล้ว ชาติ ความเกิดไม่มีแก่ใจ ชรา ความแก่ไม่มีแก่ใจ พยาธิ ความเจ็บไข้ตัวร้อน ไม่มีแก่ใจ มรณะ ความตาย - ความเกิดไม่มีแก่ใจ ใจก็เป็นพระนิพพาน พ้นจากความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย ไม่ต้องกลับมาเกิด ให้มันทุกข์ มันยากลำบากในโลกนี้"

จากหนังสือ"ประวัติ ท่านพระอาจารย์ตื้อ อจลธมฺโม"
มูลนิธิพระสงบ มนสฺสนฺโต ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หน้า ๒๘๘ – ๒๙๐






ชีวิตมีค่าทุกวัน ทำน้อยได้น้อย ทำมากก็ได้มาก
สตินี่ทำได้ทุกระยะ
รู้นี่ สติพร้อม ไม่มีทุกข์ เป็นบุญพร้อม
เป็นปัญญาพร้อม จิตผ่องใส จิตก้าวหน้าพร้อม
จะไปมีปัญหา ในชีวิตได้อย่างไร
ไม่ต้องถามว่าจะอยู่ไปทำไมทุกวันๆ
ก็มันแจ่มแจ้งแล้วนี่ จิตอยู่ในพุทธธรรม
อยู่ในแสงสว่าง จิตมุ่งสู่นิพพาน
ธรรมอะไรมันไม่สูงไปกว่านี้หรอก

หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโต


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 46 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร