วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 19:50  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 77 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2019, 23:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


อีก3วันก็จะครบ3ปีเต็มกัยการรักษาพรหมจรรย์ ไม่เคยสำเร็จความใครเลย ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยความเพียร. แม้แต่เราจะเคล้าไปด้วยสิ่งรอบกายที่เป็นเครื่องยัวยวนก็ละเว้นได้จริง

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แก้ไขล่าสุดโดย bigtoo เมื่อ 07 เม.ย. 2019, 23:08, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2019, 23:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2019, 06:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
อีก3วันก็จะครบ3ปีเต็มกัยการรักษาพรหมจรรย์ ไม่เคยสำเร็จความใครเลย ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยความเพียร. แม้แต่เราจะเคล้าไปด้วยสิ่งรอบกายที่เป็นเครื่องยัวยวนก็ละเว้นได้จริง


เก่ง....เก่ง..เก่ง

ต่อไปเรื่อยๆ....อย่าหยุด
. :b17: :b17: :b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2019, 07:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พรรณนา เล่าความ, ขยายความ, กล่าวถ้อยคำให้ผู้ฟังนึกเห็นเป็นภาพ

พรหมบุญ บุญอย่างสูง, เป็นคำแสดงอานิสงส์ของผู้ชักนำให้สงฆ์สามัคคีปรองดองกัน, ได้พรหมบุญจักแช่มชื่นในสวรรค์ตลอดกัลป์

พรหมวิหาร ธรรมเครื่องอยู่ของพรหม, ธรรมประจำใจอันประเสริฐ, ธรรมประจำใจของท่านผู้มีคุณความดียิ่งใหญ่ มี ๔ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

พรหมจรรย์ "จริยอันประเสริฐ" "การครองชีวิตประเสริฐ" ตามที่เข้าใจกันทั่วไป หมายถึงความประพฤติเว้นเมถุน หรือ การครองชีวิต ดังเช่นการบวชที่ละเว้นเมถุน
แต่แท้จริงนั้น พรหมจรรย์ คือ พรหมจริยะ เป็นหลักการใหญ่ที่ใช้ในแง่ความหมายมากหลาย ดังที่อรรถกถาแห่งหนึ่งประมวลไว้ ๑๐ นัย คือ หมายถึง

ทาน

ไวยาวัจจ์ (คือการขวนขวายช่วยเหลือรับใช้ทำประโยชน์)

เบญจศีล

อัปปมัญญาสี่ (คือพรหมวิหารสี่)

เมถุนวิรัติ (คือการเว้นเมถุน)

สทารสันโดษ (คือ ความพอใจเฉพาะภรรยาหรือคู่ครองของตน)

ความเพียร

การรักษาอุโบสถ

อริยมรรค

พระศาสนา (อันรวมไตรสิกขาทั้งหมด) เฉพาะอย่างยิ่ง ความหมายสำคัญที่พระพุทธเจ้าตรัสเป็นหลัก คือ ๒ นัยสุดท้าย (อริยมรรค และพระศาสนา)

ในศาสนาพราหมณ์ พรหมจรรย์ หมายถึง การครองชีวิตเว้นเมถุน และประพฤติปฏิบัติตนเคร่งครัดต่างๆ ที่จะควบคุมตนให้มุ่งมั่นในการศึกษาได้เต็มที่ โดยเฉพาะในการเรียนพระเวท โดยนัย หมายถึงการศึกษาพระเวท และหมายถึงช่วงเวลา หรือ ขั้นตอนของชีวิตที่พึงอุทิศเพื่อการศึกษาอย่างนั้น (บาลี พฺรหฺมจริย)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2019, 07:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
อีก3วันก็จะครบ3ปีเต็มกัยการรักษาพรหมจรรย์ ไม่เคยสำเร็จความใครเลย ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยความเพียร. แม้แต่เราจะเคล้าไปด้วยสิ่งรอบกายที่เป็นเครื่องยัวยวนก็ละเว้นได้จริง


อนุโมทนา สาธุด้วยครับ

ความเพียรเป็นบ่เกิดของความสำเร็จ
ความเพียรทำให้เรียนรู้ได้ดี
ความเพียรเป็นสิ่งที่ควรเสริมสร้างโดยแท้
ความเพียรนั้นก็คือ ๑ ในบารมี ๑๐
ความเพียรนำไปสู่การเจริญก้าวหน้าในชีวิต
ความเพียรเป็นปัจจัยสู่แดนอันเกศม



สู้ต่อไปจนกว่าจะถึงจุดหมาย อย่าประมาทเพราะเท่าที่
ผมทำมาโดยส่วนมากมักจะมาท้อช่วงปลายๆๆ แต่หนักแหน่น
เข้าไว้อีกนิดก็พิชิตชัยชนะได้สำเร็จแล้วครับ
บอกตัวเองว่าเราเดินมาเกือบถึงจุดหมายแล้วจะยอมแพ้ไม่ได้
ให้กำลังใจตัวเองเข้าไว้เป็นไงเป็นกันครับ

:b4:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2019, 12:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


เกือบ3ปีนี้ฆราวาสอย่างเราๆที่ไม่มีกฏข้อห้ามใดๆ ต้องคละเคล้าไปด้วยสิ่งรอบกายมากมาย บางครั้งถ้าเราไม่ระงับหักห้ามใจ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะผ่านมาได้. แต่ด้วยการเห็นโทษในวัฏฏะนี้อย่างมากมาย จนจิตใจยอมรับไม่ได้กับการยอมแพ้รสกามเมถุนธรรมนี้ สมัยก่อนพยามหนี้ห่างจากสังคมสิ่งแวดล้อม. เพื่อจะได้มาพ้นไปจากมัน. แต่ยิ่งห่างมันดูเหมือนมันยิ่งวิ่งตามเรา. ตอนนี้ปักหลักอยู่กับมันแต่ให้เฝ้าดูจิตใจ ฝึกสติให้เท่าทันมัน.ได้อะไรดีๆไม่น้อยเลย แต่ต้องตั้งจิตอธิฐานให้ชัดเจนว่าจะเลิกอะไร. แล้วไม่ถอนออกจากความเพรียร. ระยะหนึ่งกำลังของมันจะลดลง. จนเราพอประครองตัวประครองจิตใจผ่านมันไปได้

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2019, 18:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
เกือบ3ปีนี้ฆราวาสอย่างเราๆที่ไม่มีกฏข้อห้ามใดๆ ต้องคละเคล้าไปด้วยสิ่งรอบกายมากมาย บางครั้งถ้าเราไม่ระงับหักห้ามใจ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะผ่านมาได้. แต่ด้วยการเห็นโทษในวัฏฏะนี้อย่างมากมาย จนจิตใจยอมรับไม่ได้กับการยอมแพ้รสกามเมถุนธรรมนี้ สมัยก่อนพยามหนี้ห่างจากสังคมสิ่งแวดล้อม. เพื่อจะได้มาพ้นไปจากมัน. แต่ยิ่งห่างมันดูเหมือนมันยิ่งวิ่งตามเรา. ตอนนี้ปักหลักอยู่กับมันแต่ให้เฝ้าดูจิตใจ ฝึกสติให้เท่าทันมัน.ได้อะไรดีๆไม่น้อยเลย แต่ต้องตั้งจิตอธิฐานให้ชัดเจนว่าจะเลิกอะไร. แล้วไม่ถอนออกจากความเพรียร. ระยะหนึ่งกำลังของมันจะลดลง. จนเราพอประครองตัวประครองจิตใจผ่านมันไปได้


พอจะเล่าแนวทางและวิธีการปฏิบัติสู่กันฟังได้ไหมครับ

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 เม.ย. 2019, 07:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


อีกทางหนึ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสสั่งสอนไว้ครับ

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57317

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 เม.ย. 2019, 07:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


sssboun เขียน:
bigtoo เขียน:
เกือบ3ปีนี้ฆราวาสอย่างเราๆที่ไม่มีกฏข้อห้ามใดๆ ต้องคละเคล้าไปด้วยสิ่งรอบกายมากมาย บางครั้งถ้าเราไม่ระงับหักห้ามใจ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะผ่านมาได้. แต่ด้วยการเห็นโทษในวัฏฏะนี้อย่างมากมาย จนจิตใจยอมรับไม่ได้กับการยอมแพ้รสกามเมถุนธรรมนี้ สมัยก่อนพยามหนี้ห่างจากสังคมสิ่งแวดล้อม. เพื่อจะได้มาพ้นไปจากมัน. แต่ยิ่งห่างมันดูเหมือนมันยิ่งวิ่งตามเรา. ตอนนี้ปักหลักอยู่กับมันแต่ให้เฝ้าดูจิตใจ ฝึกสติให้เท่าทันมัน.ได้อะไรดีๆไม่น้อยเลย แต่ต้องตั้งจิตอธิฐานให้ชัดเจนว่าจะเลิกอะไร. แล้วไม่ถอนออกจากความเพรียร. ระยะหนึ่งกำลังของมันจะลดลง. จนเราพอประครองตัวประครองจิตใจผ่านมันไปได้


พอจะเล่าแนวทางและวิธีการปฏิบัติสู่กันฟังได้ไหมครับ

เมื่อเราเห็นทุกข์เห็นภัยในวัฏฏะแล้วต้องกาทางทุกวิถีทางเพื่อจะออกจากมัน. ผมคิดว่าอะไรที่ไม่ทำแล้วไม่ตาย. แล้วทำไมเราถึงต้องกระทำสิ่งนั่นไม่ทำไม่ได้เหรอ ผมฝึกด้วยการตั้งอธิฐานละตลอดชีวิตมา3ครั้งแล้ว. ครั้งแรกเลิกได้8เดือน. ครั้งที่2เลิกได้3เดือน. มาครั้งนี้ตั้งจิตถวายแก่พระพุทธเจ้าตลอดชีวิต. ทำได้3ปี แล้ว. ท่องในใจตลอด กูเสพมึงกูต้องเกิดอีกไม่เอาแล้วเบื่อแล้ว ยามที่กิเลสหรือความต้องการมาเราต้องมีสติให้ไว้รีบนั่งสมาธิติตอยู่กับลมหายใจพิจารณาอสุภในร่างกายสาวๆว่ามีแต่ของสรกปกก็ช่วยได้ผ่านไปได้

แต่ผมก็ใช้เกลือจิ้มเกลือด้วยเช่นกัน. เช่นดูหนังโป๊ะ ปลุกอารมณ์ให้มันเกิดขึ้นพิจารณาว่าทำไมถึงเกิดอารมณ์ขึ้นมาได้อย่างไร. แต่ต้องใจแข็งนะครับห้ามที่จะสำเร็จความใคร่ห้ามเลย. ให้ดูว่ามันเกิดจากการกระทบของอายตนะหรือผัสสะทำให้เกิดเวทนา. มันเป็นเพียงเวทนาไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวเรา. แค่ผัสสะทำให้เกิดความรู้สึกทางเพศเกิดกิเลสขึ้นมาได้. เมื่อเราเห็นชัดเจนเราก็ตะรู้ว่ามันเป็นเพียงรูปนามชัดเจน เป็นปัญญาที่แท้จริงเกิดขึ้นได้. เมื่อเกิดอารมณ์เราไม่โต้ตอบมัน. มันไม่ได้กินบ่อยๆมันก็จะหมดแรงลงในไม่ช้า. เปรียบดังเพื่อนที่มาเยี่ยมเรา. แต่เราไม่เชิญเข้าบ้านพูดคุยโต้ตอบไม่นานเพื่อนก็จะไม่มาหาเราอีกต่อไป. นี่คือวิธีที่ผมทำผมเรียกว่าเกลือจิ้มเกลือ. ได้พิสูจน์ใจตนเองตรงๆเลยไม่หลบหนีไปไหน. ผมก็ผ่านมาได้3ปี. และก็จะไปตอให้ได้. แต่ขอบอกว่าวิธีแบบนี้จะถูกหรือไมผมไม่ทราบนะครับ เพียงผมรู้สึกว่า ผมทำแล้วผมมีกำลังกำจัดมันได่ดีพอสมควร. บางเดือนไม่มีอารมณ์เกิดขึ้นเลย.แม้บางทีเกิดขึ้นก็เอาชนะมันได้แบบสบายๆครับ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 เม.ย. 2019, 07:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
sssboun เขียน:
bigtoo เขียน:
เกือบ3ปีนี้ฆราวาสอย่างเราๆที่ไม่มีกฏข้อห้ามใดๆ ต้องคละเคล้าไปด้วยสิ่งรอบกายมากมาย บางครั้งถ้าเราไม่ระงับหักห้ามใจ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะผ่านมาได้. แต่ด้วยการเห็นโทษในวัฏฏะนี้อย่างมากมาย จนจิตใจยอมรับไม่ได้กับการยอมแพ้รสกามเมถุนธรรมนี้ สมัยก่อนพยามหนี้ห่างจากสังคมสิ่งแวดล้อม. เพื่อจะได้มาพ้นไปจากมัน. แต่ยิ่งห่างมันดูเหมือนมันยิ่งวิ่งตามเรา. ตอนนี้ปักหลักอยู่กับมันแต่ให้เฝ้าดูจิตใจ ฝึกสติให้เท่าทันมัน.ได้อะไรดีๆไม่น้อยเลย แต่ต้องตั้งจิตอธิฐานให้ชัดเจนว่าจะเลิกอะไร. แล้วไม่ถอนออกจากความเพรียร. ระยะหนึ่งกำลังของมันจะลดลง. จนเราพอประครองตัวประครองจิตใจผ่านมันไปได้


พอจะเล่าแนวทางและวิธีการปฏิบัติสู่กันฟังได้ไหมครับ

เมื่อเราเห็นทุกข์เห็นภัยในวัฏฏะแล้วต้องกาทางทุกวิถีทางเพื่อจะออกจากมัน. ผมคิดว่าอะไรที่ไม่ทำแล้วไม่ตาย. แล้วทำไมเราถึงต้องกระทำสิ่งนั่นไม่ทำไม่ได้เหรอ ผมฝึกด้วยการตั้งอธิฐานละตลอดชีวิตมา3ครั้งแล้ว. ครั้งแรกเลิกได้8เดือน. ครั้งที่2เลิกได้3เดือน. มาครั้งนี้ตั้งจิตถวายแก่พระพุทธเจ้าตลอดชีวิต. ทำได้3ปี แล้ว. ท่องในใจตลอด กูเสพมึงกูต้องเกิดอีกไม่เอาแล้วเบื่อแล้ว ยามที่กิเลสหรือความต้องการมาเราต้องมีสติให้ไว้รีบนั่งสมาธิติตอยู่กับลมหายใจพิจารณาอสุภในร่างกายสาวๆว่ามีแต่ของสรกปกก็ช่วยได้ผ่านไปได้

แต่ผมก็ใช้เกลือจิ้มเกลือด้วยเช่นกัน. เช่นดูหนังโป๊ะ ปลุกอารมณ์ให้มันเกิดขึ้นพิจารณาว่าทำไมถึงเกิดอารมณ์ขึ้นมาได้อย่างไร. แต่ต้องใจแข็งนะครับห้ามที่จะสำเร็จความใคร่ห้ามเลย. ให้ดูว่ามันเกิดจากการกระทบของอายตนะหรือผัสสะทำให้เกิดเวทนา. มันเป็นเพียงเวทนาไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวเรา. แค่ผัสสะทำให้เกิดความรู้สึกทางเพศเกิดกิเลสขึ้นมาได้. เมื่อเราเห็นชัดเจนเราก็ตะรู้ว่ามันเป็นเพียงรูปนามชัดเจน เป็นปัญญาที่แท้จริงเกิดขึ้นได้. เมื่อเกิดอารมณ์เราไม่โต้ตอบมัน. มันไม่ได้กินบ่อยๆมันก็จะหมดแรงลงในไม่ช้า. เปรียบดังเพื่อนที่มาเยี่ยมเรา. แต่เราไม่เชิญเข้าบ้านพูดคุยโต้ตอบไม่นานเพื่อนก็จะไม่มาหาเราอีกต่อไป. นี่คือวิธีที่ผมทำผมเรียกว่าเกลือจิ้มเกลือ. ได้พิสูจน์ใจตนเองตรงๆเลยไม่หลบหนีไปไหน. ผมก็ผ่านมาได้3ปี. และก็จะไปตอให้ได้. แต่ขอบอกว่าวิธีแบบนี้จะถูกหรือไมผมไม่ทราบนะครับ เพียงผมรู้สึกว่า ผมทำแล้วผมมีกำลังกำจัดมันได่ดีพอสมควร. บางเดือนไม่มีอารมณ์เกิดขึ้นเลย.แม้บางทีเกิดขึ้นก็เอาชนะมันได้แบบสบายๆครับ


สาธุ อนุโมทนา ด้วยครับ เป็นวิธีที่เรียกว่าเรียนรู้ฝึกแล้ว
ลองดูว่ากำลังของเรามีแค่ไหนครับ เช่นความกลัวผีเหมือนกัน
หรือกลัวตาย พระอริยะเจ้าทั้งหลายก็เข้าไปสู้ เข้าไปหาสิ่งที่กลัว
นั้นๆเพื่อสู้กับความกลัว ความตาย จนชนะเพราะอุทิศแด่พระพุทธเจ้า
แล้ว แม้เจอเสือท่านยังเดินเข้าหา เดินไปหาเป็นต้น หากไม่มีพาระอะไร
ให้ต้องเป็นห่วงแล้วน่าจะออกบวชนะครับ เพราะพระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า

Quote Tipitaka:
[๑๗๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้สิ้นอาสวะแล้ว อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว
ทำกิจที่ควรทำเสร็จแล้ว ปลงภาระได้แล้ว บรรลุประโยชน์ตนแล้วโดยลำดับ
สิ้นสัญโญชน์ในภพแล้ว พ้นวิเศษแล้วเพราะรู้ชอบ จึงนับว่ามีธรรมอันสมควรจะ
พยากรณ์ได้ดังนี้ว่า ดูกรท่านผู้มีอายุ เมื่อก่อน ข้าพเจ้าเป็นผู้ครองเรือน ยังเป็น

ผู้ไม่รู้ พระตถาคตบ้าง สาวกของพระตถาคตบ้าง แสดงธรรมแก่ข้าพเจ้านั้น
ข้าพเจ้าฟังธรรมนั้นแล้ว จึงได้ความเชื่อในพระตถาคต ข้าพเจ้าประกอบด้วยการ
ได้ความเชื่อโดยเฉพาะนั้น จึงพิจารณาเห็นดังนี้ว่า ฆราวาสคับแคบ เป็นทางมา
แห่งธุลี บรรพชาเป็นช่องว่าง เรายังอยู่ครองเรือนจะประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์
บริบูรณ์โดยส่วนเดียวดุจสังข์ที่เขาขัดแล้ว นี้ไม่ใช่ทำได้ง่าย อย่ากระนั้นเลย เรา
พึงปลงผมและหนวด นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์แล้วออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตเถิด
สมัยต่อมา
ข้าพเจ้าจึงละโภคสมบัติน้อยบ้าง มากบ้าง ละวงศ์ญาติเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง

ปลงผมและหนวด นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ แล้วออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต
ข้าพเจ้าเมื่อเป็นผู้บวชแล้วอย่างนี้ ถึงพร้อมด้วยสิกขาสาชีพของภิกษุทั้งหลาย
เพราะละปาณาติบาต จึงเป็นผู้เว้นขาดจากปาณาติบาต วางอาชญา วางศาสตราแล้ว
มีความละอาย ถึงความเอ็นดู ได้เป็นผู้อนุเคราะห์ด้วยความเกื้อกูลในสรรพสัตว์
และภูต เพราะละอทินนาทาน จึงเป็นผู้เว้นขาดจากอทินนาทาน ถือเอาแต่ของ

ที่เขาให้ หวังแต่ของที่เขาให้ มีตนเป็นคนสะอาด ไม่ใช่ขโมยอยู่ เพราะละกรรม
อันเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์ จึงเป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์ ประพฤติห่างไกลและ
เว้นจากเมถุนอันเป็นธรรมดาของชาวบ้าน เพราะละมุสาวาท จึงเป็นผู้เว้นขาด
จากมุสาวาท เป็นผู้กล่าวคำจริง ดำรงอยู่ในคำสัตย์ เป็นหลักฐาน เชื่อถือได้

ไม่พูดลวงโลก เพราะละวาจาส่อเสียด จึงเป็นผู้เว้นขาดจากวาจาส่อเสียด ได้ยิน
จากฝ่ายนี้แล้ว ไม่บอกฝ่ายโน้น เพื่อทำลายฝ่ายนี้ หรือได้ยินจากฝ่ายโน้นแล้ว
ไม่บอกฝ่ายนี้ เพื่อทำลายฝ่ายโน้น ทั้งนี้ เมื่อเขาแตกกันแล้ว ก็สมานให้ดีกัน
หรือเมื่อเขาดีกันอยู่ ก็ส่งเสริม ชอบความพร้อมเพรียงกัน ยินดีในคนที่พร้อม-
*เพรียงกัน ชื่นชมในคนที่พร้อมเพรียงกัน เป็นผู้กล่าววาจาสมานสามัคคีกัน เพราะ

ละวาจาหยาบ จึงเป็นผู้เว้นขาดจากวาจาหยาบ เป็นผู้กล่าววาจาซึ่งไม่มีโทษ
เสนาะหู ชวนให้รักใคร่ จับใจ เป็นภาษาชาวเมือง อันคนส่วนมากปรารถนา
และชอบใจ เพราะละการเจรจาเพ้อเจ้อ จึงเป็นผู้เว้นขาดจากการเจรจาเพ้อเจ้อ
กล่าวถูกกาละ กล่าวตามเป็นจริง กล่าวอรรถ กล่าวธรรม กล่าววินัย เป็นผู้
กล่าววาจามีหลักฐาน มีที่อ้าง มีขอบเขต ประกอบด้วยประโยชน์ ตามกาล
ข้าพเจ้าเป็นผู้เว้นขาดจากการพรากพืชคามและภูตคาม เป็นผู้ฉันหนเดียว งดฉันใน

เวลาราตรี เว้นขาดจากการฉันในเวลาวิกาล เป็นผู้เว้นขาดจากการฟ้อนรำ ขับร้อง
ประโคมดนตรี และดูการเล่นอันเป็นข้าศึกแก่กุศล เป็นผู้เว้นขาดจากการทัดทรง
และตบแต่งด้วยดอกไม้ ของหอม และเครื่องประเทืองผิว อันเป็นฐานะแห่งการ
แต่งตัว เป็นผู้เว้นขาดจากการนั่งนอนบนที่นั่งที่นอนอันสูงและใหญ่ เป็นผู้เว้นขาด
จากการรับทองและเงิน เป็นผู้เว้นขาดจากการรับทาสีและทาส เป็นผู้เว้นขาดจาก
การรับแพะและแกะ เป็นผู้เว้นขาดจากการรับไก่และสุกร เป็นผู้เว้นขาดจากการ

รับช้าง โค ม้า และลา เป็นผู้เว้นขาดจากการรับไร่นาและที่ดิน เป็นผู้เว้นขาด
จากการประกอบทูตกรรมและการรับใช้ เป็นผู้เว้นขาดจากการซื้อและการขาย เป็น
ผู้เว้นขาดจากการโกงด้วยตราชั่ง โกงด้วยของปลอม และโกงด้วยเครื่องตวงวัด
เป็นผู้เว้นขาดจากการรับสินบน การล่อลวง และการตลบตะแลง เป็นผู้เว้นขาด
จากการตัด การฆ่า การจองจำ การตีชิง การปล้น และการกรรโชก ข้าพเจ้า
ได้เป็นผู้สันโดษด้วยจีวรเป็นเครื่องบริหารกาย และบิณฑบาตเป็นเครื่องบริหารท้อง
จะไปที่ใดๆ ย่อมถือเอาบริขารไปได้หมด เหมือนนกมีปีก จะบินไปที่ใดๆ ย่อม
มีภาระคือปีกของตนเท่านั้น บินไป ฯ

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 เม.ย. 2019, 08:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


ยังมีอีกสิ่งที่ขัดขวางหนทางพระนิพพาน นั้นก็คือ ลาภ ยศ สรรเสริญ
เงินทอง ควรระวังอย่างยิ่งครับ เพราะเมื่อมีสิ่งนี้แล้วเรื่องสตรีก็ตามมาและ
เรื่องอื่นๆตามมาเพียบ ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ไม่เที่ยง เกิด ขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
ขอให้สำเร็จดั่งใจปราถนาในหนทางที่คิดจะดำเนินไปนะครับ

ความไม่ประมาทเป็นทางมาแห่งความสำเร็จ

ลองนำศีลมาปฏิบัติเพิ่มขึ้นสิครับ เป็นหนทางเพิ่มสติอีกทางหนึ่ง เช่นเรื่องการทานข้าว
ดื่มน้ำ ค่อยๆเพิ่มเข้าไปทีละข้อทีละน้อยแล้วค่อยๆเพิ่มจนกลายเป็นความเคยชินครับเมื่อ
เคยชินแล้วค่อยเพิ่มข้อต่อๆไปเข้าไปอีกทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆก็เป็นอีกทางหนึ่งทำให้สติดีขึ้น
เร็วขึ้น ความสงบมีมากขึ้น ปัญญาก็เพิ่มขึ้นครับ

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 เม.ย. 2019, 08:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


อะไรคือสาเหตุที่ทำให้บรรลุธรรมยากขึ้นกว่ายุคก่อนๆ การบวชนั้นพระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่าเป็นทางปลอดโปร่งมิใช่หรือ
http://larndham.org/index.php?/topic/44568-%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%ab%e0%b8%95%e0%b8%b8%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%98/page__view__findpost__p__820761

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 เม.ย. 2019, 12:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องละเว้นผมจะไม่กินในสิ่งที่ชอบกินมากที่สุด. และไม่เสพกามเพศ เอาแค่นี้ก่อนครับ. ส่วนเรื่องศิลก็มีเจตนาละภัยเวร5ประการ. นั่งสมาธิทุกวัน ตามเห็นการเกิดดับของรูปนามกิจอื่นให้ทำยิ่งขึ้นไปกว่านี้ไม่มี

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 เม.ย. 2019, 13:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2018, 07:07
โพสต์: 482

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ทราบว่าคุณ bigtoo อายุเท่าไหร่แล้วครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 เม.ย. 2019, 14:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อีกวันเดียว ผมก็จะครบ 3 ปี. ที่ไม่เคยสำเร็จความใคร่เลย. ทุกอย่างชนะได้ด้วยความเพียร

https://palungjit.org/threads/%E0%B8%97 ... A3.676348/

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 77 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 43 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร