ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
จะพักหรือจะเพียร http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57310 |
หน้า 3 จากทั้งหมด 4 |
เจ้าของ: | Rosarin [ 17 มี.ค. 2019, 20:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จะพักหรือจะเพียร |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: ปฤษฎี เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: ถามหน่อยสิ ปัญญาคือเจตสิก ที่เกิดพร้อมจิต ดับพร้อมจิต ทีละ1ขณะ ดับทันที มืดๆๆๆ คิดสิเดี๋ยวนี้ดับนับแสนโกฏิขณะมีมืดมากกว่าสว่างไม่แจ้งหรือคะ แต่ที่ตาตัวเองเห็นแล้วกระพริบตามืดนิดนึงคิดสิมืดบอดสนิทเลยค่ะ ตอนปัญญาเกิดคือตอนที่กำลังฟังความจริงแล้วคิดตามคำสอนได้อยู่ ตอนที่ฟังแล้วคิดโน่นนี่นั่นไม่ได้ฟังแล้วลืมคิดตามแล้วขนาดฟังยังไม่ฟังเลย แล้วที่ไม่ได้กำลังฟังและไม่ไตร่ตรองตามคำสอนเนี่ยแล้วปลีกตัวออกไปนั่งมโนเอง เป็นการทำอวิชชาตามความคิดตัวเองโดยไม่คิดไตร่ตรองตามคำสอนทีละคำอยู่คือทำไม่รู้เพิ่มไงคะ สำนักปฏิบัติธรรมจึงเป็นสถานที่ทำลายคำสอนเพราะชวนคนไม่ฟังคำสอนจึงขาดการไตร่ตรองตามคำสอน https://youtu.be/JRH5qYTofrw บ้านธัมมะ ไม่เอาไตรสิกขาสักข้อ อธิศีลสิกขาก็ไม่เอา อธิจิตตสิกขาก็ไม่เอา อธิปัญญาสิกขาก็ไม่เอา เรื่องนี้อยากสนทนาปราศัยกับคุณปฤษฎีบ้าง ไปฟังมาจากไหนคุณกรัชกาย มั่วไปหมด ระวังจะบาป กล่าวคำใส่ร้ายคนอื่นนะครับ ก็คุณโรสพูดมานาน สองนานสามนานสี่นานห้านานแล้วนะขอรับ โรสเห็นแต่คุณกรัชกายคิดเองเขียนเองเออออห่อหมกเอาเองคนเดียว บอกให้ฟังไม่รู้จักฟังเพราะคนฟังเข้าใจรู้สึกตัวว่ายิ่งฟังยิ่งไม่รู้อะไรเลย เพราะคำวาจาสัจจะไม่ใช่การอ่านท่องจำบัญญัติคำแต่สัจจะคือเห็นเพียง สีสะท้อนแสงเข้ามากระทบตาดับทันทีคิดนึกในความมืดตอนรู้สีไม่มีคิดปน แล้วเดี๋ยวนี้ดับนับไม่ถ้วนแสนโกฏิขณะดวงจิตจะคิดพูดทำอะไรก็มีกิเลสอยู่ค่ะ จิตเกิดดับทีละ1ทางสลับกันแบบจุดสืบต่อ...........ไม่ได้เห็นตลอดเวลาไม่เก็ตเลยหรือคะ https://youtu.be/PC_yfbybQqk อธิศีลสิกขา (ศีล) อธิจิตตสิกขา (สมาธิ) อธิปัญญาสิกขา (ปัญญา) มีไหมน่า เห็นพูดอยู่เท่านั้น แสนโกฎิขณะ จิตเกิดดับทีละดวง การระลึกตามก็คือการคิดตามระลึกตามอยู่ตรงความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ตามปกติเป็นปกติ ไม่เอาเรื่องอิทธิฤทธิปาฏิหาริย์ใดๆทั้งสิ้นเข้ามาเกี่ยวข้องคิดนึกตามปกติที่ตาเนื้อเห็นหัวใจมีทุกคน พระพุทธเจ้าแสดงความจริงที่พระองค์ตรัสรู้ละเอียดอย่างยิ่งเพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจความจริงถูกตามได้ทันที ดับคิดเห็นผิดทันทีที่ฟังแล้วคิดเห็นที่กำลังเห็นถูกตามได้และรู้สึกตัวทันทีว่ามีกิเลสถ้าไม่เคยฟังจะคิดถูกรึ กิเลสนอนมาในจิตรอไหลออกมาตอนเห็นและเห็นดับเพียง3ขณะกิเลสไหลครบ6ทางถามจริงๆคิดสิตอนนี้ ดับไปแล้วถึงแสนโกฏิขณะมนุษย์หน้าตาใสซื่อบริสุทธิ์ตนไหนคิดว่าตัวเก่งกว่าคำสอนที่ว่าท่องจำคำได้มาก แค่คิดตรง1คำดับไปแล้วถึงแสนโกฏิขณะถามจริงๆคนที่คิดว่าตนเองบรรลุแล้วฟังคำสอนไม่เข้าใจมันใช่รึ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 17 มี.ค. 2019, 20:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จะพักหรือจะเพียร |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: ปฤษฎี เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: ถามหน่อยสิ ปัญญาคือเจตสิก ที่เกิดพร้อมจิต ดับพร้อมจิต ทีละ1ขณะ ดับทันที มืดๆๆๆ คิดสิเดี๋ยวนี้ดับนับแสนโกฏิขณะมีมืดมากกว่าสว่างไม่แจ้งหรือคะ แต่ที่ตาตัวเองเห็นแล้วกระพริบตามืดนิดนึงคิดสิมืดบอดสนิทเลยค่ะ ตอนปัญญาเกิดคือตอนที่กำลังฟังความจริงแล้วคิดตามคำสอนได้อยู่ ตอนที่ฟังแล้วคิดโน่นนี่นั่นไม่ได้ฟังแล้วลืมคิดตามแล้วขนาดฟังยังไม่ฟังเลย แล้วที่ไม่ได้กำลังฟังและไม่ไตร่ตรองตามคำสอนเนี่ยแล้วปลีกตัวออกไปนั่งมโนเอง เป็นการทำอวิชชาตามความคิดตัวเองโดยไม่คิดไตร่ตรองตามคำสอนทีละคำอยู่คือทำไม่รู้เพิ่มไงคะ สำนักปฏิบัติธรรมจึงเป็นสถานที่ทำลายคำสอนเพราะชวนคนไม่ฟังคำสอนจึงขาดการไตร่ตรองตามคำสอน https://youtu.be/JRH5qYTofrw บ้านธัมมะ ไม่เอาไตรสิกขาสักข้อ อธิศีลสิกขาก็ไม่เอา อธิจิตตสิกขาก็ไม่เอา อธิปัญญาสิกขาก็ไม่เอา เรื่องนี้อยากสนทนาปราศัยกับคุณปฤษฎีบ้าง ไปฟังมาจากไหนคุณกรัชกาย มั่วไปหมด ระวังจะบาป กล่าวคำใส่ร้ายคนอื่นนะครับ ก็คุณโรสพูดมานาน สองนานสามนานสี่นานห้านานแล้วนะขอรับ โรสเห็นแต่คุณกรัชกายคิดเองเขียนเองเออออห่อหมกเอาเองคนเดียว บอกให้ฟังไม่รู้จักฟังเพราะคนฟังเข้าใจรู้สึกตัวว่ายิ่งฟังยิ่งไม่รู้อะไรเลย เพราะคำวาจาสัจจะไม่ใช่การอ่านท่องจำบัญญัติคำแต่สัจจะคือเห็นเพียง สีสะท้อนแสงเข้ามากระทบตาดับทันทีคิดนึกในความมืดตอนรู้สีไม่มีคิดปน แล้วเดี๋ยวนี้ดับนับไม่ถ้วนแสนโกฏิขณะดวงจิตจะคิดพูดทำอะไรก็มีกิเลสอยู่ค่ะ จิตเกิดดับทีละ1ทางสลับกันแบบจุดสืบต่อ...........ไม่ได้เห็นตลอดเวลาไม่เก็ตเลยหรือคะ https://youtu.be/PC_yfbybQqk อธิศีลสิกขา (ศีล) อธิจิตตสิกขา (สมาธิ) อธิปัญญาสิกขา (ปัญญา) มีไหมน่า เห็นพูดอยู่เท่านั้น แสนโกฎิขณะ จิตเกิดดับทีละดวง การระลึกตามก็คือการคิดตามระลึกตามอยู่ตรงความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ตามปกติเป็นปกติ ไม่เอาเรื่องอิทธิฤทธิปาฏิหาริย์ใดๆทั้งสิ้นเข้ามาเกี่ยวข้องคิดนึกตามปกติที่ตาเนื้อเห็นหัวใจมีทุกคน พระพุทธเจ้าแสดงความจริงที่พระองค์ตรัสรู้ละเอียดอย่างยิ่งเพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจความจริงถูกตามได้ทันที ดับคิดเห็นผิดทันทีที่ฟังแล้วคิดเห็นที่กำลังเห็นถูกตามได้และรู้สึกตัวทันทีว่ามีกิเลสถ้าไม่เคยฟังจะคิดถูกรึ กิเลสนอนมาในจิตรอไหลออกมาตอนเห็นและเห็นดับเพียง3ขณะกิเลสไหลครบ6ทางถามจริงๆคิดสิตอนนี้ ดับไปแล้วถึงแสนโกฏิขณะมนุษย์หน้าตาใสซื่อบริสุทธิ์ตนไหนคิดว่าตัวเก่งกว่าคำสอนที่ว่าท่องจำคำได้มาก แค่คิดตรง1คำดับไปแล้วถึงแสนโกฏิขณะถามจริงๆคนที่คิดว่าตนเองบรรลุแล้วฟังคำสอนไม่เข้าใจมันใช่รึ ปัญญาแค่ขั้นการฟังยังทำได้ไม่ตรงทีละ1คำตรงทาง จะไปถึงอธิต่างๆได้ไง...ฝันไปม๊างงงงงงงง |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 17 มี.ค. 2019, 20:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จะพักหรือจะเพียร |
Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: ปฤษฎี เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: ถามหน่อยสิ ปัญญาคือเจตสิก ที่เกิดพร้อมจิต ดับพร้อมจิต ทีละ1ขณะ ดับทันที มืดๆๆๆ คิดสิเดี๋ยวนี้ดับนับแสนโกฏิขณะมีมืดมากกว่าสว่างไม่แจ้งหรือคะ แต่ที่ตาตัวเองเห็นแล้วกระพริบตามืดนิดนึงคิดสิมืดบอดสนิทเลยค่ะ ตอนปัญญาเกิดคือตอนที่กำลังฟังความจริงแล้วคิดตามคำสอนได้อยู่ ตอนที่ฟังแล้วคิดโน่นนี่นั่นไม่ได้ฟังแล้วลืมคิดตามแล้วขนาดฟังยังไม่ฟังเลย แล้วที่ไม่ได้กำลังฟังและไม่ไตร่ตรองตามคำสอนเนี่ยแล้วปลีกตัวออกไปนั่งมโนเอง เป็นการทำอวิชชาตามความคิดตัวเองโดยไม่คิดไตร่ตรองตามคำสอนทีละคำอยู่คือทำไม่รู้เพิ่มไงคะ สำนักปฏิบัติธรรมจึงเป็นสถานที่ทำลายคำสอนเพราะชวนคนไม่ฟังคำสอนจึงขาดการไตร่ตรองตามคำสอน https://youtu.be/JRH5qYTofrw บ้านธัมมะ ไม่เอาไตรสิกขาสักข้อ อธิศีลสิกขาก็ไม่เอา อธิจิตตสิกขาก็ไม่เอา อธิปัญญาสิกขาก็ไม่เอา เรื่องนี้อยากสนทนาปราศัยกับคุณปฤษฎีบ้าง ไปฟังมาจากไหนคุณกรัชกาย มั่วไปหมด ระวังจะบาป กล่าวคำใส่ร้ายคนอื่นนะครับ ก็คุณโรสพูดมานาน สองนานสามนานสี่นานห้านานแล้วนะขอรับ โรสเห็นแต่คุณกรัชกายคิดเองเขียนเองเออออห่อหมกเอาเองคนเดียว บอกให้ฟังไม่รู้จักฟังเพราะคนฟังเข้าใจรู้สึกตัวว่ายิ่งฟังยิ่งไม่รู้อะไรเลย เพราะคำวาจาสัจจะไม่ใช่การอ่านท่องจำบัญญัติคำแต่สัจจะคือเห็นเพียง สีสะท้อนแสงเข้ามากระทบตาดับทันทีคิดนึกในความมืดตอนรู้สีไม่มีคิดปน แล้วเดี๋ยวนี้ดับนับไม่ถ้วนแสนโกฏิขณะดวงจิตจะคิดพูดทำอะไรก็มีกิเลสอยู่ค่ะ จิตเกิดดับทีละ1ทางสลับกันแบบจุดสืบต่อ...........ไม่ได้เห็นตลอดเวลาไม่เก็ตเลยหรือคะ https://youtu.be/PC_yfbybQqk อธิศีลสิกขา (ศีล) อธิจิตตสิกขา (สมาธิ) อธิปัญญาสิกขา (ปัญญา) มีไหมน่า เห็นพูดอยู่เท่านั้น แสนโกฎิขณะ จิตเกิดดับทีละดวง การระลึกตามก็คือการคิดตามระลึกตามอยู่ตรงความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ตามปกติเป็นปกติ ไม่เอาเรื่องอิทธิฤทธิปาฏิหาริย์ใดๆทั้งสิ้นเข้ามาเกี่ยวข้องคิดนึกตามปกติที่ตาเนื้อเห็นหัวใจมีทุกคน พระพุทธเจ้าแสดงความจริงที่พระองค์ตรัสรู้ละเอียดอย่างยิ่งเพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจความจริงถูกตามได้ทันที ดับคิดเห็นผิดทันทีที่ฟังแล้วคิดเห็นที่กำลังเห็นถูกตามได้และรู้สึกตัวทันทีว่ามีกิเลสถ้าไม่เคยฟังจะคิดถูกรึ กิเลสนอนมาในจิตรอไหลออกมาตอนเห็นและเห็นดับเพียง3ขณะกิเลสไหลครบ6ทางถามจริงๆคิดสิตอนนี้ ดับไปแล้วถึงแสนโกฏิขณะมนุษย์หน้าตาใสซื่อบริสุทธิ์ตนไหนคิดว่าตัวเก่งกว่าคำสอนที่ว่าท่องจำคำได้มาก แค่คิดตรง1คำดับไปแล้วถึงแสนโกฏิขณะถามจริงๆคนที่คิดว่าตนเองบรรลุแล้วฟังคำสอนไม่เข้าใจมันใช่รึ ปัญญาแค่ขั้นการฟังยังทำได้ไม่ตรงทีละ1คำตรงทาง จะไปถึงอธิต่างๆได้ไง...ฝันไปม๊างงงงงงงง เห็นพูดทีละคำมาแต่ดลแล้ว จนป่านนี้ กรัชกายก็ยังคิดไม่ออกว่าฟังทีละคำนี่มันยังไง เหมือนกินทีละคำไหม รู้แต่ว่า สำนักแม่สุจินเนี่ยเป็นธัมมปฏิรูปปฏิสังขรณ์ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 17 มี.ค. 2019, 22:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จะพักหรือจะเพียร |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: ปฤษฎี เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: ถามหน่อยสิ ปัญญาคือเจตสิก ที่เกิดพร้อมจิต ดับพร้อมจิต ทีละ1ขณะ ดับทันที มืดๆๆๆ คิดสิเดี๋ยวนี้ดับนับแสนโกฏิขณะมีมืดมากกว่าสว่างไม่แจ้งหรือคะ แต่ที่ตาตัวเองเห็นแล้วกระพริบตามืดนิดนึงคิดสิมืดบอดสนิทเลยค่ะ ตอนปัญญาเกิดคือตอนที่กำลังฟังความจริงแล้วคิดตามคำสอนได้อยู่ ตอนที่ฟังแล้วคิดโน่นนี่นั่นไม่ได้ฟังแล้วลืมคิดตามแล้วขนาดฟังยังไม่ฟังเลย แล้วที่ไม่ได้กำลังฟังและไม่ไตร่ตรองตามคำสอนเนี่ยแล้วปลีกตัวออกไปนั่งมโนเอง เป็นการทำอวิชชาตามความคิดตัวเองโดยไม่คิดไตร่ตรองตามคำสอนทีละคำอยู่คือทำไม่รู้เพิ่มไงคะ สำนักปฏิบัติธรรมจึงเป็นสถานที่ทำลายคำสอนเพราะชวนคนไม่ฟังคำสอนจึงขาดการไตร่ตรองตามคำสอน https://youtu.be/JRH5qYTofrw บ้านธัมมะ ไม่เอาไตรสิกขาสักข้อ อธิศีลสิกขาก็ไม่เอา อธิจิตตสิกขาก็ไม่เอา อธิปัญญาสิกขาก็ไม่เอา เรื่องนี้อยากสนทนาปราศัยกับคุณปฤษฎีบ้าง ไปฟังมาจากไหนคุณกรัชกาย มั่วไปหมด ระวังจะบาป กล่าวคำใส่ร้ายคนอื่นนะครับ ก็คุณโรสพูดมานาน สองนานสามนานสี่นานห้านานแล้วนะขอรับ โรสเห็นแต่คุณกรัชกายคิดเองเขียนเองเออออห่อหมกเอาเองคนเดียว บอกให้ฟังไม่รู้จักฟังเพราะคนฟังเข้าใจรู้สึกตัวว่ายิ่งฟังยิ่งไม่รู้อะไรเลย เพราะคำวาจาสัจจะไม่ใช่การอ่านท่องจำบัญญัติคำแต่สัจจะคือเห็นเพียง สีสะท้อนแสงเข้ามากระทบตาดับทันทีคิดนึกในความมืดตอนรู้สีไม่มีคิดปน แล้วเดี๋ยวนี้ดับนับไม่ถ้วนแสนโกฏิขณะดวงจิตจะคิดพูดทำอะไรก็มีกิเลสอยู่ค่ะ จิตเกิดดับทีละ1ทางสลับกันแบบจุดสืบต่อ...........ไม่ได้เห็นตลอดเวลาไม่เก็ตเลยหรือคะ https://youtu.be/PC_yfbybQqk อธิศีลสิกขา (ศีล) อธิจิตตสิกขา (สมาธิ) อธิปัญญาสิกขา (ปัญญา) มีไหมน่า เห็นพูดอยู่เท่านั้น แสนโกฎิขณะ จิตเกิดดับทีละดวง การระลึกตามก็คือการคิดตามระลึกตามอยู่ตรงความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ตามปกติเป็นปกติ ไม่เอาเรื่องอิทธิฤทธิปาฏิหาริย์ใดๆทั้งสิ้นเข้ามาเกี่ยวข้องคิดนึกตามปกติที่ตาเนื้อเห็นหัวใจมีทุกคน พระพุทธเจ้าแสดงความจริงที่พระองค์ตรัสรู้ละเอียดอย่างยิ่งเพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจความจริงถูกตามได้ทันที ดับคิดเห็นผิดทันทีที่ฟังแล้วคิดเห็นที่กำลังเห็นถูกตามได้และรู้สึกตัวทันทีว่ามีกิเลสถ้าไม่เคยฟังจะคิดถูกรึ กิเลสนอนมาในจิตรอไหลออกมาตอนเห็นและเห็นดับเพียง3ขณะกิเลสไหลครบ6ทางถามจริงๆคิดสิตอนนี้ ดับไปแล้วถึงแสนโกฏิขณะมนุษย์หน้าตาใสซื่อบริสุทธิ์ตนไหนคิดว่าตัวเก่งกว่าคำสอนที่ว่าท่องจำคำได้มาก แค่คิดตรง1คำดับไปแล้วถึงแสนโกฏิขณะถามจริงๆคนที่คิดว่าตนเองบรรลุแล้วฟังคำสอนไม่เข้าใจมันใช่รึ ปัญญาแค่ขั้นการฟังยังทำได้ไม่ตรงทีละ1คำตรงทาง จะไปถึงอธิต่างๆได้ไง...ฝันไปม๊างงงงงงงง เห็นพูดทีละคำมาแต่ดลแล้ว จนป่านนี้ กรัชกายก็ยังคิดไม่ออกว่าฟังทีละคำนี่มันยังไง เหมือนกินทีละคำไหม รู้แต่ว่า สำนักแม่สุจินเนี่ยเป็นธัมมปฏิรูปปฏิสังขรณ์ ตาหูจมูกลิ้นกายใจมีครบแล้วไม่ได้ทำอะไรถูกไหม และสภาพธรรมแต่ละทางต่างก็ทำงานตรงทางเป็นปกติ เพราะเกิดดับตามเหตุตามปัจจัยเกิดแล้วดับแล้วเป็นปกติธรรมดา สิ่งที่ทำงานภายในสืบต่อทีละ1ขณะจิตมากถึงแสนโกฏิดวงจิตคือสิ่งที่ไม่มีใครรู้เองได้ เพราะต้องอาศัยฟังคำของพระพุทธเจ้าเพื่อเข้าใจถูกตามทีละทางตรงแต่ละทางเพราะเกิดไม่ตรงกันเลย มันปรากฏว่ามีทีละ1ทางสลับกันเร็วจนนับไม่ได้ถึงแสนล้านขณะเลยจึงปรากฏเป็นตัวตนยึดขันธ์ทั้ง5เป็นคน |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 21 มี.ค. 2019, 18:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จะพักหรือจะเพียร |
Rosarin เขียน: ตาหูจมูกลิ้นกายใจมีครบแล้วไม่ได้ทำอะไรถูกไหม และสภาพธรรมแต่ละทางต่างก็ทำงานตรงทางเป็นปกติ เพราะเกิดดับตามเหตุตามปัจจัยเกิดแล้วดับแล้วเป็นปกติธรรมดา สิ่งที่ทำงานภายในสืบต่อทีละ1ขณะจิตมากถึงแสนโกฏิดวงจิตคือสิ่งที่ไม่มีใครรู้เองได้ เพราะต้องอาศัยฟังคำของพระพุทธเจ้าเพื่อเข้าใจถูกตามทีละทางตรงแต่ละทางเพราะเกิดไม่ตรงกันเลย มันปรากฏว่ามีทีละ1ทางสลับกันเร็วจนนับไม่ได้ถึงแสนล้านขณะเลยจึงปรากฏเป็นตัวตนยึดขันธ์ทั้ง5เป็นคน ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มีครบแล้ว ไม่ได้ทำอะไรถูกไหม และสภาพธรรม แต่ละทาง ต่างก็ทำงานตรงทางเป็นปกติ เพราะเกิดดับตามเหตุตามปัจจัย เกิดแล้วดับแล้วเป็นปกติธรรมดา นี่คือวิธีคิดของคนแต่ละคน ถ้าจะถามคุณโรสว่า แล้วคนที่ลักขโมย ปล้นจี้เข่นฆ่ากันและกัน เป็นต้น เขาเหล่านั้นไม่มีตาหูคอจมูกเป็นต้นหรือ คุณโรสจะตอบว่าอย่างไร เอาตัวอย่างหนึ่งให้ดู อ้างคำพูด: ชายอายุ 27 ปี เสพยาบ้า พร้อมกับกินเหล้า จนเกิดอาการหลอน คิดว่าพ่อจะมาทำร้าย คว้าน้ำมันราดก่อนจุดไฟเผา บาดเจ็บสาหัส ตำรวจตามจับตัวได้ที่บ้านพักเกิดเหตุ ชายคนนี้มี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ครบไหม |
เจ้าของ: | Rosarin [ 26 มี.ค. 2019, 11:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จะพักหรือจะเพียร |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: ตาหูจมูกลิ้นกายใจมีครบแล้วไม่ได้ทำอะไรถูกไหม และสภาพธรรมแต่ละทางต่างก็ทำงานตรงทางเป็นปกติ เพราะเกิดดับตามเหตุตามปัจจัยเกิดแล้วดับแล้วเป็นปกติธรรมดา สิ่งที่ทำงานภายในสืบต่อทีละ1ขณะจิตมากถึงแสนโกฏิดวงจิตคือสิ่งที่ไม่มีใครรู้เองได้ เพราะต้องอาศัยฟังคำของพระพุทธเจ้าเพื่อเข้าใจถูกตามทีละทางตรงแต่ละทางเพราะเกิดไม่ตรงกันเลย มันปรากฏว่ามีทีละ1ทางสลับกันเร็วจนนับไม่ได้ถึงแสนล้านขณะเลยจึงปรากฏเป็นตัวตนยึดขันธ์ทั้ง5เป็นคน ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มีครบแล้ว ไม่ได้ทำอะไรถูกไหม และสภาพธรรม แต่ละทาง ต่างก็ทำงานตรงทางเป็นปกติ เพราะเกิดดับตามเหตุตามปัจจัย เกิดแล้วดับแล้วเป็นปกติธรรมดา นี่คือวิธีคิดของคนแต่ละคน ถ้าจะถามคุณโรสว่า แล้วคนที่ลักขโมย ปล้นจี้เข่นฆ่ากันและกัน เป็นต้น เขาเหล่านั้นไม่มีตาหูคอจมูกเป็นต้นหรือ คุณโรสจะตอบว่าอย่างไร เอาตัวอย่างหนึ่งให้ดู อ้างคำพูด: ชายอายุ 27 ปี เสพยาบ้า พร้อมกับกินเหล้า จนเกิดอาการหลอน คิดว่าพ่อจะมาทำร้าย คว้าน้ำมันราดก่อนจุดไฟเผา บาดเจ็บสาหัส ตำรวจตามจับตัวได้ที่บ้านพักเกิดเหตุ ชายคนนี้มี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ครบไหม คิดแต่เรื่องนอกตัวไกลหัวใจตัวเอง เออคนยังไม่ตายคิดตามคำสอนเนี่ย ต้องรู้สึกที่กายใจตาหูจมูกลิ้นกายใจตัวเอง ส่งออกไปเพ่งแต่กิเลสคนอื่นเอามาปรุงให้กิเลสตัวเองแรงขึ้น ปรุงแต่งกิเลสตัวเองเยอะกว่าเดิมสะสมลงในจิตตัวเองแล้วทำอะไรได้ไหมคะ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 26 มี.ค. 2019, 13:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จะพักหรือจะเพียร |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: ตาหูจมูกลิ้นกายใจมีครบแล้วไม่ได้ทำอะไรถูกไหม และสภาพธรรมแต่ละทางต่างก็ทำงานตรงทางเป็นปกติ เพราะเกิดดับตามเหตุตามปัจจัยเกิดแล้วดับแล้วเป็นปกติธรรมดา สิ่งที่ทำงานภายในสืบต่อทีละ1ขณะจิตมากถึงแสนโกฏิดวงจิตคือสิ่งที่ไม่มีใครรู้เองได้ เพราะต้องอาศัยฟังคำของพระพุทธเจ้าเพื่อเข้าใจถูกตามทีละทางตรงแต่ละทางเพราะเกิดไม่ตรงกันเลย มันปรากฏว่ามีทีละ1ทางสลับกันเร็วจนนับไม่ได้ถึงแสนล้านขณะเลยจึงปรากฏเป็นตัวตนยึดขันธ์ทั้ง5เป็นคน ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มีครบแล้ว ไม่ได้ทำอะไรถูกไหม และสภาพธรรม แต่ละทาง ต่างก็ทำงานตรงทางเป็นปกติ เพราะเกิดดับตามเหตุตามปัจจัย เกิดแล้วดับแล้วเป็นปกติธรรมดา นี่คือวิธีคิดของคนแต่ละคน ถ้าจะถามคุณโรสว่า แล้วคนที่ลักขโมย ปล้นจี้เข่นฆ่ากันและกัน เป็นต้น เขาเหล่านั้นไม่มีตาหูคอจมูกเป็นต้นหรือ คุณโรสจะตอบว่าอย่างไร เอาตัวอย่างหนึ่งให้ดู อ้างคำพูด: ชายอายุ 27 ปี เสพยาบ้า พร้อมกับกินเหล้า จนเกิดอาการหลอน คิดว่าพ่อจะมาทำร้าย คว้าน้ำมันราดก่อนจุดไฟเผา บาดเจ็บสาหัส ตำรวจตามจับตัวได้ที่บ้านพักเกิดเหตุ ชายคนนี้มี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ครบไหม คิดแต่เรื่องนอกตัวไกลหัวใจตัวเอง เออคนยังไม่ตายคิดตามคำสอนเนี่ย ต้องรู้สึกที่กายใจตาหูจมูกลิ้นกายใจตัวเอง ส่งออกไปเพ่งแต่กิเลสคนอื่นเอามาปรุงให้กิเลสตัวเองแรงขึ้น ปรุงแต่งกิเลสตัวเองเยอะกว่าเดิมสะสมลงในจิตตัวเองแล้วทำอะไรได้ไหมคะ หากจะมองพุทธธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้า ต้องมองออกไปให้ถึงสังคม ถึงมนุษย์ทุกผู้ทุกคน จึงจะครบทั้งศีล สมาธิ ปัญญา หากมองแคบๆ ก็จะเห็นพุทธธรรมครึ่งๆกลางๆขาดๆเกินๆ แล้วก็นะ มนุษย์ มี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เหมือนกันหมด มีกิเลสเหมือนกันหมด หรือ คุณโรส มีแต่หู ไม่มีตา ไม่มีลิ้น คิกๆๆ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 27 มี.ค. 2019, 04:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จะพักหรือจะเพียร |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: ตาหูจมูกลิ้นกายใจมีครบแล้วไม่ได้ทำอะไรถูกไหม และสภาพธรรมแต่ละทางต่างก็ทำงานตรงทางเป็นปกติ เพราะเกิดดับตามเหตุตามปัจจัยเกิดแล้วดับแล้วเป็นปกติธรรมดา สิ่งที่ทำงานภายในสืบต่อทีละ1ขณะจิตมากถึงแสนโกฏิดวงจิตคือสิ่งที่ไม่มีใครรู้เองได้ เพราะต้องอาศัยฟังคำของพระพุทธเจ้าเพื่อเข้าใจถูกตามทีละทางตรงแต่ละทางเพราะเกิดไม่ตรงกันเลย มันปรากฏว่ามีทีละ1ทางสลับกันเร็วจนนับไม่ได้ถึงแสนล้านขณะเลยจึงปรากฏเป็นตัวตนยึดขันธ์ทั้ง5เป็นคน ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มีครบแล้ว ไม่ได้ทำอะไรถูกไหม และสภาพธรรม แต่ละทาง ต่างก็ทำงานตรงทางเป็นปกติ เพราะเกิดดับตามเหตุตามปัจจัย เกิดแล้วดับแล้วเป็นปกติธรรมดา นี่คือวิธีคิดของคนแต่ละคน ถ้าจะถามคุณโรสว่า แล้วคนที่ลักขโมย ปล้นจี้เข่นฆ่ากันและกัน เป็นต้น เขาเหล่านั้นไม่มีตาหูคอจมูกเป็นต้นหรือ คุณโรสจะตอบว่าอย่างไร เอาตัวอย่างหนึ่งให้ดู อ้างคำพูด: ชายอายุ 27 ปี เสพยาบ้า พร้อมกับกินเหล้า จนเกิดอาการหลอน คิดว่าพ่อจะมาทำร้าย คว้าน้ำมันราดก่อนจุดไฟเผา บาดเจ็บสาหัส ตำรวจตามจับตัวได้ที่บ้านพักเกิดเหตุ ชายคนนี้มี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ครบไหม คิดแต่เรื่องนอกตัวไกลหัวใจตัวเอง เออคนยังไม่ตายคิดตามคำสอนเนี่ย ต้องรู้สึกที่กายใจตาหูจมูกลิ้นกายใจตัวเอง ส่งออกไปเพ่งแต่กิเลสคนอื่นเอามาปรุงให้กิเลสตัวเองแรงขึ้น ปรุงแต่งกิเลสตัวเองเยอะกว่าเดิมสะสมลงในจิตตัวเองแล้วทำอะไรได้ไหมคะ หากจะมองพุทธธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้า ต้องมองออกไปให้ถึงสังคม ถึงมนุษย์ทุกผู้ทุกคน จึงจะครบทั้งศีล สมาธิ ปัญญา หากมองแคบๆ ก็จะเห็นพุทธธรรมครึ่งๆกลางๆขาดๆเกินๆ แล้วก็นะ มนุษย์ มี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เหมือนกันหมด มีกิเลสเหมือนกันหมด หรือ คุณโรส มีแต่หู ไม่มีตา ไม่มีลิ้น คิกๆๆ เออ...มีกิเลสเหมือนกันหมด...ที่ไม่มีคือไม่รู้ความจริงตรงสัจจะแบบพระพุทธเจ้า เออ...พระพุทธเจ้าคนเดียวที่เห็นสีและแสดงธรรมละเอียดว่าเกิดดับนับไม่ถ้วน ตรงขณะแล้วตรงขณะของพระพุทธเจ้าใครคิดเอาได้ก็มันดับถึงแสนโกฏิขณะ หนึ่งขณะจิตมีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่นับได้ไม่มีใครรู้ความจริงในทศพลญาณ นอกจากคนๆนั้นจะเป็นพระพุทธเจ้าเองถึงจะบัญญัติคำสอนเพื่อให้คนอื่นสิกขา ทุกคนที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้าล้วนสิกขาตามการฟังเสียงไม่ใช่อ่านเอามันไม่รู้สำเนียง เออรู้สึกตัวไหมว่าเวลาอ่านเนื้อเพลงโดยที่ยังไม่เคยฟังจะรู้เหรอว่าสำเนียงเป็นยังไง ต้องได้ฟังต้นฉบับที่เขาร้องจึงจะร้องตามได้ตรงสำเนียงเอออยู่ๆมีเนื้อเพลงก็จะอ่านเอาก็ได้อย่างงั้นหรือคะ คิดสิทุกคนจะร้องเพลงสักเพลงนึงได้ไม่ใช่ไปดูแต่ตัวอักษรแล้วก็เดาสำเนียงเออต้องฟังคนอื่นร้องให้ฟังก่อน มีตำราก็เหมือนมีโพยเนื้อเพลงอ่านเอาไม่ฟังแต่จะร้องเป็นเพลงได้รึจนกว่าจะฟังก่อนแล้วร้องตามตามทีละคำ คุณถึงจะร้องตามได้ตรงทั้งเนื้อร้องและทำนองเออแล้วจะรู้ไหมว่าตัวเองอ่านแต่เนื้อร้องท่องจำได้หมดทุกคำ แต่ไม่มีปัญญาจะร้องเพลงให้คนอื่นฟังเพราะจะขึ้นเวทีไปอ่านโพยตูอ่านถูกดนตรีต้องเล่นตามตูให้ถูกคีย์รึ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 27 มี.ค. 2019, 04:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จะพักหรือจะเพียร |
จะร้องเพลงของพระพุทธเจ้า มีโพยคือเนื้อหาคำสอนแล้ว จะเอาแต่อ่านโดยไม่ฟัง แล้วจะไปร้องให้ใครฟังถูก มันต้องฟังจากคนอื่นถ่ายทอดทั้งคำที่จะร้องและท่วงทำนองที่ร้อง ใครฟังไม่เข้าใจแล้วจะไปถ่ายทอดให้คนอื่นร้องตามได้ยังไงจะเอาแต่ท่องเนื้อร้องเหรอคะ คิดสิคะมีเนื้อร้องเป็นล้านๆเนื้อร้องอ่านท่องจำเนื้อเพลงแต่ร้องไม่เป็นเพลงคนเขาจะฟังไหมเขาอ่านเองได้ เหมือนตัวเองไหมตูอ่านเองได้โดยไม่ฟังจากสาวกว่าเขาร้องกันยังไงแล้วจะเอาแต่ก๊อปมาแปะให้ร้องเอง555 |
เจ้าของ: | Rosarin [ 27 มี.ค. 2019, 19:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จะพักหรือจะเพียร |
Rosarin เขียน: Kiss พักคือไม่คิดเหตุผลตามคำสอน เพียรคือเพียรฟังเพื่อละไม่รู้ที่กำลังมี ไม่พักคือการเพียรฟังคำสอนเพื่อไตร่ตรองตามได้ https://youtu.be/P1O-BUpAKns ข้างบนนั่นบอกวิธีทำสุตมยปัญญาตามปกติใช้หูฟังเพิ่มปัญญาเจตสิกโดยลืมตาตื่นรู้ตามปกติ โดยพึ่งคิดตามคำสัจจะตรงที่กายใจมีตรงตามที่กำลังฟังคือฝึกกรรมฐานทำสมาธิลืมตาเห็นเพื่อรู้แจ้ง |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 28 มี.ค. 2019, 11:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จะพักหรือจะเพียร |
Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Kiss พักคือไม่คิดเหตุผลตามคำสอน เพียรคือเพียรฟังเพื่อละไม่รู้ที่กำลังมี ไม่พักคือการเพียรฟังคำสอนเพื่อไตร่ตรองตามได้ https://youtu.be/P1O-BUpAKns ข้างบนนั่นบอกวิธีทำสุตมยปัญญาตามปกติใช้หูฟังเพิ่มปัญญาเจตสิกโดยลืมตาตื่นรู้ตามปกติ โดยพึ่งคิดตามคำสัจจะตรงที่กายใจมีตรงตามที่กำลังฟังคือฝึกกรรมฐานทำสมาธิลืมตาเห็นเพื่อรู้แจ้ง มโนเอาทั้งนั้น คิกๆๆ แบบนี้แหละ ได้เป็นพะออระหันประจำสำนัก แต่ละสำนักๆ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 28 มี.ค. 2019, 11:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จะพักหรือจะเพียร |
Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: พักคือไม่คิดเหตุผลตามคำสอน เพียรคือเพียรฟังเพื่อละไม่รู้ที่กำลังมี ไม่พักคือการเพียรฟังคำสอนเพื่อไตร่ตรองตามได้ https://youtu.be/P1O-BUpAKns ข้างบนนั่นบอกวิธีทำสุตมยปัญญาตามปกติใช้หูฟังเพิ่มปัญญาเจตสิกโดยลืมตาตื่นรู้ตามปกติ โดยพึ่งคิดตามคำสัจจะตรงที่กายใจมีตรงตามที่กำลังฟังคือฝึกกรรมฐานทำสมาธิลืมตาเห็นเพื่อรู้แจ้ง คุณโรสมีความเห็นยังไงนี่ ทำสมาธิแล้วได้ยินเสียงสวดมนต์ เมื่อถึงเวลาที่ต้องนั่งสมาธิ เกิดปวดขาอย่างมาก แต่ก็ไม่ยอมแพ้ ทนนั่งจนหมดเวลา (ซึ่งเป็นครั้งแรกค่ะเนื่องจากไม่เคยทนได้เลย) ระหว่างที่ปวดมากๆ ก็นึกถึงพระพุทธเจ้าตลอดเวลา และสู้เนื่องจากเคยได้ยินว่า "ไม่เคยมีใครตายจากการนั่งสมาธิ" รวมทั้งประโยคที่ว่า "นิพพานอยู่ฝั่งตาย" (จำไม่ได้ว่าเป็นของหลวงพ่อท่านไหนค่ะ) และคิดว่าตายเป็นตายแต่จะไม่ลืมตาเปลี่ยนอิริยาบถก่อนหมดเวลาแน่นอน (ใจก็นึกถึงแต่พระพุทธเจ้าตลอดเวลาค่ะ) เมื่อนาฬิกาดังหมดเวลา เราก็ลืมตาเปลี่ยนอิริยาบถ เพื่อคลายอาการปวดขา แต่เรารู้สึกว่า...ทันทีที่เราลืมตา เราก็ได้ยินเสียงสวดมนต์ดังอยู่ในหู ทั้งๆที่เวลานั้นไม่ได้มีพระสวดมนต์อยู่ใกล้ๆค่ะ ก่อนหน้านี้....เมื่อครั่งที่เราไปปฏิบัติธรรมครั้งแรก และเมื่อกลับมาถึงบ้าน เราก็สวดแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศลที่บ้าน เราก็ได้ยินเสียงสวดมนต์ดังอยู่ในหูอีกเหมือนกัน ทั้งๆที่ใกล้ๆบ้านก็ไม่มีวัดและไม่มีใครเปิดวิทยุค่ะ (ตอนแรกนึกว่ามีพระสวดทำวัตรเย็นอยู่ใกล้ๆ แต่บ้านก็ไม่ได้อยู่ใกล้วัด ) แล้วก็เคยมีอีกครั้งนึง เราคุยกับแม่ แนะนำแม่เรื่องการไปปฎิบัติธรรม และชวนแม่ให้ไปปฏิบัติธรรมด้วยกัน ก็ได้ยินเสียงสวดมนต์ดังแว่วในหูอีก เสียงสวดมนต์ที่ได้ยิน 2 ครั้งแรก จะได้ยินเพียงช่วงเวลาสั้นๆไม่ถึงชม.ค่ะ แต่ครั้งล่าสุดได้ยิน(หลังจากนั่งสมาธิ)ดังนานหลายชม.ตั่งแต่ประมาณเกือบ 4 โมงเย็น จนถึงเวลานอนตอน 4 ทุ่มเลยค่ะ เสียงสวดมนต์ดังกล่าว เป็นเสียงเหมือนพระสวดมนต์ ฟังจับใจความได้เป็นบางคำ แต่ไม่รู้ว่าเป็นบทสวดอะไร บางครั้งก็จะได้ยินเป็นเสียงดนตรีไทยบรรเลงอยู่ ระหว่างสวดมนต์และตอนเดินจงกรม ทั้งที่วัดและที่บ้าน ถามเพื่อนที่ไปด้วยกันว่าได้ยินไหม เค้าบอกว่าไม่เห็นได้ยินอะไรเลย เราก็เลยไม่กล้าถามเค้าต่อ กลัวเขาว่าเราสติไม่ดี เลยอยากถามผู้มีความรู้หรือผู้ที่เคยมีประสบการณ์ว่าเคยมีใครได้ยินเป็นลักษณะนี้บ้างหรือไม่ แล้วเป็นเสียงของใครเหรอคะ หรือว่าเราคิดมากไปเอง |
เจ้าของ: | Rosarin [ 28 มี.ค. 2019, 20:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จะพักหรือจะเพียร |
บอกให้ฟังคำสอนคิดตามคำสอน ไม่ใช่ไปคิดค้นทำอะไรขึ้นมาใหม่ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงที่มีแล้ว ที่ไม่มีใครคิดเองได้ตรงความจริงไงคะ มันดับเป็นกิเลสไปแล้วถึงแสนโกฏิขณะ บอกเท่าไหร่ก็ไม่เคยไปฟังจะได้มีปัญญาเกิดบ้าง เมื่อไหร่จะเริ่มฟังเพื่อให้คิดถูกตามสังขารขันธ์จะได้ปรุงแต่งจิตถูกตามคำสอนได้ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 28 มี.ค. 2019, 20:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จะพักหรือจะเพียร |
Rosarin เขียน: Kiss บอกให้ฟังคำสอนคิดตามคำสอน ไม่ใช่ไปคิดค้นทำอะไรขึ้นมาใหม่ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงที่มีแล้ว ที่ไม่มีใครคิดเองได้ตรงความจริงไงคะ มันดับเป็นกิเลสไปแล้วถึงแสนโกฏิขณะ บอกเท่าไหร่ก็ไม่เคยไปฟังจะได้มีปัญญาเกิดบ้าง เมื่อไหร่จะเริ่มฟังเพื่อให้คิดถูกตามสังขารขันธ์จะได้ปรุงแต่งจิตถูกตามคำสอนได้ ไม่มีอะไรใหม่เลย ของเก่าทั้งเพ คนเก่าหรือใหม่ สมัยพุทธกาลมีคนใหม่ ตอบ 1. ไม่มีคน 2.มีคน |
เจ้าของ: | Rosarin [ 28 มี.ค. 2019, 21:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จะพักหรือจะเพียร |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Kiss บอกให้ฟังคำสอนคิดตามคำสอน ไม่ใช่ไปคิดค้นทำอะไรขึ้นมาใหม่ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงที่มีแล้ว ที่ไม่มีใครคิดเองได้ตรงความจริงไงคะ มันดับเป็นกิเลสไปแล้วถึงแสนโกฏิขณะ บอกเท่าไหร่ก็ไม่เคยไปฟังจะได้มีปัญญาเกิดบ้าง เมื่อไหร่จะเริ่มฟังเพื่อให้คิดถูกตามสังขารขันธ์จะได้ปรุงแต่งจิตถูกตามคำสอนได้ ไม่มีอะไรใหม่เลย ของเก่าทั้งเพ คนเก่าหรือใหม่ สมัยพุทธกาลมีคนใหม่ ตอบ 1. ไม่มีคน 2.มีคน คำสอนของพระพุทธเจ้าคิดตามได้เท่านั้นทำไม่ได้บอกไม่ฟังนะ แค่ฟังเพื่อคิดให้ตรงทางตามได้ยังไม่เคยทำได้เลยยังจะไปทำอะไรได้อีก แล้วปัญญาจะเกิดได้ยังไงบอกไม่เคยฟังก็ฟังให้มันเคยชินก็เกิดอยู่คือมีกิเลส ฟังจะได้เข้าใจถูกตรงตามได้เดี๋ยวนี้1ขณะมีครบจิต+เจตสิก+รูปที่ไม่มีคือนิพพาน มีแล้วไม่ได้ทำเพราะเกิดแล้วตามเหตุตามปัจจัยตรงทางตรงขณะนับแสนล้านดวงจิต |
หน้า 3 จากทั้งหมด 4 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |