ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

"กรรมฐาน" ท่านให้เลือกเอาอย่างเดียวอย่างใดอย่างหนึ่ง
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57275
หน้า 11 จากทั้งหมด 13

เจ้าของ:  Love J. [ 31 มี.ค. 2019, 08:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "กรรมฐาน" ท่านให้เลือกเอาอย่างเดียวอย่างใดอย่างหนึ่ง

กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
กรัชกาย
แถ :b32: ไปเรื่อย


อ้างคำพูด:
Love J.
ก็ตามแตจะว่า
พูดตามความเป็นจริง ยังไงก็ยังงั้น แค่ไหนก็แค่นั้น ทั้งความจริงนั้น ผมก็ไม่ยึดมั่นถือมั่น


พ่ะน่ะ หมดอุปาทานอีก เอาเข้าไปเอา :b32:

ผึ้งบินหาเกษรมาทำน้ำหวาน


ถามเนื้อความให้ดีก่อนอย่าพึ่งสรุป ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น


อธิบายหน่อยสิ มันยังไง


อ้างคำพูด:
Love J.
ก็ตามแตจะว่า
พูดตามความเป็นจริง ยังไงก็ยังงั้น แค่ไหนก็แค่นั้น ทั้งความจริงนั้น ผมก็ไม่ยึดมั่นถือมั่น


คุณกรัชกายจะว่าผมแถ ก็ตามแต่คุณกรัชกายจะว่า แต่สิ่งที่ผมพูดนั้นพูดตามความเป็นจริง ผมเป็นอย่างไรก็พูดไปตามนั้น ทั้งสิ่งที่ผมเป็นนั้นก็ไม่ได้ยึดมั่นถือมั่น เป็นสิ่งถูกรู้ ถูกดู ถูกฝึก ถูกอบรม


อ้อ มันเป็นยังงี้นี่เอง ไม่ยึดมั่นถือมั่น อืมม :b1: ไม่อุปาทาน
s

ผมเคยเห็นว่าไม่มีที่เกิดใดจะตั้งมั่นเที่ยงแท้ให้อาศัพพักพิงหลบลอดปลอดภัยได้ แล้วก็เห็นความดับ
ผมเคยเห็นทุกข์ที่ใจเป็นของปรุงแต่ง อุปาทานไปเองควรละแล้วก็เห็นความดับ จากนั้นมาผมรู้ว่าไม่มีสิ่งใดเป็นเรา ของเรา ตัวตนเรา เพราะเห็นอย่างนั้นผมจึงบอกว่าไม่ยึดมั่นถือมั่น

แต่จะบอกว่าผมไม่มีอุปาทาน ผมปฏิเสธเพราะผมยังทุกข์อยู่แสดงว่าผมต้องยังมีอุปาทานขันธ์ ๕ อยู่ ตัวตนผมนี้จึงเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้ารู้ เฝ้าดู เฝ้าฝึกอบรม เพื่อถอดถอนออุปาทาน เพื่อความดับทุกข์ นั่นคงเป็นเหตุให้ผมมีความชอบ ความสนใจ ในการเจริญอนุสติ ๑๐


พูดถึงหลบๆ สมแล้วที่เป็นศิษย์ของ อ.ปราโมทย์ :b1: ทำให้กรัชกายนึกวิธีหลบคลื่นลมของชาวตังเก คือว่า ครั้นเมื่อท้องทะเลมีมรสุมคลื่นลมโหมกระหน่ำ ชาวเรือก็พาเรือไปหลบตามเกาะแก่งเพื่อบังคลื่นลม พอคลื่นสงบท้องฟ้าโปร่ง ก็ออกหาปลาใหม่ ฯลฯ ครั้นทะเลปั่นป่วนอีก ก็พาเรือไปหลบคลื่นลมอีก ฯลฯ ฉันใดก็ฉันนั้น :b13:

ทำไปปฏิบัติไป ถูกถีนมิทธนิวรณ์ครอบงำจิตใจง่วงนอนไม่ไหวแล้ว ก็แนะนำไปนอนสะก่อน หายง่วงแล้วมาภาวนาใหม่ ไปเข้าห้องน้ำก่อนหายง่วงแล้วมาภาวนาใหม่ หลบหลบ :b12:


ผมฉลาดน้อย อุปมาชาวตังเก เปรียบกับสิ่งใด รบกวนคุณกรัชกายช่วยชี้แนะ


กรัชกายเห็น "หลบ" ตัวนั้น ซึ่งเป็นสำนวนที่ได้ยินได้ฟังบ่อย เลยถึงชาวตังเกหลบมรสุม


อ่อข้อนั้นผมยอมรับ ง่วงก็เอนตัวนอนไม่ได้ฝืนได้ข่มอะไรเท่าไหร่ แต่ไม่เกี่ยวกับหลวงพ่อปราโมทย์ ผมขี้เกียจของผมเอง

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 31 มี.ค. 2019, 08:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "กรรมฐาน" ท่านให้เลือกเอาอย่างเดียวอย่างใดอย่างหนึ่ง

อ้างคำพูด:
Love J.
ผมเคยเห็นว่าไม่มีที่เกิดใดจะตั้งมั่นเที่ยงแท้ให้อาศัพพักพิงหลบลอดปลอดภัยได้ แล้วก็เห็นความดับ
ผมเคยเห็นทุกข์ที่ใจเป็นของปรุงแต่ง อุปาทานไปเองควรละแล้วก็เห็นความดับ จากนั้นมาผมรู้ว่าไม่มีสิ่งใดเป็นเรา ของเรา ตัวตนเรา เพราะเห็นอย่างนั้นผมจึงบอกว่าไม่ยึดมั่นถือมั่น

แต่จะบอกว่าผมไม่มีอุปาทาน ผมปฏิเสธเพราะผมยังทุกข์อยู่แสดงว่าผมต้องยังมีอุปาทานขันธ์ ๕ อยู่ ตัวตนผมนี้จึงเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้ารู้ เฝ้าดู เฝ้าฝึกอบรม เพื่อถอดถอนออุปาทาน เพื่อความดับทุกข์ นั่นคงเป็นเหตุให้ผมมีความชอบ ความสนใจ ในการเจริญอนุสติ ๑๐



อ้างคำพูด:
ผมเคยเห็นว่าไม่มีที่เกิดใดจะตั้งมั่นเที่ยงแท้ให้อาศัพพักพิงหลบลอดปลอดภัยได้ แล้วก็เห็นความดับ
ผมเคยเห็นทุกข์ที่ใจเป็นของปรุงแต่ง อุปาทานไปเองควรละแล้วก็เห็นความดับ จากนั้นมาผมรู้ว่าไม่มีสิ่งใดเป็นเรา ของเรา ตัวตนเรา เพราะเห็นอย่างนั้นผมจึงบอกว่าไม่ยึดมั่นถือมั่น


คุณเลิฟ เจ. อย่างนั้น มันจบแล้วขอรับ จบแล้ว ที่ไม่จบ ยังมีอีก คือ

อ้างคำพูด:
แต่จะบอกว่าผมไม่มีอุปาทาน ผมปฏิเสธเพราะผมยังทุกข์อยู่แสดงว่าผมต้องยังมีอุปาทานขันธ์ ๕ อยู่ ตัวตนผมนี้จึงเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้ารู้ เฝ้าดู เฝ้าฝึกอบรม เพื่อถอดถอนออุปาทาน เพื่อความดับทุกข์ นั่นคงเป็นเหตุให้ผมมีความชอบ ความสนใจ ในการเจริญอนุสติ ๑๐


ก็ลงข้อสรุปได้ว่า คุณไม่ได้เห็น แต่คุณได้ยินได้ฟังได้อ่านมาแล้วก็มโน ว่าเห็น อย่างนี้ไม่ใช่เห็น เรียกตามภาษาวัยรุ่นปัจจุบันว่า มโน

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 31 มี.ค. 2019, 08:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "กรรมฐาน" ท่านให้เลือกเอาอย่างเดียวอย่างใดอย่างหนึ่ง

Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
กรัชกาย
แถ :b32: ไปเรื่อย


อ้างคำพูด:
Love J.
ก็ตามแตจะว่า
พูดตามความเป็นจริง ยังไงก็ยังงั้น แค่ไหนก็แค่นั้น ทั้งความจริงนั้น ผมก็ไม่ยึดมั่นถือมั่น


พ่ะน่ะ หมดอุปาทานอีก เอาเข้าไปเอา :b32:

ผึ้งบินหาเกษรมาทำน้ำหวาน


ถามเนื้อความให้ดีก่อนอย่าพึ่งสรุป ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น


อธิบายหน่อยสิ มันยังไง


อ้างคำพูด:
Love J.
ก็ตามแตจะว่า
พูดตามความเป็นจริง ยังไงก็ยังงั้น แค่ไหนก็แค่นั้น ทั้งความจริงนั้น ผมก็ไม่ยึดมั่นถือมั่น


คุณกรัชกายจะว่าผมแถ ก็ตามแต่คุณกรัชกายจะว่า แต่สิ่งที่ผมพูดนั้นพูดตามความเป็นจริง ผมเป็นอย่างไรก็พูดไปตามนั้น ทั้งสิ่งที่ผมเป็นนั้นก็ไม่ได้ยึดมั่นถือมั่น เป็นสิ่งถูกรู้ ถูกดู ถูกฝึก ถูกอบรม


อ้อ มันเป็นยังงี้นี่เอง ไม่ยึดมั่นถือมั่น อืมม :b1: ไม่อุปาทาน
s

ผมเคยเห็นว่าไม่มีที่เกิดใดจะตั้งมั่นเที่ยงแท้ให้อาศัพพักพิงหลบลอดปลอดภัยได้ แล้วก็เห็นความดับ
ผมเคยเห็นทุกข์ที่ใจเป็นของปรุงแต่ง อุปาทานไปเองควรละแล้วก็เห็นความดับ จากนั้นมาผมรู้ว่าไม่มีสิ่งใดเป็นเรา ของเรา ตัวตนเรา เพราะเห็นอย่างนั้นผมจึงบอกว่าไม่ยึดมั่นถือมั่น

แต่จะบอกว่าผมไม่มีอุปาทาน ผมปฏิเสธเพราะผมยังทุกข์อยู่แสดงว่าผมต้องยังมีอุปาทานขันธ์ ๕ อยู่ ตัวตนผมนี้จึงเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้ารู้ เฝ้าดู เฝ้าฝึกอบรม เพื่อถอดถอนออุปาทาน เพื่อความดับทุกข์ นั่นคงเป็นเหตุให้ผมมีความชอบ ความสนใจ ในการเจริญอนุสติ ๑๐


พูดถึงหลบๆ สมแล้วที่เป็นศิษย์ของ อ.ปราโมทย์ :b1: ทำให้กรัชกายนึกวิธีหลบคลื่นลมของชาวตังเก คือว่า ครั้นเมื่อท้องทะเลมีมรสุมคลื่นลมโหมกระหน่ำ ชาวเรือก็พาเรือไปหลบตามเกาะแก่งเพื่อบังคลื่นลม พอคลื่นสงบท้องฟ้าโปร่ง ก็ออกหาปลาใหม่ ฯลฯ ครั้นทะเลปั่นป่วนอีก ก็พาเรือไปหลบคลื่นลมอีก ฯลฯ ฉันใดก็ฉันนั้น :b13:

ทำไปปฏิบัติไป ถูกถีนมิทธนิวรณ์ครอบงำจิตใจง่วงนอนไม่ไหวแล้ว ก็แนะนำไปนอนสะก่อน หายง่วงแล้วมาภาวนาใหม่ ไปเข้าห้องน้ำก่อนหายง่วงแล้วมาภาวนาใหม่ หลบหลบ :b12:


ผมฉลาดน้อย อุปมาชาวตังเก เปรียบกับสิ่งใด รบกวนคุณกรัชกายช่วยชี้แนะ


กรัชกายเห็น "หลบ" ตัวนั้น ซึ่งเป็นสำนวนที่ได้ยินได้ฟังบ่อย เลยถึงชาวตังเกหลบมรสุม


อ่อข้อนั้นผมยอมรับ ง่วงก็เอนตัวนอนไม่ได้ฝืนได้ข่มอะไรเท่าไหร่ แต่ไม่เกี่ยวกับหลวงพ่อปราโมทย์ ผมขี้เกียจของผมเอง


นึกออกไหม คุณเคยพูดคำว่า วิหารธรรม กรัชกายรู้แล้วว่าสำนวนนี้มาจากไหน จึงถามคุณทีแล้วก่อนหน้าโน้น หลบหลบ นี่มาจากไหน ดังนั้น คุณได้ยินได้ฟังจากคนนั้นนิดคนนี้หน่วยแล้วนำมาปะติดปะต่อกัน

เจ้าของ:  Love J. [ 31 มี.ค. 2019, 08:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "กรรมฐาน" ท่านให้เลือกเอาอย่างเดียวอย่างใดอย่างหนึ่ง

Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
กรัชกาย
แถ :b32: ไปเรื่อย


อ้างคำพูด:
Love J.
ก็ตามแตจะว่า
พูดตามความเป็นจริง ยังไงก็ยังงั้น แค่ไหนก็แค่นั้น ทั้งความจริงนั้น ผมก็ไม่ยึดมั่นถือมั่น


พ่ะน่ะ หมดอุปาทานอีก เอาเข้าไปเอา :b32:

ผึ้งบินหาเกษรมาทำน้ำหวาน


ถามเนื้อความให้ดีก่อนอย่าพึ่งสรุป ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น


อธิบายหน่อยสิ มันยังไง


อ้างคำพูด:
Love J.
ก็ตามแตจะว่า
พูดตามความเป็นจริง ยังไงก็ยังงั้น แค่ไหนก็แค่นั้น ทั้งความจริงนั้น ผมก็ไม่ยึดมั่นถือมั่น


คุณกรัชกายจะว่าผมแถ ก็ตามแต่คุณกรัชกายจะว่า แต่สิ่งที่ผมพูดนั้นพูดตามความเป็นจริง ผมเป็นอย่างไรก็พูดไปตามนั้น ทั้งสิ่งที่ผมเป็นนั้นก็ไม่ได้ยึดมั่นถือมั่น เป็นสิ่งถูกรู้ ถูกดู ถูกฝึก ถูกอบรม


อ้อ มันเป็นยังงี้นี่เอง ไม่ยึดมั่นถือมั่น อืมม :b1: ไม่อุปาทาน
s

ผมเคยเห็นว่าไม่มีที่เกิดใดจะตั้งมั่นเที่ยงแท้ให้อาศัพพักพิงหลบลอดปลอดภัยได้ แล้วก็เห็นความดับ
ผมเคยเห็นทุกข์ที่ใจเป็นของปรุงแต่ง อุปาทานไปเองควรละแล้วก็เห็นความดับ จากนั้นมาผมรู้ว่าไม่มีสิ่งใดเป็นเรา ของเรา ตัวตนเรา เพราะเห็นอย่างนั้นผมจึงบอกว่าไม่ยึดมั่นถือมั่น

แต่จะบอกว่าผมไม่มีอุปาทาน ผมปฏิเสธเพราะผมยังทุกข์อยู่แสดงว่าผมต้องยังมีอุปาทานขันธ์ ๕ อยู่ ตัวตนผมนี้จึงเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้ารู้ เฝ้าดู เฝ้าฝึกอบรม เพื่อถอดถอนออุปาทาน เพื่อความดับทุกข์ นั่นคงเป็นเหตุให้ผมมีความชอบ ความสนใจ ในการเจริญอนุสติ ๑๐


พูดถึงหลบๆ สมแล้วที่เป็นศิษย์ของ อ.ปราโมทย์ :b1: ทำให้กรัชกายนึกวิธีหลบคลื่นลมของชาวตังเก คือว่า ครั้นเมื่อท้องทะเลมีมรสุมคลื่นลมโหมกระหน่ำ ชาวเรือก็พาเรือไปหลบตามเกาะแก่งเพื่อบังคลื่นลม พอคลื่นสงบท้องฟ้าโปร่ง ก็ออกหาปลาใหม่ ฯลฯ ครั้นทะเลปั่นป่วนอีก ก็พาเรือไปหลบคลื่นลมอีก ฯลฯ ฉันใดก็ฉันนั้น :b13:

ทำไปปฏิบัติไป ถูกถีนมิทธนิวรณ์ครอบงำจิตใจง่วงนอนไม่ไหวแล้ว ก็แนะนำไปนอนสะก่อน หายง่วงแล้วมาภาวนาใหม่ ไปเข้าห้องน้ำก่อนหายง่วงแล้วมาภาวนาใหม่ หลบหลบ :b12:


ผมฉลาดน้อย อุปมาชาวตังเก เปรียบกับสิ่งใด รบกวนคุณกรัชกายช่วยชี้แนะ


กรัชกายเห็น "หลบ" ตัวนั้น ซึ่งเป็นสำนวนที่ได้ยินได้ฟังบ่อย เลยถึงชาวตังเกหลบมรสุม


อ่อข้อนั้นผมยอมรับ ง่วงก็เอนตัวนอนไม่ได้ฝืนได้ข่มอะไรเท่าไหร่ แต่ไม่เกี่ยวกับหลวงพ่อปราโมทย์ ผมขี้เกียจของผมเอง


ที่ผมบอกว่าหาที่เกิดที่เที่ยงแท้ให้อาศัยหลบรอดปลอดภัยจากความดับไม่มี ไม่ใช่หลบนอนแต่ ดูความคันจะมันเห้นเป็นนิมิต พอเกิดทีแสงสีเขียว ๆ ดวงกลม ๆ ก็ติดที แล้วก็ดับเคลื่อนไปเกิดที่ไหม่ แล้วก็ดับ จนเริ่มตื่นตระหนก เกิดแล้วก็ดับ ดับอีกแล้ว ๆ มีแต่ดับ ๆ ๆ ๆ ไม่มีที่จะเคลื่อนไปเกิดแล้วจะไม่ดับ

กรัชกาย เขียน:
นึกออกไหม คุณเคยพูดคำว่า วิหารธรรม กรัชกายรู้แล้วว่าสำนวนนี้มาจากไหน จึงถามคุณทีแล้วก่อนหน้าโน้น หลบหลบ นี่มาจากไหน ดังนั้น คุณได้ยินได้ฟังจากคนนั้นนิดคนนี้หน่วยแล้วนำมาปะติดปะต่อกัน

อันนี้ไม่น่าใช่ ตอนพูดผมไม่ได้นึกถึงว่าคำนี้อาจารย์ว่าไว้ คำนั้นอาจารย์ว่าไว้ ผมพิจารณาว่า กรรมฐาน คือ
อะไร นึกถึงการกระทำพื้นฐาน ที่เป็นเครื่องรู้ของจิต เวลาที่ไม่ได้เอาจิตไปรู้การงานภายนอก ผมก็เลือกใช้คำว่าวิหารเพราะมันคล้องจองกันแล้วความหมายก็ใช้แทนกันได้จึงกล่าวไปอย่างนั้น คำว่าหลบนี้ก็ไม่ได้มาจากหลวงพ่อปราโมทย์ ใจมันบอกออกมาเองตอนไปเห็นสภาวะนั้น

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 31 มี.ค. 2019, 08:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "กรรมฐาน" ท่านให้เลือกเอาอย่างเดียวอย่างใดอย่างหนึ่ง

อ้างคำพูด:
Love J.

ที่ผมบอกว่าหาที่เกิดที่เที่ยงแท้ให้อาศัยหลบรอดปลอดภัยจากความดับไม่มี ไม่ใช่หลบนอนแต่ ดูความคันจะมันเห้นเป็นนิมิต พอเกิดทีแสงสีเขียว ๆ ดวงกลม ๆ ก็ติดที แล้วก็ดับเคลื่อนไปเกิดที่ไหม่ แล้วก็ดับ จนเริ่มตื่นตระหนก เกิดแล้วก็ดับ ดับอีกแล้ว ๆ มีแต่ดับ ๆ ๆ ๆ ไม่มีที่จะเคลื่อนไปเกิดแล้วจะไม่ดับ

โอ้ เห็นเยอะแยะเบย ดับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คิกๆๆๆ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 31 มี.ค. 2019, 09:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "กรรมฐาน" ท่านให้เลือกเอาอย่างเดียวอย่างใดอย่างหนึ่ง

Love J. เขียน:


ที่ผมบอกว่าหาที่เกิดที่เที่ยงแท้ให้อาศัยหลบรอดปลอดภัยจากความดับไม่มี ไม่ใช่หลบนอนแต่ ดูความคันจะมันเห้นเป็นนิมิต พอเกิดทีแสงสีเขียว ๆ ดวงกลม ๆ ก็ติดที แล้วก็ดับเคลื่อนไปเกิดที่ไหม่ แล้วก็ดับ จนเริ่มตื่นตระหนก เกิดแล้วก็ดับ ดับอีกแล้ว ๆ มีแต่ดับ ๆ ๆ ๆ ไม่มีที่จะเคลื่อนไปเกิดแล้วจะไม่ดับ


นึกออกไหม เคยบอกก่อนโน้น เล่าเป็นฉากๆอย่างนี้แหละเดี๋ยวเถอะได้เป็นอรหันต์ :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 31 มี.ค. 2019, 09:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "กรรมฐาน" ท่านให้เลือกเอาอย่างเดียวอย่างใดอย่างหนึ่ง

กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Love J.

ที่ผมบอกว่าหาที่เกิดที่เที่ยงแท้ให้อาศัยหลบรอดปลอดภัยจากความดับไม่มี ไม่ใช่หลบนอนแต่ ดูความคันจะมันเห้นเป็นนิมิต พอเกิดทีแสงสีเขียว ๆ ดวงกลม ๆ ก็ติดที แล้วก็ดับเคลื่อนไปเกิดที่ไหม่ แล้วก็ดับ จนเริ่มตื่นตระหนก เกิดแล้วก็ดับ ดับอีกแล้ว ๆ มีแต่ดับ ๆ ๆ ๆ ไม่มีที่จะเคลื่อนไปเกิดแล้วจะไม่ดับ

โอ้ เห็นเยอะแยะเบย ดับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คิกๆๆๆ


คุณเลิฟ เจ. เอายังงี้ไหม เพื่อยุติปัญหา คือ คุณอยากมีอยากเป็นอะไรก็เชิญตามอัธยาศัย ดีไหม :b16:

เจ้าของ:  Love J. [ 31 มี.ค. 2019, 09:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "กรรมฐาน" ท่านให้เลือกเอาอย่างเดียวอย่างใดอย่างหนึ่ง

กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:


ที่ผมบอกว่าหาที่เกิดที่เที่ยงแท้ให้อาศัยหลบรอดปลอดภัยจากความดับไม่มี ไม่ใช่หลบนอนแต่ ดูความคันจะมันเห้นเป็นนิมิต พอเกิดทีแสงสีเขียว ๆ ดวงกลม ๆ ก็ติดที แล้วก็ดับเคลื่อนไปเกิดที่ไหม่ แล้วก็ดับ จนเริ่มตื่นตระหนก เกิดแล้วก็ดับ ดับอีกแล้ว ๆ มีแต่ดับ ๆ ๆ ๆ ไม่มีที่จะเคลื่อนไปเกิดแล้วจะไม่ดับ


นึกออกไหม เคยบอกก่อนโน้น เล่าเป็นฉากๆอย่างนี้แหละเดี๋ยวเถอะได้เป็นอรหันต์ :b32:


จะเป็นอะไรนี้ไม่ได้ใส่ใจนะครับ หยิบสิ่งที่ได้เห็นจริง ๆ มาเล่า

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 31 มี.ค. 2019, 09:06 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "กรรมฐาน" ท่านให้เลือกเอาอย่างเดียวอย่างใดอย่างหนึ่ง

Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:


ที่ผมบอกว่าหาที่เกิดที่เที่ยงแท้ให้อาศัยหลบรอดปลอดภัยจากความดับไม่มี ไม่ใช่หลบนอนแต่ ดูความคันจะมันเห้นเป็นนิมิต พอเกิดทีแสงสีเขียว ๆ ดวงกลม ๆ ก็ติดที แล้วก็ดับเคลื่อนไปเกิดที่ไหม่ แล้วก็ดับ จนเริ่มตื่นตระหนก เกิดแล้วก็ดับ ดับอีกแล้ว ๆ มีแต่ดับ ๆ ๆ ๆ ไม่มีที่จะเคลื่อนไปเกิดแล้วจะไม่ดับ


นึกออกไหม เคยบอกก่อนโน้น เล่าเป็นฉากๆอย่างนี้แหละเดี๋ยวเถอะได้เป็นอรหันต์ :b32:


จะเป็นอะไรนี้ไม่ได้ใส่ใจนะครับ หยิบสิ่งที่ได้เห็นจริง ๆ มาเล่า


คิกๆๆ เล่าๆๆ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 31 มี.ค. 2019, 09:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "กรรมฐาน" ท่านให้เลือกเอาอย่างเดียวอย่างใดอย่างหนึ่ง

กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Love J.

ที่ผมบอกว่าหาที่เกิดที่เที่ยงแท้ให้อาศัยหลบรอดปลอดภัยจากความดับไม่มี ไม่ใช่หลบนอนแต่ ดูความคันจะมันเห้นเป็นนิมิต พอเกิดทีแสงสีเขียว ๆ ดวงกลม ๆ ก็ติดที แล้วก็ดับเคลื่อนไปเกิดที่ไหม่ แล้วก็ดับ จนเริ่มตื่นตระหนก เกิดแล้วก็ดับ ดับอีกแล้ว ๆ มีแต่ดับ ๆ ๆ ๆ ไม่มีที่จะเคลื่อนไปเกิดแล้วจะไม่ดับ

โอ้ เห็นเยอะแยะเบย ดับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คิกๆๆๆ


คุณเลิฟ เจ. เอายังงี้ไหม เพื่อยุติปัญหา คือ คุณอยากมีอยากเป็นอะไรก็เชิญตามอัธยาศัย ดีไหม :b16:



โอเคไหม :b32: เพื่อเปิดโอกาศให้คุณเอาให้สมกับความอยาก

เจ้าของ:  Love J. [ 31 มี.ค. 2019, 09:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "กรรมฐาน" ท่านให้เลือกเอาอย่างเดียวอย่างใดอย่างหนึ่ง

กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Love J.

ที่ผมบอกว่าหาที่เกิดที่เที่ยงแท้ให้อาศัยหลบรอดปลอดภัยจากความดับไม่มี ไม่ใช่หลบนอนแต่ ดูความคันจะมันเห้นเป็นนิมิต พอเกิดทีแสงสีเขียว ๆ ดวงกลม ๆ ก็ติดที แล้วก็ดับเคลื่อนไปเกิดที่ไหม่ แล้วก็ดับ จนเริ่มตื่นตระหนก เกิดแล้วก็ดับ ดับอีกแล้ว ๆ มีแต่ดับ ๆ ๆ ๆ ไม่มีที่จะเคลื่อนไปเกิดแล้วจะไม่ดับ

โอ้ เห็นเยอะแยะเบย ดับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คิกๆๆๆ


คุณเลิฟ เจ. เอายังงี้ไหม เพื่อยุติปัญหา คือ คุณอยากมีอยากเป็นอะไรก็เชิญตามอัธยาศัย ดีไหม :b16:


ก็คุณกรัชกายว่าผมเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ คิดเอาว่ารู้ไส้รู้พุงผมอย่างนั้น อย่างนี้ผมก็อธิบายให้ฟังอันไหนใช่ก็ยอมรับว่าใช่ อันไหนไม่ใช่ก็ปฏิเสธ

ไม่ต้องฟังที่ผมพูดแล้วคิดเอาว่ารู้ไส้รู้พุงผมหรอก อยากรู้อะไรถามผม ๆ ก็ตอบตามจริง

เอาอย่างงี้ไหม อยากรู้ว่าผมเป็นอะไรยังไงก็ถามผมตามอัธยาศัย ผมจะตอบอย่างไม่บิดพริ้ว จะได้ไม่ต้องว่าผมเป็นนั่นเป็นนี่ เป็นศิษท์สำนักนั้น สำนักนี้ ครูอาจารย์ พูดถึงครูอาจารย์ผมฟังไม่ได้เลือกใครสอนมรรค สอนผล ผมก็ฟังทั้งนั้น

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 31 มี.ค. 2019, 09:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "กรรมฐาน" ท่านให้เลือกเอาอย่างเดียวอย่างใดอย่างหนึ่ง

Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Love J.

ที่ผมบอกว่าหาที่เกิดที่เที่ยงแท้ให้อาศัยหลบรอดปลอดภัยจากความดับไม่มี ไม่ใช่หลบนอนแต่ ดูความคันจะมันเห้นเป็นนิมิต พอเกิดทีแสงสีเขียว ๆ ดวงกลม ๆ ก็ติดที แล้วก็ดับเคลื่อนไปเกิดที่ไหม่ แล้วก็ดับ จนเริ่มตื่นตระหนก เกิดแล้วก็ดับ ดับอีกแล้ว ๆ มีแต่ดับ ๆ ๆ ๆ ไม่มีที่จะเคลื่อนไปเกิดแล้วจะไม่ดับ

โอ้ เห็นเยอะแยะเบย ดับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คิกๆๆๆ


คุณเลิฟ เจ. เอายังงี้ไหม เพื่อยุติปัญหา คือ คุณอยากมีอยากเป็นอะไรก็เชิญตามอัธยาศัย ดีไหม :b16:


ก็คุณกรัชกายว่าผมเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ คิดเอาว่ารู้ไส้รู้พุงผมอย่างนั้น อย่างนี้ผมก็อธิบายให้ฟังอันไหนใช่ก็ยอมรับว่าใช่ อันไหนไม่ใช่ก็ปฏิเสธ

ไม่ต้องฟังที่ผมพูดแล้วคิดเอาว่ารู้ไส้รู้พุงผมหรอก อยากรู้อะไรถามผม ๆ ก็ตอบตามจริง

เอาอย่างงี้ไหม อยากรู้ว่าผมเป็นอะไรยังไงก็ถามผมตามอัธยาศัย ผมจะตอบอย่างไม่บิดพริ้ว จะได้ไม่ต้องว่าผมเป็นนั่นเป็นนี่ เป็นศิษท์สำนักนั้น สำนักนี้ ครูอาจารย์ พูดถึงครูอาจารย์ผมฟังไม่ได้เลือกใครสอนมรรค สอนผล ผมก็ฟังทั้งนั้น


ก็คุณเล่าเอาพูดเอา ไม่ได้ทำไม่ได้เกิดจากการปฏิบัติ คิกๆๆ

เจ้าของ:  Love J. [ 31 มี.ค. 2019, 09:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "กรรมฐาน" ท่านให้เลือกเอาอย่างเดียวอย่างใดอย่างหนึ่ง

กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Love J.

ที่ผมบอกว่าหาที่เกิดที่เที่ยงแท้ให้อาศัยหลบรอดปลอดภัยจากความดับไม่มี ไม่ใช่หลบนอนแต่ ดูความคันจะมันเห้นเป็นนิมิต พอเกิดทีแสงสีเขียว ๆ ดวงกลม ๆ ก็ติดที แล้วก็ดับเคลื่อนไปเกิดที่ไหม่ แล้วก็ดับ จนเริ่มตื่นตระหนก เกิดแล้วก็ดับ ดับอีกแล้ว ๆ มีแต่ดับ ๆ ๆ ๆ ไม่มีที่จะเคลื่อนไปเกิดแล้วจะไม่ดับ

โอ้ เห็นเยอะแยะเบย ดับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คิกๆๆๆ


คุณเลิฟ เจ. เอายังงี้ไหม เพื่อยุติปัญหา คือ คุณอยากมีอยากเป็นอะไรก็เชิญตามอัธยาศัย ดีไหม :b16:


ก็คุณกรัชกายว่าผมเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ คิดเอาว่ารู้ไส้รู้พุงผมอย่างนั้น อย่างนี้ผมก็อธิบายให้ฟังอันไหนใช่ก็ยอมรับว่าใช่ อันไหนไม่ใช่ก็ปฏิเสธ

ไม่ต้องฟังที่ผมพูดแล้วคิดเอาว่ารู้ไส้รู้พุงผมหรอก อยากรู้อะไรถามผม ๆ ก็ตอบตามจริง

เอาอย่างงี้ไหม อยากรู้ว่าผมเป็นอะไรยังไงก็ถามผมตามอัธยาศัย ผมจะตอบอย่างไม่บิดพริ้ว จะได้ไม่ต้องว่าผมเป็นนั่นเป็นนี่ เป็นศิษท์สำนักนั้น สำนักนี้ ครูอาจารย์ พูดถึงครูอาจารย์ผมฟังไม่ได้เลือกใครสอนมรรค สอนผล ผมก็ฟังทั้งนั้น


ก็คุณเล่าเอาพูดเอา ไม่ได้ทำไม่ได้เกิดจากการปฏิบัติ คิกๆๆ


ที่ว่าไม่ได้ทำ ไม่ได้เกิดจากการปฏิบัติ นั่นก็คิดเอาเดาเอา

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 31 มี.ค. 2019, 09:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "กรรมฐาน" ท่านให้เลือกเอาอย่างเดียวอย่างใดอย่างหนึ่ง

กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Love J.

ที่ผมบอกว่าหาที่เกิดที่เที่ยงแท้ให้อาศัยหลบรอดปลอดภัยจากความดับไม่มี ไม่ใช่หลบนอนแต่ ดูความคันจะมันเห้นเป็นนิมิต พอเกิดทีแสงสีเขียว ๆ ดวงกลม ๆ ก็ติดที แล้วก็ดับเคลื่อนไปเกิดที่ไหม่ แล้วก็ดับ จนเริ่มตื่นตระหนก เกิดแล้วก็ดับ ดับอีกแล้ว ๆ มีแต่ดับ ๆ ๆ ๆ ไม่มีที่จะเคลื่อนไปเกิดแล้วจะไม่ดับ

โอ้ เห็นเยอะแยะเบย ดับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คิกๆๆๆ


การเล่านั่นๆนี่ๆเอาอย่างนั้น มีความต่างจากประสบการณ์ภาคปฏิบัติ ตัวอย่างบอกเล่าของคนทำจริงประสบจริง


อ้างคำพูด:
มีเสียงถามบรรลุหรือยัง

ผมไปบวชได้แปดเดือน บวชวันแรกเกิดกำหนัดแอบสองอาทิตย์ผ่านไป เอาวินัยมาอ่าน อ่าวนี่มันผิดศีลนี่หว่าอายไม่กล้าพบใคร ก็เดินจงกรมนั่งสมาธิ
ตอนนั่งสมาธิ ก็หลับตา ไม่คิดอะไรท่องพุท-โธ ตามลมหายใจ จนเข้าเดือนที่สี่ ออกพรรษา คิดว่าจะสึก แต่เห็นแสงเทียนในกระจกหน้าต่าง ก็วิ่งไปบอกเจ้าอาวาสๆ ก็ได้แต่ยิ้ม
เข้าเดือนที่แปด นั่งสมาธิแบบเดิม ตอนนั้นเครียด เรื่องท่องหนังสือไม่ได้
ในขณะที่นั่ง มีเสียงผู้ชายมาถาม ว่า บรรลุรึยัง ผมเลยบอก ว่า ยัง พูดในใจ

อยู่ดีๆ ก็มีเสียงสวดมนต์เพราะมาก ตามด้วยบทธรรมจักร
อยู่ดีๆ ก็มีภาพผมมีน้ำอสุจิไหลออกมา เห็นภาพที่เคยมีอะไรกับแฟน และมีเรื่องไม่ดีมากมาย
ก็เลยพิจารณาการเกิดดับแก้ เรื่องหนึ่งมันก็มาอีก เรื่องหนึ่งเสียงก็ด่าว่าไอ้เลวตลอด
อวัยวะเพศแข็ง อยากมีเซ็กตลอดเวลา เลยตัดสินใจสึก
คิดอะไรเหมือนมีคนรู้ เสียงด่าก็ด่าตลอด เลยไปพบจิตแพทย์ หมอบอกว่าเป็นโรคจิตเภทและโรคไทรอยด์ เลยอยากบวชใหม่ไปอยู่กรรม แต่ยังกินยาเลย ถ้าไปบวชอีกกลัวจะบ้ากว่าเดิมครับ



อ้างคำพูด:
เริ่มสงบจะมีอาการคันคอ

เวลานั่งสมาธิกำหนดคำภาวนา พร้อมไปกับลมหายใจ นั่งทำสมาธิไปสักพักจะต้องเริ่มมีอาการคันคอ ทุกครั้ง พยามยามฝืนไม่สนใจ แต่จะคันคอจนต้องไอออกมาทุกครั้ง บางครั้งน้ำลายกระเด็นออกมาเลอะปาก พร้อมน้ำตาไหล พอไอออกมา สักครั้ง สองครั้ง แล้วจะหายไป แล้วไม่คันคออีกเลย อยากรบกวนสอบถามถึงอาการที่เกิด และทำอย่างไรถึงจะไม่ให้เกิดอาการคันคอได้ เพราะตอนนั่งพอจะเริ่มสงบนิ่งจะเป็นทุกครั้ง ทำให้เกิดความรำคาญ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 31 มี.ค. 2019, 09:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "กรรมฐาน" ท่านให้เลือกเอาอย่างเดียวอย่างใดอย่างหนึ่ง

Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Love J.

ที่ผมบอกว่าหาที่เกิดที่เที่ยงแท้ให้อาศัยหลบรอดปลอดภัยจากความดับไม่มี ไม่ใช่หลบนอนแต่ ดูความคันจะมันเห้นเป็นนิมิต พอเกิดทีแสงสีเขียว ๆ ดวงกลม ๆ ก็ติดที แล้วก็ดับเคลื่อนไปเกิดที่ไหม่ แล้วก็ดับ จนเริ่มตื่นตระหนก เกิดแล้วก็ดับ ดับอีกแล้ว ๆ มีแต่ดับ ๆ ๆ ๆ ไม่มีที่จะเคลื่อนไปเกิดแล้วจะไม่ดับ

โอ้ เห็นเยอะแยะเบย ดับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คิกๆๆๆ


คุณเลิฟ เจ. เอายังงี้ไหม เพื่อยุติปัญหา คือ คุณอยากมีอยากเป็นอะไรก็เชิญตามอัธยาศัย ดีไหม :b16:


ก็คุณกรัชกายว่าผมเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ คิดเอาว่ารู้ไส้รู้พุงผมอย่างนั้น อย่างนี้ผมก็อธิบายให้ฟังอันไหนใช่ก็ยอมรับว่าใช่ อันไหนไม่ใช่ก็ปฏิเสธ

ไม่ต้องฟังที่ผมพูดแล้วคิดเอาว่ารู้ไส้รู้พุงผมหรอก อยากรู้อะไรถามผม ๆ ก็ตอบตามจริง

เอาอย่างงี้ไหม อยากรู้ว่าผมเป็นอะไรยังไงก็ถามผมตามอัธยาศัย ผมจะตอบอย่างไม่บิดพริ้ว จะได้ไม่ต้องว่าผมเป็นนั่นเป็นนี่ เป็นศิษท์สำนักนั้น สำนักนี้ ครูอาจารย์ พูดถึงครูอาจารย์ผมฟังไม่ได้เลือกใครสอนมรรค สอนผล ผมก็ฟังทั้งนั้น


ก็คุณเล่าเอาพูดเอา ไม่ได้ทำไม่ได้เกิดจากการปฏิบัติ คิกๆๆ


ที่ว่าไม่ได้ทำ ไม่ได้เกิดจากการปฏิบัติ นั่นก็คิดเอาเดาเอา


แน่ะๆ มีเถียงๆ คิกๆ คุณจะโกหกเพื่อให้ได้อะไรขึ้นมานะ

หน้า 11 จากทั้งหมด 13 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/