วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 04:51  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 51 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2019, 18:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


pwit9 เขียน:
ขอบคุณทุกท่านมากๆครับ ผมจะลองนำแนวทางไปปฏิบัติ.


* ตนเป็นที่พึ่งของตน ตนไม่มองตน ไม่พิจารณาตน ไม่แก้ไขตน แล้วตนจะพ้นทุกข์ได้อย่างไร

สู้ๆครับ ทำปัจจุบันให้ดี อนาคตก็จะค่อยดีขึ้นเองครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2019, 18:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
sssboun เขียน:
กรัชกาย เขียน:
วางโครงเรื่องไว้ก่อน

กรรมเก่า คือ ตา (จักขุ) หู (โสตะ) จมูก (ฆานะ) ลิ้น (ชิวหา) กาย (กายะ) ใจ (มโน) (สํ.สฬ.18/217/166) เป็นเจ้าบทบาทเดิม

จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และ โยนิโสมนสิการซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"

รูปภาพ

ชีวิตนี้ถ้าดูตามนั้นท่านว่าเป็นกรรมเก่า (อย่าถามต่อนะว่า กรรมเก่าคืออะไร ไม่มีใครรู้หรอกนอกจากผู้มีสัพพัญญุตญาณ) เอาเป็นว่าที่เราได้ชีวิตนี้มาเป็นกรรมเก่าแล้วกัน ตัดตอนแค่นี้

ตอนต่อไป คนๆนั้นเกิดที่ไหนเกิดในตระกูลใด การเลี้ยงดูเป็นยังไงแบบไหนอย่างไร สภาพแวดล้อมทางสังคมตรงนั้นหมู่บ้านนั้นออกแนวไหน ดี ไม่ดี เลยร้าย ตอนนี้ภาษาพระมีชื่อเรียกเฉพาะว่า ปรโตโฆสะ (ปัจจัยภายนอกมีทั้งดี ไม่ดี= ปรโตโฆสะที่ดี กับ ปรโตโฆสะที่ไม่ดี)

อีกขั้นหนึ่ง คือ ปัจจัยภายในในตัวคนๆนั้น เขามีสติปัญญามากน้อยแค่ไหน รู้จักคิด คิดเป็นไหม ฯลฯ ขั้นนี้ภาษาพระมีชื่อเรียกเฉพาะว่า โยนิโสมนสิการ (ปัจจัยภายในตัวบุคคลๆ ก็มีสอง โยนิโสมนสิการ กับ อโยนิโสมนสิการ)


อนุโมทนา สาธุ ด้วยครับ

กรรมเก่านี้ พอรู้ แต่รายละเอียดนั้นหารู้ได้ไม่ นอกจากพระพุทธองค์
กรรมเก่าก็คือสิ่งที่เคยคิด พูด ทำ ในชาติปางก่อนๆนั้นเองครับ

แต่ไม่อาจมองเห็นลายละเอียด และรู้ได้เลยว่าเพราะอะไรที่แบบชัดเจน

ผมขอยกตัวอย่างผมเรื่องนึ่ง ผมนอนไม่ได้ฝัน จู่ๆก็สะดุ้ง เพราะกรรมเก่า
แต่อยู่ในชาตินี้ คือผมมีนิสัยชอบไปจี้เอวเพื่อหยอกล้อ และล้อเล่นให้เค้าตก
ใจ แล้วเราก็มีความสุขดีใจแค่นิดเดียว พอผมรู้เห็นเช่นนั้นผมก็เลิกอาการนั้น
ก็ค่อยๆจางค่อยเป็นน้อยลง จนเดียวนี้ก็ไม่ค่อยเจออีกเลย

จี้จนหนำใจจนเค้าไม่มีแรงดิ้น สิ้นแรงตกใจ เรยบันดานโทสะลงมือฆ่าเค้าด้วยแหละค่ะ
เดี๋ยวคราวหน้าจะสะดุ้งจนตกเตียงเรยแหละค่ะ


จี้โดนคนเป็นโรคหัวใจที่เราไม่รู้ เค้าหัวใจวายตายชวยเลย
เพราะเห็นโทษมากกว่า คุณ ผมเลยตัดสินใจเลิกนิสัยนั้นโดยเด็ดขาด

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2019, 09:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นยังไงบ้างครับ คุณ pwit9 เริ่มปฏิบัติ เริ่มสิ่งใหม่ๆ
บ้างหรือยัง แก้ไข เห็นวิธีแก้บ้างไหม ติดขัดอะไรก็เข้ามา
ถามเพื่อนๆได้นะครับ ลานแห่งนี้จะเป็นปรับทุกข์ ให้กำลัง
ใจ ช่วยแนะนำให้ครับ

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2019, 10:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


pwit9 เขียน:


บาดแผลสะสมอยู่ในใจผมมาเป็นสิบปี แม้แต่เรื่อง รีดเสื้อผ้าไปเรียน เพราะ

ผมดันทุรังเรียน ม.ปลาย เพราะอยากหลุดจากขุมนรกนี้ไป ทุกคนก็จะด่าผม ว่า ใช้ไฟฟ้าเขาเปลือง เรียนไปก็ไปไม่ถึงดวงดาว
ผมต้องใช้เตาถ่านรีดเสื้อ จุดตะเกียงน้ำมันอ่านหนังสือ

18 ปีเต็มๆในขุมนรก เคยพยายามฆ่าตัวตาย 1 ครั้ง แต่ไม่ตาย กินยานอนหลับไปสิบกว่าเม็ด ไม่กล้ากินยาฆ่าแมลง กลัวเจ็บ (คิดแบบเด็กๆ)

ผมลำบากมากๆ มาแต่เด็กๆ ทำทุกอย่าง รับจ้างทุกชนิด ทำสวน ล้างจาน ขายหนังสือพิมพ์ ทั้งฆ่าสัตว์ ตกปลา ยิงนก ตีรังผึ้งไปขายให้ได้เงิน

จนผมเรียนจบ ป.ตรีทางด้าน วิทยาการคอมฯ ได้ทำงาน และมีเงินเดือน และ

สุดท้าย เปิด บ. เล็กๆ เพื่อทำเอง

ผมดิ้นรนมาตั้งแต่เด็กๆ ความลำบาก ต่างๆในการทำงาน จึงเป็นเรื่องปกติ ที่ผมผ่านมาแล้ว ท้อบ้างอะไรบ้าง แต่ก็ไม่สู้เท่าตอนเด็กๆ จนสามารถสร้างฐานะ พออยู่ได้ มีบ้าน มีรถ ผมไม่เคยโกรธแม่เลย




เป็นเครื่องยืนยันว่า ความยากจนไม่ใช่กรรมเก่าแต่ชาติปางก่อน อย่างที่เขา (ฝ่ายไหนไม่รู้) พร่ำสอนกัน

รูปภาพ

แต่มันอยู่ที่การศึกษา การแสวงหาความรู้ ความขยันหมั่นเพียรในการประกอบการงานและรู้จักใช้จ่ายเก็บออม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2019, 12:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
pwit9 เขียน:


บาดแผลสะสมอยู่ในใจผมมาเป็นสิบปี แม้แต่เรื่อง รีดเสื้อผ้าไปเรียน เพราะ

ผมดันทุรังเรียน ม.ปลาย เพราะอยากหลุดจากขุมนรกนี้ไป ทุกคนก็จะด่าผม ว่า ใช้ไฟฟ้าเขาเปลือง เรียนไปก็ไปไม่ถึงดวงดาว
ผมต้องใช้เตาถ่านรีดเสื้อ จุดตะเกียงน้ำมันอ่านหนังสือ

18 ปีเต็มๆในขุมนรก เคยพยายามฆ่าตัวตาย 1 ครั้ง แต่ไม่ตาย กินยานอนหลับไปสิบกว่าเม็ด ไม่กล้ากินยาฆ่าแมลง กลัวเจ็บ (คิดแบบเด็กๆ)

ผมลำบากมากๆ มาแต่เด็กๆ ทำทุกอย่าง รับจ้างทุกชนิด ทำสวน ล้างจาน ขายหนังสือพิมพ์ ทั้งฆ่าสัตว์ ตกปลา ยิงนก ตีรังผึ้งไปขายให้ได้เงิน

จนผมเรียนจบ ป.ตรีทางด้าน วิทยาการคอมฯ ได้ทำงาน และมีเงินเดือน และ

สุดท้าย เปิด บ. เล็กๆ เพื่อทำเอง

ผมดิ้นรนมาตั้งแต่เด็กๆ ความลำบาก ต่างๆในการทำงาน จึงเป็นเรื่องปกติ ที่ผมผ่านมาแล้ว ท้อบ้างอะไรบ้าง แต่ก็ไม่สู้เท่าตอนเด็กๆ จนสามารถสร้างฐานะ พออยู่ได้ มีบ้าน มีรถ ผมไม่เคยโกรธแม่เลย




เป็นเครื่องยืนยันว่า ความยากจนไม่ใช่กรรมเก่าแต่ชาติปางก่อน อย่างที่เขา (ฝ่ายไหนไม่รู้) พร่ำสอนกัน

รูปภาพ

แต่มันอยู่ที่การศึกษา การแสวงหาความรู้ ความขยันหมั่นเพียรในการประกอบการงานและรู้จักใช้จ่ายเก็บออม


ผมนี้แหละคนหนึ่งที่ว่าเป็นเพราะกรรมเก่าที่พาให้เกิดกับครอบครัวเช่นนั้น
แต่เมื่อเกิดมาแล้ว คุณ pwit9 นั้นสู้ชีวิตด้วยการสร้างกรรมใหม่คือปัจจุบันดีมา
ตลอด ชีวิตก็เลยดีขึ้นเรื่อยๆ และหากทำถูกวิธีความดีนั้นก็ส่งผลไปถึงอนาคตคือ
ชาติหน้าชาติต่อๆไปด้วย พี่ กรัชกาย เรืยนศึกษามาก็มากแต่ยังไม่เข้าใจและยอม
รับความจริงนะครับ

กรรมสโกมหิ(อ่านออกเสียงว่า กัม-มะ-สะ-โกม-หิ) หมายถึง เรามีกรรมเป็นของๆตน. กัมมัสสะโกมหิ เรามีกรรมเป็นของของตน. กัมมะทายาโท มีกรรมเป็นผู้ให้ผล. กัมมะโยนิ มีกรรมเป็นแดน
ประโยคเหล่านี้พี่ไม่ได้เรียนหรือครับ สิ่งที่บังเอิญนั้นไม่มีเลย
เพราะพระพุทธองค์ทรงตรัสสอนไว้ว่า เมื่อสิ่งนี้เกิดสิ่งนี้จึงมี เมื่อสิ่งนี้ดับสิ่งนี้จึงดับ

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2019, 12:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


ผลของการอ่านหนังสือเลือกอ่านแต่บางส่วนเลยทำ
ให้ตีความผิด เห็นผิด คิดผิด พูดผิด กระทำผิด คิดไม่เชื่อ
เรื่องบาปบุญ ผมอ่านเรื่องท่านมีบุญทั้งหลายเมื่อท่านเหล่า
นั้นสร้างบุญ กระทำบุญแล้วบุญนั้นเองก็ชักนำนำพาท่านเหล่า
นั้นให้ไปเกิดในครอบครัวที่ดี ในประเทศที่ดี แล้วแต่บุญมากบุญ
น้อย และที่สำคัญ ผู้ที่จะสำเร็จเป็นพระอรหัตร์นั้น ชาติสุดท้ายโดย
ส่วนมากแล้วจะเกิดกับตระสูง ร่ำรวย มีถานะดี นี้ก็แสดงให้เห็นว่า
บุญของท่านเหล่านั้นใกล้จะเต็มแล้วนั้นเอง

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2019, 12:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


บุญนั้นก็มี ๓ ระดับ ทาน ศีล ภาวนา แล้วคุณ จขกท รักษาศีล
บ้างยังครับ ได้กี่ข้อแล้ว ปฏิบัติธรรมบ้างยัง เจริญสติ เพื่อให้เกิดปัญญา
รู้ตามความเป็นจริงว่า สิ่งนี้กุศล สิ่งนี้เป็นอกุศล สิ่งนี้มีสาระ สิ่งนี้ไร้สาระ
สิ่งนี้มีสาระน้อย สิ่งนี้มีสาระมาก

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2019, 14:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 พ.ค. 2015, 21:25
โพสต์: 6

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนนี้ผมพยายามพูดให้น้อยลง คงไม่เตือนเขาเพิ่ม เพราะเราพูดให้เขาเข้าใจไปหมดแล้ว ผมคุยกับแม่ แม่บอกผมว่ามึงไปว่ามันเอง เสียใจครับ ที่แม่ไม่เข้าใจว่าผมทำให้แม่กับเขาและครอบครัว เราสามารถอยู่ด้วยกันได้ต่อไปในอนาคต แต่เมื่อบัวยังมี 4 เหล่า ผมคงเปลี่ยนใจเขายาก เพราะพื้นฐานการใช้ชีวิตและอายุเขา ตอนนี้มอง 2 ทางเลือก
1. ผมต้องหลบอารมที่ไม่ชอบ อยู่ชั้นบนเอา ค่อยดูห่างๆเรื่องการกินการอยู่ เหมือนอยู่บ้านหลังเดียวกัน แต่ไม่ใส่ใจกัน ช่วยเหลือเขาในเรื่องกินอยู่รักษาตัว แต่ความสัมพันธ์ผมกับแม่คงห่างกัน
2. นำเขาไปส่งญาติ จะเอาไม่เอาก็อยู่ที่ ชะตาชีวิตเขา (ที่เป็นแบบนี้เพราะครั้งนึงเขามีปัญหากันน้องๆ ถึงกระทั้งตบตีกัน จนคนข้างบ้านต้องมาห้าม ใจผมสงสารเขาอยู่บ้างความดีเขามี แต่สิ่งที่มันคาใจขอให้เขาปรับตัว เขาเปลี่ยนมันไม่ได้) เขาเลือกเองแล้ว การปรับตัวของคนแก่อายุช่วงนี้ คิดว่าน่าจะยาก เพราะเขาเคยพูดคำว่า อาบน้ำร้อนมาก่อน

ผมอยากให้เป็นข้อแรก ขอบคุณทุกท่านครับ ผมคิดว่า วันนึง ผมจะอยู่กับลูกได้ไหม ลูกสะใภ้อีก ถ้าเขามีครอบครัว ผมจะตกสภาวะไหน คิดไปถึงจะ ต้องไปบวชไหม เหมือนไปอาศัยวัดช่วงบันปลายชีวิต


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2019, 15:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


pwit9 เขียน:
ตอนนี้ผมพยายามพูดให้น้อยลง คงไม่เตือนเขาเพิ่ม เพราะเราพูดให้เขาเข้าใจไปหมดแล้ว ผมคุยกับแม่ แม่บอกผมว่ามึงไปว่ามันเอง เสียใจครับ ที่แม่ไม่เข้าใจว่าผมทำให้แม่กับเขาและครอบครัว เราสามารถอยู่ด้วยกันได้ต่อไปในอนาคต แต่เมื่อบัวยังมี 4 เหล่า ผมคงเปลี่ยนใจเขายาก เพราะพื้นฐานการใช้ชีวิตและอายุเขา ตอนนี้มอง 2 ทางเลือก
1. ผมต้องหลบอารมที่ไม่ชอบ อยู่ชั้นบนเอา ค่อยดูห่างๆเรื่องการกินการอยู่ เหมือนอยู่บ้านหลังเดียวกัน แต่ไม่ใส่ใจกัน ช่วยเหลือเขาในเรื่องกินอยู่รักษาตัว แต่ความสัมพันธ์ผมกับแม่คงห่างกัน
2. นำเขาไปส่งญาติ จะเอาไม่เอาก็อยู่ที่ ชะตาชีวิตเขา (ที่เป็นแบบนี้เพราะครั้งนึงเขามีปัญหากันน้องๆ ถึงกระทั้งตบตีกัน จนคนข้างบ้านต้องมาห้าม ใจผมสงสารเขาอยู่บ้างความดีเขามี แต่สิ่งที่มันคาใจขอให้เขาปรับตัว เขาเปลี่ยนมันไม่ได้) เขาเลือกเองแล้ว การปรับตัวของคนแก่อายุช่วงนี้ คิดว่าน่าจะยาก เพราะเขาเคยพูดคำว่า อาบน้ำร้อนมาก่อน

ผมอยากให้เป็นข้อแรก ขอบคุณทุกท่านครับ ผมคิดว่า วันนึง ผมจะอยู่กับลูกได้ไหม ลูกสะใภ้อีก ถ้าเขามีครอบครัว ผมจะตกสภาวะไหน คิดไปถึงจะ ต้องไปบวชไหม เหมือนไปอาศัยวัดช่วงบันปลายชีวิต


แล้วคุณเป็นบัวเหล่าไหนหล่ะคะ
ถึงอยู่ร่วมกอเดียว กับบัวดอกอื่นๆไม่ได้

ไปบวชพระ คิดเหรอว่า ไม่มีบัวเหล่าอื่นๆในกอนั้น

อะไรๆ ก็ผิดๆๆ ไม่ถูกใจ ไม่เป็นต้องการ สำหรับคุณคนเดียว

เคยถามเค้ากันไหมคะ ว่ามีความต้องการอะไร

ถามใจตัวเองลึกๆ ว่าทำไม จึงไม่อยากให้เค้าอยู่ร่วมกอเดียวกัน

ข้ออ้างสาระพัดร้อยข้อพันข้อ ของคุณจะออกมาจากใจ

ลองหาสิ ว่าใจที่อ้างมา ร้อยข้อพันข้อ ข้อไหน ถูกต้องตรงพระธรรมจริงๆบ้าง

ข้อนั้นแหละ คือหนทางค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2019, 15:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


บอกไบ้ให้นิดนะคะ

อันแรก คือเงิน
อันสอง ขัดหูขัดตาขัดใจ
อันสาม ตน ของตน บ้านตน
และสี่ กำลังสร้างเกราะ กำแพง ระหว่างตน เพื่อสู้รบ กะ คนอื่นค่ะ โดยเริ่มซึมซับ ความเป็นศัตรูมากขึ้นๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2019, 17:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
pwit9 เขียน:
ตอนนี้ผมพยายามพูดให้น้อยลง คงไม่เตือนเขาเพิ่ม เพราะเราพูดให้เขาเข้าใจไปหมดแล้ว ผมคุยกับแม่ แม่บอกผมว่ามึงไปว่ามันเอง เสียใจครับ ที่แม่ไม่เข้าใจว่าผมทำให้แม่กับเขาและครอบครัว เราสามารถอยู่ด้วยกันได้ต่อไปในอนาคต แต่เมื่อบัวยังมี 4 เหล่า ผมคงเปลี่ยนใจเขายาก เพราะพื้นฐานการใช้ชีวิตและอายุเขา ตอนนี้มอง 2 ทางเลือก
1. ผมต้องหลบอารมที่ไม่ชอบ อยู่ชั้นบนเอา ค่อยดูห่างๆเรื่องการกินการอยู่ เหมือนอยู่บ้านหลังเดียวกัน แต่ไม่ใส่ใจกัน ช่วยเหลือเขาในเรื่องกินอยู่รักษาตัว แต่ความสัมพันธ์ผมกับแม่คงห่างกัน
2. นำเขาไปส่งญาติ จะเอาไม่เอาก็อยู่ที่ ชะตาชีวิตเขา (ที่เป็นแบบนี้เพราะครั้งนึงเขามีปัญหากันน้องๆ ถึงกระทั้งตบตีกัน จนคนข้างบ้านต้องมาห้าม ใจผมสงสารเขาอยู่บ้างความดีเขามี แต่สิ่งที่มันคาใจขอให้เขาปรับตัว เขาเปลี่ยนมันไม่ได้) เขาเลือกเองแล้ว การปรับตัวของคนแก่อายุช่วงนี้ คิดว่าน่าจะยาก เพราะเขาเคยพูดคำว่า อาบน้ำร้อนมาก่อน

ผมอยากให้เป็นข้อแรก ขอบคุณทุกท่านครับ ผมคิดว่า วันนึง ผมจะอยู่กับลูกได้ไหม ลูกสะใภ้อีก ถ้าเขามีครอบครัว ผมจะตกสภาวะไหน คิดไปถึงจะ ต้องไปบวชไหม เหมือนไปอาศัยวัดช่วงบันปลายชีวิต


แล้วคุณเป็นบัวเหล่าไหนหล่ะคะ
ถึงอยู่ร่วมกอเดียว กับบัวดอกอื่นๆไม่ได้

ไปบวชพระ คิดเหรอว่า ไม่มีบัวเหล่าอื่นๆในกอนั้น

อะไรๆ ก็ผิดๆๆ ไม่ถูกใจ ไม่เป็นต้องการ สำหรับคุณคนเดียว

เคยถามเค้ากันไหมคะ ว่ามีความต้องการอะไร

ถามใจตัวเองลึกๆ ว่าทำไม จึงไม่อยากให้เค้าอยู่ร่วมกอเดียวกัน

ข้ออ้างสาระพัดร้อยข้อพันข้อ ของคุณจะออกมาจากใจ

ลองหาสิ ว่าใจที่อ้างมา ร้อยข้อพันข้อ ข้อไหน ถูกต้องตรงพระธรรมจริงๆบ้าง

ข้อนั้นแหละ คือหนทางค่ะ


ตรงนี้ผมเห็นด้วยกับคุณ เม แต่ไม่ทั้งหมดคือ อยู่ในโลกเดียว
กันได้ แต่หากช่วยเหลือกันได้แค่ไหนก็ช่วย ที่สำคัญ คนนั้นมีพระ
คุณกับเรามากแค่ไหน และหากช่วยแล้วทำให้ครอบครัวตัวเองเดือดร้อน
ก็ช่วยแบบห่างๆก็ได้คือ นานๆก็ไปเยี่ยมเยือนท่านและนำของไปฝากท่าน
ก็ได้ครับ

ก่อนหน้ารับท่านมาอยู่ด้วยครอบครัว คุณเป็นยังไง และใครเป็น
เจ้าความคิดรับท่านมาอยู่ด้วย หลังจากรับมาอยู่ด้วยแล้วชีวิตครอบครัว
ดี ขึ้นหรือแย่ลง

คบคนดีมีศรีแก่ตน คบคนชั่วพาตัวอับจน

ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก


ไปนั่งสมาธิ สักพักแล้วลองคิดดูให้ดีอีกครั้งครับ วิธีทำความ
สงบชั่วขณะผมก็แนะนำให้แล้วนิครับ ลองทำหรือยัง เรียนรู้ฝึก
แก้ปัญหาด้วยตัวเองไปที่ละน้อย นานๆไปคุณก็จะคล่องเองครับ

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2019, 17:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
บอกไบ้ให้นิดนะคะ

อันแรก คือเงิน
อันสอง ขัดหูขัดตาขัดใจ
อันสาม ตน ของตน บ้านตน
และสี่ กำลังสร้างเกราะ กำแพง ระหว่างตน เพื่อสู้รบ กะ คนอื่นค่ะ โดยเริ่มซึมซับ ความเป็นศัตรูมากขึ้นๆ


อนุโมทนา สาธุ สงครามเกิดจากความอยาก ความไม่รู้จักพอ
ไม่รู้จักความจริง คือไม่รู้จะตายเมื่อไหร่ ตายแล้วก็เอาอะไรไปด้วย
ไม่ได้ ไม่เชื่อเรื่องนรก สวรรค์ เลยไม่ระอายบาป ไม่เกรงกลัวต่อบาป
กรรม สงครามเกิดขึ้นจากระดับครอบครัว ใหญ่โตจนถึงระดับโลก หาก
จิตใจของคนเรายังเมามัวติดกับวัดถุสิ่งของภายนอกมากเช่นนี้

แต่เดียวนี้ก็เห็นได้ชัดอย่างคือ คนเดียวนี้ส่วนมากแล้งน้ำใจ แม้คน
ในครอบครัว ไม่ต้องว่าคนอื่นเลย เพราะถูกสั่งสอนอบรมมาแต่ยังเล็ก
ว่า ให้เอาอย่างเดียว ไม่ค่อยจะสอนให้รู้จักแบ่งปัน เมื่อก่อนยังมีน้ำให้
ดื่มฟรีไว้หน้าบ้าน แต่เดียวนี้อะไรก็เป็นเงิน เมื่อก่อนรั้วก็ไม่ค่อยมี เดียว
นี้มีมิหนำช้ำใหญ่ ในบ้านก็ใส่ลูกกงเหล็ก ไม่พอ ยังติดกล้องวงจร ไม่พอ
ยังดูได้ทุกเวลาผ่านมือถือ ไม่พอ ยังหา รบพ มาเฝ้าอีก จะกลัวอะไรกัน
นักกันหนาน้อคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2019, 17:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


นี้แหละท่านว่าไว้ ยามไม่มีก็เป็นทุกข์ๆ เพราะอยากมี
อยากได้ พอมีแล้วก็ทุกข์อีก ทุกข์เพราะรักษาดูแลเป็นห่วง
กลัวเค้าจะมาลักมาขโมยไป ......

ยิ่งมีมากก็ยิ่งหนักมาก หนักใจ มีบ้านหลังโตๆ ก็ต้องเหนื่อย
มากในการดูแล แม้ไปเที่ยวก็ยังเป็นห่วงบ้าน กลัวต่างๆนาๆ

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2019, 20:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


pwit9 เขียน:
กลุ่มใจมาหลายปีแล้ว ขอเล่าตั้งแต่ต้นสายปลายเหตุครับ
สมัยเด็ก ผมเป็นลูกคนเดียว เกิดมามีแม่คนเดียว ฐานะยากจนค่อนข้างมาก พ่อทิ้ง ปู่ยาตายาย ตายหมดก่อนเกิด แม่เป็นลูกคนสุดท้องของตายาย ตาเกลียดแม่ ว่าเป็นกาลกินี จึงทำให้แม่ถูกพี่น้องเอาเปรียบมาตลอด ตามีลูก 5 คน แม่ทำงานไม่ได้เรียน อ่านหนังสือไม่ออก ทำงานหนัก แต่ไม่มีเงิน เพราะพี่น้องแม่ จะเอาไปหมด จากการขอจากตา สุดท้าย แม่ดูแลตายาย ก่อนสิ้นใจทั้งสองคน และมีหนี้สินที่พี่น้องแม่ก่อไว้ อีกจำนวนหนึ่ง สมัยก่อน ท้องบาทละ 400 แม่มีหนี้มา 25000 บาท แม่ทำงานรับจ้างทั่วไป ทั่งก่อสร้าง อะไรก็ได้ที่ทำแล้วมีเงินมาซื้อข้าว แม่จึงเป็นคนอารมแปรปรวนบ่อยๆ คงเพราะอาการเหนื่อย และบาดแผลที่แม่ได้รับมาแต่เด็กๆ ผมเกิดมาจึงถูกแม่ด่าว่าบ่อยๆ ทั้งเป็นมารหัวขน ทั้งด่าหยาบคาย และสาปแช่งต่างๆนาๆ จิงๆ บางครั้งผมดื้อด้วย จับอะไรไกล้มือได้ก็ขว้างปาใส่ผม แต่แม่ก็เลี้ยงดูผมมา บางครั้งก็หายแกก็จะมาบอกผมว่าแกเครียด ผมรู้ว่าแกรักผมในแบบของแก แม่อาศัยญาติพี่น้อง อยู่บนที่ดินเขา แต่บ้านของเรา ทุกคนจึงพากันรังเกียดผม ว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ แม่ยากจน เขาจะเรียกผมไอ้หัวโจก อะไรหาย หรือ ทำผิดนิดหน่อย ก็จะเป็นเรื่องใหญ่ และโยนความผิดทุกอย่างมาให้ผม ผมจะเป็นเหมือนกระโถนท้องพระโรง
บาดแผลสะสมอยู่ในใจผมมาเป็นสิบปี แม่แต่เรื่อง รีดเสื้อผ้าไปเรียน เพราะผมดันทุรังเรียน ม.ปลาย เพราะอยากหลุดจากขุมนรกนี้ไป ทุกคนก็จะด่าผมว่าใช้ไฟฟ้าเขาเปลือง เรียนไปก็ไปไม่ถึงดวงดาว ผมต้องใช้เตาถ่านรีดเสื้อ จุดตะเกียงน้ำมันอ่านหนังสือ 18 ปีเต็มๆในขุมนรก เคยพยายามฆ่าตัวตาย 1 ครั้ง แต่ไม่ตาย กินยานอนหลับไปสิบกว่าเม็ด ไม่กล้ากินยาฆ่าแมลง กลัวเจ็บ(คิดแบบเด็กๆ) ผมลำบาก มากๆ มาแต่เด็กๆ ทำทุกอย่าง รับจ้างทุกชนิด ทำสวน ล้างจาน ขายหนังสือพิมพ์ ทั้งฆ่าสัตย์ ตกปลายิงนก ตีรังผึ้งไปขายให้ได้เงิน จนผมเรียนจบ ป.ตรีทางด้าน วิทยาการคอมฯ ได้ทำงาน และมีเงินเดือน และสุดท้าย เปิด บ. เล็กๆ เพื่อทำเอง ผมดิ้นรนมาตั้งแต่เด็กๆ ความลำบาก ต่างๆในการทำงาน จึงเป็นเรื่องปกติ ที่ผมผ่านมาแล้ว ท้อบ้างอะไรบ้าง แต่ก็ไม่สู้เท่าตอนเด็กๆ จนสามารถสร้างฐานะ พออยู่ได้มีบ้านมีรถ ผมไม่เคยโกรธแม่เลย แม่ไม่สบายหลายครั้ง เข้า รพ. (แก่ดื้อไปหาหมอผี โดนหมอผีตีจนเข้า รพ 1 เดือน จนเดินได้ไม่ปกติ) ผมดูแลล้างขี้เข็ดเยี้ยวโดยไม่รังเกียด เพราะรักแกมาก เห็นใจที่แกลำบากมากในช่วงผมเด็กๆ จนวันหนึ่งผม ซื้อบ้าน ซื้อรถ และไปรับแกมาอยู่ด้วย ผมมีครอบครัวและลูกแล้ว แกอายุมาก 80 กว่าแล้ว(ผม 40) แต่ความจำดีปกติ และมีหลานสาวแกอายุ 68 ซึ่งเป็นญาติผม ที่เคยอยู่ในก้วน ก่อกรรมทำเข็ญผมมาแต่เด็กๆ แต่หลานแม่คนนี้ แกจะถูกพี่น้องแก่ 5 คนรังเกียด ด้วยเพราะสมัยสาวๆ แกชอบปะจบป้า ซึ่งเป็นแม่ของแก ทำให้ป้าเข้าข้างแก และด่าว่าพี่น้องคนอื่น แกเป็นสาวแก่ ทรัพย์สมบัติที่ดินที่แกมีญาติพี่น้องแกนำไปหมดแล้ว และแก ค่อนข้างไม่ปกติ ดื้อเงียบ ผมดูแลแม่และแก่ มาอยู่ด้วยกันได้ 8 ปีแล้ว ที่ให้แกมาอยู่ด้วย เพราะเห็นว่า แกกับแม่อายุไกล้กัน พูดคุยกันจะได้ไม่เหงา และแม่ขอร้องว่า ป้าเขาฝากฝังไว้ ช่วงแรกๆก็ให้เงินแกด้วย เพราะสงสารช่วงหลังๆ ฐานะการเงินไม่ดีก็ให้แกกินอยู่ดูแลหาหมอหายาให้
ตั้งแต่แก่มาอยู่ ชีวิตผมก็เข้าสู่โหมด ขุมนรกอีกครั้ง เพราะแกเป็นคนดื้อมาก และไม่เข้าใจเวลาเราบอก
แกจะทำผิดพลาด จนเป็นเหตุให้แกเกิดอันตรายเอง เช่นห้ามไม่ให้ไปที่ถนนรถ รถจะชนบอก 3 รอบ รอบที่ 4 ไปโดนหมารุมกัดมารักษาเป็นเดือนและชอบเอาเรื่องส่วนตัวบางเรื่องไปคุยนอกบ้าน ห้ามก็ไม่ฟัง แก่ชอบใส่บาตรตอนเช้า ผมไม่ว่า ผมก็ทำบุญ แต่แก่ทำเกินพอดีจนผมเป็นคนบาปว่าพอ ต่อไปนี้ทำให้น้อยลง แก่จะเตียมของทำบุญเป็นอย่างแรก โดยไม่นึงถึงผม หรือแม่ผมที่ดูแลแกเลย ผมเคยบอกแกว่า แกกำลังเห็นแก่ตัวนะ ที่พี่น้องเขาทิ้ง นี่คือสาเหตุหนึ่ง ผมบอกจะดูแลแกจนตายกันไปข้างนึงได้ หากแก ทำตามผมบอก แก่ก็ไม่ฟัง บอกไปก็แสดงอาการไม่พอใจ ผมถามแกว่าผมไม่ใช่ลูกนะ น้องก็ไม่ใช่ อย่าเอาแต่ใจไม่ได้
แปดปีมานี้ ผมพูดให้แม่ร้องไห้เสียใจเพราะแกบ่อยมาก เพราะถือว่าแม่รับสมอ้างให้ผมเลี้ยงดูแก แม่ต้องสังสอนแก ไม่ใช่ผม ภาระหน้าทีผมก็มากแล้ว ทุกครั้งที่แกทำผิด มันจะไปสกิดบาดแผลในใจสมัยเด็กๆผมขึ้นมาทันที ทำให้ผมลืมตัวทั้งว่าแม่และแก ผมเคยถามแม่ว่าแม่รักผมไหม ผมลำบาก ทุกร์ทรมานใจมาขนาดไหนในช่วงวัยเด็ก ผมใช้ให้ชาตินี้จบกันนะ ผมไม่เคยอยากคิดถึงมันอีกแล้ว วันนี้ทำไม ถึงนำคนๆนี้มาทำเรื่องเดิมๆกับผมอีก ผมไม่ถือโกรธเขาให้อภัยไปแล้ว แต่หากวันนี้จะให้ผมดูแล ต้องเชื่อฟังผม ผมต้องดูแลคนแก่ 2 คน ลูกเล็กๆ 2 คน ส่งบ้านรถ แกกับแม่ผมเป็นโรคความดันหัวใจไขมันต้องรักษาดูแลกันเป็นรายเดือน
แม่ผมร้องให้ทุกครั้ง ผมจะตกนรกใช่ไหม ผมจำเป็นไหมต้องตกในภาวะเช่นนี้ จนอายุปูนนี้ ยังหนีไม่พ้น ญาติพี่น้องพวกนี้อีกหรือ ผมควรนำเขาไปคืน ไปไว้ที่ที่เขาอยู่โดยไม่ต้องสนใจว่าจะเป็นจะตาย ตามยะฐากกรมเขาดีไหม หรือ ผมต้องทำใจ ครับ ทำดีจะได้ดีหรือครับ ผมกำลังตกนรก เพราะทำแม่เสียใจ เพราะดูแลคนอื่นเพิ่ม ???????



ป่านนี้คุณคงหาทางออกแก้ไขปัญหาได้แล้ว วันนี้วันมาฆะบูชา ปี ๖๒ ผมขออนุญาตตอบกระทู้นี้ไว้เป็นแนวทางแก่คนที่พบเจอแบบคุณต่อไปนะครับ

วันนี้ ๑๙/๒/๖๒ วันมาฆะบูชาสวดมนต์ไหว้พระทำใจให้เปิดกว้างปรอดโปร่งสบายๆ ทิ้งรักลงแม่น้ำไป เอ๊ยทิ้งความับแค้นใจลงแม่น้ำไปก่อนนะครับ มุกนี้น่าจะฮาตครายเครียดแก่ท่าน pwit9 ได้บ้างนะครับ พอดีคนหล่อคิดได้แค่นี้ครับ อิอิ(แต่ท่านคงไม่มาอ่านแล้วเพราะกระทู้นี้ผ่านมาหลายปีแล้ว อิอิ) :b32: :b32: :b32:

ทีนี้พอขำๆสบายๆ แล้วลองหลับตาสงบนิ่งสัก 1 นาที นะครับ แล้วมาอ่านต่อ :b8: :b8: :b8:

.........................................................................


หลับตาสงบนิ่ง 1 นาทีแล้ว ให้ปรอดโปร่งดีแล้ว ลองมาอ่านสิ่งที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้นะครับ

ก. คุณมองในมุมกลับกันก่อน ที่ไม่ใช่ว่าคุณยากจน ลำบากกายใจ พ่อแม่ทุกข์ทรมาน ชะตาชีวิตไม่ดี เอาเรื่องตัวคุณก่อนนะครับ

1. หากคุณมีทุกสิ่งตั้งแต่เกิด คุณคิดว่าคุณจะมีวันนี้ไหม
2. หากพ่อแม่คอยเอาใจเลี้ยงดูแบบเจ้าชาย ทุกวันนี้คิดว่าคุณจะทำอะไรเป็นไหมครับ
3. หากเมื่อมีทุกอย่างแล้ว คุณจะมีทั้งปัญญา ทั้งความเพียร ดิ้นรนเอาตัวรอดสร้างเนื้อสร้างตัวอย่างทุกวันนี้ไหมครับ
4. บางคนยากจนแบบคุณเคยเป็น ทำไมทุกวันนี้ก็ยังยากจนอยู่ หรือกลายเป็นขอทานด้วยซ้ำ หรือ..บางคนที่มีชีวิตดีกว่าที่คุณเคยเป็นมากโข เมื่อชีวิตพลิกผันทำไมเขากลับทำอะไรไม่ได้เลย แก้ปัญหาไม่ได้ ฟันฝ่าไม่ได้ ไม่มีปัญญาไม่มีความเพียร แค่คิดจะสู้ก็ท้อแล้ว นั่นเพราะอะไร ..เพราะเขาทิ้งโอกาสการต่อสู้ดิ้นรนฝึกฝนสติปัญญา ทำบารมีความเพียร อย่างที่คุณทำและฟันฝ่ามาใช่มั้ยครับ

ลองมองว่า..ถ้าคุณเกิดมาสบายจนไม่ทำอะไรเลย ไม่มีหน้าทีการงานที่ดี เหลาะแหละทำอะไรไม่เป็น เพราะมีทุกอย่างแล้ว หาง่าย ไม่ทำงาน อยู่ลำบากไม่ได้ ดูนะครับ

แล้วทีนี้ลองมองตีกรอบความจนให้แตกออกนะครับ..เพราะความจน ความไม่มี จึงทำให้คุณและแม่ต้องดิ้นรนสู้ชีวิตใช่ไหมครับ
- ตั้งแต่เด็กเล็กๆก็ต้องช่วยเหลือทำงาน ยากลำบาก หากินเองอยู่เอง ใฝ่เรียนศึกษาเพื่อให้ได้ดีมีความรู้ได้ทำงานที่ดีค่าตอบแทนสูง ในขณะที่คนอื่นหรือลูกคนรวยบางคนยังตักข้าวเข้าปากกินเองไม่เป็นเลย เดินไปนั่นไปนี่ไม่ได้ ดูแลตัวเองไม่ได้ ตรงนี้คุณเห็นความต่างไหมครับ นั่นเพราะความจนหล่อหลอมคุณให้สามารถเอาตัวเองรอดได้ตั้งแต่เด็ก ทำให้ขยัน ใฝ่เรียนรู้ นี่คือสิ่งที่หาไม่ได้จากคนทั่วไป เป็นทักษะที่คุณได้มาเพราะความจน
- เมื่อโตขึ้น คุณลำบาก ถูกด่าว่าตราหน้า นั่นมันทำให้คุณเกิดกำลังภายในต่อสู้อาจจะเพื่อลบคำสบประมาท หรือมีเป้าหมายว่าเราต้องมีชีวิตที่ดีกว่านี้ให้ได้ ทำให้คุณฝนลับปัญญาให้แหลมคม ในการเอาตัวรอด ในการเรียนรู้ ในการอยู่กับสังคมแบบนั้น จนเมื่อเรียนจบ ป.ตรีทำงานได้ ด้วยความรู้ทักษะความสามารถที่คุณมี ความมานะบากบั่น ทำให้คุณสร้างเนื้อสร้างตัวได้ เลี้ยงดูแม่คุณได้จนถึงทุกวันนี้
** เหตุที่ผมกล่าวนี้เพราะอะไรครับ เพราะความยากจนลำบากนั่นแหละที่เป็นตัวลับสติปัญญา ความเพียร ความตั้งใจของคุณให้มีกำลังยิ่งๆขึ้น
ลองคิดนะครับ สมัยก่อนนี้ พระมหาจักรพรรษดิ์หลายๆพระองค์ที่มาจากคนยากจนลำบากข้นแค้นแล้วกลายมาเป็นพระมหาจักรพรรษดิ์คือยิ่งใหญ่ไปทั่วโลก นั่นเพราะท่านต้องฝึกฝนตนบ่มสติปัญญาของตนให้ยิ่งใหญ่ เพื่อที่จะทำกิจการงานที่ใหญ่ ที่คู่ควรเหมาะสมกับปัญญาของท่านเหล่านั้นได้ คุณเองก็เช่นกันความจนยากลำบากมันลับสติปัญญาความมานะบากบั่นของคุณให้มีกำลังยิ่งใหญ่เพียงพอที่จะใช้ทำกิจการงานใหญ่ได้ นั่นคือ เป็นเจ้าของบริษัท เป็นเจ้านาย เป็นลูกที่กตัญญู เป็นหลานที่ให้ความอนุเคราะห์เอื้อเฟื้อ เป็นพ่อที่ดีที่ยิ่งใหญ่ เป็นตัวอย่างให้ลูกหลาน เป็นสามีที่ทรงคุณค่าของภรรยา และครูที่จะสอนการดำรงชีพที่ดีให้ลูกคุณต่อไปในภายภาคหน้าด้วยความรู้ความสามารถของคุณที่ก้าวข้ามผ่านความโหดร้ายนั้นๆมาได้ นั่นแหละวิชาสอนลูกที่ดีที่สุด เวลาลูกเจอปัญหาไรๆคุณก็มีแนวทางและประสบการณ์ที่กลั่นกรองดีแล้วสอนลูกให้ฟันฝ่าเพื่อมีชีวิตการดำรงชีพที่ดีมีแบบแผนดีงามสืบไปครับ
.. นี่เพราะความยากจนนั้นแหละหล่อหลอมคุณให้ทำได้จนทุกวันนี้ และได้เป็นตามที่ผมกล่าวไว้นั้น ..ดังนั้น อย่าโทษชะตาชีวิต อย่าไปน้อยใจในสิ่งใด ให้รู้ไว้ว่ามันมีไว้เพื่อหล่อหลอมให้คุณแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ขึ้น สมบูรณ์แบบอย่างทุกวันนี้ ความยากจนลำบากนั้นจึงควรค่าให้คุณจดจำในสิ่งที่ทำให้คุณยิ่งใหญ่ได้ดังทุกวันนี้ครับ


ข. เรื่องคุณป้าของคุณ ที่คุณจำเป็นต้องดูแล มันก็ต้องมีเหตุความเป็นมาให้ดูแล คุณลำบากใจ ไม่สนิทใจเพราะเกลียดชังเขามาตั้งแต่ต้น ทำให้คุณอยู่กับท่านลำบาก ให้คุณทำไว้ในใจดังนี้นะครับเพื่อทุเลาความอัดอั้นคับแค้นใจลง

1. คิดว่าที่มีป้าคุณมา ก็เพื่อลับสติปัญญาของคุณให้ยิ่งๆขึ้นในการใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ไม่รัก ที่ชังอย่างไร ให้ทนไม่ฟูมฟ้ายผูกแค้นผูกโกรธ
2. ให้คิดเสียว่า ชาติก่อนนี้ คุณเคยพึ่งท่านมามาก ท่านช่วยเหลือคุณมามาก ชาตินี้คุณจึงต้องมาดูแลท่าน หรือชาติก่อคุณตั้งใจไว้จะทดแทนคุณท่านหากใได้เกิดมาพบเจออยู่ในครอบครัวเดียวกัน จึงทำให้คุณต้องเจอท่านและต้องมาเลี้ยงดูท่าน เมื่อทดแทนครบแล้วเดี๋ยวก็มีเหตุให้ผ่านพ้นกันไปเอง โดยที่คุณก็ไม่ต้องมาเสียดายเสียใจที่ไม่ได้ทำให้ดีในตอนนั้นตอนนี้เป็นความร่ำไรรำพันในใจ
3. ท่านอาจเป็นกระจกสะท้อนให้คุณเห็นว่า การเอาแต่ใจ มั่นใจตนเองสูง มีความถือตัว ทำคนอื่นเกลียดชัง ดังนั้นภายหน้าคุณต้องไม่เป็นแบบนี้ คุณจึงต้องเอื้อเฟื้อให้มาก
4. ท่านอยู่เพื่อให้คุณฝึกปฏิปทา สำรวมกาย วาจา ใจ ให้ฝึกคิดดี พูดดี ทำดี แล้วคุณก็ฝึกสงบนิ่งบ่อยๆ ทำสมาธิเจริญสติบ่อยๆ หรือเดินจงกรมสร้างสัมปะชัญญะความรู้ตัวทั่วพร้อมแก่คุณไปเรื่อยๆ เพื่อชำระล้างกิเลสความเร่าร้อนกายใจของคุณ อันจะสะสมเป็นบุญบารมีธรรมให้คุณในปัจจุบันที่เห็นผลได้ คือ เบาเย็นใจไม่มีทุกข์, สืบต่อไปเป็นบารมีติดตามไปในภพภูมิหน้า ให้มีทุกอย่างที่ดีสืบไป

** เมื่อพิจารณาได้ดังนี้ ตกลงใจดังนี้ ก็ใช้ปัญญาเป็นเครื่องอยู่แทนที่จะใช้ความรู้สึกเป็นหลักของใจ ใช้สติปัญญาแก้ไข ไม่ใช้ความรู้สึก ทุกสิ่งจะออกมาสำเร็จด้วยดีครับ

ขอให้มีชีวิตที่ดีงามตลอดไปครับ ตัวคุณเองก็ต้องไม่ติดใจข้องแวะสิ่งไรๆที่ป้าแกเป็นแกทำด้วยนะครับ เพราะท่านป่วย, ท่านไม่ปรกติ, เพราะเป็นธรรมชาติของท่าน คนที่มีกายใจเป็นปรกติย่อมไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน คนปรกติเขาจะอยู่ด้วยความมีจิตผ่องใส มีใจเอื้อเฟื้อ เว้นจากความเบียดเบียน เมื่อเราเป็นหัวหน้าในบ้าน ป้าคุณก็เป็นลูกบ้าน ที่ต้องดูแล เราทำตามสติกำลังที่จะทำได้ไปครับ หากชิงชังเมื่อไรก็ให้ใช้สติปัญญาแก้ไข สละทิ้งความรู้สึก แล้วชีวิตคุณจะดีขึ้นครับ สิ่งที่คุณทำก็จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็นเป็นเครื่องปลูกฝังให้ลูกคุณสืบไป

โลกนี้ไม่ใช่คุณที่เคยลำบากมาคนเดียว ไม่ว่าผมหรือใครก็เคยผ่านมาแล้วครับ สู้ๆครับ

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


แก้ไขล่าสุดโดย แค่อากาศ เมื่อ 20 ก.พ. 2019, 12:23, แก้ไขแล้ว 4 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2019, 23:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
pwit9 เขียน:
กลุ่มใจมาหลายปีแล้ว ขอเล่าตั้งแต่ต้นสายปลายเหตุครับ
สมัยเด็ก ผมเป็นลูกคนเดียว เกิดมามีแม่คนเดียว ฐานะยากจนค่อนข้างมาก พ่อทิ้ง ปู่ยาตายาย ตายหมดก่อนเกิด แม่เป็นลูกคนสุดท้องของตายาย ตาเกลียดแม่ ว่าเป็นกาลกินี จึงทำให้แม่ถูกพี่น้องเอาเปรียบมาตลอด ตามีลูก 5 คน แม่ทำงานไม่ได้เรียน อ่านหนังสือไม่ออก ทำงานหนัก แต่ไม่มีเงิน เพราะพี่น้องแม่ จะเอาไปหมด จากการขอจากตา สุดท้าย แม่ดูแลตายาย ก่อนสิ้นใจทั้งสองคน และมีหนี้สินที่พี่น้องแม่ก่อไว้ อีกจำนวนหนึ่ง สมัยก่อน ท้องบาทละ 400 แม่มีหนี้มา 25000 บาท แม่ทำงานรับจ้างทั่วไป ทั่งก่อสร้าง อะไรก็ได้ที่ทำแล้วมีเงินมาซื้อข้าว แม่จึงเป็นคนอารมแปรปรวนบ่อยๆ คงเพราะอาการเหนื่อย และบาดแผลที่แม่ได้รับมาแต่เด็กๆ ผมเกิดมาจึงถูกแม่ด่าว่าบ่อยๆ ทั้งเป็นมารหัวขน ทั้งด่าหยาบคาย และสาปแช่งต่างๆนาๆ จิงๆ บางครั้งผมดื้อด้วย จับอะไรไกล้มือได้ก็ขว้างปาใส่ผม แต่แม่ก็เลี้ยงดูผมมา บางครั้งก็หายแกก็จะมาบอกผมว่าแกเครียด ผมรู้ว่าแกรักผมในแบบของแก แม่อาศัยญาติพี่น้อง อยู่บนที่ดินเขา แต่บ้านของเรา ทุกคนจึงพากันรังเกียดผม ว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ แม่ยากจน เขาจะเรียกผมไอ้หัวโจก อะไรหาย หรือ ทำผิดนิดหน่อย ก็จะเป็นเรื่องใหญ่ และโยนความผิดทุกอย่างมาให้ผม ผมจะเป็นเหมือนกระโถนท้องพระโรง
บาดแผลสะสมอยู่ในใจผมมาเป็นสิบปี แม่แต่เรื่อง รีดเสื้อผ้าไปเรียน เพราะผมดันทุรังเรียน ม.ปลาย เพราะอยากหลุดจากขุมนรกนี้ไป ทุกคนก็จะด่าผมว่าใช้ไฟฟ้าเขาเปลือง เรียนไปก็ไปไม่ถึงดวงดาว ผมต้องใช้เตาถ่านรีดเสื้อ จุดตะเกียงน้ำมันอ่านหนังสือ 18 ปีเต็มๆในขุมนรก เคยพยายามฆ่าตัวตาย 1 ครั้ง แต่ไม่ตาย กินยานอนหลับไปสิบกว่าเม็ด ไม่กล้ากินยาฆ่าแมลง กลัวเจ็บ(คิดแบบเด็กๆ) ผมลำบาก มากๆ มาแต่เด็กๆ ทำทุกอย่าง รับจ้างทุกชนิด ทำสวน ล้างจาน ขายหนังสือพิมพ์ ทั้งฆ่าสัตย์ ตกปลายิงนก ตีรังผึ้งไปขายให้ได้เงิน จนผมเรียนจบ ป.ตรีทางด้าน วิทยาการคอมฯ ได้ทำงาน และมีเงินเดือน และสุดท้าย เปิด บ. เล็กๆ เพื่อทำเอง ผมดิ้นรนมาตั้งแต่เด็กๆ ความลำบาก ต่างๆในการทำงาน จึงเป็นเรื่องปกติ ที่ผมผ่านมาแล้ว ท้อบ้างอะไรบ้าง แต่ก็ไม่สู้เท่าตอนเด็กๆ จนสามารถสร้างฐานะ พออยู่ได้มีบ้านมีรถ ผมไม่เคยโกรธแม่เลย แม่ไม่สบายหลายครั้ง เข้า รพ. (แก่ดื้อไปหาหมอผี โดนหมอผีตีจนเข้า รพ 1 เดือน จนเดินได้ไม่ปกติ) ผมดูแลล้างขี้เข็ดเยี้ยวโดยไม่รังเกียด เพราะรักแกมาก เห็นใจที่แกลำบากมากในช่วงผมเด็กๆ จนวันหนึ่งผม ซื้อบ้าน ซื้อรถ และไปรับแกมาอยู่ด้วย ผมมีครอบครัวและลูกแล้ว แกอายุมาก 80 กว่าแล้ว(ผม 40) แต่ความจำดีปกติ และมีหลานสาวแกอายุ 68 ซึ่งเป็นญาติผม ที่เคยอยู่ในก้วน ก่อกรรมทำเข็ญผมมาแต่เด็กๆ แต่หลานแม่คนนี้ แกจะถูกพี่น้องแก่ 5 คนรังเกียด ด้วยเพราะสมัยสาวๆ แกชอบปะจบป้า ซึ่งเป็นแม่ของแก ทำให้ป้าเข้าข้างแก และด่าว่าพี่น้องคนอื่น แกเป็นสาวแก่ ทรัพย์สมบัติที่ดินที่แกมีญาติพี่น้องแกนำไปหมดแล้ว และแก ค่อนข้างไม่ปกติ ดื้อเงียบ ผมดูแลแม่และแก่ มาอยู่ด้วยกันได้ 8 ปีแล้ว ที่ให้แกมาอยู่ด้วย เพราะเห็นว่า แกกับแม่อายุไกล้กัน พูดคุยกันจะได้ไม่เหงา และแม่ขอร้องว่า ป้าเขาฝากฝังไว้ ช่วงแรกๆก็ให้เงินแกด้วย เพราะสงสารช่วงหลังๆ ฐานะการเงินไม่ดีก็ให้แกกินอยู่ดูแลหาหมอหายาให้
ตั้งแต่แก่มาอยู่ ชีวิตผมก็เข้าสู่โหมด ขุมนรกอีกครั้ง เพราะแกเป็นคนดื้อมาก และไม่เข้าใจเวลาเราบอก
แกจะทำผิดพลาด จนเป็นเหตุให้แกเกิดอันตรายเอง เช่นห้ามไม่ให้ไปที่ถนนรถ รถจะชนบอก 3 รอบ รอบที่ 4 ไปโดนหมารุมกัดมารักษาเป็นเดือนและชอบเอาเรื่องส่วนตัวบางเรื่องไปคุยนอกบ้าน ห้ามก็ไม่ฟัง แก่ชอบใส่บาตรตอนเช้า ผมไม่ว่า ผมก็ทำบุญ แต่แก่ทำเกินพอดีจนผมเป็นคนบาปว่าพอ ต่อไปนี้ทำให้น้อยลง แก่จะเตียมของทำบุญเป็นอย่างแรก โดยไม่นึงถึงผม หรือแม่ผมที่ดูแลแกเลย ผมเคยบอกแกว่า แกกำลังเห็นแก่ตัวนะ ที่พี่น้องเขาทิ้ง นี่คือสาเหตุหนึ่ง ผมบอกจะดูแลแกจนตายกันไปข้างนึงได้ หากแก ทำตามผมบอก แก่ก็ไม่ฟัง บอกไปก็แสดงอาการไม่พอใจ ผมถามแกว่าผมไม่ใช่ลูกนะ น้องก็ไม่ใช่ อย่าเอาแต่ใจไม่ได้
แปดปีมานี้ ผมพูดให้แม่ร้องไห้เสียใจเพราะแกบ่อยมาก เพราะถือว่าแม่รับสมอ้างให้ผมเลี้ยงดูแก แม่ต้องสังสอนแก ไม่ใช่ผม ภาระหน้าทีผมก็มากแล้ว ทุกครั้งที่แกทำผิด มันจะไปสกิดบาดแผลในใจสมัยเด็กๆผมขึ้นมาทันที ทำให้ผมลืมตัวทั้งว่าแม่และแก ผมเคยถามแม่ว่าแม่รักผมไหม ผมลำบาก ทุกร์ทรมานใจมาขนาดไหนในช่วงวัยเด็ก ผมใช้ให้ชาตินี้จบกันนะ ผมไม่เคยอยากคิดถึงมันอีกแล้ว วันนี้ทำไม ถึงนำคนๆนี้มาทำเรื่องเดิมๆกับผมอีก ผมไม่ถือโกรธเขาให้อภัยไปแล้ว แต่หากวันนี้จะให้ผมดูแล ต้องเชื่อฟังผม ผมต้องดูแลคนแก่ 2 คน ลูกเล็กๆ 2 คน ส่งบ้านรถ แกกับแม่ผมเป็นโรคความดันหัวใจไขมันต้องรักษาดูแลกันเป็นรายเดือน
แม่ผมร้องให้ทุกครั้ง ผมจะตกนรกใช่ไหม ผมจำเป็นไหมต้องตกในภาวะเช่นนี้ จนอายุปูนนี้ ยังหนีไม่พ้น ญาติพี่น้องพวกนี้อีกหรือ ผมควรนำเขาไปคืน ไปไว้ที่ที่เขาอยู่โดยไม่ต้องสนใจว่าจะเป็นจะตาย ตามยะฐากกรมเขาดีไหม หรือ ผมต้องทำใจ ครับ ทำดีจะได้ดีหรือครับ ผมกำลังตกนรก เพราะทำแม่เสียใจ เพราะดูแลคนอื่นเพิ่ม ???????



ป่านนี้คุณคงหาทางออกแก้ไขปัญหาได้แล้ว วันนี้วันมาฆะบูชา ปี ๖๒ ผมขออนุญาตตอบกระทู้นี้ไว้เป็นแนวทางแก่คนที่พบเจอแบบคุณต่อไปนะครับ

วันนี้ ๑๙/๒/๖๒ วันมาฆะบูชาสวดมนต์ไหว้พระทำใจให้เปิดกว้างปรอดโปร่งสบายๆ ทิ้งรักลงแม่น้ำไป เอ๊ยทิ้งความับแค้นใจลงแม่น้ำไปก่อนนะครับ มุกนี้น่าจะฮาตครายเครียดแก่ท่าน pwit9 ได้บ้างนะครับ พอดีคนหล่อคิดได้แค่นี้ครับ อิอิ(แต่ท่านคงไม่มาอ่านแล้วเพราะกระทู้นี้ผ่านมาหลายปีแล้ว อิอิ) :b32: :b32: :b32:

ทีนี้พอขำๆสบายๆ แล้วลองหลับตาสงบนิ่งสัก 1 นาที นะครับ แล้วมาอ่านต่อ :b8: :b8: :b8:

.........................................................................


หลับตาสงบนิ่ง 1 ทาทีแล้ว ให้ปรอดโปร่งดีแล้ว ลองมาอ่านสิ่งที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้นะครับ

ก. คุณมองในมุมกลับกันก่อน ที่ไม่ใช่ว่าคุณยากจน ลำบากกายใจ พ่อแม่ทุกข์ทรมาน เอาเรื่องตัวคุณก่อนนะครับ

1. หากคุณมีทุกสิ่งตั้งแต่เกิด คุณคิดว่าคุณจะมีวันนี้ไหม
2. หากพ่อแม่คอยเอาใจเลี้ยงดูแบบเจ้าชาย ทุกวันนี้คิดว่าคุณจะทำอะไรเป็นไหมครับ
3. หากเมื่อมีทุกอย่างแล้ว คุณจะมีทั้งปัญญา ทั้งความเพียร ดิ้นรนเอาตัวรอดสร้างเนื้อสร้างตัวอย่างทุกวันนี้ไหมครับ
4. บางคนยากจนแบบคุณเคยเป็นทำไมทุกสันนี้ยังยากจนอยึ่หรือกลายเป็นขอทานด้วยซ้ำ หรือ..บางคนที่มีชีวิตดีกว่าที่คุณเคยเป็น เมื่อชีวิตพลิกผันทำไมเขากลับทำอะไรไม่ได้เลย แก้ปัญหาไม่ได้ ฟันฝ่าไม่ได้ ไม่มีปัญญาไม่มีความเพียร แค่คิดจะสู้ก็ท้อแล้ว นั่นเพราะอะไร เพราะเขาทิ้งโอกาสการต่อสู้ดิ้นรนฝึกฝนสติปัญญา ทำบารมีความเพียร อย่างที่คุณทำและฟันฝ่ามาใช่มั้ยครับ

ลองมองว่า..ถ้าคุณเกิดมาสบายจนไม่ทำอะไรเลย ไม่มีหน้าทีการงานที่ดี เหลาะแหละทำอะไรไม่เป็น เพราะมีทุกอย่างแล้ว หาง่าย ไม่ทำงาน อยู่ลำบากไม่ได้

แล้วทีนี้ลองมองตีกรอบความจนให้แตกออกนะครับ..เพราะความจน ความไม่มี จึงทำให้คุณและแม่ต้องดิ้นรนสู้ชีวิตใช่ไหมครับ
- ตั้งแต่เด็กเล็กๆก็ต้องช่วยเหลือทำงาน ยากลำบาก หากินเองอยู่เอง ใฝ่เรียนศึกษาเพื่อให้ได้ดีมีความรู้ได้ทำงานที่ดีค่าตอบแทนสูง ในขณะที่คนอื่นหรือลูกคนรวยบางคนยังตักข้าวเข้าปากกินเองไม่เป็นเลย เดินไปนั่นไปนี่ไม่ได้ ดูแลตัวเองไม่ได้ ตรงนี้คุณเห็นความต่างไหมครับ นั่นเพราะความจนหล่อหลอมคุณให้สามารถเอาตัวเองรอดได้ตั้งแต่เด็ก ทำให้ขยัน ใฝ่เรียนรู้ นี่คือสิ่งที่หาไม่ได้จากคนทั่วไป เป็นทักษะที่คุณได้มาเพราะความจน
- เมื่อโตขึ้น คุณลำบาก ถูกด่าว่าตราหน้า นั่นมันทำให้คุณเกิดกำลังภายในต่อสู้อาจจะเพื่อลบคำสบประมาท หรือมีเป้าหมายว่าเราต้องมีชีวิตที่ดีกว่านี้ให้ได้ ทำให้คุณฝนลับปัญญาให้แหลมคม ในการเอาตัวรอด ในการเรียนรู้ ในการอยู่กับสังคมแบบนั้น จนเมื่อเรียนจบ ป.ตรีทำงานได้ ด้วยความรู้ทักษะความสามารถที่คุณมี ความมานะบากบั่น ทำให้คุณสร้างเนื้อสร้างตัวได้ เลี้ยงดูแม่คุณได้จนถึงทุกวันนี้
** เหตุที่ผมกล่าวนี้เพราะอะไรครับ เพราะความยากจนลำบากนั่นแหละที่เป็นตัวลับสติปัญญา ความเพียร ความตั้งใจของคุณให้มีกำลังยิ่งๆขึ้น
ลองคิดนะครับ สมัยก่อนนี้ พระมหาจักรพรรษดิ์หลายๆพระองค์ที่มาจากคนยากจนลำบากข้นแค้นแล้วกลายมาเป้นพระมหาจักรพรรษดิ์คือยิ่งใหญ่ไปทั่วโลก นั่นเพราะท่านต้องฝึกฝนตนบ่มสติปัญญาของตนให้ยิ่งใหญ่ เพื่อที่จะทำกิจการงานที่ใหญ่ ที่คู่ควรเหมาะสมกับปัญญาของท่านเหล่านั้นได้ คุณเองก็เช่นกันความจนยากลำบากมันลับสติปัญญาความมานะบากบั่นของคุณให้มีกำลังยิ่งใหญ่เพียงพอที่จะใช้ทำกิจการงานใหญ่ได้ นั่นคือ เ)็นเจ้าของบริษัท เป็นเจ้านาย เป็นลูกที่กตัญญู เป็นหลานที่ให้ความอนุเคราะห์เอื้อเฟื้อ เป็นพ่อที่ดีที่ยิ่งใหญ่ เป็นตัวอย่างให้ลูกหลาน เป็นสามีที่ทรงคุณค่าของภรรยา และครูที่จะสอนการดำรงชีพที่ดีให้ลูกคุณต่อไปในภายภาคหน้า นี่เพราะความยากจนนั้นแหละหล่อหลอมคุณให้ทำได้จนทุกวันนี้ ดังนั้น อย่าโทษชะตาชีวิต อย่าไปน้อยใจในสิ่งใด ให้รู้ไว้ว่ามันมีไว้เพื่อหล่อหลอมให้คุณแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ขึ้น สมบูรณ์แบบอย่างทุกวันนี้ ความยากจนลำบากนั้นจึงควรค่าให้คุณจดจำในสิ่งที่ทำให้คุณยิ่งใหญ่ได้ดังทุกวันนี้ครับ

ข. เรื่องคุณป้าของคุณ ที่คุณจำเป็นต้องดูแล มันก็ต้องมีเหตุความเป็นมาให้ดูแล คุณลำบากใจ ไม่สนิทใจเพราะเกลียดชังเขามาตั้งแต่ต้น ทำให้คุณอยู่กับท่านลำบาก ให้คุณทำไว้ในใจดังนี้นะครับเพื่อทุเลาความอัดอั้นคับแค้นใจลง
1. คิดว่าที่มีป้าคุณมา ก็เพื่อลับสติปัญญาของคุณให้ยิ่งๆขึ้นในการใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ไม่รัก ที่ชังอย่างไร ให้ทนไม่ฟูมฟ้ายผูกแค้นผูกโกรธ
2. ให้คิดเสียว่า ชาติก่อนนี้ คุณเคยพึ่งท่านมามาก ท่านช่วยเหลือคุณมามาก ชาตินี้คุณจึงต้องมาดูแลท่าน หรือชาติก่อคุณตั้งใจไว้จะทดแทนคุณท่านหากใได้เกิดมาพบเจออยู่ในครอบครัวเดียวกัน จึงทำให้คุณต้องเจอท่านและต้องมาเลี้ยงดูท่าน เมื่อทดแทนครบแล้วเดี๋ยสก็มีเหตุใก้ป่านพ้นกันไปเอง
3. ท่านอาจเป็นกระจกสะท้อนให้คุณเห็นว่า การเอาแต่ใจ มั่นใจตนเองสูง มีความถือตัว ทำคนอื่นเกลียดชัง ดังนั้นภายหน้าคุณต้องไม่เป็นแบบนี้ คุณจึงต้องเอื้อเฟื้อให้มาก
4. ท่านอยู่เพื่อให้คุณฝึกปฏิปทา สำรวมกาย วาจา ใจ ให้ฝึกคิดดี พูดดี ทำดี แล้วคุณก็ฝึกสงบนิ่งบ่อยๆ ทำสมาธิเจริญสติบ่อยๆ หรือเดินจงกรมสร้างสัมปะชัญญะความรู้ตัวทั่วพร้อมแก่คุณไปเรื่อยๆ เพื่อชำระล้างกิเลสความเร่าร้อนกายใจของคุณอันจะสะสมเป็นบุญบารมีธรรมให้คุณในปัจจุบันที่เห็นผลได้คือเบาเย็นใจไม่มีทุกข์ สืบต่อไปเป็นบารมีติดตามไปในภพภูมิหน้า ให้มีทุกอย่างที่ดีสิบไป

** เมื่อพิจารณาได้ดังนี้ ตกลงใจดังนี้ ก็ใช้ปัญญาเป็นเครื่องอยู่แทนที่จะใช้ความรู้สึกเป็นหลักของใจ ใช้สติปัญญาแก้ไข ไม่ใช้ความรู้สึก ทุกสิ่งจะออกมาสำเร็จด้วยดีครับ

ขอให้มีชีวิตที่ดีงามตลอดไปครับ ตัวคุณเองก็ต้องไม่ติดใจข้องแวะสิ่งไรๆที่ป้าแกเป็นแกหทำด้วยนะครับ เพราะท่านป่วย ท่านไม่ปรกติ เพราะเป็นธรรมชาติของท่าน เมื่อเราเป็นหัวหน้าใในบ้าน ป้าคุณก็เป็นลูกบ้าน ที่ต้องดูแล เราทำตามสติกำลังที่จะทำได้ไปครับ หากชิงชังเมมื่อไรก็ให้ใช้สติปัญญาแก้ไข สละทิ้งความรู้สึก แล้วชีวิตคุณจะดีขึ้นครับ

โลกนี้ไม่ใช่คุณที่เคยลำบากมาคนเดียว ไม่ว่าผมหรือใครก็เคยผ่านมาแล้วครับ สู้ๆครับ


ตามี แต่ไร้แวว

จขกท เข้ามา

โพสต์ เมื่อ: วันนี้, 14:25


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 51 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 75 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron