วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 17:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 150 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2019, 17:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:


สิกขา แปลว่า รู้ความจริง
ตรงสัจจะที่มี
เดี๋ยวนี้ที่กายใจตัวเองตามนะตามคำของตถาคต
ไม่ใช่เอาตัวตนปลีกแยกแปลกออกไปทำอย่างอื่น
แต่เป็นการคิดถูกตามตรงสัจจะที่กำลังปรากฏว่ามีอะไรตรงที่กายใจตนมีเท่านั้น
ไม่ใช่ไปทำหลับตานั่งไม่ฟังคำสอนโดยอยากรู้สิ่งที่ยังไม่มีขาดการฟังและไม่คิดไตร่ตรองตามคำสอน
เพราะสิ่งที่ไม่รู้คือสิ่งที่มีแล้วไม่ทำอะไรก็มีแล้วดับแล้วถึงแสนล้านดวงจิต...ฟังให้รู้สึกตัวว่าไม่รู้ :b32: :b32:
https://youtu.be/AQxV-GU7d6Q


เกมขอรับ สิกขา แปลว่า รู้ความจริง

ไม่ต้องไปต่อแล้ว เครื่องจักรทุกตัวหยุดทำงาน

เพิ่งคิดได้ คือว่า เพิ่งได้หนังสือ ต่วย ตูน มาอ่านสบายๆสายบันเทิง จะเลือกพิมพ์ให้คุณโรสอ่าน ธัมมะรู้สึกว่าจะหนักไปสำหรับคุณโรส

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2019, 13:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สิกขา การศึกษา, การสำเหนียก, การเรียน, การฝึกฝนปฏิบัติ, การเล่าเรียนให้รู้เข้าใจ และฝึกหัดปฏิบัติให้เป็นคุณสมบัติที่เกิดมีขึ้นในตน หรือให้ทำได้ทำเป็น ตลอดจนแก้ไขปรับปรุง หรือพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปจนถึงสมบูรณ์, ข้อที่จะต้องศึกษา, ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรมพัฒนาบุคคล,

สิกขา ๓ คือ

๑. อธิสีลสิกขา สิกขาคือศีลอันยิ่ง, อธิศีลอันเป็นข้อที่จะต้องศึกษา, ข้อปฏิบัติเพื่อการฝึกอบรมพัฒนาศีลอย่างสูง
(ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ เป็นศีล, ปฏิโมกขสังวรศีล เป็นอธิศีล แต่ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ที่รักษาด้วยความเข้าใจ ให้เป็นเครื่องหนุนนำออกจากวัฏฏะ ก็เป็นอธิศีล)

๒. อธิจิตตสิกขา สิกขาคือจิตอันยิ่ง, อธิจิตอันเป็นข้อที่จะต้องศึกษา, ข้อปฏิบัติเพื่อการฝึกอบรมพัฒนาจิตใจให้มีสมาธิเป็นต้นอย่างสูง
(กุศลจิตทั้งหลายจนถึงสมาบัติ ๘ เป็นจิต, ฌานสมาบัติที่เป็นบาทแห่งวิปัสสนา เป็นอธิศีล แต่สมาบัติ ๘ นั่นแหละ ถ้าปฏิบัติด้วยความเข้าใจ มุ่งให้เป็นเครื่องหนุนนำออกจากวัฏฏะ ก็เป็นอธิจิต)

๓. อธิปัญญาสิกขา สิกขาคือปัญญาอันยิ่ง, อธิปัญญาอันเป็นข้อที่จะต้องศึกษา, ข้อปฏิบัติเพื่อการฝึกอบรมพัฒนาปัญญาอย่างสูง
(ความรู้เข้าใจหลักเหตุผลถูกต้องอย่างสามัญ อันเป็นกัมมัสสกตาญาณ คือ ความรู้จักว่าทุกคนเป็นเจ้าของแห่งกรรมของตน เป็นปัญญา, วิปัสสนาปัญญาที่กำหนดรู้ความจริงแห่งไตรลักษณ์ เป็นอธิปัญญา แต่โดยนัยอย่างเพลา กัมมัสสกตาปัญญาที่โยงไปให้มองเห็นทุกข์ที่เนื่องด้วยวัฏฏะ หรือแม้กระทั่งความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ก้าวไปในมรรค ก็เป็นอธิปัญญา)


สิกขา ๓ นี้ นิยมเรียกว่า ไตรสิกขา และเรียกข้อย่อยทั้งสามง่ายๆสั้นๆ ว่า ศีล สมาธิ ปัญญา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2019, 00:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
คิดไหมคำสอนแทนศาสดาคือศาสนา
เหยียบย่ำคำสอนคืออนันตริยกรรม
ทำลายคำสอนคือทำร้ายตถาคต
ศึกษาคำสอนให้รู้ก่อนบวช
ไม่ใช่มีแต่อยากบวช
ทำตามๆกันไป
ไม่มีเหตุผล
เขาเรียกไม่รู้จักประมาณกิเลสตนเองก่อนบวช
เพราะไม่รู้ว่าตนเองมีกิเลสมากแค่ไหนและไม่มีปัญญาถึงอยากจะบวชรู้ไหมคะ
:b12:
:b16: :b16:


รอให้หมดกิเลสก่อนค่อยบวช ชาตินี้ก็ไม่ได้บวช อีกร้อยชาติก็ไม่ได้บวช

หากย้อนไปศึกษาประวัตินักบวชครั้งพุทธกาล ก่อนบวชก็มีกิเลสด้วยกันทั้งนั้น เป็นปุถุชนคนทั่วๆไปนี่เอง

เมื่อบวชเข้ามาแล้ว บางคนก็ปฏิบัติทำลายกิเลสได้ บางคนก็ทำลายกิเลสไม่ได้มีเยอะแยะ

อันที่จริง กิเลสมันเป็นนามธรรม ต่างจากกระเบื้องมุงหลังคาซึ่งเป็นรูปธรรม มองไม่เห็นถ้าอยู่ในใจ ไม่ง่ายอย่างปากพูดที่จะกำจัดมัน
ยกตัวอย่าง เช่น คนที่ธัมมะธัมโมหน่อย คิดว่า ขับรถไปทำงานเช้านี้ จะไม่โกรธใคร จะให้อภัยเพื่อนร่วมทาง พุทโธๆท่องไว้ :b32: ขับไปๆ ทีแรกถนนโล่งขับสบายๆ ไปๆรถชักเยอะ พอมีรถคันหนึ่งขับปาดหน้า :b31: ของขึ้นเลย ยังไม่ทันตั้งนะโมของขึ้นก่อนแล้ว สบถลั่นอะไรนักก็ไม่รู้ % @ + # * ที่ตั้งใจไว้แต่บ้านหายหมด บางคนเปิดประตูลงจากรถโดดเตะรถอีกฝ่ายเบย สมอยากหายโมโห นึกได้ โท่ๆๆ ตามมันไม่ทัน นี่ตัวอย่าง มันไม่ง่ายนะคุณโรส บิ๊กทู่ กบนอกกะลา ชาวพุทธโลกสวยกบนอกกะลาหายไปไหน

:b32:
สิ่งที่เห็นได้คือสิ่งที่กำลังกระทบตาเท่านั้น...เราน่ะกำลังเห็นผิดอยู่...ฟังบ้างนะ
สิ่งที่ปรากฏให้เห็นว่ามีคนสัตว์วัตถุมันอยู่นอกตานะคะคุณไม่ใช่ตัวจริงธัมมะ
https://youtu.be/dje2FAeqPOo


รูปอยู่นอกตาเป็นธัมมะไหม เสียงอยู่นอกหู เป็นธัมมะไหม กลิ่นอยู่นอกจมูก เป็นธัมมะไหม ฯลฯ ตอบสิ


เคยฟังให้เกิดปัญญาของตัวเองบ้างไหม
รูปไม่ใช่ตัวตนเพราะรูปคือรูปขันธ์
ขันธ์แปลว่าเกิด-ดับมีคนวัตถุไหม
ตัวจริงธัมมะของรูปคืออะไรคะ
รูป28รูปมีแสงเกิดร่วมแค่1รูป
คิดว่าอีก27รูปมองเห็นได้หรือ
จิตเกิดดับทีละ1ขณะดังนั้น
รูปจึงเกิดดับทีละ1ขณะพร้อมจิต
คิดว่า1ขณะของสีกระทบตาดำคืออะไรไม่รู้ก็คือไม่รู้
คำว่าดับนับไม่ถ้วนคือเดี๋ยวนี้ไม่มีซากสีให้เห็นจะให้ว่าไงคะ
:b32: :b32: :b32:


เขาถามว่าใช่ธัมมะไหม นั่นน่า

:b32:
อ้าวแล้วจะมาลังเลสงสัยถามทำไม
ก็พระพุทธเจ้าบอกว่าสัพเพ ธัมมา อนัตตา
ทุกอย่างที่ทำมาแล้วนั่นน่ะเป็นธัมมะที่เกิดโดยความเป็นอนัตตา
ไม่มีใครไปกำหนดหรือไปบังคับทำให้ธัมมะนั้นเกิดหรือดับเพราะทุกอย่างเกิดตามเหตุตามปัจจัย
เกิดแล้วดับแล้วด้วยจะคิดเองต่อไปเรื่อยๆแบบที่ทำอยู่อีกนานไหมคะเข้าใจคำว่าฟังจนกว่านิพพานไหม
ที่ชอบถามชอบซักน่ะเพราะเป็นตัวเราอยากรู้อยากทำและขาดการฟังโดยไม่เคยคิดไตร่ตรองตามคำสอน
เพื่อให้จิตคิดถูกเข้าใจถูกตามคำตถาคตเลยมีแต่คิดเองอยู่นั่นแหละก็เป็นอนัตตาไงเป็นแบบนั้นแล้วไงคะ
ไม่เคยเปลี่ยนให้คิดถูกตามได้ไงคะ...ก็อ่านแล้วคิดเองอยู่นั่นน่ะลืมฟังจนกว่าจะเริ่มฟังให้ปัญญาแทรกบ้าง
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2019, 00:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
คิดไหมคำสอนแทนศาสดาคือศาสนา
เหยียบย่ำคำสอนคืออนันตริยกรรม
ทำลายคำสอนคือทำร้ายตถาคต
ศึกษาคำสอนให้รู้ก่อนบวช
ไม่ใช่มีแต่อยากบวช
ทำตามๆกันไป
ไม่มีเหตุผล
เขาเรียกไม่รู้จักประมาณกิเลสตนเองก่อนบวช
เพราะไม่รู้ว่าตนเองมีกิเลสมากแค่ไหนและไม่มีปัญญาถึงอยากจะบวชรู้ไหมคะ
:b12:
:b16: :b16:


รอให้หมดกิเลสก่อนค่อยบวช ชาตินี้ก็ไม่ได้บวช อีกร้อยชาติก็ไม่ได้บวช

หากย้อนไปศึกษาประวัตินักบวชครั้งพุทธกาล ก่อนบวชก็มีกิเลสด้วยกันทั้งนั้น เป็นปุถุชนคนทั่วๆไปนี่เอง

เมื่อบวชเข้ามาแล้ว บางคนก็ปฏิบัติทำลายกิเลสได้ บางคนก็ทำลายกิเลสไม่ได้มีเยอะแยะ

อันที่จริง กิเลสมันเป็นนามธรรม ต่างจากกระเบื้องมุงหลังคาซึ่งเป็นรูปธรรม มองไม่เห็นถ้าอยู่ในใจ ไม่ง่ายอย่างปากพูดที่จะกำจัดมัน
ยกตัวอย่าง เช่น คนที่ธัมมะธัมโมหน่อย คิดว่า ขับรถไปทำงานเช้านี้ จะไม่โกรธใคร จะให้อภัยเพื่อนร่วมทาง พุทโธๆท่องไว้ :b32: ขับไปๆ ทีแรกถนนโล่งขับสบายๆ ไปๆรถชักเยอะ พอมีรถคันหนึ่งขับปาดหน้า :b31: ของขึ้นเลย ยังไม่ทันตั้งนะโมของขึ้นก่อนแล้ว สบถลั่นอะไรนักก็ไม่รู้ % @ + # * ที่ตั้งใจไว้แต่บ้านหายหมด บางคนเปิดประตูลงจากรถโดดเตะรถอีกฝ่ายเบย สมอยากหายโมโห นึกได้ โท่ๆๆ ตามมันไม่ทัน นี่ตัวอย่าง มันไม่ง่ายนะคุณโรส บิ๊กทู่ กบนอกกะลา ชาวพุทธโลกสวยกบนอกกะลาหายไปไหน

:b32:
สิ่งที่เห็นได้คือสิ่งที่กำลังกระทบตาเท่านั้น...เราน่ะกำลังเห็นผิดอยู่...ฟังบ้างนะ
สิ่งที่ปรากฏให้เห็นว่ามีคนสัตว์วัตถุมันอยู่นอกตานะคะคุณไม่ใช่ตัวจริงธัมมะ
https://youtu.be/dje2FAeqPOo


รูปอยู่นอกตาเป็นธัมมะไหม เสียงอยู่นอกหู เป็นธัมมะไหม กลิ่นอยู่นอกจมูก เป็นธัมมะไหม ฯลฯ ตอบสิ


เคยฟังให้เกิดปัญญาของตัวเองบ้างไหม
รูปไม่ใช่ตัวตนเพราะรูปคือรูปขันธ์
ขันธ์แปลว่าเกิด-ดับมีคนวัตถุไหม
ตัวจริงธัมมะของรูปคืออะไรคะ
รูป28รูปมีแสงเกิดร่วมแค่1รูป
คิดว่าอีก27รูปมองเห็นได้หรือ
จิตเกิดดับทีละ1ขณะดังนั้น
รูปจึงเกิดดับทีละ1ขณะพร้อมจิต
คิดว่า1ขณะของสีกระทบตาดำคืออะไรไม่รู้ก็คือไม่รู้
คำว่าดับนับไม่ถ้วนคือเดี๋ยวนี้ไม่มีซากสีให้เห็นจะให้ว่าไงคะ
:b32: :b32: :b32:


เขาถามว่าใช่ธัมมะไหม นั่นน่า

:b32:
อ้าวแล้วจะมาลังเลสงสัยถามทำไม
ก็พระพุทธเจ้าบอกว่าสัพเพ ธัมมา อนัตตา
ทุกอย่างที่ทำมาแล้วนั่นน่ะเป็นธัมมะที่เกิดโดยความเป็นอนัตตา
ไม่มีใครไปกำหนดหรือไปบังคับทำให้ธัมมะนั้นเกิดหรือดับเพราะทุกอย่างเกิดตามเหตุตามปัจจัย
เกิดแล้วดับแล้วด้วยจะคิดเองต่อไปเรื่อยๆแบบที่ทำอยู่อีกนานไหมคะเข้าใจคำว่าฟังจนกว่านิพพานไหม
ที่ชอบถามชอบซักน่ะเพราะเป็นตัวเราอยากรู้อยากทำและขาดการฟังโดยไม่เคยคิดไตร่ตรองตามคำสอน
เพื่อให้จิตคิดถูกเข้าใจถูกตามคำตถาคตเลยมีแต่คิดเองอยู่นั่นแหละก็เป็นอนัตตาไงเป็นแบบนั้นแล้วไงคะ
ไม่เคยเปลี่ยนให้คิดถูกตามได้ไงคะ...ก็อ่านแล้วคิดเองอยู่นั่นน่ะลืมฟังจนกว่าจะเริ่มฟังให้ปัญญาแทรกบ้าง
:b32: :b32:

มีศรัทธาเลื่อมใสในฟังคำสอนบ้างหรือเปล่า...การฟังให้เข้าใจถูกนั้นยากเพราะจิตเราชอบคิดแต่จะไปทำไง
https://youtu.be/pcpIhUJvEHw
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2019, 17:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
คิดไหมคำสอนแทนศาสดาคือศาสนา
เหยียบย่ำคำสอนคืออนันตริยกรรม
ทำลายคำสอนคือทำร้ายตถาคต
ศึกษาคำสอนให้รู้ก่อนบวช
ไม่ใช่มีแต่อยากบวช
ทำตามๆกันไป
ไม่มีเหตุผล
เขาเรียกไม่รู้จักประมาณกิเลสตนเองก่อนบวช
เพราะไม่รู้ว่าตนเองมีกิเลสมากแค่ไหนและไม่มีปัญญาถึงอยากจะบวชรู้ไหมคะ
:b12:
:b16: :b16:


รอให้หมดกิเลสก่อนค่อยบวช ชาตินี้ก็ไม่ได้บวช อีกร้อยชาติก็ไม่ได้บวช

หากย้อนไปศึกษาประวัตินักบวชครั้งพุทธกาล ก่อนบวชก็มีกิเลสด้วยกันทั้งนั้น เป็นปุถุชนคนทั่วๆไปนี่เอง

เมื่อบวชเข้ามาแล้ว บางคนก็ปฏิบัติทำลายกิเลสได้ บางคนก็ทำลายกิเลสไม่ได้มีเยอะแยะ

อันที่จริง กิเลสมันเป็นนามธรรม ต่างจากกระเบื้องมุงหลังคาซึ่งเป็นรูปธรรม มองไม่เห็นถ้าอยู่ในใจ ไม่ง่ายอย่างปากพูดที่จะกำจัดมัน
ยกตัวอย่าง เช่น คนที่ธัมมะธัมโมหน่อย คิดว่า ขับรถไปทำงานเช้านี้ จะไม่โกรธใคร จะให้อภัยเพื่อนร่วมทาง พุทโธๆท่องไว้ :b32: ขับไปๆ ทีแรกถนนโล่งขับสบายๆ ไปๆรถชักเยอะ พอมีรถคันหนึ่งขับปาดหน้า :b31: ของขึ้นเลย ยังไม่ทันตั้งนะโมของขึ้นก่อนแล้ว สบถลั่นอะไรนักก็ไม่รู้ % @ + # * ที่ตั้งใจไว้แต่บ้านหายหมด บางคนเปิดประตูลงจากรถโดดเตะรถอีกฝ่ายเบย สมอยากหายโมโห นึกได้ โท่ๆๆ ตามมันไม่ทัน นี่ตัวอย่าง มันไม่ง่ายนะคุณโรส บิ๊กทู่ กบนอกกะลา ชาวพุทธโลกสวยกบนอกกะลาหายไปไหน

:b32:
สิ่งที่เห็นได้คือสิ่งที่กำลังกระทบตาเท่านั้น...เราน่ะกำลังเห็นผิดอยู่...ฟังบ้างนะ
สิ่งที่ปรากฏให้เห็นว่ามีคนสัตว์วัตถุมันอยู่นอกตานะคะคุณไม่ใช่ตัวจริงธัมมะ
https://youtu.be/dje2FAeqPOo


รูปอยู่นอกตาเป็นธัมมะไหม เสียงอยู่นอกหู เป็นธัมมะไหม กลิ่นอยู่นอกจมูก เป็นธัมมะไหม ฯลฯ ตอบสิ


เคยฟังให้เกิดปัญญาของตัวเองบ้างไหม
รูปไม่ใช่ตัวตนเพราะรูปคือรูปขันธ์
ขันธ์แปลว่าเกิด-ดับมีคนวัตถุไหม
ตัวจริงธัมมะของรูปคืออะไรคะ
รูป28รูปมีแสงเกิดร่วมแค่1รูป
คิดว่าอีก27รูปมองเห็นได้หรือ
จิตเกิดดับทีละ1ขณะดังนั้น
รูปจึงเกิดดับทีละ1ขณะพร้อมจิต
คิดว่า1ขณะของสีกระทบตาดำคืออะไรไม่รู้ก็คือไม่รู้
คำว่าดับนับไม่ถ้วนคือเดี๋ยวนี้ไม่มีซากสีให้เห็นจะให้ว่าไงคะ
:b32: :b32: :b32:


เขาถามว่าใช่ธัมมะไหม นั่นน่า

:b32:
อ้าวแล้วจะมาลังเลสงสัยถามทำไม
ก็พระพุทธเจ้าบอกว่าสัพเพ ธัมมา อนัตตา
ทุกอย่างที่ทำมาแล้วนั่นน่ะเป็นธัมมะที่เกิดโดยความเป็นอนัตตา

ไม่มีใครไปกำหนดหรือไปบังคับทำให้ธัมมะนั้นเกิดหรือดับเพราะทุกอย่างเกิดตามเหตุตามปัจจัย
เกิดแล้วดับแล้วด้วยจะคิดเองต่อไปเรื่อยๆแบบที่ทำอยู่อีกนานไหมคะเข้าใจคำว่าฟังจนกว่านิพพานไหม
ที่ชอบถามชอบซักน่ะเพราะเป็นตัวเราอยากรู้อยากทำและขาดการฟังโดยไม่เคยคิดไตร่ตรองตามคำสอน
เพื่อให้จิตคิดถูกเข้าใจถูกตามคำตถาคตเลยมีแต่คิดเองอยู่นั่นแหละก็เป็นอนัตตาไงเป็นแบบนั้นแล้วไงคะ
ไม่เคยเปลี่ยนให้คิดถูกตามได้ไงคะ...ก็อ่านแล้วคิดเองอยู่นั่นน่ะลืมฟังจนกว่าจะเริ่มฟังให้ปัญญาแทรกบ้าง
:b32: :b32:



อ้างคำพูด:
ก็พระพุทธเจ้าบอกว่า สัพเพ ธัมมา อนัตตา
ทุกอย่างที่ทำมาแล้วนั่นน่ะเป็นธัมมะที่เกิดโดยความเป็นอนัตตา


พ่ะน่ะ อะไรก็ไม่รู้ ธัมมะที่เกิดโดยความเป็นอนัตตา :b32:

ถามอีกหน่อย จะปิดจ๊อบแล้ว :b32: เห็พูดบ่อย อัตตา อนัตตา

อัตตา กับ อนัตตา ตามที่คุณโรสคิด ได้แก่ อะไร มันเป็นยังไง เอาชัดๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2019, 22:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
คิดไหมคำสอนแทนศาสดาคือศาสนา
เหยียบย่ำคำสอนคืออนันตริยกรรม
ทำลายคำสอนคือทำร้ายตถาคต
ศึกษาคำสอนให้รู้ก่อนบวช
ไม่ใช่มีแต่อยากบวช
ทำตามๆกันไป
ไม่มีเหตุผล
เขาเรียกไม่รู้จักประมาณกิเลสตนเองก่อนบวช
เพราะไม่รู้ว่าตนเองมีกิเลสมากแค่ไหนและไม่มีปัญญาถึงอยากจะบวชรู้ไหมคะ
:b12:
:b16: :b16:


รอให้หมดกิเลสก่อนค่อยบวช ชาตินี้ก็ไม่ได้บวช อีกร้อยชาติก็ไม่ได้บวช

หากย้อนไปศึกษาประวัตินักบวชครั้งพุทธกาล ก่อนบวชก็มีกิเลสด้วยกันทั้งนั้น เป็นปุถุชนคนทั่วๆไปนี่เอง

เมื่อบวชเข้ามาแล้ว บางคนก็ปฏิบัติทำลายกิเลสได้ บางคนก็ทำลายกิเลสไม่ได้มีเยอะแยะ

อันที่จริง กิเลสมันเป็นนามธรรม ต่างจากกระเบื้องมุงหลังคาซึ่งเป็นรูปธรรม มองไม่เห็นถ้าอยู่ในใจ ไม่ง่ายอย่างปากพูดที่จะกำจัดมัน
ยกตัวอย่าง เช่น คนที่ธัมมะธัมโมหน่อย คิดว่า ขับรถไปทำงานเช้านี้ จะไม่โกรธใคร จะให้อภัยเพื่อนร่วมทาง พุทโธๆท่องไว้ :b32: ขับไปๆ ทีแรกถนนโล่งขับสบายๆ ไปๆรถชักเยอะ พอมีรถคันหนึ่งขับปาดหน้า :b31: ของขึ้นเลย ยังไม่ทันตั้งนะโมของขึ้นก่อนแล้ว สบถลั่นอะไรนักก็ไม่รู้ % @ + # * ที่ตั้งใจไว้แต่บ้านหายหมด บางคนเปิดประตูลงจากรถโดดเตะรถอีกฝ่ายเบย สมอยากหายโมโห นึกได้ โท่ๆๆ ตามมันไม่ทัน นี่ตัวอย่าง มันไม่ง่ายนะคุณโรส บิ๊กทู่ กบนอกกะลา ชาวพุทธโลกสวยกบนอกกะลาหายไปไหน

:b32:
สิ่งที่เห็นได้คือสิ่งที่กำลังกระทบตาเท่านั้น...เราน่ะกำลังเห็นผิดอยู่...ฟังบ้างนะ
สิ่งที่ปรากฏให้เห็นว่ามีคนสัตว์วัตถุมันอยู่นอกตานะคะคุณไม่ใช่ตัวจริงธัมมะ
https://youtu.be/dje2FAeqPOo


รูปอยู่นอกตาเป็นธัมมะไหม เสียงอยู่นอกหู เป็นธัมมะไหม กลิ่นอยู่นอกจมูก เป็นธัมมะไหม ฯลฯ ตอบสิ


เคยฟังให้เกิดปัญญาของตัวเองบ้างไหม
รูปไม่ใช่ตัวตนเพราะรูปคือรูปขันธ์
ขันธ์แปลว่าเกิด-ดับมีคนวัตถุไหม
ตัวจริงธัมมะของรูปคืออะไรคะ
รูป28รูปมีแสงเกิดร่วมแค่1รูป
คิดว่าอีก27รูปมองเห็นได้หรือ
จิตเกิดดับทีละ1ขณะดังนั้น
รูปจึงเกิดดับทีละ1ขณะพร้อมจิต
คิดว่า1ขณะของสีกระทบตาดำคืออะไรไม่รู้ก็คือไม่รู้
คำว่าดับนับไม่ถ้วนคือเดี๋ยวนี้ไม่มีซากสีให้เห็นจะให้ว่าไงคะ
:b32: :b32: :b32:


เขาถามว่าใช่ธัมมะไหม นั่นน่า

:b32:
อ้าวแล้วจะมาลังเลสงสัยถามทำไม
ก็พระพุทธเจ้าบอกว่าสัพเพ ธัมมา อนัตตา
ทุกอย่างที่ทำมาแล้วนั่นน่ะเป็นธัมมะที่เกิดโดยความเป็นอนัตตา

ไม่มีใครไปกำหนดหรือไปบังคับทำให้ธัมมะนั้นเกิดหรือดับเพราะทุกอย่างเกิดตามเหตุตามปัจจัย
เกิดแล้วดับแล้วด้วยจะคิดเองต่อไปเรื่อยๆแบบที่ทำอยู่อีกนานไหมคะเข้าใจคำว่าฟังจนกว่านิพพานไหม
ที่ชอบถามชอบซักน่ะเพราะเป็นตัวเราอยากรู้อยากทำและขาดการฟังโดยไม่เคยคิดไตร่ตรองตามคำสอน
เพื่อให้จิตคิดถูกเข้าใจถูกตามคำตถาคตเลยมีแต่คิดเองอยู่นั่นแหละก็เป็นอนัตตาไงเป็นแบบนั้นแล้วไงคะ
ไม่เคยเปลี่ยนให้คิดถูกตามได้ไงคะ...ก็อ่านแล้วคิดเองอยู่นั่นน่ะลืมฟังจนกว่าจะเริ่มฟังให้ปัญญาแทรกบ้าง
:b32: :b32:



อ้างคำพูด:
ก็พระพุทธเจ้าบอกว่า สัพเพ ธัมมา อนัตตา
ทุกอย่างที่ทำมาแล้วนั่นน่ะเป็นธัมมะที่เกิดโดยความเป็นอนัตตา


พ่ะน่ะ อะไรก็ไม่รู้ ธัมมะที่เกิดโดยความเป็นอนัตตา :b32:

ถามอีกหน่อย จะปิดจ๊อบแล้ว :b32: เห็พูดบ่อย อัตตา อนัตตา

อัตตา กับ อนัตตา ตามที่คุณโรสคิด ได้แก่ อะไร มันเป็นยังไง เอาชัดๆ

ที่มาบอกให้ฟังเพื่อจะได้สะสมอริยทรัพย์เงินซื้อปัญญาไม่ได้
ฟังให้เข้าใจรู้ไหมกว่าจะได้เกิดมาพบคำสอนมันยากมากเลย
จนป่านนี้แระยังแยกไม่ออกว่าตัวตนกำลังมีกิเลสคือมีอัตตาไง
ส่วนอนัตตาน่ะคือคำสอนของตถาคตที่แสดงให้สาวกฟังไงคะ
ธัมมะทั้งหลายไม่เที่ยงไม่ตั้งอยู่นานเกิดแล้วดับทันทีไม่มีตัวตน
แล้วตอนนี้ตัวเองคิดว่าฉันทำได้ฉันจำบัญญัติเยอะก็แค่จำไม่ใช่สังขารขันธ์ที่ปรุงปัญญาไงคะ
สัญญาไม่ใช่สังขารไม่ใช่วิญญาณไม่ใช่ความรู้สึกสุข-ทุกข์สิ่งที่มีคือมีแค่รู้กับไม่รู้ตรงตามสัจจะที่กำลังมีไงคะ
https://youtu.be/OOnlrGEZyhg
:b12: :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2019, 08:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:


ที่มาบอกให้ฟังเพื่อจะได้สะสมอริยทรัพย์เงินซื้อปัญญาไม่ได้
ฟังให้เข้าใจรู้ไหมกว่าจะได้เกิดมาพบคำสอนมันยากมากเลย
จนป่านนี้แระยังแยกไม่ออกว่าตัวตนกำลังมีกิเลสคือมีอัตตาไง
ส่วนอนัตตาน่ะคือคำสอนของตถาคตที่แสดงให้สาวกฟังไงคะ
ธัมมะทั้งหลายไม่เที่ยงไม่ตั้งอยู่นานเกิดแล้วดับทันทีไม่มีตัวตน
แล้วตอนนี้ตัวเองคิดว่าฉันทำได้ฉันจำบัญญัติเยอะก็แค่จำไม่ใช่สังขารขันธ์ที่ปรุงปัญญาไงคะ
สัญญาไม่ใช่สังขารไม่ใช่วิญญาณไม่ใช่ความรู้สึกสุข-ทุกข์สิ่งที่มีคือมีแค่รู้กับไม่รู้ตรงตามสัจจะที่กำลังมีไงคะ
https://youtu.be/OOnlrGEZyhg


ไม่เคยตอบตรงคำถามเบยสักครั้งเดียว ถามอย่างตอบอย่าง :b32:

อ้างคำพูด:
เงินซื้อปัญญาไม่ได้


ทำไมจะไม่ได้ เงินซื้อปัญญาได้ ดูตัวอย่างเห็นๆอยู่ทุกวี่วันนี่แหละ คุณโรสมีลูก ถ้าไม่มีก็ดูข้างๆบ้านเอา คุณโรสต้องการให้ลูกเรียนหนังสือตั้งแต่อนุบาลจนจบปริญญา คุณโรสใช้เงินไหม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2019, 14:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


ที่มาบอกให้ฟังเพื่อจะได้สะสมอริยทรัพย์เงินซื้อปัญญาไม่ได้
ฟังให้เข้าใจรู้ไหมกว่าจะได้เกิดมาพบคำสอนมันยากมากเลย
จนป่านนี้แระยังแยกไม่ออกว่าตัวตนกำลังมีกิเลสคือมีอัตตาไง
ส่วนอนัตตาน่ะคือคำสอนของตถาคตที่แสดงให้สาวกฟังไงคะ
ธัมมะทั้งหลายไม่เที่ยงไม่ตั้งอยู่นานเกิดแล้วดับทันทีไม่มีตัวตน
แล้วตอนนี้ตัวเองคิดว่าฉันทำได้ฉันจำบัญญัติเยอะก็แค่จำไม่ใช่สังขารขันธ์ที่ปรุงปัญญาไงคะ
สัญญาไม่ใช่สังขารไม่ใช่วิญญาณไม่ใช่ความรู้สึกสุข-ทุกข์สิ่งที่มีคือมีแค่รู้กับไม่รู้ตรงตามสัจจะที่กำลังมีไงคะ
https://youtu.be/OOnlrGEZyhg


ไม่เคยตอบตรงคำถามเบยสักครั้งเดียว ถามอย่างตอบอย่าง :b32:

อ้างคำพูด:
เงินซื้อปัญญาไม่ได้


ทำไมจะไม่ได้ เงินซื้อปัญญาได้ ดูตัวอย่างเห็นๆอยู่ทุกวี่วันนี่แหละ คุณโรสมีลูก ถ้าไม่มีก็ดูข้างๆบ้านเอา คุณโรสต้องการให้ลูกเรียนหนังสือตั้งแต่อนุบาลจนจบปริญญา คุณโรสใช้เงินไหม

:b12:
หัดฟังซะบ้างนะคะ
ปัญญาแปลว่าเข้าใจ
ไม่มีปัญญาคือไม่เข้าใจ
ถ้าไม่เข้าใจจะคิดถูกไหม
คำสอนของพระพุทธเจ้ามีจริง
และทรงแจกแจงรายละเอียดทั้งหมด
ให้เข้าใจว่ามีหลายชื่อหลายประเภทตามชื่อ
ไม่ได้บอกให้ไปทำเข้าใจไหมว่าทำอะไรก็เป็นแบบนั้นแล้ว
เปลี่ยนสิ่งที่เป็นไปแบบนั้นแล้วไม่ได้เพราะมันดับหมดไม่เหลือแล้ว
หลงติดข้องพอใจว่าตนเองทำได้และถ้ายังไม่พอใจก็ติดใจอยากไปทำเพิ่มอีก
เพราะคิดเองว่าทำแบบนั้นถูกและดี...แต่...รู้ไหมคะ...เพราะไม่รู้และขาดการฟังไม่ไตร่ตรองตามคำสอน
จึงหลงทำผิดหลงคิดผิดโดยคิดว่าตัวตนน่ะทำได้...ไม่เคยเลยที่จะตั้งจิตไว้ชอบในการฟังให้ละเอียดไงล่ะคะ
อวิชชาพาให้เกิด...ในกาละที่มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้1ครั้งมีอัครสาวกแค่2พระองค์ที่เหลือมีปัญญาน้อยมาก
จึงไม่สามารถแทงตลอดธรรมตรงตามคำสอนตรงตามที่กำลังฟังว่ามีอะไรกำลังปรากฏว่ากำลังมีเดี๋ยวนี้
ไม่ได้ทำ...มีคือไม่สามารถระลึกตามคำสอนได้จากฟังจึงเอาแต่ท่องจำบัญญัติคำลืมว่าต้องฟังจึงจะเข้าใจ
https://youtu.be/Qv_XtoiSEm8
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2019, 20:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


ที่มาบอกให้ฟังเพื่อจะได้สะสมอริยทรัพย์เงินซื้อปัญญาไม่ได้
ฟังให้เข้าใจรู้ไหมกว่าจะได้เกิดมาพบคำสอนมันยากมากเลย
จนป่านนี้แระยังแยกไม่ออกว่าตัวตนกำลังมีกิเลสคือมีอัตตาไง
ส่วนอนัตตาน่ะคือคำสอนของตถาคตที่แสดงให้สาวกฟังไงคะ
ธัมมะทั้งหลายไม่เที่ยงไม่ตั้งอยู่นานเกิดแล้วดับทันทีไม่มีตัวตน
แล้วตอนนี้ตัวเองคิดว่าฉันทำได้ฉันจำบัญญัติเยอะก็แค่จำไม่ใช่สังขารขันธ์ที่ปรุงปัญญาไงคะ
สัญญาไม่ใช่สังขารไม่ใช่วิญญาณไม่ใช่ความรู้สึกสุข-ทุกข์สิ่งที่มีคือมีแค่รู้กับไม่รู้ตรงตามสัจจะที่กำลังมีไงคะ
https://youtu.be/OOnlrGEZyhg


ไม่เคยตอบตรงคำถามเบยสักครั้งเดียว ถามอย่างตอบอย่าง :b32:

อ้างคำพูด:
เงินซื้อปัญญาไม่ได้


ทำไมจะไม่ได้ เงินซื้อปัญญาได้ ดูตัวอย่างเห็นๆอยู่ทุกวี่วันนี่แหละ คุณโรสมีลูก ถ้าไม่มีก็ดูข้างๆบ้านเอา คุณโรสต้องการให้ลูกเรียนหนังสือตั้งแต่อนุบาลจนจบปริญญา คุณโรสใช้เงินไหม

:b12:
หัดฟังซะบ้างนะคะ ปัญญา แปลว่า เข้าใจ

ไม่มีปัญญาคือไม่เข้าใจ
ถ้าไม่เข้าใจจะคิดถูกไหม
คำสอนของพระพุทธเจ้ามีจริง
และทรงแจกแจงรายละเอียดทั้งหมด
ให้เข้าใจว่ามีหลายชื่อหลายประเภทตามชื่อ
ไม่ได้บอกให้ไปทำเข้าใจไหมว่าทำอะไรก็เป็นแบบนั้นแล้ว
เปลี่ยนสิ่งที่เป็นไปแบบนั้นแล้วไม่ได้เพราะมันดับหมดไม่เหลือแล้ว
หลงติดข้องพอใจว่าตนเองทำได้และถ้ายังไม่พอใจก็ติดใจอยากไปทำเพิ่มอีก
เพราะคิดเองว่าทำแบบนั้นถูกและดี...แต่...รู้ไหมคะ...เพราะไม่รู้และขาดการฟังไม่ไตร่ตรองตามคำสอน
จึงหลงทำผิดหลงคิดผิดโดยคิดว่าตัวตนน่ะทำได้...ไม่เคยเลยที่จะตั้งจิตไว้ชอบในการฟังให้ละเอียดไงล่ะคะ
อวิชชาพาให้เกิด...ในกาละที่มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้1ครั้งมีอัครสาวกแค่2พระองค์ที่เหลือมีปัญญาน้อยมาก
จึงไม่สามารถแทงตลอดธรรมตรงตามคำสอนตรงตามที่กำลังฟังว่ามีอะไรกำลังปรากฏว่ากำลังมีเดี๋ยวนี้
ไม่ได้ทำ...มีคือไม่สามารถระลึกตามคำสอนได้จากฟังจึงเอาแต่ท่องจำบัญญัติคำลืมว่าต้องฟังจึงจะเข้าใจ
https://youtu.be/Qv_XtoiSEm8
onion onion onion


ปัญญา แปลว่า ความรู้ทั่ว (แปลตามศัพท์เลย) คลุมความรู้ทุกอย่าง กระทั่งรู้หนังสือ อ่านออกเขียนได้ ดังตัวอย่างที่ยกมานั่น มีลูกไม่ส่งเข้าโรงเรียน ก็โง่ คือ ไม่มีปัญญา พอเข้าเรียนแล้ว เรียนรู้แล้ว ก็เรียกว่ามีปัญญา ฝึกหัดพัฒนาต่อไปจนทำนั่นทำนี่ได้ ประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเลี้ยงครอบครัวได้ ก็เรียกว่า มีปัญญา คิกๆๆ คิดต่อยอดเอาเองมั่ง เจ็บคอ ร้อนใน :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2019, 20:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เพื่อไม่ตันอยู่เท่าที่ว่านั้น ให้ดูมุมกว้างความหมายปัญญาเลย


ปัญญา * แปลกันว่า ความรอบรู้ เติมเข้าอีกว่า ความรู้ทั่ว ความรู้ชัด คือ รู้ทั่วถึงความจริง หรือรู้ตรงตามความเป็นจริง
ท่านอธิบายขยายความกันออกไปต่างๆ เช่นว่า รู้เหตุรู้ผล รู้ดีรู้ชั่ว รู้ถูกรู้ผิด รู้ควรไม่ควร รู้คุณรู้โทษ รู้ประโยชน์มิใช่ประโยชน์ รู้เท่าทันสังขาร รู้องค์ประกอบ รู้เหตุปัจจัย รู้ที่ไปที่มา รู้ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งทั้งหลาย รู้ตามความเป็นจริง รู้ถ่องแท้ เข้าใจถ่องแท้ รู้เข้าใจสภาวะ รู้คิด รู้พินิจพิจารณา รู้วินิจฉัย รู้ที่จะจัดแจงจัดการ หรือดำเนินการอย่างไรๆ

แปลกันอย่างง่ายๆ พื้นๆ ปัญญา คือความเข้าใจ (หมายถึงเข้าใจถูก เข้าใจชัด หรือเข้าใจถ่องแท้) เป็นการมองทะลุสภาวะ หรือมองทะลุปัญหา

* ปัญญา มักแปลกันว่า wisdom หรือ understanding

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2019, 22:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


ที่มาบอกให้ฟังเพื่อจะได้สะสมอริยทรัพย์เงินซื้อปัญญาไม่ได้
ฟังให้เข้าใจรู้ไหมกว่าจะได้เกิดมาพบคำสอนมันยากมากเลย
จนป่านนี้แระยังแยกไม่ออกว่าตัวตนกำลังมีกิเลสคือมีอัตตาไง
ส่วนอนัตตาน่ะคือคำสอนของตถาคตที่แสดงให้สาวกฟังไงคะ
ธัมมะทั้งหลายไม่เที่ยงไม่ตั้งอยู่นานเกิดแล้วดับทันทีไม่มีตัวตน
แล้วตอนนี้ตัวเองคิดว่าฉันทำได้ฉันจำบัญญัติเยอะก็แค่จำไม่ใช่สังขารขันธ์ที่ปรุงปัญญาไงคะ
สัญญาไม่ใช่สังขารไม่ใช่วิญญาณไม่ใช่ความรู้สึกสุข-ทุกข์สิ่งที่มีคือมีแค่รู้กับไม่รู้ตรงตามสัจจะที่กำลังมีไงคะ
https://youtu.be/OOnlrGEZyhg


ไม่เคยตอบตรงคำถามเบยสักครั้งเดียว ถามอย่างตอบอย่าง :b32:

อ้างคำพูด:
เงินซื้อปัญญาไม่ได้


ทำไมจะไม่ได้ เงินซื้อปัญญาได้ ดูตัวอย่างเห็นๆอยู่ทุกวี่วันนี่แหละ คุณโรสมีลูก ถ้าไม่มีก็ดูข้างๆบ้านเอา คุณโรสต้องการให้ลูกเรียนหนังสือตั้งแต่อนุบาลจนจบปริญญา คุณโรสใช้เงินไหม

:b12:
หัดฟังซะบ้างนะคะ ปัญญา แปลว่า เข้าใจ

ไม่มีปัญญาคือไม่เข้าใจ
ถ้าไม่เข้าใจจะคิดถูกไหม
คำสอนของพระพุทธเจ้ามีจริง
และทรงแจกแจงรายละเอียดทั้งหมด
ให้เข้าใจว่ามีหลายชื่อหลายประเภทตามชื่อ
ไม่ได้บอกให้ไปทำเข้าใจไหมว่าทำอะไรก็เป็นแบบนั้นแล้ว
เปลี่ยนสิ่งที่เป็นไปแบบนั้นแล้วไม่ได้เพราะมันดับหมดไม่เหลือแล้ว
หลงติดข้องพอใจว่าตนเองทำได้และถ้ายังไม่พอใจก็ติดใจอยากไปทำเพิ่มอีก
เพราะคิดเองว่าทำแบบนั้นถูกและดี...แต่...รู้ไหมคะ...เพราะไม่รู้และขาดการฟังไม่ไตร่ตรองตามคำสอน
จึงหลงทำผิดหลงคิดผิดโดยคิดว่าตัวตนน่ะทำได้...ไม่เคยเลยที่จะตั้งจิตไว้ชอบในการฟังให้ละเอียดไงล่ะคะ
อวิชชาพาให้เกิด...ในกาละที่มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้1ครั้งมีอัครสาวกแค่2พระองค์ที่เหลือมีปัญญาน้อยมาก
จึงไม่สามารถแทงตลอดธรรมตรงตามคำสอนตรงตามที่กำลังฟังว่ามีอะไรกำลังปรากฏว่ากำลังมีเดี๋ยวนี้
ไม่ได้ทำ...มีคือไม่สามารถระลึกตามคำสอนได้จากฟังจึงเอาแต่ท่องจำบัญญัติคำลืมว่าต้องฟังจึงจะเข้าใจ
https://youtu.be/Qv_XtoiSEm8
onion onion onion


ปัญญา แปลว่า ความรู้ทั่ว (แปลตามศัพท์เลย) คลุมความรู้ทุกอย่าง กระทั่งรู้หนังสือ อ่านออกเขียนได้ ดังตัวอย่างที่ยกมานั่น มีลูกไม่ส่งเข้าโรงเรียน ก็โง่ คือ ไม่มีปัญญา พอเข้าเรียนแล้ว เรียนรู้แล้ว ก็เรียกว่ามีปัญญา ฝึกหัดพัฒนาต่อไปจนทำนั่นทำนี่ได้ ประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเลี้ยงครอบครัวได้ ก็เรียกว่า มีปัญญา คิกๆๆ คิดต่อยอดเอาเองมั่ง เจ็บคอ ร้อนใน :b32:


ปัญญาเกิดได้ตามลำดับและต้องตรงปัจจุบันขณะ
พระเทวทัตแปลงร่างได้มีปัญญาแบบไหนคะคิดสิคะ
สุตะ-จินตา-ภาวนา...ไม่เริ่มต้นที่สุตะ...จะมีไหมปัญญา
ลองเปิดฟังคลิปแล้วพิจารณาสิไม่คิดตามแปลว่าไม่เข้าใจ
ต่างอะไรกับจิ้งจกตุ๊กแกนกหนูมดแมวแมลงที่กำลังฟังอยู่ด้วยอ่ะก็ฟังไม่เข้าใจเหมือนกันเลย
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2019, 09:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


ที่มาบอกให้ฟังเพื่อจะได้สะสมอริยทรัพย์เงินซื้อปัญญาไม่ได้
ฟังให้เข้าใจรู้ไหมกว่าจะได้เกิดมาพบคำสอนมันยากมากเลย
จนป่านนี้แระยังแยกไม่ออกว่าตัวตนกำลังมีกิเลสคือมีอัตตาไง
ส่วนอนัตตาน่ะคือคำสอนของตถาคตที่แสดงให้สาวกฟังไงคะ
ธัมมะทั้งหลายไม่เที่ยงไม่ตั้งอยู่นานเกิดแล้วดับทันทีไม่มีตัวตน
แล้วตอนนี้ตัวเองคิดว่าฉันทำได้ฉันจำบัญญัติเยอะก็แค่จำไม่ใช่สังขารขันธ์ที่ปรุงปัญญาไงคะ
สัญญาไม่ใช่สังขารไม่ใช่วิญญาณไม่ใช่ความรู้สึกสุข-ทุกข์สิ่งที่มีคือมีแค่รู้กับไม่รู้ตรงตามสัจจะที่กำลังมีไงคะ
https://youtu.be/OOnlrGEZyhg


ไม่เคยตอบตรงคำถามเบยสักครั้งเดียว ถามอย่างตอบอย่าง :b32:

อ้างคำพูด:
เงินซื้อปัญญาไม่ได้


ทำไมจะไม่ได้ เงินซื้อปัญญาได้ ดูตัวอย่างเห็นๆอยู่ทุกวี่วันนี่แหละ คุณโรสมีลูก ถ้าไม่มีก็ดูข้างๆบ้านเอา คุณโรสต้องการให้ลูกเรียนหนังสือตั้งแต่อนุบาลจนจบปริญญา คุณโรสใช้เงินไหม

:b12:
หัดฟังซะบ้างนะคะ ปัญญา แปลว่า เข้าใจ

ไม่มีปัญญาคือไม่เข้าใจ
ถ้าไม่เข้าใจจะคิดถูกไหม
คำสอนของพระพุทธเจ้ามีจริง
และทรงแจกแจงรายละเอียดทั้งหมด
ให้เข้าใจว่ามีหลายชื่อหลายประเภทตามชื่อ
ไม่ได้บอกให้ไปทำเข้าใจไหมว่าทำอะไรก็เป็นแบบนั้นแล้ว
เปลี่ยนสิ่งที่เป็นไปแบบนั้นแล้วไม่ได้เพราะมันดับหมดไม่เหลือแล้ว
หลงติดข้องพอใจว่าตนเองทำได้และถ้ายังไม่พอใจก็ติดใจอยากไปทำเพิ่มอีก
เพราะคิดเองว่าทำแบบนั้นถูกและดี...แต่...รู้ไหมคะ...เพราะไม่รู้และขาดการฟังไม่ไตร่ตรองตามคำสอน
จึงหลงทำผิดหลงคิดผิดโดยคิดว่าตัวตนน่ะทำได้...ไม่เคยเลยที่จะตั้งจิตไว้ชอบในการฟังให้ละเอียดไงล่ะคะ
อวิชชาพาให้เกิด...ในกาละที่มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้1ครั้งมีอัครสาวกแค่2พระองค์ที่เหลือมีปัญญาน้อยมาก
จึงไม่สามารถแทงตลอดธรรมตรงตามคำสอนตรงตามที่กำลังฟังว่ามีอะไรกำลังปรากฏว่ากำลังมีเดี๋ยวนี้
ไม่ได้ทำ...มีคือไม่สามารถระลึกตามคำสอนได้จากฟังจึงเอาแต่ท่องจำบัญญัติคำลืมว่าต้องฟังจึงจะเข้าใจ
https://youtu.be/Qv_XtoiSEm8
onion onion onion


ปัญญา แปลว่า ความรู้ทั่ว (แปลตามศัพท์เลย) คลุมความรู้ทุกอย่าง กระทั่งรู้หนังสือ อ่านออกเขียนได้ ดังตัวอย่างที่ยกมานั่น มีลูกไม่ส่งเข้าโรงเรียน ก็โง่ คือ ไม่มีปัญญา พอเข้าเรียนแล้ว เรียนรู้แล้ว ก็เรียกว่ามีปัญญา ฝึกหัดพัฒนาต่อไปจนทำนั่นทำนี่ได้ ประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเลี้ยงครอบครัวได้ ก็เรียกว่า มีปัญญา คิกๆๆ คิดต่อยอดเอาเองมั่ง เจ็บคอ ร้อนใน :b32:


ปัญญาเกิดได้ตามลำดับและต้องตรงปัจจุบันขณะ
พระเทวทัตแปลงร่างได้มีปัญญาแบบไหนคะคิดสิคะ
สุตะ-จินตา-ภาวนา...ไม่เริ่มต้นที่สุตะ...จะมีไหมปัญญา
ลองเปิดฟังคลิปแล้วพิจารณาสิไม่คิดตามแปลว่าไม่เข้าใจ
ต่างอะไรกับจิ้งจกตุ๊กแกนกหนูมดแมวแมลงที่กำลังฟังอยู่ด้วยอ่ะก็ฟังไม่เข้าใจเหมือนกันเลย
:b12:
:b32: :b32:



คิกๆๆ วนกลับที่เดิม

เออ จขกท.หายไปไหน ตามที่ไปดูพลังจิตก็ไม่เห็น
กบนอกกะลาก็หายไปหลายวันแล้ว ตามไปที่ลานโน้นก็ไม่มีโพสต์ใหม่ๆ หรือ ว่าด้อมๆมองๆอยู่แถวนี้แหละแต่ไม่มีช่องมีจังหวะให้โพสต์อะไรได้เลย :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2019, 10:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


ที่มาบอกให้ฟังเพื่อจะได้สะสมอริยทรัพย์เงินซื้อปัญญาไม่ได้
ฟังให้เข้าใจรู้ไหมกว่าจะได้เกิดมาพบคำสอนมันยากมากเลย
จนป่านนี้แระยังแยกไม่ออกว่าตัวตนกำลังมีกิเลสคือมีอัตตาไง
ส่วนอนัตตาน่ะคือคำสอนของตถาคตที่แสดงให้สาวกฟังไงคะ
ธัมมะทั้งหลายไม่เที่ยงไม่ตั้งอยู่นานเกิดแล้วดับทันทีไม่มีตัวตน
แล้วตอนนี้ตัวเองคิดว่าฉันทำได้ฉันจำบัญญัติเยอะก็แค่จำไม่ใช่สังขารขันธ์ที่ปรุงปัญญาไงคะ
สัญญาไม่ใช่สังขารไม่ใช่วิญญาณไม่ใช่ความรู้สึกสุข-ทุกข์สิ่งที่มีคือมีแค่รู้กับไม่รู้ตรงตามสัจจะที่กำลังมีไงคะ
https://youtu.be/OOnlrGEZyhg


ไม่เคยตอบตรงคำถามเบยสักครั้งเดียว ถามอย่างตอบอย่าง :b32:

อ้างคำพูด:
เงินซื้อปัญญาไม่ได้


ทำไมจะไม่ได้ เงินซื้อปัญญาได้ ดูตัวอย่างเห็นๆอยู่ทุกวี่วันนี่แหละ คุณโรสมีลูก ถ้าไม่มีก็ดูข้างๆบ้านเอา คุณโรสต้องการให้ลูกเรียนหนังสือตั้งแต่อนุบาลจนจบปริญญา คุณโรสใช้เงินไหม

:b12:
หัดฟังซะบ้างนะคะ ปัญญา แปลว่า เข้าใจ

ไม่มีปัญญาคือไม่เข้าใจ
ถ้าไม่เข้าใจจะคิดถูกไหม
คำสอนของพระพุทธเจ้ามีจริง
และทรงแจกแจงรายละเอียดทั้งหมด
ให้เข้าใจว่ามีหลายชื่อหลายประเภทตามชื่อ
ไม่ได้บอกให้ไปทำเข้าใจไหมว่าทำอะไรก็เป็นแบบนั้นแล้ว
เปลี่ยนสิ่งที่เป็นไปแบบนั้นแล้วไม่ได้เพราะมันดับหมดไม่เหลือแล้ว
หลงติดข้องพอใจว่าตนเองทำได้และถ้ายังไม่พอใจก็ติดใจอยากไปทำเพิ่มอีก
เพราะคิดเองว่าทำแบบนั้นถูกและดี...แต่...รู้ไหมคะ...เพราะไม่รู้และขาดการฟังไม่ไตร่ตรองตามคำสอน
จึงหลงทำผิดหลงคิดผิดโดยคิดว่าตัวตนน่ะทำได้...ไม่เคยเลยที่จะตั้งจิตไว้ชอบในการฟังให้ละเอียดไงล่ะคะ
อวิชชาพาให้เกิด...ในกาละที่มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้1ครั้งมีอัครสาวกแค่2พระองค์ที่เหลือมีปัญญาน้อยมาก
จึงไม่สามารถแทงตลอดธรรมตรงตามคำสอนตรงตามที่กำลังฟังว่ามีอะไรกำลังปรากฏว่ากำลังมีเดี๋ยวนี้
ไม่ได้ทำ...มีคือไม่สามารถระลึกตามคำสอนได้จากฟังจึงเอาแต่ท่องจำบัญญัติคำลืมว่าต้องฟังจึงจะเข้าใจ
https://youtu.be/Qv_XtoiSEm8
onion onion onion


ปัญญา แปลว่า ความรู้ทั่ว (แปลตามศัพท์เลย) คลุมความรู้ทุกอย่าง กระทั่งรู้หนังสือ อ่านออกเขียนได้ ดังตัวอย่างที่ยกมานั่น มีลูกไม่ส่งเข้าโรงเรียน ก็โง่ คือ ไม่มีปัญญา พอเข้าเรียนแล้ว เรียนรู้แล้ว ก็เรียกว่ามีปัญญา ฝึกหัดพัฒนาต่อไปจนทำนั่นทำนี่ได้ ประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเลี้ยงครอบครัวได้ ก็เรียกว่า มีปัญญา คิกๆๆ คิดต่อยอดเอาเองมั่ง เจ็บคอ ร้อนใน :b32:


ปัญญาเกิดได้ตามลำดับและต้องตรงปัจจุบันขณะ
พระเทวทัตแปลงร่างได้มีปัญญาแบบไหนคะคิดสิคะ
สุตะ-จินตา-ภาวนา...ไม่เริ่มต้นที่สุตะ...จะมีไหมปัญญา
ลองเปิดฟังคลิปแล้วพิจารณาสิไม่คิดตามแปลว่าไม่เข้าใจ
ต่างอะไรกับจิ้งจกตุ๊กแกนกหนูมดแมวแมลงที่กำลังฟังอยู่ด้วยอ่ะก็ฟังไม่เข้าใจเหมือนกันเลย
:b12:
:b32: :b32:



คิกๆๆ วนกลับที่เดิม

เออ จขกท.หายไปไหน ตามที่ไปดูพลังจิตก็ไม่เห็น
กบนอกกะลาก็หายไปหลายวันแล้ว ตามไปที่ลานโน้นก็ไม่มีโพสต์ใหม่ๆ หรือ ว่าด้อมๆมองๆอยู่แถวนี้แหละแต่ไม่มีช่องมีจังหวะให้โพสต์อะไรได้เลย :b32:

:b32:
แค่มาบอกให้ฟังเพื่อสะสมปัญญาก่อน
เราน่ะ...เรานั่นแหละ...ยังเห็นผิดเหมือนเดิม
ก็ไม่มีตาเนื้อใครเห็นสีได้เองนอกจากฟังคำสอน
เข้าใจไหมว่ามีตานั้นไม่เห็นแต่ต้องมีธัมมะ3ประสาน
จิตเห็น=มีจิต+มีประสาทตา+มีแสงสะท้อนสีที่มหาภูตรูป
ตาเป็นมหาภูตรูป/มหาภูตรูปรู้ว่ามีจากกายสัมผัส/ไม่มีใครเห็นตาตัวเองได้รู้หรือยังคะ
สีสะท้อนแสงเข้าตาดำดับในประสาทตาภายในตาดำทันทีมืดทันทีเห็นอะไรคะ...ตอบเห็นผิดอยู่ไงคะ
พระอรหันต์เท่านั้นน๊าที่ไม่มีกิเลสเกิดแล้วเพราะถึงนิโรธคือนิพพาน1เดียวแล้วที่เหลือผลิตกิเลสใหม่ตลอด
:b32: :b32:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 16 มิ.ย. 2019, 10:15, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2019, 10:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โค้งสุดท้ายก่อนหวยออก! แน่นทั้งกลางวัน-กลางคืน แห่ขอเลขเด็ดนาตึก แก้บนอลังการ

รูปภาพ


ชีวิตคนเราอยู่ด้วยความหวัง อะไรก็ตามที่คิดว่าจะทำให้ชีวิตอยู่รอดได้ก็ไขว่คว้าเอาไว้ก่อน แม้ว่าสิ่งที่หวังนั้นมี % เพียงน้อยนิดก็ตาม

นี่สมมุติว่ามีพระหรือคนทรงก็ตามเผอิญบอกเลขถูก ไม่เกินสองงวดเจ้ามือหวยเอาตาย คิกๆๆ ดังคำพูดที่ได้ยินชินหูว่า คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น นายทุนเป็นเจ้ามือ คนซื้อก็คือคนอย่างเราๆนี่แหละ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2019, 20:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องของมุมมอง. แง่คิด. หรือจะเรียกอะไรแล้วแต่มีความสำคัญ ภาษาทางธรรมเรียกว่า ความดำริ แล้วความดำรินั้น ก็มีทั้งผิดทั้งถูก ดำริผิด เรียกเป็นคำศัพท์ว่า มิจฉาสังกัปปะ ดำริถูก เรียกเป็นคำศัพท์ว่า สัมมาสังกัปปะ ดำริผิดก็ทำก็เดินในทางผิด ดำริชอบก็เดินทางถูก

ดูตัวอย่าง

https://scontent.fbkk5-8.fna.fbcdn.net/ ... e=5D7C959C

ฝ่ายที่หนุนก็พูดว่า ท่านอัุ้มกอดทุเรียนไว้กับอก คือ ยอมเจ็บตัวเพื่อประชาชน :b32:

อีกฝ่ายก็ว่า ถือ/จับทุเรียนไม่เป็น :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 150 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 43 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร