ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

แสดงแค่นี้ก็บรรลุกันมากมาย
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57617
หน้า 3 จากทั้งหมด 4

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 19 พ.ค. 2019, 22:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แสดงแค่นี้ก็บรรลุกันมากมาย

bigtoo เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:
เก่งขนาดไหน. อยากรู้นักใครจะไม่ให้คำสอนดับไปเนื่อมไปได้


อย่าคิดว่า...เอาคำอนัตตามาพูดเป็นโวหาร..แล้วคนอื่นจะกลัว..เลยพ่อหนุ่มจ๋อย..

ไม่ต้องเก่งหรอก...ก็รู้ได้..

คำสอนไม่มีทางเลือนหายไปจากจักรวาล..อยู่แล้ว...ก็แค่สัตว์ไม่อาจจะเข้าใจ..ไม่อาจจะนำธรรมคำสอนมาพัฒนาตนจนถึงความมุ่งหมายของพระธรรมได้..ก็เท่านั้นเอง...

คำสอน..ไม่ดับ..ไม่เสื่อมหรอก..พ่อหนุ่มกระจ๋อยหร่อย..

สงสัยจะเพ้อแล้วกบ. คำสอนพระองค์ถูกตัดทอนเปลี่ยนแปลงไปตลอด. จนไม่เหล่อเนื้อแท้แห่งธรรม ดั่งกลองศึกของท้าวทัศสารหะ. ท่านจึงตรัสไม่เปลี่ยนแปลงต่อเติมคำสอนของท่าน. สงสัยจะมั่วอีกตามเคย อายุพระศาสนาจะต้องดับไปคำสอนจะไม่เหลือจนไม่เหลือเนื้อแท้ จะว่างเว้นอยู่ระยะหนึ่ง. และวจะมีพระพุทธเจ้าองค์ใหม่มาตรัสรู้ครับพี่ท่าน. ถ้าคำสอนคงอยู่ไม่ว่างเว้น. จะมีพระเจ้ามาตรัสรู้ได้อย่างไร. สงสัยเข้าใจบริบทผิดมั่งครับ. ก็กลับไปในกระลาต่อ อิอิ


อีกครั้ง.

.
อ้างคำพูด:

" คำสอนไม่มีทางเลือนหายไปจากจักรวาล..อยู่แล้ว...ก็แค่สัตว์ไม่อาจจะเข้าใจ..ไม่อาจจะนำธรรมคำสอนมาพัฒนาตนจนถึงความมุ่งหมายของพระธรรมได้..ก็เท่านั้นเอง...

คำสอน..ไม่ดับ..ไม่เสื่อมหรอก..พ่อหนุ่มกระจ๋อยหร่อย. "


ส่วนประเด็น..คำสอนถูกตัดต่อเปลี่ยนแปลง..กะ...ถ้าคำสอนคงอยู่ไม่ว่างเว้น. จะมีพระเจ้ามาตรัสรู้ได้อย่างไร..ไม่ได้เกี่ยวกับว่าคำสอนดับไปเสื่อมไปดอก...พ่อหนุ่มกะจ๋อยหร่อย..

เด้ว..จะเอาไขควงมาเปิดให้ดู...แต่ตอนนี้นอนก่อนนะ..พ่อกระจ๋อยหร่อย..

เจ้าของ:  Rosarin [ 19 พ.ค. 2019, 23:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แสดงแค่นี้ก็บรรลุกันมากมาย

Kiss
เริ่มฟังพระพุทธพจน์ให้เข้าใจ
จิตเห็นดับเพียง3ขณะก็มีกิเลสแล้ว
ฟังคำสอนให้รู้เดี๋ยวนี้ดับนับแสนโกฏิขณะ
https://youtu.be/DeloLEmIYRE
onion onion onion

เจ้าของ:  bigtoo [ 20 พ.ค. 2019, 05:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แสดงแค่นี้ก็บรรลุกันมากมาย

กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:
เก่งขนาดไหน. อยากรู้นักใครจะไม่ให้คำสอนดับไปเนื่อมไปได้


อย่าคิดว่า...เอาคำอนัตตามาพูดเป็นโวหาร..แล้วคนอื่นจะกลัว..เลยพ่อหนุ่มจ๋อย..

ไม่ต้องเก่งหรอก...ก็รู้ได้..

คำสอนไม่มีทางเลือนหายไปจากจักรวาล..อยู่แล้ว...ก็แค่สัตว์ไม่อาจจะเข้าใจ..ไม่อาจจะนำธรรมคำสอนมาพัฒนาตนจนถึงความมุ่งหมายของพระธรรมได้..ก็เท่านั้นเอง...

คำสอน..ไม่ดับ..ไม่เสื่อมหรอก..พ่อหนุ่มกระจ๋อยหร่อย..

สงสัยจะเพ้อแล้วกบ. คำสอนพระองค์ถูกตัดทอนเปลี่ยนแปลงไปตลอด. จนไม่เหล่อเนื้อแท้แห่งธรรม ดั่งกลองศึกของท้าวทัศสารหะ. ท่านจึงตรัสไม่เปลี่ยนแปลงต่อเติมคำสอนของท่าน. สงสัยจะมั่วอีกตามเคย อายุพระศาสนาจะต้องดับไปคำสอนจะไม่เหลือจนไม่เหลือเนื้อแท้ จะว่างเว้นอยู่ระยะหนึ่ง. และวจะมีพระพุทธเจ้าองค์ใหม่มาตรัสรู้ครับพี่ท่าน. ถ้าคำสอนคงอยู่ไม่ว่างเว้น. จะมีพระเจ้ามาตรัสรู้ได้อย่างไร. สงสัยเข้าใจบริบทผิดมั่งครับ. ก็กลับไปในกระลาต่อ อิอิ


อีกครั้ง.

.
อ้างคำพูด:

" คำสอนไม่มีทางเลือนหายไปจากจักรวาล..อยู่แล้ว...ก็แค่สัตว์ไม่อาจจะเข้าใจ..ไม่อาจจะนำธรรมคำสอนมาพัฒนาตนจนถึงความมุ่งหมายของพระธรรมได้..ก็เท่านั้นเอง...

คำสอน..ไม่ดับ..ไม่เสื่อมหรอก..พ่อหนุ่มกระจ๋อยหร่อย. "


ส่วนประเด็น..คำสอนถูกตัดต่อเปลี่ยนแปลง..กะ...ถ้าคำสอนคงอยู่ไม่ว่างเว้น. จะมีพระเจ้ามาตรัสรู้ได้อย่างไร..ไม่ได้เกี่ยวกับว่าคำสอนดับไปเสื่อมไปดอก...พ่อหนุ่มกะจ๋อยหร่อย..

เด้ว..จะเอาไขควงมาเปิดให้ดู...แต่ตอนนี้นอนก่อนนะ..พ่อกระจ๋อยหร่อย..

ส่งสัยส่งเข้ากะลาเหมือนเดิม.

เจ้าของ:  bigtoo [ 20 พ.ค. 2019, 06:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แสดงแค่นี้ก็บรรลุกันมากมาย

คำสอนมันมีอยู่ว่า รูปจิตเกิดดับตลอดไวมากๆระหว่างเกิดดับนั้นมีอากาศธาตุหรือภวังค์จิตเกิดขั้นนาทีเป็นล้านๆครั้งที่มันเกิดดับ. มีกี่คนที่เห็นอากาศธาตุและภวังค์จิตชัดเจนด้วยวิปัสนาญานที่เกิดจึ้นจริงในมโนทวาร. มีแต่ฟังๆคิดตาม. นี่เด็กน้อยมักจะตื่นตระหนกตกใจเพราะไม่เคยฟังมา. แต่มันไม่จำเป็นต้องเห็นเพียงรู้ไว้เท่านั้นว่ามันเกิดดับ เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา.นี่ความรู้นี้สำคัญสุด. ผมเข้าไปเห็นของจริงที่งรูปนามแยกจากกันมาแล้วไม่ใช่จากการฟังเดาๆตามไปนะ. เป็นการปฏิบัติที่ผ่านความเจ็บปวดที่แสนสาหัส.จรกายมันทนสภาพเดิมไม่ได้ มันก็แยกในมโนทวารให้เห็นเมื่อกายแยกจิตผู้รู้ตามก็แยกชัดเจนจึงรับรู้ถึงภวังค์จิตและการแยกตัวของรูปกาย เอาชีวิตแรกมาเลยก็ได้เรียกว่าถ้าคุณข้ามเส้นความตายไม่ได้. คุณไม่มีโอกาสได้เห็นหรอก. แค่ฟังแล้วคิดตามป๊าดโถ๊!

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 20 พ.ค. 2019, 07:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แสดงแค่นี้ก็บรรลุกันมากมาย

กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:
เก่งขนาดไหน. อยากรู้นักใครจะไม่ให้คำสอนดับไปเนื่อมไปได้


อย่าคิดว่า...เอาคำอนัตตามาพูดเป็นโวหาร..แล้วคนอื่นจะกลัว..เลยพ่อหนุ่มจ๋อย..

ไม่ต้องเก่งหรอก...ก็รู้ได้..

คำสอนไม่มีทางเลือนหายไปจากจักรวาล..อยู่แล้ว...ก็แค่สัตว์ไม่อาจจะเข้าใจ..ไม่อาจจะนำธรรมคำสอนมาพัฒนาตนจนถึงความมุ่งหมายของพระธรรมได้..ก็เท่านั้นเอง...

คำสอน..ไม่ดับ..ไม่เสื่อมหรอก..พ่อหนุ่มกระจ๋อยหร่อย..

สงสัยจะเพ้อแล้วกบ. คำสอนพระองค์ถูกตัดทอนเปลี่ยนแปลงไปตลอด. จนไม่เหล่อเนื้อแท้แห่งธรรม ดั่งกลองศึกของท้าวทัศสารหะ. ท่านจึงตรัสไม่เปลี่ยนแปลงต่อเติมคำสอนของท่าน. สงสัยจะมั่วอีกตามเคย อายุพระศาสนาจะต้องดับไปคำสอนจะไม่เหลือจนไม่เหลือเนื้อแท้ จะว่างเว้นอยู่ระยะหนึ่ง. และวจะมีพระพุทธเจ้าองค์ใหม่มาตรัสรู้ครับพี่ท่าน. ถ้าคำสอนคงอยู่ไม่ว่างเว้น. จะมีพระเจ้ามาตรัสรู้ได้อย่างไร. สงสัยเข้าใจบริบทผิดมั่งครับ. ก็กลับไปในกระลาต่อ อิอิ


อีกครั้ง.

.
อ้างคำพูด:

" คำสอนไม่มีทางเลือนหายไปจากจักรวาล..อยู่แล้ว...ก็แค่สัตว์ไม่อาจจะเข้าใจ..ไม่อาจจะนำธรรมคำสอนมาพัฒนาตนจนถึงความมุ่งหมายของพระธรรมได้..ก็เท่านั้นเอง...

คำสอน..ไม่ดับ..ไม่เสื่อมหรอก..พ่อหนุ่มกระจ๋อยหร่อย. "


ส่วนประเด็น..คำสอนถูกตัดต่อเปลี่ยนแปลง..กะ...ถ้าคำสอนคงอยู่ไม่ว่างเว้น. จะมีพระเจ้ามาตรัสรู้ได้อย่างไร..ไม่ได้เกี่ยวกับว่าคำสอนดับไปเสื่อมไปดอก...พ่อหนุ่มกะจ๋อยหร่อย..

เด้ว..จะเอาไขควงมาเปิดให้ดู...แต่ตอนนี้นอนก่อนนะ..พ่อกระจ๋อยหร่อย..


bigtoo เขียน:
ส่งสัยส่งเข้ากะลาเหมือนเดิม.


:b32: :b32: :b32:

เด้วจะไขกะลาให้นะ..อิอิ..

มาดูที่ประโยคของบิ๊กทู้..แรกก่อน..
bigtoo เขียน:
สงสัยจะเพ้อแล้วกบ. คำสอนพระองค์ถูกตัดทอนเปลี่ยนแปลงไปตลอด. จนไม่เหล่อเนื้อแท้แห่งธรรม ดั่งกลองศึกของท้าวทัศสารหะ. ท่านจึงตรัสไม่เปลี่ยนแปลงต่อเติมคำสอนของท่าน. สงสัยจะมั่วอีกตามเคย อายุพระศาสนาจะต้องดับไปคำสอนจะไม่เหลือจนไม่เหลือเนื้อแท้


จะไขกะลา..ด้วยคำถามนี้..นะ :b32:

ถามบิ๊กทู้ว่า...หากเราสามารถจารึกคำสอนตั้งกะการสังคายนาครั้งแรกลงในวัตถุที่ทนทานการสึกกร่อนสักหมื่นปี...ไม่มีใครจะไปเปลี่ยนแปลงคำสอนที่จารลงไปได้..ถามว่า..พระศาสนาจะอยู่ถึงหมื่นปีมั้ย?

ตอบได้มั้ยบิ๊กทู..

แล้ว..มาที่คำถามที่2

อ้างคำพูด:
อายุพระศาสนาจะต้องดับไปคำสอนจะไม่เหลือจนไม่เหลือเนื้อแท้ จะว่างเว้นอยู่ระยะหนึ่ง. และวจะมีพระพุทธเจ้าองค์ใหม่มาตรัสรู้ครับพี่ท่าน. ถ้าคำสอนคงอยู่ไม่ว่างเว้น. จะมีพระเจ้ามาตรัสรู้ได้อย่างไร. สงสัยเข้าใจบริบทผิดมั่งครับ. ก็กลับไปในกระลาต่อ


การที่คิดว่า..คำสอนได้ดับไปจากโลกนี้..ดับจากจักรวาลนี้ไปแล้ว...ไม่มีคำสอนแล้ว..พระพุทธเจ้าจึงมาตรัสรู้ใหม่..นี้เป็นความคิด..ที่เห็นได้ทั่วไป..ความทำนองคิดนี้..ไม่ถูกต้อง

มีหลักฐานเล็กๆ..ที่แสดงว่า...ยังมีผู้รู้อริยะสัจสี่มรรคมีองค์แปด..ในตอนที่พระพุทธสมณโคดตพระองค์ยังไม่ได้ตรัสรู้..

บิ๊กทู..รู้มั้ยว่าผู้รู้ท่านนั้นเป็นใคร?
ใบ้ให้นิดนึง...เป็นเพื่อนกับท่านพาหิยะ.. :b9: :b9:

ุถ้าตอบได้...บิ๊กทูก็จะไขความกระจ่างให้กับตัวเองได้เลยว่า..ที่พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้อยู่เรื่อยๆนั้น..ไม่ได้เกี่ยวกับว่า..คำสอนดับไปไม่เหลือสิ่งที่เป็นคำสอนที่ถูกต้องแต่อย่างใด...

แต่เป็นเพราะจะมารื้อขนสัตว์ที่มีบุญมีเหตุมีปัจจัยร่วมกันมาให้พ้นจากทุกข์...

และขอย้ำ...อีกครั้ง...บิ๊กทู..จะได้มีอะไรในกะลาเพิ่ม.. :b9:

.
อ้างคำพูด:

" คำสอนไม่มีทางเลือนหายไปจากจักรวาล..อยู่แล้ว...ก็แค่สัตว์ไม่อาจจะเข้าใจ..ไม่อาจจะนำธรรมคำสอนมาพัฒนาตนจนถึงความมุ่งหมายของพระธรรมได้..ก็เท่านั้นเอง...

คำสอน..ไม่ดับ..ไม่เสื่อมหรอก..พ่อหนุ่มกระจ๋อยหร่อย. "


:b12: :b12: :b12:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 20 พ.ค. 2019, 07:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แสดงแค่นี้ก็บรรลุกันมากมาย

ที่ว่าพระศาสนาไปรอดเนี่ย หมายถึง

กบนอกกะลา เขียน:
มีคนรู้ธรรมเห็นธรรม..เรื่อยไปจนหมดอายุพระศาสนาสมณโคดตสัมมาสัมพุทธเจ้า...นี้เรียกว่า...พระศาสนารอด...คืออยู่รอดจนถึงวันที่หมดเหตุปัจจัยที่จะดำรงอยู่...

เจ้าของ:  bigtoo [ 20 พ.ค. 2019, 07:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แสดงแค่นี้ก็บรรลุกันมากมาย

กบนอกกะลา เขียน:
ที่ว่าพระศาสนาไปรอดเนี่ย หมายถึง

กบนอกกะลา เขียน:
มีคนรู้ธรรมเห็นธรรม..เรื่อยไปจนหมดอายุพระศาสนาสมณโคดตสัมมาสัมพุทธเจ้า...นี้เรียกว่า...พระศาสนารอด...คืออยู่รอดจนถึงวันที่หมดเหตุปัจจัยที่จะดำรงอยู่...

ต่อให้จารึกลงไปล้านปี. มันก็เสื่อมหมดไป. ที่มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้เพราะอะไร. แล้วจะมีองค์ใหม่มาตรัสรู้อีกเพราะอะไร.

เหตุอัตรธาน. แปลว่าอะไร. ทรงแสดงดู
๔. ทรงบอกเหตุแห่งความอันตรธานของคำสอนเปรียบด้วยกลองศึก
ภิกษุทั้งหลาย ! เรื่องนี้เคยมีมาแล้ว : กลองศึกของกษัตริย์พวกทสารหะ เรียกว่า
อานกะ มีอยู่. เมื่อกลองอานกะนี้ มีแผลแตกหรือลิ, พวกกษัตริย์ทสารหะได้หา
เนื้อไม้อื่นทำเป็นลิ่ม เสริมลงในรอยแตกของกลองนั้น (ทุกคราวไป) ภิกษุทั้งหลาย!
เมื่อเชื่อมปะเข้าหลายครั้งหลายคราวเช่นนั้น นานเข้าก็ถึงสมัยหนึ่ง ซึ่งเนื้อไม้เดิม
ของตัวกลองหมดสิ้นไปเหลืออยู่แต่เนื้อไม้ที่ทำเสริมเข้าใหม่เท่านั้น ;
ภิกษุทั้งหลาย ! ฉันใดก็ฉันนั้น : ในกาลยืดยาวฝ่ายอนาคต จักมีภิกษุทั้งหลาย,
สุตตันตะเหล่าใด ที่เป็นคำของตถาคต เป็นข้อความลึกมีความหมายซึ่ง เป็นชั้น
โลกุตตระ ว่าเฉพาะด้วยเรื่องสุญญตา, เมื่อมีผู้นำสุตตันตะเหล่านั้นมากล่าวอยู่.
เธอจักไม่ฟังด้วยดี จักไม่เงี่ยหูฟัง จักไม่ตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง และจักไม่สำคัญว่า
เป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียน. ส่วนสุตตันตะเหล่าใด ที่นักกวีแต่งขึ้นใหม่ เป็นคำ
ภิกษุทั้งหลาย ! ในกรณีนี้คือ ภิกษุทั้งหลายในบริษัทใด, เมื่อสุตตันตะ
ทั้งหลาย ตถาคตภาสิตา-อันเป็นตถาคตภาษิต คมฺภีรา-อันลึกซึ้ง คมฺภีรตฺถา-
มีอรรถอันลึกซึ้ง โลกุตฺตรา-เป็นโลกุตตระ สุญฺญตปฏิสํยุตฺตา-ประกอบด้วย
เรื่องสุญญตา อันบุคคลนำมากล่าวอยู่, ก็ไม่ฟังด้วยดี ไม่เงี่ยหูฟัง ไม่เข้าไป
ตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง และไม่สำคัญว่า เป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียน.
ส่วนสุตตันตะเหล่าใด ที่กวีแต่งขึ้นใหม่ เป็นคำร้อยกรองประเภทกาพย์
กลอนมีอักษรสละสลวย มีพยัญชนะอันวิจิตร เป็นเรื่องนอกแนว เป็นคำกล่าว
ของสาวก, เมื่อมีผู้นำสุตตันตะเหล่านี้มากล่าวอยู่ พวกเธอย่อมฟังด้วยดี
เงี่ยหูฟัง ตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง และสำคัญไปว่าเป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียน.
พวกเธอเล่าเรียนธรรมอันกวีแต่งใหม่นั้นแล้ว ก็ไม่สอบถามซึ่งกันและกัน ไม่ทำให้
เปิดเผยแจ่มแจ้งออกมาว่า ข้อนี้พยัญชนะเป็นอย่างไร อรรถะเป็นอย่างไร
ดังนี้. เธอเหล่านั้นเปิดเผยสิ่งที่ยังไม่เปิดเผยไม่ได้ ไม่หงายของที่คว่ำอยู่ให้
หงายขึ้นได้ ไม่บรรเทาความสงสัยในธรรมทั้งหลายอันเป็นที่ตั้งแห่งความสงสัย
มีอย่างต่างๆ ได้. ภิกษุทั้งหลาย ! นี้เราเรียกว่า อุกกาจิตวินีตา ปริสา โน
ปฏิปุจฉาวินีตา.
ภิกษุทั้งหลาย ! บริษัทชื่อ ปฏิปุจฉาวินีตา ปริสา โน อุกกาจิตวินีตา
เป็นอย่างไรเล่า? ภิกษุทั้งหลาย ! ในกรณีนี้คือ ภิกษุทั้งหลายในบริษัทใด, เมื่อ
สุตตันตะทั้งหลาย ที่กวีแต่งขึ้นใหม่ เป็นคำร้อยกรองประเภทกาพย์กลอนมีอักษร
สละสลวย มีพยัญชนะอันวิจิตร เป็นเรื่องนอกแนว เป็นคำกล่าวของสาวก
อันบุคคลนำมากล่าวอยู่, ก็ไม่ฟังด้วยดี ไม่เงี่ยหูฟัง ไม่เข้าไปตั้งจิตเพื่อจะรู้
ทั่วถึง และไม่สำคัญว่าเป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียน. ส่วนสุตตันตะ เหล่าใด
อันเป็น ตถาคตภาษิตอันลึกซึ้ง มีอรรถอันลึกซึ้ง เป็นโลกุตตระ ประกอบ
ด้วยเรื่องสุญญตา, เมื่อมีผู้นำสุตตันตะเหล่านี้มากล่าวอยู่ พวกเธอย่อมฟัง
ด้วยดี ย่อมเงี่ยหูฟัง ย่อมเข้าไปตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง และย่อมสำคัญว่าเป็นสิ่ง
ที่ควรศึกษา เล่าเรียน. พวกเธอเล่าเรียนธรรมที่เป็นตถาคตภาษิตนั้นแล้ว
ก็สอบถาม ซึ่งกันและกัน ทำให้เปิดเผยแจ่มแจ้งออกมาว่า ข้อนี้พยัญชนะเป็น
อย่างไร อรรถะเป็นอย่างไร ดังนี้. เธอเหล่านั้นเปิดเผยสิ่งที่ยังไม่เปิดเผยได้
หงายของที่คว่ำอยู่ให้หงายขึ้นได้ บรรเทาความสงสัยในธรรมทั้งหลายอันเป็นที่ตั้ง
ร้อยกรองประเภทกาพย์กลอน มีอักษรสละสลวย มีพยัญชนะอันวิจิตร เป็นเรื่อง
นอกแนว เป็นคำกล่าวของสาวก, เมื่อมีผู้นำสูตรที่นักกวีแต่งขึ้นใหม่เหล่านั้นมา
กล่าวอยู่, เธอจักฟังด้วยดี จักเงี่ยหูฟัง จักตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง และจักสำคัญว่า
เป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียนไป.
ภิกษุทั้งหลาย ! ความอันตรธานของสุตตันตะเหล่านั้น ที่เป็นคำของ
ตถาคต เป็นข้อความลึก มีความหมายซึ้ง เป็นชั้นโลกุตตระ ว่าเฉพาะด้วย
เรื่องสุญญตา จักมีได้ด้วยอาการอย่างนี้ แล.
นิทาน. สํ. ๑๖ / ๓๑๑ / ๖๗๒-๓
ขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์ น. ๑๐๗

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 20 พ.ค. 2019, 08:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แสดงแค่นี้ก็บรรลุกันมากมาย

กบนอกกะลา เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:
เก่งขนาดไหน. อยากรู้นักใครจะไม่ให้คำสอนดับไปเนื่อมไปได้


อย่าคิดว่า...เอาคำอนัตตามาพูดเป็นโวหาร..แล้วคนอื่นจะกลัว..เลยพ่อหนุ่มจ๋อย..

ไม่ต้องเก่งหรอก...ก็รู้ได้..

คำสอนไม่มีทางเลือนหายไปจากจักรวาล..อยู่แล้ว...ก็แค่สัตว์ไม่อาจจะเข้าใจ..ไม่อาจจะนำธรรมคำสอนมาพัฒนาตนจนถึงความมุ่งหมายของพระธรรมได้..ก็เท่านั้นเอง...

คำสอน..ไม่ดับ..ไม่เสื่อมหรอก..พ่อหนุ่มกระจ๋อยหร่อย..

สงสัยจะเพ้อแล้วกบ. คำสอนพระองค์ถูกตัดทอนเปลี่ยนแปลงไปตลอด. จนไม่เหล่อเนื้อแท้แห่งธรรม ดั่งกลองศึกของท้าวทัศสารหะ. ท่านจึงตรัสไม่เปลี่ยนแปลงต่อเติมคำสอนของท่าน. สงสัยจะมั่วอีกตามเคย อายุพระศาสนาจะต้องดับไปคำสอนจะไม่เหลือจนไม่เหลือเนื้อแท้ จะว่างเว้นอยู่ระยะหนึ่ง. และวจะมีพระพุทธเจ้าองค์ใหม่มาตรัสรู้ครับพี่ท่าน. ถ้าคำสอนคงอยู่ไม่ว่างเว้น. จะมีพระเจ้ามาตรัสรู้ได้อย่างไร. สงสัยเข้าใจบริบทผิดมั่งครับ. ก็กลับไปในกระลาต่อ อิอิ


อีกครั้ง.

.
อ้างคำพูด:

" คำสอนไม่มีทางเลือนหายไปจากจักรวาล..อยู่แล้ว...ก็แค่สัตว์ไม่อาจจะเข้าใจ..ไม่อาจจะนำธรรมคำสอนมาพัฒนาตนจนถึงความมุ่งหมายของพระธรรมได้..ก็เท่านั้นเอง...

คำสอน..ไม่ดับ..ไม่เสื่อมหรอก..พ่อหนุ่มกระจ๋อยหร่อย. "


ส่วนประเด็น..คำสอนถูกตัดต่อเปลี่ยนแปลง..กะ...ถ้าคำสอนคงอยู่ไม่ว่างเว้น. จะมีพระเจ้ามาตรัสรู้ได้อย่างไร..ไม่ได้เกี่ยวกับว่าคำสอนดับไปเสื่อมไปดอก...พ่อหนุ่มกะจ๋อยหร่อย..

เด้ว..จะเอาไขควงมาเปิดให้ดู...แต่ตอนนี้นอนก่อนนะ..พ่อกระจ๋อยหร่อย..


bigtoo เขียน:
ส่งสัยส่งเข้ากะลาเหมือนเดิม.


:b32: :b32: :b32:

เด้วจะไขกะลาให้นะ..อิอิ..

มาดูที่ประโยคของบิ๊กทู้..แรกก่อน..
bigtoo เขียน:
สงสัยจะเพ้อแล้วกบ. คำสอนพระองค์ถูกตัดทอนเปลี่ยนแปลงไปตลอด. จนไม่เหล่อเนื้อแท้แห่งธรรม ดั่งกลองศึกของท้าวทัศสารหะ. ท่านจึงตรัสไม่เปลี่ยนแปลงต่อเติมคำสอนของท่าน. สงสัยจะมั่วอีกตามเคย อายุพระศาสนาจะต้องดับไปคำสอนจะไม่เหลือจนไม่เหลือเนื้อแท้


จะไขกะลา..ด้วยคำถามนี้..นะ :b32:

ถามบิ๊กทู้ว่า...หากเราสามารถจารึกคำสอนตั้งกะการสังคายนาครั้งแรกลงในวัตถุที่ทนทานการสึกกร่อนสักหมื่นปี...ไม่มีใครจะไปเปลี่ยนแปลงคำสอนที่จารลงไปได้..ถามว่า..พระศาสนาจะอยู่ถึงหมื่นปีมั้ย?

ตอบได้มั้ยบิ๊กทู..

แล้ว..มาที่คำถามที่2

อ้างคำพูด:
อายุพระศาสนาจะต้องดับไปคำสอนจะไม่เหลือจนไม่เหลือเนื้อแท้ จะว่างเว้นอยู่ระยะหนึ่ง. และวจะมีพระพุทธเจ้าองค์ใหม่มาตรัสรู้ครับพี่ท่าน. ถ้าคำสอนคงอยู่ไม่ว่างเว้น. จะมีพระเจ้ามาตรัสรู้ได้อย่างไร. สงสัยเข้าใจบริบทผิดมั่งครับ. ก็กลับไปในกระลาต่อ


การที่คิดว่า..คำสอนได้ดับไปจากโลกนี้..ดับจากจักรวาลนี้ไปแล้ว...ไม่มีคำสอนแล้ว..พระพุทธเจ้าจึงมาตรัสรู้ใหม่..นี้เป็นความคิด..ที่เห็นได้ทั่วไป..ความทำนองคิดนี้..ไม่ถูกต้อง

มีหลักฐานเล็กๆ..ที่แสดงว่า...ยังมีผู้รู้อริยะสัจสี่มรรคมีองค์แปด..ในตอนที่พระพุทธสมณโคดตพระองค์ยังไม่ได้ตรัสรู้..

บิ๊กทู..รู้มั้ยว่าผู้รู้ท่านนั้นเป็นใคร?
ใบ้ให้นิดนึง...เป็นเพื่อนกับท่านพาหิยะ.. :b9: :b9:

ุถ้าตอบได้...บิ๊กทูก็จะไขความกระจ่างให้กับตัวเองได้เลยว่า..ที่พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้อยู่เรื่อยๆนั้น..ไม่ได้เกี่ยวกับว่า..คำสอนดับไปไม่เหลือสิ่งที่เป็นคำสอนที่ถูกต้องแต่อย่างใด...

แต่เป็นเพราะจะมารื้อขนสัตว์ที่มีบุญมีเหตุมีปัจจัยร่วมกันมาให้พ้นจากทุกข์...

และขอย้ำ...อีกครั้ง...บิ๊กทู..จะได้มีอะไรในกะลาเพิ่ม.. :b9:

.
อ้างคำพูด:

" คำสอนไม่มีทางเลือนหายไปจากจักรวาล..อยู่แล้ว...ก็แค่สัตว์ไม่อาจจะเข้าใจ..ไม่อาจจะนำธรรมคำสอนมาพัฒนาตนจนถึงความมุ่งหมายของพระธรรมได้..ก็เท่านั้นเอง...

คำสอน..ไม่ดับ..ไม่เสื่อมหรอก..พ่อหนุ่มกระจ๋อยหร่อย. "


:b12: :b12: :b12:


:b32: :b32: :b32:

ไม่ตอบคำถามก่อนหรือ..บิ๊กทู

ตอบหน่อยน่า.. :b9: :b9: :b9:

เจ้าของ:  bigtoo [ 20 พ.ค. 2019, 08:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แสดงแค่นี้ก็บรรลุกันมากมาย

bigtoo เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ที่ว่าพระศาสนาไปรอดเนี่ย หมายถึง

กบนอกกะลา เขียน:
มีคนรู้ธรรมเห็นธรรม..เรื่อยไปจนหมดอายุพระศาสนาสมณโคดตสัมมาสัมพุทธเจ้า...นี้เรียกว่า...พระศาสนารอด...คืออยู่รอดจนถึงวันที่หมดเหตุปัจจัยที่จะดำรงอยู่...

ต่อให้จารึกลงไปล้านปี. มันก็เสื่อมหมดไป. ที่มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้เพราะอะไร. แล้วจะมีองค์ใหม่มาตรัสรู้อีกเพราะอะไร.

เหตุอัตรธาน. แปลว่าอะไร. ทรงแสดงดู
๔. ทรงบอกเหตุแห่งความอันตรธานของคำสอนเปรียบด้วยกลองศึก
ภิกษุทั้งหลาย ! เรื่องนี้เคยมีมาแล้ว : กลองศึกของกษัตริย์พวกทสารหะ เรียกว่า
อานกะ มีอยู่. เมื่อกลองอานกะนี้ มีแผลแตกหรือลิ, พวกกษัตริย์ทสารหะได้หา
เนื้อไม้อื่นทำเป็นลิ่ม เสริมลงในรอยแตกของกลองนั้น (ทุกคราวไป) ภิกษุทั้งหลาย!
เมื่อเชื่อมปะเข้าหลายครั้งหลายคราวเช่นนั้น นานเข้าก็ถึงสมัยหนึ่ง ซึ่งเนื้อไม้เดิม
ของตัวกลองหมดสิ้นไปเหลืออยู่แต่เนื้อไม้ที่ทำเสริมเข้าใหม่เท่านั้น ;
ภิกษุทั้งหลาย ! ฉันใดก็ฉันนั้น : ในกาลยืดยาวฝ่ายอนาคต จักมีภิกษุทั้งหลาย,
สุตตันตะเหล่าใด ที่เป็นคำของตถาคต เป็นข้อความลึกมีความหมายซึ่ง เป็นชั้น
โลกุตตระ ว่าเฉพาะด้วยเรื่องสุญญตา, เมื่อมีผู้นำสุตตันตะเหล่านั้นมากล่าวอยู่.
เธอจักไม่ฟังด้วยดี จักไม่เงี่ยหูฟัง จักไม่ตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง และจักไม่สำคัญว่า
เป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียน. ส่วนสุตตันตะเหล่าใด ที่นักกวีแต่งขึ้นใหม่ เป็นคำ
ภิกษุทั้งหลาย ! ในกรณีนี้คือ ภิกษุทั้งหลายในบริษัทใด, เมื่อสุตตันตะ
ทั้งหลาย ตถาคตภาสิตา-อันเป็นตถาคตภาษิต คมฺภีรา-อันลึกซึ้ง คมฺภีรตฺถา-
มีอรรถอันลึกซึ้ง โลกุตฺตรา-เป็นโลกุตตระ สุญฺญตปฏิสํยุตฺตา-ประกอบด้วย
เรื่องสุญญตา อันบุคคลนำมากล่าวอยู่, ก็ไม่ฟังด้วยดี ไม่เงี่ยหูฟัง ไม่เข้าไป
ตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง และไม่สำคัญว่า เป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียน.
ส่วนสุตตันตะเหล่าใด ที่กวีแต่งขึ้นใหม่ เป็นคำร้อยกรองประเภทกาพย์
กลอนมีอักษรสละสลวย มีพยัญชนะอันวิจิตร เป็นเรื่องนอกแนว เป็นคำกล่าว
ของสาวก, เมื่อมีผู้นำสุตตันตะเหล่านี้มากล่าวอยู่ พวกเธอย่อมฟังด้วยดี
เงี่ยหูฟัง ตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง และสำคัญไปว่าเป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียน.
พวกเธอเล่าเรียนธรรมอันกวีแต่งใหม่นั้นแล้ว ก็ไม่สอบถามซึ่งกันและกัน ไม่ทำให้
เปิดเผยแจ่มแจ้งออกมาว่า ข้อนี้พยัญชนะเป็นอย่างไร อรรถะเป็นอย่างไร
ดังนี้. เธอเหล่านั้นเปิดเผยสิ่งที่ยังไม่เปิดเผยไม่ได้ ไม่หงายของที่คว่ำอยู่ให้
หงายขึ้นได้ ไม่บรรเทาความสงสัยในธรรมทั้งหลายอันเป็นที่ตั้งแห่งความสงสัย
มีอย่างต่างๆ ได้. ภิกษุทั้งหลาย ! นี้เราเรียกว่า อุกกาจิตวินีตา ปริสา โน
ปฏิปุจฉาวินีตา.
ภิกษุทั้งหลาย ! บริษัทชื่อ ปฏิปุจฉาวินีตา ปริสา โน อุกกาจิตวินีตา
เป็นอย่างไรเล่า? ภิกษุทั้งหลาย ! ในกรณีนี้คือ ภิกษุทั้งหลายในบริษัทใด, เมื่อ
สุตตันตะทั้งหลาย ที่กวีแต่งขึ้นใหม่ เป็นคำร้อยกรองประเภทกาพย์กลอนมีอักษร
สละสลวย มีพยัญชนะอันวิจิตร เป็นเรื่องนอกแนว เป็นคำกล่าวของสาวก
อันบุคคลนำมากล่าวอยู่, ก็ไม่ฟังด้วยดี ไม่เงี่ยหูฟัง ไม่เข้าไปตั้งจิตเพื่อจะรู้
ทั่วถึง และไม่สำคัญว่าเป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียน. ส่วนสุตตันตะ เหล่าใด
อันเป็น ตถาคตภาษิตอันลึกซึ้ง มีอรรถอันลึกซึ้ง เป็นโลกุตตระ ประกอบ
ด้วยเรื่องสุญญตา, เมื่อมีผู้นำสุตตันตะเหล่านี้มากล่าวอยู่ พวกเธอย่อมฟัง
ด้วยดี ย่อมเงี่ยหูฟัง ย่อมเข้าไปตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง และย่อมสำคัญว่าเป็นสิ่ง
ที่ควรศึกษา เล่าเรียน. พวกเธอเล่าเรียนธรรมที่เป็นตถาคตภาษิตนั้นแล้ว
ก็สอบถาม ซึ่งกันและกัน ทำให้เปิดเผยแจ่มแจ้งออกมาว่า ข้อนี้พยัญชนะเป็น
อย่างไร อรรถะเป็นอย่างไร ดังนี้. เธอเหล่านั้นเปิดเผยสิ่งที่ยังไม่เปิดเผยได้
หงายของที่คว่ำอยู่ให้หงายขึ้นได้ บรรเทาความสงสัยในธรรมทั้งหลายอันเป็นที่ตั้ง
ร้อยกรองประเภทกาพย์กลอน มีอักษรสละสลวย มีพยัญชนะอันวิจิตร เป็นเรื่อง
นอกแนว เป็นคำกล่าวของสาวก, เมื่อมีผู้นำสูตรที่นักกวีแต่งขึ้นใหม่เหล่านั้นมา
กล่าวอยู่, เธอจักฟังด้วยดี จักเงี่ยหูฟัง จักตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง และจักสำคัญว่า
เป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียนไป.
ภิกษุทั้งหลาย ! ความอันตรธานของสุตตันตะเหล่านั้น ที่เป็นคำของ
ตถาคต เป็นข้อความลึก มีความหมายซึ้ง เป็นชั้นโลกุตตระ ว่าเฉพาะด้วย
เรื่องสุญญตา จักมีได้ด้วยอาการอย่างนี้ แล.
นิทาน. สํ. ๑๖ / ๓๑๑ / ๖๗๒-๓
ขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์ น. ๑๐๗

เจ้าของ:  Love J. [ 20 พ.ค. 2019, 09:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แสดงแค่นี้ก็บรรลุกันมากมาย

เอาตามจริงนะครับ
โลกมันมีความเกิดและความเสื่อมสิ้นไปเป็นธรรมดา .. จะกล่าวไปใยถึงพระศาสนา
เอาตามจริงยิ่งกว่านั้น .. กาลที่พระพุทธเจ้าประกาศคำสอนมีพระสงฆ์ปฏิบัติตาม ให้
ศาสนาดำรงอยู่บนโลกมีเป็นส่วนน้อย .. กาลที่ไม่มีศาสนาดำรงอยู่มีเป็นส่วนมาก

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 20 พ.ค. 2019, 10:30 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แสดงแค่นี้ก็บรรลุกันมากมาย

กบนอกกะลา เขียน:
ที่ว่าพระศาสนาไปรอดเนี่ย หมายถึง

กบนอกกะลา เขียน:
มีคนรู้ธรรมเห็นธรรม..เรื่อยไปจนหมดอายุพระศาสนาสมณโคดตสัมมาสัมพุทธเจ้า...นี้เรียกว่า...พระศาสนารอด...คืออยู่รอดจนถึงวันที่หมดเหตุปัจจัยที่จะดำรงอยู่...


คิกๆๆ นี่ชาวพุทธโลกสวย

เจ้าของ:  bigtoo [ 20 พ.ค. 2019, 10:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แสดงแค่นี้ก็บรรลุกันมากมาย

กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ที่ว่าพระศาสนาไปรอดเนี่ย หมายถึง

กบนอกกะลา เขียน:
มีคนรู้ธรรมเห็นธรรม..เรื่อยไปจนหมดอายุพระศาสนาสมณโคดตสัมมาสัมพุทธเจ้า...นี้เรียกว่า...พระศาสนารอด...คืออยู่รอดจนถึงวันที่หมดเหตุปัจจัยที่จะดำรงอยู่...


คิกๆๆ นี่ชาวพุทธโลกสวย

ความเต็มอก. คิดอะไรไม่ค่อยได้หรอก. แค่สรรพเพธรรมอนัตตา. มันก็น่าจะจบทุกเรื่อวแบ้ว

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 20 พ.ค. 2019, 17:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แสดงแค่นี้ก็บรรลุกันมากมาย

bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ที่ว่าพระศาสนาไปรอดเนี่ย หมายถึง

กบนอกกะลา เขียน:
มีคนรู้ธรรมเห็นธรรม..เรื่อยไปจนหมดอายุพระศาสนาสมณโคดตสัมมาสัมพุทธเจ้า...นี้เรียกว่า...พระศาสนารอด...คืออยู่รอดจนถึงวันที่หมดเหตุปัจจัยที่จะดำรงอยู่...


คิกๆๆ นี่ชาวพุทธโลกสวย

ความเต็มอก. คิดอะไรไม่ค่อยได้หรอก. แค่สรรพเพธรรมอนัตตา. มันก็น่าจะจบทุกเรื่อวแบ้ว


พ่ะน่ะ จบแบบคนเมากัญชา นอนวาดภาพก้อนเมฆ :b32:

เจ้าของ:  bigtoo [ 20 พ.ค. 2019, 18:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แสดงแค่นี้ก็บรรลุกันมากมาย

กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ที่ว่าพระศาสนาไปรอดเนี่ย หมายถึง

กบนอกกะลา เขียน:
มีคนรู้ธรรมเห็นธรรม..เรื่อยไปจนหมดอายุพระศาสนาสมณโคดตสัมมาสัมพุทธเจ้า...นี้เรียกว่า...พระศาสนารอด...คืออยู่รอดจนถึงวันที่หมดเหตุปัจจัยที่จะดำรงอยู่...


คิกๆๆ นี่ชาวพุทธโลกสวย

ความเต็มอก. คิดอะไรไม่ค่อยได้หรอก. แค่สรรพเพธรรมอนัตตา. มันก็น่าจะจบทุกเรื่อวแบ้ว


พ่ะน่ะ จบแบบคนเมากัญชา นอนวาดภาพก้อนเมฆ :b32:
กาในกูเกิ้น

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 20 พ.ค. 2019, 18:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แสดงแค่นี้ก็บรรลุกันมากมาย

bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ที่ว่าพระศาสนาไปรอดเนี่ย หมายถึง

กบนอกกะลา เขียน:
มีคนรู้ธรรมเห็นธรรม..เรื่อยไปจนหมดอายุพระศาสนาสมณโคดตสัมมาสัมพุทธเจ้า...นี้เรียกว่า...พระศาสนารอด...คืออยู่รอดจนถึงวันที่หมดเหตุปัจจัยที่จะดำรงอยู่...


คิกๆๆ นี่ชาวพุทธโลกสวย

ความเต็มอก. คิดอะไรไม่ค่อยได้หรอก. แค่สรรพเพธรรมอนัตตา. มันก็น่าจะจบทุกเรื่อวแบ้ว


พ่ะน่ะ จบแบบคนเมากัญชา นอนวาดภาพก้อนเมฆ :b32:


กาในกูเกิ้น



เอวัง :b13: คือ ไม่เอาหลักธรรมซึ่งจะต้องรู้เข้าใจด้วยการเข้าถึงมาพูดมโนไป

หน้า 3 จากทั้งหมด 4 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/