วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 15:03  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2020, 07:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านอาจารย์มั่น ท่านว่า " ใจ มีภาษาเดียวเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นชาติใดภาษาใด มีเพียงความรู้คือใจนี้.
ฉะนั้น ท่านจึงว่าเป็นภาษาเดียว พอนึกออกมาก็เข้าใจ.
แต่เวลาแยกออกมาพูด ต้องเป็นภาษานั้นภาษานี้ ไม่ค่อยเข้าใจกัน.
ความรู้สึกภายในจิตใจนั้นเหมือนๆ กัน ธรรมกับใจจึงเข้ากันสนิท.
เพราะธรรมก็ไม่ได้เป็นภาษาของอะไร ธรรมก็คือภาษาของใจ.
ธรรมอยู่กับใจ "

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า ด้วยเกล้า สาธุ.











หลับมงคล

"..เวลาจะหลับนอนให้พุทโธๆ ติดหัวใจจนกระทั่งหลับ หลับไปด้วยความสงบร่มเย็น หลับเป็นมงคลอันนี้ ไม่ใช่หลับแบบสัตว์ทั้งหลายนอนหลับ มนุษย์นอนหลับให้มีศาสนาติดตัวไปในขณะที่หลับ เช่นพุทโธ ธัมโม หรือสังโฆก็ได้ ให้พากันตั้งอกตั้งใจปฏิบัติ.."

โอวาทธรรม หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน










เมื่ออารมณ์เราเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา เราจึงต้องฝึกเพื่อให้ความสงบเกิดขึ้นกับเรา อะไร ๆ ก็ได้มาแล้ว แต่ใจที่สงบยังไม่ได้ เพราะเรายังไม่ทันอารมณ์ตัวเอง การที่เราไม่รู้เท่าทันใจตัวเองนี่ ทำให้ไม่สงบ ...จึงจำเป็นที่เราจะต้องฝึกให้มีสมาธิในใจบ่อย ๆ การที่เราฝึกใจให้รู้จักความสงบนั่นแหละมันเป็นกำไรชีวิต...เราจะมีคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อยู่ในใจเราก็ต้องมีความสงบ พอเราไม่สงบแล้วจะนึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ก็นึกไม่ออก เพราะจิตเราไปอยู่กับโลกภายนอกหมด

หลวงพ่อสนอง กตฺปุญโญ










ให้ดูอาการ 32. จะทำให้. สมาธิของเรา. มีกำลัง. และสติก็มีกำลังด้วย.

หลวงปู่ดุลย์ อตุโล







#หลวงพ่อฉลวย #อาภาธโร

#ทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเอง
เราจะต้องได้รับผลจากกรรมที่เราได้ทำขึ้นมานั้น ไม่มีใครช่วยใครได้

การต่อเคราะห์สืบชะตานั้น พระหรือคนที่ทำให้ยังต้องตาย แล้วเขาจะช่วยคนอื่นได้อย่างไร ถ้าเขาทำได้ เขาทำให้ตัวเองหรือญาติตัวเองก่อนไม่ดีหรือ ตัวเองและญาติก็ยังต้องตาย ญาติก็ยังลำบากอยู่เลย แล้วจะไปช่วยคนอื่นได้อย่างไร

เพราะเราไม่เข้าใจ เราไม่มีปัญญาไตร่ตรอง เราจึงหลงไป จึงถูกเขาหลอก ให้เสียเงินเสียทองเสียเวลา จึงได้ทำไปโดยไม่ได้เกิดประโยชน์แต่อย่างไร

บุญเท่านั้นที่จะช่วยได้ ให้หัดทำบุญ รักษาศีล เจริญภาวนาเป็นทางเดียวเท่านั้นที่จะช่วยได้

ทำอย่างไรให้ผลอย่างนั้น เพราะถ้าเราทำกรรมอันไดไว้ ผลของกรรมจะเกิดกับเราแน่นอน เช่น ถ้าเราไปหลอกลวงคนอื่น สุดท้ายเราก็จะโดนหลอกแน่นอน ท่านจึงไม่ให้ทำชั่ว ให้ทำแต่ความดีเท่านั้น

โอวาทธรรม
หลวงพ่อฉลวย









ไม่มีอะไร. มาทำให้เรา. นอกจาก. กรรมของเรา. เท่านั้นแหละ. ถ้าเราทำกรรมดี. มันก็ดีทุกวัน.

ลป. ชา สุภัทโท










#ปฏิบัติมาเคยจิตสงบบ่

ละเวลามันสงบ มันเห็นว่าจิตใจกับร่างกายมันแยกกัน หรือว่ามันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน นั่นล่ะเพิ่นให้พิจารณา

#ถ้าจิตมันสงบรู้จักแล้ว

แยกธาตุสี่ออกจากจิต แยกขันธ์ห้า รูป เวทนา สัญญา สังขาร ออกจากจิต พิจารณาบ่อยๆ หรือเวลาจิตมันไหลออกไปปรุงไปแต่ง ให้กำหนดรู้

#ขุดสติให้มันเด่นขึ้นมา

จนกว่าว่าจิตใจมันเห็นชัดเจน ว่าร่างกายกับจิตใจมันขาดตอนกันจริงๆ มันจั่งสิพ้นจากทุกข์

ถ้าเมื่อเวลามันเห็นชัดเจน ว่าร่างกายมันแก่ จิตใจกะบ่ได้แก่นำ เวลามันเจ็บมันปวด จิตใจกะบ่ได้เจ็บได้ปวดนำ เวลาร่างกายมันแตก จิตใจกะบ่ได้แตกนำ

ถ้าเมื่อเห็นอย่างนี้แล้ว มันสิป่วย สิเจ็บ สิเป็น มันก็เรื่องของร่างกายต่างหาก ถ้าร่างกายมันสิแตกมันกะเรื่องของร่างกาย มันบ่แมนเรื่องของจิต

#ถ้าเห็นอย่างงั้นจิตใจมันก็จะสบาย

ธรรมดาธรรมชาติของจิต มันบ่มีรูป บ่มีร่าง มันเป็นนามธรรม บ่มีตนบ่มีตัว ดวงรู้ ตัวผู้รู้ แต่เพิ่นให้มาฝึก มาปฏิบัติให้มันรู้ ให้มันเต็ม เดี๋ยวนี้มันยังบ่ทันเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

#ภาวนาปฏิบัติไปเรื่อยๆ

ให้มันสงบไปเรื่อยๆ พิจารณาร่างกายให้มันแยก พุ้นล่ะไปถึงขั้นอนาคามีผลพุ้นล่ะจิตกับกายมันสิแยกกัน ขาดกัน อุปมาเหมือนขวดน้ำ ขวดเปรียบเหมือนร่างกาย จิตใจเปรียบเหมือนน้ำ อยู่นำกันมา กะบ่เข้ากัน

เดี๋ยวนี้เฮาบ่รู้ พอปานเทน้ำลงใส่ดิน มันกะไหลเข้ากันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน คือจั่งต้นกล้วย น้ำกับเนื้อกล้วยอยู่นำกันมันถอนบ่ออก

#การที่ถอนบ่ออกมันเกี่ยวกับอุปาทาน

มันยึดมั่นถือมั่นมาหลายชาติหลายภพ คนเฮาที่เกิดมาในโลกนี้ ถ้าย้อนไปมันหลายชาติหลายภพเป็นหมื่น เป็นแสน เป็นล้าน

มาเกิด แก่ เจ็บ ตาย เกิดมาแต่ละครั้งละคราว ก็มาเอาสมบัติอันเก่านิล่ะ มาเอาดิน เอาน้ำ เอาไฟ เอาลม เป็นตน

ธาตุทั้งสี่ที่เรามองเห็นด้วยตา มีแต่ธาตุน้ำกับธาตุดิน ส่วนธาตุไฟความฮ้อนกะบ่มีตนมีตัว ธาตุลมกะบ่มีตนมีตัว จิตใจกะบ่มีตนมีตัว เป็นนามธรรมหมด เวทนาความเจ็บปวดรวดร้าวกะบ่มีตนมีตัว สุขกะบ่มีตนมีตัว ทุกข์กะบ่มีตนมีตัว

#พากันหลงหยัง

หลงตน เกิดมาแต่ละครั้งละคราว มาเอาสมบัติอันเก่านิล่ะ เกิดเป็นหมัดกะมาเอาสมบัติอันเก่าธาตุทั้งสี่ เกิดเป็นช้างกะมาเอาธาตุทั้งสี่เท่ากัน บุคคลทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ทั้งคนดีคนชั่วมีสมบัติเท่ากัน แต่ว่าสูงต่ำ ดีกว่ากัน คือจิตใจที่ฝึกมา ปฏิบัติกันมาเท่านั้น นอกนั้นเหมือนกันหมด.

โอวาทธรรมหลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม
วัดป่าสีห์พนม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร










”ชีวิตมนุษย์นั้นมีขึ้นมีลง วันนี้สูงส่ง พรุ่งนี้อาจตกต่ำ
ไม่มีสิ่งใดแน่นอน หรือยั่งยืนได้เลย หมั่นทำความดี
หรือสร้างบุญกุศลไว้ให้มากๆ เถิด แม้ยามที่ชีวิตตกต่ำ
ก็จะมีบุญกุศลหนุนนำ ช่วยให้พ้นจากความมืดมิด
ได้อย่างแน่นอน บุคคลที่เป็นคนดีนั้น ย่อมเป็นที่รัก
ไปทั้งสามโลก”

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ









#พระโมคคัลลาน์พบนางฟ้าใหม่ (อานิสงส์สังฆทาน)

พอเวลากลางคืนบรรดาท่านพุทธศาสนิกชน
คืนนั้นพระโมคคัลลาน์กำลังนั่งเจริญกรรมฐานอยู่
ก็ปรากฏว่ามีนางฟ้าคนหนึ่ง พระโมคคัลลาน์นี่ตามปกติท่านไปเที่ยวสวรรค์เที่ยวนรก แต่วันนั้นท่านไม่ทันจะไป
พอกำลังนั่งเจริญสมาธิ พอจิตเริ่มสงบ ประเดี๋ยวเดียวนะญาติโยม หายใจเข้าไม่ทันหายใจออกอรหันต์ก็สงบแล้ว
ก็ปรากฏว่ามีนางฟ้าคนหนึ่ง มีแสงสว่างมากเต็มจักรวาล เครื่องประดับประดาก็สวยมาก ร่างกายก็สวย มีวิมาน มีสระโบกขรณีลอยมาด้วย
เข้ามาถึงแล้วพระโมคคัลลาน์ก็ถามว่า

"....ภคินิ ดูก่อนน้องหญิง เธอมาจากไหน...."

เธอก็ตอบว่า "....ฉันมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์...."

ท่านถามว่า "....เธอทำบุญอะไรไว้จึงมีทิพย์สมบัติมากอย่างนี้...."

วิมานของเธอก็สวย เป็นวิมานทองคำ
สระโบกขรณีก็สวย เครื่องแต่งกายก็สวย
รูปร่างหน้าตาก็สวย แสงสว่างมาก นางฟ้าองค์นั้นก็กล่าวตอบกับสาวกขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคว่า
ท่านผู้เจริญ ฉันเคยเป็นแม่ของพระสารีบุตรเมื่อ ๑๐๐ ชาติที่ผ่านมา เวลานั้นฉันเป็นคนใจบาปอกุศล
ไม่ชอบทำบุญทำกุศล ไม่ชอบให้ทานรักษาศีล ชอบแต่ทำบาป ส่วนพระสารีบุตรชอบให้ทาน ชอบรักษาศีล ทำแต่บุญ อารมณ์คนทั้ง ๒ คนนี้ต่างกัน ฉันตายจากความเป็นมนุษย์ก็ไปเกิดเป็นสัตว์นรก เมื่อพ้นจากสัตว์นรกก็มาเป็นเปรต

เมื่อคืนที่แล้วมานี้พระสารีบุตรไปพบฉัน
และตอนเช้าได้ถวายสังฆทานข้าวสุกนิดหนึ่ง กับข้าวนิดหนึ่งใส่ใบไม้ เอาน้ำ ๑ ฝาบาตร แล้วก็ผ้าผืนหนึ่ง
กับข้าวนิดหนึ่งเป็นเหตุให้ฉันได้ร่างกายเป็นทิพย์
น้ำ ๑ ฝาบาตรเป็นเหตุให้ฉันได้สระโบกขรณี
แล้วก็ผ้ากว้างคืบยาวคืบเป็นเหตุให้ฉันได้เครื่องประดับประดาอันเป็นทิพย์
ท่านทั้ง ๔ สร้างศาลาเพิงหมาแหงนคนละหลัง ทำง่ายๆ
อุทิศส่วนกุศลให้ฉัน เป็นเหตุให้ฉันได้วิมาน
เมื่อพระโมคคัลลาน์ทราบดังนั้นแล้ว
ผลที่สุดก็คุยกันพอสมควรนางก็ลากลับ

นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัท
วันนี้ทุกท่านส่วนใหญ่ตั้งใจถวายสังฆทาน
อย่าลืมว่าของทุกอย่างที่ถวายทั้งหมดนี้เป็นสังฆทานกับวิหารทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องชุดสังฆทานน่ะเป็นสังฆทานแน่ แต่ว่าปัจจัยของบรรดาญาติโยมพุทธบริษัท เงินน่ะ คำว่าปัจจัยคือเงินเป็นผล ๒ อย่าง
คือเป็นผลของสังฆทานและวิหารทาน
เป็นอันว่าส่วนใดที่เป็นสังฆทานก็จะมีอานิสงส์เช่นเดียวกับมารดาของพระสารีบุตร
แต่ว่าของสังฆทานของบรรดาท่านพุทธบริษัทดีกว่าสมัยพระสารีบุตรท่านถวายมาก ก็เป็นอันว่าเรื่องบาปเรื่องบุญคุณโทษประโยชน์ไม่ใช่ประโยชน์ ส่วนใหญ่บรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายทราบแล้ว

ต่อมาก็ขอพูดถึงเรื่องอธิษฐานบารมี
คำว่า อธิษฐานบารมี คือ การตั้งใจปักใจไว้ว่า
การทำบุญคราวนี้เราต้องการผลอะไร หลายท่านต้องการผลไปนิพพาน อันนี้มันได้แน่ ทุกคนปรารถนาสวรรค์ก็ได้
พรหมโลกก็ได้ แต่บางท่านอาจจะยังไม่ปรารถนานิพพาน ไม่ปรารถนาสวรรค์ ไม่ปรารถนานรก
ต้องการความร่ำรวย ก็ได้เหมือนกัน

จากหนังสือ คำสอนหลวงพ่อ วัดท่าซุง
เล่มที่ ๔ หน้าที่ ๓๓
โดย...หลวงพ่อพระราชพรหมยาน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 21 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร