ลานธรรมจักร :: แสดงกระทู้

โลกสวย เขียน:

เอ่?

พระพุทธองค์ ทรงตรัส "มิจฉาสติ " ในมรรค 8 ด้วย
เทฺวธาวิตักกสูตร ที่ ๙

คำว่า ทางที่ไม่สะดวก
นี้เป็นชื่อของทางผิด อันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ คือ มิจฉาทิฏฐิ ๑ มิจฉาสังกัปปะ ๑
มิจฉาวาจา ๑ มิจฉากัมมันตะ ๑ มิจฉาอาชีวะ ๑ มิจฉาวายามะ ๑ มิจฉาสติ ๑ มิจฉาสมาธิ ๑

s006

เอ่?

มารผู้ใจบาป คงไม่รู้ว่า มรรคแปลว่าอะไร ได้แต่พูดมรรคๆๆๆ
ไม่รู้ว่า
ว่า "มรรค" แปลว่า" ทาง "

เอ่?ๆๆ s006

ไม่มีสติเรียกว่าขาดสติ
เขาไม่เรียกมิจฉาสติ555
ขาดสติคือไม่ระลึกตามคำสอน
เพราะขาดการฟังคำสอน
ทำให้คิดตามที่ตาเห็น
ตาเห็นน่ะดับแสนล้านขณะ=เห็นผิดๆๆๆๆๆๆ...อินฟินิตี้
:b32:

เรัยนอภิธรรมมาเนี่ย
ลองไปดูแผนผังเจตสิกดูนะ
ว่ทำไมสมาธิแบ่งเป็นสัมมากับมิจฉา
ส่วนสติเจตสิกเป็นโสภณเจตสิกไม่เกิดกับมิจฉาอยู่แล้ว
:b16:

โลกสวย เขียน:

เอ่?

เรียนอภิธรรมมาเนี่ย
ลองไปดูแผนผังเจตสิกดูนะ
ว่าทำไมสมาธิแบ่งเป็นสัมมากับมิจฉา
ส่วนสติเจตสิกเป็นโสภณเจตสิกเกิดกับสัมมาเท่านั้นไม่เกิดกับมิจฉาอยู่แล้ว
:b16:

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

เอ่?

เอ่?

แนะนำ คุณยายโรสนะค๊ะว่า
ไปเสนอแก้ไขพระไตรปิฎก พระวจนะ และพระสูตรนะค๊ะ

ว่า ที่พระพุทธองค์กล่าวมาว่า "มิจฉาสติ" นั้นผิด

ต้องกล่าวแบบ ยายโรส จึงถูกต้อง น๊าค๊า

คุณยายโรสเอาไปขึ้นกระทู้ใหม่เรยดีมั๊ยค๊ะ

ว่าพระพุทธองค์กล่าวผิดๆๆๆ ต้องเสนอแก้ พระไตรปิฎก ให้เป็นตามคำ คุณยายโรส

เนี่ย เอาพระอภิธรรมแท้ๆ มาให้ชมแล้วว่า สติมีสี่แบบชวนะอะไรบ้าง
เอาพระวจนะมาให่ชมแล้ว
เอาพระสูตร มาสะกดต่อ

มาร ก็ยังกระด้างกระเดื่องอีกแน๊ะ

หาว่าพระธรรมผิด ต้องเรียกแบบมาร แบบมาร ว่า"ขาดสติ " เท่านั้น

s006

เอ่ๆ

โลกสวย เขียน:

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

เอ่?

เอ่ๆ

สมาธิเจตสิกอยู่คนละกลุ่มกับสติเจตสิก
:b32:

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

เอ่?

เอ่ๆ

สมาธิเจตสิกอยู่คนละกลุ่มกับสติเจตสิก
:b32:

อาวอีกแระ

มิจฉาสมาธิ อยู่ ใน มิจฉามรรค เดียวกันกะ มิจฉาสติ
พระพุทธองคืทรงแสดงให้ชม ในพระสูตร พระวจนะแระหล่ะค่ะ

ส่วนสัมมาสมาธิ ก็อยู่ใน สัมมามรรค เดียวกันกะ สัมมาสติ

พูดแต่สมาธิๆๆ เจตสิก ๆๆ สติๆๆๆ

แต่ไม่รู้ว่า
มรรคคืออะไร มีอะไรบ้าง
สติ แล่นไปในชวนะอะไรบ้าง

นี่แหละ เพราะคุณยายไม่เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนพระปริยัติ

เม ไม่แนะนำแระ ดื้อนัก ไม่เรียนก็อย่าเรียน
ไปไหนก็ไปเถอะ ค่ะ

โลกสวย เขียน:

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

เอ่?

เอ่ๆ

สมาธิเจตสิกอยู่คนละกลุ่มกับสติเจตสิก
:b32:

ฟังบ้างนะคะ
ตาไม่ได้บอด
ดีดนิ้วดูสิดับ
แสนโกฏิขณะ
มีแล้วอวิชชา
ที่ไม่มีคือปัญญา
กิเลสเกิดตอนเห็น
ปัญญาเกิดจากฟังสียง
ดูกะฟังทำอะไรมากกว่ากัน555
ฉันไม่ได้ท่องอภิธรรมได้เหมือนเธอ
แต่ฉันแยกประเภทสมาธิได้ว่าตอนฟังเข้าใจที่เกิดกุศล
ตอนไม่ฟังก็ฝันไปเท๊อะว่าปัญญาจะเกิดเองได้เพราะเห็นผิดไงคะ555
https://youtu.be/0Hlwa8PrpzY
:b32:

โลกสวย เขียน:

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

เอ่?

เอ่ๆ

สมาธิเจตสิกอยู่คนละกลุ่มกับสติเจตสิก
:b32:

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

เอ่?

เอ่ๆ

สมาธิเจตสิกอยู่คนละกลุ่มกับสติเจตสิก
:b32:

เอ่?

ฉันไม่ใช่พวกขาเลาะ

ที่หลงเพลินกะกามคุณ แบบเธอนี่นา

ผัสสายตนะทั้ง 6 เรยไม่เพลินกะไปดูยู๊ทู๊ปแบบเธอ น๊อ

cry

โลกสวย เขียน:

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

เอ่?

เอ่ๆ

สมาธิเจตสิกอยู่คนละกลุ่มกับสติเจตสิก
:b32:

จิตเกิดดับนับแสนโกฏิขณะจนปรากฏมีตัวเธอมีคนมีของหลากสีคือเห็นนิมิต
จะคิดเห็นถูกตามคำสอนได้ตอนฟังแล้วไตร่ตรองตามว่ากำลังมีกิเลสอยู่
กำลังเห็นผิดและไม่รู้ว่าจิตเกิดดับไปแล้วแสนล้านดวงเดี๋ยวนี้ทำไรอยู่
คำสอนของพระพุทธเจ้าฟังแล้วคิดถูกตามได้เท่านั้นเพราะดับแล้ว
ทำอะไรไม่ได้กับตัวจริงธัมมะที่กำลังเกิดดับดับไปๆตลอดเวลา
ที่เกิดมานี้เพราะขาดปัญญารู้ตัวได้ทันทีที่เข้าใจถูกตามได้
เห็นคนสัตว์วัตถุคือเห็นผิดบอกว่าจิตเห็นสีล้วน1สีในลูกตา
และยิ่งกว่านั้นตถาคคแสดงว่าดับไปแล้วแสนล้านขณะ
ทำไม่ไม่เริ่มฟังให้คิดถูกตรงสัจจะที่กำลังปรากฏ
เพราะจิตไม่เกิดนอกปสาทรูปมันดับในตาหูจมูกลิ้นกายใจ
คนละทางสลับกันทีละ1แต่ละ1ไม่ซ้ำขณะเดิมเลยทำสุตมยปัญญาตรงจริงเข้าใจไหมคะ
https://youtu.be/TEXeYi4JlDQ
:b12:

:b32:
ตาไม่บอดไม่เห็นเหรอสัจจะคืออะไร
จิตเห็น1ขณะมีแค่สีล้วน1สี
อ่านตัวอักษรคือเห็นผิด
เห็นเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด
มีอัตตานุทิฏฐิและ
เห็นว่ามีตัวตน
คือสักกายะทิฏฐิ
เป็นกิเลสไม่เก็ตเหรอ555
ไม่มีปัญญาคิดตรงปัจจุบันขณะเลยเหรอ
:b12:

Rosarin เขียน:

จักขุ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา
รูป ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา
โสตะ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา
สัททะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา
ฆานะ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา
คันธะ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา
ชิวหา ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา
รส ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา
กาย ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา
โผฏฐัพพะ ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา
มโน ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา
ธรรม ไม่เที่ยง เป็นทุกข์เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา

สุตตันตภาชนีย์

เอ่? s006

ชาตินี้จะเข้าใจมั๊ยคะ นี่แหละปัจจุบันธรรม น๊อ

เจ้าของ:	โลกสวย [ 28 ก.พ. 2019, 23:24 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: สติเจตสิก
Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: เอ่? พระพุทธองค์ ทรงตรัส "มิจฉาสติ " ในมรรค 8 ด้วย เทฺวธาวิตักกสูตร ที่ ๙ คำว่า ทางที่ไม่สะดวก นี้เป็นชื่อของทางผิด อันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ คือ มิจฉาทิฏฐิ ๑ มิจฉาสังกัปปะ ๑ มิจฉาวาจา ๑ มิจฉากัมมันตะ ๑ มิจฉาอาชีวะ ๑ มิจฉาวายามะ ๑ มิจฉาสติ ๑ มิจฉาสมาธิ ๑ เอ่? มารผู้ใจบาป คงไม่รู้ว่า มรรคแปลว่าอะไร ได้แต่พูดมรรคๆๆๆ ไม่รู้ว่า ว่า "มรรค" แปลว่า" ทาง " เอ่?ๆๆ ไม่มีสติเรียกว่าขาดสติ เขาไม่เรียกมิจฉาสติ555 ขาดสติคือไม่ระลึกตามคำสอน เพราะขาดการฟังคำสอน ทำให้คิดตามที่ตาเห็น ตาเห็นน่ะดับแสนล้านขณะ=เห็นผิดๆๆๆๆๆๆ...อินฟินิตี้ เรัยนอภิธรรมมาเนี่ย ลองไปดูแผนผังเจตสิกดูนะ ว่ทำไมสมาธิแบ่งเป็นสัมมากับมิจฉา ส่วนสติเจตสิกเป็นโสภณเจตสิกไม่เกิดกับมิจฉาอยู่แล้ว เอ่? เอ่? มารผู้ใจบาป พล่ามแต่ ฟังคำตถาคต น๊าค๊า น๊าค๊า เกิดดับแสนล้านโกฎน๊าค๊า แต่เอาเข้าจริง เหลวเละตุ๊มเป๊ะเรย มารเรยปิดบังซ่อนเร้น ไม่ยอมพูดประโยคเต็มๆ ว่า พระพุทธองค์ ทรงแสดงต่อ ว่า การเกิดดับแบบนั้น "เป็นกลหลอกลวงสำหรับคนโง๋ " จ๊ะ มาร และ พระพุทธองค์ตรัสทั้งในพุทธวจนะ และพระสูตร ว่า "มิจฉาสติ" เม ไม่ได้คิดค้นประดิษฐ์คำใหม่ขึ้นเอง เนาะ เอ่? และพระพุทธองค์ ไม่ได้เขียนแผนผัง พระอภิธรรม ให้พระอานนท์ ดู ไม่ได้เขียนแผนผัง ให้พระมารดาในดาวดึงส์ ม่ะใช่เหรอ เอ่ๆๆ คงต้องไล่มารผู้มีบาปไปอีกแระ ชิ้วๆๆ แนะนำว่า ไปเรียนพระอภิธรรม พระปริยัติน๊ะจ๊ะ มารจ๋า มรรคของมาร เป็นทางที่ดำเนินผิด ไม่มีกุศลสติ เรียกว่า "มิจฉาสติ "จ๊ะ

เจ้าของ:	โลกสวย [ 28 ก.พ. 2019, 23:45 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: สติเจตสิก
Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: เอ่? พระพุทธองค์ ทรงตรัส "มิจฉาสติ " ในมรรค 8 ด้วย เทฺวธาวิตักกสูตร ที่ ๙ คำว่า ทางที่ไม่สะดวก นี้เป็นชื่อของทางผิด อันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ คือ มิจฉาทิฏฐิ ๑ มิจฉาสังกัปปะ ๑ มิจฉาวาจา ๑ มิจฉากัมมันตะ ๑ มิจฉาอาชีวะ ๑ มิจฉาวายามะ ๑ มิจฉาสติ ๑ มิจฉาสมาธิ ๑ เอ่? มารผู้ใจบาป คงไม่รู้ว่า มรรคแปลว่าอะไร ได้แต่พูดมรรคๆๆๆ ไม่รู้ว่า ว่า "มรรค" แปลว่า" ทาง " เอ่?ๆๆ ไม่มีสติเรียกว่าขาดสติ เขาไม่เรียกมิจฉาสติ555 ขาดสติคือไม่ระลึกตามคำสอน เพราะขาดการฟังคำสอน ทำให้คิดตามที่ตาเห็น ตาเห็นน่ะดับแสนล้านขณะ=เห็นผิดๆๆๆๆๆๆ...อินฟินิตี้ เรียนอภิธรรมมาเนี่ย ลองไปดูแผนผังเจตสิกดูนะ ว่าทำไมสมาธิแบ่งเป็นสัมมากับมิจฉา ส่วนสติเจตสิกเป็นโสภณเจตสิกเกิดกับสัมมาเท่านั้นไม่เกิดกับมิจฉาอยู่แล้ว เอ่? แนะนำ คุณยายโรสนะค๊ะว่า ไปเสนอแก้ไขพระไตรปิฎก พระวจนะ และพระสูตรนะค๊ะ ว่า ที่พระพุทธองค์กล่าวมาว่า "มิจฉาสติ" นั้นผิด ต้องกล่าวแบบ ยายโรส จึงถูกต้อง น๊าค๊า คุณยายโรสเอาไปขึ้นกระทู้ใหม่เรยดีมั๊ยค๊ะ ว่าพระพุทธองค์กล่าวผิดๆๆๆ ต้องเสนอแก้ พระไตรปิฎก ให้เป็นตามคำ คุณยายโรส เนี่ย เอาพระอภิธรรมแท้ๆ มาให้ชมแล้วว่า สติมีสี่แบบชวนะอะไรบ้าง เอาพระวจนะมาให่ชมแล้ว เอาพระสูตร มาสะกดต่อ มาร ก็ยังกระด้างกระเดื่องอีกแน๊ะ หาว่าพระธรรมผิด ต้องเรียกแบบมาร แบบมาร ว่า"ขาดสติ " เท่านั้น เอ่ๆ

เจ้าของ:	Rosarin [ 28 ก.พ. 2019, 23:50 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: สติเจตสิก
โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: เอ่? พระพุทธองค์ ทรงตรัส "มิจฉาสติ " ในมรรค 8 ด้วย เทฺวธาวิตักกสูตร ที่ ๙ คำว่า ทางที่ไม่สะดวก นี้เป็นชื่อของทางผิด อันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ คือ มิจฉาทิฏฐิ ๑ มิจฉาสังกัปปะ ๑ มิจฉาวาจา ๑ มิจฉากัมมันตะ ๑ มิจฉาอาชีวะ ๑ มิจฉาวายามะ ๑ มิจฉาสติ ๑ มิจฉาสมาธิ ๑ เอ่? มารผู้ใจบาป คงไม่รู้ว่า มรรคแปลว่าอะไร ได้แต่พูดมรรคๆๆๆ ไม่รู้ว่า ว่า "มรรค" แปลว่า" ทาง " เอ่?ๆๆ ไม่มีสติเรียกว่าขาดสติ เขาไม่เรียกมิจฉาสติ555 ขาดสติคือไม่ระลึกตามคำสอน เพราะขาดการฟังคำสอน ทำให้คิดตามที่ตาเห็น ตาเห็นน่ะดับแสนล้านขณะ=เห็นผิดๆๆๆๆๆๆ...อินฟินิตี้ เรียนอภิธรรมมาเนี่ย ลองไปดูแผนผังเจตสิกดูนะ ว่าทำไมสมาธิแบ่งเป็นสัมมากับมิจฉา ส่วนสติเจตสิกเป็นโสภณเจตสิกเกิดกับสัมมาเท่านั้นไม่เกิดกับมิจฉาอยู่แล้ว เอ่? แนะนำ คุณยายโรสนะค๊ะว่า ไปเสนอแก้ไขพระไตรปิฎก พระวจนะ และพระสูตรนะค๊ะ ว่า ที่พระพุทธองค์กล่าวมาว่า "มิจฉาสติ" นั้นผิด ต้องกล่าวแบบ ยายโรส จึงถูกต้อง น๊าค๊า คุณยายโรสเอาไปขึ้นกระทู้ใหม่เรยดีมั๊ยค๊ะ ว่าพระพุทธองค์กล่าวผิดๆๆๆ ต้องเสนอแก้ พระไตรปิฎก ให้เป็นตามคำ คุณยายโรส เนี่ย เอาพระอภิธรรมแท้ๆ มาให้ชมแล้วว่า สติมีสี่แบบชวนะอะไรบ้าง เอาพระวจนะมาให่ชมแล้ว เอาพระสูตร มาสะกดต่อ มาร ก็ยังกระด้างกระเดื่องอีกแน๊ะ หาว่าพระธรรมผิด ต้องเรียกแบบมาร แบบมาร ว่า"ขาดสติ " เท่านั้น เอ่ๆ สมาธิเจตสิกอยู่คนละกลุ่มกับสติเจตสิก

เจ้าของ:	Rosarin [ 01 มี.ค. 2019, 00:01 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: สติเจตสิก
ยังหาสมาธิเจตสิกไม่เจอหรือคะสังสัยไม่รู้จักชื่อสมาธิเจตสิกอยู่ในสัพพะจิตตะสาธาระณะไง สมาธิเจตสิกชื่อว่าเอกัคตาเจตสิกคือขณิกสมาธิเกิดสัมมาตอนฟังแล้วระลึกตามคำสอนได้ viewtopic.php?f=1&t=49266

เจ้าของ:	โลกสวย [ 01 มี.ค. 2019, 00:08 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: สติเจตสิก
Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: เอ่? พระพุทธองค์ ทรงตรัส "มิจฉาสติ " ในมรรค 8 ด้วย เทฺวธาวิตักกสูตร ที่ ๙ คำว่า ทางที่ไม่สะดวก นี้เป็นชื่อของทางผิด อันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ คือ มิจฉาทิฏฐิ ๑ มิจฉาสังกัปปะ ๑ มิจฉาวาจา ๑ มิจฉากัมมันตะ ๑ มิจฉาอาชีวะ ๑ มิจฉาวายามะ ๑ มิจฉาสติ ๑ มิจฉาสมาธิ ๑ เอ่? มารผู้ใจบาป คงไม่รู้ว่า มรรคแปลว่าอะไร ได้แต่พูดมรรคๆๆๆ ไม่รู้ว่า ว่า "มรรค" แปลว่า" ทาง " เอ่?ๆๆ ไม่มีสติเรียกว่าขาดสติ เขาไม่เรียกมิจฉาสติ555 ขาดสติคือไม่ระลึกตามคำสอน เพราะขาดการฟังคำสอน ทำให้คิดตามที่ตาเห็น ตาเห็นน่ะดับแสนล้านขณะ=เห็นผิดๆๆๆๆๆๆ...อินฟินิตี้ เรียนอภิธรรมมาเนี่ย ลองไปดูแผนผังเจตสิกดูนะ ว่าทำไมสมาธิแบ่งเป็นสัมมากับมิจฉา ส่วนสติเจตสิกเป็นโสภณเจตสิกเกิดกับสัมมาเท่านั้นไม่เกิดกับมิจฉาอยู่แล้ว เอ่? แนะนำ คุณยายโรสนะค๊ะว่า ไปเสนอแก้ไขพระไตรปิฎก พระวจนะ และพระสูตรนะค๊ะ ว่า ที่พระพุทธองค์กล่าวมาว่า "มิจฉาสติ" นั้นผิด ต้องกล่าวแบบ ยายโรส จึงถูกต้อง น๊าค๊า คุณยายโรสเอาไปขึ้นกระทู้ใหม่เรยดีมั๊ยค๊ะ ว่าพระพุทธองค์กล่าวผิดๆๆๆ ต้องเสนอแก้ พระไตรปิฎก ให้เป็นตามคำ คุณยายโรส เนี่ย เอาพระอภิธรรมแท้ๆ มาให้ชมแล้วว่า สติมีสี่แบบชวนะอะไรบ้าง เอาพระวจนะมาให่ชมแล้ว เอาพระสูตร มาสะกดต่อ มาร ก็ยังกระด้างกระเดื่องอีกแน๊ะ หาว่าพระธรรมผิด ต้องเรียกแบบมาร แบบมาร ว่า"ขาดสติ " เท่านั้น เอ่ๆ สมาธิเจตสิกอยู่คนละกลุ่มกับสติเจตสิก อาวอีกแระ มิจฉาสมาธิ อยู่ ใน มิจฉามรรค เดียวกันกะ มิจฉาสติ พระพุทธองคืทรงแสดงให้ชม ในพระสูตร พระวจนะแระหล่ะค่ะ ส่วนสัมมาสมาธิ ก็อยู่ใน สัมมามรรค เดียวกันกะ สัมมาสติ พูดแต่สมาธิๆๆ เจตสิก ๆๆ สติๆๆๆ แต่ไม่รู้ว่า มรรคคืออะไร มีอะไรบ้าง สติ แล่นไปในชวนะอะไรบ้าง นี่แหละ เพราะคุณยายไม่เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนพระปริยัติ เม ไม่แนะนำแระ ดื้อนัก ไม่เรียนก็อย่าเรียน ไปไหนก็ไปเถอะ ค่ะ

ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/

สติเจตสิก http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57218	หน้า 2 จากทั้งหมด 6

เจ้าของ:	Rosarin [ 01 มี.ค. 2019, 00:14 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: สติเจตสิก
โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: เอ่? พระพุทธองค์ ทรงตรัส "มิจฉาสติ " ในมรรค 8 ด้วย เทฺวธาวิตักกสูตร ที่ ๙ คำว่า ทางที่ไม่สะดวก นี้เป็นชื่อของทางผิด อันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ คือ มิจฉาทิฏฐิ ๑ มิจฉาสังกัปปะ ๑ มิจฉาวาจา ๑ มิจฉากัมมันตะ ๑ มิจฉาอาชีวะ ๑ มิจฉาวายามะ ๑ มิจฉาสติ ๑ มิจฉาสมาธิ ๑ เอ่? มารผู้ใจบาป คงไม่รู้ว่า มรรคแปลว่าอะไร ได้แต่พูดมรรคๆๆๆ ไม่รู้ว่า ว่า "มรรค" แปลว่า" ทาง " เอ่?ๆๆ ไม่มีสติเรียกว่าขาดสติ เขาไม่เรียกมิจฉาสติ555 ขาดสติคือไม่ระลึกตามคำสอน เพราะขาดการฟังคำสอน ทำให้คิดตามที่ตาเห็น ตาเห็นน่ะดับแสนล้านขณะ=เห็นผิดๆๆๆๆๆๆ...อินฟินิตี้ เรียนอภิธรรมมาเนี่ย ลองไปดูแผนผังเจตสิกดูนะ ว่าทำไมสมาธิแบ่งเป็นสัมมากับมิจฉา ส่วนสติเจตสิกเป็นโสภณเจตสิกเกิดกับสัมมาเท่านั้นไม่เกิดกับมิจฉาอยู่แล้ว เอ่? แนะนำ คุณยายโรสนะค๊ะว่า ไปเสนอแก้ไขพระไตรปิฎก พระวจนะ และพระสูตรนะค๊ะ ว่า ที่พระพุทธองค์กล่าวมาว่า "มิจฉาสติ" นั้นผิด ต้องกล่าวแบบ ยายโรส จึงถูกต้อง น๊าค๊า คุณยายโรสเอาไปขึ้นกระทู้ใหม่เรยดีมั๊ยค๊ะ ว่าพระพุทธองค์กล่าวผิดๆๆๆ ต้องเสนอแก้ พระไตรปิฎก ให้เป็นตามคำ คุณยายโรส เนี่ย เอาพระอภิธรรมแท้ๆ มาให้ชมแล้วว่า สติมีสี่แบบชวนะอะไรบ้าง เอาพระวจนะมาให่ชมแล้ว เอาพระสูตร มาสะกดต่อ มาร ก็ยังกระด้างกระเดื่องอีกแน๊ะ หาว่าพระธรรมผิด ต้องเรียกแบบมาร แบบมาร ว่า"ขาดสติ " เท่านั้น เอ่ๆ สมาธิเจตสิกอยู่คนละกลุ่มกับสติเจตสิก อาวอีกแระ มิจฉาสมาธิ อยู่ ใน มิจฉามรรค เดียวกันกะ มิจฉาสติ พระพุทธองคืทรงแสดงให้ชม ในพระสูตร พระวจนะแระหล่ะค่ะ ส่วนสัมมาสมาธิ ก็อยู่ใน สัมมามรรค เดียวกันกะ สัมมาสติ พูดแต่สมาธิๆๆ เจตสิก ๆๆ สติๆๆๆ แต่ไม่รู้ว่า มรรคคืออะไร มีอะไรบ้าง สติ แล่นไปในชวนะอะไรบ้าง นี่แหละ เพราะคุณยายไม่เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนพระปริยัติ เม ไม่แนะนำแระ ดื้อนัก ไม่เรียนก็อย่าเรียน ไปไหนก็ไปเถอะ ค่ะ ฟังบ้างนะคะ ตาไม่ได้บอด ดีดนิ้วดูสิดับ แสนโกฏิขณะ มีแล้วอวิชชา ที่ไม่มีคือปัญญา กิเลสเกิดตอนเห็น ปัญญาเกิดจากฟังสียง ดูกะฟังทำอะไรมากกว่ากัน555 ฉันไม่ได้ท่องอภิธรรมได้เหมือนเธอ แต่ฉันแยกประเภทสมาธิได้ว่าตอนฟังเข้าใจที่เกิดกุศล ตอนไม่ฟังก็ฝันไปเท๊อะว่าปัญญาจะเกิดเองได้เพราะเห็นผิดไงคะ555 https://youtu.be/0Hlwa8PrpzY

เจ้าของ:	โลกสวย [ 01 มี.ค. 2019, 00:16 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: สติเจตสิก
เอ่? คุณยายโรสขาเลาะ นี่บ่ ใช่ขาเรียน .... วันๆเบิ่งแต่ ยู๊ทู๊ป บ่ได้ขยันหมั่นเพียร ..... จะสแตนบายอยู่ ยังงี้ ก็เชิญน๊าค๊ะ

เจ้าของ:	Rosarin [ 01 มี.ค. 2019, 00:23 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: สติเจตสิก
Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: เอ่? พระพุทธองค์ ทรงตรัส "มิจฉาสติ " ในมรรค 8 ด้วย เทฺวธาวิตักกสูตร ที่ ๙ คำว่า ทางที่ไม่สะดวก นี้เป็นชื่อของทางผิด อันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ คือ มิจฉาทิฏฐิ ๑ มิจฉาสังกัปปะ ๑ มิจฉาวาจา ๑ มิจฉากัมมันตะ ๑ มิจฉาอาชีวะ ๑ มิจฉาวายามะ ๑ มิจฉาสติ ๑ มิจฉาสมาธิ ๑ เอ่? มารผู้ใจบาป คงไม่รู้ว่า มรรคแปลว่าอะไร ได้แต่พูดมรรคๆๆๆ ไม่รู้ว่า ว่า "มรรค" แปลว่า" ทาง " เอ่?ๆๆ ไม่มีสติเรียกว่าขาดสติ เขาไม่เรียกมิจฉาสติ555 ขาดสติคือไม่ระลึกตามคำสอน เพราะขาดการฟังคำสอน ทำให้คิดตามที่ตาเห็น ตาเห็นน่ะดับแสนล้านขณะ=เห็นผิดๆๆๆๆๆๆ...อินฟินิตี้ เรียนอภิธรรมมาเนี่ย ลองไปดูแผนผังเจตสิกดูนะ ว่าทำไมสมาธิแบ่งเป็นสัมมากับมิจฉา ส่วนสติเจตสิกเป็นโสภณเจตสิกเกิดกับสัมมาเท่านั้นไม่เกิดกับมิจฉาอยู่แล้ว เอ่? แนะนำ คุณยายโรสนะค๊ะว่า ไปเสนอแก้ไขพระไตรปิฎก พระวจนะ และพระสูตรนะค๊ะ ว่า ที่พระพุทธองค์กล่าวมาว่า "มิจฉาสติ" นั้นผิด ต้องกล่าวแบบ ยายโรส จึงถูกต้อง น๊าค๊า คุณยายโรสเอาไปขึ้นกระทู้ใหม่เรยดีมั๊ยค๊ะ ว่าพระพุทธองค์กล่าวผิดๆๆๆ ต้องเสนอแก้ พระไตรปิฎก ให้เป็นตามคำ คุณยายโรส เนี่ย เอาพระอภิธรรมแท้ๆ มาให้ชมแล้วว่า สติมีสี่แบบชวนะอะไรบ้าง เอาพระวจนะมาให่ชมแล้ว เอาพระสูตร มาสะกดต่อ มาร ก็ยังกระด้างกระเดื่องอีกแน๊ะ หาว่าพระธรรมผิด ต้องเรียกแบบมาร แบบมาร ว่า"ขาดสติ " เท่านั้น เอ่ๆ สมาธิเจตสิกอยู่คนละกลุ่มกับสติเจตสิก อาวอีกแระ มิจฉาสมาธิ อยู่ ใน มิจฉามรรค เดียวกันกะ มิจฉาสติ พระพุทธองคืทรงแสดงให้ชม ในพระสูตร พระวจนะแระหล่ะค่ะ ส่วนสัมมาสมาธิ ก็อยู่ใน สัมมามรรค เดียวกันกะ สัมมาสติ พูดแต่สมาธิๆๆ เจตสิก ๆๆ สติๆๆๆ แต่ไม่รู้ว่า มรรคคืออะไร มีอะไรบ้าง สติ แล่นไปในชวนะอะไรบ้าง นี่แหละ เพราะคุณยายไม่เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนพระปริยัติ เม ไม่แนะนำแระ ดื้อนัก ไม่เรียนก็อย่าเรียน ไปไหนก็ไปเถอะ ค่ะ ฟังบ้างนะคะ ตาไม่ได้บอด ดีดนิ้วดูสิดับ แสนโกฏิขณะ มีแล้วอวิชชา ที่ไม่มีคือปัญญา กิเลสเกิดตอนเห็น ปัญญาเกิดจากฟังสียง ดูกะฟังทำอะไรมากกว่ากัน555 ฉันไม่ได้ท่องอภิธรรมได้เหมือนเธอ แต่ฉันแยกประเภทสมาธิได้ว่าตอนฟังเข้าใจที่เกิดกุศล ตอนไม่ฟังก็ฝันไปเท๊อะว่าปัญญาจะเกิดเองได้เพราะเห็นผิดไงคะ555 https://youtu.be/0Hlwa8PrpzY สมาธิเป็นได้2แบบ1สาธารณะกุศลหรือ2สาธารณะอกุศลก็จิตเกิดดับนับแสนโกฏิขณะประมาทสุตมยปัญญา สติสาธารณะแต่กุศลเพราะเป็นโสภณเจตสิกไงคะเมขาดสติแล้วสัญญาจำผิดไม่ตรงจริงจึงมีวิปลาส3ครบ ขณะเห็นและขาดการฟังสมาธิจึงสาธารณะไปตามเห็นผิดจำผิดไงคะตายแน่ๆขาดสุตมยปัญญญาบอกไม่ฟัง

เจ้าของ:	โลกสวย [ 01 มี.ค. 2019, 00:36 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: สติเจตสิก
Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: เอ่? พระพุทธองค์ ทรงตรัส "มิจฉาสติ " ในมรรค 8 ด้วย เทฺวธาวิตักกสูตร ที่ ๙ คำว่า ทางที่ไม่สะดวก นี้เป็นชื่อของทางผิด อันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ คือ มิจฉาทิฏฐิ ๑ มิจฉาสังกัปปะ ๑ มิจฉาวาจา ๑ มิจฉากัมมันตะ ๑ มิจฉาอาชีวะ ๑ มิจฉาวายามะ ๑ มิจฉาสติ ๑ มิจฉาสมาธิ ๑ เอ่? มารผู้ใจบาป คงไม่รู้ว่า มรรคแปลว่าอะไร ได้แต่พูดมรรคๆๆๆ ไม่รู้ว่า ว่า "มรรค" แปลว่า" ทาง " เอ่?ๆๆ ไม่มีสติเรียกว่าขาดสติ เขาไม่เรียกมิจฉาสติ555 ขาดสติคือไม่ระลึกตามคำสอน เพราะขาดการฟังคำสอน ทำให้คิดตามที่ตาเห็น ตาเห็นน่ะดับแสนล้านขณะ=เห็นผิดๆๆๆๆๆๆ...อินฟินิตี้ เรียนอภิธรรมมาเนี่ย ลองไปดูแผนผังเจตสิกดูนะ ว่าทำไมสมาธิแบ่งเป็นสัมมากับมิจฉา ส่วนสติเจตสิกเป็นโสภณเจตสิกเกิดกับสัมมาเท่านั้นไม่เกิดกับมิจฉาอยู่แล้ว เอ่? แนะนำ คุณยายโรสนะค๊ะว่า ไปเสนอแก้ไขพระไตรปิฎก พระวจนะ และพระสูตรนะค๊ะ ว่า ที่พระพุทธองค์กล่าวมาว่า "มิจฉาสติ" นั้นผิด ต้องกล่าวแบบ ยายโรส จึงถูกต้อง น๊าค๊า คุณยายโรสเอาไปขึ้นกระทู้ใหม่เรยดีมั๊ยค๊ะ ว่าพระพุทธองค์กล่าวผิดๆๆๆ ต้องเสนอแก้ พระไตรปิฎก ให้เป็นตามคำ คุณยายโรส เนี่ย เอาพระอภิธรรมแท้ๆ มาให้ชมแล้วว่า สติมีสี่แบบชวนะอะไรบ้าง เอาพระวจนะมาให่ชมแล้ว เอาพระสูตร มาสะกดต่อ มาร ก็ยังกระด้างกระเดื่องอีกแน๊ะ หาว่าพระธรรมผิด ต้องเรียกแบบมาร แบบมาร ว่า"ขาดสติ " เท่านั้น เอ่ๆ สมาธิเจตสิกอยู่คนละกลุ่มกับสติเจตสิก อาวอีกแระ มิจฉาสมาธิ อยู่ ใน มิจฉามรรค เดียวกันกะ มิจฉาสติ พระพุทธองคืทรงแสดงให้ชม ในพระสูตร พระวจนะแระหล่ะค่ะ ส่วนสัมมาสมาธิ ก็อยู่ใน สัมมามรรค เดียวกันกะ สัมมาสติ พูดแต่สมาธิๆๆ เจตสิก ๆๆ สติๆๆๆ แต่ไม่รู้ว่า มรรคคืออะไร มีอะไรบ้าง สติ แล่นไปในชวนะอะไรบ้าง นี่แหละ เพราะคุณยายไม่เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนพระปริยัติ เม ไม่แนะนำแระ ดื้อนัก ไม่เรียนก็อย่าเรียน ไปไหนก็ไปเถอะ ค่ะ ฟังบ้างนะคะ ตาไม่ได้บอด ดีดนิ้วดูสิดับ แสนโกฏิขณะ มีแล้วอวิชชา ที่ไม่มีคือปัญญา กิเลสเกิดตอนเห็น ปัญญาเกิดจากฟังสียง ดูกะฟังทำอะไรมากกว่ากัน555 ฉันไม่ได้ท่องอภิธรรมได้เหมือนเธอ แต่ฉันแยกประเภทสมาธิได้ว่าตอนฟังเข้าใจที่เกิดกุศล ตอนไม่ฟังก็ฝันไปเท๊อะว่าปัญญาจะเกิดเองได้เพราะเห็นผิดไงคะ555 https://youtu.be/0Hlwa8PrpzY เอ่? ฉันไม่ใช่พวกขาเลาะ ที่หลงเพลินกะกามคุณ แบบเธอนี่นา ผัสสายตนะทั้ง 6 เรยไม่เพลินกะไปดูยู๊ทู๊ปแบบเธอ น๊อ

เจ้าของ:	Rosarin [ 01 มี.ค. 2019, 01:16 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: สติเจตสิก
โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: เอ่? พระพุทธองค์ ทรงตรัส "มิจฉาสติ " ในมรรค 8 ด้วย เทฺวธาวิตักกสูตร ที่ ๙ คำว่า ทางที่ไม่สะดวก นี้เป็นชื่อของทางผิด อันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ คือ มิจฉาทิฏฐิ ๑ มิจฉาสังกัปปะ ๑ มิจฉาวาจา ๑ มิจฉากัมมันตะ ๑ มิจฉาอาชีวะ ๑ มิจฉาวายามะ ๑ มิจฉาสติ ๑ มิจฉาสมาธิ ๑ เอ่? มารผู้ใจบาป คงไม่รู้ว่า มรรคแปลว่าอะไร ได้แต่พูดมรรคๆๆๆ ไม่รู้ว่า ว่า "มรรค" แปลว่า" ทาง " เอ่?ๆๆ ไม่มีสติเรียกว่าขาดสติ เขาไม่เรียกมิจฉาสติ555 ขาดสติคือไม่ระลึกตามคำสอน เพราะขาดการฟังคำสอน ทำให้คิดตามที่ตาเห็น ตาเห็นน่ะดับแสนล้านขณะ=เห็นผิดๆๆๆๆๆๆ...อินฟินิตี้ เรียนอภิธรรมมาเนี่ย ลองไปดูแผนผังเจตสิกดูนะ ว่าทำไมสมาธิแบ่งเป็นสัมมากับมิจฉา ส่วนสติเจตสิกเป็นโสภณเจตสิกเกิดกับสัมมาเท่านั้นไม่เกิดกับมิจฉาอยู่แล้ว เอ่? แนะนำ คุณยายโรสนะค๊ะว่า ไปเสนอแก้ไขพระไตรปิฎก พระวจนะ และพระสูตรนะค๊ะ ว่า ที่พระพุทธองค์กล่าวมาว่า "มิจฉาสติ" นั้นผิด ต้องกล่าวแบบ ยายโรส จึงถูกต้อง น๊าค๊า คุณยายโรสเอาไปขึ้นกระทู้ใหม่เรยดีมั๊ยค๊ะ ว่าพระพุทธองค์กล่าวผิดๆๆๆ ต้องเสนอแก้ พระไตรปิฎก ให้เป็นตามคำ คุณยายโรส เนี่ย เอาพระอภิธรรมแท้ๆ มาให้ชมแล้วว่า สติมีสี่แบบชวนะอะไรบ้าง เอาพระวจนะมาให่ชมแล้ว เอาพระสูตร มาสะกดต่อ มาร ก็ยังกระด้างกระเดื่องอีกแน๊ะ หาว่าพระธรรมผิด ต้องเรียกแบบมาร แบบมาร ว่า"ขาดสติ " เท่านั้น เอ่ๆ สมาธิเจตสิกอยู่คนละกลุ่มกับสติเจตสิก อาวอีกแระ มิจฉาสมาธิ อยู่ ใน มิจฉามรรค เดียวกันกะ มิจฉาสติ พระพุทธองคืทรงแสดงให้ชม ในพระสูตร พระวจนะแระหล่ะค่ะ ส่วนสัมมาสมาธิ ก็อยู่ใน สัมมามรรค เดียวกันกะ สัมมาสติ พูดแต่สมาธิๆๆ เจตสิก ๆๆ สติๆๆๆ แต่ไม่รู้ว่า มรรคคืออะไร มีอะไรบ้าง สติ แล่นไปในชวนะอะไรบ้าง นี่แหละ เพราะคุณยายไม่เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนพระปริยัติ เม ไม่แนะนำแระ ดื้อนัก ไม่เรียนก็อย่าเรียน ไปไหนก็ไปเถอะ ค่ะ ฟังบ้างนะคะ ตาไม่ได้บอด ดีดนิ้วดูสิดับ แสนโกฏิขณะ มีแล้วอวิชชา ที่ไม่มีคือปัญญา กิเลสเกิดตอนเห็น ปัญญาเกิดจากฟังสียง ดูกะฟังทำอะไรมากกว่ากัน555 ฉันไม่ได้ท่องอภิธรรมได้เหมือนเธอ แต่ฉันแยกประเภทสมาธิได้ว่าตอนฟังเข้าใจที่เกิดกุศล ตอนไม่ฟังก็ฝันไปเท๊อะว่าปัญญาจะเกิดเองได้เพราะเห็นผิดไงคะ555 https://youtu.be/0Hlwa8PrpzY เอ่? ฉันไม่ใช่พวกขาเลาะ ที่หลงเพลินกะกามคุณ แบบเธอนี่นา ผัสสายตนะทั้ง 6 เรยไม่เพลินกะไปดูยู๊ทู๊ปแบบเธอ น๊อ จิตเกิดดับนับแสนโกฏิขณะจนปรากฏมีตัวเธอมีคนมีของหลากสีคือเห็นนิมิต จะคิดเห็นถูกตามคำสอนได้ตอนฟังแล้วไตร่ตรองตามว่ากำลังมีกิเลสอยู่ กำลังเห็นผิดและไม่รู้ว่าจิตเกิดดับไปแล้วแสนล้านดวงเดี๋ยวนี้ทำไรอยู่ คำสอนของพระพุทธเจ้าฟังแล้วคิดถูกตามได้เท่านั้นเพราะดับแล้ว ทำอะไรไม่ได้กับตัวจริงธัมมะที่กำลังเกิดดับดับไปๆตลอดเวลา ที่เกิดมานี้เพราะขาดปัญญารู้ตัวได้ทันทีที่เข้าใจถูกตามได้ เห็นคนสัตว์วัตถุคือเห็นผิดบอกว่าจิตเห็นสีล้วน1สีในลูกตา และยิ่งกว่านั้นตถาคคแสดงว่าดับไปแล้วแสนล้านขณะ ทำไม่ไม่เริ่มฟังให้คิดถูกตรงสัจจะที่กำลังปรากฏ เพราะจิตไม่เกิดนอกปสาทรูปมันดับในตาหูจมูกลิ้นกายใจ คนละทางสลับกันทีละ1แต่ละ1ไม่ซ้ำขณะเดิมเลยทำสุตมยปัญญาตรงจริงเข้าใจไหมคะ https://youtu.be/TEXeYi4JlDQ

เจ้าของ:	โลกสวย [ 01 มี.ค. 2019, 01:38 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: สติเจตสิก
Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: เอ่? พระพุทธองค์ ทรงตรัส "มิจฉาสติ " ในมรรค 8 ด้วย เทฺวธาวิตักกสูตร ที่ ๙ คำว่า ทางที่ไม่สะดวก นี้เป็นชื่อของทางผิด อันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ คือ มิจฉาทิฏฐิ ๑ มิจฉาสังกัปปะ ๑ มิจฉาวาจา ๑ มิจฉากัมมันตะ ๑ มิจฉาอาชีวะ ๑ มิจฉาวายามะ ๑ มิจฉาสติ ๑ มิจฉาสมาธิ ๑ เอ่? มารผู้ใจบาป คงไม่รู้ว่า มรรคแปลว่าอะไร ได้แต่พูดมรรคๆๆๆ ไม่รู้ว่า ว่า "มรรค" แปลว่า" ทาง " เอ่?ๆๆ ไม่มีสติเรียกว่าขาดสติ เขาไม่เรียกมิจฉาสติ555 ขาดสติคือไม่ระลึกตามคำสอน เพราะขาดการฟังคำสอน ทำให้คิดตามที่ตาเห็น ตาเห็นน่ะดับแสนล้านขณะ=เห็นผิดๆๆๆๆๆๆ...อินฟินิตี้ เรียนอภิธรรมมาเนี่ย ลองไปดูแผนผังเจตสิกดูนะ ว่าทำไมสมาธิแบ่งเป็นสัมมากับมิจฉา ส่วนสติเจตสิกเป็นโสภณเจตสิกเกิดกับสัมมาเท่านั้นไม่เกิดกับมิจฉาอยู่แล้ว เอ่? แนะนำ คุณยายโรสนะค๊ะว่า ไปเสนอแก้ไขพระไตรปิฎก พระวจนะ และพระสูตรนะค๊ะ ว่า ที่พระพุทธองค์กล่าวมาว่า "มิจฉาสติ" นั้นผิด ต้องกล่าวแบบ ยายโรส จึงถูกต้อง น๊าค๊า คุณยายโรสเอาไปขึ้นกระทู้ใหม่เรยดีมั๊ยค๊ะ ว่าพระพุทธองค์กล่าวผิดๆๆๆ ต้องเสนอแก้ พระไตรปิฎก ให้เป็นตามคำ คุณยายโรส เนี่ย เอาพระอภิธรรมแท้ๆ มาให้ชมแล้วว่า สติมีสี่แบบชวนะอะไรบ้าง เอาพระวจนะมาให่ชมแล้ว เอาพระสูตร มาสะกดต่อ มาร ก็ยังกระด้างกระเดื่องอีกแน๊ะ หาว่าพระธรรมผิด ต้องเรียกแบบมาร แบบมาร ว่า"ขาดสติ " เท่านั้น เอ่ๆ สมาธิเจตสิกอยู่คนละกลุ่มกับสติเจตสิก อาวอีกแระ มิจฉาสมาธิ อยู่ ใน มิจฉามรรค เดียวกันกะ มิจฉาสติ พระพุทธองคืทรงแสดงให้ชม ในพระสูตร พระวจนะแระหล่ะค่ะ ส่วนสัมมาสมาธิ ก็อยู่ใน สัมมามรรค เดียวกันกะ สัมมาสติ พูดแต่สมาธิๆๆ เจตสิก ๆๆ สติๆๆๆ แต่ไม่รู้ว่า มรรคคืออะไร มีอะไรบ้าง สติ แล่นไปในชวนะอะไรบ้าง นี่แหละ เพราะคุณยายไม่เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนพระปริยัติ เม ไม่แนะนำแระ ดื้อนัก ไม่เรียนก็อย่าเรียน ไปไหนก็ไปเถอะ ค่ะ ฟังบ้างนะคะ ตาไม่ได้บอด ดีดนิ้วดูสิดับ แสนโกฏิขณะ มีแล้วอวิชชา ที่ไม่มีคือปัญญา กิเลสเกิดตอนเห็น ปัญญาเกิดจากฟังสียง ดูกะฟังทำอะไรมากกว่ากัน555 ฉันไม่ได้ท่องอภิธรรมได้เหมือนเธอ แต่ฉันแยกประเภทสมาธิได้ว่าตอนฟังเข้าใจที่เกิดกุศล ตอนไม่ฟังก็ฝันไปเท๊อะว่าปัญญาจะเกิดเองได้เพราะเห็นผิดไงคะ555 https://youtu.be/0Hlwa8PrpzY เอ่? ฉันไม่ใช่พวกขาเลาะ ที่หลงเพลินกะกามคุณ แบบเธอนี่นา ผัสสายตนะทั้ง 6 เรยไม่เพลินกะไปดูยู๊ทู๊ปแบบเธอ น๊อ จิตเกิดดับนับแสนโกฏิขณะจนปรากฏมีตัวเธอมีคนมีของหลากสีคือเห็นนิมิต จะคิดเห็นถูกตามคำสอนได้ตอนฟังแล้วไตร่ตรองตามว่ากำลังมีกิเลสอยู่ กำลังเห็นผิดและไม่รู้ว่าจิตเกิดดับไปแล้วแสนล้านดวงเดี๋ยวนี้ทำไรอยู่ คำสอนของพระพุทธเจ้าฟังแล้วคิดถูกตามได้เท่านั้นเพราะดับแล้ว ทำอะไรไม่ได้กับตัวจริงธัมมะที่กำลังเกิดดับดับไปๆตลอดเวลา ที่เกิดมานี้เพราะขาดปัญญารู้ตัวได้ทันทีที่เข้าใจถูกตามได้ เห็นคนสัตว์วัตถุคือเห็นผิดบอกว่าจิตเห็นสีล้วน1สีในลูกตา และยิ่งกว่านั้นตถาคคแสดงว่าดับไปแล้วแสนล้านขณะ ทำไม่ไม่เริ่มฟังให้คิดถูกตรงสัจจะที่กำลังปรากฏ เพราะจิตไม่เกิดนอกปสาทรูปมันดับในตาหูจมูกลิ้นกายใจ คนละทางสลับกันทีละ1แต่ละ1ไม่ซ้ำขณะเดิมเลยทำสุตมยปัญญาตรงจริงเข้าใจไหมคะ https://youtu.be/TEXeYi4JlDQ เอาอีกแล้ว นะคะคุณยายโรส ตอนนี้ยังอยากฟังไร ฟังไปเหอะ แต่ขอร้องน๊ะค๊ะ ก่อนตายอย่าลืมฟังนี่น๊ะคะ จะได้หลับตาสบาย จักขุ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา รูป ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา โสตะ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา สัททะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ฆานะ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา คันธะ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ชิวหา ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา รส ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา กาย ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา โผฏฐัพพะ ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา มโน ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ธรรม ไม่เที่ยง เป็นทุกข์เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา สุตตันตภาชนีย์ เอ่? ชาตินี้จะเข้าใจมั๊ยคะ

เจ้าของ:	Rosarin [ 01 มี.ค. 2019, 01:53 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: สติเจตสิก
ตาไม่บอดไม่เห็นเหรอสัจจะคืออะไร จิตเห็น1ขณะมีแค่สีล้วน1สี อ่านตัวอักษรคือเห็นผิด เห็นเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด มีอัตตานุทิฏฐิและ เห็นว่ามีตัวตน คือสักกายะทิฏฐิ เป็นกิเลสไม่เก็ตเหรอ555 ไม่มีปัญญาคิดตรงปัจจุบันขณะเลยเหรอ

เจ้าของ:	Rosarin [ 01 มี.ค. 2019, 01:58 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: สติเจตสิก
Rosarin เขียน: :b32: ตาไม่บอดไม่เห็นเหรอสัจจะคืออะไร จิตเห็น1ขณะมีแค่สีล้วน1สี อ่านตัวอักษรคือเห็นผิด เห็นเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด มีอัตตานุทิฏฐิและ เห็นว่ามีตัวตน คือสักกายะทิฏฐิ เป็นกิเลสไม่เก็ตเหรอ555 ไม่มีปัญญาคิดตรงปัจจุบันขณะเลยเหรอ กิเลสดับไปแสนโกฏิขณะแล้วที่ขาดฟังอยู่ กำลังฟังอยู่ไหมล่ะไม่ฟังกิเลสไหลไปทีละแสนล้านดวงแล้วโง่ไหมมมขาดสุตมยปัญญาอยู่ต้องกำลังทำNOW

เจ้าของ:	โลกสวย [ 01 มี.ค. 2019, 01:59 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: สติเจตสิก
Rosarin เขียน: :b32: ตาไม่บอดไม่เห็นเหรอสัจจะคืออะไร จิตเห็น1ขณะมีแค่สีล้วน1สี อ่านตัวอักษรคือเห็นผิด เห็นเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด มีอัตตานุทิฏฐิและ เห็นว่ามีตัวตน คือสักกายะทิฏฐิ เป็นกิเลสไม่เก็ตเหรอ555 ไม่มีปัญญาคิดตรงปัจจุบันขณะเลยเหรอ จักขุ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา รูป ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา โสตะ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา สัททะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ฆานะ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา คันธะ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ชิวหา ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา รส ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา กาย ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา โผฏฐัพพะ ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา มโน ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ธรรม ไม่เที่ยง เป็นทุกข์เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา สุตตันตภาชนีย์ เอ่? ชาตินี้จะเข้าใจมั๊ยคะ นี่แหละปัจจุบันธรรม น๊อ

หน้า 2 จากทั้งหมด 6	เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/

เจ้าของ:	Rosarin [ 01 มี.ค. 2019, 02:03 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: สติเจตสิก
โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: :b32: ตาไม่บอดไม่เห็นเหรอสัจจะคืออะไร จิตเห็น1ขณะมีแค่สีล้วน1สี อ่านตัวอักษรคือเห็นผิด เห็นเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด มีอัตตานุทิฏฐิและ เห็นว่ามีตัวตน คือสักกายะทิฏฐิ เป็นกิเลสไม่เก็ตเหรอ555 ไม่มีปัญญาคิดตรงปัจจุบันขณะเลยเหรอ จักขุ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา รูป ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา โสตะ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา สัททะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ฆานะ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา คันธะ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ชิวหา ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา รส ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา กาย ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา โผฏฐัพพะ ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา มโน ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ธรรม ไม่เที่ยง เป็นทุกข์เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา สุตตันตภาชนีย์ เอ่? ชาตินี้จะเข้าใจมั๊ยคะ นี่แหละปัจจุบันธรรม น๊อ ตาบอดสีเหรอ เนี่ยอ่านอยู่เนี่ย เกิน1สีคือคิดเห็นผิด สะสมอกุศลเจตสิกแล้วตลอดเลย ที่ระลึกตรงสี1สีไม่ได้โง่ไหมเธอคิดให้ตรงที่ตากิเลสตัวเองเห็น ใครบ้างดับเห็นผิดได้หมดพระอรหันต์เท่านั้นเธอตาบอดสีเหรอ555