ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ขันธ์ 5 ส่วนประกอบ 5 อย่างของชีวิต http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57535 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 3 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 26 เม.ย. 2019, 11:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | ขันธ์ 5 ส่วนประกอบ 5 อย่างของชีวิต |
กท.นี้จะไปเชื่อมกับ กท.อายตนะ นี่ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57490 อ้างคำพูด: กรัชกาย พ่ะน่ะ ให้ลบความจำ คุณโรสวาสลีน คิกๆๆ ถ้าลบความจำหมด มันจะต่างอะไรกับคนเป็นโรคอัลไซเมอร์ เล่า เออ คิดไปได้ (นี่แหละจิตคิดฟุ้งซ่าน) ลบความจำ จำอะไรไม่ได้ กินแล้วก็ว่าไม่ได้กิน ขี้แล้วก็ว่ายังไม่ได้ขี้ อิอิ เอาหรอแบบนี้ ถ้าแบบนี่้นะ ก็ขอให้คุณโรสจำอะไรไม่ได้เลย เดินแก้ผ้า ก็ไม่รู้ตัว เอ้า คิกๆๆ อ้างคำพูด: Rosarin ยังไม่เข้าใจอีก 1 ขณะจิต มีครบ ขันธ์ 5 มีเจตสิก 1 คือ สัญญาขันธ์ ดับแล้ว นี่มีอดีตสัญญาไหม มีแต่ความคิด นึก จำเรื่องราวเก่าๆ ที่ไปอ่านมา ไม่ปล่อยวาง เออน่ะ จิตเกิดดับทีละ 1 ขณะไม่มีตัวตน ขณะนี้ เป็นจิตขณะใหม่ทั้งหมด ตรงปัจจุบันขณะ รู้ตรงตามเสียง ใครรู้ล่วงหน้าว่าเสียงต่อไปคือเสียงคำไหน คุณโรสจำมาก็ดี ฟังมาก็ดี เรียนมาก็ดี แล้วไปคิดอย่างนั้น ถือว่าวิปลาส |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 26 เม.ย. 2019, 11:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขันธ์ 5 ส่วนประกอบ 5 อย่างของชีวิต |
สังเกตศัพท์พร้อมความหมายก่อน ชีพ ชีวิต, ความเป็นอยู่ ชีวิต ความเป็นอยู่ ชีวิตสมสีสี ผู้สิ้นกิเลสพร้อมกับสิ้นชีวิต, ผู้ได้บรรลุธรรมวิเศษแล้วก็ดับจิตพอดี ชีวิตักษัย การสิ้นชีวิต, ตาย ชีวิตินทรีย์ อินทรีย์คือชีวิต, สภาวะที่เป็นใหญ่ในการตามรักษาสหชาตธรรม (ธรรมที่เกิดร่วมด้วย) ดุจน้ำหล่อเลี้ยงดอกบัว เป็นต้น มี ๒ ฝ่ายคือ ๑.ชีวิตินทรีย์ที่เป็นชีวิตรูป เป็นอุปาายรูปอย่างหนึ่ง เป็นเจ้าการในการรักษาหล่อเลี้ยงเหล่ากรรมชรูป บางทีเรียก รูปชีวิตินทรีย์ ๒.ชีวิตินทรีย์ที่เป็นเจตสิกเป็นสัพพจิตตสาธารณเจตสิก อย่างหนึ่ง เป็นเจ้าการในการรักษาหล่อเลี้ยงนามธรรมคือจิตและเจตสิกทั้งหลาย บางทีเรียก อรูปชีวิตินทรีย์ หรือ นามชีวิตินทรีย์ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 26 เม.ย. 2019, 13:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขันธ์ 5 ส่วนประกอบ 5 อย่างของชีวิต |
"สภาวะ" "สภาวธรรม" สภาพ, สภาวะ ความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเอง, ธรรมดา สภาวธรรม หลักแห่งความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเองตามธรรมดาของเหตุปัจจัย สรีระ ร่างกาย สรีรยนต์ กลไกคือร่างกาย |
เจ้าของ: | Rosarin [ 26 เม.ย. 2019, 13:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขันธ์ 5 ส่วนประกอบ 5 อย่างของชีวิต |
เอ๊า บอกแล้วบอกอีกบอกว่าให้ฟังตรงเวลานี้เดี๋ยวนี้ ความจริงตรงตามคำสอนรู้ได้ตรงที่กายใจตัวเองมี ยังจะไปก๊อปมาแปะให้ดูให้คิดให้มันเห็นผิดต่อไปอีกหรือคะ บอกให้ฟังไงคะความจริงรู้ได้เมื่อฟังเข้าใจไม่ใช่อ่านตามเห็นผิด เห็นมีแล้วเป็นผลของกรรมมีแล้วไม่ได้ทำเห็นที่กำลังเห็นมันดับแล้วทำอะไรได้ไหม https://youtu.be/TS4ajDnDaBU |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 26 เม.ย. 2019, 13:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขันธ์ 5 ส่วนประกอบ 5 อย่างของชีวิต |
กรัชกาย เขียน: "สภาวะ" "สภาวธรรม" สภาพ, สภาวะ ความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเอง, ธรรมดา สภาวธรรม หลักแห่งความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเองตามธรรมดาของเหตุปัจจัย สรีระ ร่างกาย สรีรยนต์ กลไกคือร่างกาย จิต, จิตต์ ธรรมชาติที่รู้อารมณ์, สภาพที่นึกคิด, ความคิด, ใจ, ตามหลักอภิธรรม จำแนกจิตเป็น ๘๙ (หรือพิสดาร เป็น ๑๒๑) วิญญาณ ความรู้แจ้งอารมณ์, จิต, ความรู้ที่เกิดขึ้นเมื่ออายตนะภายในและอายตนะภายนอกกระทบกัน เช่น รู้อารมณ์ในเวลา เมื่อ รูป มากระทบ ตา เป็นต้น ได้แก่ การเห็น การได้ยิน เป็นอาทิ วิญญาณ ๖ คือ ๑. จักขุวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางตา (เห็น) ๒. โสตวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางหู (ได้ยิน) ๓.ฆานวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางจมูก (ได้กลิ่น) ๔.ชิวหาวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางลิ้น (รู้รส) ๕.กายวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางกาย (รู้สิ่งต้องกาย) ๖.มโนวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางใจ (รู้เรื่องในใจ) จิตตสันดาน การสืบต่อมาโดยไม่ขาดสายของจิต, |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 26 เม.ย. 2019, 13:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขันธ์ 5 ส่วนประกอบ 5 อย่างของชีวิต |
สรุปในเบื้องต้นว่า จะเป็นชีวิตขึ้นมาได้ต้องประกอบด้วยธรรมชาติ ๒ อย่าง คือ ร่างกาย ๑ จิตใจ ๑ หรือจะเรียก รูป ๑ นาม ๑ หรือ รูปธรรม ๑ นามธรรม ๑ หรือจะเรียก นามรูป ก็ย่อมได้ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 26 เม.ย. 2019, 13:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขันธ์ 5 ส่วนประกอบ 5 อย่างของชีวิต |
กรัชกาย เขียน: กรัชกาย เขียน: "สภาวะ" "สภาวธรรม" สภาพ, สภาวะ ความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเอง, ธรรมดา สภาวธรรม หลักแห่งความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเองตามธรรมดาของเหตุปัจจัย สรีระ ร่างกาย สรีรยนต์ กลไกคือร่างกาย จิต, จิตต์ ธรรมชาติที่รู้อารมณ์, สภาพที่นึกคิด, ความคิด, ใจ, ตามหลักอภิธรรม จำแนกจิตเป็น ๘๙ (หรือพิสดาร เป็น ๑๒๑) วิญญาณ ความรู้แจ้งอารมณ์, จิต, ความรู้ที่เกิดขึ้นเมื่ออายตนะภายในและอายตนะภายนอกกระทบกัน เช่น รู้อารมณ์ในเวลา เมื่อ รูป มากระทบ ตา เป็นต้น ได้แก่ การเห็น การได้ยิน เป็นอาทิ วิญญาณ ๖ คือ ๑. จักขุวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางตา (เห็น) ๒. โสตวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางหู (ได้ยิน) ๓.ฆานวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางจมูก (ได้กลิ่น) ๔.ชิวหาวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางลิ้น (รู้รส) ๕.กายวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางกาย (รู้สิ่งต้องกาย) ๖.มโนวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางใจ (รู้เรื่องในใจ) จิตตสันดาน การสืบต่อมาโดยไม่ขาดสายของจิต, ๖ข้อมีครบแล้วเดี๋ยวนี้ที่กายของคุณ ตา. =๑. จักขุวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางตา (เห็น) หู. =๒. โสตวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางหู (ได้ยิน) จมูก. =๓.ฆานวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางจมูก (ได้กลิ่น) ลิ้น. =๔.ชิวหาวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางลิ้น (รู้รส) กาย. =๕.กายวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางกาย (รู้สิ่งต้องกาย) ใจ. =๖.มโนวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางใจ (รู้เรื่องในใจ) คนไม่ตาย. =จิตตสันดาน การสืบต่อมาโดยไม่ขาดสายของจิต อันที่ไม่มีเดี๋ยวนี้คือปัญญาเริ่มต้นตามลำดับจาก1สุตมยปัญญามันถึงจะเจริญขึ้นถูกตรงตามคำสอน https://youtu.be/3xuOgfl33N4 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 26 เม.ย. 2019, 13:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขันธ์ 5 ส่วนประกอบ 5 อย่างของชีวิต |
เข้าเรื่อง ผู้มีพื้นฐานทางพุทธธรรมอยู่แล้ว เพียงแค่สามบันทัดนั่น เข้าใจโล่งถึงกระดูกไขสันหลังเรย กล่าวคือ แยกได้ระหว่างภาษาคน กับ ภาษาธรรม ดู ตัวสภาวะ พุทธธรรมมองเห็นสิ่งทั้งหลายเป็นธาตุ เป็นธรรม เป็นสภาวะ* อันมีอยู่เป็นอยู่ตามภาวะของมัน ที่เป็นของมันอย่างนั้น เช่นนั้น ตามธรรมดาของมัน มิใช่มีเป็นสัตว์ บุคคล อัตตา ตัวตน เราเขา ที่จะยึดถือเอาเป็นเจ้าของ ครอบครอง บังคับบัญชาให้เป้นไปตามปรารถนาอย่างไรๆ ได้ ที่อ้างอิง * *นิยมเรียกยาวเป็น "สภาวธรรม" ตามคำบาลีว่า "สภาวธมฺม" ซึ่งมาจาก ส+ภาว+ธมฺม แปลตรงตัวว่า สิ่งที่มีภาวะของมันเอง |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 26 เม.ย. 2019, 13:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขันธ์ 5 ส่วนประกอบ 5 อย่างของชีวิต |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: กรัชกาย เขียน: "สภาวะ" "สภาวธรรม" สภาพ, สภาวะ ความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเอง, ธรรมดา สภาวธรรม หลักแห่งความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเองตามธรรมดาของเหตุปัจจัย สรีระ ร่างกาย สรีรยนต์ กลไกคือร่างกาย จิต, จิตต์ ธรรมชาติที่รู้อารมณ์, สภาพที่นึกคิด, ความคิด, ใจ, ตามหลักอภิธรรม จำแนกจิตเป็น ๘๙ (หรือพิสดาร เป็น ๑๒๑) วิญญาณ ความรู้แจ้งอารมณ์, จิต, ความรู้ที่เกิดขึ้นเมื่ออายตนะภายในและอายตนะภายนอกกระทบกัน เช่น รู้อารมณ์ในเวลา เมื่อ รูป มากระทบ ตา เป็นต้น ได้แก่ การเห็น การได้ยิน เป็นอาทิ วิญญาณ ๖ คือ ๑. จักขุวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางตา (เห็น) ๒. โสตวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางหู (ได้ยิน) ๓.ฆานวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางจมูก (ได้กลิ่น) ๔.ชิวหาวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางลิ้น (รู้รส) ๕.กายวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางกาย (รู้สิ่งต้องกาย) ๖.มโนวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางใจ (รู้เรื่องในใจ) จิตตสันดาน การสืบต่อมาโดยไม่ขาดสายของจิต, ๖ข้อมีครบแล้วเดี๋ยวนี้ที่กายของคุณ ตา. =๑. จักขุวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางตา (เห็น) หู. =๒. โสตวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางหู (ได้ยิน) จมูก. =๓.ฆานวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางจมูก (ได้กลิ่น) ลิ้น. =๔.ชิวหาวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางลิ้น (รู้รส) กาย. =๕.กายวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางกาย (รู้สิ่งต้องกาย) ใจ. =๖.มโนวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางใจ (รู้เรื่องในใจ) คนไม่ตาย. =จิตตสันดาน การสืบต่อมาโดยไม่ขาดสายของจิต อันที่ไม่มีเดี๋ยวนี้คือปัญญาเริ่มต้นตามลำดับจาก1สุตมยปัญญามันถึงจะเจริญขึ้นถูกตรงตามคำสอน ปัญญาก็เจตสิกซึ่งเป็นคุณสมบัติของจิตนั่นไง |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 26 เม.ย. 2019, 14:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขันธ์ 5 ส่วนประกอบ 5 อย่างของชีวิต |
กรัชกาย เขียน: เข้าเรื่อง ผู้มีพื้นฐานทางพุทธธรรมอยู่แล้ว เพียงแค่สามบันทัดนั่น เข้าใจโล่งถึงกระดูกไขสันหลังเรย กล่าวคือ แยกได้ระหว่างภาษาคน กับ ภาษาธรรม ดู ตัวสภาวะ พุทธธรรมมองเห็นสิ่งทั้งหลายเป็นธาตุ เป็นธรรม เป็นสภาวะ* อันมีอยู่เป็นอยู่ตามภาวะของมัน ที่เป็นของมันอย่างนั้น เช่นนั้น ตามธรรมดาของมัน มิใช่มีเป็นสัตว์ บุคคล อัตตา ตัวตน เราเขา ที่จะยึดถือเอาเป็นเจ้าของ ครอบครอง บังคับบัญชาให้เป้นไปตามปรารถนาอย่างไรๆ ได้ ที่อ้างอิง * *นิยมเรียกยาวเป็น "สภาวธรรม" ตามคำบาลีว่า "สภาวธมฺม" ซึ่งมาจาก ส+ภาว+ธมฺม แปลตรงตัวว่า สิ่งที่มีภาวะของมันเอง ต่อ บรรดาสิ่งทั้งหลาย ที่รู้จักเข้าใจกันอยู่โดยทั่วไปนั้น มีอยู่เป็นอยู่เป็นไปในรูปของส่วนประกอบต่างๆ ที่มาประชุมกัน ตัวตนแท้ๆ ของสิ่งทั้งหลายไม่มี เมื่อแยกส่วนต่างๆ ที่มาประกอบกันเข้านั้นออกไปให้หมด ก็จะไม่พบตัวตนของสิ่งนั้นเหลืออยู่ ตัวอย่างง่ายๆ ที่ยกขึ้นอ้างกันบ่อยๆ คือ "รถ" เมื่อนำส่วนประกอบต่างๆมาประกอบเข้าด้วยกันตามแบบที่กำหนด ก็บัญญัติเรียกกันว่า "รถ*" (สํ.ส.15/554/198) แต่ถ้าแยกส่วนประกอบทั้งหมดออกจากกัน ก็จะหาตัวตนของรถไม่ได้ มีแต่ส่วนประกอบทั้งหลาย ซึ่งมีชื่อเรียกต่างๆกัน จำเพาะแต่ละอย่างอยู่แล้ว คือ ตัวตนของรถมิได้มีอยู่ต่างหากจากส่วนประกอบเหล่านั้น มีแต่เพียงคำบัญญัติว่า "รถ" สำหรับสภาพที่มารวมตัวกันเข้าของส่วนประกอบเหล่านั้น แม้ส่วนประกอบแต่ละอย่างๆนั้นเอง ก็ปรากฏขึ้นโดยการรวมกันเข้าของส่วนประกอบย่อยๆ ต่อๆไปอีก และหาตัวตนที่แท้ไม่พบเช่นเดียวกัน เมื่อจะพูดว่า สิ่งทั้งหลายมีอยู่ ก็ต้องเข้าใจในความหมายว่า มีอยู่ในฐานะมีส่วนประกอบต่างๆ มาประชุมเข้าด้วยกัน เมื่อมองเห็นสภาพของสิ่งทั้งหลายในรูปของการประชุมส่วนประกอบเช่นนี้ พุทธธรรมจึงต้องแสดงต่อไปว่า ส่วนประกอบต่างๆ เหล่านั้นเป็นอย่างไร มีอะไรบ้าง อย่างน้อยก็พอเป็นตัวอย่าง และโดยที่พุทธธรรมมีความเกี่ยวข้องเป็นพิเศษกับเรื่องชีวิต โดยเฉพาะด้านจิตใจ การแสดงส่วนประกอบต่างๆ จึงต้องครอบคลุมทั้งวัตถุและจิตใจ หรือทั้งรูปธรรมและนามธรรม และมักแยกเป็นพิเศษในด้านจิตใจ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 26 เม.ย. 2019, 14:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขันธ์ 5 ส่วนประกอบ 5 อย่างของชีวิต |
เท่าที่ลงไปนั่น ถ้าอ่านเป็นมีพื้นฐานทางพุทธธรรมบ้าง ร้องอ๋อ สาธุสามครั้งเรย แต่ถ้าเป็นแบบคุณโรส คิกๆๆ ชาติหน้าตอนสามโมงแลง สายัณห์ตะวันแล่ๆ ไม่รู้จะเข้าใจหรือเปล่า นี่พูดจริงๆนะ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 26 เม.ย. 2019, 14:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขันธ์ 5 ส่วนประกอบ 5 อย่างของชีวิต |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: กรัชกาย เขียน: "สภาวะ" "สภาวธรรม" สภาพ, สภาวะ ความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเอง, ธรรมดา สภาวธรรม หลักแห่งความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเองตามธรรมดาของเหตุปัจจัย สรีระ ร่างกาย สรีรยนต์ กลไกคือร่างกาย จิต, จิตต์ ธรรมชาติที่รู้อารมณ์, สภาพที่นึกคิด, ความคิด, ใจ, ตามหลักอภิธรรม จำแนกจิตเป็น ๘๙ (หรือพิสดาร เป็น ๑๒๑) วิญญาณ ความรู้แจ้งอารมณ์, จิต, ความรู้ที่เกิดขึ้นเมื่ออายตนะภายในและอายตนะภายนอกกระทบกัน เช่น รู้อารมณ์ในเวลา เมื่อ รูป มากระทบ ตา เป็นต้น ได้แก่ การเห็น การได้ยิน เป็นอาทิ วิญญาณ ๖ คือ ๑. จักขุวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางตา (เห็น) ๒. โสตวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางหู (ได้ยิน) ๓.ฆานวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางจมูก (ได้กลิ่น) ๔.ชิวหาวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางลิ้น (รู้รส) ๕.กายวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางกาย (รู้สิ่งต้องกาย) ๖.มโนวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางใจ (รู้เรื่องในใจ) จิตตสันดาน การสืบต่อมาโดยไม่ขาดสายของจิต, ๖ข้อมีครบแล้วเดี๋ยวนี้ที่กายของคุณ ตา. =๑. จักขุวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางตา (เห็น) หู. =๒. โสตวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางหู (ได้ยิน) จมูก. =๓.ฆานวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางจมูก (ได้กลิ่น) ลิ้น. =๔.ชิวหาวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางลิ้น (รู้รส) กาย. =๕.กายวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางกาย (รู้สิ่งต้องกาย) ใจ. =๖.มโนวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางใจ (รู้เรื่องในใจ) คนไม่ตาย. =จิตตสันดาน การสืบต่อมาโดยไม่ขาดสายของจิต อันที่ไม่มีเดี๋ยวนี้คือปัญญาเริ่มต้นตามลำดับจาก1สุตมยปัญญามันถึงจะเจริญขึ้นถูกตรงตามคำสอน ปัญญาก็เจตสิกซึ่งเป็นคุณสมบัติของจิตนั่นไง ทุกคำพิสูจน์ได้...มีตรงแล้วเดี๋ยวนี้ทุกคำ...และตรงตามพระไตรปิฎกมีตรงเดี๋ยวนี้ทุกคำ แค่๖ข้อที่คุณเขียนมาก็มีครบแล้วเดี๋ยวนี้ที่กายของคุณ...ปัญญาไม่ใช่จิตเออเนาะ จิตแค่เป็นประธานเสาธงยืนดูเฉยๆทำอะไรไม่ได้ยืนดูเจตสิกทำงานไปพอทำผิด จิตตูผิดด้วย555เวลาซื้อล็อตเตอรี่เพราะอยากถูกรางวัลน่ะโลภะ+โมหะมีอวิชชา แล้วเห็นข่าวหน้าหนังสือพิมพ์ไหมพระภิกษุถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่1โอ๊ยไม่รู๊ๆๆๆๆ ในเมื่อตถาคตให้สละเงินทองออกบวชรับเงินผิดที่1ไม่สละแถมเอาไปต่อลาภ555 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 26 เม.ย. 2019, 14:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขันธ์ 5 ส่วนประกอบ 5 อย่างของชีวิต |
ลงภาคปฏิบัติของแพทย์ซึ่งเข้าใจร่างกายปรุงโปร่ง แต่ยังขาดความเข้าใจเรื่องนามธรรม แทรกให้คุณโรสเป็นต้นสังเกตอีกที นั่งสมาธิแล้วมีอาการหมุนเหวี่ยงจะอ้วก ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาที เริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัว จึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมา นั่งดูพระรูปอื่น เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัด ก็นั่ง ก็เป็นอีก จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลย หมุนแรงมาก จนรู้สึก จะอาเจียนเลย ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปป ก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุด เมื่อคืนหมุนจนจะอ้วกจนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีกซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น คำถามครับ 1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง 2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรม พิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนา ทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมันเป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด แต่ถ้าผมอ่านแล้ว เข้าใจแล้ว จะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการกระทำ หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 26 เม.ย. 2019, 14:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขันธ์ 5 ส่วนประกอบ 5 อย่างของชีวิต |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: กรัชกาย เขียน: "สภาวะ" "สภาวธรรม" สภาพ, สภาวะ ความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเอง, ธรรมดา สภาวธรรม หลักแห่งความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเองตามธรรมดาของเหตุปัจจัย สรีระ ร่างกาย สรีรยนต์ กลไกคือร่างกาย จิต, จิตต์ ธรรมชาติที่รู้อารมณ์, สภาพที่นึกคิด, ความคิด, ใจ, ตามหลักอภิธรรม จำแนกจิตเป็น ๘๙ (หรือพิสดาร เป็น ๑๒๑) วิญญาณ ความรู้แจ้งอารมณ์, จิต, ความรู้ที่เกิดขึ้นเมื่ออายตนะภายในและอายตนะภายนอกกระทบกัน เช่น รู้อารมณ์ในเวลา เมื่อ รูป มากระทบ ตา เป็นต้น ได้แก่ การเห็น การได้ยิน เป็นอาทิ วิญญาณ ๖ คือ ๑. จักขุวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางตา (เห็น) ๒. โสตวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางหู (ได้ยิน) ๓.ฆานวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางจมูก (ได้กลิ่น) ๔.ชิวหาวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางลิ้น (รู้รส) ๕.กายวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางกาย (รู้สิ่งต้องกาย) ๖.มโนวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางใจ (รู้เรื่องในใจ) จิตตสันดาน การสืบต่อมาโดยไม่ขาดสายของจิต, ๖ข้อมีครบแล้วเดี๋ยวนี้ที่กายของคุณ ตา. =๑. จักขุวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางตา (เห็น) หู. =๒. โสตวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางหู (ได้ยิน) จมูก. =๓.ฆานวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางจมูก (ได้กลิ่น) ลิ้น. =๔.ชิวหาวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางลิ้น (รู้รส) กาย. =๕.กายวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางกาย (รู้สิ่งต้องกาย) ใจ. =๖.มโนวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางใจ (รู้เรื่องในใจ) คนไม่ตาย. =จิตตสันดาน การสืบต่อมาโดยไม่ขาดสายของจิต อันที่ไม่มีเดี๋ยวนี้คือปัญญาเริ่มต้นตามลำดับจาก1สุตมยปัญญามันถึงจะเจริญขึ้นถูกตรงตามคำสอน ปัญญาก็เจตสิกซึ่งเป็นคุณสมบัติของจิตนั่นไง ทุกคำพิสูจน์ได้...มีตรงแล้วเดี๋ยวนี้ทุกคำ...และตรงตามพระไตรปิฎกมีตรงเดี๋ยวนี้ทุกคำ แค่๖ข้อที่คุณเขียนมาก็มีครบแล้วเดี๋ยวนี้ที่กายของคุณ...ปัญญาไม่ใช่จิตเออเนาะ จิตแค่เป็นประธานเสาธงยืนดูเฉยๆทำอะไรไม่ได้ยืนดูเจตสิกทำงานไปพอทำผิด จิตตูผิดด้วย555เวลาซื้อล็อตเตอรี่เพราะอยากถูกรางวัลน่ะโลภะ+โมหะมีอวิชชา แล้วเห็นข่าวหน้าหนังสือพิมพ์ไหมพระภิกษุถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่1โอ๊ยไม่รู๊ๆๆๆๆ ในเมื่อตถาคตให้สละเงินทองออกบวชรับเงินผิดที่1ไม่สละแถมเอาไปต่อลาภ555 ไปโน่นอีก คิกๆๆๆ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 26 เม.ย. 2019, 14:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขันธ์ 5 ส่วนประกอบ 5 อย่างของชีวิต |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: กรัชกาย เขียน: "สภาวะ" "สภาวธรรม" สภาพ, สภาวะ ความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเอง, ธรรมดา สภาวธรรม หลักแห่งความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเองตามธรรมดาของเหตุปัจจัย สรีระ ร่างกาย สรีรยนต์ กลไกคือร่างกาย จิต, จิตต์ ธรรมชาติที่รู้อารมณ์, สภาพที่นึกคิด, ความคิด, ใจ, ตามหลักอภิธรรม จำแนกจิตเป็น ๘๙ (หรือพิสดาร เป็น ๑๒๑) วิญญาณ ความรู้แจ้งอารมณ์, จิต, ความรู้ที่เกิดขึ้นเมื่ออายตนะภายในและอายตนะภายนอกกระทบกัน เช่น รู้อารมณ์ในเวลา เมื่อ รูป มากระทบ ตา เป็นต้น ได้แก่ การเห็น การได้ยิน เป็นอาทิ วิญญาณ ๖ คือ ๑. จักขุวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางตา (เห็น) ๒. โสตวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางหู (ได้ยิน) ๓.ฆานวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางจมูก (ได้กลิ่น) ๔.ชิวหาวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางลิ้น (รู้รส) ๕.กายวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางกาย (รู้สิ่งต้องกาย) ๖.มโนวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางใจ (รู้เรื่องในใจ) จิตตสันดาน การสืบต่อมาโดยไม่ขาดสายของจิต, ๖ข้อมีครบแล้วเดี๋ยวนี้ที่กายของคุณ ตา. =๑. จักขุวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางตา (เห็น) หู. =๒. โสตวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางหู (ได้ยิน) จมูก. =๓.ฆานวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางจมูก (ได้กลิ่น) ลิ้น. =๔.ชิวหาวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางลิ้น (รู้รส) กาย. =๕.กายวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางกาย (รู้สิ่งต้องกาย) ใจ. =๖.มโนวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางใจ (รู้เรื่องในใจ) คนไม่ตาย. =จิตตสันดาน การสืบต่อมาโดยไม่ขาดสายของจิต อันที่ไม่มีเดี๋ยวนี้คือปัญญาเริ่มต้นตามลำดับจาก1สุตมยปัญญามันถึงจะเจริญขึ้นถูกตรงตามคำสอน ปัญญาก็เจตสิกซึ่งเป็นคุณสมบัติของจิตนั่นไง ทุกคำพิสูจน์ได้...มีตรงแล้วเดี๋ยวนี้ทุกคำ...และตรงตามพระไตรปิฎกมีตรงเดี๋ยวนี้ทุกคำ แค่๖ข้อที่คุณเขียนมาก็มีครบแล้วเดี๋ยวนี้ที่กายของคุณ...ปัญญาไม่ใช่จิตเออเนาะ จิตแค่เป็นประธานเสาธงยืนดูเฉยๆทำอะไรไม่ได้ยืนดูเจตสิกทำงานไปพอทำผิด จิตตูผิดด้วย555เวลาซื้อล็อตเตอรี่เพราะอยากถูกรางวัลน่ะโลภะ+โมหะมีอวิชชา แล้วเห็นข่าวหน้าหนังสือพิมพ์ไหมพระภิกษุถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่1โอ๊ยไม่รู๊ๆๆๆๆ ในเมื่อตถาคตให้สละเงินทองออกบวชรับเงินผิดที่1ไม่สละแถมเอาไปต่อลาภ555 ต้องสละก่อนปลงอาบัติค่ะ...อาบัติแปลว่าขาดจากการเป็นนักบวชแล้วแค่ห่มผ้าเหมือนมีขายเต็มตลาด ถูกรางวัลต้องสละเนี่ยไม่สละเก็บไปไว้ทำอะไรบวชฉันจากบิณฑบาตพอยังชีพไม่เก็บสะสมอะไรใช่ไหมคะ เหยียบย่ำสิกขาบทน้อยใหญ่กันเป็นว่าเล่นคำสอนแทนตถาคต/คิดไหมตายแล้วไปอบายภูมิ/คำสอนตรงจริง ลืมหูลืมตาดูพฤติกรรมต่างๆของคนที่ทำผิดสิคะทำอะไรเอาไว้...ชาวบ้านเขาฟังคำสอนจนตาสว่างกันแระ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 3 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |