สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทำหนังสือแจ้งผู้ว่าฯ - เจ้าคณะจังหวัด ตั้งโรงทาน วิธีฌาปนกิจศพจากโควิด-19

เมื่อวันที่ 26 มี.ค. นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้มีหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ และเจ้าคณะจังหวัดทั่วประเทศ ดังนี้

1. หนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เรื่อง ประทานพระดำริให้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ระบุว่า ด้วยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาให้วัดทั่วราชอาณาจักรซึ่งมีศักยภาพเพียงพอ จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค ทั้งนี้มิใช่เป็นการบังคับ แต่เป็นการกำหนดแนวทางประสานความร่วมมือโดยคำนึงถึงความพร้อมของแต่ละวัด ประกอบการสนับสนุนจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม และให้ประสานภารกิจร่วมกับหน่วยงาน บุคลากรทางการแพทย์ และการสาธารณสุข ให้เป็นไปตามหลักสุขอนามัย โดยไม่ต้องจัดพิธีการ หรือการบริหารจัดการใดๆ ที่ต้องให้บุคคลจำนวนมากมารวมกัน กับทั้งให้ปฏิบัติตามคำสั่ง มาตรการ และคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด พศ.จึงขอความร่วมมือ พิจารณาดำเนินการ ดังนี้

1.มอบหมายสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ประสานกับวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบที่มีศักยภาพเพื่อจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับประชาชนที่อยู่ในเขตบริการของวัด

2.มอบหมาย พศจ. ประสานหน่วยงานและบุคลากรทางการแพทย์และการสาธารณสุขซึ่งประจำอยู่ในพื้นที่ ประสานการดำเนินการกับวัดที่เป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยให้ปฏิบัติตามคำสั่งมาตรการและคำแนะนำของทางราชการ อย่างเคร่งครัด

3.ให้รายงานผลการดำเนินการให้พศ.ทราบในทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ตลอดการดำนินการจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

2.หนังสือถึงเจ้าคณะจังหวัดทั่วประเทศ เรื่อง ประทานพระดำริให้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระบุว่า เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามพระดำริของสมเด็จพระสังฆราช จึงขอความเมตตาพิจารณาดำเนินการ ดังนี้

1.สนับสนุนวัดที่มีศักยภาพเพียงพอที่อยู่ในเขตปกครองจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค

2.กำชับให้วัดที่จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือฯ ให้ปฏิบัติตามคำสั่ง มาตรการ และคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด

3.หนังสือถึงเจ้าคณะจังหวัดทั่วประเทศ เรื่อง การดำเนินการต่อกรณีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบุว่า หากมีประชาชนนำศพของผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ไปบำเพ็ญกุศล และฌาปนกิจ ณ วัดใดวัดหนึ่งที่อยู่ในเขตปกครองของท่าน พศ.ขอความเมตตานุเคราะห์ได้โปรดดำเนินการแจ้งหน่วยงานบุคลากรทางการแพทย์ และการสาธารณสุข ให้เข้ามาช่วยดำเนินการตามหลัก และมาตรการรักษาความปลอดภัยในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเมื่อฌาปนกิจเสร็จแล้ว ให้วัดนั้นๆ ทำความสะอาดฌาปนสถานทุกครั้ง

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

ไม่รู้ครั้งพุทธกาลมีแบบนี้หรือเปล่าเพราะตำราที่เขียนกันว่าเคยเกิดโรคระบาดแล้วเวลาบิณฑบาตจะป้องกันด้วยวิธีใด

แต่ก็อย่างว่า เห็นแล้วนึกถึงคุณโรส





https://thestandard.co/thai-monks-weari ... -covid-19/

"....ได้ยินว่า พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติแล้วในโลก, พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นทรงแสดงธรรมเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ปวงสัตว์ ทรงมีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก พอพระองค์ย่างพระบาทลงเท่านั้น ภัยทุกอย่าง ก็จะระงับไป..."

ถ้ายังงั้นพระสงฆ์องค์เณรทำไง ใช้หน้ากากไหม หรือเดินสู้โรคที่ระบาด

พระสารีบุตรเมื่อจวนจะอนุปาทิเสสนิพพานก็อาพาธจึงทูลลาพระพุทธเจ้าไปอนุปาทิเสสนิพพานที่บ้านเกิด เพื่อเทศน์โปรดมารดาตกกลางคืนก็อาเจียรแล้วมรณภาพลง

พระพุทธเจ้าก็เช่นกันเมื่อปลงพระชนมายุสังขารแล้วก็อาพาธออดแอดๆ (ท่านเปรียบเหมือนกับเกวียนเก่าที่ใช้งานมานาน) แต่ก็ต้องทนเดินทางไปปรินิพพานอีกเมืองหนึ่งซึ่งไกลออกไป เดินไปพักไป ทำไมเป็นงั้น

คริคริ

พระพุทธเจ้า ทรงเคารพพระธรรม พระเณรก็ปฎิบัติตามพระธรรมวินัย ทำที่โลกไม่ติฉินไงคะ

จนท.ต้องชี้แจงกับ จอว. วัด ตจว.ซึ่งกลัวโรค พอมีข่าวอย่างนี้วัดในพระพุทธศาสนาก็ตกเป็นเหยื่อของคนซึ่งคอยจ้องแซะทำลายอยู่

พอมีข่าวออกสื่อก็ปลดป้ายลงแล้ว




https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

นำตย.นี้ไปเทียบกับข้อห้าม ก.สธ. คคห.บน

วันที่ 31 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขยุครัฐบาลไทยรักไทย ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์เฟสชิลด์ในการป้องกันท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ว่า

เฟสชิลด์ถ้วนหน้า :
หน้ากากอนามัยเพียงป้องกันการ ”แพร่” เชื้อ
Face Shield ป้องกันการ ”แพร่” และ ”รับ” เชื้อ




https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_291684

คงไม่มีใครคิดว่าชีวิตนี้จะเห็นพุทธศาสนิกชนใส่บาตรแบบนี้กัน แต่มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ



โควิดก็กลัว กลัวพระอดก็กลัว เมื่อพระอดก็อยู่ไม่ได้วัดก็ร้าง เมื่อสองกลัวมาประสานกันก็คิดหาวิธีใส่บาตรให้ห่าง 1 เมตร สาธุ

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =1&theater

สื่อรัสเซียลงภาพภิกษุภูเก็ตนำอาหารจากบิณฑบาต แบ่งให้นักท่องเที่ยวรัสเซียที่ติดค้างบนเกาะ

เฟซบุ๊กของสำนักข่าว RIA Novosti สื่อท้องถิ่นรัสเซีย ได้เผยแพร่ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่าพระภิกษุหนึ่งรูปของวัดบนเกาะทางใต้ของไทย นำอาหารและขนมหวานที่ได้จากการบิณฑบาตมาแบ่งปันให้แก่นักท่องเที่ยวรัสเซียที่ติดค้างอยู่บนเกาะ

อย่างไรก็ดี รายงานจากสื่อรัสเซียไม่ได้ลงรายละเอียดว่าวัดตามภาพคือวัดใด และมีนักท่องเที่ยวรัสเซียติดค้างบนเกาะจำนวนเท่าใด แต่ทั้งนี้มีรายงานจากภูเก็ต ว่าพบนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย 3 รายติดค้างอยู่บนเกาะ เป็นหญิง 1 คน อายุ 24 ปี ชาย 2 คน อายุ 31 และ 29 ปี ทั้งสามถูกยกเลิกเที่ยวบินเมื่อวันที่ 28 มีนาคม จากมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 บนเกาะจึงไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้

นักท่องเที่ยวทั้งสามราย ไม่มีเงินเช่าห้องพักของโรงแรมจึงตัดสินใจนอนกางเต็นท์ใกล้เมรุเผาศพบริเวณวัดใกล้หาดไม้ขาว กระทั่งมีภิกษุสามเณรจากวัดใกล้เคียงนำอาหารมาช่วยเหลือ ขณะที่ท้องถิ่นมีการประสานไปยังสถานทูตรัสเซียให้เข้ามาช่วยเหลือแล้ว

ตามเฟซบุ๊กของสำนักข่าวรัสเซีย เขียนระบุว่าเป็นเกาะสมุย




https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

พระพุทธเจ้าคือเจ้าของศาสนา
ศาสนาแปลว่าคำสอน/ไม่ใช่สถานที่
พระพุทธศาสนาคือคำสอนของพระพุทธเจ้า
การเจริญคำสอนเจริญที่จิตใจไม่ใช่สถานที่เพราะสถานที่ไม่มีจิตใจ
คำสอนคือศาสนาเจริญขึ้นได้ที่จิตใจคนที่มีการคิดตามเข้าใจตาม/ถามว่าสร้างวัตถุใช่การเจริญคำสอน?
เพราะคำสอนมีความจริงให้เข้าใจตามได้ตรงที่ร่างกายใจตนเองที่กำลังมี...สร้างวัตถเข้าใจคำสอนไหมล่ะนั่น
พระพุทธเจ้าให้บวชเพื่อมาทำจิตใจตามคำสอนหรือให้บวชมาขอเงินชาวบ้านสร้างวัตถุนอกกายใจมีที่อยู่ฟรี
แต่ไม่สามารถเจริญคำสอนเพื่อนำมาถ่ายทอดให้ใจคนอื่นรับรู้ขอ5ขอ10สร้างวัตถุที่ไม่ใช่การเจริญคำสอน
บอกยังไงก็ไม่เข้าใจเพราะไม่รู้ว่าบวชคืออะไร/บวชคือการไม่ทำแบบชาวบ้านไม่ทำงานไม่ใช้เงินเรี่ยไรผิดม๊ะ

ย้ำอีกทีว่า พุทธศาสนาในเมืองไทยไปไม่รอด

คิกๆๆ

คุณโรสว่าไง

พระพุทธเจ้าเห็นว่าพุทธบริษัท ทั้ง ๔ มั่นคงแล้ว จึงตัดสินพระทัยปรินิพพาน และก่อนจะปรินิพพานก็ได้ฝากพระศาสนาไว้แก่บริษัท ๔ ให้ช่วยกันสืบต่อ ดังนั้น การสืบต่อพระพุทธศาสนาจรรโลงพระศาสนาจึงเป็นหน้าของพุทธบริษัททุกหมู่เหล่าซึ่งต้องอิงอาศัยกัน



https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

มิใช่วัดนี้วัดเดียวมีหลายวัดที่ทำอย่างนี้