ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
บวร = บ้าน วัด โรงเรียน http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57207 |
หน้า 3 จากทั้งหมด 23 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 11 มี.ค. 2019, 19:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บวร = บ้าน วัด โรงเรียน |
พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช "ตั้งใจจะอุปถัมภก ยอยกพระพุทธศาสนา ป้องกันขอบขัณฑสีมา รักษาประชาชนและมนตรี" พระราชนิพนธ์นิราศท่าดินแดง พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระอนุชาธิราช กรมพระราชวังบวร ฯ เมื่อทรงสดับพระสงฆ์ราชาคณะถวายพระพรโดยพิสดารดังนั้น จึงดำรัสว่า "ครั้งนี้ ขออาราธนาพระผู้เป็นเจ้าทั้งปวงจงมีอุตสาหะในฝ่ายพระพุทธจักร ให้พระไตรปิฎกบริบูรณ์ขึ้นให้จงได้ ฝ่ายข้างอาณาจักรที่จะเป็นศาสนูปถัมภกนั้น เป็นพนักงานของโยม โยมจะสู้เสียสละชีวิตบูชาพระรัตนตรัย สุดแต่จะให้พระปริยัติบริบูรณ์เป็นมูลที่จะตั้งพระพุทธศาสนาจงได้" พระราชาคณะทั้งปวงรับสาธุการแล้วถวายพระพร... พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชการที่ ๑ : กรมศิลปากร ๒๕๒๖ "ทุกวันนี้ ตั้งพระทัยแต่ที่จะทำนุบำรุงบวรพระพุทธศาสนา ไพร่ฟ้าประชากรให้อยู่เย็นเป็นสุข ให้ตั้งอยู่ในคติธรรมทั้ง ๔ ดำรงจิตจัตุรัสบำเพ็ญ ศีล ทาน จะได้สุคติภูมิมนุษยสมบัติ สวรรคสมบัติ นิพพานสมบัติ เป็นประโยชน์แก่ตน..." กฎหมายตราสามดวง : กรมศิลปากร ๒๕๒๑ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 12 มี.ค. 2019, 05:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บวร = บ้าน วัด โรงเรียน |
พระราชศรัทธาของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย "ศุภมัสดุ ๑๑๗๙ ศก ... พระบาทสมเด็จบรมธรรมิกมหาราชารามาธิราช บรมนารถบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว ... ทรงพระราชศรัทธาจะยกรื้อวิสาขบูชามหายัญพิธีอันขาดประเพณีมานั้นให้กลับคืนเจียรฐิติกาล ปรากฏสำหรับแผ่นดินสืบไป จะให้เป็นอัตตัตถประโยชน์ ทรงพระราชศรัทธาจะให้สัตว์โลก ข้าขอบขัณฑเสมาทั้งปวงจำเริญอายุ และอยู่เย็นเป็นสุขปราศจากทุกข์ภัยในชั่วนี้แลชั่วหน้า ..." แนวพระราชดำริเก้ารัชกาล : กระทรวงศึกษาธิการจัดพิมพ์ ๒๕๒๘ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 13 มี.ค. 2019, 07:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บวร = บ้าน วัด โรงเรียน |
น้ำพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว "ด้วยกำลังทรงพระมหากรุณาเมตตากับไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินเป็นอันมาก ทรงพระกรุณาดำรัสให้จดหมายกระแสพระราชโองการปฏิญาณยกพระนามพระรัตนสรณาคมน์อันอุดมเป็นประธานพยานอันยิ่ง ให้เห็นความจริงในพระบรมหฤทัยแล้ว ทรงพระราชดำรัสยอมอนุญาตให้เจ้าพระยาพระคลังว่าที่สมุหพระกลาโหม พระยาศรีพัฒน์รัตนราชโกษา พระยาราชสุภาวดี กับ ขุนนางผู้น้อยทั้งปวง จงมีความสโมสรสามัคคีรสปรึกษาพร้อมกัน เมื่อเห็นว่าพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์ใดที่มีวัยวุฒิปรีชารอบรู้ราชานุวัตร จะเป็นศาสนูปถัมภกยกพระบวรพุทธศาสนา และจะปกป้องไพร่ฟ้าอาณาประชาราษฎร์ รักษาแผ่นดินให้เป็นสุขสวัสดิ์โดยยิ่ง เป็นที่ยินดีแก่มหาชนทั้งปวงได้ ก็สุดแท้แต่จะเห็นดี ประนีประนอมพร้อมใจกันยกพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์นั้นขึ้นเสวยมหไสวรรยาธิปัตย์ราชสืบสันตติวงศ์ดำรงราชประเพณีต่อไปเถิด อย่าได้กริ่งเกรงพระราชอัธยาศัยเลย เอาแต่ให้ได้เป็นสุขทั่วหน้า อย่าให้เกิดการรบฆ่าฟันกัน ให้ได้ความทุกข์ร้อนแก่ราษฎร ..." จดหมายเหตุรัชกาลที่ ๓ เลขที่ ๓๔ จ.ศ.๑๒๑๒ พระบรมราชโองการเรื่องทรงมอบราชสมบัติ ฯ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 14 มี.ค. 2019, 20:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บวร = บ้าน วัด โรงเรียน |
พระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อคราวทรงประกาศพระราชทานส่วนพระราชกุศลในการที่ทรงบริจาคเพชรใหญ่ประดับพระอุณาโลมพระพุทธรัตนปฏิมากร "การพระราชบริจาคอันนี้ ทรงพระราชดำริเห็นว่าไม่ขัดขวางเป็นเหตุให้ท่านผู้ใดขุ่นเคืองขัดใจเลย พระนครนี้เป็นถิ่นที่ของคนนับถือพระพุทธศาสนามาแต่เดิม ไม่ใช่แผ่นดินของศาสนาอื่น คนที่ถือศาสนาอื่นมาแต่อื่นก็ดี อยู่ในเมืองนี้ก็ดี จะโทมนัสน้อยใจด้วยริษยาแก่พระพุทธศาสนาเพราะบูชาอันนี้ไม่ได้ ด้วยไม่ใช่เมืองของศาสนาตัวเลย ถ้าโทมนัส ก็ชื่อว่าโลภล่วงเกินไป..." "ทรงพระราชดำริเห็นว่า จะฆ่าสัตว์มีชีวิต คือ สุกร เป็ด ไก่ นก ปลา และอื่นๆ ให้ตายเป็นอันมาก จะเห็นไปว่าเป็นเวลาเฉลิมพระชนมพรรษา สัตว์ที่มีชีวิต ซึ่งต้องตายเป็นอันมากดังนี้ เป็นเวลาทำบุญแล้ว จะมาทำบาปเล่าดูไม่ควร เพราะบ้านเมืองนับถือบรมพุทธศาสนา แลลัทธิถือว่าการฆ่าสัตว์เป็นบาป ขอให้ท่านทั้งปวงบรรดาที่เริ่มการทำบุญในครั้งคิดยักย้ายทำของเลี้ยงพระสงฆ์แต่ที่ควร..." ประชุมประกาศรัชกาลที่ ๔ เล่ม ๑ : องค์การค้าของคุรุสภา ๒๕๒๘ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 15 มี.ค. 2019, 17:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บวร = บ้าน วัด โรงเรียน |
พระราชปฏิญาณและพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช "ข้าพเจ้าขอปฏิญาณตนเฉพะหน้าพระสงฆ์เถรานุเถระทั้งหลาย อันประชุมกันอยู่ ณ ที่นี้ว่า การที่ข้าพเจ้าคิดจะไปยุโรป ณ ครั้งนี้ ด้วยข้าพเจ้ามุ่งต่อความดีแห่งพระราชอาณาจักร และด้วยความหวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ตัวข้าพเจ้าด้วย เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าตั้งใจจะรักษาตนให้สมควรแก่ที่เป็นเจ้าของประชาชนชาวสยามทั้งปวง จะรักษาเกียรติแห่งพระราชอาณาจักรอันเป็นเอกราชนครนี้ จนสุดกำลังที่ข้าพเจ้าจะป้องกันได้ และเพื่อจะให้เป็นเครื่องเตือนใจตัวข้าพเจ้า และเป็นเครื่องเย็นใจแห่งผู้ซึ่งมีความรักใคร่มุ่งหมายดีต่อข้าพเจ้า ปราศจากวิตกกังวลใจด้วยความประพฤติรักษาตัวข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงสมาทานข้อทั้งหลายที่จะกล่าว ต่อไปนี้ ๑) ข้าพเจ้าจะไม่มีจิตยินดีน้อมไปในศาสดาอื่น นอกจากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระธรรมอันพระองค์ได้ตรัสรู้ชอบดีแล้ว กับทั้งพระสงฆ์หมู่ใหญ่อันได้ประพฤติตามคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นเลยเป็นอันขาดจนตราบกว่าสิ้นชีวิต ๒) การที่ข้าพเจ้าไปครั้งนี้ แม้ว่าจะช้านานเท่าใดก็ดี ข้าพเจ้าจะไม่ร่วมประเวณีด้วยสตรีใดจนกลับเข้าถึงในพระราชอาณาเขต ๓) ถึงแม้ว่าจะไปในประเทศซึ่งเขาถือกันว่า การให้สุราเมรัย ไม่รับ เป็นการเสียกิริยาอันดี ฤๅเพื่อป้องกันโรคภัยอันเปลี่ยนอากาศ เป็นต้น ข้าพเจ้าจะไม่เสพสุราเมรัยให้มึนเมาเสียสติ ฤๅแม้แต่มีกายวิกาลเกินปรกติเป็นอันขาด คำปฏิญาณสมาทานประการนี้ ข้าพเจ้าได้ทำไว้เฉพาะหน้าพระสงฆ์เถรานุเถระอันได้มาประชุมในการพระราชพิธีศรีสัจจปานกาลแห่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดินต่างพระองค์และที่ปรึกษาของผู้สำเร็จราชการ ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณในบรมมหาราชวัง วันที่่ ๒๑ มีนาคม รัตนโกสินทรศก ๑๑๕ พระพุทธศาสนายุกาล ๒๔๓๙ พรรษา เป็นวันที่ ๑๐๓๕๘ ในรัชการปัจจุบัน" การเสด็จประพาสยุโรปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.ศ.๑๑๖ เล่ม ๑ : กรมศิลปากรจัดพิมพ์ ๒๕๒๓ "ข้าพเจ้าย่อมรู้สึกว่า เป็นหน้าที่ของข้าพเจ้าที่จะต้องทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นสิ่งคู่กับพระราชอาณาจักรให้ดำเนินไปในทางวัฒนาถาวรพร้อมกันทั้งสองฝ่าย" พระราชดำรัสต่อคณะสงฆ์ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อพุทธศักราช ๒๔๔๐ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 16 มี.ค. 2019, 05:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บวร = บ้าน วัด โรงเรียน |
"ประชาชนในสยามราชอาณาจักรนี้ ย่อมเป็นผู้นับถือพระพุทธศาสนาโดยมาก พุทธศาสนิกชนในพระราชอาณาจักร ย่อมได้สดับตรับฟังพระสัทธรรม ซึ่งสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าบัญญัติสอนไว้ เป็นวิถีทางสัมมาปฏิบัติจากพระภิกษุสงฆ์ ซึ่งมีอยู่ในสังฆารามทั่วราชอาณาจักร แลได้ฝากบุตรหลานเป็นศิษย์เพื่อให้ร่ำเรียนพระบรมพุทโธวาท และวิชาซึ่งจะให้เกิดประโยชน์ กล่าวคือ วิชาหนังสือ เป็นต้น ในสำนักพระภิกษุสงฆ์ เป็นประเพณีสืบมาแต่โบราณกาลจนบัดนี้ นับว่า พระภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย ได้กระทำประโยชน์ แก่พุทธจักร แลพระราชอาณาจักร ทั้งสองฝ่ายเป็นอันมาก" เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชปรารภ ถึงการที่จะทำนุบำรุงประชาชนทั้งหลาย ให้ตั้งอยู่ในสัมมาปฏิบัติ แลให้เอื้อเฟื้อในการที่จะศึกษาวิชาอันเป็นประโยชน์ เพื่อจะให้ถึงความเจริญยิ่งขึ้นโดยลำดับ จึงทรงพระราชดำริเห็นว่า ไม่มีทางอย่างอื่น จะประเสริฐยิ่งกว่าจะเกื้อกูลพระภิกษุสงฆ์ทั้งหลายโดยพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์ ให้มีกำลังสั่งสอนธรรมปฏิบัติ แลวิชาความรู้แก่พุทธศาสนิกชน บริบูรณ์ยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน ... กฎหมายรัชกาลที่ ๕ ร.ศ. ๑๑๗ เรื่อง ประกาศจัดการเล่าเรียนหัวเมือง |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 16 มี.ค. 2019, 05:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บวร = บ้าน วัด โรงเรียน |
"การสอนศาสนาในโรงเรียน ทั้งในกรุง แลหัวเมืองจะต้องให้มีขึ้น ให้มีความวิตกไปว่าเด็กชั้นหลัง จะห่างเหินจากการศาสนา จนเลยเป็นคนไม่มีธรรมในใจมากขึ้น เมื่อเป็นเช่นนั้น จะถือว่าเหมือนอย่างทุกวันนี้ คนที่ไม่รู้อะไรก็มีมาก ต่อไปภายหน้า ถ้าเป็นคนที่ได้เล่าเรียนคงจะประพฤติตัวดีกว่าคนที่ไม่ได้เล่าเรียนนั้นหาถูกไม่ คนที่ไม่มีธรรมเป็นเครื่องดำเนินตาม คงจะหันไปทางทุจริตโดยมาก ถ้ารู้น้อย ก็โกงไม่ค่อยคล่อง ฤๅโกงไม่สนิท ถ้ารู้มากก็โกงคล่องมากขึ้น และโกงพิสดารมากขึ้น การที่หัดให้รู้อ่านอักขรวิธี ไม่เป็นเครื่องฝึกหัดให้คนดี และคนชั่ว เป็นแต่ได้วิธีสำหรับจะเรียนความดี ความชั่วได้คล่องขึ้น จึงเห็นว่า ถ้ามีหนังสือสำหรับโรงเรียนที่บังคับให้โรงเรียนต้องสอนกัน แต่ให้เป็นอย่างใหม่ๆ ที่คนจะเข้าใจง่ายๆ ... จะเป็นคุณประโยชน์มาก" แนวพระราชดำริเก้ารัชกาล : กระทรวงศึกษาธิการจัดพิมพ์ ๒๕๒๘ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 17 มี.ค. 2019, 20:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บวร = บ้าน วัด โรงเรียน |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 17 มี.ค. 2019, 20:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บวร = บ้าน วัด โรงเรียน |
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว "พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาสำหรับชาติเรา เราจำเป็นต้องถือด้วยความกตัญญูต่อบิดา มารดา และต้นโคตรวงศ์ของเรา เราจึงจำเป็นต้องถือไม่มีปัญหาอะไร ... เมื่อข้าพเจ้ารู้สึกได้แน่นอน จึงได้กล้าลุกขึ้นยืนแสดงเทศนาทางพระพุทธศาสนาแก่ท่านทั้งหลาย โดยหวังแน่ว่าบรรดาท่านทั้งปวงซึ่งเป็นคนไทย เมื่อรู้สึกแน่แล้วว่า ศาสนาในสมัยนี้เป็นของที่แยกจากชาติไม่ได้ ... พระพุทธศาสนาเป็นของไทย เรามาชวนกันนับถือพระพุทธศาสนาเถิด ... ผู้ที่แปลงศาสนา คนเขาดูถูกเสียยิ่งกว่าผู้แปลงชาติ เพราะเขาย่อมเห็นว่า สิ่งที่นับถือเลื่อมใสกันมาตลอดครั้งปู่ย่าตายาย ตั้งแต่เด็กมาแล้ว เป็นของสำคัญอันหนึ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า คนนั้น มีความสัตย์ มีความมั่นคงในใจหรือไม เมื่อมาแปลงชาติศาสนาได้แล้วเป็นแลเห็นได้ทันทีว่า เป็นคนไม่มั่นคง อย่าว่าแต่อะไรเลย ศาสนาที่ใครทั้งโลกเขานับถือว่าเป็นของสำคัญที่สุด เขายังแปลงได้ตามความพอใจ หรือ เพื่อสะดวกแก่ตัวของเขา ... เหตุนี้ ผู้แปลงศาสนาถึงแม้จะไม่เป็นผู้พึงเกลียดชังแห่งคนทั่วไป ก็ย่อมเป็นผู้ที่เขาสามารถจะเชื่อได้น้อย เพราะเหตุฉะนั้น เป็นความจำเป็นที่เราทั้งหลายผู้เป็นไทยจะต้องมั่นคงอยู่ในศาสนาพระพุทธ ซึ่งเป็นศาสนาสำหรับชาติเรา ต้องเข้าใจพระพุทธศาสนา ในเวลานี้ ไม่มีแห่งใดในโลกที่จะถือจริงรู้จริงเท่าในเมืองไทยเรา เมืองไทยเราเปรียบเหมือนป้อมอันใหญ่ ซึ่งเป็นแนวที่สุดของพระพุทธศาสนาแนวที่ ๑ แนวที่ ๒ ร่อยหรอเต็มทีแล้ว ยังแต่แนวที่ ๓ และแนวที่สุด คือ เมืองไทย ... เราทั้งหลายเป็นผู้รักษาแนวนี้ ถ้าเราไม่ตั้งใจรักษาจริงๆ แล้ว ถ้ามีอันตรายอย่างใดมาถึงพระพุทธศาสนา เราทั้งหลายจะเป็นผู้ที่ได้รับความอับอายด้วยกันเป็นอันมาก ... เหตุฉะนี้ เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องตั้งใจที่จะรักษาความมั่นคงของพระพุทธศาสนาในประเทศไทย อย่าให้มีอันตรายมาถึงได้ ... ผู้ที่คนอื่นเขาส่งมาปลอมแปลงเพื่อทำลายพระพุทธศาสนา เราทั้งหลายต้องคอยระวังรู้เท่าไว้ ... จึงเป็นหน้าที่ของเราทั้งหลายที่เป็นเชื้อชาตินักรบต้องรักษาพระศาสนาอันนี้ให้คงอยู่ในเมืองไทยอีกต่อไป ต้องรักษาไว้เพื่อให้เป็นมรดกแก่ลูกหลานของเราทั้งหลาย ให้เขารักษากันต่อไปยั่งยืน เป็นเกียรติยศแก่ชาติของเราชั่วกัลปาวสาน เวลานี้ ทั้งโลกเขาพูดเขานิยมว่า ชาติไทยเป็นชาติที่ถือพระพุทธศาสนา ที่พระพุทธศาสนายั่งยืนอยู่ได้ เพราะมีเมืองไทยเป็นเหมือนป้อมใหญ่ในแนวรบ เราเคราะห์ดีที่สุดที่นานมาแล้ว เราได้ตกไปอยู่ในพระพุทธศาสนา จึงได้เป็นมนุษย์ชั้นสูงที่สุดที่มนุษย์จะเป็นได้ในทางธรรม เหตุฉะนี้ ขอท่านทั้งหลายที่นั่งฟังอยู่ ผู้ที่ตะเกียกตะกายอยากเป็นฝรั่ง อย่าทำเหมือนฝรั่งในทางธรรมเลย ถ้าจะเอาอย่างฝรั่ง จงเอาอย่างในทางที่ฝรั่งเขาที่ดี คือ ในทางวิชาการบางอย่าง ซึ่งเขาทำดี เราควรเอาอย่าง แต่การรักษาศีลรักษาธรรม เรามีตัวอย่างดีกว่าฝรั่งเป็นอันมาก ถือพระพุทธเจ้าเป็นตัวอย่างของเราแล้ว เรามีตัวอย่างหาที่เปรียบเสมอเหมือนมิได้ พระพุทธศาสนา ก็ดี หรือ ศาสนาใดก็ดี ที่ตั้งมั่นอยู่ได้ ก็ด้วยความมั่นคงของผู้เลื่อมใสตั้งใจที่จะรักษา และข้าพเจ้าพูดทั้งนี้ ก็เพื่อชักชวนท่านทั้งหลายอย่างเป็นเพื่อนไทย และเพื่อนพุทธศาสนิกชนด้วยกันทั้งนั้น เพื่อความมั่นคงแห่งพระพุทธศาสนา ข้าพเจ้ารู้สึกว่าได้ทำหน้าที่สมควรแก่อุปถัมภ์พระพุทธศาสนา เราตั้งใจจะรักษาศาสนาของเราด้วยชีวิต ข้าพเจ้าและท่านตั้งใจอยู่ในข้อนี้ และถ้าท่านตั้งใจจะช่วยข้าพเจ้าในกิจอันใหญ่นี้แล้ว ก็จะเป็นที่พอใจของข้าพเจ้าเป็นอันมาก เมืองเรา เกือบเป็นเมืองเดียวแล้วในโลกได้มีบุคคลถือพระพุทธศาสนามาก และเป็นเหล่าเดียวกัน เพราะฉะนั้น เป็นหน้าที่ของเราทั้งหลายที่จะช่วยกันบำรุงรักษาพระพุทธศาสนา อย่าให้เสื่อมสูญไป การที่จะบำรุงพระพุทธศาสนาเราต้องรู้สึกก่อนว่า หลักของพระพุทธศาสนา คือ อะไร เราทั้งหลายที่ยังไม่แน่ ตั้งแต่วันนี้จะได้พร้อมกันตั้งใจว่าในส่วนตัวเราเอง จะริษยากันก็ตาม จะเป็นอย่างไรก็ตาม จะทำการเช่นนี้ต่อเมื่อเวลาว่างไม่มีภัย เมื่อมีเหตุสำคัญจำเป็นที่เราจะต้องต่อสู้ชาติอื่น แม้การส่วนตัวของเราอย่างไร จะทำให้เสียประโยชน์แก่ชาติเราแล้ว สิ่งนั้นเราจะทิ้งเสีย เราจะรวมกันไป ไม่ว่าในเวลานี้ชอบกันหรือชังกัน เราจะถือว่าเราเป็นไทยด้วยกันหมด เราจะต้องรักษาความเป็นไทยของเราให้ยั่งยืน เราจะต้องรักษาพระพุทธศาสนาให้ถาวรวัฒนาการอย่างที่เป็นมาแล้วหลายชั่วโคตรของเราทั้งหลาย" พระบรมราโชวาทเรื่องเทศนาเสือป่า |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 18 มี.ค. 2019, 17:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บวร = บ้าน วัด โรงเรียน |
นอกจากนี้ พระองค์ยังได้ทรงพระราชนิพนธ์คำร้อยกรองประเภทกาพย์บทหนึ่งพระราชทานความหมายของสีทั้งสามแห่งธงไตรรงค์ ไว้ดังนี้ "ขอร่ำรำพรรณบรรยาย ความคิดเครื่องหมาย แห่งสีทั้งสามงามถนัด ขาว คือ บริสุทธิ์ศรีสวัสดิ์ หมายพระไตรรัตน์ และธรรมะคุ้มจิตไทย แดง คือ โลหิตเราไซร้ ซึ่งยอมสละได้ เพื่อรักษาชาติศาสนา น้ำเงิน คือ สีโสภา อันจอมประชา ธ โปรดเป็นของส่วนองค์ จัดริ้วเข้าเป็นไตรรงค์ จึ่งเป็นสีธง ที่รักแห่งเราชาวไทย ทหารอวตารนำไป ยงยุทธ์วิชัย วิชิตก็ชูเกียรติสยาม ฯ ดุสิตสมิต ฉบับพิเศษ ๒๔๖๑ หน้าา ๔๒ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 20 มี.ค. 2019, 09:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บวร = บ้าน วัด โรงเรียน |
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว "แต่บ้านเมืองในลานนาถึงกาลวิบัติ พระพุทธศาสนาก็เศร้าหมองจนสังฆมณฑลเสื่อมทรามระส่ำระสายมาช้านาน ... มาจนถึงรัชกาลสมเด็จพระปิยมหาราชพระบรมชนกนาถของเรา จึงได้เริ่มทรงจัดการฟื้นพระพุทธศาสนาในมณฑลนี้มา โดยทรงพระราชดำริจะให้พุทธจักรและอาณาจักรเจริญรุ่งเรืองสมกับสมัย เป็นต้นว่า ในการสั่งสอนประชาชนทั้งหลาย ให้รัฐบาลเอาเป็นธุระสั่งสอนส่วนคดีโลก ให้พระสงฆ์รับภาระสั่งสอนส่วนคดีธรรม เป็นอุปการะแก่กัน ดังนี้ สมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชของเราก็ได้โปรดให้จัดการสืบมาโดยทางนั้น" พระราชดำรัสและพระบรมราโชวาทในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบมณฑลฝ่ายเหนือ และมณฑลพายัพ พุทธศักราช ๒๔๖๗ : พิมพ์พระราชทานในงานบำเพ็ญพระราชกุศลสตมวารพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ พ.ศ. ๒๕๒๗ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 20 มี.ค. 2019, 09:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บวร = บ้าน วัด โรงเรียน |
"ตามธรรมดา เด็กๆ จะเรียนหนังสือเท่านั้นไม่พอ ถ้าเรียนแต่หนังสืออย่างเดียว ก็จะตรงกับที่โบราณว่าไว้ว่า วิชาท่วมหัว เอาตัวไม่รอด เราต้องเรียนอย่างอื่นด้วย ต้องฝึกกาย วาจา ใจ พระพุทธองค์ได้รับสั่งไว้เป็นพุทธภาษิตว่า ทนฺโต เสฏฺโฐ มนุสฺเสสุ คือ แปลว่า ในหมู่มนุษย์ทั้งหลาย ผู้ฝึกตนแล้วประเสริฐที่สุด แนวพระราชดำริเก้ารัชกาล : กระทรวงศึกษาธิการจัดพิมพ์ ๒๕๒๘ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 20 มี.ค. 2019, 09:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บวร = บ้าน วัด โรงเรียน |
"ศาสนาจะเป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงหัวใจ ให้ทนความลำบากได้ ให้มีแรงที่จะทำการงานของตนให้เป็นผลสำเร็จได้ และยังเป็นยาที่จะสมานหัวใจให้หายเจ็บปวดในยามทุกข์ได้ด้วย ... พวกเราทุกๆคน ควรพยายามให้เด็กๆ ลูกหลานของเรามี ยา สำคัญ คือ คำสั่งสอนของพระบรมศาสนาสัมมาสัมพุทธเจ้าติดตัวไว้เป็นกำลัง เพราะ ยา อย่างนี้ เป็นทั้ง ยาบำรุงกำลัง และ ยาสมาน หรือ ระงับความเจ็บปวด ... " พระราชนิพนธ์คำนำในทิศ ๖ หนังสือสอนพระพุทธศาสนาแก่เด็ก พ.ศ.๒๔๗๔ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 30 มี.ค. 2019, 18:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บวร = บ้าน วัด โรงเรียน |
พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน (ร.๙) เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓ ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในพระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ตรัสพระปฐมบรมราชโองการ ซึ่งเป็นพระราชปณิธานแก่ปวงชนชาวไทยในพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก ว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" เมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๙๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระราชดำรัสลาผนวชต่อพระบรมวงศานุวงศ์และคณะบุคคลต่างๆ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ความว่า "โดยที่พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติของเรา ทั้งตามความศรัทธาเชื่อมั่นของข้าพเจ้าก็เห็นเป็นศาสนาที่ดีศาสนาหนึ่ง เนื่องในบรรดาสัจธรรมคำสั่งสอนอันชอบด้วยเหตุผล จึงเคยคิดอยู่ว่า ถ้าโอกาสอำนวย ข้าพเจ้าควรจักได้บวชสักเวลาหนึ่งตามราชประเพณี ซึ่งจักเป็นทางสนองพระคุณบุรพการีตามคตินิยมด้วย..." |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 09 เม.ย. 2019, 10:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บวร = บ้าน วัด โรงเรียน |
เณรสอบ ป.ธ.9 ได้รับเลือกเป็น "นาคหลวง" ทั้งนี้ สำหรับสามเณรที่สอบได้ ป.ธ.9 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม รับเป็นนาคหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งถือเป็นนาคหลวงกลุ่มแรกในรัชกาลที่ 10 และจะมีพิธีอุปสมบท ในวันวิสาขบูชาที่จะถึงนี้ ณ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร |
หน้า 3 จากทั้งหมด 23 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |