57454.ลืมตา VS หลับตา

Rosarin

โลกสวย เขียน:

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

Rosarin เขียน:

อ้างคำพูด:

เข้าใจผิดหนักหนาสาหัสไป แล้วเธอ
เพราะเธอไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนพระปริยัติ
แถมไม่ได้ปฎิบัติ

เรยไม่รู้ว่า การเห็นสี ไม่ได้เฉพาะพระญานพระพุทธเจ้า
ในทศพลญาน มีเพียงญานเดียวที่ไม่มีในพระสาวกทั่วไป

คือ อาสาธารณญาน อันมีแต่พระพุทธองค์
ญานอื่น สามารถมีได้ ในพระสาวกทั่วไป

อสาธารณญาณ (ญาณที่ไม่มีทั่วไปแก่สาวกอื่น) ประกอบไปด้วย..
๑. อินทริยปโรปริยัตตญาณ ปรีชากำหนดรู้ความยิ่ง และความหย่อนแห่งอินทรีย์ของสัตว์ทั้งหลาย
๒. อาสยานุสยญาณ ปรีชากำหนดรู้อัทธยาศัยและกิเลสที่นอนเนื่องในสันดาน
๓. ยมกปาฏิหิรญาณ ญาณในยมกปาฏิหาริย์
๔. มหากรุณาสมาปัตติญาณ ญาณในมหากรุณาสมาบัติ
๕. สัพพัญญุตญาณ ญาณในความเป็นสัพพัญญู
๖. อนาวรณญาณ ญาณที่ไม่มีอะไรขัดขวางได้

เป็นเฉพาะพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น

เนี่ยเขาเรียกว่าท่องจำคำได้มากแต่ไม่รู้อะไรเลย555ไม่รู้เลยว่าปัญญาตนเองมีแค่ตรงได้เท่าที่คิดได้ตรง1คำ
ในกาลที่มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้จะมีสาวกที่มีปัญญารองลงมาจากพระพุทธเจ้าแค่1คนและท่านก็ไม่ได้เห็นสี
คำว่าดับนะคะคุณโมเมแถเก่งทราบไหมคะว่าไม่มีอดีตสัญญาคำต่างๆที่เป็นบัญญัติคำของตถาคตแม้แต่น้อย
เพราะปัญญาเจตสิกของตนเองรู้ชัดตรง1สัจจะที่คิดได้ที่ตัวก็ดับคนทั้งตัวแล้วที่เธอยังเกิดเพราะปัญญาน้อย
การท่องจำคำมันเป็นอดีตไม่ตามไปชาติหน้าเอาอะไรมาคิดลบหลู่คำสอนของพระพุทธเจ้าตรัสรู้ถึงจิตเห็นสี
ทราบไหมคะว่าชั่วตลอดเวลาที่ขาดการฟังพระธรรมและตนจะดีได้เมื่อเริ่มต้นฟังเข้าใจคือบุญประกอบญาณ
:b9:

ปล.ญาณ=วิปัสสนา=ปัญญา=รู้=เข้าใจความจริง=กำลังคิดเห็นถูกตามคำสอน=สัมมาทิฏฐิ=แยกแยะดีชั่วได้
สุตมยปัญญาคือหนทางแรกที่นำไปสู่การรู้ความจริงตรงตามคำสอนได้คือปริยัติ=สัจญาณตรงตามที่กำลังฟัง
เป็นมรรคลำดับแรกที่เบิกทางนำออกจากกิเลสโดยการพึ่งคำสอนเป็นประทีปนำทางออกจากกิเลสของตน
onion

นอกจากเธอจะอ้างส่งเดชผิดๆ เรื่องทศพลญาณ 6 อันมีแต่พระพุทธเจ้า

ที่ไม่มีเรื่องสีแล้ว

เธอยังผิดพลาดมหันต์ซ้ำอีก นะเธอ

ผิดพลาดอย่างมหันต์อีกแล้วหละเธอ
เพราะเธอไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ปฎืบัติไม่เป็น เพิ่งมาฟังยูทูป มาเมื่อเจ็ดปีในชาตินี้
เรยตื้นเขิน ไม่รุ้ว่า ที่ถูกต้องตามพระอภิธรรม

จิต เป็นธรรมชาติเกิดดับสืบต่อกันไป เพราะอำนาจปัจจัย 6 ปัจจัย
มาจากชาติก่อนได้ ไปต่อชาติหน้าก็ได้

และเพียงด้วยอำนาจของนานากขณิกกัมมปัจจัย
สามารถให้ผลสืบต่อเกิดขึ้นได้ในที่สุดแห่งโกฏิกัป เรย
ย่อมยังผลให้เกิดขึ้นในกาลที่บุคคลพึงเข้าถึงปัจจุบันได้
เพราะเป็นสภาพที่เจตนากุศลธรรม ได้ทำไว้เสร็จแล้ว
สืบเนื่องได้เป็นโกฎกัป นั้นไม่น้อยเรยใช่มั๊ยเธอ ยัยโรส

อ่านให้ตรงคำและก็เข้าใจตรงคำที่อ่านเท่านั้นทีละคำไม่แต่งคิดคำอื่นแย้งต่อเองนะ

เรา น่ะ ไม่รู้ว่า ตัวเองไม่รู้ แปลว่า กำลังมีกิเลส กำลังเห็นผิด
ไม่เคยจำถูก ตรงเห็นที่กำลังเห็น ตามคำสอน จำแต่ตัวอักษร
คือความคิดเห็นผิด ที่ไม่รู้ว่า คิดกับเห็นคนละขณะค่ะ คิดมืด เห็นสว่าง คิดนั้นเห็นไม่ได้ค่ะ
:b32:

อันนี้จะให้เม ตอบมั๊ยค๊ะ
หรือว่า คุณยัยโรส อยากคิดเขียนเอง ตอบตัวเอง

tongue

จะทำอะไรยังต้องมาถาม555
รู้มั๊ยคะกิเลสชอบทำตามใจอยากทำ
แต่ตถาคตบอกให้ฟังเพื่อให้เข้าใจคำของพระองค์
พระองค์ไม่เคยห้ามใครไม่ให้ทำอะไรเพราะห้ามไม่ได้ไม่เข้าใจเหรอ
ธัมมะเกิดแต่เหตุ...เดี๋ยวนี้เหตุปัจจัยที่จิตตั้งมั่นถึงแสนโกฏิขณะดับแล้วไม่มีตัวตนทำนะคะ
เมกำลังเห็นผิดไม่เข้าใจหรือคะว่าตัวเองเห็นอยู่เนี่ยตลอดเวลาเลยยึดติดในเห็นว่ามีสิ่งหนึ่งสิ่งใดคืออัตตา
เรียกว่าอัตตานุทิฏฐิคือยึดสิ่งที่เห็นทั้งหมดนอกตัวที่เราเห็นไงคะกำลังมีสักกายทิฏฐิที่ยึดเห็นเป็นใหญ่ไงคะ
คิดว่าพูดและจำทุกคำที่พระพุทธเจ้าบัญญัติเอาไว้ทั้งหมดยึดเอาไว้ไม่ปล่อยวางนั่นน่ะมีปัญญาเท่าตถาคต รึ
:b32:

ฟังหน่อยไหมจะได้เพิ่มปัญญาได้ตามปกติตอนเป็นคนธรรมดาๆน่ะฟังให้เข้าใจในภาษาที่ตัวเองเข้าใจ
https://youtu.be/dHApmIPnc64
:b12:

กรัชกาย

นี่ทั้งหลับตา ทั้งลืมตา

ทำสมาธิแล้วร่างกายสั่นจริงๆ

ดิฉันเริ่มทำสมาธิได้สองเดือนกว่าๆแล้ว...พยายามทำสมาธิให้ได้วันละสาม ชม. แรกๆก็จะบริกรรม ดูลม จนเห็นจิตเด่นชัด ก็จะบริกรรมไม่ได้แล้ว แต่หากฟุ้งก็จะบริกรรมอีก ตอนนี้แยกร่างกายกับจิตได้บ้างแล้ว เห็นว่าร่างกายไม่ใช่ของเรา เห็นตัวรู้
จนเมื่อวานนี้และวันนี้ ได้เกิดการสั่นขึ้นที่ร่างกายส่วนตัวขึ้น มันเริ่มจากตุบๆ เหนือก้น แรกๆเห็นไม่ชัด จนมันตุบๆๆๆ แรงขึ้นๆ จนกลายเป็นสั่น และสั่นรุนแรงขึ้น เหมือนแผ่นดินไหว แต่ก็พยายามประคองจิตเอาไว้ ให้นิ่งดูเฉยๆ
ในระหว่างนั้น เริ่มฟุ้งซ่านขึ้นมานิดๆ แต่ก็ประคองไว้ จนรู้สึกเหนื่อย ปวดหัว เพราะสั่นแรงมาก มาแล้วก็หาย แล้วก็มาอีก จนถึงวันนี้ๆ
ลองลืมตาดูว่ามันเป็นอย่างไร พอลืมตาดูก็เห็นว่าร่างกายสั่นจริง สั่นแต่ช่วงตัว ก็หลับตาประคองสติต่อ ให้เห็นการเกิดดับ (บางทีนอกจากเหนือก้นจะตุบๆ แล้ว ที่บริเวณกลางอก ก็ตุบๆๆ สังเกตได้ชัด บริเวณหัวด้วย แต่ไม่มากเท่าไหร่) ไม่ทราบว่ามีท่านใดเคยทำสมาธิแล้วเป็นแบบนี้บ้างคะ

Rosarin

กรัชกาย เขียน:

นี่ทั้งหลับตา ทั้งลืมตา

ทำสมาธิแล้วร่างกายสั่นจริงๆ

ดิฉันเริ่มทำสมาธิได้สองเดือนกว่าๆแล้ว...พยายามทำสมาธิให้ได้วันละสาม ชม. แรกๆก็จะบริกรรม ดูลม จนเห็นจิตเด่นชัด ก็จะบริกรรมไม่ได้แล้ว แต่หากฟุ้งก็จะบริกรรมอีก ตอนนี้แยกร่างกายกับจิตได้บ้างแล้ว เห็นว่าร่างกายไม่ใช่ของเรา เห็นตัวรู้
จนเมื่อวานนี้และวันนี้ ได้เกิดการสั่นขึ้นที่ร่างกายส่วนตัวขึ้น มันเริ่มจากตุบๆ เหนือก้น แรกๆเห็นไม่ชัด จนมันตุบๆๆๆ แรงขึ้นๆ จนกลายเป็นสั่น และสั่นรุนแรงขึ้น เหมือนแผ่นดินไหว แต่ก็พยายามประคองจิตเอาไว้ ให้นิ่งดูเฉยๆ
ในระหว่างนั้น เริ่มฟุ้งซ่านขึ้นมานิดๆ แต่ก็ประคองไว้ จนรู้สึกเหนื่อย ปวดหัว เพราะสั่นแรงมาก มาแล้วก็หาย แล้วก็มาอีก จนถึงวันนี้ๆ
ลองลืมตาดูว่ามันเป็นอย่างไร พอลืมตาดูก็เห็นว่าร่างกายสั่นจริง สั่นแต่ช่วงตัว ก็หลับตาประคองสติต่อ ให้เห็นการเกิดดับ (บางทีนอกจากเหนือก้นจะตุบๆ แล้ว ที่บริเวณกลางอก ก็ตุบๆๆ สังเกตได้ชัด บริเวณหัวด้วย แต่ไม่มากเท่าไหร่) ไม่ทราบว่ามีท่านใดเคยทำสมาธิแล้วเป็นแบบนี้บ้างคะ

อ่านช้าๆชัดๆให้เข้าใจไม่คิดต่อเองอีกนะ
ทำอะไรไม่ได้นอกจากศรัทธาฟังคำตถาคต
อ่านสิ่งที่โรสเขียนบอกตรงๆให้เข้าใจถูกตาม
ตถาคตสอนว่าจิตเกิดดับสืบต่อไม่เคยขาดสาย
และเกิดดับทีละ1ขณะสลับกันตั้งมั่นเป็นสมาธิตรงแต่ละ1ทาง
มีแล้วสมาธิไม่เคยปนกันไม่ซ้ำกันทุกขณะจิตใหม่หมดในสังสารวัฏฏ์
จิตกำลังมีไม่มีใครทำเหตุปัจจัยของจิตแต่ละ1ขณะที่กำลังเกิดดับมันเกิดแล้ว
แต่เราน่ะไม่รู้ว่ามันกำลังเกิดดับเป็นสมาธิตั้งมั่นตรงทางทุกขณะจิตทั้งแสนโกฏิขณะ
เดี๋ยวนี้เห็นก็เห็นแล้วได้ยินก็มีแล้วมีครบแล้วขาดแค่ไม่สะสมปัญญาคือไม่ฟังเพื่อให้คิดถูกตรงตามคำตถาคต
รู้ไหมคะทำได้แค่บอกให้ฟังใครไม่ฟังก็นะเกิดมาพบคำสอนแล้วแต่ไม่ฟังเพื่อให้คิดเห็นถูกตามได้_โมฆะบุรุษ
https://youtu.be/odhSBq9JfIk
:b12:

กรัชกาย

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

นี่ทั้งหลับตา ทั้งลืมตา

ทำสมาธิแล้วร่างกายสั่นจริงๆ

ดิฉันเริ่มทำสมาธิได้สองเดือนกว่าๆแล้ว...พยายามทำสมาธิให้ได้วันละสาม ชม. แรกๆก็จะบริกรรม ดูลม จนเห็นจิตเด่นชัด ก็จะบริกรรมไม่ได้แล้ว แต่หากฟุ้งก็จะบริกรรมอีก ตอนนี้แยกร่างกายกับจิตได้บ้างแล้ว เห็นว่าร่างกายไม่ใช่ของเรา เห็นตัวรู้
จนเมื่อวานนี้และวันนี้ ได้เกิดการสั่นขึ้นที่ร่างกายส่วนตัวขึ้น มันเริ่มจากตุบๆ เหนือก้น แรกๆเห็นไม่ชัด จนมันตุบๆๆๆ แรงขึ้นๆ จนกลายเป็นสั่น และสั่นรุนแรงขึ้น เหมือนแผ่นดินไหว แต่ก็พยายามประคองจิตเอาไว้ ให้นิ่งดูเฉยๆ
ในระหว่างนั้น เริ่มฟุ้งซ่านขึ้นมานิดๆ แต่ก็ประคองไว้ จนรู้สึกเหนื่อย ปวดหัว เพราะสั่นแรงมาก มาแล้วก็หาย แล้วก็มาอีก จนถึงวันนี้ๆ
ลองลืมตาดูว่ามันเป็นอย่างไร พอลืมตาดูก็เห็นว่าร่างกายสั่นจริง สั่นแต่ช่วงตัว ก็หลับตาประคองสติต่อ ให้เห็นการเกิดดับ (บางทีนอกจากเหนือก้นจะตุบๆ แล้ว ที่บริเวณกลางอก ก็ตุบๆๆ สังเกตได้ชัด บริเวณหัวด้วย แต่ไม่มากเท่าไหร่) ไม่ทราบว่ามีท่านใดเคยทำสมาธิแล้วเป็นแบบนี้บ้างคะ

อ่านช้าๆชัดๆให้เข้าใจไม่คิดต่อเองอีกนะ
ทำอะไรไม่ได้นอกจากศรัทธาฟังคำตถาคต
อ่านสิ่งที่โรสเขียนบอกตรงๆให้เข้าใจถูกตาม
ตถาคตสอนว่าจิตเกิดดับสืบต่อไม่เคยขาดสาย
และเกิดดับทีละ1ขณะสลับกันตั้งมั่นเป็นสมาธิตรงแต่ละ1ทาง
มีแล้วสมาธิไม่เคยปนกันไม่ซ้ำกันทุกขณะจิตใหม่หมดในสังสารวัฏฏ์
จิตกำลังมีไม่มีใครทำเหตุปัจจัยของจิตแต่ละ1ขณะที่กำลังเกิดดับมันเกิดแล้ว
แต่เราน่ะไม่รู้ว่ามันกำลังเกิดดับเป็นสมาธิตั้งมั่นตรงทางทุกขณะจิตทั้งแสนโกฏิขณะ
เดี๋ยวนี้เห็นก็เห็นแล้วได้ยินก็มีแล้วมีครบแล้วขาดแค่ไม่สะสมปัญญาคือไม่ฟังเพื่อให้คิดถูกตรงตามคำตถาคต
รู้ไหมคะทำได้แค่บอกให้ฟังใครไม่ฟังก็นะเกิดมาพบคำสอนแล้วแต่ไม่ฟังเพื่อให้คิดเห็นถูกตามได้_โมฆะบุรุษ
https://youtu.be/odhSBq9JfIk
:b12:

นั่นแหละ ความคิดแนวนิครนถ์ :b16:

Rosarin

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

นี่ทั้งหลับตา ทั้งลืมตา

ทำสมาธิแล้วร่างกายสั่นจริงๆ

ดิฉันเริ่มทำสมาธิได้สองเดือนกว่าๆแล้ว...พยายามทำสมาธิให้ได้วันละสาม ชม. แรกๆก็จะบริกรรม ดูลม จนเห็นจิตเด่นชัด ก็จะบริกรรมไม่ได้แล้ว แต่หากฟุ้งก็จะบริกรรมอีก ตอนนี้แยกร่างกายกับจิตได้บ้างแล้ว เห็นว่าร่างกายไม่ใช่ของเรา เห็นตัวรู้
จนเมื่อวานนี้และวันนี้ ได้เกิดการสั่นขึ้นที่ร่างกายส่วนตัวขึ้น มันเริ่มจากตุบๆ เหนือก้น แรกๆเห็นไม่ชัด จนมันตุบๆๆๆ แรงขึ้นๆ จนกลายเป็นสั่น และสั่นรุนแรงขึ้น เหมือนแผ่นดินไหว แต่ก็พยายามประคองจิตเอาไว้ ให้นิ่งดูเฉยๆ
ในระหว่างนั้น เริ่มฟุ้งซ่านขึ้นมานิดๆ แต่ก็ประคองไว้ จนรู้สึกเหนื่อย ปวดหัว เพราะสั่นแรงมาก มาแล้วก็หาย แล้วก็มาอีก จนถึงวันนี้ๆ
ลองลืมตาดูว่ามันเป็นอย่างไร พอลืมตาดูก็เห็นว่าร่างกายสั่นจริง สั่นแต่ช่วงตัว ก็หลับตาประคองสติต่อ ให้เห็นการเกิดดับ (บางทีนอกจากเหนือก้นจะตุบๆ แล้ว ที่บริเวณกลางอก ก็ตุบๆๆ สังเกตได้ชัด บริเวณหัวด้วย แต่ไม่มากเท่าไหร่) ไม่ทราบว่ามีท่านใดเคยทำสมาธิแล้วเป็นแบบนี้บ้างคะ

อ่านช้าๆชัดๆให้เข้าใจไม่คิดต่อเองอีกนะ
ทำอะไรไม่ได้นอกจากศรัทธาฟังคำตถาคต
อ่านสิ่งที่โรสเขียนบอกตรงๆให้เข้าใจถูกตาม
ตถาคตสอนว่าจิตเกิดดับสืบต่อไม่เคยขาดสาย
และเกิดดับทีละ1ขณะสลับกันตั้งมั่นเป็นสมาธิตรงแต่ละ1ทาง
มีแล้วสมาธิไม่เคยปนกันไม่ซ้ำกันทุกขณะจิตใหม่หมดในสังสารวัฏฏ์
จิตกำลังมีไม่มีใครทำเหตุปัจจัยของจิตแต่ละ1ขณะที่กำลังเกิดดับมันเกิดแล้ว
แต่เราน่ะไม่รู้ว่ามันกำลังเกิดดับเป็นสมาธิตั้งมั่นตรงทางทุกขณะจิตทั้งแสนโกฏิขณะ
เดี๋ยวนี้เห็นก็เห็นแล้วได้ยินก็มีแล้วมีครบแล้วขาดแค่ไม่สะสมปัญญาคือไม่ฟังเพื่อให้คิดถูกตรงตามคำตถาคต
รู้ไหมคะทำได้แค่บอกให้ฟังใครไม่ฟังก็นะเกิดมาพบคำสอนแล้วแต่ไม่ฟังเพื่อให้คิดเห็นถูกตามได้_โมฆะบุรุษ
https://youtu.be/odhSBq9JfIk
:b12:

นั่นแหละ ความคิดแนวนิครนถ์ :b16:

คิด ตาม อ่าน ให้ ตรง ที่ กาย ตน มี จิต ไม่ เกิด นอก กาย ตน
กำลังคิดเห็นที่กำลังเห็นผิดอยู่คิดนึกพูดทำไปตามที่เห็นผิดอยู่
ไม่ได้กำลังทำฟังเสียงจากคนอื่นอธิบายให้เข้าใจตรง1ทางที่กำลังมี
:b32:

กรัชกาย

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

นี่ทั้งหลับตา ทั้งลืมตา

ทำสมาธิแล้วร่างกายสั่นจริงๆ

ดิฉันเริ่มทำสมาธิได้สองเดือนกว่าๆแล้ว...พยายามทำสมาธิให้ได้วันละสาม ชม. แรกๆก็จะบริกรรม ดูลม จนเห็นจิตเด่นชัด ก็จะบริกรรมไม่ได้แล้ว แต่หากฟุ้งก็จะบริกรรมอีก ตอนนี้แยกร่างกายกับจิตได้บ้างแล้ว เห็นว่าร่างกายไม่ใช่ของเรา เห็นตัวรู้
จนเมื่อวานนี้และวันนี้ ได้เกิดการสั่นขึ้นที่ร่างกายส่วนตัวขึ้น มันเริ่มจากตุบๆ เหนือก้น แรกๆเห็นไม่ชัด จนมันตุบๆๆๆ แรงขึ้นๆ จนกลายเป็นสั่น และสั่นรุนแรงขึ้น เหมือนแผ่นดินไหว แต่ก็พยายามประคองจิตเอาไว้ ให้นิ่งดูเฉยๆ
ในระหว่างนั้น เริ่มฟุ้งซ่านขึ้นมานิดๆ แต่ก็ประคองไว้ จนรู้สึกเหนื่อย ปวดหัว เพราะสั่นแรงมาก มาแล้วก็หาย แล้วก็มาอีก จนถึงวันนี้ๆ
ลองลืมตาดูว่ามันเป็นอย่างไร พอลืมตาดูก็เห็นว่าร่างกายสั่นจริง สั่นแต่ช่วงตัว ก็หลับตาประคองสติต่อ ให้เห็นการเกิดดับ (บางทีนอกจากเหนือก้นจะตุบๆ แล้ว ที่บริเวณกลางอก ก็ตุบๆๆ สังเกตได้ชัด บริเวณหัวด้วย แต่ไม่มากเท่าไหร่) ไม่ทราบว่ามีท่านใดเคยทำสมาธิแล้วเป็นแบบนี้บ้างคะ

อ่านช้าๆชัดๆให้เข้าใจไม่คิดต่อเองอีกนะ
ทำอะไรไม่ได้นอกจากศรัทธาฟังคำตถาคต
อ่านสิ่งที่โรสเขียนบอกตรงๆให้เข้าใจถูกตาม
ตถาคตสอนว่าจิตเกิดดับสืบต่อไม่เคยขาดสาย
และเกิดดับทีละ1ขณะสลับกันตั้งมั่นเป็นสมาธิตรงแต่ละ1ทาง
มีแล้วสมาธิไม่เคยปนกันไม่ซ้ำกันทุกขณะจิตใหม่หมดในสังสารวัฏฏ์
จิตกำลังมีไม่มีใครทำเหตุปัจจัยของจิตแต่ละ1ขณะที่กำลังเกิดดับมันเกิดแล้ว
แต่เราน่ะไม่รู้ว่ามันกำลังเกิดดับเป็นสมาธิตั้งมั่นตรงทางทุกขณะจิตทั้งแสนโกฏิขณะ
เดี๋ยวนี้เห็นก็เห็นแล้วได้ยินก็มีแล้วมีครบแล้วขาดแค่ไม่สะสมปัญญาคือไม่ฟังเพื่อให้คิดถูกตรงตามคำตถาคต
รู้ไหมคะทำได้แค่บอกให้ฟังใครไม่ฟังก็นะเกิดมาพบคำสอนแล้วแต่ไม่ฟังเพื่อให้คิดเห็นถูกตามได้_โมฆะบุรุษ
https://youtu.be/odhSBq9JfIk
:b12:

นั่นแหละ ความคิดแนวนิครนถ์ :b16:

คิด ตาม อ่าน ให้ ตรง ที่ กาย ตน มี จิต ไม่ เกิด นอก กาย ตน
กำลังคิดเห็นที่กำลังเห็นผิดอยู่คิดนึกพูดทำไปตามที่เห็นผิดอยู่
ไม่ได้กำลังทำฟังเสียงจากคนอื่นอธิบายให้เข้าใจตรง1ทางที่กำลังมี
:b32:

หู ฟังเสียงจากข้างนอก

ไปศึกษาเรื่องอายตนะภายนอก อายตนะภายในนะขอรับ :b13:

Rosarin

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

นี่ทั้งหลับตา ทั้งลืมตา

ทำสมาธิแล้วร่างกายสั่นจริงๆ

ดิฉันเริ่มทำสมาธิได้สองเดือนกว่าๆแล้ว...พยายามทำสมาธิให้ได้วันละสาม ชม. แรกๆก็จะบริกรรม ดูลม จนเห็นจิตเด่นชัด ก็จะบริกรรมไม่ได้แล้ว แต่หากฟุ้งก็จะบริกรรมอีก ตอนนี้แยกร่างกายกับจิตได้บ้างแล้ว เห็นว่าร่างกายไม่ใช่ของเรา เห็นตัวรู้
จนเมื่อวานนี้และวันนี้ ได้เกิดการสั่นขึ้นที่ร่างกายส่วนตัวขึ้น มันเริ่มจากตุบๆ เหนือก้น แรกๆเห็นไม่ชัด จนมันตุบๆๆๆ แรงขึ้นๆ จนกลายเป็นสั่น และสั่นรุนแรงขึ้น เหมือนแผ่นดินไหว แต่ก็พยายามประคองจิตเอาไว้ ให้นิ่งดูเฉยๆ
ในระหว่างนั้น เริ่มฟุ้งซ่านขึ้นมานิดๆ แต่ก็ประคองไว้ จนรู้สึกเหนื่อย ปวดหัว เพราะสั่นแรงมาก มาแล้วก็หาย แล้วก็มาอีก จนถึงวันนี้ๆ
ลองลืมตาดูว่ามันเป็นอย่างไร พอลืมตาดูก็เห็นว่าร่างกายสั่นจริง สั่นแต่ช่วงตัว ก็หลับตาประคองสติต่อ ให้เห็นการเกิดดับ (บางทีนอกจากเหนือก้นจะตุบๆ แล้ว ที่บริเวณกลางอก ก็ตุบๆๆ สังเกตได้ชัด บริเวณหัวด้วย แต่ไม่มากเท่าไหร่) ไม่ทราบว่ามีท่านใดเคยทำสมาธิแล้วเป็นแบบนี้บ้างคะ

อ่านช้าๆชัดๆให้เข้าใจไม่คิดต่อเองอีกนะ
ทำอะไรไม่ได้นอกจากศรัทธาฟังคำตถาคต
อ่านสิ่งที่โรสเขียนบอกตรงๆให้เข้าใจถูกตาม
ตถาคตสอนว่าจิตเกิดดับสืบต่อไม่เคยขาดสาย
และเกิดดับทีละ1ขณะสลับกันตั้งมั่นเป็นสมาธิตรงแต่ละ1ทาง
มีแล้วสมาธิไม่เคยปนกันไม่ซ้ำกันทุกขณะจิตใหม่หมดในสังสารวัฏฏ์
จิตกำลังมีไม่มีใครทำเหตุปัจจัยของจิตแต่ละ1ขณะที่กำลังเกิดดับมันเกิดแล้ว
แต่เราน่ะไม่รู้ว่ามันกำลังเกิดดับเป็นสมาธิตั้งมั่นตรงทางทุกขณะจิตทั้งแสนโกฏิขณะ
เดี๋ยวนี้เห็นก็เห็นแล้วได้ยินก็มีแล้วมีครบแล้วขาดแค่ไม่สะสมปัญญาคือไม่ฟังเพื่อให้คิดถูกตรงตามคำตถาคต
รู้ไหมคะทำได้แค่บอกให้ฟังใครไม่ฟังก็นะเกิดมาพบคำสอนแล้วแต่ไม่ฟังเพื่อให้คิดเห็นถูกตามได้_โมฆะบุรุษ
https://youtu.be/odhSBq9JfIk
:b12:

นั่นแหละ ความคิดแนวนิครนถ์ :b16:

คิด ตาม อ่าน ให้ ตรง ที่ กาย ตน มี จิต ไม่ เกิด นอก กาย ตน
กำลังคิดเห็นที่กำลังเห็นผิดอยู่คิดนึกพูดทำไปตามที่เห็นผิดอยู่
ไม่ได้กำลังทำฟังเสียงจากคนอื่นอธิบายให้เข้าใจตรง1ทางที่กำลังมี
:b32:

หู ฟังเสียงจากข้างนอก

ไปศึกษาเรื่องอายตนะภายนอก อายตนะภายในนะขอรับ :b13:

ประสาทหูรับเสียงดับในหูไม่มีเสียงนอกหูแล้ว
ตัวเองคิดตามเห็นผิดอยู่ตอนมีเสียงไม่มีแสง
ตอนเห็นนั้นไม่มีคิดและตอนคิดไม่เห็นและไม่มีแสง
ตัวเองคิดพร้อมเห็นพร้อมฟังเสียงผิดไหมคะคิดให้ตรง1ทางไม่มีทางที่เกิดด้วยกัน
ตัวเองคิดเห็นผิดมันปนกันหมดเลยตอนคิดกับตอนได้ยินเสียงมืดตัวเองเห็นพร้อมมีเสียงพร้อมคิดผิดไหมคะ
:b32:

กรัชกาย

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

นี่ทั้งหลับตา ทั้งลืมตา

ทำสมาธิแล้วร่างกายสั่นจริงๆ

ดิฉันเริ่มทำสมาธิได้สองเดือนกว่าๆแล้ว...พยายามทำสมาธิให้ได้วันละสาม ชม. แรกๆก็จะบริกรรม ดูลม จนเห็นจิตเด่นชัด ก็จะบริกรรมไม่ได้แล้ว แต่หากฟุ้งก็จะบริกรรมอีก ตอนนี้แยกร่างกายกับจิตได้บ้างแล้ว เห็นว่าร่างกายไม่ใช่ของเรา เห็นตัวรู้
จนเมื่อวานนี้และวันนี้ ได้เกิดการสั่นขึ้นที่ร่างกายส่วนตัวขึ้น มันเริ่มจากตุบๆ เหนือก้น แรกๆเห็นไม่ชัด จนมันตุบๆๆๆ แรงขึ้นๆ จนกลายเป็นสั่น และสั่นรุนแรงขึ้น เหมือนแผ่นดินไหว แต่ก็พยายามประคองจิตเอาไว้ ให้นิ่งดูเฉยๆ
ในระหว่างนั้น เริ่มฟุ้งซ่านขึ้นมานิดๆ แต่ก็ประคองไว้ จนรู้สึกเหนื่อย ปวดหัว เพราะสั่นแรงมาก มาแล้วก็หาย แล้วก็มาอีก จนถึงวันนี้ๆ
ลองลืมตาดูว่ามันเป็นอย่างไร พอลืมตาดูก็เห็นว่าร่างกายสั่นจริง สั่นแต่ช่วงตัว ก็หลับตาประคองสติต่อ ให้เห็นการเกิดดับ (บางทีนอกจากเหนือก้นจะตุบๆ แล้ว ที่บริเวณกลางอก ก็ตุบๆๆ สังเกตได้ชัด บริเวณหัวด้วย แต่ไม่มากเท่าไหร่) ไม่ทราบว่ามีท่านใดเคยทำสมาธิแล้วเป็นแบบนี้บ้างคะ

อ่านช้าๆชัดๆให้เข้าใจไม่คิดต่อเองอีกนะ
ทำอะไรไม่ได้นอกจากศรัทธาฟังคำตถาคต
อ่านสิ่งที่โรสเขียนบอกตรงๆให้เข้าใจถูกตาม
ตถาคตสอนว่าจิตเกิดดับสืบต่อไม่เคยขาดสาย
และเกิดดับทีละ1ขณะสลับกันตั้งมั่นเป็นสมาธิตรงแต่ละ1ทาง
มีแล้วสมาธิไม่เคยปนกันไม่ซ้ำกันทุกขณะจิตใหม่หมดในสังสารวัฏฏ์
จิตกำลังมีไม่มีใครทำเหตุปัจจัยของจิตแต่ละ1ขณะที่กำลังเกิดดับมันเกิดแล้ว
แต่เราน่ะไม่รู้ว่ามันกำลังเกิดดับเป็นสมาธิตั้งมั่นตรงทางทุกขณะจิตทั้งแสนโกฏิขณะ
เดี๋ยวนี้เห็นก็เห็นแล้วได้ยินก็มีแล้วมีครบแล้วขาดแค่ไม่สะสมปัญญาคือไม่ฟังเพื่อให้คิดถูกตรงตามคำตถาคต
รู้ไหมคะทำได้แค่บอกให้ฟังใครไม่ฟังก็นะเกิดมาพบคำสอนแล้วแต่ไม่ฟังเพื่อให้คิดเห็นถูกตามได้_โมฆะบุรุษ
https://youtu.be/odhSBq9JfIk
:b12:

นั่นแหละ ความคิดแนวนิครนถ์ :b16:

คิด ตาม อ่าน ให้ ตรง ที่ กาย ตน มี จิต ไม่ เกิด นอก กาย ตน
กำลังคิดเห็นที่กำลังเห็นผิดอยู่คิดนึกพูดทำไปตามที่เห็นผิดอยู่
ไม่ได้กำลังทำฟังเสียงจากคนอื่นอธิบายให้เข้าใจตรง1ทางที่กำลังมี
:b32:

หู ฟังเสียงจากข้างนอก

ไปศึกษาเรื่องอายตนะภายนอก อายตนะภายในนะขอรับ :b13:

ประสาทหูรับเสียงดับในหูไม่มีเสียงนอกหูแล้ว
ตัวเองคิดตามเห็นผิดอยู่ตอนมีเสียงไม่มีแสง
ตอนเห็นนั้นไม่มีคิดและตอนคิดไม่เห็นและไม่มีแสง
ตัวเองคิดพร้อมเห็นพร้อมฟังเสียงผิดไหมคะคิดให้ตรง1ทางไม่มีทางที่เกิดด้วยกัน
ตัวเองคิดเห็นผิดมันปนกันหมดเลยตอนคิดกับตอนได้ยินเสียงมืดตัวเองเห็นพร้อมมีเสียงพร้อมคิดผิดไหมคะ
:b32:

เห็นแล้วเลอะเทอะรำคาญเบื่อตอบแล้ว :b1:

Rosarin

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

นี่ทั้งหลับตา ทั้งลืมตา

ทำสมาธิแล้วร่างกายสั่นจริงๆ

ดิฉันเริ่มทำสมาธิได้สองเดือนกว่าๆแล้ว...พยายามทำสมาธิให้ได้วันละสาม ชม. แรกๆก็จะบริกรรม ดูลม จนเห็นจิตเด่นชัด ก็จะบริกรรมไม่ได้แล้ว แต่หากฟุ้งก็จะบริกรรมอีก ตอนนี้แยกร่างกายกับจิตได้บ้างแล้ว เห็นว่าร่างกายไม่ใช่ของเรา เห็นตัวรู้
จนเมื่อวานนี้และวันนี้ ได้เกิดการสั่นขึ้นที่ร่างกายส่วนตัวขึ้น มันเริ่มจากตุบๆ เหนือก้น แรกๆเห็นไม่ชัด จนมันตุบๆๆๆ แรงขึ้นๆ จนกลายเป็นสั่น และสั่นรุนแรงขึ้น เหมือนแผ่นดินไหว แต่ก็พยายามประคองจิตเอาไว้ ให้นิ่งดูเฉยๆ
ในระหว่างนั้น เริ่มฟุ้งซ่านขึ้นมานิดๆ แต่ก็ประคองไว้ จนรู้สึกเหนื่อย ปวดหัว เพราะสั่นแรงมาก มาแล้วก็หาย แล้วก็มาอีก จนถึงวันนี้ๆ
ลองลืมตาดูว่ามันเป็นอย่างไร พอลืมตาดูก็เห็นว่าร่างกายสั่นจริง สั่นแต่ช่วงตัว ก็หลับตาประคองสติต่อ ให้เห็นการเกิดดับ (บางทีนอกจากเหนือก้นจะตุบๆ แล้ว ที่บริเวณกลางอก ก็ตุบๆๆ สังเกตได้ชัด บริเวณหัวด้วย แต่ไม่มากเท่าไหร่) ไม่ทราบว่ามีท่านใดเคยทำสมาธิแล้วเป็นแบบนี้บ้างคะ

อ่านช้าๆชัดๆให้เข้าใจไม่คิดต่อเองอีกนะ
ทำอะไรไม่ได้นอกจากศรัทธาฟังคำตถาคต
อ่านสิ่งที่โรสเขียนบอกตรงๆให้เข้าใจถูกตาม
ตถาคตสอนว่าจิตเกิดดับสืบต่อไม่เคยขาดสาย
และเกิดดับทีละ1ขณะสลับกันตั้งมั่นเป็นสมาธิตรงแต่ละ1ทาง
มีแล้วสมาธิไม่เคยปนกันไม่ซ้ำกันทุกขณะจิตใหม่หมดในสังสารวัฏฏ์
จิตกำลังมีไม่มีใครทำเหตุปัจจัยของจิตแต่ละ1ขณะที่กำลังเกิดดับมันเกิดแล้ว
แต่เราน่ะไม่รู้ว่ามันกำลังเกิดดับเป็นสมาธิตั้งมั่นตรงทางทุกขณะจิตทั้งแสนโกฏิขณะ
เดี๋ยวนี้เห็นก็เห็นแล้วได้ยินก็มีแล้วมีครบแล้วขาดแค่ไม่สะสมปัญญาคือไม่ฟังเพื่อให้คิดถูกตรงตามคำตถาคต
รู้ไหมคะทำได้แค่บอกให้ฟังใครไม่ฟังก็นะเกิดมาพบคำสอนแล้วแต่ไม่ฟังเพื่อให้คิดเห็นถูกตามได้_โมฆะบุรุษ
https://youtu.be/odhSBq9JfIk
:b12:

นั่นแหละ ความคิดแนวนิครนถ์ :b16:

คิด ตาม อ่าน ให้ ตรง ที่ กาย ตน มี จิต ไม่ เกิด นอก กาย ตน
กำลังคิดเห็นที่กำลังเห็นผิดอยู่คิดนึกพูดทำไปตามที่เห็นผิดอยู่
ไม่ได้กำลังทำฟังเสียงจากคนอื่นอธิบายให้เข้าใจตรง1ทางที่กำลังมี
:b32:

หู ฟังเสียงจากข้างนอก

ไปศึกษาเรื่องอายตนะภายนอก อายตนะภายในนะขอรับ :b13:

ประสาทหูรับเสียงดับในหูไม่มีเสียงนอกหูแล้ว
ตัวเองคิดตามเห็นผิดอยู่ตอนมีเสียงไม่มีแสง
ตอนเห็นนั้นไม่มีคิดและตอนคิดไม่เห็นและไม่มีแสง
ตัวเองคิดพร้อมเห็นพร้อมฟังเสียงผิดไหมคะคิดให้ตรง1ทางไม่มีทางที่เกิดด้วยกัน
ตัวเองคิดเห็นผิดมันปนกันหมดเลยตอนคิดกับตอนได้ยินเสียงมืดตัวเองเห็นพร้อมมีเสียงพร้อมคิดผิดไหมคะ
:b32:

เห็นแล้วเลอะเทอะรำคาญเบื่อตอบแล้ว :b1:

เบื่อเป็นธัมมะเป็นอกุศลเจตสิกที่ทำให้จิตสะสมกิเลสอวิชชา
:b12:

บอกยังไงก็ไม่เข้าใจเลยนะคำสอนนั้นยากมากมายมหาศาล
จะคิดจะจำบัญญัติได้หมดทุกคำในพระไตรปิฎกก็รู้ความจริงเองไม่ได้
บอกแล้วบอกอีกว่าให้เริ่มต้นฟังเพื่อสะสมปัญญาเจตสิกตรงปัจจุบันธรรม
ขณะนี้เป็นตัวเราคิดตามตัวอักษรไม่ใช่การทำฟังจากคนอื่นพูดให้เข้าใจตรงสัจจะตรง1ทาง
:b32:

จะสิกขาคำสอนเพื่อให้เกิดปัญญาตามคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ใช่ไปจำบัญญัติคำมันคืออดีตสัญญา
บอกว่าให้รู้สึกที่ตัวตนของตนเองตามเสียงว่าตัวเองคิดตามตรงที่กำลังได้ยินตรงทางไหนที่กำลังมีเดี๋ยวนี้
ไม่มีใครคิดถูกตามคำสอนตรงความจริงที่มีที่กายใจของตัวตนคนอื่นได้เข้าใจไหมคะต้องคิดตรงที่กายตนมี
เดี๋ยวนี้กำลังฟังว่าสภาพธัมมะที่กำลังมีมันครบทั้ง6ทางมันเลือกไม่ได้ว่าจะรู้อันไหนก่อนเพราะดับนับไม่ถ้วน
จำเป็นในการฟังเพื่อคิดถูกตามได้ให้ตรงทีละ1ทางเพราะการศึกษาแต่ละทางไม่มีตัวจริงธัมมะอันเดียวกัน
ศึกษาทางตาก็มีทางตาทางเดียวละเอียดมีอะไรบ้างต้องเข้าใจถูกให้ตรงเพราะเห็นเป็นใหญ่พาเห็นผิดอยู่
จะคิดเห็นถูกตามได้ตอนกำลังฟังเรื่องเห็นเข้าใจเรื่องเห็นถูกตรงเห็นที่กำลังเห็นไม่ปนกับทางอื่นเข้าใจมั๊ย
https://youtu.be/4jHNhVeFdKU
:b12:

Rosarin

วินัยนำกิเลสออกยังไงฟังบ้างจะได้เข้าใจถูกตามคำสอนของตถาคต
https://youtu.be/RY1u8f3k52w
:b12:

Rosarin

ภาพที่ปรากฏให้เห็นได้เดี๋ยวนี้เป็นอดีตสีหลากสีตัดกันจนปรากฏรูปร่างเป็นสิ่งต่างๆเป็นเงาสีที่มหาภูตรูป
มหาภูตรูปรู้ว่ามีที่ตั้งเมื่อสัมผัสแตะต้องจะรู้ว่ามีที่ตั้งของมหาภูตรูปเมื่อใช้กายปสาทะไม่ใช่จักขุปสาทะ
อ่ะทีนี้คิดตามนะคะเห็นลูกเดินมาหาไกลๆคือเงาสีเดินมาถึงตัวกอดลูกถึงรู้ว่ามีเย็นร้อนอ่อนแข็งตึงไหว
onion

Rosarin

Rosarin เขียน:

Kiss
ภาพที่ปรากฏให้เห็นได้เดี๋ยวนี้เป็นอดีตสีหลากสีตัดกันจนปรากฏรูปร่างเป็นสิ่งต่างๆเป็นเงาสีที่มหาภูตรูป
มหาภูตรูปรู้ว่ามีที่ตั้งเมื่อสัมผัสแตะต้องจะรู้ว่ามีที่ตั้งของมหาภูตรูปเมื่อใช้กายปสาทะไม่ใช่จักขุปสาทะ
อ่ะทีนี้คิดตามนะคะเห็นลูกเดินมาหาไกลๆคือเงาสีเดินมาถึงตัวกอดลูกถึงรู้ว่ามีเย็นร้อนอ่อนแข็งตึงไหว
onion

ที่เห็นลูกเดินมาหาแต่ไกลโน้นมีสีจริงแต่สีไหนล่ะที่สะท้อนเข้าตาเรา
เพราะจักขุปสาทะของเราดับในตาดำของเราไม่ใช่เห็นมหาภูตรูปค่ะ
เพราะมหาภูตรูปไม่มีรูปที่สามารถมองเห็นได้ดินน้ำลมไฟมีเมื่อสัมผัส
onion

Rosarin

Rosarin เขียน:

Kiss
ภาพที่ปรากฏให้เห็นได้เดี๋ยวนี้เป็นอดีตสีหลากสีตัดกันจนปรากฏรูปร่างเป็นสิ่งต่างๆเป็นเงาสีที่มหาภูตรูป
มหาภูตรูปรู้ว่ามีที่ตั้งเมื่อสัมผัสแตะต้องจะรู้ว่ามีที่ตั้งของมหาภูตรูปเมื่อใช้กายปสาทะไม่ใช่จักขุปสาทะ
อ่ะทีนี้คิดตามนะคะเห็นลูกเดินมาหาไกลๆคือเงาสีเดินมาถึงตัวกอดลูกถึงรู้ว่ามีเย็นร้อนอ่อนแข็งตึงไหว
onion

ที่เห็นลูกเดินมาหาแต่ไกลโน้นมีสีจริงแต่สีไหนล่ะที่สะท้อนเข้าตาเรา
เพราะจักขุปสาทะของเราดับในตาดำของเราไม่ใช่เห็นมหาภูตรูปค่ะ
เพราะมหาภูตรูปไม่มีรูปที่สามารถมองเห็นได้ดินน้ำลมไฟมีเมื่อสัมผัส
onion

ทำนองเดียวกันเห็นตึกคิดว่าตึกแข็งแต่แข็งรู้ได้เมื่อแตะในมืด
เห็น1สีที่มหาภูตรูปที่เรียกว่าตึกสะท้อนแสงเข้าตาดับทันทีมืดมิด
:b12:

กรัชกาย

Rosarin เขียน:

Kiss
ภาพที่ปรากฏให้เห็นได้เดี๋ยวนี้เป็นอดีตสีหลากสีตัดกันจนปรากฏรูปร่างเป็นสิ่งต่างๆเป็นเงาสีที่มหาภูตรูป
มหาภูตรูปรู้ว่ามีที่ตั้งเมื่อสัมผัสแตะต้องจะรู้ว่ามีที่ตั้งของมหาภูตรูปเมื่อใช้กายปสาทะไม่ใช่จักขุปสาทะ
อ่ะทีนี้คิดตามนะคะเห็นลูกเดินมาหาไกลๆคือเงาสีเดินมาถึงตัวกอดลูกถึงรู้ว่ามีเย็นร้อนอ่อนแข็งตึงไหว
onion

ที่เห็นลูกเดินมาหาแต่ไกลโน้นมีสีจริงแต่สีไหนล่ะที่สะท้อนเข้าตาเรา
เพราะจักขุปสาทะของเราดับในตาดำของเราไม่ใช่เห็นมหาภูตรูปค่ะ
เพราะมหาภูตรูปไม่มีรูปที่สามารถมองเห็นได้ดินน้ำลมไฟมีเมื่อสัมผัส
onion

ทำนองเดียวกันเห็นตึกคิดว่าตึกแข็ง แต่แข็งรู้ได้เมื่อแตะในมืด
เห็น1สีที่มหาภูตรูปที่เรียกว่าตึกสะท้อนแสงเข้าตาดับทันที
:b12:

เป็นนักอภิธรรมยังไง เดี๋ยวก็ว่า เย็น ร้อน อ่อน แข็ง หย่อน ตึง แต่พอมาถึงตรงตรงนี้ กลับว่า

อ้างคำพูด:

เห็นตึกคิดว่าตึกแข็ง แต่แข็งรู้ได้เมื่อแตะในมืด

พ่ะนะ ต้องแตะในมืด แตะในที่มืดๆตอนกลางคืนจึงจะรู้ว่ามันแข็งๆ แต่ถ้าแตะตอนกลางวัน ไม่แข็งว่างั้นเถอะ คุณโรสไปเอาความคิดแบบนี้มาจากสำนักไหน :b32:

Rosarin

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

Kiss
ภาพที่ปรากฏให้เห็นได้เดี๋ยวนี้เป็นอดีตสีหลากสีตัดกันจนปรากฏรูปร่างเป็นสิ่งต่างๆเป็นเงาสีที่มหาภูตรูป
มหาภูตรูปรู้ว่ามีที่ตั้งเมื่อสัมผัสแตะต้องจะรู้ว่ามีที่ตั้งของมหาภูตรูปเมื่อใช้กายปสาทะไม่ใช่จักขุปสาทะ
อ่ะทีนี้คิดตามนะคะเห็นลูกเดินมาหาไกลๆคือเงาสีเดินมาถึงตัวกอดลูกถึงรู้ว่ามีเย็นร้อนอ่อนแข็งตึงไหว
onion

ที่เห็นลูกเดินมาหาแต่ไกลโน้นมีสีจริงแต่สีไหนล่ะที่สะท้อนเข้าตาเรา
เพราะจักขุปสาทะของเราดับในตาดำของเราไม่ใช่เห็นมหาภูตรูปค่ะ
เพราะมหาภูตรูปไม่มีรูปที่สามารถมองเห็นได้ดินน้ำลมไฟมีเมื่อสัมผัส
onion

ทำนองเดียวกันเห็นตึกคิดว่าตึกแข็ง แต่แข็งรู้ได้เมื่อแตะในมืด
เห็น1สีที่มหาภูตรูปที่เรียกว่าตึกสะท้อนแสงเข้าตาดับทันที
:b12:

เป็นนักอภิธรรมยังไง เดี๋ยวก็ว่า เย็น ร้อน อ่อน แข็ง หย่อน ตึง แต่พอมาถึงตรงตรงนี้ กลับว่า

อ้างคำพูด:

เห็นตึกคิดว่าตึกแข็ง แต่แข็งรู้ได้เมื่อแตะในมืด

พ่ะนะ ต้องแตะในมืด แตะในที่มืดๆตอนกลางคืนจึงจะรู้ว่ามันแข็งๆ แต่ถ้าแตะตอนกลางวัน ไม่แข็งว่างั้นเถอะ คุณโรสไปเอาความคิดแบบนี้มาจากสำนักไหน :b32:

รูปตามพระอภิธรรมมี28รูป
ไม่รู้ก็คิดเงียบๆอายคนอื่น555
สีคือรูปรูปเดียวที่ปรากฏพร้อมมีแสงสว่าง
ส่วนรูปอื่นๆทั้งที่ปรากฏและไม่ปรากฏไม่เกิดพร้อมแสง...มืดสนิท
:b32:

57454.ลืมตา VS หลับตา

ผู้ใช้งานขณะนี้