วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 22:46  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 100 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.พ. 2020, 09:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิเห็นตัวเองลอยอยู่กลางอากาศ

อยากทราบว่ามันคืออะไรคะ เรานั่งสมาธิแรกๆ จะรู้สึกว่าตัวเอียงๆ เหมือนคนจะล้ม แต่เมื่อลืมตากลับยังนั่งตัวตรงอยู่ไม่ไปไหน หลังๆพอเริ่มรู้ว่าไม่ได้ล้มจริงเลยเลิกลืมตาแล้วนั่งต่อไป
นั่งได้พักหนึ่งเห็นแสงสีทองกลางหน้าผาก เห็นตัวเองกำลังนั่งสมาธิด้วยชุดที่ห่มขาว มีแสงส่องออกมารอบตัวเป็นวงๆ เห็นใบหน้าตัวเองชัดเจน เห็นตัวเองอย่างชัดเจน ตอนนั้นรู้สึกแปลกใจลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความมึนงง มันคืออะไรคะ มันดีหรือไม่ดี คล้ายๆกับจิตเรานิ่งจนเกิดสมาธิรึเปล่าคะ รบกวนผู้รู้ค่ะ และควรทำต่อมั้ย มันดีหรือไม่ดี คนส่วนใหญ่ที่ทำสมาธิเป็นแบบนี้กันบ่อยมั้ยคะ

เราเห็นกลางหน้าผากนะคะ เห็นตัวเองตัวเล็กๆ อยู่ระหว่างแสงสีทองที่อยู่รอบๆ ก่อนที่จะเห็นตัวเอง เห็นเป็นแสงวาบออกมาก่อนค่ะ แต่เราไม่ได้ลืมตา แสงหายไปเลยมองเห็นตัวเอง
ก่อนหน้านั้นได้ยินเสียงรอบตัว แต่เมื่อเห็นแสงสีทองกลางหน้าผากเหมือนทุกอย่างเงียบลง แต่ไม่ถึงกลับว่าใครเรียกแล้วไม่ได้ยินเลย รับรู้ทุกอย่างแค่จดจ่อกับสิ่งที่เห็นอยู่เท่านั้นค่ะ เพราะสงสัย และก็รู้สึกเบาหวิว สบายใจแบบแปลกๆ

https://pantip.com/topic/39607096

สภาวะคงที่สะที่ไหน มันเปลี่ยนไปเรื่อย เดี๋ยวอย่างนี้อย่างนั้นอย่างโน้น :b13: ดังนั้นให้ยึดหลักคือลมหายใจเข้า-ออก หรือใช้ท้องที่พองขึ้นกับยุบลง ภาวนาไป (ภาวนาอย่างไรแล้วแต่) เกาะหลักไว้ สภาวะอย่างหนึ่งอย่างใดเกิดทางกายทางใจก็รู้ รู้รู้แล้วก็เกาะหลักอีก

:b32:
เป็นคนปกติธรรมดาที่สุด
ใครไม่รู้ว่าตัวเองหายใจอยู่
ใครไม่รู้ว่าตัวเองยังมีตัวตน
ใครไม่รู้ว่าตัวเองยังไม่ได้ตาย
พิจารณาซิคะศาสนาพราหมณ์ก็นั่งสมาธิหลับตา
อาจารย์ที่สอนตถาคตทำนั่งสมาธิก่อนตรัสรู้คือใคร
ทั้ง2อาจารย์นั้นตายก่อนจะได้ฟังพระธรรมใช่ไหมคะ
แล้วคนที่พาตัวตนไปนั่งทำสมาธิหลับตาโดยไม่ทำปัญญาจากฟังคำสอน
กำลังจะเป็นแบบ2อาจารย์ไงคะคือตายก่อนโดยไม่ได้ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าจากปรโตโฆสะ
https://youtu.be/Jd6GjV1YhGM
:b12:
:b32: :b32:


บ้านธัมมะไปตั้งโต๊ะตั้งเก้าอี้ที่นั่นที่นี่แล้วพูดๆให้คนฟัง คนพูดก็พูดกันไป คนฟังก็ฟังกันไปสาธุกันไป ไม่เป็นไร ถึงคิดฟุ้งซ่านก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเมื่อไรไปสอนให้คนทำกัมมัฏฐาน รับรอง 100 หนึ่ง เอาอุจจาระหมา (ขี้หมา) กองเดียว บ้าทั้งสำนัก :b32: บอกไม่เชื่อ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.พ. 2020, 23:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิเห็นตัวเองลอยอยู่กลางอากาศ

อยากทราบว่ามันคืออะไรคะ เรานั่งสมาธิแรกๆ จะรู้สึกว่าตัวเอียงๆ เหมือนคนจะล้ม แต่เมื่อลืมตากลับยังนั่งตัวตรงอยู่ไม่ไปไหน หลังๆพอเริ่มรู้ว่าไม่ได้ล้มจริงเลยเลิกลืมตาแล้วนั่งต่อไป
นั่งได้พักหนึ่งเห็นแสงสีทองกลางหน้าผาก เห็นตัวเองกำลังนั่งสมาธิด้วยชุดที่ห่มขาว มีแสงส่องออกมารอบตัวเป็นวงๆ เห็นใบหน้าตัวเองชัดเจน เห็นตัวเองอย่างชัดเจน ตอนนั้นรู้สึกแปลกใจลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความมึนงง มันคืออะไรคะ มันดีหรือไม่ดี คล้ายๆกับจิตเรานิ่งจนเกิดสมาธิรึเปล่าคะ รบกวนผู้รู้ค่ะ และควรทำต่อมั้ย มันดีหรือไม่ดี คนส่วนใหญ่ที่ทำสมาธิเป็นแบบนี้กันบ่อยมั้ยคะ

เราเห็นกลางหน้าผากนะคะ เห็นตัวเองตัวเล็กๆ อยู่ระหว่างแสงสีทองที่อยู่รอบๆ ก่อนที่จะเห็นตัวเอง เห็นเป็นแสงวาบออกมาก่อนค่ะ แต่เราไม่ได้ลืมตา แสงหายไปเลยมองเห็นตัวเอง
ก่อนหน้านั้นได้ยินเสียงรอบตัว แต่เมื่อเห็นแสงสีทองกลางหน้าผากเหมือนทุกอย่างเงียบลง แต่ไม่ถึงกลับว่าใครเรียกแล้วไม่ได้ยินเลย รับรู้ทุกอย่างแค่จดจ่อกับสิ่งที่เห็นอยู่เท่านั้นค่ะ เพราะสงสัย และก็รู้สึกเบาหวิว สบายใจแบบแปลกๆ

https://pantip.com/topic/39607096

สภาวะคงที่สะที่ไหน มันเปลี่ยนไปเรื่อย เดี๋ยวอย่างนี้อย่างนั้นอย่างโน้น :b13: ดังนั้นให้ยึดหลักคือลมหายใจเข้า-ออก หรือใช้ท้องที่พองขึ้นกับยุบลง ภาวนาไป (ภาวนาอย่างไรแล้วแต่) เกาะหลักไว้ สภาวะอย่างหนึ่งอย่างใดเกิดทางกายทางใจก็รู้ รู้รู้แล้วก็เกาะหลักอีก

:b32:
เป็นคนปกติธรรมดาที่สุด
ใครไม่รู้ว่าตัวเองหายใจอยู่
ใครไม่รู้ว่าตัวเองยังมีตัวตน
ใครไม่รู้ว่าตัวเองยังไม่ได้ตาย
พิจารณาซิคะศาสนาพราหมณ์ก็นั่งสมาธิหลับตา
อาจารย์ที่สอนตถาคตทำนั่งสมาธิก่อนตรัสรู้คือใคร
ทั้ง2อาจารย์นั้นตายก่อนจะได้ฟังพระธรรมใช่ไหมคะ
แล้วคนที่พาตัวตนไปนั่งทำสมาธิหลับตาโดยไม่ทำปัญญาจากฟังคำสอน
กำลังจะเป็นแบบ2อาจารย์ไงคะคือตายก่อนโดยไม่ได้ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าจากปรโตโฆสะ
https://youtu.be/Jd6GjV1YhGM
:b12:
:b32: :b32:


บ้านธัมมะไปตั้งโต๊ะตั้งเก้าอี้ที่นั่นที่นี่แล้วพูดๆให้คนฟัง คนพูดก็พูดกันไป คนฟังก็ฟังกันไปสาธุกันไป ไม่เป็นไร ถึงคิดฟุ้งซ่านก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเมื่อไรไปสอนให้คนทำกัมมัฏฐาน รับรอง 100 หนึ่ง เอาอุจจาระหมา (ขี้หมา) กองเดียว บ้าทั้งสำนัก :b32: บอกไม่เชื่อ

cool
คำสอนของพระพุทธเจ้าตรงจริง
แต่ตัวตนของเราไม่ได้รู้อย่างตถาคต
คิดไม่ซื่อและไม่ตรงแปลว่ามีมิจฉาทิฏฐิ
อยากคิดอยากพูดอยากทำอะไรตถาคตไม่ห้าม
เพราะห้ามความคิดเห็นผิดที่เป็นแบบนั้นแล้วเป็นไปไม่ได้
ใครไม่ฟังก็แล้วแต่อัธยาศัยเพราะคนไม่ฟังไม่มีปัญญาเข้าใจค่ะ
ไม่มีใครช่วยใครได้นอกจากตัวตนของบุคคลนั้นเองจะสำนึกได้ว่าตนผิดแน่ๆ
ก็คำสอนของตถาคตทุกคำคือความจริงตรงขณะและตรงปัจจุบันและตรงทางทีละ1ทางรู้มั๊ยคะ
เอกายโนมัคโค...เดินตามถูกตรงได้แค่ทางเดียวเท่านั้น...ไม่มีใครทำปัญญาตรงตามคำตถาคตแทนใครได้ค่ะ
https://youtu.be/_Z8ZOFq8j3A
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.พ. 2020, 09:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

คำสอนของพระพุทธเจ้าตรงจริง
แต่ตัวตนของเราไม่ได้รู้อย่างตถาคต
คิดไม่ซื่อและไม่ตรงแปลว่ามีมิจฉาทิฏฐิ
อยากคิดอยากพูดอยากทำอะไรตถาคตไม่ห้าม
เพราะห้ามความคิดเห็นผิดที่เป็นแบบนั้นแล้วเป็นไปไม่ได้
ใครไม่ฟังก็แล้วแต่อัธยาศัยเพราะคนไม่ฟังไม่มีปัญญาเข้าใจค่ะ
ไม่มีใครช่วยใครได้นอกจากตัวตนของบุคคลนั้นเองจะสำนึกได้ว่าตนผิดแน่ๆ
ก็คำสอนของตถาคตทุกคำคือความจริงตรงขณะและตรงปัจจุบันและตรงทางทีละ1ทางรู้มั๊ยคะ
เอกายโนมัคโค...เดินตามถูกตรงได้แค่ทางเดียวเท่านั้น...ไม่มีใครทำปัญญาตรงตามคำตถาคตแทนใครได้ค่ะ
https://youtu.be/_Z8ZOFq8j3A


เพ้อเจ้อธัมม์ :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2020, 19:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิเห็นตัวเองลอยอยู่กลางอากาศ

อยากทราบว่ามันคืออะไรคะ เรานั่งสมาธิแรกๆ จะรู้สึกว่าตัวเอียงๆ เหมือนคนจะล้ม แต่เมื่อลืมตากลับยังนั่งตัวตรงอยู่ไม่ไปไหน หลังๆพอเริ่มรู้ว่าไม่ได้ล้มจริงเลยเลิกลืมตาแล้วนั่งต่อไป
นั่งได้พักหนึ่งเห็นแสงสีทองกลางหน้าผาก เห็นตัวเองกำลังนั่งสมาธิด้วยชุดที่ห่มขาว มีแสงส่องออกมารอบตัวเป็นวงๆ เห็นใบหน้าตัวเองชัดเจน เห็นตัวเองอย่างชัดเจน ตอนนั้นรู้สึกแปลกใจลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความมึนงง มันคืออะไรคะ มันดีหรือไม่ดี คล้ายๆกับจิตเรานิ่งจนเกิดสมาธิรึเปล่าคะ รบกวนผู้รู้ค่ะ และควรทำต่อมั้ย มันดีหรือไม่ดี คนส่วนใหญ่ที่ทำสมาธิเป็นแบบนี้กันบ่อยมั้ยคะ

เราเห็นกลางหน้าผากนะคะ เห็นตัวเองตัวเล็กๆ อยู่ระหว่างแสงสีทองที่อยู่รอบๆ ก่อนที่จะเห็นตัวเอง เห็นเป็นแสงวาบออกมาก่อนค่ะ แต่เราไม่ได้ลืมตา แสงหายไปเลยมองเห็นตัวเอง
ก่อนหน้านั้นได้ยินเสียงรอบตัว แต่เมื่อเห็นแสงสีทองกลางหน้าผากเหมือนทุกอย่างเงียบลง แต่ไม่ถึงกลับว่าใครเรียกแล้วไม่ได้ยินเลย รับรู้ทุกอย่างแค่จดจ่อกับสิ่งที่เห็นอยู่เท่านั้นค่ะ เพราะสงสัย และก็รู้สึกเบาหวิว สบายใจแบบแปลกๆ

https://pantip.com/topic/39607096

สภาวะคงที่สะที่ไหน มันเปลี่ยนไปเรื่อย เดี๋ยวอย่างนี้อย่างนั้นอย่างโน้น :b13: ดังนั้นให้ยึดหลักคือลมหายใจเข้า-ออก หรือใช้ท้องที่พองขึ้นกับยุบลง ภาวนาไป (ภาวนาอย่างไรแล้วแต่) เกาะหลักไว้ สภาวะอย่างหนึ่งอย่างใดเกิดทางกายทางใจก็รู้ รู้รู้แล้วก็เกาะหลักอีก

:b32:
เป็นคนปกติธรรมดาที่สุด
ใครไม่รู้ว่าตัวเองหายใจอยู่
ใครไม่รู้ว่าตัวเองยังมีตัวตน
ใครไม่รู้ว่าตัวเองยังไม่ได้ตาย
พิจารณาซิคะศาสนาพราหมณ์ก็นั่งสมาธิหลับตา
อาจารย์ที่สอนตถาคตทำนั่งสมาธิก่อนตรัสรู้คือใคร
ทั้ง2อาจารย์นั้นตายก่อนจะได้ฟังพระธรรมใช่ไหมคะ
แล้วคนที่พาตัวตนไปนั่งทำสมาธิหลับตาโดยไม่ทำปัญญาจากฟังคำสอน
กำลังจะเป็นแบบ2อาจารย์ไงคะคือตายก่อนโดยไม่ได้ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าจากปรโตโฆสะ
https://youtu.be/Jd6GjV1YhGM


คือว่า คุณโรสคิดจมดิ่งลงแง่เดียว โผล่ขึ้นมาคิดแง่นี้บ้างสินะ

พระโพธิสัตว์ไปฝึกสมาธิอยู่กับอาจารย์ทั้งสองนั้น สำเร็จสมาธิถึงขั้นอรูปฌานนะคะ คิกๆๆ แต่ไปตันอยู่แค่นั้น คือ ยังไม่หลุดพ้น พูดง่ายๆคือมันยังติดอยู่นิดหนึ่งว่างั้น จึงไม่เป็นที่พอใจของพระโพธิสัตว์ ก็จึงลาอาจารย์ทั้งสองไปค้นคว้าเอง. เดี๋ยวตรงนี้หยุดคิดก่อน ถึงท่านจะปลีกออกไปคิดค้นเอง แต่ท่านก็ยังใช้สมาธินะคะ นะคะ เพราะคืนวันตรัสรู้นั้นท่านใช้สมาธิระดับจตุตถฌานนะคะ ไปศึกษาแล้วไปลองทำสมาธิดูนะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2020, 19:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ให้ดูตัวอย่างนี้ จากพันทิพ คุณโรสอ่านหนังสือให้แตกนะ :b32: อ่านแตกเข้าใจแล้วไหนลองแสดงความคิดเห็นสิ เอ้า

อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิแล้วเห็นผี

สอบถามค่ะ อันนี้เป็นข้อสงสัยส่วนตัวค่ะ

เนื่องจากเจอกับตัวเองมาบ่อยมากตั้งแต่ช่วง ม.ปลายมาจนปัจจุบัน 3-4 ปีแล้ว
เหตุมีอยู่ว่าเคยมีแม่ชีแนะนำให้เรานั่งสมาธิ และสวดมนต์ในคืนวันเกิดของตัวเอง ซึ่งอันนั้นไม่มีอะไรแต่ช่วงหลังๆมา คือ นั่งสมาธิแล้วเราเห็นผีมากขึ้น ซึ่งเราก็ไม่ได้อะไร เพราะสัมผัสเรื่องพวกนี้ได้ตั้งแต่เด็ก แต่เราข้องใจที่ว่า ยิ่งถ้าเรานั่งสมาธิมาก ใจเราสงบ เรายิ่งเห็นเขา มันเกิดจากอะไร


ที่ว่าคุณโรสอ่านหนังสือไม่แตก หมายถึงเรื่องที่คุณโรสไม่เข้าใจเรื่องที่เขียน ในที่นี้หมายถึงสมาธิ คุณโรสไม่เข้าใจสภาวะของจิตที่เป็นสมาธิก็จึงอ่านไม่เข้าใจ เพราะคุณโรสไม่เคยทำสมาธิ เรื่องมันก็มีอยู่แค่นี้แหละ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2020, 22:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ให้ดูตัวอย่างนี้ จากพันทิพ คุณโรสอ่านหนังสือให้แตกนะ :b32: อ่านแตกเข้าใจแล้วไหนลองแสดงความคิดเห็นสิ เอ้า

อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิแล้วเห็นผี

สอบถามค่ะ อันนี้เป็นข้อสงสัยส่วนตัวค่ะ

เนื่องจากเจอกับตัวเองมาบ่อยมากตั้งแต่ช่วง ม.ปลายมาจนปัจจุบัน 3-4 ปีแล้ว
เหตุมีอยู่ว่าเคยมีแม่ชีแนะนำให้เรานั่งสมาธิ และสวดมนต์ในคืนวันเกิดของตัวเอง ซึ่งอันนั้นไม่มีอะไรแต่ช่วงหลังๆมา คือ นั่งสมาธิแล้วเราเห็นผีมากขึ้น ซึ่งเราก็ไม่ได้อะไร เพราะสัมผัสเรื่องพวกนี้ได้ตั้งแต่เด็ก แต่เราข้องใจที่ว่า ยิ่งถ้าเรานั่งสมาธิมาก ใจเราสงบ เรายิ่งเห็นเขา มันเกิดจากอะไร


ที่ว่าคุณโรสอ่านหนังสือไม่แตก หมายถึงเรื่องที่คุณโรสไม่เข้าใจเรื่องที่เขียน ในที่นี้หมายถึงสมาธิ คุณโรสไม่เข้าใจสภาวะของจิตที่เป็นสมาธิก็จึงอ่านไม่เข้าใจ เพราะคุณโรสไม่เคยทำสมาธิ เรื่องมันก็มีอยู่แค่นี้แหละ :b1:

:b32:
คิดสิ
จิตเห็นสี
คิดอะไรอยู่
จิตเกิดดับ6ทวารไม่พร้อมกัน
ตอนคิดไม่มีเห็น(เห็นคือจักขุทวารวิถี)
แต่เห็นแล้วคิดคือจิตคิดนึกเป็นจิตเกิดทางมโนทวารวิถี
จิตจึงเป็นไปตามเห็นผิดคิดผิดเองจึงมีวิปลาสตามการสะสมจนกว่าจะพึ่งตถาคต
พอคิดเห็นผิดเองก็พูดเองตามเห็นผิดของตนแต่ตถาคตบอกว่าจะภพไหนก็เห็นแค่สี
ไม่คิดไตร่ตรองตามคำสอนให้ตรงปัจจุบันจึงเป็นเราคิดเห็นผิดไม่ตรงตามคำสอนไงล่ะคะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2020, 22:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


cool
รู้จักคำว่าพึ่งตถาคตไหมคะ
คำสอนคือบันทึกในตำราจะพึ่งได้
ตอนเริ่มคิดตามที่คนอื่นพูดตรงตามให้ได้ยิน
พอเงี่ยหูฟังปุ๊บเก็ตปั๊บรู้สึกตัวทันทีหยุดทำสิ่งที่ผิดได้ทันทีเลยค่ะ
แต่ได้ยินแล้วจะสนใจใส่ใจแค่ไหนขึ้นกับว่ามีปัญญารู้จักคำของตถาคตรึเปล่า
:b12:
:b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2020, 23:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

คำสอนของพระพุทธเจ้าตรงจริง
แต่ตัวตนของเราไม่ได้รู้อย่างตถาคต
คิดไม่ซื่อและไม่ตรงแปลว่ามีมิจฉาทิฏฐิ
อยากคิดอยากพูดอยากทำอะไรตถาคตไม่ห้าม
เพราะห้ามความคิดเห็นผิดที่เป็นแบบนั้นแล้วเป็นไปไม่ได้
ใครไม่ฟังก็แล้วแต่อัธยาศัยเพราะคนไม่ฟังไม่มีปัญญาเข้าใจค่ะ
ไม่มีใครช่วยใครได้นอกจากตัวตนของบุคคลนั้นเองจะสำนึกได้ว่าตนผิดแน่ๆ
ก็คำสอนของตถาคตทุกคำคือความจริงตรงขณะและตรงปัจจุบันและตรงทางทีละ1ทางรู้มั๊ยคะ
เอกายโนมัคโค...เดินตามถูกตรงได้แค่ทางเดียวเท่านั้น...ไม่มีใครทำปัญญาตรงตามคำตถาคตแทนใครได้ค่ะ
https://youtu.be/_Z8ZOFq8j3A


เพ้อเจ้อธัมม์ :b13:

:b12:
โสตะวิญญาณคือวิถีจิตทางหูเกิดดับที่หู
จักขุวิญญาณคือวิถีจิตทางตาเกิดดับที่นัยน์ตา
ทั้ง6ทางเกิดดับคนละที่คนละทางคนละอย่างนะคะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.พ. 2020, 21:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

คำสอนของพระพุทธเจ้าตรงจริง
แต่ตัวตนของเราไม่ได้รู้อย่างตถาคต
คิดไม่ซื่อและไม่ตรงแปลว่ามีมิจฉาทิฏฐิ
อยากคิดอยากพูดอยากทำอะไรตถาคตไม่ห้าม
เพราะห้ามความคิดเห็นผิดที่เป็นแบบนั้นแล้วเป็นไปไม่ได้
ใครไม่ฟังก็แล้วแต่อัธยาศัยเพราะคนไม่ฟังไม่มีปัญญาเข้าใจค่ะ
ไม่มีใครช่วยใครได้นอกจากตัวตนของบุคคลนั้นเองจะสำนึกได้ว่าตนผิดแน่ๆ
ก็คำสอนของตถาคตทุกคำคือความจริงตรงขณะและตรงปัจจุบันและตรงทางทีละ1ทางรู้มั๊ยคะ
เอกายโนมัคโค...เดินตามถูกตรงได้แค่ทางเดียวเท่านั้น...ไม่มีใครทำปัญญาตรงตามคำตถาคตแทนใครได้ค่ะ
https://youtu.be/_Z8ZOFq8j3A


เพ้อเจ้อธัมม์ :b13:

:b12:
โสตะวิญญาณคือวิถีจิตทางหูเกิดดับที่หู
จักขุวิญญาณคือวิถีจิตทางตาเกิดดับที่นัยน์ตา
ทั้ง6ทางเกิดดับคนละที่คนละทางคนละอย่างนะคะ
:b32: :b32:


นั่นไปจำเขามาไปฟังเขามาไปอ่านมา

แต่ปัญหามันอยู่ตรงนี้ ที่พูดๆมานั่น ตัวเราเองเห็นการเกิด-ดับของจิตของวิญญาณไหม เห็นมันเกิดมันดับไหม ตอบตรงๆ

1. เห็น
2. ไม่เห็น

1 หรือ 2

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.พ. 2020, 00:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

คำสอนของพระพุทธเจ้าตรงจริง
แต่ตัวตนของเราไม่ได้รู้อย่างตถาคต
คิดไม่ซื่อและไม่ตรงแปลว่ามีมิจฉาทิฏฐิ
อยากคิดอยากพูดอยากทำอะไรตถาคตไม่ห้าม
เพราะห้ามความคิดเห็นผิดที่เป็นแบบนั้นแล้วเป็นไปไม่ได้
ใครไม่ฟังก็แล้วแต่อัธยาศัยเพราะคนไม่ฟังไม่มีปัญญาเข้าใจค่ะ
ไม่มีใครช่วยใครได้นอกจากตัวตนของบุคคลนั้นเองจะสำนึกได้ว่าตนผิดแน่ๆ
ก็คำสอนของตถาคตทุกคำคือความจริงตรงขณะและตรงปัจจุบันและตรงทางทีละ1ทางรู้มั๊ยคะ
เอกายโนมัคโค...เดินตามถูกตรงได้แค่ทางเดียวเท่านั้น...ไม่มีใครทำปัญญาตรงตามคำตถาคตแทนใครได้ค่ะ
https://youtu.be/_Z8ZOFq8j3A


เพ้อเจ้อธัมม์ :b13:

:b12:
โสตะวิญญาณคือวิถีจิตทางหูเกิดดับที่หู
จักขุวิญญาณคือวิถีจิตทางตาเกิดดับที่นัยน์ตา
ทั้ง6ทางเกิดดับคนละที่คนละทางคนละอย่างนะคะ
:b32: :b32:


นั่นไปจำเขามาไปฟังเขามาไปอ่านมา

แต่ปัญหามันอยู่ตรงนี้ ที่พูดๆมานั่น ตัวเราเองเห็นการเกิด-ดับของจิตของวิญญาณไหม เห็นมันเกิดมันดับไหม ตอบตรงๆ

1. เห็น
2. ไม่เห็น

1 หรือ 2

:b12:
ฮิ้วๆๆๆ
ตถาคตตรัสรู้ความจริง
ของทุกคำในพระไตรปิฏก
ทั้งหมดทุกคำคือปัจจุบันขณะ
คือความรู้นี้คือตถาคตรู้เพียงผู้เดียว
และสาวกสามารถฟังและเข้าถึงสัจจะของตนได้
จากการพิจารณาไตร่ตรองจากการฟังคำสอนแล้วเข้าใจสิ่งที่กำลังมี
ไม่ใช่การเอาตัวตนไปทำตามที่คิดเองแต่เป็นการเข้าถึงสัจจะคือตัวจริงที่ตัวตนกำลังมีเดี๋ยวนี้...คริคริคริ
:b32:
:b12: :b12:
เดี๋ยวนี้ไม่มีตถาคตคนที่2และไม่มีปัจเจกพุทธเจ้ามีแต่สาวกคือบรรลุจากการฟังค่ะ
ที่มีตัวตนอยากไปทำให้รู้น่ะคือมีตัณหาคืออยากถึง
นิพพานถึงได้ด้วยความหมดอยากนะคะ
ฟังให้เข้าใจก่อนอย่าเพิ่งทำถ้าไม่เก็ต
เพราะสภาพธรรมไม่ใช่คนสัตว์วัตถุ
https://youtu.be/GzH5EBFA6EU
:b12:
:b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2020, 19:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

เดี๋ยวนี้ไม่มีตถาคตคนที่2และไม่มีปัจเจกพุทธเจ้ามีแต่สาวก คือ บรรลุจากการฟังค่ะ
ที่มีตัวตนอยากไปทำให้รู้น่ะคือมีตัณหาคืออยากถึง
นิพพานถึงได้ด้วยความหมดอยากนะคะ
ฟังให้เข้าใจก่อนอย่าเพิ่งทำถ้าไม่เก็ต
เพราะสภาพธรรมไม่ใช่คนสัตว์วัตถุ
https://youtu.be/GzH5EBFA6EU


พ่ะน่ะ ถ้างั้นก็ถามแล้วกัน แล้วทุกวันนี้คนที่ฟังแม่สุจินพูดบรรลุกี่คนแล้ว เอ้า :b32:

กท.ปัญญา 3 ระดับ

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=55412

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2020, 09:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:


พอดีผู้เขียนเพิ่งกลับจากเมืองเก็ตตี้สเบิร์ก อันเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่สำคัญเมืองหนึ่งในอเมริกา เป็นเมืองที่เป็นจุดกำหนดชัยชนะและความปราชัยของสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อยาวนาน ซึ่งต้องเล่าย้อนหลังเล็กน้อย สำหรับผู้อ่านที่ไม่มีพื้นประวัติศาสตร์อเมริกามาก่อน

ก่อนที่อเมริกาจะกลายเป็นประเทศอย่างทุกวันนี้ แรกเริ่มเดิมทีมีสภาพเพียงอาณานิคมกระจอกงอกง่อยที่กระจายตัวกันอยู่หลวมๆ ตามพื้นที่ชายฝั่งตะวันออก ชาวยุโรปหลายประเทศมาสร้างบ้านแปงเมืองกันอยู่เป็นกลุ่มๆ โดยไม่แยแสอินเดียนแดงเจ้าของแผ่นดินเดิมแม้แต่น้อย แต่ผู้อพยพจากยุโรปที่หลั่งไหลเข้ามาลงหลักปักฐานบนแผ่นดินแปลกหน้าจำนวนมากที่สุดก็เห็นจะเป็นชาวอังกฤษนี่แหละ ต่อมา อังกฤษตั้งตัวเป็นขาใหญ่ในบรรดาอาณานิคมทั้งหลาย ด้วยการกำจัดอิทธิพลของฝรั่งเศสและสเปนออกไปจากแผ่นดินใหม่ จากการก่อตั้ง ๑๓ อาณานิคมเรียงรายเหนือจรดใต้ตลอดชายฝั่งตะวันออกของประเทศ

ในช่วงเวลานั้น ก็มีการนำทาสจากแอฟริกามาใช้งานแล้วในหมู่อาณานิคม ซึ่งกระจายตัวอยู่ในบริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศ และรวมตัวกันเรียกว่า “สิบสามอาณานิคม” จะว่าไปก็นับว่าหากินบนหลังคนมาตั้งแต่ยังเป็นอาณานิคมเลยก็ว่าได้

ต่อมาจอร์จ วอชิงตัน นำกองกำลังเข้าตะลุมบอนกับทหารอังกฤษจนอังกฤษพ่ายแพ้แล้วประกาศอิสรภาพในวันที่ 4 กรกฎาคม 1776 เมื่อขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนแรกนั้น อาณานิคมทั้งสิบสามแห่งได้พลอยแต่งหน้าทาปากเลื่อนขั้นขึ้นเป็น ๑๓ รัฐแรกในอเมริกา โดยแบ่งเป็นรัฐที่ห้ามค้าทาสหรือรัฐเสรีจำนวน ๕ รัฐ และรัฐที่อนุญาตให้ค้าทาสได้มีอยู่ ๘ รัฐ ซึ่ง ๘ รัฐที่มีการค้าทาสนี้ เรียกว่า รัฐทาส

หลังจากนั้น ก็มีการขยายขอบเขตออกไปเรื่อยๆ จนมีทั้งหมด ๓๔ รัฐ และแบ่งเป็นรัฐเสรี ๑๙ รัฐ อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ และรัฐทาส ๑๕ รัฐ ทางตอนใต้ ที่เป็นเช่นนี้เพราะในยุคนั้น ชาวอเมริกันทางตอนเหนือเป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมขนาดหนัก มีการก่อสร้างโรงงานมากมาย ส่วนรัฐทางตอนใต้เป็นโซนของการเพาะปลูก โดยเฉพาะการปลูกฝ้ายและยาสูบ จึงอ้างว่าจำเป็นต้องใช้แรงงานทาสมาช่วยในการทำงาน

คนส่วนมากมักคิดว่า แนวคิดเรื่องการเลิกทาสนำไปสู่สงครามการเมืองในอเมริกา แต่จริงๆ แล้วยังมีประเด็นทางการเมืองซ่อนเร้นอยู่อีกมากมาย โดยเฉพาะเรื่องการตั้งกำแพงภาษีระหว่างอเมริกากับยุโรปและเรื่องการชิงดำบนแผ่นดินตะวันออกอันหอมหวาน

ในเวลานั้น รัฐบาลกลางต้องการขยายฐานการผลิต และการค้าด้านอุตสาหกรรมในประเทศ จึงตั้งกำแพงภาษีเพื่อป้องกันสินค้าอุตสาหกรรมจากยุโรปเข้ามาตีตลาดในสหรัฐ ฯ แต่อย่าคิดว่า ยุโรปจะยินยอมถูกไอ้เด็กเมื่อวานซืนอย่างอเมริกากระทำแต่เพียงฝ่ายเดียว เพราะหลายประเทศในยุโรปก็ตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน คือ ตั้งกำแพงภาษีกับสินค้านำเข้าจากอเมริกาเช่นกัน เรื่องนี้ สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบธุรกิจการเกษตรในรัฐทางใต้มาก เพราะทำให้ขายสินค้าได้น้อยลง
ส่วนรัฐทางเหนือนั้นได้รับผลกระทบน้อยกว่ารัฐทางใต้ เพราะเน้นไปทางอุตสาหกรรม

ต่อมาอเมริกาซื้อหลุยส์เซียน่าจากฝรั่งเศส ในยุคนั้นถือว่าเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส และมีคนฝรั่งเศสอพยพเข้าไปอาศัยเป็นจำนวนมาก มรดกตกทอดของฝรั่งเศส ยังส่งอิทธิพลต่อประชากรในรัฐหลุยส์เซียน่ามาจนทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม หรือภาษา แถมอเมริกายังดันรบชนะสเปน กับ เม็กซิโก เลยทำให้ได้แผ่นดินใหม่ๆมาไว้ในกำมืออย่างเป็นกอบเป็นกำ เพราะได้รับดินแดนทางตกเฉียงให้ของทวีปอเมริกาเหนือมาแทนค่าปฏิกรรมสงคราม แผ่นดินใหม่ๆ หอมๆ นี่แหละคือปมปัญหาของสงครามอย่างแท้จริง

แผ่นดินที่ได้มาใหม่นั้นถูกเรียกว่า ดินแดนตะวันตก และเป็นจุดที่เกิดกรณีขัดแย้ง เพราะรัฐทางเหนือ ซึ่งเป็นรัฐเสรี ไม่อยากให้รัฐที่จะเกิดขึ้นใหม่ในดินแดนตะวันตกเป็นรัฐที่มีทาส
แต่ขณะเดียวกัน รัฐทางใต้ซึ่งเป็นรัฐค้าทาส ก็อยากให้แผ่นดินตะวันตกกลายเป็นรัฐค้าทาสไปด้วย เพราะความไม่อยากตกเป็นเบี้ยล่างรัฐทางเหนือ เพราะหากรัฐเกิดใหม่ในดินแดนตะวันตกกลายเป็นรัฐเสรีไม่มีทาส อาจจะทำให้เกิดไอเดียว่า ควรยกเลิกการค้าทาสในทุกรัฐ นั่นหมายถึงความล่มสลายของรัฐทางใต้ที่มีการค้าทาสนั่นเอง เพราะทาสที่คนครอบครองจะกลายเป็นไท หากทาสยังอยากทำงานในฟาร์มอยู่ นายทาสก็ต้องจ่ายค่าจ้าง ซึ่งหมายถึงค่าใช้จ่ายในการผลิตจะเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว


ม็อบรุมโค่นรูปปั้น ผู้ก่อกรรมไว้กับคนผิวดำ เอาไปโยนทิ้งน้ำ

ม็อบรุมโค่นรูปปั้น - เมื่อ 7 มิ.ย. เอพี รายงานการประท้วงต่อต้านการเหยียดสีผิวเชื้อชาติ จากกรณีจอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันผิวดำ ถูกตำรวจใช้กำลังจับกุมจนถึงแก่ความตาย ว่า นอกจากการประท้วงจะผุดทั่วสหรัฐอเมริกาแล้ว ยังมีมวลชนตามเมืองต่างๆ ของยุโรปจัดการชุมนุมประท้วงอย่างกว้างขวาง

กิจกรรมการประท้วงหนึ่งที่มีทั้งในสหรัฐ และยุโรป คือการโค่นรูปปั้นที่เป็นอนุสรณ์สถานบุคคลที่เคยเหยียดสีผิวและเชื้อชาติมาก่อน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่เรียกว่า ชีวิตคนดำก็มีค่า หรือ Black Lives Matter

สำหรับ เอ็ดเวิร์ด โคลสตัน เป็นลูกหลานตระกูลพ่อค้าที่มั่งคั่ง ดำเนินกิจการบริษัทผูกขาดค้าทาส ในชื่อ รอยัล แอฟริกัน คอมพานี ขนส่งทาสจากแอฟริกาข้ามมหาสมุทร เข้ามาอังกฤษ และส่งทาสบางส่วนไปทำไร่อ้อยในแถบทะเลแคริบเบียน และทำไร่ยาสูบที่รัฐเวอร์จิเนียในอเมริกา

รูปปั้นโคลสตันเป็นประเด็นถกเถียงของชาวเมืองมานานแล้ว เนื่องจากเป็นบุคคลที่ค้าทาส แต่นำเงินมามอบให้การกุศลและพัฒนาเมืองจำนวนมาก กระทั่งเกิดกระแสจอร์จ ฟลอยด์ ทำให้รูปปั้นถูกโค่นในที่สุด



รูปภาพ

https://www.khaosod.co.th/around-the-wo ... ws_4273584

ปท.แถวๆนี้ เมื่ออดีตรุ่นบุกเบิกมีผู้อิทธิพลฆ่าคนแย่งที่ดินเอาเปรียบผู้ด้อยกว่า ปัจจุบันมีที่ดินที่ได้มาจากการเช่นว่านั้นมากมาย
ปัจจุบันแก่อายุมากเป็นไม้ใกล้ฝั่งแพ้สังขารก็สำนึกผิดคิดได้ก็ถ่ายบาปสร้างวัดวาอารามประจำตระกูลช่วยกิจการการกุศลเช่นนั้นก็มีปรากฏอยู่

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2020, 09:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

คำสอนของพระพุทธเจ้าตรงจริง
แต่ตัวตนของเราไม่ได้รู้อย่างตถาคต
คิดไม่ซื่อและไม่ตรงแปลว่ามีมิจฉาทิฏฐิ
อยากคิดอยากพูดอยากทำอะไรตถาคตไม่ห้าม
เพราะห้ามความคิดเห็นผิดที่เป็นแบบนั้นแล้วเป็นไปไม่ได้
ใครไม่ฟังก็แล้วแต่อัธยาศัยเพราะคนไม่ฟังไม่มีปัญญาเข้าใจค่ะ
ไม่มีใครช่วยใครได้นอกจากตัวตนของบุคคลนั้นเองจะสำนึกได้ว่าตนผิดแน่ๆ
ก็คำสอนของตถาคตทุกคำคือความจริงตรงขณะและตรงปัจจุบันและตรงทางทีละ1ทางรู้มั๊ยคะ
เอกายโนมัคโค...เดินตามถูกตรงได้แค่ทางเดียวเท่านั้น...ไม่มีใครทำปัญญาตรงตามคำตถาคตแทนใครได้ค่ะ
https://youtu.be/_Z8ZOFq8j3A


เพ้อเจ้อธัมม์ :b13:

:b12:
โสตะวิญญาณคือวิถีจิตทางหูเกิดดับที่หู
จักขุวิญญาณคือวิถีจิตทางตาเกิดดับที่นัยน์ตา
ทั้ง6ทางเกิดดับคนละที่คนละทางคนละอย่างนะคะ
:b32: :b32:


นั่นไปจำเขามาไปฟังเขามาไปอ่านมา

แต่ปัญหามันอยู่ตรงนี้ ที่พูดๆมานั่น ตัวเราเองเห็นการเกิด-ดับของจิตของวิญญาณไหม เห็นมันเกิดมันดับไหม ตอบตรงๆ

1. เห็น
2. ไม่เห็น

1 หรือ 2

cool
โรสเขียนเรื่องได้ยินให้คุณคิดตามเพื่อเข้าใจความจริงทางหูทางเดียว
ตัวจริงธัมมะมีแค่1ปรมัตถ์ โลกของได้ยิน1โลก โลกของเห็น1โลก
ทั้ง6ทางอายตนะไม่เคยเกิดพร้อมกันเลยถ้าคิดถูกตรงตามคำสอน
สิ่งที่กำลังเห็นอยู่ ที่กำลังได้ยินอยู่ ที่กำลังคิดนึกรู้สึกได้เพราะมีจิต
แต่จิตแค่ทำหน้าเป็นประธานแค่รู้ความเป็นไปของสิ่งที่กำลังมีรู้ตรงตามได้ทีละ1ทางที่มีลักษณะต่างกันไป
แต่ละ1มันเกิดดับสลับกันไม่เกิดปนอายตนะกันเลยไม่มีขณะไหนที่เกิดทั้ง6ทางพร้อมกันได้สิ่งที่มีไม่ใช่เรา
คุณกรัชกายไม่เข้าใจความจริงของจิตตัวเองเลยคุณไม่ฟังคำสอนและไม่สนใจที่จะรู้ความจริงก่อนไปทำ
:b12:
จิตเห็นเป็นตัวจริงธัมมะเดียวที่เกิดพร้องแสงคือมีแสงและสีทางตาเนื้อเห็นส่วนจิตทางอื่นมืดมองไม่เห็นนะคะ
คิดว่าตามปกติที่ลืมตาดูยังเห็นไม่ชัดเพราะแสงสว่างไม่พอหรือคะแค่หลับเปลือกตาลงก็ไม่เห็นสิ่งที่มีตรงหน้า
มีแต่คิดนึกจำว่าตัวตนตัวเองอยู่ที่ไหนมีอะไรรอบๆตัวบ้างไม่เคยคิดถูกตัวตนตรงตามคำของตถาคตได้เลย
ไม่มีเราแต่มีตัวจริงธัมมะแต่ละ1ลักษณะกำลังปรากฏตามปกติวิสัยในชีวิตประจำวันวิสยรูป7ตรงสัจจะกำลังมี
viewtopic.php?f=1&t=56203&start=120
:b12:
:b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มิ.ย. 2020, 07:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

โรสเขียนเรื่องได้ยินให้คุณคิดตามเพื่อเข้าใจความจริงทางหูทางเดียว
ตัวจริงธัมมะมีแค่1ปรมัตถ์ โลกของได้ยิน1โลก โลกของเห็น1โลก

ทั้ง6ทางอายตนะไม่เคยเกิดพร้อมกันเลยถ้าคิดถูกตรงตามคำสอน
สิ่งที่กำลังเห็นอยู่ ที่กำลังได้ยินอยู่ ที่กำลังคิดนึกรู้สึกได้เพราะมีจิต
แต่จิตแค่ทำหน้าเป็นประธานแค่รู้ความเป็นไปของสิ่งที่กำลังมีรู้ตรงตามได้ทีละ1ทางที่มีลักษณะต่างกันไป
แต่ละ1มันเกิดดับสลับกันไม่เกิดปนอายตนะกันเลยไม่มีขณะไหนที่เกิดทั้ง6ทางพร้อมกันได้สิ่งที่มีไม่ใช่เรา
คุณกรัชกายไม่เข้าใจความจริงของจิตตัวเองเลยคุณไม่ฟังคำสอนและไม่สนใจที่จะรู้ความจริงก่อนไปทำ
:b12:
จิตเห็นเป็นตัวจริงธัมมะเดียวที่เกิดพร้องแสงคือมีแสงและสีทางตาเนื้อเห็นส่วนจิตทางอื่นมืดมองไม่เห็นนะคะ
คิดว่าตามปกติที่ลืมตาดูยังเห็นไม่ชัดเพราะแสงสว่างไม่พอหรือคะแค่หลับเปลือกตาลงก็ไม่เห็นสิ่งที่มีตรงหน้า
มีแต่คิดนึกจำว่าตัวตนตัวเองอยู่ที่ไหนมีอะไรรอบๆตัวบ้างไม่เคยคิดถูกตัวตนตรงตามคำของตถาคตได้เลย
ไม่มีเราแต่มีตัวจริงธัมมะแต่ละ1ลักษณะกำลังปรากฏตามปกติวิสัยในชีวิตประจำวันวิสยรูป7ตรงสัจจะกำลังมี
viewtopic.php?f=1&t=56203&start=120


เลอะเทอะทั้งเพทั้งระยองเกาะแก้วพิสดาร :b32:

แล้วคนหูหนวกหูไม่ได้ยินทำไง :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มิ.ย. 2020, 07:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
องค์กรอังกฤษ เผยไม่จำเป็นต้องนำรูปปั้น พ่อค้าทาส กลับมาตั้งที่เดิม

องค์กรฮิสทอริก อิงแลนด์ ระบุ รูปปั้นพ่อค้าทาสชาวสหราชอาณาจักรผู้โด่งดัง ที่ถูกโค่นทำลายโดยกลุ่มผู้ประท้วงแบล็ก ไลฟ์ แมตเตอร์ (Black Lives Matter) หรือชีวิตคนดำก็มีความหมาย ไม่จำเป็นต้องนำกลับมาตั้งไว้ดังเดิม
.
รูปปั้นสัมฤทธิ์ของเอ็ดเวิร์ด โคลสตัน เป็นอนุสาวรีย์ภายใต้การพิทักษ์ระดับ 2 โดยถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1895 เพื่อรำลึกถึงคุณูปการของโคลสตัน อย่างไรก็ดี อนุสาวรีย์แห่งนี้เป็นที่ถกเถียงของประชาชนในเมืองท่าบริสตอลมาเป็นเวลานาน และมีบางฝ่ายเรียกร้องให้กำจัดออก


รูปภาพ

https://www.facebook.com/Mono29News/pho ... =3&theater

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 100 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 44 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร