วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 06:55  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2019, 10:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อคิดเป็นแล้ว ก็ช่วยให้พูดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น ช่วยให้ดูเป็น ฟัง เป็น กินเป็น ใช้เป็น บริโภคเป็น และคบหาเสวนาเป็น ตลอดไปทุกอย่าง คือ ดำเนินชีวิตเป็นนั่นเอง
จึงพูดได้ว่า การรู้จักคิด หรือ คิดเป็น เป็นตัวนำที่ชักพา หรือ เปิดช่องไปสู่การดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง หรือชีวิตที่ดีงามทั้งหมด

ลักษณะสำคัญที่เป็นตัวตัดสินคุณค่าของการรู้จักทำ หรือ ทำเป็น ก็คือความพอดี และในกรณีทั่วๆไป "รู้จัก-" และ "-เป็น" กับ "-พอดี" ก็มีความหมายเป็นอันเดียวกัน

การ รู้จักทำ หรือทำอะไรเป็น ก็คือ ทำสิ่งนั้นๆ พอเหมาะพอดีที่จะให้ เกิดผลสำเร็จที่ต้องการตามวัตถุประสงค์ หรือทำแม่นยำ สอดคล้อง ตรง จุด ตรงเป้า ที่จะให้บรรลุจุดหมายอย่างดีที่สุด โดยไม่เกิดผลเสียหาย หรือข้อบกพร่องใดๆ เลย

พุทธธรรมถือเอาลักษณะที่ไร้โทษ ไร้ทุกข์ และเหมาะเจาะที่จะให้ถึงจุดหมายนี้เป็นสำคัญ จึงใช้คำว่า พอดี เป็นคำหลัก
ดังนั้น สำหรับคำว่า ดำเนินชีวิตเป็น จึงใช้คำว่า ดำเนินชีวิตพอดี คือ ดำเนินชีวิตพอดีที่จะให้บรรลุจุดหมายแห่งการเป็นอยู่อย่างไร้ทุกข์มีความสุขที่แท้จริง

การดำเนินชีวิตพอดี หรือ การปฏิบัติพอดี เรียกเป็นคำศัพท์ว่า มัชฌิมาปฏิปทา ซึ่งมีความหมายเป็นอันเดียวกันกับการดำเนินชีวิตที่ดีงาม กล่าวคือ มรรค หรือ อริยมรรค ที่ แปลสืบๆ กันมาว่า มรรคอันประเสริฐ คือ ทางดำเนินชีวิตที่ดีงาม ล้ำเลิศ ปราศจากพิษภัยไร้โทษ นำสู่เกษมศานติ์ และความสุขที่สมบูรณ์

พุทธธรรมแสดงหลักการว่า การที่จะดำเนินชีวิตให้ถูกต้อง หรือมีชีวิตที่ดีงามได้นั้น จะต้องมีการฝึกฝนพัฒนาตน ซึ่งได้แก่กระบวนการ ที่เรียกว่า การศึกษา

พูดอย่างสั้นที่สุดว่า มรรคจะเกิดมีขึ้นได้ก็ด้วยสิกขา


การคิดถูกต้อง รู้จักคิด หรือคิดเป็น เป็นตัวนำของชีวิตที่ดีงาม หรือ มรรคฉันใด
การฝึกฝนพัฒนาความคิดที่ถูกต้อง ให้รู้จัก คิด หรือคิดเป็น ก็เป็นตัวนำของการศึกษา หรือสิกขา ฉันนั้น

ในกระบวนการฝึกฝนพัฒนาตน คือ การ ศึกษา เพื่อให้มีชีวิตดีงามนั้น
การฝึกฝนความรู้จักคิด หรือ คิด เป็นซึ่งเป็นตัวนำ จะเป็นปัจจัยชักพาไปสู่ความรู้ความเข้าใจ ความคิด เห็น ตลอดจนความเชื่อถือถูกต้อง ที่เรียกว่า สัมมาทิฏฐิ ซึ่งเป็นแกนนำของชีวิตที่ดีงามทั้งหมด

การพัฒนาสัมมาทิฏฐิ ซึ่ง เป็นแกนนำในกระบวนการของการศึกษานั้น ก็คือ สาระสำคัญของการพัฒนา ปัญญา ที่เป็นแกนกลางของกระบวนการพัฒนาคน ที่เรียกว่า การศึกษา นั่นเอง

การรู้จักคิด หรือ คิดเป็นนั้น ประกอบด้วยวิธีคิดต่างๆ หลายอย่าง
การฝึกฝนพัฒนาความ รู้จักคิด หรือคิดเป็น ก็คือการฝึกฝนพัฒนาตน หรือการฝึกฝนพัฒนา บุคคล ตามแนวทางของวิธีคิดเหล่านั้น หรือ เช่นนั้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2019, 10:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สังเกตคำว่า "สิกขา" ไว้ก่อน

รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2019, 13:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
นอกจากท่าทีและปฏิบัติในการรับรู้แล้ว สิ่งที่สำคัญไม่น้อยกว่านั้น ก็คือ การเลือกรับรู้อารมณ์ หรือ เลือกอารมณ์ที่จะรับรู้ เช่น เลือกดู เลือกฟัง สิ่งที่สนองความอยาก หรือ เลือกดู เลือกฟัง สิ่งที่สนองปัญญาส่งเสริมคุณภาพชีวิต

เมื่อมองในแง่นี้ การดำเนินชีวิตที่ถูกต้องได้ผลดี จึงหมายถึงการรู้จักรับรู้ หรือ รับรู้เป็น ได้แก่ รู้จัก (เลือก) ดู
รู้จัก (เลือก) ฟัง
รู้จัก (เลือก) ดม
รู้จัก (เลือก) ลิ้ม
รู้จัก (เลือก) สัมผัส
รู้จัก (เลือก) คิด
เรียกง่ายๆว่า ดูเป็น ฟังเป็น ดมเป็น ชิมเป็น สัมผัสเป็น และ คิดเป็น



cry

" ดูเป็น ฟังเป็น ดมเป็น ชิมเป็น สัมผัสเป็น และ คิดเป็น "

อ่าวคุณลุงกรัชกายคะ

ตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ เค้าทำหน้าที่ อะไรๆ เป็นปกติยิ่ง อยู่แล้ว

แต่ไปทำให้ผิดปกติไป ตามตัณหา เพือสนองความอยากเท่านั้น

เรยไม่เคยได้พบสัจจะ และความปกติยิ่ง ของ
ตา หุ จมูก ลิ้น กาย ใจ เรยทั้งชีวิต

cry


แล้วที่ขโมย ขโจร การรบราฆ่าฟันกันไม่เว้นแต่ละวัน นั่นนี่กันในทางทุจริต เขาไม่มีหูมีตามีจมูกเป็นต้นกันหรือยังไง เป็นลักษณะทรงกลมเหมือนฟักแฟงแตงกวากระนั้นหรอ :b10:

รูปภาพ


คิกๆๆ พูดกับเม โลกสวย คุณโรส เลิฟ เจ. ต้องมีตัวอย่างให้เห็นกันชัดๆ




พรหมลูกฟัก ยังไม่มีโจรในนั้น เรยคร้า

แม้นปกติ มี หู หูไม่ได้ปล้นใคร ตาไม่เคยปล้นใคร

มีแต่ลุงกรัชกาย คิดจะทำฟักให้ ให้เป็นฟักพิดารของตน

ไปเพิ่มพละให้ จะให้อินทรีย์ใหญ่ขึ้นๆๆ เรยฟักใหญ่พิศดาร

แต่ ไม่รู้ว่า การสำรวมอินทรีย์
คือ
การจะได้เห็น ปกติยิ่ง ของ หู ตา จมูก ....
ว่า
ปกติยิ่ง เป็นเช่นไร

คริคริ
tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2019, 18:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปล่อยให้เข้ารกเข้าพงไป :b32:

ไปต่อที่นี่ดีฝ่า :b16:

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57341&p=442443#p442443

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 55 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร