วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 12:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 189 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 ... 13  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2019, 12:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
ผมคุยด้วยได้ไหมครับท่านกรัซกาย อ่านที่ท่านกรัซกายคุยกับท่านเจก็สนุกดี ทิ่มแทงแบบผู้ดี สงสัยแบบมีมูลเหตุ ส่วนเมแฟนผมนี่อะไรก็ม่ายรู้ เสียบแทงอย่างเดียว


เชิญๆ คุณว่ากรรมฐานหมายถึงอะไร ?


การกระทำพื้นฐาน อันเป็นวิหารของจิต


รอฟังแค่อากาศบ้าง

คุณเลิฟ เจ. น่าจะเป็นศิษย์สำนักเดียวกับ อ.ปราโมทย์ หรือเป็นศิษย์ อ.ปราโมทย์เลย แต่เคยบอกว่าฟังคลิปหลวงตามหาบัวเทศน์บ่อยๆ


ทั้งหลวงตามหาบัว ทั้งหลวงพ่อปราโมทย์ ดำเนินรอยตามพระพุทธเจ้า
ผมพยายามศึกษาปฏิบัติ เพื่อดำเนินรอยตามพระพุทธเจ้า หลวงตา และ หลวงพ่อ


นักธรรมข้างธรรมมาส เป็นคำพูดที่ได้ยินแต่ไม่บ่อยนัก ไม่รู้ใครพูดก่อน คือว่า ผู้นั้นไม่ได้ศึกษาโดยตรง เรียกว่าไปฟังคนนั้นพูดที คนนี้พูดหน่อย แล้วตนก็จับเอาถ้อยคำคำพูดนั้นๆไปปะติดปะต่อกัน ซึ่งเรียกเป็นศัพท์ว่า ธรรมปฏิรูป

คล้ายๆบางคนบางกลุ่มไปจับคำพูดของหลวงพ่อบางรูปแล้วก็มาคิดว่าหมายถึงอะไร? นั่นๆนี่ๆว่าเป็นธรรม แบบนี้ทำนองตีความหวย :b1:

คล้ายๆคุณโรสฟังคลิปแล้วก็นำมาปะติดปะต่อกันแล้วมโนไปตามสังขาร :b1:


:b12:
เนี่ย...บอกยังไงก็ไม่รู้...รู้จักการฟังและคิดตามเสียงตรงๆไหมคะ
การพึ่งคิดตามคำตถาคตต้องกำลังระลึกตามตรงคำวาจาสัจจะ
คิดตรงคำตรงความหมายตรง1สัจจะที่กำลังปรากฏว่ามีเท่านั้น
สิ่งที่กำลังมีและกำลังเกิดดับมีตั้งแสนล้านดวงจิตเดี๋ยวนี้มีแล้ว
ความตรงสัจจะที่ตัวเองมีต้องเป็นสติสัมปชัญญะครบทั้ง6ทาง
ที่กำลังปรากฏตามปกติความตรงจริงที่ตัวเองมีต้องตรง1ทาง
ตามปกติเป็นปกติที่คิดได้ตรงทางโดยรู้ละเอียดแต่ละ1ทาง
ความจริงของจิตเห็น1ขณะตรงๆมีแค่แสงสีกระทบตาดำ
ดับในตาดำเกลี้ยงเลยจึงเกิดจิตทางอื่นสลับกันตรงทาง
มันดับไปถึงแสนโกฏิขณะเดี๋ยวนี้คิดไม่ตรงคือมีกิเลส
จะแยกออกไปทำอะไรในเมื่อความจริงปรากฏกับอวิชชาของคุณเองแล้ว
เป็นกิเลสใหม่ของคุณแล้วเดี๋ยวนี้เลย...ฟังเพื่อตามรู้สิ่งที่กำลังปรากฏตรงขณะก่อนหมดลมหายใจ...รู้ยังคะ
:b12:
:b4: :b4:

cool
ฟังความจริงเพื่อเข้าใจเท่านั้นมีครบแล้ว
ไม่ใช่ไปทำให้เป็นแบบตถาคตนั่นทศพลญาณ
อ่านพระไตรปิฎกจำแต่บัญญัติคำที่เป็นปัญญาทศพลญาณของพระพุทธเจ้า
เออ...ปัญญาเจตสิกของตนเองสะสมได้ตรงปัจจุบันขณะตรงทางคือรู้คิดถูกตรงตามเสียงเดี๋ยวนี้...เก็ตไหม?
https://youtu.be/e55hZH0zG1Q
onion onion onion

เห็นที่ทุกคนกำลังเห็นอยู่เดี๋ยวนี้เป็นธัมมะชื่อว่าจิตเห็นมีแค่อายตนะทางตาคือจักขายตนะ
จิตเห็นในภาษาบาลีคือจักขุวิญญาณหรือจักษุวิญญาณไม่ใช่คนทั้งตัวเข้าใจไหมคะไม่มีเรา
เป็นธัมมะที่เกิดผ่านที่ประชุมรวมกันของกายคือมีตาและตาไม่บอดและต้องลืมตาดูโลกตามปกติ
จิตเห็นเกิดแล้วดับทันทีไม่มีใครสักคนเป็นเจ้าของเห็นที่กำลังเห็นมีแต่ความคิดหลากหลายไปตามเห็นผิด
จนกว่าจะเริ่มคิดไตร่ตรองตามคำสอนเข้าใจความจริงที่กำลังปรากฏว่ากำลังมีจริงๆตรงตามที่ตถาคตตรัสรู้
ไม่มีใครเลยสักคนมีแต่ความคิดแต่ละขณะที่หลงคิดไปตามความคิดเห็นของตนเองลืมพึ่งการคิดตามคำสอน
:b12:
:b17: :b17:

