ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ผู้มากด้วยความสงสัย และทิฐิ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57089
หน้า 4 จากทั้งหมด 15

เจ้าของ:  sssboun [ 06 ก.พ. 2019, 16:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้มากด้วยความสงสัย และทิฐิ

:b8:

เพราะความเห็นผิด กลายเป็นคิดผิด กลายเป็น
พูดผิด กลายเป็นกระทำผิด ชีวิตก็เลยวุ้นวายไม่รู้
จักจบสิ้น

:b8:

เจ้าของ:  Rosarin [ 06 ก.พ. 2019, 17:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้มากด้วยความสงสัย และทิฐิ

sssboun เขียน:
:b8:

เพราะความเห็นผิด กลายเป็นคิดผิด กลายเป็น
พูดผิด กลายเป็นกระทำผิด ชีวิตก็เลยวุ้นวายไม่รู้
จักจบสิ้น

:b8:

:b12:
ถ้าเข้าใจความจริงแท้จริงแบบที่ตถาคตทรงแสดงจะคิดผิดไหม
ตอนไม่ฟังเดี๋ยวนี้เองยึดถือว่ามีเครื่องโทรศัพท์มือถือวางไม่ลง
สัจจะมีทีละ1ทางแต่ละ1ลักษณะไม่ซ้ำขณะเก่าดับไปดับไป
เกิดจิตขณะใหม่ตลอดคิดเป็นคิดจำเป็นจำถูกเป็นถูกตรงๆ
ไม่มีขณะไหนเกิดพร้อมกันเลยเป็นแต่ละ1หลากหลาย
ตามการสะสมตามเหตุปัจจัยแต่ละ1ทางตรง1จริงแท้ๆ
ไม่ใช่คนทั้งตัวรู้เป็นธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6แต่ละ1จริงๆ
คิดนึกจำตีความตัวอักษรคือจิตคิดนึกหลังเห็นดับแล้ว
:b17: :b17:

เจ้าของ:  sssboun [ 06 ก.พ. 2019, 17:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้มากด้วยความสงสัย และทิฐิ

Rosarin เขียน:
sssboun เขียน:
:b8:

เพราะความเห็นผิด กลายเป็นคิดผิด กลายเป็น
พูดผิด กลายเป็นกระทำผิด ชีวิตก็เลยวุ้นวายไม่รู้
จักจบสิ้น

:b8:

:b12:
ถ้าเข้าใจความจริงแท้จริงแบบที่ตถาคตทรงแสดงจะคิดผิดไหม
ตอนไม่ฟังเดี๋ยวนี้เองยึดถือว่ามีเครื่องโทรศัพท์มือถือวางไม่ลง
สัจจะมีทีละ1ทางแต่ละ1ลักษณะไม่ซ้ำขณะเก่าดับไปดับไป
เกิดจิตขณะใหม่ตลอดคิดเป็นคิดจำเป็นจำถูกเป็นถูกตรงๆ
ไม่มีขณะไหนเกิดพร้อมกันเลยเป็นแต่ละ1หลากหลาย
ตามการสะสมตามเหตุปัจจัยแต่ละ1ทางตรง1จริงแท้ๆ
ไม่ใช่คนทั้งตัวรู้เป็นธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6แต่ละ1จริงๆ
คิดนึกจำตีความตัวอักษรคือจิตคิดนึกหลังเห็นดับแล้ว
:b17: :b17:

:b8:

หากคุณ โรส อ่านหนังสือพระไตรปิฏกบ้างความรู้
ย่อมจะแจ่มแจ้ง กว้างขวางขึ้นกว่านี้มากและสามารถที่
ให้ความรู้กับเพื่อนๆได้ตรงต่อบุคคลได้มากกว่านี้แน่ครับ

เด็กที่เกิดใหม่ก็มีอาหารที่เหมาะที่สมควรแก่เขา ส่วนผู้ใหญ่
ก็มีอาหารที่สมควรตามวัย ธรรมก็เช่นกันครับ

:b8:

เจ้าของ:  Rosarin [ 06 ก.พ. 2019, 20:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้มากด้วยความสงสัย และทิฐิ

sssboun เขียน:
Rosarin เขียน:
sssboun เขียน:
:b8:

เพราะความเห็นผิด กลายเป็นคิดผิด กลายเป็น
พูดผิด กลายเป็นกระทำผิด ชีวิตก็เลยวุ้นวายไม่รู้
จักจบสิ้น

:b8:

:b12:
ถ้าเข้าใจความจริงแท้จริงแบบที่ตถาคตทรงแสดงจะคิดผิดไหม
ตอนไม่ฟังเดี๋ยวนี้เองยึดถือว่ามีเครื่องโทรศัพท์มือถือวางไม่ลง
สัจจะมีทีละ1ทางแต่ละ1ลักษณะไม่ซ้ำขณะเก่าดับไปดับไป
เกิดจิตขณะใหม่ตลอดคิดเป็นคิดจำเป็นจำถูกเป็นถูกตรงๆ
ไม่มีขณะไหนเกิดพร้อมกันเลยเป็นแต่ละ1หลากหลาย
ตามการสะสมตามเหตุปัจจัยแต่ละ1ทางตรง1จริงแท้ๆ
ไม่ใช่คนทั้งตัวรู้เป็นธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6แต่ละ1จริงๆ
คิดนึกจำตีความตัวอักษรคือจิตคิดนึกหลังเห็นดับแล้ว
:b17: :b17:

:b8:

หากคุณ โรส อ่านหนังสือพระไตรปิฏกบ้างความรู้
ย่อมจะแจ่มแจ้ง กว้างขวางขึ้นกว่านี้มากและสามารถที่
ให้ความรู้กับเพื่อนๆได้ตรงต่อบุคคลได้มากกว่านี้แน่ครับ

เด็กที่เกิดใหม่ก็มีอาหารที่เหมาะที่สมควรแก่เขา ส่วนผู้ใหญ่
ก็มีอาหารที่สมควรตามวัย ธรรมก็เช่นกันครับ

:b8:

:b32:
ยังไม่รู้สึกตัวอีกอยู่ดอกหรือ
ที่ไปอ่านท่องจำคำต่างๆได้
เช่นนิพพานเป็นเพียงสัญญา
ไม่ใช่ปัญญาไม่เข้าใจเลยว่า
เดี๋ยวนี้ปัญญารู้อะไรถึงจะถูก
ก็ท่องจำทุกคำในพระไตรปิฎก
จนขึ้นใจก็ไม่ใช่ปัญญาตัวเอง
เพราะปัญญาตัวเองสะสมทีละ
1ขณะจิตตรง1ทางตรงจริงที่
กายตนกระทบตัวจริง1ธัมมะ
ไม่ใช่ไปท่องพระไตรปิฎกแล้ว
จำเอามาพูดค่ะเพราะเดี๋ยวนี้
จะรู้ตรงจริงที่ตัวเองมีก็เริ่ม
คิดให้มันตรงทางจะเรียน
ตัวจริงธัมมะทางไหนก็รู้ได้1ทาง
รู้ไหมมีครบทั้ง6ทางแล้วไม่ได้ทำ
และทั้ง6ทางต่างกำลังทำหน้าที่เกิดดับสลับกันอยู่ไม่ได้ทำ
ได้ยินไหมบอกว่า ไม่ได้ทำๆๆๆๆ มีแล้วแค่ฟังให้รู้ก็มีไม่รู้อยู่เนี่ยน่ะ
จะให้ว่าไงเห็นผิดอยู่มีตั้งหลายสีคือเห็นผิด
ตามคำสอนคิดถูกตามได้เท่านั้น
ที่ถูกต้องคือจิตเห็นสีทีละ1สีไม่เข้าใจเหรอคะ
https://youtu.be/oao_d_SerDo
:b12:
:b32: :b32:

เจ้าของ:  sssboun [ 06 ก.พ. 2019, 20:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้มากด้วยความสงสัย และทิฐิ

:b8:

คุณ โรส เคยไปคุยกับคนอื่นในชีวิตประจำวัน
ที่พบเจอกันบ้างไหมครับ เวลาคุยกับเขาแล้วเขา
รู้สึกอย่างไร เข้าใจมากไหม เวลาที่คุณอธิบายแนะ
นำบอกเขาครับ ข้างนอกก็หัวเราะอย่างนี้หรือเปล่า

:b8:

เจ้าของ:  sssboun [ 06 ก.พ. 2019, 21:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้มากด้วยความสงสัย และทิฐิ

:b8:

คุณ โรส คงเคยส่องกระจกนะครับ แต่
ลองดูนะครับ ส่องแล้วลองยิ้มให้กระจกดู
แล้วรู้สึกอย่างไร? แล้วลองหัวเราะใส่กระ
จกลองดู รู้สึกอย่างไร?

:b8:

เจ้าของ:  Rosarin [ 06 ก.พ. 2019, 22:19 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้มากด้วยความสงสัย และทิฐิ

sssboun เขียน:
:b8:

คุณ โรส เคยไปคุยกับคนอื่นในชีวิตประจำวัน
ที่พบเจอกันบ้างไหมครับ เวลาคุยกับเขาแล้วเขา
รู้สึกอย่างไร เข้าใจมากไหม เวลาที่คุณอธิบายแนะ
นำบอกเขาครับ ข้างนอกก็หัวเราะอย่างนี้หรือเปล่า

:b8:

คนที่ไม่เคยฟังคำวาจาสัจจะ
ไม่เข้าใจทั้งอรรถและธรรม
เพราะคำตถาคตตรงจริง
เดี๋ยวนี้ที่กำลังมีใครที่ฟัง
แล้วขัดแย้งและไม่รู้เรื่อง
นั่นแหละคือคำตถาคตนะคะ
มีแต่คนที่ไม่เข้าใจที่ทะเลาะกับคำสอน
เพราะคนที่เข้าใจกล่าวความจริงตรงกันไม่ขัดแย้ง
เห็นสี1สีดับทันทีในตาดำตอนนี้คุณคิดเห็นตัวอักษรมีทั้งแสงมีทั้งสีมีทั้งคิด
แปลว่าคุณกำลังมีความคิดเห็นผิดคลาดเคลื่อนไม่ตรงสัจจะของสี1สีที่ดับมืดแล้วยังคิดว่าสว่างผิดไหมคะ
ปรุงเห็นผิดคิดผิดไปตามตัวอักษรมีตัวอักษรมาวางไว้ให้คิดคำได้ล่วงหน้าหรือคะเวลาฟังเทศน์นั่งจดไหมคะ
รู้คำต่อไปที่คนเทศน์กำลังจะเทศน์ล่วงหน้าหรือคะสัจจะคือจิตรู้สี1สีดับที่ตาไม่มีสีนอกตามืดแล้วคิดสิคะ
ตรงทางของจิตเห็นไม่ใช่จิตคิดไม่ใช่จิตได้ยินไม่ใช่จิตลิ้มรสไม่ใช่จิตรู้กลิ่นไม่ใช่จิตกระทบสัมผัสเลย
จิตเห็นที่ลืมตาดูมีอายตนะทางตาและลืมตาดูพร้อมตาไม่บอดจึงเห็นแจ้งชัดในสิ่งที่กำลังปรากฏให้เห็นได้
จิตก่อนเห็นและจิตหลังเห็นมืดสนิทเอาอะไรรู้ว่ามีนิมิตตัวอักษรที่ปรากฏ...นั้นไม่ใช่สิ่งที่กระทบตารู้ไหมคะ
:b12:
:b16: :b16:

เจ้าของ:  Rosarin [ 06 ก.พ. 2019, 22:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้มากด้วยความสงสัย และทิฐิ

sssboun เขียน:
:b8:

คุณ โรส คงเคยส่องกระจกนะครับ แต่
ลองดูนะครับ ส่องแล้วลองยิ้มให้กระจกดู
แล้วรู้สึกอย่างไร? แล้วลองหัวเราะใส่กระ
จกลองดู รู้สึกอย่างไร?

:b8:

ตาไม่เห็นแต่เป็นจิตเห็นสีดับมืดแล้วคิดว่ามีอะไรข้างหลังผิดไหมคะมีตาหลังให้กระทบไหมคะ
สีกระทบจักขุปสาทรูปตรงกลางตาดับมืดทันทีไม่เห็นซ้ายขวาและด้านหลังเลยค่ะ
ส่องกระจกคิดว่าเห็นทุกสิ่งทุกอย่างก็อปด้านหลังก็เห็นได้งั้นหรือคะคำว่าเห็นดับ
แปลว่าทั้งตัวคนก็ไม่มีแล้วจะนอนตายกองกันโดยไม่ฟังให้เข้าใจอย่างนั้นหรือคะ
:b1:
:b12: :b12:
ไม่หัวเราะก็ได้
ทราบไหมคะฟังเพื่ออะไร
ตอบเพื่อให้ปัญญาแรกแทรกเกิดได้บ้าง
ตอนที่กำลังฟังอาจเกิดปัญญาแทรกหลังเห็นดับแทนกิเลสแค่1ครั้งในกิเลสล้านครั้งนะคะประมาทฟังไหมคะ
https://youtu.be/efOqWRZjNlU

เจ้าของ:  sssboun [ 07 ก.พ. 2019, 06:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้มากด้วยความสงสัย และทิฐิ

Rosarin เขียน:
sssboun เขียน:
:b8:

คุณ โรส คงเคยส่องกระจกนะครับ แต่
ลองดูนะครับ ส่องแล้วลองยิ้มให้กระจกดู
แล้วรู้สึกอย่างไร? แล้วลองหัวเราะใส่กระ
จกลองดู รู้สึกอย่างไร?

:b8:

ตาไม่เห็นแต่เป็นจิตเห็นสีดับมืดแล้วคิดว่ามีอะไรข้างหลังผิดไหมคะมีตาหลังให้กระทบไหมคะ
สีกระทบจักขุปสาทรูปตรงกลางตาดับมืดทันทีไม่เห็นซ้ายขวาและด้านหลังเลยค่ะ
ส่องกระจกคิดว่าเห็นทุกสิ่งทุกอย่างก็อปด้านหลังก็เห็นได้งั้นหรือคะคำว่าเห็นดับ
แปลว่าทั้งตัวคนก็ไม่มีแล้วจะนอนตายกองกันโดยไม่ฟังให้เข้าใจอย่างนั้นหรือคะ
:b1:
:b12: :b12:
ไม่หัวเราะก็ได้
ทราบไหมคะฟังเพื่ออะไร
ตอบเพื่อให้ปัญญาแรกแทรกเกิดได้บ้าง
ตอนที่กำลังฟังอาจเกิดปัญญาแทรกหลังเห็นดับแทนกิเลสแค่1ครั้งในกิเลสล้านครั้งนะคะประมาทฟังไหมคะ
https://youtu.be/efOqWRZjNlU

:b8:

อนุโมทนา สาธุ กับทุกคนได้ไหมครับ
ฟังเพื่อให้เกิดปัญญา

คุณ โรส ว่าใครเป็นอาจารย์ ของใครระหว่าง ป้าสุจิน
กับพระพุทธเจ้าครับ

:b8:

เจ้าของ:  Rosarin [ 07 ก.พ. 2019, 12:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้มากด้วยความสงสัย และทิฐิ

sssboun เขียน:
Rosarin เขียน:
sssboun เขียน:
:b8:

คุณ โรส คงเคยส่องกระจกนะครับ แต่
ลองดูนะครับ ส่องแล้วลองยิ้มให้กระจกดู
แล้วรู้สึกอย่างไร? แล้วลองหัวเราะใส่กระ
จกลองดู รู้สึกอย่างไร?

:b8:

ตาไม่เห็นแต่เป็นจิตเห็นสีดับมืดแล้วคิดว่ามีอะไรข้างหลังผิดไหมคะมีตาหลังให้กระทบไหมคะ
สีกระทบจักขุปสาทรูปตรงกลางตาดับมืดทันทีไม่เห็นซ้ายขวาและด้านหลังเลยค่ะ
ส่องกระจกคิดว่าเห็นทุกสิ่งทุกอย่างก็อปด้านหลังก็เห็นได้งั้นหรือคะคำว่าเห็นดับ
แปลว่าทั้งตัวคนก็ไม่มีแล้วจะนอนตายกองกันโดยไม่ฟังให้เข้าใจอย่างนั้นหรือคะ
:b1:
:b12: :b12:
ไม่หัวเราะก็ได้
ทราบไหมคะฟังเพื่ออะไร
ตอบเพื่อให้ปัญญาแรกแทรกเกิดได้บ้าง
ตอนที่กำลังฟังอาจเกิดปัญญาแทรกหลังเห็นดับแทนกิเลสแค่1ครั้งในกิเลสล้านครั้งนะคะประมาทฟังไหมคะ
https://youtu.be/efOqWRZjNlU

:b8:

อนุโมทนา สาธุ กับทุกคนได้ไหมครับ
ฟังเพื่อให้เกิดปัญญา

คุณ โรส ว่าใครเป็นอาจารย์ ของใครระหว่าง ป้าสุจิน
กับพระพุทธเจ้าครับ

:b8:

คุณเอสฯจะอนุโมทนากับอะไรหรือคะต้องบอกให้ชัด
ตัวตนคนหรือทานวัตถุที่เขาทำหรือคำของพระพุทธเจ้า
คำสอนของพระพุทธเจ้ารู้ตามได้เท่านั้นและรู้โดยอนัตตา
ไม่ใช่มีตัวตนเป็นอัตตาคิดพูดทำโดยไม่รู้ว่าจะอนุโมทนาอะไร
เพราะเป็นปัญญารู้ชัดว่าดับคือไม่มีอะไรเหลือให้จับต้องได้แล้ว
ก็เกิดแล้วดับแล้วทันทีไม่มีใครเป็นเจ้าของสิ่งที่ดับไปแล้วเลย
แค่คิดว่าเป็นบุญก็อยากได้เลยอนุโมทนาเอาอย่างงั้นหรือคะ
:b13: :b13:

เจ้าของ:  Rosarin [ 07 ก.พ. 2019, 12:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้มากด้วยความสงสัย และทิฐิ

Rosarin เขียน:
sssboun เขียน:
Rosarin เขียน:
sssboun เขียน:
:b8:

คุณ โรส คงเคยส่องกระจกนะครับ แต่
ลองดูนะครับ ส่องแล้วลองยิ้มให้กระจกดู
แล้วรู้สึกอย่างไร? แล้วลองหัวเราะใส่กระ
จกลองดู รู้สึกอย่างไร?

:b8:

ตาไม่เห็นแต่เป็นจิตเห็นสีดับมืดแล้วคิดว่ามีอะไรข้างหลังผิดไหมคะมีตาหลังให้กระทบไหมคะ
สีกระทบจักขุปสาทรูปตรงกลางตาดับมืดทันทีไม่เห็นซ้ายขวาและด้านหลังเลยค่ะ
ส่องกระจกคิดว่าเห็นทุกสิ่งทุกอย่างก็อปด้านหลังก็เห็นได้งั้นหรือคะคำว่าเห็นดับ
แปลว่าทั้งตัวคนก็ไม่มีแล้วจะนอนตายกองกันโดยไม่ฟังให้เข้าใจอย่างนั้นหรือคะ
:b1:
:b12: :b12:
ไม่หัวเราะก็ได้
ทราบไหมคะฟังเพื่ออะไร
ตอบเพื่อให้ปัญญาแรกแทรกเกิดได้บ้าง
ตอนที่กำลังฟังอาจเกิดปัญญาแทรกหลังเห็นดับแทนกิเลสแค่1ครั้งในกิเลสล้านครั้งนะคะประมาทฟังไหมคะ
https://youtu.be/efOqWRZjNlU

:b8:

อนุโมทนา สาธุ กับทุกคนได้ไหมครับ
ฟังเพื่อให้เกิดปัญญา

คุณ โรส ว่าใครเป็นอาจารย์ ของใครระหว่าง ป้าสุจิน
กับพระพุทธเจ้าครับ

:b8:

คุณเอสฯจะอนุโมทนากับอะไรหรือคะต้องบอกให้ชัด
ตัวตนคนหรือทานวัตถุที่เขาทำหรือคำของพระพุทธเจ้า
คำสอนของพระพุทธเจ้ารู้ตามได้เท่านั้นและรู้โดยอนัตตา
ไม่ใช่มีตัวตนเป็นอัตตาคิดพูดทำโดยไม่รู้ว่าจะอนุโมทนาอะไร
เพราะเป็นปัญญารู้ชัดว่าดับคือไม่มีอะไรเหลือให้จับต้องได้แล้ว
ก็เกิดแล้วดับแล้วทันทีไม่มีใครเป็นเจ้าของสิ่งที่ดับไปแล้วเลย
แค่คิดว่าเป็นบุญก็อยากได้เลยอนุโมทนาเอาอย่างงั้นหรือคะ
:b13: :b13:

cool
ฟังเพื่อให้เข้าใจถูกเกิดปัญญาของตนเอง
จะไปอนุโมทนาเอาปัญญาของคนอื่นมาเป็นของตัวเองหรือคะ
เหมือนกันเลยไหมกับไปอ่านท่องจำคำสอนเอามาเป็นปัญญานั่นปัญญาของพระพุทธเจ้า
ปัญญาตัวเองทำได้ตรงตามลำดับเริ่มที่สุตมยปัญญาให้ไปนอนคิดทุกวันนะคะว่าทำฟังตรงปัจจุบันทำยังไง
onion onion onion

เจ้าของ:  Rosarin [ 07 ก.พ. 2019, 12:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้มากด้วยความสงสัย และทิฐิ

Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
sssboun เขียน:
Rosarin เขียน:
sssboun เขียน:
:b8:

คุณ โรส คงเคยส่องกระจกนะครับ แต่
ลองดูนะครับ ส่องแล้วลองยิ้มให้กระจกดู
แล้วรู้สึกอย่างไร? แล้วลองหัวเราะใส่กระ
จกลองดู รู้สึกอย่างไร?

:b8:

ตาไม่เห็นแต่เป็นจิตเห็นสีดับมืดแล้วคิดว่ามีอะไรข้างหลังผิดไหมคะมีตาหลังให้กระทบไหมคะ
สีกระทบจักขุปสาทรูปตรงกลางตาดับมืดทันทีไม่เห็นซ้ายขวาและด้านหลังเลยค่ะ
ส่องกระจกคิดว่าเห็นทุกสิ่งทุกอย่างก็อปด้านหลังก็เห็นได้งั้นหรือคะคำว่าเห็นดับ
แปลว่าทั้งตัวคนก็ไม่มีแล้วจะนอนตายกองกันโดยไม่ฟังให้เข้าใจอย่างนั้นหรือคะ
:b1:
:b12: :b12:
ไม่หัวเราะก็ได้
ทราบไหมคะฟังเพื่ออะไร
ตอบเพื่อให้ปัญญาแรกแทรกเกิดได้บ้าง
ตอนที่กำลังฟังอาจเกิดปัญญาแทรกหลังเห็นดับแทนกิเลสแค่1ครั้งในกิเลสล้านครั้งนะคะประมาทฟังไหมคะ
https://youtu.be/efOqWRZjNlU

:b8:

อนุโมทนา สาธุ กับทุกคนได้ไหมครับ
ฟังเพื่อให้เกิดปัญญา

คุณ โรส ว่าใครเป็นอาจารย์ ของใครระหว่าง ป้าสุจิน
กับพระพุทธเจ้าครับ

:b8:

คุณเอสฯจะอนุโมทนากับอะไรหรือคะต้องบอกให้ชัด
ตัวตนคนหรือทานวัตถุที่เขาทำหรือคำของพระพุทธเจ้า
คำสอนของพระพุทธเจ้ารู้ตามได้เท่านั้นและรู้โดยอนัตตา
ไม่ใช่มีตัวตนเป็นอัตตาคิดพูดทำโดยไม่รู้ว่าจะอนุโมทนาอะไร
เพราะเป็นปัญญารู้ชัดว่าดับคือไม่มีอะไรเหลือให้จับต้องได้แล้ว
ก็เกิดแล้วดับแล้วทันทีไม่มีใครเป็นเจ้าของสิ่งที่ดับไปแล้วเลย
แค่คิดว่าเป็นบุญก็อยากได้เลยอนุโมทนาเอาอย่างงั้นหรือคะ
:b13: :b13:

cool
ฟังเพื่อให้เข้าใจถูกเกิดปัญญาของตนเอง
จะไปอนุโมทนาเอาปัญญาของคนอื่นมาเป็นของตัวเองหรือคะ
เหมือนกันเลยไหมกับไปอ่านท่องจำคำสอนเอามาเป็นปัญญานั่นปัญญาของพระพุทธเจ้า
ปัญญาตัวเองทำได้ตรงตามลำดับเริ่มที่สุตมยปัญญาให้ไปนอนคิดทุกวันนะคะว่าทำฟังตรงปัจจุบันทำยังไง
onion onion onion

ปัญญาเจตสิกไม่เกิดร่วมกับความไม่รู้ความจริงตรงสัจจะเดี๋ยวนี้ดับครบ6ทางแล้ว
ปัญญาแรกเกิดจากฟังไม่ทำสุตมยปัญญาก็ไปปฏิบัติผิดผลที่ตามมาปฏิเวธก็ผิดทาง
:b55: :b55: :b55:

เจ้าของ:  sssboun [ 21 ก.พ. 2019, 19:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้มากด้วยความสงสัย และทิฐิ

มีความสงสัยมากก็ทุกข์มาก s006 s006 s006 s006 s006 s006 s006 s006 s006 s006 s006 s006 s006 s006 s006 s006 s006 s006 s006 s006 s006 s006 s006 s006

+ ความสงสัยไม่มีวันสิ้นสุด จนกว่าปัญญาจะผุดขึ้นมา
+ ปัญญาคู่กับความจริง
ปัญญาคู่กับคนพูดจริงทำจริง
ปัญญาคือสิ่งที่ทำให้ความจริง
ปัญญาคู่กับกุศล และผลที่ได้จากการปฏิบัติ
ปัญญายิ่งมากเพราะยิ่งละอกุศลได้มาก
ปัญญาทำให้รอบรู้ เรียนรู้สิ่งต่างและแก้ไขปัญหาได้ดี
ผู้มีปัญญาย่อมตัดขาดสิ่งที่เป็นอกุศลได้ เพราะรู้วิธี
ปัญญาจะทำตนให้อ่อนน้อม
ปัญญาจะค่อยขัดเกลากิเลสให้จิตผ่องใสขึ้น
ปัญญาเปรียบเหมือนครูที่ดีที่สุดติดตัวไปทุกที่
ปัญญาเป็นแสงสว่างชี้ทางเดินให้แก่ชีวิตไปสู่สุคติและพระนิพพาน
เมื่อปัญญาเกิด ความวิริยะย่อมเกิด เมื่อวิริยะเกิดเจริญแล้ว ขันติย่อมเกิด

เช่นเดียวกันขันติเกิดมากมี ย่อมรักษาสัจจะเอาไว้ได้ ดั่งพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
ตัดไว้จัดเรียงอันดับไว้แล้วนั้นก็คือบารมี ๑๐ หรือ ๓๐ เพราะมี ๓ ขั้น

ทาน ศีล เนกขัม ปัญญา วิริยะ สัจจะ อธิฐาน เมตตา อุเบกขา

เจ้าของ:  sssboun [ 23 ก.พ. 2019, 11:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้มากด้วยความสงสัย และทิฐิ

เมื่อก่อนผมก็สงสัยไปมากมายหลายเรื่อง
แต่ตอนนี้แก้ความสงสัยได้ไปมากแล้ว เบาขึ้น
เยอะตั้งแต่ปัญญาเกิด พรรษาที่ ๒ ตอนบวช
ความคิดว่องไว แก้ปัญหาที่คาใจขาดหมดตอน
นั้น ยกปัญหาขึ้นมาคิดเห็นต้นเห็นปลายคลายความ
กังวนสงสัย แม้สิ่งที่ชาตินี้ไม่ได้เรียน พอมีคนถาม
ตอบไปพร้อมกับเหตุผลเรียบร้อยน่าแปลกยังกระโดน
ผีเข้าสิง แต่ไม่ใช่เพราะตอนนั้นรู้สึกตัวทั่วพร้อมว่าเป็น
ใครทำอะไร และมาจากไหน ชื่ออะไร?

เจ้าของ:  โลกสวย [ 23 ก.พ. 2019, 18:19 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้มากด้วยความสงสัย และทิฐิ

sssboun เขียน:
เมื่อก่อนผมก็สงสัยไปมากมายหลายเรื่อง
แต่ตอนนี้แก้ความสงสัยได้ไปมากแล้ว เบาขึ้น
เยอะตั้งแต่ปัญญาเกิด พรรษาที่ ๒ ตอนบวช
ความคิดว่องไว แก้ปัญหาที่คาใจขาดหมดตอน
นั้น ยกปัญหาขึ้นมาคิดเห็นต้นเห็นปลายคลายความ
กังวนสงสัย แม้สิ่งที่ชาตินี้ไม่ได้เรียน พอมีคนถาม
ตอบไปพร้อมกับเหตุผลเรียบร้อยน่าแปลกยังกระโดน
ผีเข้าสิง แต่ไม่ใช่เพราะตอนนั้นรู้สึกตัวทั่วพร้อมว่าเป็น
ใครทำอะไร และมาจากไหน ชื่ออะไร?

s006
เอ่

สงสัยค่ะ

ว่าความรู้สึกตัวทั่วพร้อมนั้น

ตัวเองเข้าสิงเต็มๆ แทน ผีป่าว?

เอ่? s006

หน้า 4 จากทั้งหมด 15 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/