จากที่สังเกตุ ตอนเช้าไปบิณฑบาต ร้านที่เป็นคนอิสลามเขาจะเปิดร้านก่อนคนพุทธ คือ เปิดแต่เช้ามืดพอตอนเช้า พระไปบิณฑบาต นักท่องเที่ยวก็จะไปซื้อของจากร้านอิสลามมาใส่บาตร อย่างหน้าสถานีเกษตรหลวงอ่างขางกับหน้าตำหนักราชนิเวศภูพิงค์ประจำเลย จะได้แต่อาหารอิสลาม ก็คงไม่แปลกที่มีข่าว ว่า จะมีการสร้างโรงงานผลิตอาหารฮาลาลที่ดอยหลอด

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=49704&start=60

เรื่องราว

รัฐบาลเตรียมแก้เอ็มวี เพลงชาติ เพิ่มพระพุทธรูป หลังถูกร้องดูแล้วไม่รู้สึกไทย!

ปลัด สปน. เผย รัฐบาลเตรียมแก้เอ็มวีเพลง ชาติไทย เวอร์ชั่นใหม่ เพิ่มภาพพระพุทธรูป-พระรับบิณฑบาต คาดออนแอร์ใหม่สัปดาห์นี้

ชาวเขามีประพณีวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทุกคนที่เกิดก็ซึมซับในประเพณีวัฒนธรรม โดยเฉพาะด้านความเชื่อ
ถึงบางคนนับถือพุทธก็จริง แต่ยังขาดความเข้าใจประเพณีพุทธ เพราะไม่ได้ปลุกฝังมาแต่บรรพบุรุษ ซึ่งต่างจากชาวคริสต์ในสกลนคร ถึงจะนับถือคริสก็จริง แต่พวกเขานับถือพุทธมาก่อน คุ้นเคยกับประเพณีพุทธมาตั้งแต่บรรพบุรุษ แล้วค่อยมาเปลี่ยนเป็นคริสต์ภายหลัง
เมื่อเปลี่ยนมานับถือคริสต์ก็จริง สิ่งที่ถูกฝัง สิ่งที่คุ้นเคยก็ยังอยู่ จึงไม่แปลกที่พวกเขายังมาใส่บาตร หรือบางคนที่ใส่บาตร มีญาติพี่น้องที่ยังไม่เปลี่ยนเป็นคริสต์มาบวชอยู่ก็มี
ที่มหาลัยสงฆ์ ก็มีพระเพื่อนที่มาจากสกลนคร ก็เล่าให้ฟัง เขามาบวช แต่ญาติทางบ้านเปลี่ยน
ไปนับถือศริสต์ แต่ก็ยังใส่บาตรอยู่ และ ที่สำคัญ คือ ชาวคริสต์ในสกลนครนั้น ถูกซื้อตัวไป
เรื่องการปฏิบัติจึงไม่ค่อยเคร่งเท่าไหร่
แต่อย่าลืม ว่า อิสลามไม่เหมือนคริสต์นะ คริสต์ยังเข้ากันได้ แต่อิสลามเขาไม่เอาใครนะ

กบนอกกะลา
อย่าไปยุ่งกะกักกายเลย...กักกายยังคิดอยากจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโลกอยู่..

viewtopic.php?f=1&t=55369&start=180

bigtoo
เพื่อจะคิดได้. เห็นลุงแกอายุเยอะแล้วเดี๋ยวสาย

กรัชกาย
บิ๊กทู่ กบนอกกะลารู้ไหม ตอนนี้ผู้นำศาสนาอื่นเขาเข้าไปเล่นกันในสภา คือ ใช้สภาเผยแพร่ศาสนาแล้ว หมายความว่า ใช้กฎหมายบังคับแล้ว รู้ไหม

กักกายเห็นข้อความนี้แล้ว...ตะงิดๆ..รีบมาแสดงทัศนะการป้องกันพระศาสนาตามความคิดตัวเองทันที..พร้อมๆกับโยนขี้..ด้วยคำว่า...ไทยพุทธเฉย..ใส่คนอื่นทันที


ความจริง...ขี้ที่โยนมา..มันก็ขี้ของคนที่โยนมานั้นแหละ..ไม่ใช่ขี้ของใคร...คือความเลอะเทอะ.ความไม่รู้..ของคนโยนเอง..คนโยนก็ต้องกำขี้ก่อนโยนมา..จริงมั้ย..

ผมอยากจะบอกว่า..ทำไปเถอะ..กักกาย..ทำไปตามแนวความคิดของกักกาย..ทำไปเถอะ..ถ้าคิดว่าจะรักษาพระศาสนา..นะ

แต่ระหว่างทำไป...ก็ระมัดระวัง...อย่าทำผิดศีล..

ผมไม่เดือดร้อนถ้าใครคิดจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโลก..เพื่อพระพุทธศาสนา
เพราะ..ในกองทัพหนึ่งๆ...ต้องมีหลายๆหน้าที่..มีคนประจำหน้าที่ต่างๆ กัน..เป็นธรรมดา

ส่วนคนยังเดือดร้อนอยู่ก็ให้มาเพิ่มทางปัญญา..มองโลกให้ถูก..



นี้คือ..ตัวอย่างหนึ่ง..ของคนที่มองโลก..ไม่ถูก

คือ..อยากจะให้คนทั้งกองทัพ..มาเป็นแต่แม่ทัพอย่างเดียวเลย...ทหารเลวไม่ต้องมี..กองทัพหน้าไม่ต้องมี..ทัพซ้ายทัพขวาไม่ต้องมี..กองเสบียงกองหลังไม่ต้องมี..ปากก็ว่า..อนิจจัง..ทุกขัง..อนัตตา..ศาสนาเสื่อมแน่นวล..

ประเภทนี้เลอะเทอะยิ่งกว่ากักกายซะอีก





แล้วรู้เปล่าละว่า..ศาสดาของพวกเขามาเกิดเป็นชาวพุทธ..กันหมดแล้ว

กบบ่นอะไร. นั่นเรือนว่าง นั่นโคนไม้ฯลฯ

เรือนยังไม่ว่าง...ยังมีทิฏฐิว่า..ต้องเห็นการเกิดดับระดับธาตุจึงจะดับกิเลสได้..อยู่เลยอะ..

ทิฎฐิเช่นนี้...แสดงว่า..ยังไม่ถึงการทำงานของญาณ..เลยอะ...จึงยังไม่รู้..จึงพรั่งพรูทิฎฐิดั่งว่า..ออกมา

จักรยานอะไร กบ. สั่นไปทั้งตัว. กบรู้ไม่ ญานจริงๆเกิดที่ใด

ความรู้จากการฟังที่เห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา.เปรียบเหมือนเรากรีดหรือวาดรูปลงไปในน้ำ. ไม่นานน้ำนั้นก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
กิเลสจึงแค่กระพรื้มนิดหน่อยไม่นานนักกิเลสก็ยังเหมือนเดิม
แต่ถ้าเราเห็นอนิจจัง. ทุกขัง อนัตตา ด้วยการภาวนารับรู้ความจริงในระดับเวทนาที่เกิดขึ้นจริงในร่างกายเราทุกขณะอยู่นี้ที่เป็นแรงสั่นสะเทือนของการเกิดดับของ ธาตุ ดิน น้ำ ไฟ ลม ทุกขณะ. เราได้กรีดหรือสลักรูปลึกลงไปในเนื้อหิน รอยนั้นก็ยังจารึกอยู่มิคลายอีกนาน.กิเลสนั้นถูกกำจัดได้ในจารึกความรู้นี้

ญานจริงๆเกิดที่ใด..นะหรือ?..

แต่..กับคนที่พูดอย่างนี้..ไม่เกิดแน่



คนที่..เครื่องของญาณยังไม่ทำงาน..ก็จะเข้าใจว่า..วิญญาณที่รู้จากอายตนะ..นั้นเป็นญาณรู้แล้ว..นะซิ

นั้นแหละ..จึงพรั่งพรู..คำดั่งว่าข้างต้น..ออกมา

ตราบใด จุกขุญานปัญญา วิชชา แสงสว่างไม่ปรากฏในมโนทวาร. ญานแบบนี้นมันคิดเอา. รับประกันได้

ความรู้จากการฟังที่เห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา.เปรียบเหมือนเรากรีดหรือวาดรูปลงไปในน้ำ. ไม่นานน้ำนั้นก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
กิเลสจึงแค่กระพรื้มนิดหน่อยไม่นานนักกิเลสก็ยังเหมือนเดิม
แต่ถ้าเราเห็นอนิจจัง. ทุกขัง อนัตตา ด้วยการภาวนารับรู้ความจริงในระดับเวทนาที่เกิดขึ้นจริงในร่างกายเราทุกขณะอยู่นี้ที่เป็นแรงสั่นสะเทือนของการเกิดดับของ ธาตุ ดิน น้ำ ไฟ ลม ทุกขณะ. เราได้กรีดหรือสลักรูปลึกลงไปในเนื้อหิน รอยนั้นก็ยังจารึกอยู่มิคลายอีกนาน.กิเลสนั้นถูกกำจัดได้ในจารึกความรู้นี้

มีอะไร.นึกอะไรได้..ก็พูดพูดไป...งั้นแหละ


อีกครั้ง..
.........................................
ญานจริงๆเกิดที่ใด..นะหรือ?..

แต่..กับคนที่พูดอย่างนี้..ไม่เกิดแน่



"คนที่..เครื่องของญาณยังไม่ทำงาน..ก็จะเข้าใจว่า..วิญญาณที่รู้จากอายตนะ..นั้นเป็นญาณรู้แล้ว..นะซิ
นั้นแหละ..จึงพรั่งพรู..คำดั่งว่าข้างต้น..ออกมา"
...........................................

นั้นโคนไม่ทน นั่นเรือนว่าง. เอาเลยกบ. ไม่บรรลุไม่ลุกจากที่นั่ง. มีกี่คนที่กล้าดำริแบบนี้. กบลองดู