ในพระไตรปิฎก
พระพุทธเจ้าแสดงความจริงไว้ละเอียดยิบๆๆๆ
เพื่อไม่ให้ไปคิดตัดแต่งต่อเติมเสริมอะไรอีก
ทรงตรัสรู้และทรงตรัสแสดงทุกคำ
ตลอด45พรรษาเพื่อให้ฟังเข้าใจ
ตามปัญญาที่เพิ่มขึ้นแต่ละชาติ
ที่ได้สะสมการฟังมาแล้วและ
ปัญญาที่เพิ่มขึ้นทำกิจหน้าที่
ไม่มีตัวตนแปลกออกไปไหน
ตอนที่กำลังฟังตถาคตตรัส
ทุกคนที่กำลังฟังเท่านั้น
จึงคิดเห็นถูกตามได้
คนที่ไม่ฟังจึงไม่รู้ว่าตนเองเห็นผิด
ไม่แน่ใจหรือคะว่าเห็นผิดตถาคตบอกว่าเห็นสีแล้วดับทันทีมืดทันทีไม่มีตัวเรามีแต่อุปาทานว่ามีตัวตน
น้อมมาที่ตาตัวเองดูสิกำลังเห็นอะไรทรงตรัสแสดงความจริงให้คิดถูกตามไม่ใช่ไปทำให้เห็นสีรู้ยัง555
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2019, 12:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
ผมคุยด้วยได้ไหมครับท่านกรัซกาย อ่านที่ท่านกรัซกายคุยกับท่านเจก็สนุกดี ทิ่มแทงแบบผู้ดี สงสัยแบบมีมูลเหตุ ส่วนเมแฟนผมนี่อะไรก็ม่ายรู้ เสียบแทงอย่างเดียว


เชิญๆ คุณว่ากรรมฐานหมายถึงอะไร ?


การกระทำพื้นฐาน อันเป็นวิหารของจิต


รอฟังแค่อากาศบ้าง

คุณเลิฟ เจ. น่าจะเป็นศิษย์สำนักเดียวกับ อ.ปราโมทย์ หรือเป็นศิษย์ อ.ปราโมทย์เลย แต่เคยบอกว่าฟังคลิปหลวงตามหาบัวเทศน์บ่อยๆ


ทั้งหลวงตามหาบัว ทั้งหลวงพ่อปราโมทย์ ดำเนินรอยตามพระพุทธเจ้า
ผมพยายามศึกษาปฏิบัติ เพื่อดำเนินรอยตามพระพุทธเจ้า หลวงตา และ หลวงพ่อ


นักธรรมข้างธรรมมาส เป็นคำพูดที่ได้ยินแต่ไม่บ่อยนัก ไม่รู้ใครพูดก่อน คือว่า ผู้นั้นไม่ได้ศึกษาโดยตรง เรียกว่าไปฟังคนนั้นพูดที คนนี้พูดหน่อย แล้วตนก็จับเอาถ้อยคำคำพูดนั้นๆไปปะติดปะต่อกัน ซึ่งเรียกเป็นศัพท์ว่า ธรรมปฏิรูป

คล้ายๆบางคนบางกลุ่มไปจับคำพูดของหลวงพ่อบางรูปแล้วก็มาคิดว่าหมายถึงอะไร? นั่นๆนี่ๆว่าเป็นธรรม แบบนี้ทำนองตีความหวย :b1:

คล้ายๆคุณโรสฟังคลิปแล้วก็นำมาปะติดปะต่อกันแล้วมโนไปตามสังขาร :b1:


:b12:
เนี่ย...บอกยังไงก็ไม่รู้...รู้จักการฟังและคิดตามเสียงตรงๆไหมคะ
การพึ่งคิดตามคำตถาคตต้องกำลังระลึกตามตรงคำวาจาสัจจะ
คิดตรงคำตรงความหมายตรง1สัจจะที่กำลังปรากฏว่ามีเท่านั้น
สิ่งที่กำลังมีและกำลังเกิดดับมีตั้งแสนล้านดวงจิตเดี๋ยวนี้มีแล้ว
ความตรงสัจจะที่ตัวเองมีต้องเป็นสติสัมปชัญญะครบทั้ง6ทาง
ที่กำลังปรากฏตามปกติความตรงจริงที่ตัวเองมีต้องตรง1ทาง
ตามปกติเป็นปกติที่คิดได้ตรงทางโดยรู้ละเอียดแต่ละ1ทาง
ความจริงของจิตเห็น1ขณะตรงๆมีแค่แสงสีกระทบตาดำ
ดับในตาดำเกลี้ยงเลยจึงเกิดจิตทางอื่นสลับกันตรงทาง
มันดับไปถึงแสนโกฏิขณะเดี๋ยวนี้คิดไม่ตรงคือมีกิเลส
จะแยกออกไปทำอะไรในเมื่อความจริงปรากฏกับอวิชชาของคุณเองแล้ว
เป็นกิเลสใหม่ของคุณแล้วเดี๋ยวนี้เลย...ฟังเพื่อตามรู้สิ่งที่กำลังปรากฏตรงขณะก่อนหมดลมหายใจ...รู้ยังคะ
:b12:
:b4: :b4:

cool
ฟังความจริงเพื่อเข้าใจเท่านั้นมีครบแล้ว
ไม่ใช่ไปทำให้เป็นแบบตถาคตนั่นทศพลญาณ
อ่านพระไตรปิฎกจำแต่บัญญัติคำที่เป็นปัญญาทศพลญาณของพระพุทธเจ้า
เออ...ปัญญาเจตสิกของตนเองสะสมได้ตรงปัจจุบันขณะตรงทางคือรู้คิดถูกตรงตามเสียงเดี๋ยวนี้...เก็ตไหม?
https://youtu.be/e55hZH0zG1Q
onion onion onion

เห็นที่ทุกคนกำลังเห็นอยู่เดี๋ยวนี้เป็นธัมมะชื่อว่าจิตเห็นมีแค่อายตนะทางตาคือจักขายตนะ
จิตเห็นในภาษาบาลีคือจักขุวิญญาณหรือจักษุวิญญาณไม่ใช่คนทั้งตัวเข้าใจไหมคะไม่มีเรา
เป็นธัมมะที่เกิดผ่านที่ประชุมรวมกันของกายคือมีตาและตาไม่บอดและต้องลืมตาดูโลกตามปกติ
จิตเห็นเกิดแล้วดับทันทีไม่มีใครสักคนเป็นเจ้าของเห็นที่กำลังเห็นมีแต่ความคิดหลากหลายไปตามเห็นผิด
จนกว่าจะเริ่มคิดไตร่ตรองตามคำสอนเข้าใจความจริงที่กำลังปรากฏว่ากำลังมีจริงๆตรงตามที่ตถาคตตรัสรู้
ไม่มีใครเลยสักคนมีแต่ความคิดแต่ละขณะที่หลงคิดไปตามความคิดเห็นของตนเองลืมพึ่งการคิดตามคำสอน
:b12:
:b17: :b17:

ในพระไตรปิฎก
พระพุทธเจ้าแสดงความจริงไว้ละเอียดยิบๆๆๆ
เพื่อไม่ให้ไปคิดตัดแต่งต่อเติมเสริมอะไรอีก
ทรงตรัสรู้และทรงตรัสแสดงทุกคำ
ตลอด45พรรษาเพื่อให้ฟังเข้าใจ
ตามปัญญาที่เพิ่มขึ้นแต่ละชาติ
ที่ได้สะสมการฟังมาแล้วและ
ปัญญาที่เพิ่มขึ้นทำกิจหน้าที่
ไม่มีตัวตนแปลกออกไปไหน
ตอนที่กำลังฟังตถาคตตรัส
ทุกคนที่กำลังฟังเท่านั้น
จึงคิดเห็นถูกตามได้
คนที่ไม่ฟังจึงไม่รู้ว่าตนเองเห็นผิด
ไม่แน่ใจหรือคะว่าเห็นผิดตถาคตบอกว่าเห็นสีแล้วดับทันทีมืดทันทีไม่มีตัวเรามีแต่อุปาทานว่ามีตัวตน
น้อมมาที่ตาตัวเองดูสิกำลังเห็นอะไรทรงตรัสแสดงความจริงให้คิดถูกตามไม่ใช่ไปทำให้เห็นสีรู้ยัง555
:b32: :b32: :b32:

คำสอนมีไว้เพื่อให้ฟังเพื่อเข้าใจถูกตามและคิดถูกตรงสัจจะที่กายใจตนเองกำลังมีเท่านั้น
https://youtu.be/v5sM_A6dlMQ
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2019, 13:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
โดยส่วนตัวผมมีความเห็นเรื่องการฟังธรรมดังนี้ว่า

การฟังธรรม ปะติดปะต่ออย่างไรอยู่ที่ส่วนบุคคล มันสำคัญที่ทำไว้ในใจอย่างไรเพื่อปหานกิเลสนั้นสำคัญกว่า
ดังนั้นใครจะน้อมใจไปอย่างไรย่อมรู้และเข้าถึงได้ต่างกัน แต่เจตนาที่น้อมใจไปนั้นสำคัญยิ่ง

พระพุทธเจ้าแสดงพระสูตรเดิม ในที่ต่างกัน กับบุคคลที่ต่างกัน เวลาท่านโยนิโสมนสิการจะเหมือนกันทุกท่านไหม ก็คงต้องต่างกัน และเหมือนกัน แต่สิ่งที่ตรงกันแน่นอนคือ บรรลุธรรม

ครูบาอาจารย์ท่านสอนผมไว้ว่า ธรรมหนึ่งข้อ คนเรารู้เห็นตามกันตามแต่จริต อยู่ที่ว่าทำไว้ในใจมาถูกทางหรือไม่ หากยกเอาถือเอาให้เป็นไปเพื่อปหานะกิเลส ก็จัดว่าโดยชอบธรรม ยังใช้ได้อยู่ แต่เราต้องมีสติกำกับรู้ว่าเรายกข้อธรรมนี้มาอย่างนี้เพื่ออะไร ละอะไร ปหานะอะไร เป็นไปเพื่อให้ผลตอบสนองอย่างไร ไม่หลงไปตามสิ่งที่เรากำหนดขึ้นพิจารณานั้น

อย่างที่ท่านกรัซกายพูดมาก็ถูดกนะว่าเป็นธรรมปฏิรูป แต่อยู่ที่ว่าปฏิรูปเพื่ออะไรนี่สำคัญกว่า

อย่างที่ท่านเจทำอยู่ผมก็เห็นว่าดีนะ เพราะแต่ละคนสะสมบารมีมาไม่เท่ากัน ก็ต้องค่อยๆทำไปต่างๆกันขอแค่มีจุดมึุ่งหมายถูกต้อง แล้ววิธีทำความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและตรงตามจริง มันก็จะเดินตามกันได้ถูกเอง

- เราจะไปบังคับให้เด็กอนุบาล ทำแบบเด็กมหาลัยไม่ได้ จะสอนเด็กอนุบาลแบบเเด็กมหาลัยก็เป็นไปไม่ได้ นั่นก็ด้วยเพราะประสบการณ์ วุฒิภาวะ สภาพการสะสมความรู้มาต่างกัน เว้นแต่เด็กอัจฉริยะที่ไม่ใช่แค่อัจฉริยะธรรมดาจึงจะเข้าใจแบบเด็กมหาลัยได้


อย่างผมสอบถามท่านกรัซกายกับท่านเจนะครับว่า

ท่านคงเคยได้ยินเรื่องเรื่องสามเณรผู้มีบุญมากที่เป็นหลานท่านพระสารีบุตรเถระ ที่เมื่อได้เดินบิณฑบาตรไปกับท่านพระสารีบุตร ถ้าจำไม่ผิดท่านไปเจอคนเขาขุดดินสร้างเขื่อน จึงถามและสนทนากับท่านพระสารีบุตรเถระประมาณว่า..
- ดิน มีชีวิตไหม / ไม่มี
- เพราะดินไม่มีชีวิต เขาจะจำปั่นแต่งไปยังไงก็ได้ ใช่หรือไม่ / ใช่
เพียงสนทนาประมาณนี้ท่านเข้าเห็นธรรม ฝากบาตรพระสารีบุตรให้เอากลับไปให้ด้วย แล้วตนเองก็ไปเข้ากรรมฐาน จนบรรลุเป็นพระอรหันต์ พร้อมปฏิสัมภิทาญาณ

โดยความนี้ ท่านสำคัญว่าไฉน คิดว่าท่าน(สามเณร)ท่านเห็นธรรมจากแค่เห็นดินแล้วถามพระสารีบุตรนั้นอย่างไร


ไม่ต้องไปไล่เปิดพระไตรนะครับ ตอบตามความเห็นของแต่ละท่านว่าเห็นอย่างไร
- ข้อนี้จะตอบถึงธรรมปฏิรูปที่ท่านกรัซกายว่า
- จะตอบถึงการพิจารณาแบบท่านเจว่า
- จะกล่าวถึงการทำไว้ในใจเพื่อไปในทิศทางใดแบบที่ผมกล่าว



ไปลองทำตามสามเณรดูสิได้ผลยังไงมาบอกด้วย :b32:



งั้นก็แสดงถึงการทำความรู้ความเข้าใจของท่านกรัซกายใช่ไหมครับ :b32: :b32: :b32:
มันก็ไม่ต่างกับท่านเจสิถ้างั้น :b32: :b32: :b32:
แล้วจะไปกล่าวว่าใครถูกผิดได้ไงนี่


ผิดของท่านคืออย่างไรผิด ถูกที่ว่าถูกตามของท่านคืออย่างไรถูก

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2019, 13:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
แนะนำแค่อากาศกับเลิฟ เจ. ทำแบบพระป่า หายใจเข้า พุท หายใจออก โธ ดู เป็นยังไงมาเล่ามาเล่าสู่กันฟัง

ทำสมาธิแล้วหน่วงๆดั้งจมูก หว่างคิ้ว

คือผมนั่งสมาธิ หลับตา มองไปข้างหน้าตอนที่หลับตา
แล้วจะจับเพียงความรุ้สึกที่ท้อง ภาวนา พุทโธ พอนานๆไป
เกิดปวดที่ดั้งจมูก ปวดเรากดดั้งไว้นานๆ แล้วอยุ่ดีดีก็ย้ายไปที่
หว่างคิ้ว ผมก็พยายามจะไม่เอาสมาธิจับตรงนั้น จะทำแบบเดิมต่อไป
แต่ขาชาแล้ว คราวนี้ ตรงหว่างคิ้ว ก็เกิดอาการ เหมือนดันเรา
ให้หงายไปข้างหลัง ผมก้พยายามนั่งให้ตรง กลัวจะหงายหลัง
ก็ไม่หาย ผมเลยถอนสมาธิ
อีกครั้งเอาใหม่ นั่งจนขาชา พอสักพักมาอีกแล้ว อาการที่หว่างคิ้ว
ผผมนั่งอยุ่อย่างนั้น ครึ่งชั่วโมง ก็ตรงคิ้วมันดันให้เราจะหงายหลัง
เลยไม่มีสมาะนั่งต่อ
#อยากทราบว่า มาถูกทาง หรือ ผิดทางครับ
แล้วต้องทำอย่างไรกับอาการดังกล่าว เพราะไม่มีสมาธิจะนั่งต่อเลยครับ


ตอบเรื่องเพ่งดั้ง
ผมเริ่มฝึกจับลมแรก ๆ ก็เจออาการอย่างนี้ เพ่งเอาบริเวณดั้งจน ปวด หน่วง ๆ แล้วก็เริ่มเห็นแสงไหลมา
จะรวมเป็นดวงแก้ว ก็ระลึกคำสอนครูอาจารย์ได้ว่าระวังจะหลงนิมิต แสงนั่นก็สลายไปผมก็ละทิ้งเลยไม่ได้สนใจอีกกลับมารู้ลมหายใจเข้าออกสังเกตุกายใจ ปรากฎว่าได้รู้สิ่งต่าง ๆ มากมายทั้งได้ความตั้งมั่นพอสมควร
.....................
ตอบเรื่องหูแว่ว
หูแว่วผมไม่มีประสปการณ์ เมื่อผมดำริ นึกคิด ก็รู้ว่าอันนี้ดำริ นึกคิด เมื่อไม่ได้ดำริ นึกคิด ก็รู้ว่าไม่ได้ดำริ นึกคิด เสียงที่ไม่มีที่มาที่ไปผมไม่เคยได้ยินครับ
.....................
บริกรรมพุทโธ
เวลาเจริญอานาปานสติแล้วเริ่มง่วง ผมนึกถึงพระพุทธเจ้าศาสดาเอกของโลก ฉลาดที่สุดอย่างไม่มีใครเทียม จริยาอันงดงามหมดจดควรน้อมนำเป็นแบบอย่าง ภาคภูมิใจในองค์ศาสดา แล้วก็ว่าบริกรรมพุทโธ
อย่างนี้ผมทำ แต่ไม่ได้เอาบริกรรมกำกับจิตตั้งแต่ตื่นยันหลับ เพราะมีการงานต้องทำ
.....................
ผมถามบ้าง
ตอนนั้นผมนั่งอยุ่หน้าบ้าน รู้แสงอาทิตย์ที่กระทบเปลือกตาเป็นอารมณ์ นานพอสมควรจนยายนึกว่าหลับเรียกให้ไปนอนในบ้าน ผมก็เข้าห้องมานอนหลับตาปรากฎว่ามองเห็นทีวี ประตู พัดลมอยู่ จึงลองเอามือปิดตาก็ยังเห็นทะลุอยู่ เหมือนผ้าบาง ๆ ทีนี้หันไปที่หน้าต่างที่แสงส่องแต่ปิดม่านอยู่ ที่นี้เห็นทะลุหมด หน้าบ้าน ประตู ต้นไม้ ถนน ป่าตรงข้ามบ้าน แต่ไม่ได้เป็นภาพสี เห็นเหมือนเหรียญเงินที่มีลึกตื้น หนาบาง ให้รู้ว่าอันนี้หน้าต่าง อันนี้ต้นไม้ สิ่งทีผมเห็นคืออะไร


เขาไม่ได้เพ่งดั้ง อิอิ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2019, 13:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
Love J. เขียน:
สามเณรท่านเห็นชาวนากำลังทำทางดินผันน้ำเข้านา (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) ท่านก็สังเกตุเห็นว่าน้ำไม่มีชีวิต ชาวนายังบังคับให้ไหลตามทางที่ต้องการได้ ท่านก็น้อมเข้ามาพิจารณาตนเองว่าเรามีชีวิตแท้ ๆ ทำไมจะอบรมข่มจิตให้ตั้งมั่นควรแก่การงาน ตามต้องการไม่ได้ จึงเกิดกำลังใจในการเจริญ สมถะ วิปัสสนา บรรลุอรหันต์ในที่สุด ประมาณนี้ครับ


สาธุท่านเจ ดีแล้วครับ สาธุ

เหลือท่านกรัซกายยังตอบผมไม่ได้เลย :b32: :b32: :b32: มีแต่หันเหบ่ายเบี่ยงแล้วบอกให้ลองไปทำดูสิ ไม่รู้กลัวอะไร


ผลสุดท้ายก็ทำสมาธิ เจริญปัญญา คิกๆๆๆ นั่นตัวหนังสือ สมาธิ ปัญญา ท่านยังไม่ได้ทำเบย เพียงแต่อ่านหนังสือแล้วก็มโนไปเท่านั้นเอง บอกไม่เชื่อ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2019, 13:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2018, 07:07
โพสต์: 482

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
แนะนำแค่อากาศกับเลิฟ เจ. ทำแบบพระป่า หายใจเข้า พุท หายใจออก โธ ดู เป็นยังไงมาเล่ามาเล่าสู่กันฟัง

ทำสมาธิแล้วหน่วงๆดั้งจมูก หว่างคิ้ว

คือผมนั่งสมาธิ หลับตา มองไปข้างหน้าตอนที่หลับตา
แล้วจะจับเพียงความรุ้สึกที่ท้อง ภาวนา พุทโธ พอนานๆไป
เกิดปวดที่ดั้งจมูก ปวดเรากดดั้งไว้นานๆ แล้วอยุ่ดีดีก็ย้ายไปที่
หว่างคิ้ว ผมก็พยายามจะไม่เอาสมาธิจับตรงนั้น จะทำแบบเดิมต่อไป
แต่ขาชาแล้ว คราวนี้ ตรงหว่างคิ้ว ก็เกิดอาการ เหมือนดันเรา
ให้หงายไปข้างหลัง ผมก้พยายามนั่งให้ตรง กลัวจะหงายหลัง
ก็ไม่หาย ผมเลยถอนสมาธิ
อีกครั้งเอาใหม่ นั่งจนขาชา พอสักพักมาอีกแล้ว อาการที่หว่างคิ้ว
ผผมนั่งอยุ่อย่างนั้น ครึ่งชั่วโมง ก็ตรงคิ้วมันดันให้เราจะหงายหลัง
เลยไม่มีสมาะนั่งต่อ
#อยากทราบว่า มาถูกทาง หรือ ผิดทางครับ
แล้วต้องทำอย่างไรกับอาการดังกล่าว เพราะไม่มีสมาธิจะนั่งต่อเลยครับ


เขาไม่ได้เพ่งดั้ง อิอิ


ผมอาจเคยเป็นแต่จำไม่ได้แล้ว
พิจารณาอาการ 32 ดูสิครับเผื่อ
กาย จิต จะเบา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2019, 14:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
แนะนำแค่อากาศกับเลิฟ เจ. ทำแบบพระป่า หายใจเข้า พุท หายใจออก โธ ดู เป็นยังไงมาเล่ามาเล่าสู่กันฟัง

ทำสมาธิแล้วหน่วงๆดั้งจมูก หว่างคิ้ว

คือผมนั่งสมาธิ หลับตา มองไปข้างหน้าตอนที่หลับตา
แล้วจะจับเพียงความรุ้สึกที่ท้อง ภาวนา พุทโธ พอนานๆไป
เกิดปวดที่ดั้งจมูก ปวดเรากดดั้งไว้นานๆ แล้วอยุ่ดีดีก็ย้ายไปที่
หว่างคิ้ว ผมก็พยายามจะไม่เอาสมาธิจับตรงนั้น จะทำแบบเดิมต่อไป
แต่ขาชาแล้ว คราวนี้ ตรงหว่างคิ้ว ก็เกิดอาการ เหมือนดันเรา
ให้หงายไปข้างหลัง ผมก้พยายามนั่งให้ตรง กลัวจะหงายหลัง
ก็ไม่หาย ผมเลยถอนสมาธิ
อีกครั้งเอาใหม่ นั่งจนขาชา พอสักพักมาอีกแล้ว อาการที่หว่างคิ้ว
ผผมนั่งอยุ่อย่างนั้น ครึ่งชั่วโมง ก็ตรงคิ้วมันดันให้เราจะหงายหลัง
เลยไม่มีสมาะนั่งต่อ
#อยากทราบว่า มาถูกทาง หรือ ผิดทางครับ
แล้วต้องทำอย่างไรกับอาการดังกล่าว เพราะไม่มีสมาธิจะนั่งต่อเลยครับ


เขาไม่ได้เพ่งดั้ง อิอิ


ผมอาจเคยเป็นแต่จำไม่ได้แล้ว
พิจารณาอาการ 32 ดูสิครับเผื่อ
กาย จิต จะเบา


เอาที่สบายใจเถอะขอรับ

จบข่าว :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2019, 14:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
Love J. เขียน:
สามเณรท่านเห็นชาวนากำลังทำทางดินผันน้ำเข้านา (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) ท่านก็สังเกตุเห็นว่าน้ำไม่มีชีวิต ชาวนายังบังคับให้ไหลตามทางที่ต้องการได้ ท่านก็น้อมเข้ามาพิจารณาตนเองว่าเรามีชีวิตแท้ ๆ ทำไมจะอบรมข่มจิตให้ตั้งมั่นควรแก่การงาน ตามต้องการไม่ได้ จึงเกิดกำลังใจในการเจริญ สมถะ วิปัสสนา บรรลุอรหันต์ในที่สุด ประมาณนี้ครับ


สาธุท่านเจ ดีแล้วครับ สาธุ

เหลือท่านกรัซกายยังตอบผมไม่ได้เลย :b32: :b32: :b32: มีแต่หันเหบ่ายเบี่ยงแล้วบอกให้ลองไปทำดูสิ ไม่รู้กลัวอะไร


ผลสุดท้ายก็ทำสมาธิ เจริญปัญญา คิกๆๆๆ นั่นตัวหนังสือ สมาธิ ปัญญา ท่านยังไม่ได้ทำเบย เพียงแต่อ่านหนังสือแล้วก็มโนไปเท่านั้นเอง บอกไม่เชื่อ


:b32: :b32: :b32: ถามความคิดเห็น นี่ครับ ว่า สถานการณ์นั้นท่านคิดเห็นยังไงจึงรีบไปเข้ากรรมฐาน ท่านกรัซกายนี่อ่านอะไรเข้าใจยากจังครับ ลองย้อนไปอ่านครับ นี่ทำให้เห็นว่าท่านกรัซกายรู้นะ ปต่ขาดการทำความรู้ความเข้าใจจริง ดังนั้นก็ไม่ต่างกัยมโนไปเองว่าเป็นนั่นเป็นนี่ ท่านบ้าธรรมเกินไปอะไรก็จะลงธรรมหมดไหนท่านเคยบอกตำหนิผมว่าบ้าธรรม แต่ผมว่าท่านบ้ากว่าผมนะนี่

ค่อยๆแยกแยะเป็นเรื่องๆไปครับท่าน อย่าเอาทุกเรื่องมารวมกัน

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2019, 14:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างอิงกระทู้ ..แค่อากาศ เขียน:


อย่างผมสอบถามท่านกรัซกายกับท่านเจนะครับว่า

ท่านคงเคยได้ยินเรื่องเรื่องสามเณรผู้มีบุญมากที่เป็นหลานท่านพระสารีบุตรเถระ ที่เมื่อได้เดินบิณฑบาตรไปกับท่านพระสารีบุตร ถ้าจำไม่ผิดท่านไปเจอคนเขาขุดดินสร้างเขื่อน จึงถามและสนทนากับท่านพระสารีบุตรเถระประมาณว่า..
- ดิน มีชีวิตไหม / ไม่มี
- เพราะดินไม่มีชีวิต เขาจะจำปั่นแต่งไปยังไงก็ได้ ใช่หรือไม่ / ใช่
เพียงสนทนาประมาณนี้ท่านเข้าเห็นธรรม ฝากบาตรพระสารีบุตรให้เอากลับไปให้ด้วย แล้วตนเองก็ไปเข้ากรรมฐาน จนบรรลุเป็นพระอรหันต์ พร้อมปฏิสัมภิทาญาณ

โดยความนี้ ท่านสำคัญว่าไฉน คิดว่าท่าน(สามเณร)ท่านเห็นธรรมจากแค่เห็นดินแล้วถามพระสารีบุตรนั้นอย่างไร


ไม่ต้องไปไล่เปิดพระไตรนะครับ ตอบตามความเห็นของแต่ละท่านว่าเห็นอย่างไร
- ข้อนี้จะตอบถึงธรรมปฏิรูปที่ท่านกรัซกายว่า
- จะตอบถึงการพิจารณาแบบท่านเจว่า
- จะกล่าวถึงการทำไว้ในใจเพื่อไปในทิศทางใดแบบที่ผมกล่าว



อันนี้ผมถามความคิดเห็นนะครับ คุยกันสนุกๆให้เจริญใจ พอท่านกรัซกายมาแนวนี้ทำให้เห็นว่า ท่านกรัซกายคิดมากไปซ้ำซ้อนเกินไป บ้าธรรมไป อัตตาธรรมไป สุดโต่งเกินไป ควรอยู่กับโลกปรกติสนทนาปรกติให้ได้นะครับ

ซึ่งโดยความจริงนั้นท่านกรัซกายอะดีแล้ว รู้เยอะดีแล้ว ผมยังไม่รู้เท่าท่านเลยนะ เพียงแต่ท่านขาดสติสัมปะชัญญะ ความรู้พอดี

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


แก้ไขล่าสุดโดย แค่อากาศ เมื่อ 28 มี.ค. 2019, 15:07, แก้ไขแล้ว 5 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2019, 15:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ส่วนเรื่องการปฏิบัติ ผมทำแล้วครับ

- เริ่มจากท่านพิจารณาอย่างไรนะถึงเห็นธรรมได้ ไปถามท่านเอากับสมาธิดีกว่า
- นึกถึงท่านสามเณร แล้วเข้าธาตุกรรมฐาน
- อธิษฐานนิมิต(ทำไว้ในใจถึงกายธาตุ หากสมาธิมั่นคงมีกำลังได้ที่มันพรึบขึ้นให้เห็นทันที(นับแต่อุปจาระฌาณขึ้นไป)) (แบบโลกียะ)
- เจริญจตุธาตุววัตถาน(เอาแค่รู้เข้าใจ) (แบบโลกียะ)
- นั่งดู พิจารณา (แบบโลกียะ)
- เห็นอนัตตาในกายธาตุ (แบบโลกียะ)
- หน่าย คลายกำหนัด (แบบโลกียะ)
- เสื่อม (แบบโลกียะ เพราะจิตยังไม่เดิน)

:b32: :b32: :b32:

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2019, 15:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
Love J. เขียน:
สามเณรท่านเห็นชาวนากำลังทำทางดินผันน้ำเข้านา (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) ท่านก็สังเกตุเห็นว่าน้ำไม่มีชีวิต ชาวนายังบังคับให้ไหลตามทางที่ต้องการได้ ท่านก็น้อมเข้ามาพิจารณาตนเองว่าเรามีชีวิตแท้ ๆ ทำไมจะอบรมข่มจิตให้ตั้งมั่นควรแก่การงาน ตามต้องการไม่ได้ จึงเกิดกำลังใจในการเจริญ สมถะ วิปัสสนา บรรลุอรหันต์ในที่สุด ประมาณนี้ครับ


สาธุท่านเจ ดีแล้วครับ สาธุ

เหลือท่านกรัซกายยังตอบผมไม่ได้เลย :b32: :b32: :b32: มีแต่หันเหบ่ายเบี่ยงแล้วบอกให้ลองไปทำดูสิ ไม่รู้กลัวอะไร


ผลสุดท้ายก็ทำสมาธิ เจริญปัญญา คิกๆๆๆ นั่นตัวหนังสือ สมาธิ ปัญญา ท่านยังไม่ได้ทำเบย เพียงแต่อ่านหนังสือแล้วก็มโนไปเท่านั้นเอง บอกไม่เชื่อ


:b32: :b32: :b32: ถามความคิดเห็น นี่ครับ ว่า สถานการณ์นั้นท่านคิดเห็นยังไงจึงรีบไปเข้ากรรมฐาน ท่านกรัซกายนี่อ่านอะไรเข้าใจยากจังครับ ลองย้อนไปอ่านครับ นี่ทำให้เห็นว่าท่านกรัซกายรู้นะ ปต่ขาดการทำความรู้ความเข้าใจจริง ดังนั้นก็ไม่ต่างกัยมโนไปเองว่าเป็นนั่นเป็นนี่ ท่านบ้าธรรมเกินไปอะไรก็จะลงธรรมหมดไหนท่านเคยบอกตำหนิผมว่าบ้าธรรม แต่ผมว่าท่านบ้ากว่าผมนะนี่

ค่อยๆแยกแยะเป็นเรื่องๆไปครับท่าน อย่าเอาทุกเรื่องมารวมกัน

:b12:
กำลังทำอะไรกันอยู่ก็ให้รู้สึกตัวตรงปัจจุบัน
แล้วปัจจุบันมีตัวจริงธัมมะดับถึงแสนโกฏิขณะ
มีครบทั้ง6ทางมีแล้วมันตั้งมั่นตรงทางคือขณิกสมาธิ
มีแล้วทุกขณะจิตคือสมาธิเจตสิกมันเกิดได้กับทุกคนที่ทำบุญหรือบาป
ไม่เว้นโจรทำทุกอย่างตามปกติตั้งใจขโมยไม่ว่าใครจะไปทำสิ่งใด
ล้วนทำจากเห็นผิดบรรพชิตทำทุกอย่างที่อยากทำรับเงินและทอง
อาบัติคือผิดวินัย/ขโมยของผิดกฏหมาย/มันไม่ต่างกันเลยคือทุศีล
ฟังต้องฟังตรงปัจจุบันเข้าใจไหมคะกิเลสมีแล้วทุกเวลาที่เห็นเนี่ยแหละ
ดับแล้วนับไม่ถ้วนซึ่งตถาคตนับจำนวนเพื่อให้รู้สึกตัวว่าเดี๋ยวนี้ดับถึงแสนโกฏิดวงจิต
ถามว่าแสนล้านดวงที่ดับเนี่ยมันตั้งมั่นตรงทางตามเหตุตามปัจจัยไม่มีใครปรุงแต่งเพราะเกิดแล้วโดยอนัตตา
ทีนี้คิดสิในเมื่อเดี๋ยวนี้จะทำอะไรที่ไหนอย่างไรกับใครมันผิดปกติของคนไหมแล้วคิดไหมว่าไม่ได้รู้อะไรเลย
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2019, 17:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
ส่วนเรื่องการปฏิบัติ ผมทำแล้วครับ

- เริ่มจากท่านพิจารณาอย่างไรนะถึงเห็นธรรมได้ ไปถามท่านเอากับสมาธิดีกว่า
- นึกถึงท่านสามเณร แล้วเข้าธาตุกรรมฐาน
- อธิษฐานนิมิต(ทำไว้ในใจถึงกายธาตุ หากสมาธิมั่นคงมีกำลังได้ที่มันพรึบขึ้นให้เห็นทันที(นับแต่อุปจาระฌาณขึ้นไป)) (แบบโลกียะ)
- เจริญจตุธาตุววัตถาน(เอาแค่รู้เข้าใจ) (แบบโลกียะ)
- นั่งดู พิจารณา (แบบโลกียะ)
- เห็นอนัตตาในกายธาตุ (แบบโลกียะ)
- หน่าย คลายกำหนัด (แบบโลกียะ)
- เสื่อม (แบบโลกียะ เพราะจิตยังไม่เดิน)

:b32: :b32: :b32:


เอาไงก็เอาเถอะขอรับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2019, 17:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
Love J. เขียน:
สามเณรท่านเห็นชาวนากำลังทำทางดินผันน้ำเข้านา (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) ท่านก็สังเกตุเห็นว่าน้ำไม่มีชีวิต ชาวนายังบังคับให้ไหลตามทางที่ต้องการได้ ท่านก็น้อมเข้ามาพิจารณาตนเองว่าเรามีชีวิตแท้ ๆ ทำไมจะอบรมข่มจิตให้ตั้งมั่นควรแก่การงาน ตามต้องการไม่ได้ จึงเกิดกำลังใจในการเจริญ สมถะ วิปัสสนา บรรลุอรหันต์ในที่สุด ประมาณนี้ครับ


สาธุท่านเจ ดีแล้วครับ สาธุ

เหลือท่านกรัซกายยังตอบผมไม่ได้เลย :b32: :b32: :b32: มีแต่หันเหบ่ายเบี่ยงแล้วบอกให้ลองไปทำดูสิ ไม่รู้กลัวอะไร


ผลสุดท้ายก็ทำสมาธิ เจริญปัญญา คิกๆๆๆ นั่นตัวหนังสือ สมาธิ ปัญญา ท่านยังไม่ได้ทำเบย เพียงแต่อ่านหนังสือแล้วก็มโนไปเท่านั้นเอง บอกไม่เชื่อ


:b32: :b32: :b32: ถามความคิดเห็น นี่ครับ ว่า สถานการณ์นั้นท่านคิดเห็นยังไงจึงรีบไปเข้ากรรมฐาน ท่านกรัซกายนี่อ่านอะไรเข้าใจยากจังครับ ลองย้อนไปอ่านครับ นี่ทำให้เห็นว่าท่านกรัซกายรู้นะ ปต่ขาดการทำความรู้ความเข้าใจจริง ดังนั้นก็ไม่ต่างกัยมโนไปเองว่าเป็นนั่นเป็นนี่ ท่านบ้าธรรมเกินไปอะไรก็จะลงธรรมหมดไหนท่านเคยบอกตำหนิผมว่าบ้าธรรม แต่ผมว่าท่านบ้ากว่าผมนะนี่

ค่อยๆแยกแยะเป็นเรื่องๆไปครับท่าน อย่าเอาทุกเรื่องมารวมกัน


ไปเอานิทานธรรมบทมา เขาว่ายังงั้น แล้วเราเองก็มาคิดยังงี้ แล้วก็ว่าที่เราคิดนั่นแหละเป็นธรรมะ ครั้นคิดยังงั้นแล้วก็นั่งนอนยิ้ม ธรรมะๆๆๆ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2019, 19:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
Love J. เขียน:
สามเณรท่านเห็นชาวนากำลังทำทางดินผันน้ำเข้านา (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) ท่านก็สังเกตุเห็นว่าน้ำไม่มีชีวิต ชาวนายังบังคับให้ไหลตามทางที่ต้องการได้ ท่านก็น้อมเข้ามาพิจารณาตนเองว่าเรามีชีวิตแท้ ๆ ทำไมจะอบรมข่มจิตให้ตั้งมั่นควรแก่การงาน ตามต้องการไม่ได้ จึงเกิดกำลังใจในการเจริญ สมถะ วิปัสสนา บรรลุอรหันต์ในที่สุด ประมาณนี้ครับ


สาธุท่านเจ ดีแล้วครับ สาธุ

เหลือท่านกรัซกายยังตอบผมไม่ได้เลย :b32: :b32: :b32: มีแต่หันเหบ่ายเบี่ยงแล้วบอกให้ลองไปทำดูสิ ไม่รู้กลัวอะไร


ผลสุดท้ายก็ทำสมาธิ เจริญปัญญา คิกๆๆๆ นั่นตัวหนังสือ สมาธิ ปัญญา ท่านยังไม่ได้ทำเบย เพียงแต่อ่านหนังสือแล้วก็มโนไปเท่านั้นเอง บอกไม่เชื่อ


:b32: :b32: :b32: ถามความคิดเห็น นี่ครับ ว่า สถานการณ์นั้นท่านคิดเห็นยังไงจึงรีบไปเข้ากรรมฐาน ท่านกรัซกายนี่อ่านอะไรเข้าใจยากจังครับ ลองย้อนไปอ่านครับ นี่ทำให้เห็นว่าท่านกรัซกายรู้นะ ปต่ขาดการทำความรู้ความเข้าใจจริง ดังนั้นก็ไม่ต่างกัยมโนไปเองว่าเป็นนั่นเป็นนี่ ท่านบ้าธรรมเกินไปอะไรก็จะลงธรรมหมดไหนท่านเคยบอกตำหนิผมว่าบ้าธรรม แต่ผมว่าท่านบ้ากว่าผมนะนี่

ค่อยๆแยกแยะเป็นเรื่องๆไปครับท่าน อย่าเอาทุกเรื่องมารวมกัน


ไปเอานิทานธรรมบทมา เขาว่ายังงั้น แล้วเราเองก็มาคิดยังงี้ แล้วก็ว่าที่เราคิดนั่นแหละเป็นธรรมะ ครั้นคิดยังงั้นแล้วก็นั่งนอนยิ้ม ธรรมะๆๆๆ :b32:



ที่ท่านกรัซกายว่าก็ประมาณหนึ่งนะ :b32: :b32: :b32:

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2019, 19:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
ส่วนเรื่องการปฏิบัติ ผมทำแล้วครับ

- เริ่มจากท่านพิจารณาอย่างไรนะถึงเห็นธรรมได้ ไปถามท่านเอากับสมาธิดีกว่า
- นึกถึงท่านสามเณร แล้วเข้าธาตุกรรมฐาน
- อธิษฐานนิมิต(ทำไว้ในใจถึงกายธาตุ หากสมาธิมั่นคงมีกำลังได้ที่มันพรึบขึ้นให้เห็นทันที(นับแต่อุปจาระฌาณขึ้นไป)) (แบบโลกียะ)
- เจริญจตุธาตุววัตถาน(เอาแค่รู้เข้าใจ) (แบบโลกียะ)
- นั่งดู พิจารณา (แบบโลกียะ)
- เห็นอนัตตาในกายธาตุ (แบบโลกียะ)
- หน่าย คลายกำหนัด (แบบโลกียะ)
- เสื่อม (แบบโลกียะ เพราะจิตยังไม่เดิน)

:b32: :b32: :b32:


เอาไงก็เอาเถอะขอรับ :b1:



อย่าคิดมากท่าน เราเฮฮากันไม่ซีเรียสนะครับ ผมยังจำคำที่ท่านสอนผมนะครับว่า อย่าบ้าธรรม ท่านสอนผมนี่อย่าบ้าธรรมมาก ผมก็พิจารณาได้ว่าเพราะรู้จริงจึงไม่ยึด ยึดเพราะไม่รู้แต่เพราะหลงต่างหาก ถูกมั้ยครับ ดังนั้นคุยให้ได้เหมือนคนปรกติจะดีกว่ามากใช่ปะครับ :b1: :b1: :b1:

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 189 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 ... 13  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 56 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร