ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ) http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57195 |
หน้า 54 จากทั้งหมด 54 |
เจ้าของ: | Rosarin [ 14 ต.ค. 2020, 13:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ) |
โลกสวย เขียน: ”ภิกษุ ! ในกรณีนี้ ปุถุชนผู้ไม่มีการสดับ ไม่ได้เห็นพระอริยเจ้าไม่ฉลาดในธรรมของพระอริยเจ้า ไม่ได้รับการแนะนำในธรรมของพระอริยเจ้าไม่ได้เห็นสัตบุรุษ ไม่ฉลาดในธรรมของสัตบุรุษ ไม่ได้รับการแนะนำในธรรมของสัตบุรุษเขาย่อมตามเห็นรูปโดยความเป็นตนบ้าง ตามเห็นตนว่ามีรูปบ้างตามเห็นรูปว่ามีอยู่ในตนบ้าง หรือตามเห็นตนว่ามีอยู่ในรูปบ้าง ;ย่อมตามเห็นเวทนาโดยความเป็นตนบ้าง ตามเห็นตนว่ามีเวทนาบ้าง ตามเห็นเวทนาว่ามีอยู่ในตนบ้าง หรือตามเห็นตนว่ามีอยู่ในเวทนาบ้าง ;ย่อมตามเห็นสัญญาโดยความเป็นตนบ้าง ตามเห็นตนว่ามีสัญญาบ้าง ตามเห็นสัญญาว่ามีอยู่ในตนบ้างหรือตามเห็นตนว่ามีอยู่ในสัญญาบ้าง ;ย่อมตามเห็นสังขารโดยความเป็นตนบ้าง ตามเห็นตนว่ามีสังขารบ้าง ตามเห็นสังขารว่ามีอยู่ในตนบ้าง หรือตามเห็นตนว่ามีอยู่ในสังขารบ้าง ;ย่อมตามเห็นวิญญาณโดยความเป็นตนบ้าง ตามเห็นตนว่ามีวิญญาณบ้าง ตามเห็นวิญญาณว่ามีอยู่ในตนบ้าง หรือตามเห็นตนว่ามีอยู่ในวิญญาณบ้าง.ภิกษุ ! สักกายทิฏฐิ ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้ แล. - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๒๔/๑๘๘-๑๘๙. คิดสิแล้วตอนนี้มีชีวิตอยู่มั๊ย ตาบอดไหมเห็นมือตัวเองไหม แล้วมันคิดได้มั๊ยยยว่าเห็นผิด มีตัวรักตัวแสวงหาข้าวกินทำไม อร่อยไหมที่กินลงไปน่ะมีตัวกินไหม รึว่ามีตัวผลิตกิเลสใหม่ตลอดเวลาเลย อ้อแล้วก็ไม่เคยทำได้ที่ว่าไม่ให้มีตัวทำนั้นน่ะ โอ๊ยจะไปคิดได้เมื่อไหร่เป็นตัวไปทำตลอดเลยแล้วก็ ตามกิเลสคนอื่นไปทำอะไรไม่รู้ตัวเลยว่าหลงทำอะไรตามใครบ้าง555 แล้วก็ไม่เคยคิดได้เลยว่าตัวตนไม่มีแล้วก็เอาแต่กิเลสตัวเองหลงคิดว่าตัวเองดีแล้วมันไม่รู้สึกตัวเลยว่าไม่ดี ฟัง=พระพุทธเจ้าบอกให้รู้ว่าตรงไหนที่ยังมีตัวทำโดยคิดตามระลึกตามตรงที่กิเลสเกิดมีแล้วไม่ได้คือมีอวิชชา |
เจ้าของ: | Rosarin [ 14 ต.ค. 2020, 13:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ) |
Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: ”ภิกษุ ! ในกรณีนี้ ปุถุชนผู้ไม่มีการสดับ ไม่ได้เห็นพระอริยเจ้าไม่ฉลาดในธรรมของพระอริยเจ้า ไม่ได้รับการแนะนำในธรรมของพระอริยเจ้าไม่ได้เห็นสัตบุรุษ ไม่ฉลาดในธรรมของสัตบุรุษ ไม่ได้รับการแนะนำในธรรมของสัตบุรุษเขาย่อมตามเห็นรูปโดยความเป็นตนบ้าง ตามเห็นตนว่ามีรูปบ้างตามเห็นรูปว่ามีอยู่ในตนบ้าง หรือตามเห็นตนว่ามีอยู่ในรูปบ้าง ;ย่อมตามเห็นเวทนาโดยความเป็นตนบ้าง ตามเห็นตนว่ามีเวทนาบ้าง ตามเห็นเวทนาว่ามีอยู่ในตนบ้าง หรือตามเห็นตนว่ามีอยู่ในเวทนาบ้าง ;ย่อมตามเห็นสัญญาโดยความเป็นตนบ้าง ตามเห็นตนว่ามีสัญญาบ้าง ตามเห็นสัญญาว่ามีอยู่ในตนบ้างหรือตามเห็นตนว่ามีอยู่ในสัญญาบ้าง ;ย่อมตามเห็นสังขารโดยความเป็นตนบ้าง ตามเห็นตนว่ามีสังขารบ้าง ตามเห็นสังขารว่ามีอยู่ในตนบ้าง หรือตามเห็นตนว่ามีอยู่ในสังขารบ้าง ;ย่อมตามเห็นวิญญาณโดยความเป็นตนบ้าง ตามเห็นตนว่ามีวิญญาณบ้าง ตามเห็นวิญญาณว่ามีอยู่ในตนบ้าง หรือตามเห็นตนว่ามีอยู่ในวิญญาณบ้าง.ภิกษุ ! สักกายทิฏฐิ ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้ แล. - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๒๔/๑๘๘-๑๘๙. คิดสิแล้วตอนนี้มีชีวิตอยู่มั๊ย ตาบอดไหมเห็นมือตัวเองไหม แล้วมันคิดได้มั๊ยยยว่าเห็นผิด มีตัวรักตัวแสวงหาข้าวกินทำไม อร่อยไหมที่กินลงไปน่ะมีตัวกินไหม รึว่ามีตัวผลิตกิเลสใหม่ตลอดเวลาเลย อ้อแล้วก็ไม่เคยทำได้ที่ว่าไม่ให้มีตัวทำนั้นน่ะ โอ๊ยจะไปคิดได้เมื่อไหร่เป็นตัวไปทำตลอดเลยแล้วก็ ตามกิเลสคนอื่นไปทำอะไรไม่รู้ตัวเลยว่าหลงทำอะไรตามใครบ้าง555 แล้วก็ไม่เคยคิดได้เลยว่าตัวตนไม่มีแล้วก็เอาแต่กิเลสตัวเองหลงคิดว่าตัวเองดีแล้วมันไม่รู้สึกตัวเลยว่าไม่ดี ฟัง=พระพุทธเจ้าบอกให้รู้ว่าตรงไหนที่ยังมีตัวทำโดยคิดตามระลึกตามตรงที่กิเลสเกิดมีแล้วไม่ได้คือมีอวิชชา ตัวตนคนทำนิพพานไม่มี มีแต่ปัญญาฟังคำสอนเข้าใจ ที่มีตัวไปคิดเองน่ะเป็นตัวแล้วนี่ เอาตัวออกได้ตอนไหนมิทราบหรือคะ คนทำนิพพานนั้นผิดแน่นอนเพราะคิดทำเอง โดยมีตัวไปทำไม่พึ่งคำของพระพุทธเจ้าเลยแม้แต่1คำ รู้ตัวไหมว่าปัญญามีไม่พอเพราะนิพพานถึงได้เพราะสละโลกธรรม8ได้ ไม่มีพรรคพวกบริวารเลยเป็นหนึ่งเดียวที่ไม่มีตัวตนใครทำตามได้ เพราะสลัดทิ้งหมดทั้งคนสัตว์สิ่งของไม่ถือตัวว่ารู้กว่าคนอื่น และไม่มีตัวตนคนทำมีแต่ญาติธรรมทุกคนที่จะตามไป เพิ่มกิเลสให้คนที่บอกว่าบวชเพื่อสละทรัพย์ได้ แล้วก็มีญาติธรรมตามขนเงินไปให้เสวยสุข นับดูสิแต่ละตัวคนทำนั้นเคยรู้ตัวมั๊ยตัวไม่มี ทำอะไรกันอยู่ไม่ฟังเลยเหรอว่ามีกลุ่มคน ออกมาพูดแทนพระพุทธเจ้าว่าทำผิด https://youtu.be/_pCZOU-IObY |
เจ้าของ: | Rosarin [ 14 ต.ค. 2020, 14:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ) |
อ่านแล้วเป็นงัยมั่งล่ะตะลึงมั๊ยยยยย ตะลึง ตะลึง ตะลึง ตะลึง ตะลึง https://youtu.be/JLlfkDLklx0 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 29 ต.ค. 2020, 19:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ) |
ดักลาส แมกอาเธอร์ ผู้เปลี่ยนฐานะเทพเจ้าของจักรพรรดิให้เป็น "คนธรรมดา" . 27 กันยายน 1945 เป็นเวลาราวสามสัปดาห์หลังจากญี่ปุ่นลงนามยอมแพ้สงครามโดยไม่มีเงื่อนไขอย่างเป็นทางการ ญี่ปุ่นในขณะนี้ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรที่มี จอมพลดักลาส แมกอาเธอร์ เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด . ตลอดระยะเวลาดังกล่าวแมกอาเธอร์เลือกที่จะเก็บตัวไม่ยอมไปพบจักรพรรดิฮิโรฮิโตะประมุขของญี่ปุ่นที่มีสถานะเป็นดั่ง "เทพเจ้าเดินดิน" ตามจารีตประเพณีท้องถิ่น ด้วยเชื่อว่า สุดท้ายแล้วองค์จักรพรรดิที่เคยชินกับการรอให้คนอื่นมาเข้าเฝ้าคารวะจะสมัครใจเดินทางมาพบเข้าเอง ซึ่งก็เป็นไปตามที่นายพลจอมวางแผนคาดหมายไว้ . จักรพรรดิฮิโรฮิโตะทรงเดินทางไปพร้อมคณะติดตามโดยไม่มีรถนำขบวน ต้องปฏิบัติตามกฎจราจร หยุดรถทุกแยกที่ติดไฟแดงเยี่ยงสามัญชนโดยไม่มีข้อยกเว้น ก่อนจะมาถึงที่หมายคือสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงโตเกียว เมื่อเวลาราว 10 นาฬิกา . และในขณะที่จักรพรรดิฮิโรฮิโตะทรงแต่งกายสุภาพตามแบบตะวันตกด้วยเสื้อเชิ้ตคอปีกผูกเนคไทสวมสูททับ แต่ ดักลาส แมกอาเธอร์ เจ้าบ้านเดินทางออกมาต้อนรับเทพเจ้าของชาวญี่ปุ่นด้วยชุดกากียับ ๆ ไม่ผูกเนคไท ไม่ประดับเครื่องแบบด้วยเหรียญตราใด ๆ อันเป็นที่มาของภาพถ่ายประวัติศาสตร์ของทั้งคู่ ที่แมกอาเธอร์ยืนเท้าเอวอย่างผ่อนคลาย ส่วนจักรพรรดิฮิโรฮิโตะทรงยืนตัวตรงเชิดหน้าแต่ก็ดูไม่สมสง่าผ่าเผยเหมือนดังภาพที่ถูกคัดกรองมาเผยแพร่โดยทางการ เหมือนเมื่อครั้งที่ญี่ปุ่นยังดำรงอำนาจอธิปไตยเอาไว้ได้ . ภาพดังกล่าวถูกถ่ายโดยช่างภาพของกองทัพสหรัฐฯ แต่ทางการญี่ปุ่นเก็บงำการพบปะของสองผู้นำไว้สองวันก่อนที่จะออกรายงานสั้น ๆ โดยห้ามไม่ให้เผยแพร่ภาพถ่ายดังกล่าว ด้วยเห็นว่าการกระทำของผู้ยึดครองนั้นเป็นการหยามเกียรติขององค์จักรพรรดิ . อย่างไรก็ดี รัฐบาลญี่ปุ่นไม่ได้มีอำนาจเต็มเหมือนเช่นแต่ก่อน นักข่าวเมื่อทราบเรื่องก็เดินทางไปร้องเรียนกับฝ่ายสื่อของกองทัพสหรัฐฯ ทางกองทัพทราบเรื่องแล้วก็สั่งให้กระทรวงมหาดไทยของญี่ปุ่นที่คุมการเซ็นเซอร์สื่อยกเลิกคำสั่งการห้ามเผยแพร่ภาพดังกล่าว ก่อนสั่งยุบกระทรวงมหาดไทยในวันต่อมา . ภาพนี้จึงปรากฏต่อสาธารณะเป็นเวลาสามวันหลังเกิดเหตุซึ่งสร้างความตกตะลึงให้กับชาวญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก ที่เห็นฝรั่งผิวขาวแสดงท่าที่ไม่ให้เกียรติพระองค์ และบ้างก็ไม่คิดว่านี่คือภาพจริง . เจตนาในการเผยแพร่ภาพดังกล่าวของกองทัพสหรัฐฯ โดยการนำของแมกอาเธอร์ชัดเจนว่าเขาต้องการลบล้างธรรมเนียมเก่าจารีตเดิมของญี่ปุ่นที่เคารพนับถือจักรพรรดิเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แหล่งข่าวญี่ปุ่นยังกล่าวว่า ในการเจรจาคราวนั้นแมกอาเธอร์ไม่ยอมใช้คำยอพระเกียรติตามธรรมเนียมด้วยการกล่าวถึงพระองค์ด้วยคำว่า "Your Majesty" เลย (คำนี้อาจเทียบได้กับคำว่า "ฝ่าบาท" ตามธรรมเนียมไทย) แต่กลับสื่อสารผ่านล่ามว่า "บอกจักรพรรดิไปว่า..." (Daily News) . แต่ถึงแม้เขาจะต้องการทำลายจารีตประเพณีสืบเนื่องกับสถาบันจักรพรรดิ ในขณะเดียวกันเขาก็ยังต้องการรักษาสถาบันเอาไว้ท่ามกลางเสียงคัดค้านของทั้งจากชาติพันธมิตร และทั้งในสหรัฐฯ เองที่ต้องการนำผู้นำสูงสุดของญี่ปุ่นมาขึ้นศาลในฐานะจำเลยในคดีอาชญากรรมสงคราม . เช่น วิลเลียม แลงเกอร์ (William Langer) วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันจากนอร์ทดาโคตาที่บอกว่า จักรพรรดิฮิโรฮิโตะสมควรได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ แห่งเยอรมนี หรือ ทอม สจวร์ต (Tom Stewart) วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตจากเทนเนสซีที่บอกว่า จักรพรรดิฮิโรฮิโตะคืออาชญากรสงครามและเขาอยากเห็นพระองค์ถูกจับห้อยหัวผูกด้วยหัวแม่เท้า (AP) . อย่างไรก็ดี แมกอาเธอร์และคณะ "เชื่อ" ว่าจักรพรรดิเป็นเพียงหุ่นเชิดในระบอบทหารของญี่ปุ่น เป็นตรายางให้ผู้นำเผด็จการทหารอ้างความชอบธรรมในการก่อสงคราม (แต่ในข้อเท็จจริงรัฐธรรมนูญเมจิกำหนดให้จักรพรรดิเป็นผู้ถืออำนาจอธิปไตย และแม้ในทางปฏิบัติพระองค์จะใช้อำนาจตามคำแนะนำของคณะรัฐมนตรี แต่พระองค์ก็เคยใช้อำนาจโดยตรงเช่นการสั่งให้กำราบกลุ่มกบฎเมื่อปี 1936 - Britannica) . การพบปะกับจักรพรรดิในคราวนั้นยังสร้างความประทับใจให้กับแมกอาเธอร์เป็นอย่างมาก ในบันทึกส่วนตัวเขาเล่าว่า ในการเจรจาคราวนั้นองค์จักรพรรดิทรงเดินทางมาพบเขาเพื่อขอรับโทษทัณฑ์อันเกี่ยวเนื่องกับการตัดสินใจทั้งในทางการเมืองและการทหารที่กระทำโดยพสกนิกรของพระองค์ในช่วงสงครามแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเมื่อเขาได้ฟังแล้วก็ถึงกับ "สั่นไปถึงไขกระดูก" . "พระองค์คือจักรพรรดิโดยกำเนิด แต่ ณ ชั่วขณะนั้นผมรู้เลยว่า ผมได้พบกับสุภาพบุรุษตัวจริงคนแรกของญี่ปุ่นเข้าแล้ว" . นอกจากนี้ แมกอาเธอร์ยังเห็นว่าสถาบันจักรพรรดิมีความจำเป็นต่อการปกครองญี่ปุ่นโดยสันติ เนื่องจากพระองค์ยังคงเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนจำนวนมาก แม้ว่าพระองค์ในฐานะประมุขจะพาประเทศเข้าสู่หายนะก็ตาม (สถานการณ์ต่างจากในเยอรมนีที่สัมพันธมิตรเห็นตรงกันว่าจำเป็นต้องถอนรากถอนโคนนาซี) จึงให้คงสถาบันจักรพรรดิเอาไว้ แต่จำเป็นต้องปรับบทบาทให้จักรพรรดิเป็นผู้ค้ำจุนรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยและต้องไม่อยู่ในฐานะของ "เทพเจ้า" เช่นที่เคยถือมา . แมกอาเธอร์จึงเรียกร้องให้จักรพรรดิฮิโรฮิโตะออกประกาศต่อสาธารณชนถึงสถานะความเป็นคนเหมือนกันของจักรพรรดิและประชาชน ซึ่งจักรพรรดิฮิโรฮิโตะก็ทรงจัดให้ในวันปีใหม่ของปี 1946 โดยออกเป็นหนังสือที่รู้จักกันในชื่อ “ประกาศความเป็นมนุษย์” (Humanity Declaration) อันเป็นการปฏิเสธสถานะเทพเจ้าในร่างมนุษย์ของจักรพรรดิตามจารีตเดิมของญี่ปุ่นโดยใจความสำคัญของประกาศดังกล่าวคือ . "สายสัมพันธ์ระหว่างเรากับพสกนิกรอยู่บนพื้นฐานของความรักและความเชื่อใจ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ตำนานนิทานปรัมปรา มันมิได้ตั้งอยู่บนฐานความคิดอันผิดเพี้ยนว่าจักรพรรดิคือเทพเจ้าและชาวญี่ปุ่นเหนือกว่าชนชาติอื่นและมีชะตากรรมกำหนดให้เป็นผู้ปกครองโลก" . (นักวิจารณ์บางส่วนบางส่วนมองว่า ประกาศนี้มิได้ปฏิเสธฐานะความเป็นเทพเจ้าของจักรพรรดิแต่อย่างใด แค่บอกว่า สายสัมพันธ์ของจักรพรรดิกับประชาชนมิได้ขึ้นอยู่กับสถานะเทพเจ้าเท่านั้น) . ด้านแมกอาเธอร์ตอบรับประกาศของจักรพรรดิฮิโรฮิโตะกลับไปว่า "ประกาศรับปีใหม่ของจักรพรรดิทำให้ผมปลื้มปีติเป็นอย่างมาก ด้วยประกาศนี้พระองค์ทรงนำทางประชาชนสู่หนทางประชาธิปไตย พระองค์ทรงยืนอยู่เคียงข้างหลักเสรีนิยมสู่อนาคต การกระทำของพระองค์สะท้อนถึงอิทธิพลของหลักการที่สมเหตุผล หลักการที่สมเหตุผลเป็นสิ่งที่ไม่อาจหยุดยั้งได้" (National Diet Library) . ด้วยเหตุนี้แมกอาเธอร์จึงถือว่าเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนสถาบันจักรพรรดิจากที่ได้รับการนับถือเยี่ยงเทพเจ้าให้มีฐานะเป็น “คน” เยี่ยงประชาชนทั่วไป แต่มีบทบาทพิเศษ อยู่เหนือการเมือง และเป็นประมุขในเชิงสัญลักษณ์ แต่ในขณะเดียวหากไม่มี ดักลาส แมกอาเธอร์ สักคน จักรพรรดิฮิโรฮิโตะก็อาจถูกดำเนินคดีอาชญากรรมสงคราม อีกทั้งสถาบันจักรพรรดิของญี่ปุ่นที่มีอายุยาวนานนับพันปีก็อาจจะถึงคราวล่มสลายลงก็เป็นได้ . เรื่อง: อดิเทพ พันธ์ทอง https://www.facebook.com/thepeoplecooff ... =3&theater |
เจ้าของ: | โลกสวย [ 30 ต.ค. 2020, 15:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ) |
คริคริ เทพเจ้า มักปรากฎมาในร่างมนุษย์สามัญอยู่แล้ว เช่นเฮเลนแห่งทรอย เฮอร์คิวลิส แม้นแต่พระคริสต์ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 03 พ.ย. 2020, 19:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ) |
โลกสวย เขียน: คริคริ เทพเจ้า มักปรากฎมาในร่างมนุษย์สามัญอยู่แล้ว เช่นเฮเลนแห่งทรอย เฮอร์คิวลิส แม้นแต่พระคริสต์ บางยุคบางสมัยก็พอใช้ได้ เข่น สมัยทำสงครามแย่งชิงดินแดนกัน อันนี้ต้องมีหัวหน้ามีผู้นำทัพออกชิงชัย แต่บางยุคบางสมัยก็ใช้ไม่ได้ |
เจ้าของ: | โลกสวย [ 03 พ.ย. 2020, 23:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ) |
กรัชกาย เขียน: โลกสวย เขียน: คริคริ เทพเจ้า มักปรากฎมาในร่างมนุษย์สามัญอยู่แล้ว เช่นเฮเลนแห่งทรอย เฮอร์คิวลิส แม้นแต่พระคริสต์ บางยุคบางสมัยก็พอใช้ได้ เข่น สมัยทำสงครามแย่งชิงดินแดนกัน อันนี้ต้องมีหัวหน้ามีผู้นำทัพออกชิงชัย แต่บางยุคบางสมัยก็ใช้ไม่ได้ คริคริ ใช้ได้ทุกยุคค่ะ มนุสสเทโว เทพ มหาเทพ มีทุกยุค คำพระพุทธเจ้าไม่เป็นเท็จหรอก แต่ลุงกรัชกาย ไม่แตกฉานในพระธรรมเอง 555 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 09 พ.ย. 2020, 10:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ) |
อ้างคำพูด: ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ โพสต์รูปคู่ ‘โจ ไบเดน’ แสดงความยินดีว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ https://www.matichon.co.th/social/news_2432649 เมโลกซวย เอ้ยโลกสวย รู้จักปุ๋ยไหม แล้วไงต่อ ดู https://www.matichon.co.th/lifestyle/news_2433186 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 09 พ.ย. 2020, 10:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ) |
โลกสวย เขียน: กรัชกาย เขียน: โลกสวย เขียน: คริคริ เทพเจ้า มักปรากฎมาในร่างมนุษย์สามัญอยู่แล้ว เช่นเฮเลนแห่งทรอย เฮอร์คิวลิส แม้นแต่พระคริสต์ บางยุคบางสมัยก็พอใช้ได้ เข่น สมัยทำสงครามแย่งชิงดินแดนกัน อันนี้ต้องมีหัวหน้ามีผู้นำทัพออกชิงชัย แต่บางยุคบางสมัยก็ใช้ไม่ได้ คริคริ ใช้ได้ทุกยุคค่ะ มนุสสเทโว เทพ มหาเทพ มีทุกยุค คำพระพุทธเจ้าไม่เป็นเท็จหรอก แต่ลุงกรัชกาย ไม่แตกฉานในพระธรรมเอง 555 คำสอนของพระพุทธเจ้า ประเด็นนี้ จะแยกเป็นสองอย่าง คือ สมมุตติสัจจะ ๑ ปรมัตถสัจจะ ๑ สมมุตติสัจจะเปลี่ยนแปลงได้ เพราะตั้งขึ้นจากการยอมรับของคนในยุคนั้นๆ (เข้าใจไหม ) จึงเรียกว่าสมมติ ส่วนปรมัตถสัจจะ เป็นธรรมชาติ มันเป็นยังงั้นของมันเอง ใครจะยอมรับหรือไม่ยอมรับมันก็เป็นของมันอยู่อย่างนั้น (เข้าใจไหม ) |
เจ้าของ: | โลกสวย [ 09 พ.ย. 2020, 12:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ) |
กรัชกาย เขียน: โลกสวย เขียน: กรัชกาย เขียน: โลกสวย เขียน: คริคริ เทพเจ้า มักปรากฎมาในร่างมนุษย์สามัญอยู่แล้ว เช่นเฮเลนแห่งทรอย เฮอร์คิวลิส แม้นแต่พระคริสต์ บางยุคบางสมัยก็พอใช้ได้ เข่น สมัยทำสงครามแย่งชิงดินแดนกัน อันนี้ต้องมีหัวหน้ามีผู้นำทัพออกชิงชัย แต่บางยุคบางสมัยก็ใช้ไม่ได้ คริคริ ใช้ได้ทุกยุคค่ะ มนุสสเทโว เทพ มหาเทพ มีทุกยุค คำพระพุทธเจ้าไม่เป็นเท็จหรอก แต่ลุงกรัชกาย ไม่แตกฉานในพระธรรมเอง 555 คำสอนของพระพุทธเจ้า ประเด็นนี้ จะแยกเป็นสองอย่าง คือ สมมุตติสัจจะ ๑ ปรมัตถสัจจะ ๑ สมมุตติสัจจะเปลี่ยนแปลงได้ เพราะตั้งขึ้นจากการยอมรับของคนในยุคนั้นๆ (เข้าใจไหม ) จึงเรียกว่าสมมติ ส่วนปรมัตถสัจจะ เป็นธรรมชาติ มันเป็นยังงั้นของมันเอง ใครจะยอมรับหรือไม่ยอมรับมันก็เป็นของมันอยู่อย่างนั้น (เข้าใจไหม ) คริคริ เพราะลุงไม่แตกฉานในพระธรรม เรยไม่เข้าใจสัจจะอย่างโลก ว่ามนุสสเทวา มีอยู่ทุกยุคทุกสมัย ด้วยพระธรรมอันเป็นปรมัตถ์ มนุสสเทวา เป็นปรมัตถ์ แยกโดยพระธรรม ไม่ได้แยกด้วยทางโลก เพราะไม่มีปัญญาเห็นธรรม ตามที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ จิญจมาณวิกา เรยคิดปฎิรูป ด่าทอสร้างความเท็จ ไส่ร้าย พระพุทธองค์ กระนั้น ก็ยังมีผู้เห้นผิด ต่อพระองค์มากมายเช่นกันค่ะ |
หน้า 54 จากทั้งหมด 54 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |